คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : บทที่1/3 คนในความลับ
“กลับไปคุยกันที่ห้อง” ปราณต์คว้าข้อมือคนตัวเล็กไว้ก่อนจะกระซิบบอกเสียงเบา
“ไหนพี่บอกว่าตัวคนเดียวไงคะ โกหกกันทำไม” อัญญิศาไม่ได้สนใจกับประโยคที่เขาบอก แต่เลือกที่จะถามคำถามที่ค้างคาใจออกไป พลางน้ำตาเม็ดร้อนรื้นขึ้นคลอหน่วยตา แต่ก็ต้องรีบปาดมันออกและดึงข้อมือออกจากการเกาะกุมของเขาเมื่อเห็นปิ่นปักเดินลงบันไดมาพอดี
“อ้าว…ยัยหน่อยล่ะ กลับไปแล้วเหรอ” ปิ่นปักหันซ้ายหันขวามองหาเพื่อน แต่เมื่อน้องชายบอกว่ากลับไปแล้วเพราะบุตรชายของอีกฝ่ายแพ้กุ้งคนเป็นพี่จึงพยักหน้ารับก่อนจะหันมาให้ความสนใจอัญญิศาต่อ
“งั้นเอื้อมขอตัวเลยแล้วกันนะคะพี่ปิ่น สวัสดีค่ะ”
“จ๊ะ เออ...ว่าแต่เอื้อมพักคอนโดไหนนะ ใช่ One Residences หรือเปล่าจ๊ะ” ปิ่นปักที่นึกขึ้นได้ว่าน้องชายก็พักอยู่คอนโดมิเนียมเดียวกันกับอัญญิศาจึงรีบเอ่ยถามอีกฝ่ายไป
“ค่ะ” เท้าเรียวที่กำลังจะเดินออกไปต้องชะงักไว้ก่อนจะหันมาพยักหน้ารับกับคำถามของเจ้าบ้าน
“ถ้าแฟนเอื้อมไม่คิดมากเอื้อมติดรถปราณต์ไปก็ได้นะ พักอยู่ one residences เหมือนกัน ปราณต์จะกลับห้องเลยหรือเปล่าหรือจะแวะที่ไหนอีก ถ้าจะกลับเลยพี่จะฝากน้องติดรถกลับด้วย พักอยู่ one ressidences เหมือนกัน” ปิ่นปักสรุปโดยไม่รอฟังคำตอบของรุ่นน้องสาว
“ไม่เป็น…” ไม่ทันที่จะปฏิเสธออกไป เสียงทุ้มก็แทรกขึ้น
“ครับ ไม่ได้แวะที่ไหน” ปราณต์หันไปมองเจ้าของใบหน้าหวานก่อนจะพยักหน้ารับ อัญญิศาจึงไม่ได้เอ่ยประโยคใดออกไปอีกขอแค่ให้ออกไปจากตรงนี้ให้ไวที่สุดก็พอ
จากระยะทางระหว่างบ้านปิ่นปักมาถึงห้องพัก ทั้งปราณต์และอัญญิศาเอาแต่นั่งเงียบไม่มีใครยอมปริปากเอ่ยคำใดออกมา มีเพียงหยดน้ำตาของอัญญิศาที่ยังคงไหลอาบใบหน้านวลอยู่ไม่ขาดสาย หลังมือเรียวปาดมันออกครั้งแล้วครั้งเล่าแต่ก็ไม่มีวี่แววว่ามันจะแห้งเหือดไปเสียที ตราบใดที่หัวใจยังรู้สึกเจ็บมันก็คงจะไหลออกมาอยู่แบบนี้ใช่ไหม…
“คุยกันก่อน ฟังพี่อธิบายก่อนแล้วค่อยตัดสินใจ” ปราณต์คว้าข้อมือเล็กไว้ เมื่อสาวเจ้าจะเดินเลยเข้าไปในห้อง
“พอเถอะแค่นี้เอื้อมก็ดูโง่ในสายตาพี่มากพอแล้ว ไม่รู้ว่าพี่ปราณต์ต้องการความสัมพันธ์แบบไหนแต่แบบที่เป็นอยู่เอื้อมให้ไม่ได้ เอื้อมไม่อยากทนอยู่กับความสัมพันธ์ที่มีแต่การโกหกและย่ำอยู่กับที่แบบนี้อีกแล้ว ต่างคนต่างมีชีวิตของตัวเองเถอะค่ะ” อัญญิศาบอกเพียงเท่านั้นก่อนจะแกะมือหนาออกจากแขน แต่ยิ่งแกะเหมือนกับว่าเขายิ่งออกแรงมากขึ้น
“ไม่ได้จะโกหก แต่พี่ไม่อยากให้เอื้อมเข้าไปยุ่งกับพวกเขา โดยเฉพาะพี่ปิ่น เพราะเอื้อมไม่มีทางตามเกมเขาทัน” ปราณต์ดึงร่างบางเข้าสู่อ้อมกอด ก่อนจะตัดสินใจเอ่ยบอกออกไป ทำให้คนที่มีท่าทีขัดขืนเริ่มนิ่งลง พี่สาวต่างบิดาอย่างปิ่นปักไม่มีทางเข้าหาใครถ้าหากไม่เล็งเห็นผลประโยชน์
“หมายความว่ายังไงคะ” อัญญิศาเงยหน้าถามคนตัวโต มีคำถามมากมายที่ผุดขึ้นมาในหัว ทำไมเขาถึงพูดเหมือนกับว่าไม่ไว้ใจปิ่นปักในเมื่อทั้งสองเป็นพี่น้องกันไม่ใช่เหรอ
“อีกไม่นานเอื้อมก็จะรู้เอง แค่ทำตามที่พี่บอกก็พอ” มือหนายกขึ้นเกลี่ยปอยผมออกจากใบหน้าสาวเจ้า พร้อมกับใช้นิ้วหัวแม่มือปาดน้ำตาออกให้คนตัวเล็กอย่างเบามือ ก่อนที่ใบหน้าคมคายจะค่อย ๆ โน้มลงมาแนบริมฝีปากสีชมพูระเรื่ออย่างแผ่วเบา
“และอีกหนึ่งอย่างที่พี่อยากให้รู้ไว้ พี่มีแค่เอื้อม และขอให้เอื้อมเชื่อใจพี่ก็พอ” เพียงแค่ประโยคนั้นก็ทำให้ความโกรธและความเสียใจที่ก่อตัวขึ้นมาก่อนหน้านี้พังทลายไปทั้งหมด
“พี่ปราณต์ไม่ได้โกหกเอื้อมใช่ไหม” อัญญิศาถามเสียงอู้อี้พร้อมกับแขนเสลาที่กอดเอวสอบไว้แน่น
“ถ้าไม่นับเรื่องนี้พี่เคยโกหกเราไหมล่ะ” ก้มลงถามคนในอ้อมกอดพลางจุมพิตลงบนศีรษะสาวเจ้าอย่างแผ่วเบา ยังไม่ได้มองถึงอนาคตแต่ก็ไม่อยากปล่อยอัญญิศาไปตอนนี้เหมือนกัน ไม่อยากกลับไปจมปลักกับความรู้สึกอย่างเดิมอีกแล้ว ตั้งแต่ที่มีอัญญิศาเข้ามาในชีวิตมันทำให้เขารู้สึกว่าเขาได้อยู่กับศรัณยาอีกครั้งอาจจะเป็นเพราะใบหน้าและน้ำเสียงที่ละม้ายคล้ายกันของทั้งคู่จนบางครั้งเขาก็เผลอไผลคิดว่าคนตรงหน้าคือคนรักที่จากไป
“แล้ว…เอื้อมต้องรอไปถึงเมื่อไหร่ล่ะคะ”
“อีกไม่นาน พี่สัญญา” เขาจะจำได้หรือเปล่าว่าพูดคำนี้กับหล่อนไปกี่ครั้งแต่ไม่เคยทำตามที่พูดได้เลย ไม่ต่างจากคำที่ว่าคนพูดไม่เคยจำคนฟังไม่เคยลืม และไม่ต่างจากการโดนตบหัวแล้วลูบหลังเท่าไหร่นักแต่แปลกที่หล่อนยังทนและไม่รู้ว่ามันจะเป็นแบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่
ความคิดเห็น