ใจเอื้อมรัก (รีอัพ) - นิยาย ใจเอื้อมรัก (รีอัพ) : Dek-D.com - Writer
×
NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด

    ใจเอื้อมรัก (รีอัพ)

    ถึงตัวจะอยู่เพียงใกล้ แต่ใจกลับไม่อาจเอื้อมถึง เธอยอมทำทุกอย่างเพราะต้องการเพียงแค่หัวใจ แต่สิ่งที่ได้มากลับเป็นคำหลอกลวง

    ผู้เข้าชมรวม

    732

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    227

    ผู้เข้าชมรวม


    732

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    5
    หมวด :  รักดราม่า
    จำนวนตอน :  47 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  5 พ.ย. 67 / 18:00 น.
    คำเตือนเนื้อหา NC

    มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    -บทนำ-

                “ร้อนเงินจนต้องรีบแจ้นมาหาตั้งแต่เจ็ดโมงเช้าเลยเหรอ” อัญญิศาที่ได้ยินประโยคนั้นก็ถึงกับชะงักไป ใบหน้าหวานที่มีรอยยิ้มถึงกลับเปลี่ยนสีทันตา

                “พี่ปิ่น…” อัญญิศาเรียกชื่อคนตรงหน้าเสียงสั่น พลางส่ายหน้าปฏิเสธข้อกล่าวหา ที่มาวันนี้ไม่ได้มาเพราะเรื่องเงิน หล่อนแค่จะมาขอให้เขาช่วยคุยกับคุณศญาพัชรเพื่อส่งบิดาไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลเอกชน ส่วนเรื่องลูกก็ยอมรับว่าหล่อนเห็นแก่ตัว ที่จะบอกก็หวังว่าเผื่อปราณต์รู้แล้วจะใจอ่อนยอมช่วยกันบ้างก็เท่านั้น หากไม่ลำบากและไม่เหนือบ่ากว่าแรงก็จะไม่เสนอหน้ามาขอความช่วยเหลือเลย

                “กลับไปซะ ที่นี่ไม่มีใครต้อนรับเธอแล้ว แม้แต่ปราณต์เองก็ด้วย แล้วก็ไม่ต้องคิดจะเอาเรื่องที่โกหกว่าท้องมารั้งผู้ชายไว้หรอกนะ มันน่าสมเพชมากนะเอื้อม” ปิ่นปักถอนหายใจว่าออกไป

                “เอื้อมไม่ได้…”

                “เธอจะบอกว่าเธอไม่เคยโกหกปราณต์ว่าท้องเหรอ” เป็นอีกครั้งที่ปิ่นปักแทรกขึ้นและอัญญิศาเงียบไป ไม่คิดว่าปราณต์จะบอกเรื่องนี้กับคนในครอบครัวเขาด้วย

    “แต่ครั้งนี้เอื้อมไม่ได้โกหกจริง ๆ นะพี่ปิ่น เอื้อมท้องจริง ๆ ท้องลูกพี่ปราณต์ พี่ปิ่นบอกพี่ปราณต์ให้เอื้อมได้ไหม หากเขารู้เขาต้องรีบมาหาเอื้อมแน่ ๆ ” อัญญิศาเกาะขอบรั้วบอกเจ้าบ้านอย่างวอนขอ น้ำตาเม็ดร้อนไหลอาบบนใบหน้างามไม่ขาดสาย หล่อนเลือกที่จะไม่แก้ตัวกับเรื่องที่ผ่านมา ตอนนี้แค่ต้องการให้ปราณต์ออกมาเจอหน้ากันเท่านั้น

    “เอื้อม ปราณต์เขาบอกพี่เองว่าเธอโกหกเขา และเขาก็ไม่ต้องการที่จะเจอเธอ เพราะฉะนั้นเธอควรกลับไปได้แล้ว” ปิ่นปักกลอกตามองบนกับความดื้อด้านของคนตรงหน้า

    “เอื้อมจะไม่ไปไหนทั้งนั้น ถ้าเขาไม่ยอมออกมาคุยกับเอื้อมเอง เอื้อมขอแค่พี่ปิ่นบอกพี่ปราณต์ให้เอื้อมว่าเอื้อมมาที่นี่และบอกพี่ปราณต์ว่าเอื้อมท้องแค่นั้นเอง” พยามยามพูดกลับไปเสียงแข็ง แต่น้ำเสียงกลับสั่นเทาจนยากที่จะควบคุมได้

                “ต้องให้ปราณต์เป็นคนไล่เธอเองใช่ไหม ถึงจะเลิกราวีกันสักที” ปิ่นปักถาม ซึ่งอัญญิศาก็พยักหน้ารับทั้งใบหน้าเปื้อนน้ำตา นาทีต่อมาปิ่นปักก็ล้วงสมาร์ตโฟนออกมาจากกระเป๋าเสื้อคลุมผ้าซาตินแล้วต่อสายหาน้องชาย

                “คุยกับเอื้อมเขาหน่อย” ปิ่นปักบอกน้องชาย ก่อนจะยื่นสมาร์ตโฟนเข้าไปใกล้อัญญิศามากขึ้น ก่อนยื่นไปก็ไม่ลืมที่จะกดเปิดลำโพงเพื่อที่เธอกับอัญญิศาจะได้ยินชัดเจนกันทั้งสองฝ่าย

                “พี่ปราณต์…เอื้อมท้องนะ ออกมาคุยกับเอื้อมหน่อยได้ไหม ตอนนี้เอื้อมอยู่หน้าบ้านพี่แล้วนะ ถ้าพี่คิดว่าเอื้อมโกหกจะไปตรวจที่โรงพยาบาลพร้อมกันตอนนี้เลยก็ได้” ทันที่ที่ปิ่นปักยื่นสมาร์ตโฟนเข้ามาใกล้ สาวเจ้าก็รีบละล่ำละลักบอกกับคนปลายสาย แต่ไม่คิดว่าประโยคที่ปราณต์ตอบกลับมาจะเห็นแก่ตัวและเลือดเย็นได้ขนาดนี้

                “มั่นใจเหรอว่าเด็กในท้องเป็นลูกพี่” ริมฝีปากบางสั่นระริกกับคำถามของปราณต์ ในหัวขาวโพลนจนไม่สามารถเรียบเรียงคำใดให้เอ่ยออกมาได้ ไม่เพียงแค่อึ้งแต่หล่อนไม่เคยคิดว่าปราณต์จะถามคำนี้ออกมา ใจที่บอบช้ำอยู่แล้วเมื่อได้ยินคำถามนั้นยิ่งถูกบดละเอียดจนไม่เหลือชิ้นดี

                “มะ…หมายความว่ายังไง พี่คิดว่าเอื้อมนอนกับคนอื่นเพื่อเงินเหรอ” เขาไม่รับผิดชอบไม่เจ็บเท่าเขาด้อยค่าหาว่าหล่อนท้องกับคนอื่น ไม่อยากรับผิดชอบก็ไม่เห็นต้องมาดูถูกกันขนาดนี้

                “เอื้อมไม่เชื่อว่าพี่จะคิดแบบนั้น ไหนพี่บอกเอื้อมว่าเราจะคุยกันตรง ๆ ไง พี่ออกมาคุยกับเอื้อมสิพี่ปราณต์”

                “เอื้อมขอแค่พี่ช่วยคุยกับคุณศญาพัชรให้เอื้อมแค่ครั้งเดียวพี่จะให้เอื้อมทำอะไรเอื้อมทำให้ได้หมด พี่จะเอาแค่ลูกหรือให้เอื้อมเอาเด็กออกเพื่อชดใช้สิ่งที่พ่อทำให้พี่เสียไปก็ได้”

                “พอเถอะเอื้อม ระหว่างเรามันจบไปแล้ว” จบประโยคนั้นปราณต์ก็เป็นฝ่ายตัดสายไป

                “พี่ปราณต์…” อัญญิศาเรียกตามคนที่ตัดสายไปด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง เพิ่งเข้าใจว่าเจ็บจนไม่มีแรงจะเปล่งเสียงออกมาก็วันนี้

    “พอเถอะเอื้อม พี่คิดว่าปราณต์เขาชัดเจนแล้ว เธอพูดอะไรไว้ควรรักษาคำพูด อย่าทำตัวไม่มีศักดิ์ศรีไปกว่านี้เลย เธอคิดว่าระหว่างเธอกับปราณต์จะเป็นแค่เรื่องบังเอิญจริง ๆ เหรอ ปราณต์จะไม่รู้เลยเหรอว่าคนที่แต่งงานด้วยจะเป็นลูกสาวของคนที่ทำลายครอบครัวคนรักเขา แต่เอาเถอะปราณต์ฝืนใจและเหนื่อยกับเธอมามากพอแล้ว อีกสองอาทิตย์ปราณต์ก็จะแต่งงานกับฝ้าย พี่หวังว่าจะไม่เห็นเธอเข้ามาป่วนงานนะเอื้อม ทางใครทางมันเถอะถือว่าพี่ขอ” เป็นเพราะเธอแท้ ๆ ที่พาผู้หญิงคนนี้เข้ามาแนะนำให้รู้จักกับน้องชายหวังให้ลืมรักเก่าโดยไม่ศึกษาให้ดีว่าแท้จริงแล้วจิตใจและนิสัยเป็นยังไง หากย้อนกลับไปได้วันนั้นเธอจะไม่พาอัญญิศาเข้ามาในบ้านเด็ดขาด

    “พี่ปิ่น ฟังเอื้อมก่อน เอื้อมไม่ได้โกหกจริง ๆ” อัญญิศาตะโกนเรียกคนที่หันหลังเดินจากไป ก่อนที่ทั้งร่างจะทรุดลงบนพื้นอย่างคนหมดหวัง

    “พอได้แล้วเอื้อม กลับได้แล้ว พอได้ทุกอย่างก็ถีบหัวส่ง คนจำพวกนี้จะไปให้ค่ามันทำไม ไม่มีเขาแกกับลูกก็อยู่ได้ อย่างน้อยแกก็มีฉัน” ชรินดาเข้าไปโอบไหล่เพื่อนสาวให้ลุกขึ้น เธอทนเห็นภาพตรงหน้าไม่ไหวอีกแล้ว

    “ผู้ชายอย่างนั้นไม่ควรค่าแก่ความรักที่แกมอบให้เลยเอื้อม ตั้งสติแล้วกลับมาเป็นแกคนเดิมได้แล้ว” ชรินดาเตือนสติ

                “พี่ปราณต์หลอกฉันมาตลอดเลยเหรอชัช เขาทำแบบนี้ได้ยังไง ที่ผ่านมาเขาไม่เคยรักฉันเลยใช่ไหม” น้ำตาไม่รู้กี่หยดไหลรินลงมาอย่างไม่อายใคร มันเจ็บในอกจนไม่สามารถเอ่ยคำใดออกมาได้อีก

     

    “เด็กสองคนนี้เป็นลูกของปราณต์ใช่ไหม” เป็นปิ่นปักที่เอ่ยปากถามไปตรง ๆ อัญญิศาอยากจะส่ายหน้าปฏิเสธแต่ความจริงไม่สามารถทำให้หล่อนเอ่ยปฏิเสธออกไปได้

    “เด็กสองคนนี้เป็นลูกของเอื้อมเพียงคนเดียว คืนลูกมาให้เอื้อมเถอะค่ะ อย่าให้ต้องได้ขึ้นโรงขึ้นศาลกันเลย” อัญญิศาตอบกลับเสียงสั่น พร้อมกับก้าวเข้าไปหมายจะอุ้มลูกจากคุณปัทมาศ แต่กลับโดนปิ่นปักปัดมือออกเต็มแรงจนเกือบล้มลง

    “ปิ่น” คุณปัทมาศที่อุ้มหลานอยู่ปรามบุตรสาว ไม่ว่าอัญญิศาจะปฏิเสธอย่างไร นางก็เชื่อว่าเด็กทั้งสองเป็นลูกของปราณต์และเป็นหลานของนาง DNA บนหน้าหลานก็ชัดเจนพออยู่แล้ว การที่บุตรสาวบุกเข้าไปเอาหลานมาแบบนี้นางก็ไม่ได้เห็นด้วยเท่าไหร่นัก และนางก็อยากฟังความจริงจากปากอดีตสะใภ้ของนางมากกว่า

    “เธอจะกีดกันพ่อลูกได้ยังไงเอื้อม ความสัมพันธ์สามีภรรยาตัดกันได้ แต่ความสัมพันธ์พ่อลูกตัดให้ตายยังไงมันก็ตัดไม่ขาด พาเด็ก ๆ ไปตรวจ DNA พร้อมกันแล้วเรื่องอื่นค่อยคุยกันอีกที” ปิ่นปักว่าขึ้น วันนี้จะไม่ไปไหนทั้งนั้นหากอัญญิศาไม่ยินยอมให้ตรวจ DNA

    “เอื้อมกีดกันเหรอคะ เอื้อมพยายามบอกข่าวคราวให้เขารู้มาโดยตลอด ถ้าเขามีจิตสำนึกของความเป็นพ่อมากพอเขาต้องรีบมาหาลูกไม่ใช่ปล่อยให้เวลาล่วงเลย แล้วมาเรียกร้องจะรับผิดชอบเอาป่านนี้” ในดวงตาคู่กลมของคนที่คิดว่าทำใจยอมรับกับเรื่องทั้งหมดได้แล้วมาวันนี้กลับสั่นระริกและมีม่านน้ำตาเอ่อคลอ

    “เรื่องนั้นปราณต์ไม่รู้เรื่องด้วย ข้อความที่เธอส่งหาปราณต์พี่เป็นคนเปิดอ่านและลบทิ้งเอง” ปิ่นปักว่าออกมา นั่นทำให้ผู้เป็นมารดาหันมาทางบุตรสาวอย่างไม่เชื่อกับสิ่งที่ได้ยิน

    “ถ้าอย่างนั้นพี่ปิ่นก็ควรรับผิดชอบผลของการกระทำของตัวเอง เพราะมันไม่ใช่เรื่องของเอื้อม คืนลูกมาให้เอื้อมค่ะ!”

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนเปิดให้แสดงความคิดเห็น “เฉพาะสมาชิก” เท่านั้น