คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทที่1/2 คนในความลับ
“ถ้าฉันกับเอื้อมกลับแล้วแกก็อยู่บ้านคนเดียวน่ะเหรอปิ่น” นฤชาถามขึ้น ปกติแล้วเพื่อนสาวจะอยู่กับสามี แต่เห็นว่าวันนี้สามีของปิ่นปักบินไปดูงานต่างประเทศจึงอดที่จะถามออกไปด้วยความห่วงใยไม่ได้
“อืม ปกติแม่จะมาค้างด้วยแต่ช่วงนี้ท่านไม่ค่อยสบายจึงไม่อยากให้มา อีกอย่างที่นี่ก็บ้านฉัน อยู่มาหลายปีแล้วไม่น่าจะมีอะไรหรอก” ปิ่นปักตอบเพื่อนสาวแต่ลึก ๆ ก็พูดให้กำลังใจตัวเอง บ่อยครั้งที่สามีมักจะต้องเดินทางบ่อย ๆ และเธอจะต้องอยู่ที่บ้านเพียงลำพัง หากย้อนเวลากลับไปได้ก็จะยอมปล่อยให้มีลูกเสียแต่เนิ่น ๆ จะได้ไม่รู้สึกเหงาและมานั่งเสียดายอย่างเช่นตอนนี้
“เอื้อมมีแฟนหรือยังนะ” คำถามนั้นของเจ้าบ้านทำให้คนที่กำลังจิยกไวน์ขึ้นมาจิบเกือบสำลักเพราะไม่ทันตั้งตัวกับคำถาม
“อะ…เอ่อ มีแล้วค่ะ” อัญญิศาคลี่ยิ้มอย่างขัดเขิน
“เสียดายจัง นึกว่ายังโสดพี่จะแนะนำน้องชายให้รู้จักเสียหน่อย” ปิ่นปักว่าทีเล่นทีจริง
“พี่สาวสวยขนาดนี้งั้นแสดงว่าน้องชายต้องหล่อมากแน่ ๆ เอื้อมจะพิจารณาให้เป็นพิเศษเลยค่ะ” อัญญิศาเย้ากลับอย่างไม่คิดจริงจัง
“ไม่ได้นะเอื้อม น้องชายยัยปิ่นน่ะพี่จองแล้ว” คุณแม่ลูกสองอย่างนฤชาหลังจากที่นั่งเพื่อนกับลูกพี่ลูกน้องสาวอย่างอัญญิศาคุยกันแล้วก็แทรกขึ้น
“ฉันจะฟ้องพี่ทศ” ปิ่นปักเอาสามีของเพื่อนสาวมาอ้าง แต่แล้ววงสนทนาของสามสาวต้องหยุดลงเมื่อได้ยินเสียงรถยนต์ขับเข้ามาจอดหน้าบ้านก่อนที่เสียงเครื่องยนต์จะดับลง
“อ้าวปราณต์ พี่นึกว่าจะเข้ามาเอาพรุ่งนี้เสียอีก เลยไม่ได้ทำกับข้าวเผื่อไว้ให้” ทันทีที่เห็นว่าคนมาใหม่คือน้องชาย ปิ่นปักก็ลุกไปหา
“ผมทานมาแล้วครับ แค่แวะมาเอาของน่ะ” ตอบพี่สาวออกไป ก่อนที่สายตาคู่คมจะไปหยุดที่ใบหน้าหวานของอัญญิศาที่ตอนนี้สาวเจ้าก็มองมาที่เขาเช่นกัน
“อ้อ...นี่น้องเอื้อมจ้ะ หุ้นส่วนร้านที่พี่เคยเล่าให้ปราณฟังไง ส่วนยัยหน่อยปราณต์คงรู้จักอยู่แล้ว” ปิ่นปักแนะนำอัญญิศาให้น้องชายรู้จัก อัญญิศาหรือเอื้อมรักบุตรสาวเพียงคนเดียวของคุณอดิศร เจริญวาณิชย์ ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทผลิตและนำเข้าเครื่องมือทางการแพทย์อันดับต้น ๆ ของประเทศ
“ส่วนนี่ปราณต์น้องชายพี่เอง” ปิ่นปักไม่ลืมที่จะแนะนำทั้งคู่ให้รู้จักกัน อัญญิศามองเข้าไปในดวงตาคู่กลมอยากรู้เหลือเกินว่าเขากำลังรู้สึกเช่นไร แต่หล่อนกลับพบแต่ความว่างเปล่านั่นทำให้ริมฝีปากบางสั่นระริกจนไม่สามารถเอื้อนเอ่ยคำใดออกไปได้
“เดี๋ยวพี่ขึ้นไปหยิบกระเป๋ามาให้ปราณต์เอง” ปิ่นปักว่าก่อนจะเดินขึ้นไปชั้นบนของตัวบ้าน กระเป๋าที่ว่านั้นคือกระเป๋าโน้ตบุ๊กของน้องชายที่มีงานอยู่ในนั้นด้วย เจ้าตัวลืมไว้ที่บ้านวันก่อนมารดาจึงให้เธอเอาติดรถมาด้วยเพื่อที่จะเอาไปให้น้องชายในวันพรุ่งนี้
พ้นหลังปิ่นปักเพียงแค่ครู่เดียวเสียงเรียกเข้าจากสมาร์ตโฟนของนฤชาก็ดังขึ้น กดรับได้ไม่ถึงหนึ่งนาทีด้วยซ้ำเจ้าตัวก็ทวนประโยคของคนปลายสายเสียงดัง
“อะไรนะ เลโอเผลอกินกุ้งเข้าไป หน่อยบอกพี่หลายครั้งแล้วให้ระวัง พี่ยังจะซื้อของกินมั่วซั่วให้ลูกอีก เดี๋ยวหน่อยจะรีบไป” คุณแม่ลูกสองว่าด้วยน้ำเสียงติดกังวล นั่นทำให้ทั้งอัญญิศาและปราณต์หันไปทางนฤชาเป็นตาเดียวกัน
“เอื้อม พี่…”
“พี่หน่อยรีบไปหาเลโอเถอะ เอื้อมกลับเองได้” อัญญิศารีบบอกลูกพี่ลูกน้องสาวออกไป ในใจนึกห่วงหลานจนลืมเรื่องเมื่อครู่ไปเสียสนิท เมื่อนฤชาออกไปแล้วตอนนี้จึงเหลือเพียงแค่หล่อนกับปราณต์
ความคิดเห็น