ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ใจเอื้อมรัก (มี E-book)

    ลำดับตอนที่ #1 : บทที่1/1 คนในความลับ

    • อัปเดตล่าสุด 19 ส.ค. 64


    บทที่๑ คนในความลับ

                เวลาสิบหกนาฬิกาสามสิบนาที เป็นเวลาปกติที่ปราณต์กลับเข้ามาภายในคอนโดมิเนียมหรูที่มีพื้นที่ใช้สอยกว่าห้าสิบตารางเมตร ร่วมสามปีแล้วที่เขาเริ่มเอาจริงเอาจังกับชีวิตมากขึ้นโดยการเข้ามานั่งในตำแหน่งประธานบริษัทแทนบิดาหลังจากที่ท่านเสียชีวิตลงเมื่อสี่ปีก่อนและร่วมสองปีแล้วเช่นกันที่เขาดึงผู้หญิงคนนึงเข้ามาในชีวิตเพื่อที่จะลืมหญิงคนรักที่จากเขาไปอย่างไม่มีวันหวนกลับมา

                “เย็นนี้เอื้อมมีนัดทานข้าวกับพี่ ๆ ที่ร้านนะคะ ถ้ากลับดึกอาจจะโทรบอกให้พี่ปราณต์ไปรับ พี่ปราณต์จะสะดวกไหมคะ” อัญญิศาที่กำลังแต่งหน้าอยู่หน้ากระจกเอ่ยบอกคนที่เพิ่งเดินเข้าห้องมา

                “อืม ดื่มเหรอ” ปราณนต์สลัดความคิดเหล่านั่นทิ้งก่อนจะเหลือบมองคนตัวเล็กพร้อมกับเอ่ยถามออกไป ส่วนมือหนานั้นก็ทำหน้าที่ปลดเน็กไทออกจากคอ เตรียมตัวจะเข้าไปอาบน้ำชำระเหงื่อไคลที่หมักหมมมาทั้งวัน ก็ปกติแล้วอัญญิศาจะไม่ขับรถไปไหนมาไหนเองหากสถานที่ที่จะไปนั้นต้องดื่มของมึนเมาจึงเอ่ยถามไป

                “อาจจะมีดื่มนิดหน่อยค่ะ ถ้าไม่ดึกมากอาจจะกลับพร้อมพี่หน่อย เอื้อมไปนะ” ว่าแล้วก็ลุกขึ้นไปหาคนตัวโต เขย่งปลายเท้าขึ้นแล้วแนบริมฝีปากลงกับริมฝีปากหยักก่อนจะคว้ากระเป๋าใบแพงขึ้นมาคล้องไหล่มนแล้วเดินออกจากห้องไป ปราณต์มองตามแผ่นหลังบอบบางที่เดินลับตาไปแล้วก่อนจะหันกลับมาคว้าเอาผ้าเช็ดตัวแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป

     

                เหมือนจะได้กินแห้วกันเสียแล้ว หลังจากที่นั่งรถมากับพี่หน่อยได้ไม่ถึงสิบนาที พี่ปิ่นหรือปิ่นปักก็โทรเข้ามาบอกว่าร้านอาหารชื่อดังที่โทรจองไว้ตั้งแต่อาทิตย์ก่อนเพิ่งโทรมายกเลิกจองด้วยเหตุสุดวิสัยของทางร้าน ดังนั้นจึงต้องเปลี่ยนร้านใหม่ ทั้งสามตกลงกันอยู่นานว่าจะเปลี่ยนเป็นร้านไหนดีแต่ก็ยังไม่ได้ข้อสรุป สุดท้ายแล้วปิ่นปักจึงเสนอขึ้นว่าจะเป็นเชฟทำอาหารมื้อนี้ให้ทุกคนทานเอง ดังนั้นอาหารมื้อนี้ทั้งอัญญิศาและนฤชาจึงตกเป็นผู้ช่วยเชฟจำเป็นไปโดยปริยาย

                “พี่ปิ่นทำกับข้าวอร่อยจังเลยค่ะ อร่อยกว่าร้านประจำที่เอื้อมกับพี่หน่อยฝากท้องด้วยทุกวันนี้เสียอีก ถ้าเปิดร้านอาหารเอื้อมจะเป็นลูกค้าคนแรกและลูกค้าประจำให้เองค่ะ” คนได้ชิมอาหารฝีมือเจ้าบ้านก็เอ่ยชมเปราะ เพราะใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศหลายปีจึงไม่ค่อยมีโอกาสได้ทานอาหารไทยที่อร่อยถูกปากอย่างนี้ ถึงแม้ว่าตอนนี้จะกลับมาอยู่ไทยได้เกือบสามปีแล้วแต่เรื่องหาร้านอาหารไทยที่ถูกปากยังเป็นเรื่องยากสำหรับหล่อน อาจจะเป็นเพราะหล่อนกับปราณต์เป็นคนไม่เรื่องมากในเรื่องอาหารการกิน ดังนั้นอาหารในแต่ละมื้อจึงเป็นเพียงเมนูง่าย ๆ อย่างเช่นข้าวผัด แกงจืดหมูสับ สปาเก็ตตี้ และเมนูไข่ง่าย ๆ เพียงเท่านั้น

                “ปากหวานนะเรา เอาซะพี่เกือบลอยแหนะ” คนโดนชมว่าอย่างขัดเขิน ความจริงแล้วเธอเป็นคนที่ชอบเข้าครัวทำอาหารมาก ๆ ความฝันคืออยากมีร้านอาหารเล็ก ๆ เป็นของตัวเอง แต่พอแต่งงานแล้วก็ต้องเข้าไปช่วยงานสามีที่บริษัทเรื่องความฝันนั้นจึงต้องพับเก็บไปเสีย

                “ไม่รีบกลับกันใช่ไหม ดื่มฉลองให้กับยอดขายเดือนนี้ของเราสักหน่อยสิ” เจ้าบ้านเสนอพร้อมกับลุกขึ้นไปหยิบ Port Wine พร้อมกับแก้วไวน์ออกมา ก่อนจะรินไวน์รสเลิศลงบนแก้วไวน์ทรงสูงแล้วเลื่อนไปตรงหน้ารุ่นน้องทั้งสองคน เพราะสามีเป็นชาวโปรตุเกสเครื่องดื่มหลังมื้ออาหารพวกนี้จึงต้องมีไม่ขาดตู้และเธอก็รู้สึกชินกับมันไปเสียแล้ว

                อัญญิศายิ้มรับก่อนจะยกแก้วไวน์ตรงหน้าขึ้นมาจิบเพื่อไม่ให้เจ้าของบ้านเสียน้ำใจ แต่นฤชากลับโบกไม้โบกมือปฏิเสธและอ้างว่าต้องขับรถซึ่งเจ้าบ้านอย่างปิ่นปักก็ไม่ได้คาดคั้น เพราะรู้จักกับนฤชามาหลายปีจึงพอรู้ว่าเพื่อนสาวคนนี้ไม่ชอบดื่มเครื่องดื่มมึนเมาสักเท่าไหร่

     

    ต้องขอโทษที่ไม่มาตามนัดที่แจ้งไว้นะคะ พอดีมีเรื่องยุ่งๆหลายอย่างเลยค่ะ แต่ต่อจากนี้จะมาอัพให้อ่านแล้วนะคะ

    ฝากติดตามพี่ปราณต์กับนุ้งเอื้อมด้วยนะคะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×