คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : [SF] My Old story : EP 1 | JackJae
My Old Story BY IU
*****************************************************************************
Episode 1
That tutor, he was...
เพราะต้องเรียนพิเศษ ตารางกิจวัตรประจำวันหลังเลิกเรียนของผมจึงต้องถูกปรับเปลี่ยนสักเล็กน้อย
แน่นอนว่าสิ่งแรกที่ถูกตัดทิ้งก็คือ...เล่นเกมก่อนนอน
นั่นเกือบทำให้ผมเป็นบ้าไปช่วงหนึ่งเลยล่ะ
‘ข้อนี้ทำยังไงอ่ะพี่’
เป็นคำพูดที่ผมพูดบ่อยที่สุดตลอดระยะเวลาที่เรียนภาษาอังกฤษกับติวเตอร์ชาวฮ่องกง จะว่าผมค่อนข้างไม่ถูกกับภาษาอังกฤษก็คงไม่ผิดนัก เพราะตั้งแต่เริ่มเรียนมา นับครั้งที่ผมได้เกรด B ขึ้นไปในวิชานี้ได้เลย
แต่โชคดีที่พี่แจ็คสันเป็นคนใจเย็นใช้ได้...หรืออย่างน้อยผมก็คิดว่าพี่เค้าใจเย็นล่ะนะ เพราะทุกครั้งที่ผมถามอะไรซ้ำไปซ้ำมา หรือเวลาที่ผมไม่ยอมเข้าใจในสิ่งที่พี่เขาสอนสักที พี่แกก็ยอมลงทุนอธิบายใหม่หมดให้ผมฟังนะ ไม่มีแสดงอาการหงุดหงิดหรือว่ามองบนอะไรใส่ผมด้วย
ข้อดีอีกอย่างหนึ่งของพี่แจ็คสันที่ผมชอบก็คือ ทุกครั้งที่สอนไปได้สักครึ่งชั่วโมง พี่แกจะสรรหามุกตลกจากไหนก็ไม่รู้แหละมาเล่าให้ผมฟังตลอดเพื่อไม่ให้บรรยากาศมันเครียดมากเกินไป จนบางทีผมก็เริ่มสงสัยเหมือนกันว่าพี่แจ็คสันเรียนวิศวกรรมศาสตร์หรือตลกศาสตร์กันแน่
และทั้งหมดนี่ก็ทำให้ผมรู้สึกว่า...การเรียนภาษาอังกฤษกับติวเตอร์คนนี้...มันก็ไม่ได้แย่อะไรมากอย่างที่เคยนึกภาพเอาไว้
Mr. Wang
อย่าลืมทำการบ้านที่พี่ให้ไว้นะลูกหมู 11.34 pm
Ars_YJ
11.40 pm ย่าห์! พี่ว่าใครหมู! หยาบคาย!
11.40 pm ไม่ทำแล้ว พี่ว่าผมเป็นหมู
11.41 pm -^-
Mr. Wang
ยังไม่นอนอีกเหรอ นี่ห้าทุ่มกว่าแล้วนะครับเด็กน้อย 11.45 pm
กินนมนอนได้แล้วป่ะ -_-zZ 11.45 pm
ทำการบ้านของพี่ด้วย 11.46 pm
ไม่งั้นพรุ่งนี้โดนตีแน่เด็กดื้อ 11.46 pm
Ars_YJ
00.00 am คร้าบๆ คุณครู
ไม่รู้ว่าเพราะอายุที่ไม่ได้ห่างกันมาก หรือเพราะพี่แจ็คสันเป็นคนเฟรนด์ลี่ หรือจะอะไรก็แล้วแต่ ผมสามารถเข้ากับรุ่นพี่คนนี้ได้ดีอย่างน่าประหลาดใจ ถึงขนาดสามารถคุยเล่นกันผ่านโปรแกรมแชทได้ ถึงจะเป็นแค่ข้อความสั้นๆแบบข้างบนก็เถอะนะ แต่สำหรับคนเพื่อนน้อย แถมยังโลกส่วนตัวค่อนข้างสูงแบบผม เชื่อเถอะ เรื่องแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับผมบ่อยนักหรอก
โปรแกรมแชทที่มีติดโทรศัพท์ไว้อย่างนั้น ไม่ค่อยได้ถูกเปิดขึ้นมาใช้ยกเว้นเวลาเพื่อนส่งการบ้านมาให้ลอก (จุ๊ๆนะครับ :P) ถูกเปิดใช้งานบ่อยขึ้นตั้งแต่ผมเริ่มเรียนภาษาอังกฤษกับพี่แจ็คสัน เนื้อหาที่คุยก็มีตั้งแต่ถามพวกวิชาความรู้ นัดหมายวันเวลาเรียน ไปจนถึงคุยเล่นเรื่องปัญญาอ่อนกัน
นั่นเป็นครั้งแรกเลย ที่ผมรู้สึกว่าตัวเองเริ่มติดโทรศัพท์มือถือโดยไม่รู้ตัว
เชื่อเถอะ ตอนนั้นผมไม่รู้ตัวจริงๆนะว่าติดโทรศัพท์มือถือขนาดไหน จนโดนแม่ทักว่าอย่าเล่นไปกินข้าวไปนั่นแหละ ถึงได้เริ่มรู้สึกตัว
นานแค่ไหนแล้วนะ...ที่ผมได้มีเพื่อนคุยเล่นแบบนี้
จำไม่ได้แล้วจริงๆ
~ I believe I can fly. I believe I can touch the sky. I think about it every night and day. Spread my wings and fly away ~
ปากกาในมือถูกเคาะกับโต๊ะตามจังหวะเพลงโปรด ผมร้องคลอตามเนื้อเพลงภาษาอังกฤษไปด้วยอย่างลืมตัว ในหัวกำลังคิดวิธีแก้สมการวิชาคณิตศาสตร์ที่วางอยู่ตรงหน้า
เวลาทำการบ้านหรืออ่านหนังสือ ผมมักจะชอบเปิดเพลงคลอไปด้วยแบบนี้แหละครับ บางคนอาจจะไม่ชอบเพราะมันทำให้เสียสมาธิ แต่สำหรับผม มันทำให้ผมไม่เครียดแล้วก็ไม่รู้สึกเบื่อกับการอ่านหนังสือจนเกินไป ที่สำคัญ...มันทำให้ผมไม่หลับคากองหนังสือด้วยล่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า
~ I believe I can soar. I see me running through that open door. I believe I can fly. I believe I can fly. ~
ก๊อกๆ
เสียงเคาะประตูดึงให้ผมหลุดออกจากโลกของเสียงเพลงก่อนหันไปหรี่ลำโพงบลูทูธที่เปิดทิ้งไว้
“มาแล้วครับ...อ้าว พี่แจ็คสัน? ทำไมมาเร็วจัง?”
ผมเอ่ยถามคนตรงข้ามขณะเบี่ยงตัวหลบให้อีกฝ่ายเดินเข้ามาข้างในห้อง
อ่า...อย่าเพิ่งคิดไปไหนไกลกันนะครับ เรื่องของเรื่องก็แค่ว่า เพราะวันนี้พี่แจ็คสันแวะมาทำธุระแถวๆบ้านผมพอดี ผมเลยเสนอไปเองแหละว่าให้มาติวที่บ้านผมมั๊ย จะได้ไม่ต้องนั่งรถย้อนไปย้อนมา เพราะสถานที่ที่ผมนัดเรียนพิเศษกับพี่แจ็คสันเนี่ย อยู่คนละทิศกับที่นี่เลยล่ะครับ
เรื่องมันก็เป็นแบบนี้แหละ...ผมรู้นะว่าพวกคุณคิดไปไกลกันแล้วอ่ะ กลับมาครับกลับมา
“เมื่อกี๊เราเป็นคนร้องเพลงเหรอ”
“อ่าฮะ...เดี๋ยวนะ นี่ผมร้องเพลงดังไปถึงข้างนอกเลยเหรอ ให้ตายเถอะ นี่ดังลงไปถึงข้างล่างหรือเปล่าเนี่ย อายจัง”
ผมว่าพลางหัวเราะเขินๆ เป็นคุณคุณไม่เขินเหรอครับ คือเวลาเราร้องเพลงแบบเนี้ย มันก็แค่การแหกปากไปใช่มั๊ยล่ะ...อารมณ์เหมือนเวลาร้องเพลงตอนอาบน้ำนั่นแหละ ไม่ได้สนใจหรอกว่ามันจะเพราะหรือไม่เพราะ ก็แค่อยากร้อง ก็เลยร้องออกมา ก็แค่นั้น
“...”
“...ทำไมพี่ต้องมองหน้าผมเหมือนเห็นผีด้วยล่ะ นี่เสียงผมทำพี่สติหลุดเลยหรือไง...ย่าห์! พี่แจ็คสัน!”
ผมโวยวายใส่คนอายุมากกว่าที่นิ่งไปเหมือนกำลังใช้ความคิดอะไรสักอย่างอยู่ ง่ะ ทำไมต้องทำหน้าแบบนั้นด้วยล่ะ ชักเสียเซลฟ์แล้วนะ!
แต่นอกจากพี่แจ็คสันจะไม่ตอบคำถามของผมแล้ว พี่แกยังลนลาน รีบวางข้าวของแล้วคว้าโทรศัพท์มือถือขึ้นมาต่อสายหาใครบางคนด้วยท่าทางรีบร้อนจนคนมองอย่างผมงงเป็นไก่ตาแตก
อะไรของเขาเนี่ย?
“เฮ้ยแจบอม...กูหานักร้องให้มึงได้แล้ว...เออน่า ลองฟังดูก่อน...น้องมันอยู่ข้างๆกูเนี่ย เดี๋ยวให้ร้องให้ฟัง...ช่วยร้องเพลงที่เราร้องเมื่อกี๊ให้มันฟังหน่อยสิยองแจ”
ประโยคสุดท้ายพี่แจ็คสันหันมาพูดกับผม แถมยังกดเปิด speaker แล้วยื่นโทรศัพท์มือถือมาทางผมอีกด้วย เฮ้ย! เดี๋ยว! คือไร อธิบายหน่อยมั๊ยล่ะ!
“ฮะ?”
“ร้องเพลงไง เพลงที่เราร้องเมื่อกี๊อ่ะ I Believe I can fly อ่ะ ร้องเร็วๆ”
อาจจะเพราะตอนนั้นผมกำลังงงๆ เลยทำตามคำสั่งของคนตรงหน้าด้วยการร้องเพลงเมื่อครู่ไปแบบงงๆ ไม่คิดอะไรมาก
~ I believe I can fly. I believe I can touch the sky. I think about it every night and day. Spread my wings and fly away ~
[เชี่ย! แบบนี้เลยที่กูอยากได้ มึงไปหามาจากไหนวะแจ็คสัน!]
ผมสะดุ้งเบาๆหลังคนปลายสายอุทานออกมาซะดังหลังผมร้องเพลงจบ จนถึงตอนนี้ผมก็ยังงงว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น พี่แจ็คสันให้ผมร้องเพลงทำไม? แล้วคนปลายสายคือใคร? ทำไมผมต้องร้องเพลงให้เค้าฟัง? แบบนี้ที่อยากได้คืออะไร? อะไรๆๆ ทำไมๆๆ ตอนนี้ในหัวผมมีแต่สองคำนี้วิ่งวนอยู่เต็มไปหมดแล้ว
และสงสัยว่าเครื่องหมายคำถามบนหน้าผมมันคงจะชัดเจนไปหน่อย พี่แจ็คสันเลยหยุดสนทนากลับปลายสายแล้วหันกลับมาอธิบายทุกอย่างให้ผมฟัง
“คืองี้ยองแจ ไอ้คนปลายสายนี้...เพื่อนพี่เอง ชื่ออิม แจบอม มันอยู่คณะนิเทศฯ มันเป็นหัวหน้าโปรเจ็กต์ละครเวทีของมหาลัยที่จะแสดงอาทิตย์หน้า ทีนี้ เมื่อสองวันก่อน นักร้องที่ไอ้แจบอมเคยเลือกไว้ให้ร้องปิดการแสดงดันป่วย เป็นต่อมทอลซินอักเสบหรืออะไรเนี่ยแหละ เข้าโรงพยาบาล มาแสดงไม่ได้ มันเลยกำลังหัวหมุน หานักร้องใหม่ให้ทันขึ้นแสดงวันเสาร์หน้า”
“แล้ว?”
[แล้วพี่ก็มาเจอน้องนี่แหละครับ น้องชื่ออะไรนะไอ้แจ็ค]
“ยองแจ...ชเว ยองแจ”
[โอเค คืองี้นะน้องยองแจ พี่อยากให้น้องมาลอง...ไม่สิๆ ตอนนี้เลยก็ได้นี่หว่า น้องร้องเพลง A goose’s dream เป็นมั๊ย?]
“เอ่อ..เป็นครับ”
[ลองร้องให้ฟังหน่อยได้มั๊ย]
เพราะยังงงๆอยู่ ผมเลยหันไปหาคนข้างๆเพื่อถามความเห็น ก่อนที่พี่แจ็คสันจะรีบพยักหน้าหงึกๆเป็นเชิงว่า ‘ร้องๆไปเหอะ’ ผมถึงได้เริ่มร้องเพลงตามที่คนปลายสายขอมา
난 난 꿈이 있었죠,
I have a dream
버려지고 찢겨 남루하여도
Even if I’m thrown away or ripped to shreds
[พี่ขอท่อนฮุกเลยได้มั๊ย]
เป็นคนปลายสายที่เอ่ยแทรกขึ้นมา ผมเงยหน้ามองเพดานห้อง นึกไล่เนื้อเพลงอยู่ครู่หนึ่งเพราะไม่ค่อยได้ฟังเพลงนี้สักเท่าไหร่ก่อนเริ่มร้องอีกครั้ง
그래요 난 난 꿈이 있어요.
Yes I have a dream.
그 꿈을 믿어요 나를 지켜봐요.
I believe in that dream. Please watch over me
저 차갑게 서 있는 운명이란 벽앞에
Standing in front of that cold wall called fate
당당히 마주칠 수 있어요
I can firmly face it
언젠가 난 그 벽을 넘고서
One day I will pass over that wall
저 하늘을 높이 날을 수 있어요
And be able to fly as high as the sky
이 무거운 세상도 나를 묶을 순 없죠
This heavy thing called life can’t tie me down
내 삶의 끝에서나 웃을 그 날을 함께해요
At the end of my life, on the other day that I can smile, let’s be together.
หลังจากวันนั้น ผมก็ถูกเรียกตัวไปที่มหาวิทยาลัยที่พี่แจ็คสันเรียนอยู่เพื่อไปออดิชั่นร้องเพลง และได้เข้าร่วมการแสดงละครเวทีของมหาวิทยาลัยก่อนการแสดงจริงเพียง 1 สัปดาห์
ทีแรก พ่อกับแม่ผมท่านก็ไม่ค่อยเห็นด้วยสักเท่าไหร่หรอกครับ เพราะอีกไม่กี่เดือนผมก็จะต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว ท่านคงอยากให้ผมเอาเวลาไปอ่านหนังสือมากกว่า แต่เพราะทั้งพี่แจ็คสันและพี่แจบอม (คนที่พี่แจ็คสันโทรหาเมื่อวันนั้นน่ะครับ) เป็นคนเข้ามาขอร้องพวกท่านโดยตรงถึงบ้าน สุดท้ายพวกท่านก็เลยยอม
สิ่งที่ผมต้องทำก็ไม่มีอะไรมากครับ ก็แค่ร้องเพลงปิดการแสดงร่วมกับพี่ๆจากคณะดุริยางคศิลป์ของมหาวิทยาลัย แค่นั้นเองครับ...
...ซะที่ไหนเล่าให้ตาย! แค่คิดว่าจะต้องไปร้องเพลงท่ามกลางคนดูเป็นร้อยเป็นพันแบบนั้น ผมก็แทบลมจับแล้ว! นี่ยังต้องมาร้องร่วมกับพี่ๆสายโหดอีก Oh my god! ชเว ยองแจเป็นลมตอนนี้ทันมั๊ยครับท่านผู้ชม
พอถามไปว่าทำไมต้องเป็นผม พี่ๆเอกวอยซ์ร้องเพลงเก่งๆมีอีกตั้งหลายคน ทำไมไม่ให้พวกพี่ๆเค้ามาร้อง พี่แจ็คสันก็ตอบมาซะผมไปต่อไม่ถูกเลย
‘เสียงของนักร้องแต่ละคนแตกต่างกันนะ ถึงจะร้องเพลงเก่งแค่ไหน แต่ถ้าเสียงไม่เข้า ไม่ใช่ มันก็คือไม่ใช่ และพี่มั่นใจว่ายองแจสามารถทำหน้าที่ตรงนี้ได้ และเราจะไม่ทำให้พี่ผิดหวัง’
โอเค๊! พูดมาขนาดนี้ผมจะปฏิเสธอะไรได้อีกล่ะจริงมั๊ย ก็แค่หวังว่าประสบการณ์ประกวดร้องเพลงในโรงเรียนจะช่วยให้ผมไม่ตื่นเต้นจนเกิดเป็นลมกลางเวทีก็แล้วกันนะ
‘คนเยอะเป็นบ้าเลยอ่ะพี่แจ็คสัน โอย ผมรู้สึกเหมือนจะเป็นลม’
‘อย่าเพิ่งเป็นลมดิยองแจ หายใจเข้าลึกๆ...นั่นแหละๆ...ใจเย็นๆ มีสติ เข้าใจมั๊ย’
‘แล้ว...แล้วถ้าผม...ถ้าผมทำพลาดล่ะ...ถ้าผมเกิดร้องเพี้ยน หรือ...หรือร้องผิดจังหวะ...หรือ...’
‘ฟังนะยองแจ พี่มั่นใจว่าเราทำได้...และเราทำได้แน่ๆ ซ้อมมาตั้งนาน แถมเราก็เสียงดีอยู่แล้วด้วยจริงมั๊ย วันที่พี่ได้ยินเสียงเราจากทะลุจากประตูห้องนอนวันนั้นพี่ขนลุกเลยนะ ไม่คิดว่าเราจะร้องเพลงได้ดีขนาดนี้’
‘...อันนี้ชมใช่มั๊ย’
‘ชมสิ เอ๊ะ เด็กคนนี้นี่ยังไง พี่ว่าเราตรงไหนเนี่ยฮึ’
‘…’
‘เราทำได้อยู่แล้ว เชื่อพี่สิ เอางี้...เดี๋ยวพี่จะนั่งดูอยู่ที่ชั้นสอง ถ้าเรารู้สึกไม่มั่นใจหรือว่าประหม่า...ให้มองหาพี่ โอเคมั๊ย’
‘เพื่อ?’
‘เพราะบนชั้นสองเค้ากั้นไม่ให้คนดูขึ้นน่ะสิ ถ้าเรามองขึ้นไปบนนั้น เราก็จะไม่เห็นคนดูคนอื่นเลยนอกจากพี่...เหมือนเรากำลังร้องให้พี่ฟังคนเดียวเหมือนตอนซ้อมไง...แบบนี้ดีมั๊ย’
‘...ไม่เห็นจะดีตรงไหนเลยอ่ะ...’
‘เอาน่า...เดี๋ยวพี่ต้องไปละ สู้ๆยองแจ เราทำได้อยู่แล้ว Fighting!’
วินาทีที่ผมต้องก้าวข้นไปบนเวที ทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนจะเงียบไปหมด
ขาผมแข็งจนแทบก้าวไม่ออก มือสั่นจนถือไมค์แทบไม่ได้ แสงสปอร์ตไลท์ก็สว่างจ้าจนผมมองอะไรแทบไม่เห็น
ดนตรีดังขึ้นมาแล้ว แต่ผมยังดึงสติตัวเองกลับมาไม่ได้เลย
..ทำยังไงดี...
‘ถ้าเรารู้สึกไม่มั่นใจหรือว่าประหม่า...ให้มองหาพี่ โอเคมั๊ย’
วินาทีนั้น คำพูดของพี่แจ็คสันก็เด้งขึ้นมาในหัว ผมรีบเงยหน้าขึ้นมองไปยังชั้นสองของหอประชุมเหมือนเป็นปฏิกิริยา reflex ของร่างกาย ก่อนจะพบใครบางคนอยู่บนนั้น
‘ยองแจอา Fighting!!!’
ถึงจะไม่มีเสียงออกมาจากคนคนนั้น แต่ผมก็มั่นใจว่าตัวเองอ่านปากเขาไม่ผิด พี่แจ็คสันยืนอยู่บนนั้นตามที่สัญญาไว้กับผม แถมยังชูนิ้วโป้งให้ผมทั้งสองข้างอีกด้วย
และเพราะความรู้สึกบางอย่างที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้ผมในตอนนั้น ผลักดันให้ผมยกไมค์ขึ้นมาและเริ่มร้องเพลง
‘ร้องเหมือนเวลาที่เราร้องให้พี่ฟังตอนซ้อมไง แบบนั้นดีมั๊ย’
ตลอดทั้งการแสดงนั้น ทั้งที่มีคนดูเป็นร้อยเป็นพัน แต่คนที่สายตาผมจับจ้องไป...มีเพียงคนคนเดียว...
Fin
23/5/2016
11:04 pm
Continue reading in Episode 2
Coming Soon
Song's Credit
1. I Believe I Can Fly BY R Kelly
เนื้อเพลงภาษาอังกฤษ : http://www.azlyrics.com/lyrics/rkelly/ibelieveicanfly.html
2. A Goose's Dream BY In Sooni
เนื้อเพลงภาษาอังกฤษ : https://notesanotes.wordpress.com/2011/05/27/insooni-a-gooses-dream-mv-lyrics-rom-han-eng/
เนื้อเพลงภาษาเกาหลี : http://www.plearnkid.com/?p=5282
Let's Talk
ปล่อยมาแล้วค่ากับ EP แรกของเซ็ทนี้ หวังว่าคงถูกใจกันนะคะ เนื้อเรื่องจะไม่หนักหน่วงเท่ากับเรื่องที่แล้วค่ะ จะพยายามสื่ออารมณ์เหมือนเรากำลังฟัง old story ของคนคนนึงที่ชื่อ ชเว ยองแจ ค่ะ แต่ถ้าถามว่ามีม่ามั๊ย ระดับนี้ไม่พลาดค่ะ ชอบมาม่าเป็นชีวิตจิตใจ 55555 ใครรอม่าหนักๆ รออีกนิดนะคะ ตอนหน้าเจอแน่ค่า
ขอ
เม้าท์มอยเรื่องเพลงที่ใช้ในตอนนี้นิดนึงนะคะ เพลง A goose's dream ที่ยองแจร้องในตอนนี้ จริงๆแล้ว Original Version เป็นของคุณ
In Sooni ตาม Credit ที่ให้ไว้ข้างบนเลยค่ะ
แต่ที่กำลังจะพูดถึงนี้ จะขอพูดถึงเวอร์ชั่น Cover ของสาวๆ
วง Bestie ค่ะ เราว่าเป็นอีกเวอร์ชั่นที่ใช้ได้เลย
ชบรองลงมาจากเวอร์ชั่นออริจินอลเลยค่ะ สามารถลองเข้าไปฟังได้นะคะ (https://www.youtube.com/watch?v=AHFJjMp7BMk) (เราแนบลิ้งค์ไม่เป็นอ่ะ ขอแปะไว้แทนเเล้วกันนะคะ)
ปล. เห็นช่วงนี้อัพถี่ๆก็อย่าแปลกใจนะคะ ปิดเทอมค่ะ ว่างจัดมากๆ ฮ่าฮ่าฮ่า แล้วก็อยู่ในช่วงกำลังมีไฟแต่งค่ะ ไอเดียนี่มาพึบพับๆๆๆๆ เลยลงค่อนข้างถี่ค่ะ แต่จะพยายามรักษามาตรฐานแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆนะคะ ^^
จะรีบกลับมาต่อนะคะ ขอบคุณคนอ่านที่น่ารักทุกคนที่เข้ามาเยี่ยมชมนะคะ รักทุกคนค่ะ อิอิ
ความคิดเห็น