[BAP] Paepaero Kiss! - Himchan x Daehyun - [BAP] Paepaero Kiss! - Himchan x Daehyun นิยาย [BAP] Paepaero Kiss! - Himchan x Daehyun : Dek-D.com - Writer

    [BAP] Paepaero Kiss! - Himchan x Daehyun

    โดย september.

    ทำไมต้องมาทำอะไรแบบนี้กับคนที่ผมไม่ชอบ(?)ด้วยเนี่ย

    ผู้เข้าชมรวม

    1,156

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    1.15K

    ความคิดเห็น


    13

    คนติดตาม


    8
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  1 ม.ค. 56 / 05:10 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

    Happy New Year 2013 :)

    สวัสดีปีใหม่ ส่งวันช็อตป่วงๆ มาอีกแล้ว
    วันช็อตที่แต่งออกมาด้วยความมึนเมา
    งงกับพลอตเรื่องมากให้ตาย
    55555555555555
    หวังว่าจะชอบกันนะคะ ^ ^


    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

       Title: Paepaero Kiss!

      Couple: Himchan x Daehyun

                  Friday, 01:00 AM

                  ค่ำคืนวันศุกร์ ร้านรวงหลายๆ ร้านต่างพากันปิดเพื่อที่จะได้พักผ่อน แต่ยังคงมีร้านบางประเภทที่ยังคงเปิดเพื่อต้อนรับเหล่านักท่องราตรีกันอย่างคับคั่ง

                  บรรยากาศภายในร้านอาหารกึ่งผับ ซึ่งเป็นร้านที่ลูกค้าค่อนข้างเยอะพอสมควร ตอนกลางวันเป็นหน้าที่ของร้านอาหารชั้นเลิศ แต่พออย่างเข้าซักประมาณสามทุ่ม ร้านอาหารแห่งนี้ได้เปลี่ยนเป็นแหล่งท่องเที่ยวของบรรดาพวกชอบเที่ยวกลางคืนรวมไปถึงเหล่านักศึกษากลุ่มนี้ที่หนีออกจากหอเพื่อมาเที่ยวผ่อนคลายในยามวิกาล

                  “เฮ้ย!! เรามาหาอะไรสนุกๆ เล่นกันเถอะ” เสียงทุ้มๆ ต่ำๆ กึ่มๆ เหมือนจะเมา เอ่ยกับบรรดาเพื่อนฝูง(ซึ่งมีอยู่คนเดียว)และรุ่นน้องอีกสี่คนที่ดูจากสภาพคร่าวๆ แล้วนั้น คงเมากันจนกู่ไม่กลับแล้วล่ะ

                  “เล่นบ้าบอคอแตกอะไรกันพี่ยงกุก ดูสภาพแต่ละคนหน่อย = =” เสียงเล็กๆ ของรุ่นน้องที่อายุน้อยที่สุด และดูจะมีสติที่สุด เนื่องจากเด็กหนุ่มไม่ได้แตะต้องของมึนเมาใดๆ ทั้งสิ้น

                  “เล่นเว้ยย แล้วมึงจะเล่นอะไรวะ?” ซากเพื่อนสนิทของยงกุกปรือตาที่ลืมไม่ค่อยจะขึ้นมองเพื่อนหน้าโหดของตัวเอง

                  “เฮ้ยๆ!! ไอ้พวกนั้นน่ะ ลุกๆ” ยงกุกสะกิดเรียกรุ่นน้องอีกสามชีวิตที่นอนก่ายกันอย่างไม่แคร์สายตาประชาชน

                  “มีอะไรว่ะพี่” หนึ่งในรุ่นน้องสามคนสลึมสลือก่อนจะถีบเพื่อนอีกสองคนที่นอนทับตัวเองอยู่

                  “เชี่ยยองแจ! ถีบมาได้” ผู้ชายหน้าแมวลูบสะโพกบริเวณที่โดนถีบ

                  “ตื่นๆ มาเล่นเกมกัน ๆๆ” บังยงกุกตบๆ หน้าตัวเองก่อนจะจัดการลากน้องๆ มานั่งเรียงตัวกัน

                  “เล่นเกมอะไรวะมึง?” เพื่อนฟันเหยิน(?)(ทำร้ายพระเอกเบาๆ)ของยงกุกถามงัวเงีย

                  “เรามาเล่นคิงกันมั๊ย” เสียงเล็กๆ ของหนึ่งในสมาชิกเอ่ย

                  “ความคิดเจ๋งมากจงออบ เราจะหมุนขวดเลือกคิงก่อน จากนั้นคิงก็สั่ง แล้วค่อยหมุนหาคนโดนทำโทษอีกที” ยงกุกจัดการเสร็จสรรพก็หมุนขวดหาคิงทันที

      .

      .

      .

      .

                  เกมได้ดำเนินมามากกว่า 10 รอบแล้ว มีทั้งคำสั่งพิลึก คำสั่งปัญญาอ่อน แต่เพราะความเมาทำให้พวกเค้าทำตามคำสั่งได้อย่างไม่อายเลย

                  “เฮ้ย! อะไรวะ มีเล่นมาสิบกว่ารอบแล้วแดฮยอนยังไม่โดนเลยว่ะ” ยองแจโอดครวญ โชคชักจะเข้าข้างเพื่อนหน้าแมวของเค้าเกินไปแล้ว

                  “เออนั่นดิๆ หมุนใหม่ซิเจลโล่” ยงกุกบ่นหัวเสีย ส่วนคนโดนพาดพิงนั่งหน้าแดงยิ้มแป้นแล้นไม่รู้สึกรู้สาใดๆ ทั้งสิ้น และเมื่อเจลโล่หมุนขวดปุ๊บ ทุกคนต่างจ้องไปที่ขวดราวกับให้มันหันมาทางตัวเอง จนปากขวดไปหยุดอยู่ที่ ยู ยอง แจ

                  เท่านั้นแหล่ะ สมาชิกทุกคนถึงกับช็อค ก็ยองแจชอบสักอะไรประหลาดๆ พิสดารให้พวกเค้าทำ

                  “เยส! ผมอีกแล้ว” ยองแจพูดเสียงดังก่อนหยิบกล่องแปแปโร่ออกมา

                  “แกเอาขนมปัญญาอ่อนนั่นมาทำไมวะ!” ยงกุกทำหน้าเบื่อหน่าย

                  “แปแปโร่คิส” ยองแจยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะเริ่มหมุนขวดทันทีจนกระทั่งมันไปหยุดที่

                  จอง แด ฮยอน

                  เฮกันลั่นโต๊ะทีเดียว แต่เจ้าตัวกลับทำหน้าเหมือนแมวจะร้องไห้

                  “จงใจป่ะเนี่ย TT” แดฮยอนส่งงุ้งงิ้ง แต่คนอื่นหาได้สนใจไม่

                  “คาบไว้ก่อนนะแมวน้อย เดี๋ยวหาอีกคนก่อน” ยองแจเอาแปแปโร่ออกแท่งนึงแล้วจับยัดเข้าปากเพื่อนตัวเอง ก่อนจะเริ่มหมุนขวดอีกรอบ จนมันหยุดอยู่ที่...

                  คิม ฮิม ชาน

                  ชิบหาย!’ ทุกคนต่างมองหน้ากันเลิ่กลั่ก แหงล่ะสองคนนี้กัดกันปานว่าหมากับแมวตีกัน

                  “เอ่อ.. กฏต้องเป็นกฏนะครับพี่ฮิมชาน” ยองแจหัวเราะแห้งๆ ส่วนตัวฮิมชานหรอ แทบจะสร่างเมาทันที เค้าลุกจากที่นั่งตัวเองแล้วเดินโซซัดโซเซไปที่โซฟาอีกฝั่ง ใช้เท้าเขี่ยจงออบเป็นเชิงว่า เหยิบเซ่!’ ก่อนจะทรุดตัวนั่งลงข้างๆ คนที่จ้องหน้าเค้าตาไม่กระพริบ สายตาบอกประมาณว่า ทำไมต้องเป็นพี่ด้วยวะ

                  ฮิมชานจ้องหน้าคนตัวเล็กอยู่สักพักก่อนจะเริ่มกัดอีกด้านของแปแปโร่ มือข้างนึงจับที่ท้ายทอยและอีกข้างจับที่ข้อมือของอีกฝ่ายไว้ ก่อนจะกัดแปแปโร่อย่างรวดเร็วจนอีกคนถอยหน้าหนี แต่ก็หนีได้ไม่มากเพราะฮิมชานจับท้ายทอยไว้อยู่ พอใกล้จะหมดร่างสูงก็ลดความเร็วลงจากพรวดพราดเข้ามากลายเป็นค่อยๆ เล็มที่ละเล็กที่ละน้อย ยิ่งใบหน้าหล่อนั้นเข้ามาใกล้มากแค่ไหน ร่างเล็กก็ได้แต่หลับตาปี๋ มือข้างที่ไม่ได้โดนอีกฝ่ายจับ ก็ยกขึ้นไปจับไหล่หนาโดยที่เจ้าตัวก็ไม่รู้ว่าทำอะไรลงไป จากหลับตาปี๋ก็ค่อยๆ คลายออกเป็นหลับตาพริ้มธรรมดา ร่างสูงค่อยๆ เล็มเข้าไปจนปลายจมูกของทั้งคู่แตะกัน เค้าถึงได้เอียงใบหน้าให้ได้องศาเล็กน้อย แล้วก็เล็มเข้าไปเรื่อยๆ เมื่อริมฝีปากของทั้งคู่แตะกัน แดฮยอนก็สะดุ้งสุดตัว แต่ไม่สามารถหลุดจากการจับกุมของอีกฝ่ายได้ เจ้าตัวได้แต่ทำตาโตทุบไหล่อีกคน แต่ฮิมชานก็หาได้สนใจไม่ เค้ากัดริมฝีปากล่างของแดฮยอนเบาๆ จนอีกฝ่ายต้องเผยอปากออก เมื่อได้โอกาสฮิมชานก็สอดลิ้นเข้าไปเก็บเอาแปแปโร่ส่วนที่เหลือในปากอีกคน แต่ยังแอบหยอกล้อกับลิ้นเล็กที่หนีอย่าเอาเป็นเอาตายในโพรงปากแคบๆ แล้วก็ถอนริมฝีปากออกมา ร่างเล็กหอบแฮกๆ หน้าแดงก่ำ มือเล็กเกาะไหล่หนาไว้แน่น  ส่วนโจรขโมยจูบได้แต่ยกยิ้มอย่างพอใจ

                  “ทำไมพี่ต้องจูบด้วย” ร่างเล็กกัดฟันถาม

                  “แปแปโร่คิส” ร่างสูงยักคิ้วให้ทีนึงก่อนจะย้ายก้นไปนั่งที่ตัวเอง แต่พอหันกลับไป ก็พบกับบรรยากาศที่แบบว่า... สองมักเน่ปิดตาแน่น แต่ยังเหลือช่องเล็กๆ ให้ส่อง ยูยองแจตัวคิดคำสั่งก็กัดหมอนแน่น ตาจ้องพวกเค้าไม่กระพริบ ส่วนพี่ใหญ่อย่างบังยงกุกได้แต่หัวเราะน้อยๆ ในมือถือไอโฟนเครื่องสวยบันทึกวิดีโอแปแปโร่คิสเมื่อสักครู่ไว้

                  “เชี่ย!!!!!” ฮิมชานส่งเสียงดังก่อนจะเดินไปคว้าเอาไอโฟนของเพื่อนมา แต่ยงกุกที่ไวกว่าเก็บไอโฟนลงกระเป๋าทันที

                  “เรามาเล่นต่อกันเถอะ!” ยองแจปาหมอนทิ้งก่อนจะกระโจนมาคว้าขวดไปหมุน ส่วนฮิมชานกับแดฮยอนที่นั่งข้างกันก็ได้แต่นั่งเงียบ แดฮยอนกัดปากตัวเองเบาๆ อย่างใช้ความคิด

                  เกลียดกันขนาดนี้ ทำไมถึงต้องมาจูบกันด้วยนะ

      .

      .

      .

      .

      .

                  “เฮ้ย! ว่าไงจองแดฮยอน” ยองแจเดินมากอดคอขณะกำลังเดินเข้ามหาลัย

                  “เหอะๆ ก็ไม่ยังไงหรอก” แดฮยอนตอบแบบไม่สบอารมณ์

                  “เอ้า! งอนอะไรกูป่าวเนี่ย”

                  “ป่าว ทำไมกูต้องงอนมึง” แดฮยอนชำเลืองมองเพื่อนตัวเอง

                  “ไม่งอนก็ดีแล้ว เห็นหน้ามึงซึมๆ เหมือนแมวป่วย” ยองแจตบบ่าเพื่อนเบาๆ “หรือว่ามึงป่วยจริงๆ”

                  “กูยังแข็งแรงดีเว้ย” แดฮยอนหันไปยิ้มบางๆ ให้เพื่อน

                  ปึก!

                  เดินมาดีๆ ก็มีใครไม่รู้เดินมาชนไหล่บางจนแดฮยอนเกือบล้มแต่ทรงตัวไว้ได้

                  “ขอโท...” ร่างเล็กกำลังจะเอ่ย ขอโทษ กับคนที่เดินชนเค้า แต่พอเห็นหน้าคนชน ร่างเล็กก็กลืนคำขอโทษลงคอทันที

                  “ทำไมไม่มองทางล่ะครับ จองแดฮยอน” ฮิมชานก้มลงไปจ้องหน้าอีกคน

                   “พี่เป็นคนชนผมนะ” แดฮยอนจ้องกลับไม่วางตา

                  “ไม่มีตาหรอ” ร่างสูงเลิกติ้วกวนๆ ใส่

                  “มี แต่ไม่ได้มีไว้มองคนแบบพี่” แดฮยอนผลักหน้าอีกคนออก ก่อนจะคว้าคอเพื่อนตัวเองไป

                  “เดี๋ยวสิ” ฮิมชานจับแขนอีกคนไว้

                  “อะไรวะ!” แดฮยอนตวาดลั่น จนคนแถวนั้นยังตกใจ

                  “เฮ้ย ไอ้นี่ พี่ฮิมชานครับ เดี๋ยวพวกผมไปก่อนดีกว่านะครับ” ยองแจเห็นว่าสถานการณ์ดูจะไม่ค่อยดีเท่าไร เลยพยายามลากเพื่อนตัวเองออกมา แต่ฮิมชานกลับไม่ให้ทำอย่างนั้น

                  “ยองแจไปก่อนเถอะ เดี๋ยวพี่ขอคุยอะไรกับแดฮยอนก่อนนิดหน่อย”

                  “แต่ผมไม่มีอะไรต้องคุยกับพี่!” ร่างเล็กพยายามแกะมือของฮิมชาน แต่มันไม่ได้ช่วยเลยสักนิด แถมอีกคนกลับจับมันแน่นกว่าเดิม

                  “นายไม่มีแต่พี่มี” ฮิมชานจับแขนร่างเล็กแน่นขึ้นจนอีกคนถึงกับทำหน้าเหยเก

                  “พี่ปล่อย! ผมเจ็บ” ร่างเล็กบิดแขนตัวเองออก แต่ไม่สามารถหลุดออกมาได้

                  “ยองแจ ไม่ต้องห่วงหรอกนะ ไปเรียนเถอะ” ฮิมชานบอก ก่อนจะลากแดฮยอนออกไปนอกมหาลัย ส่วนยองแจได้แต่มองเพื่อนอย่างเป็นห่วง

                  “ไว้ใจฮิมชานมันเถอะ” ยงกุกที่เดินมาจากไหนไม่รู้จับไหล่ยองแจเบาๆ ส่วนยองแจยังไม่ละความกังวลออกไปได้

      .

      .
      .
      .

      .

                  “ปล่อยนะ ผมเจ็บ!” ร่างเล็กโวยวายมาตลอดทางจนอีกคนจับยัดเข้ารถก็ยังไม่เลิกส่งเสียงดัง

                  “เจ็บมากมั๊ย” ฮิมชานที่เข้ามาในรถแล้ว จับแขนของอีกคนไปดู แต่ร่างเล็กกลับสะบัดออกอย่างแรงจนแขนตัวเองไปชนกับกระจกรถดังปั้ก!

                  “เฮ้ย! ถึงกับต้องทำร้ายตัวเองเลยหรอ” ร่างสูงพูดติดตลกแต่สีหน้าซีเรียสอย่างเห็นได้ชัด

                  “มันใช่เรื่องตลกมั๊ยเล่า! เจ็บนะ T T” ร่างเล็กส่งเสียงง้องแง้งออกไป ทำเอาฮิมชานหัวเราะร่วน

                  “นี่!! ถ้ายังขำไม่เลิกผมไปนะ” ร่างเล็กเตรียมจะเปิดประตูลงไป แต่ร่างสูงไวกว่ารีบกดล็อครถทันที

                  “เลิกขำแล้ว เดี๋ยวพาไปหาหมอนะ” ร่างสูงยิ้มให้ก่อนจะออกรถออกไป

                  บรรยากาศในรถช่างเงียบเชียบได้ยินแต่เสียงแอร์หึ่งๆ กับเสียงเพลงที่เปิดคลอเบาๆ ต่างคนต่างเงียบ อาจจะเป็นเพราะปกติเจอหน้ากันก็กัดกันทุกที แล้วปกติก็ไม่เคยอยู่กันตามลำพังแบบนี้ด้วย จะคุยอะไรดีวะ -.-’

                  เมื่อฮิมชานขับรถมาจนถึงโรงพยาบาล หลังจากที่จอดรถเรียบร้อย ร่างสูงก็เดินอ้อมมาเปิดประตูให้อีกคน

                  “ไม่จำเป็นครับ - -” แดฮยอนเดินลงมาจากรถ เมื่อฮิมชานสัมผัสเบาที่บริเวณข้อศอกร่างเล็กก็สะดุ้งโหยง

                  “โอ๊ย! อย่าจับสิ T_T” ร่างเล็กโอดครวญ

                  “ขอโทษ ๆๆ”

      .

      .

      .

      .

      .

                  สองร่างเดินออกมาจากโรงพยาบาลพร้อมถุงยาเล็กๆ อีกหนึ่งถุง

                  “ฮ่าๆ ดีนะที่ไม่ได้เป็นอะไรมาก แค่ฟกช้ำ คราวหลังก็อย่างอนรุนแรงนักล่ะ” ฮิมชานยีหัวคนตัวเล็กเบาๆ

                  “ใครงอนพี่ เหอะๆ หลงตัวเองที่หนึ่งเลย” แดฮยอนปัดมืออีกคนออก ด้วยใบหน้าไม่สบอารมณ์ ร่างเล็กที่ตอนนี้มีผ้าพันไว้ที่แขนขวาเดินแกว่งถุงยาเล่นแก้เซ็ง

                  “ไม่ก็ไม่ แต่พี่ไม่ได้หลงตัวเองที่หนึ่งนะ พี่หลงตัวเองที่สองต่างหาก” ร่างเล็กหันไปมองหน้าด้วยความงุนงง

                  “มุขบ้าอะไรของพี่ ฮาตายแหล่ะ เร็วๆ เลยจะกลับไปเรียนแล้ว ไม่น่าออกมาให้เสียตังเลยจริงๆ” ร่างเล็กบ่นอุบ

                  “แต่นั่นมันตังพี่นะ” ร่างสูงท้วง

                  “เงียบไปเลย พี่รับผิดชอบน่ะถูกแล้ว!” ร่างเล็กหันมาแว้ดใส่ก่อนจะมุ่งหน้าไปรถของร่างสูงอย่างรวดเร็ว ร่างสูงมองตามอีกคนไปก่อนจะบ่นเบาๆ กับตัวเอง

                  “สุดท้ายก็ไม่ได้พูดสินะ เฮ้อออ~”

      .

      .

      .

      .

      .

                  “มึงพาน้องมันไปไหนมาว่ะ!” ยงกุกถามหลังจากที่เห็นสภาพของร่างเล็ก

                  “พาไปโรงบาลไง -_-” เจ้าตัวปัญหาก็ตอบหน้าตาย

                  “ไปทำไม แล้วทำไมน้องมันถึงมีสภาพแบบนี้” ยงกุกยังไม่เลิกคาดคั้นเอาคำตอบจากเพื่อนสนิท ในขณะที่แดฮยอนกับยองแจได้แต่มองอย่างเงียบๆ

                  “อุบัติเหตุนิดหน่อย” ฮิมชานยังคงลอยหน้าลอยตาตอบ

                  “ผมสะบัดแขนแรงไปหน่อยเลยกระแทกเข้ากับกระจกรถน่ะครับ พี่ฮิมชานไม่ผิดหรอก” แดฮยอนท้วงขึ้นเบาๆ

                  ฮิมชาน ไม่ชอบ แดฮยอนแต่ก็ไม่ยอมบอกว่าเป็นความผิดของอีกคน

                  แดฮยอนไม่ชอบ ฮิมชานแต่ก็ไม่ยอมให้อีกคนยอมรับผิดคนเดียว

                  “หรอ คราวหลังก็ระวังตัวหน่อยนะ” ยงกุกดูเหมือนจะอารมณ์ดีขึ้นมาหลังจากได้รับคำตอบของแดฮยอน

                  “ครับ ผมจะระวังตัว” แดฮยอนว่าก่อนจะหยิบหูฟังขึ้นมาใส่แล้วฟุบหน้าลงกับโต๊ะ

                  “มึงจะเอายังไงกับแดฮยอน” ยงกุกพูดขึ้นหลังจากเห็นแดฮยอนเสียบหูฟังเข้าไป

                  “กูยังไม่มีโอกาสได้บอกเลย” ฮิมชานชายตามองร่างเล็ก ก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

                  “พี่ก็พูดไปเลย ตรงๆ แดฮยอนมันไม่ชอบอ้อมค้อมมากมาย” ยองแจพูดแทรกขึ้น ฮิมชานมองยองแจเล็กน้อย ก่อนจะมองหน้าเพื่อนตัวเองก็พอจะรู้ว่าเพื่อนตัวดีเค้ามันเล่าให้ยองแจฟังหมดแล้ว

                  ว่าเค้าแอบชอบ จองแดฮยอน

                  “เจอหน้ากันก็กัดกันตลอด จะให้เดินไปบอกเลยหรอว่า พี่ชอบนายนะ บ้าไปแล้ว” ฮิมชานส่ายหน้าไปมา

                  “มึงชอบมึงก็บอกไปสิ!” ยงกุกตบไหล่เพื่อน(ไม่)เบา

                  “เอาให้ไหล่กูหลุดเลยมั๊ย -..- แล้วมึงจะให้กูบอกยังไงล่ะ!!” ฮิมชานทรุดตัวลงนั่งฝั่งตรงข้ามร่างเล็กที่ฟุบหน้าอยู่ ทำไมเค้าถึงกล้าพูดเรื่องนี้ทั้งๆ ที่แดฮยอนยังนั่งอยู่ตรงนี้ เพราะพวกเค้ารู้ว่าแดฮยอนฟังเพลงดังมาก ขนาดยองแจอยู่ใกล้ๆ ตะโกนเรียกยังไม่รู้เรื่องเลย

                  “เหอะๆ มึงก็คิดเอาก็แล้วกัน” ยงกุกตบบ่าเพื่อนก่อนจะเดินออกไป ไม่ลืมที่จะลากยองแจออกไปด้วย

                  “เฮ้อออออ พี่จะบอกเรายังไงดีนะ ว่าพี่ชอบเรามากนะ” ร่างสูงจ้องร่างเล็กที่ยังคงฟุบหน้าอยู่

                  “พี่...พ...พูด จ...จริงหรอ ค...ครับ” ร่างเล็กที่ฟุบหน้าอยู่เอ่ยขึ้นมาตะกุกตะกักแม้จะยังไม่เงยหน้าขึ้นมา

                  “ฮ...เฮ้ย!!!!!!!!!!! น...นายได้ ย...ยิน ด...ด้วยหรอ” ร่างสูงหน้าซีดเหมือนเด็กโดนจับได้ว่าทำผิด เค้ายอมรับว่าแม่งโคตรตกใจ ใครจะไปรู้ว่าอีกคนไม่ได้ฟังเพลงอยู่

                  “ครับ” ร่างเล็กยังไม่ยอมเงยหน้า แต่ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่าร่างเล็กหูแดงก่ำ

                  “น...นาย ม...ไม่ได้ ฟ...ฟัง พ...เพลงอยู่หรอ” ฮิมชานตะกุกตะกักไม่เลิก

                  “ผมแค่เอาใส่ไว้เฉยๆ ครับ” ร่างเล็กเงยหน้าขึ้นมายิ่งทำให้ฮิมชานเห็นใบหน้าขาวที่ตอนนี้แดงก่ำน่าจะมาจากความเขินซะมากกว่า ร่างสูงสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะพ่นออกมาเฮือกใหญ่

                  “คือ...นายยังจำมุขบ้าๆ ตอนที่พี่เล่นอยู่โรงบาลได้มั๊ย”

                  “มุขหลงตัวเองน่ะหรอครับ” ร่างเล็กเอียงคอถาม

                  “อืม ที่พี่บอกว่าพี่หลงตัวเองเป็นที่สองน่ะ ก็เพราะว่า...”

       

       

       

       

       

       

       

       

       

                  “พี่หลงนายเป็นที่หนึ่งนะ จองแดฮยอน”

      .

      .

      .

      .

      .

      Special

                  “พี่ลากผมออกมาทำไมอะ?” ยองแจถามรุ่นพี่ที่ลากเค้าออกมาจากวงเมื่อกี้

                  “ปล่อยให้เค้าคุยกันสองคนเถอะ” ยงกุกตอบพลางกระตุกยิ้มน้อยๆ

                  “ทำไมพี่ต้องทำหน้าแบบนั้นด้วย -_-” ยองแจมองหน้ายงกุกด้วยความผวาหน่อยๆ

                  “ดูไม่ออกหรอ ว่าแดฮยอนน่ะ ไม่ได้ฟังเพลงอยู่” ยงกุกตอบหน้าตาย

                  O[___________________]O >>>> ยองแจ

       

       

       

       

       

      -THE END-

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×