[BAP] You can't see me - Himchan x Daehyun
ไม่ใช่ว่านนายไม่มีค่า แต่เพราะว่าผู้ชายคนนั้นมันไม่เคยเห็นค่าของนายเลยต่างหาก 'จองแดฮยอน'
ผู้เข้าชมรวม
1,044
ผู้เข้าชมเดือนนี้
2
ผู้เข้าชมรวม
กราบสวัสดีงามๆ อีกครั้งค่ะ *ก้มกราบ*
นึกเบื่อๆ เซ็งๆ การบ้านไม่ทำ #ห๊ะ
เลยปล่อย One Shot ออกมาอีกแล้ว
มีเวลาแต่งนะ แต่ไม่เคยมีเวลาทำการบ้าน -0-
อย่าสนใจชีวิตเด็กขี้เกียจคนนี้เลย
เรามาอ่านวันช็อตกันดีกว่าเนอะ ^ ^
เหมือนเดิมค่ะ ฝากติชมด้วยนะ 5555
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
Title: You can’t see me…
Couple: Himchan x Daehyun
‘ทำไมเวลาคนอกหัก ฝนจะต้องตกลงมาทุกครั้งไป...’
สายฝนตกลงมาไม่ขาดสาย ผู้คนมากมายกางร่มเดินกันขวักไขว่ รถราบนถนนติดกันยาวไม่มีทีท่าว่าจะขยับเลยซักนิด มองเลยไปยังสวนสาธารณะที่น่าจะเป็นบริเวณร้างผู้คน กลับมีชายหนุ่มหน้าตาน่ารักนั่งอยู่บนม้านั่งตัวยาว แววตาสีดำขลับเหม่อมองออกไปอย่างไร้จุดหมาย เส้นผมสีออกไปทางน้ำตาลเปียกลู่แนบไปกับใบหน้าที่ขาวซีดเนื่องจากตากฝนมาเป็นเวลานาน แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าชายคนนี้จะลุกไปไหนเลย
‘จองแดฮยอน’ โดนหักอก เค้าอยากจะอยู่ตรงนี้ ให้สายฝนช่วยอำพลางน้ำตาของเค้า บางทีการที่ฝนตกในยามที่มีใครเสียใจ อาจจะเป็นเพราะเบื้องบนไม่ต้องการให้เราต้องร้องไห้อย่างโดดเดี่ยว...
.
.
.
.
.
‘ก๊อกๆๆ’
“สักครู่นะครับ” ชายหนุ่มร่างสูงผมเผ้ายุ่งเหยิงไม่เป็นทรง วิ่งไปที่เปิดประตูเพราะกลัวว่าแขกจะรอนาน แต่เมื่อเปิดออกไป ร่างสูงก็ต้องตาโตอยากตกใจ
“จองแดฮยอน! ทำไมเปียกเป็นลูกแมวตกน้ำแบบนี้ล่ะ” ร่างสูงทักรูมเมทรุ่นน้องของตัวเองหลังจากเห็นสภาพที่เรียกได้ว่า ‘ดูไม่จืดเลย’ ของร่างเล็ก
แดฮยอนไม่ตอบเพียงแต่แทรกตัวเค้าไปในห้องก่อนจะทิ้งตัวลงบนเตียงของตัวเองทั้งๆ ที่ตัวเองยังเปียกโชกขนาดนั้น
“เฮ้ย!! แดฮยอนไปอาบน้ำก่อนเดี๋ยวไม่สบาย” ร่างสูงเดินไปดึงร่างของรุ่นน้องตัวเองขึ้นมา แต่อีกคนกลับต่อต้านซะนี่
“แดฮยอนอา~” ร่างสูงทรุดตัวนั่งลงข้างๆ เตียงคนตัวเล็กที่เอาแต่นอนซุกใบหน้าหวานลงกับหมอน
“บอกพี่มาสิ มีเรื่องอะไรไม่สบายใจหรอ?” แดฮยอนหันไปมองหน้ารุ่นพี่ของตัวเองก่อนน้ำตาที่หยุดไปแล้วจะไหลออกมาอีกครั้ง
“พี่ฮิมชาน~” แดฮยอนนอนน้ำตานองหน้า อยากจะพุ่งตัวเข้าไปกอดแต่ก็กลัวว่าอีกฝ่ายจะเปียกไปกับเค้าด้วย
‘คิมฮิมชาน’ อยากจะบ้าเหลือเกิน ใครมันทำให้คนตัวเล็กนี่ร้องไห้กัน!!
“ลุกไปอาบน้ำก่อนเร็วๆ” ฮิมชานอยากกอดปลอบคนตัวเล็กนี่ใจแทบขาด แต่เค้ากลัวแดฮยอนจะไม่สบายซะก่อน
“ปล่อยผมไว้อย่างนี้เถอะครับ” แดฮยอนพูดสั้นๆ ก่อนจะตวัดผ้าห่มมานอนคลุมโปงร่างเปียกๆ ซึ่งตอนนี้ก็ใกล้แห้งแล้วเพราะน้ำมันซึมลงไปกับที่นอนเรียบร้อย ฮิมชานกระตุกผ้าห่มเบาๆ แต่คนตัวเล็กนี่กลับกำไว้แน่น ร่างสูงส่ายหน้าอย่างเอือมๆ
ฮิมชานเดินไปยังเตียงนอนของตัวเองที่อยู่ข้างๆ กันก่อนจะเข้าสู่ห้วงนิทราของตัวเอง ‘พรุ่งนี้เช้าค่อยตื่นมาดูแลก็แล้วกัน’
.
.
.
.
.
และก็เป็นไปตามที่คิมฮิมชานคาดการณ์ไว้ เพราะตอนนี้ร่างเล็กๆ ของจองแดฮยอนกำลังนอนซมเพราะพิษไข้
“ลุกขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าไป” ฮิมชานเดินไปข้างเตียงแดฮยอนก็แอบหัวเราะออกมานิดๆ
“อื้อ” ถึงจะส่งเสียงรับรู้ แต่ก็ยังนอนหน้าจิ้มหมอนอยู่อย่างนั้น ร่างสูงก้มมองนาฬิกาก่อนจะถอนหายใจพรืด
“เดี๋ยวพี่ไปเรียนแล้วจะรีบกลับมานะ” ฮิมชานก้มลงไปขยี้หัวคนที่นอนซมไม่รู้เรื่องอยู่บนเตียง ก่อนจะรีบคว้ากระเป๋าออกจากห้องไป
.
.
.
.
.
“เอาล่ะ วันนี้พอแค่นี้นะ อย่าลืมรายงานที่สั่งด้วย” สิ้นเสียงพร้อมกับร่างของอาจารย์ที่เดินออกจากห้องไป ฮิมชานก็รีบกวาดหนังสือเรียนลงกระเป๋าอย่างลวกๆ ก่อนจะรีบลุกพรวดพราดจนเพื่อนสนิทตกใจ
“มึงจะรีบไปไหนวะ?” ยงกุกที่รีบเดินตามเพื่อนตัวเองออกมาจากห้องบ่นอย่างหัวเสีย
“รูมเมทไม่สบาย” ฮิมชานตอบส่งๆ ก่อนสายตาจะไปเจอเข้ากับร่างเล็กๆ ที่กำลังจะเดินขึ้นบันไดไป
“ยูยองแจ!!!!!” ร่างสูงตะโกนจนคนทั่วบริเวณหันมามอง เจ้าของชื่อรีบวิ่งมาตะครุบปากคนที่ทำให้เค้าอับอายทันที
“ทำไมต้องตะโกนด้วยเล่า!! คนเค้าหันมามองกันหมดแล้ว -__-” ยองแจเอ็ดอีกคน
“ช่างเหอะหน่า! แดฮยอนไม่สบายคงไม่เข้าเรียนนะวันนี้” ฮิมชานบอกเรียบๆ
“แหกปากเรียกผมเพื่อเรื่องแค่นี้! เอ๊ะ! เดี๋ยวนะแดฮยอนไม่สบาย ได้ยังไง? ไปทำอะไรมา? แล้วเป็นยังไงบ้าง? กินข้าว กินยาหรือยัง? แล้วๆๆ” ยองแจเขย่าคอเสื้อฮิมชาน จนร่างสูงแทบอ้วก
“โว๊ยยยยยยยยยยย!!!! หยุดเขย่าซะทีสิโว้ยยย!!” ฮิมชานเสียงดังอีกครั้ง แม้แต่เพื่อนเถื่อนๆ อย่างยงกุกยังตกใจ
“พี่แค่มีเรื่องอะไรจะคุยกับนายนิดหน่อย ยังไม่เรียนใช่มั๊ย?” ฮิมชานลดระดับเสียงลงมาเป็นปกติ บางทีเค้าอาจจะห่วงคนที่นอนป่วยอยู่ห้องเกินไป
“ครับ ยังไม่เรียน งั้นไปนั่งคุยกันที่โต๊ะหน้าคณะกันดีกว่า” ยองแจเดินนำทั้งสองคนไปที่โต๊ะหน้าคณะก่อนฮิมชานจะเริ่มเปิดประเด็น
“แดฮยอนกับแฟนเป็นยังไงบ้าง” ฮิมชานถามเสียงเรียบ ยองแจนิ่วหน้า
“กับจุนคยูหรอครับ ก็ยังเห็นกุ๊กกิ๊กกันดีนี่ เมื่อวานยังชวนกันไปกินเค้กอยู่เลย” ยองแจตอบไปตามที่เห็น เพราะเมื่อวานก็ยังเห็นไปด้วยกัน
“หรอ” ฮิมชานลากเสียงยาวเหมือนใช้ความคิดอะไรบ้างอย่างก่อนจะหันไปตามแรงสะกิดของเพื่อนสนิทที่นั่งข้างๆ ก่อนจะส่งสายตาประมาณว่า ‘มีอะไร?’
“แฟนเมทมึงป่ะ?” ยงกุกชี้นิ้วไปที่ร่างของชายหนุ่มตัวสูงสุดสมาร์ทเดินเคียงคู่มากับหญิงสาวหน้าตาน่ารักคนหนึ่ง ดูท่าจะหวานกันไม่เบา ถ้าเค้าจำไม่ผิดเพราะเคยเห็นอยู่ครั้งหนึ่ง
“เชี่ยเอ๊ยย!!!!” ยองแจหันตามไปก่อนจะสบถออกมาแล้วรีบวิ่งไปตามที่ยงกุกชี้ทันที ทำเอารุ่นพี่ทั้งสองแทบจะวิ่งตามไปไม่ทัน เพราะยองแจอารมณ์ร้อนขนาดไหนใครก็รู้ -_-
“ย๊า!!!!! นาย!!!!!!” ยองแจที่เดินถลกเขินเสื้อเชิ้ตเดินไปจับคอเสื้อคู่กรณีอย่างหาเรื่อง ส่วนอีกฝ่ายที่โดนขยุ้มคอเสื้อก็ได้แต่ตาโตเมื่อเห็นหน้ายองแจ
“ยองแจใจเย็นๆ ดิวะ!” ทั้งยงกุกและฮิมชานพยายามที่จะรั้งยองแจไว้ แต่เห็นตัวเล็กแค่นี้เวลาโกรธแรงควายชะมัด
“พี่จะให้ผมใจเย็นยังไง กล้าดียังไงมาเดินกับผู้หญิงอื่นแบบนี้!!” ยองแจอาละวาดจนเหล่านักศึกษาที่ผ่านไปมาต่างหยุดมอง
“อะไรกัน ก็เลิกกันแล้วนี่” ชายหนุ่มที่ถูกยองแจขยุ้มคอเสื้อตอบเนือยๆ แต่คนที่ตกใจที่สุดคงไม่พ้นฮิมชาน ‘ที่ไอ้ตัวเล็กไปตากฝนจนป่วยเพราะแบบนี้หรอ’
“อะไรนะ! ไอ้บ้านี่ ย๊ากกกก!!!!!!! ไปตายซะเถอะ” ยองแจทั้งเขย่า ทั้งกรีดร้องใส่เหมือนคนบ้า จนพี่ๆ ต้องรีบแยกออกมาให้ไวที่สุด เมื่อสามารถจับยองแจออกมาได้ฮิมชานพูดขึ้นมา
“นายรู้มั๊ยว่าแดฮยอนเสียใจมากแค่ไหน นายรู้มั๊ยว่าแดฮยอนไม่สบายก็เพราะนาย” บอกให้ยองแจสงบ แต่กลับกลายเป็นตัวฮิมชานเองที่เสียงดัง
“ห๊ะ! เหอะ! อยากจะให้ผมกลับไปหาเค้าหรอ” ชายหนุ่มผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็น‘อดีตแฟน’ของแดฮยอนยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ ยิ่งทำให้ยองแจโมโหแต่ก็ทำได้แค่ดิ้นๆ ในวงแขนของยงกุกและฮิมชาน
“แค่บอกให้สำนึก แต่ก็คงยากอยู่” ฮิมชานพูดเสียงเรียบ หน้าตายเล่นเอาฝ่ายตรงข้ามรู้สึกเย็นวูบขึ้นมาเชียวล่ะ
“ไอ้อ้วน! ใจเย็นนะเว้ย! พี่กลับห้องก่อน เดี๋ยวมันตายคาห้อง ฮ่าๆๆๆ” ฮิมชานหันไปพูดอย่างอารมณ์ดีกับยองแจก่อนจะเดินออกจากบริเวณนั้นอย่างไม่รีบร้อน แต่จริงๆ แล้ว ‘ใจเค้ามันไปตั้งแต่เรียนเสร็จนู่นแหล่ะ’
.
.
.
.
.
“ตื่นยังเด็กน้อยยยยย~” ฮิมชานเปิดประตูเดินเข้ามาในห้องที่เงียบสงัด รู้อยู่แล้วว่าแดฮยอนต้องยังไม่ตื่นแน่ๆ และก็จริง
“อื้ออ พี่เรียนเสร็จแล้วหรอ เร็วจัง แค่ก... แค่ก...” แดฮยอนปรือตาอันหนักอึ้งและขยับริมฝีปากเรียกบุคคลที่เดินเข้ามาใหม่
“อื้ม วันนี้ปล่อยเร็วนิดหน่อย ลุกขึ้นมาเปลี่ยนเสื้อดีกว่า” ฮิมชานเดินลงไปนั่งที่เตียง พร้อมกับเสื้อผ้าที่คาดว่าน่าจะสบายที่สุดของคนตัวเล็ก
“เมื่อวานบอกให้เปลี่ยนเสื้อก็ไม่ยอม บอกให้ไปอาบน้ำก็ไม่ไป แล้วก็...”
“พอแล้ว ๆๆ จะบ่นให้ผมหายป่วยเลยหรอครับ” ฮิมชานยังร่ายไม่ทันจบ แดฮยอนก็แทรกขึ้นมาด้วยเสียงแหบพร่า ใบหน้าหวานยิ้มน้อยๆ ทำให้ฮิมชานรู้สึกสบายใจไปเปราะหนึ่ง
“ถ้าบ่นแล้วนายหายก็ดีสิ เปลี่ยนเสื้อเร็ว” ฮิมชานลูบหัวคนตัวเล็กเบาๆ ก่อนยื่นเสื้อให้
“ผมไม่มีแรงง่า~ ไม่เปลี่ยนได้มั๊ย” แดฮยอนส่งสายตาอ้อนๆ ไปให้อีกคนที่นั่งอยู่บนเตียงเค้า
“หรือไม่งั้นพี่ก็... เปลี่ยนให้ผมสิ” แดฮยอนอ้อนเข้าไปอีก แต่ฮิมชานกลับนิ่ง ‘ถ้าต้องเปลี่ยนเสื้อให้ไอ้ตัวเล็กนี่ เค้าไปเปลี่ยนเสื้อให้บังยงกุกหรือยูยองแจยังจะง่ายกว่าอีก’
“ล... ลุกขึ้นมาเปลี่ยนดีๆ เลย” ฮิมชานตะกุกตะกัก แต่คนตัวเล็กก็ไม่ได้สังเกตอะไร
“ไม่เอา ก็ผมลุกไม่ขึ้นจะให้ผมลุกยังไงเล่า!!” แดฮยอนฟาดหมอนข้างลงกลางหลังฮิมชาน เล่นเอาฮิมชานถึงกับเหวอ
“ไม่มีแรงแต่ฟาดซะไหล่แทบหลุดเนี่ยนะ!” ฮิมชานแอบแซะร่างเล็กเบาๆ
“ผมไม่ได้บอกว่าไม่มีแรง ผมปวดหัวตะหากกกกกก” ร่างเล็กลากเสียงยาว จนฮิมชานอดหมั่นเขี้ยวไม่ได้
“พี่เปลี่ยนให้ก็ได้” ฮิมชานพูดก่อนจะค่อยๆ พยุงร่างเล็กขึ้น มือหนาค่อยๆ เลิกเสื้อยืดสีเทาเข้มที่คนตัวเล็กใส่เมื่อวานจนเห็นแผ่นหลังที่ถึงจะไม่ขาวมาก แต่ก็เนียนอย่างบอกไม่ถูก จนร่างสูงต้องแอบกลืนน้ำลายเบาๆ เมื่อถอดได้สำเร็จฮิมชานก็ขว้างเสื้อยืดตัวเก่าลงพื้นไปก่อนจะรีบเอาเสื้อตัวใหม่มาใส่ให้ทันที พอฮิมชานเลื่อนมือลงไปจะถอดกางเกงให้ ร่างเล็กกลับตีลงอย่างแรง จนร่างสูงเหวออีกรอบ
“เอ่อ... ผมว่า... ผมไปเปลี่ยนในห้องน้ำดีกว่า -///-” แดฮยอนรีบลุกขึ้นจากเตียง แม้จะมีเซๆ บ้างจนฮิมชานต้องไปพยุง แต่ร่างเล็กก็ฝืนตัวเองจนเข้าห้องน้ำได้สำเร็จ และไม่ลืมที่คว้ากางเกงมาเปลี่ยนด้วย
“น่ารัก” ฮิมชานมองไปที่ประตูห้องน้ำ ก่อนจะพึมพำออกมาเบาๆ แล้วลงมือถอดผ้าปูที่นอนที่ชื้นฝนของคนตัวเล็กออก
“พี่ทำอะไรน่ะ?” แดฮยอนที่ค่อยๆ เกาะตามกำแพงออกมาจากห้องน้ำถามฮิมชานที่กำลังถอดผ้าปูที่นอนของเตียงเค้าไปยัดไว้ในตะกร้า
“ผ้าปูนายมันชื้นเลยว่าจะให้แม่บ้านเค้าเอาไปซักน่ะ” ฮิมชานตอบขณะที่เดินไปพยุงคนตัวเล็กมาที่เตียงของเค้า
“นอนเตียงพี่ไปก่อนก็แล้วกัน” ฮิมชานดันร่างของแดฮยอนให้นอนลงไปก่อนจะห่มผ้าให้
“แล้วคืนนี้พี่จะนอนไหนล่ะ” แดฮยอนถามเบาๆ
“ไม่นอนกับนายก็คงจะพื้นแหล่ะมั้ง” ฮิมชานตอบยิ้มๆ ยังไงเค้าก็เลือกนอนพื้นอยู่แล้ว อยากให้คนตัวเล็กนอนสบายๆ
“บ้าไปแล้ว ผมนอนเตียงผมก็ได้นี่หน่า” แดฮยอนทำท่าจะลุกจากเตียง แต่ก็โดนฮิมชานกดลงไปนอนตามเดิม
“นอนไปเลย เดี๋ยวจะเช็ดตัวให้” ฮิมชานเดินไปหยิบกาละมังกับผ้าขนหนูเข้าห้องน้ำไป ก่อนจะออกมาแล้ววางกาละมังที่โต๊ะตัวเล็กที่กั้นระหว่างเตียงพวกเค้าทั้งสองเอาไว้
“นายมันเด็กดื้อ!” ฮิมชานบ่นพลางบิดน้ำออกจากผ้าแล้วบรรจงเช็ดใบหน้าขาวซีดและไล้ไปเช็ดตามลำคอ
“ผมไม่ดื้อ แค่ก... แค่ก...” แดฮยอนเถียงกลับ
“ครับ ไม่ดื้อ แค่บอกให้ทำอะไรก็ไม่ยอมทำตาม” ฮิมชานเขกหัวร่างเล็กเบาๆ ก่อนจะวางผ้าที่เพิ่งบิดน้ำหมาดๆ วางโปะลงบนหน้าผาก
“นอนซะ เดี๋ยวจะลงไปซื้อข้าว ซื้อยามาให้นะ” ฮิมชานลูบหัวแดฮยอนเบาๆ ก่อนจะคว้ากระเป๋าตังแล้วเดินออกจากห้องไป
20 นาทีผ่านไป~
“กลับมาแล้ว” ฮิมชานเอ่ยทักตามนิสัยปกติของตัวเอง ร่างสูงมุ่งหน้าเข้าห้องครัว จัดแจงเทโจ๊กหมูหอมกรุ่นใส่ถ้วย แล้วยกไปในรูมเมทที่นอนหลับไม่รู้เรื่อง
“แดฮยอนอา~” ฮิมชานกระซิบลงข้างหูอีกคน แล้วเอาผ้าที่โปะหน้าผากออก มือหนาทำหน้าที่วัดอุณหภูมิคนที่นอนหลับเป็นตาย แต่ทว่า...
“ทำไมผมรู้สึกไร้ค่าจังครับ...” น้ำเสียงแหบพร่าเอ่ยขึ้นอย่างแผ่วเบา แต่ในสภาพห้องที่เงียบแบบนี้ ฮิมชานสามารถได้ยินมันอย่างชัดเจน
“ทำไมถึงพูดแบบนั้น” ฮิมชานมองหน้าอีกคนที่ค่อยๆ ลืมตาอย่างไม่เข้าใจ ‘ทำไมถึงได้มองตัวเองไร้ค่ากัน’
“... ไม่อย่างนั้นเค้าจะทิ้งผมไปหรอครับ” แววตาสีดำมองอย่างเลือนลอยไม่ได้โฟกัสไปที่จุดใด
“อย่าคิดว่าตัวเองไร้ค่า เพียงเพราะไอ้บ้านั่นไม่เห็นค่าของนาย” ฮิมชานนั่งมองรูมเมทตัวเองด้วยแววตาที่ไม่สามารถอธิบายได้
“พี่ฮิมชาน~” เสียงแหบพร่าสั่นเครือ แววตาที่เหม่อลอยกลับมาโฟกัสที่ใบหน้าหล่อ น้ำใสๆ เอ่อล้นจนไหลออกมา นิ้วเรียวยาวค่อยๆ เกลี่ยออกให้เบาๆ
“ไม่ใช่นายไม่มีค่า แต่ไอ้นั้นต่างหาก ไม่มีค่าพอที่จะยืนเคียงข้างนาย ถึงสำหรับไอ้นั่น นายจะไม่มีค่า แต่พี่อยากให้นายรู้เอาไว้...”
“...”
“นายมีค่ามากที่สุดสำหรับพี่ ขอร้องนะ อย่าทำร้ายตัวเองแบบนี้อีกเลย” ฮิมชานจับหัวแดฮยอนอย่างแผ่วเบา แววตาคมที่ฉายแววจริงจังจ้องลึกเข้าไปข้างในดวงตากลมโตที่มีน้ำใสๆ ไหลออกมาไม่ขาดสาย
“ผมขอโทษ ฮึก... ผมจะไม่ทำแบบนี้อีก ฮึก... ฮึก...” แดฮยอนฝืนตัวเองขึ้นไปโผกอดร่างสูง ใบหน้าหวานซุกลงบนบ่ากว้าง ไหล่บางสั่นไหวรุนแรง ฮิมชานค่อยๆ ยกมือขึ้นลูบหลังคนตัวเล็กอย่างปลอบประโลม
“นายไม่ผิด ไม่ต้องขอโทษหรอก...” ฮิมชานได้แต่พูดปลอบเบาๆ ‘ถึงแม้แดฮยอนจะไม่เคยมองเห็นความรักของเค้าบ้าง แต่เค้าก็ยังคงจะรักคนตัวเล็กอยู่อย่างนี้’
“ผม... ผมขอบคุณนะ ที่... ที่พี่อยู่ข้างผมมาตลอด ผมขอโทษ...” ฮิมชานดันร่างเล็กออกก่อนจะค่อยๆ เช็ดน้ำตาให้อีกคนเบาๆ
“บอกแล้วไงว่าไม่ต้องขอโทษ กินข้าวดีกว่าจะได้กินยานะ ^^” ฮิมชานส่งยิ้มอันอบอุ่นให้ ก่อนจะจัดให้แดฮยอนนั่งพิงหัวเตียง แล้วยกชามโจ๊กที่มาวางตั้งไว้ก่อนแล้วมาป้อนให้อีกคน
“อื้อ มันยังร้อนอยู่เลย” พอช้อนโดนปากแดฮยอน ร่างเล็กก็หดคอหนี ฮิมชานอมยิ้มก่อนจะเอาโจ๊กที่ตัวเองตักไปเป่าคลายความร้อนให้ร่างเล็กจอมเรื่องมาก
“อ้ะ หายร้อนแล้ว” ฮิมชานยื่นช้อนมาจ่อใกล้ๆ ปากอีกคน แดฮยอนจัดการโจ๊กคำแรกเสร็จ คำต่อๆ มาร่างเล็กก็จัดการจนเหลือเพียงแค่ชามเปล่า
“หิวล่ะสิ ฮ่าๆๆๆ” ฮิมชานแกล้งแซวคนตัวเล็ก ส่วนคนโดนแซวก็ได้แต่นั่งหน้ายู่
“ไม่ต้องมาแซวเลย!” แดฮยอนกอดอกหันหน้าหนีบ่งบอกให้รู้ว่า ‘ชองแด้งอนแล้วนะ’
“งอนหรอ~ โอ๋เอ๋ ๆ อย่างอนพี่นะ~” ฮิมชานแกล้งยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ
“ไม่ได้งอนเว้ย!!!” แดฮยอนตะโกนใส่หน้าก่อนจะผลักหัวฮิมชานออกอย่างแรง แต่คนโดนผลักกลับหัวเราะร่วนอย่างมีความสุข
“ไม่ก็ดีแล้ว กำลังว่าจะซื้อชีสเค้กมาง้อซะหน่อย จะได้ไม่เปลืองตัง”
“อะไรนะ!! ชีสเค้ก!!!!!~ งั้นผมงอนก็ได้ ขอช็อคโกแลตด้วยนะ” แดฮยอนนั่งยิ้มร่าราวกับลืมไปว่าตัวเองป่วยอยู่
“โธ่วว! ไอ้เด็กเห็นแก่กิน” ฮิมชานหยิกแก้มแดฮยอนอย่างหมั่นเขี้ยว คนตัวเล็กก็ได้แต่ยู่ปากใส่
“ผมไม่ได้เห็นแก่กินนะ” แดฮยอนหัวเราะเบาๆ นั่นทำให้ฮิมชานยิ้มออก ‘นายมันเหมาะกับรอยยิ้มมากกว่านะ จองแดฮยอน’
“กินยาแล้วก็นอนพักซะ ไม่กวนแล้ว ^^” ฮิมชานส่งยาและน้ำให้ เมื่อแดฮยอนกินยาเรียบร้อยแล้ว ฮิมชานก็จับให้คนตัวเล็กนอนลงแล้วห่มผ้าให้เรียบร้อย
“พี่ดูแลผมดีจัง ขอบคุณครับ ^^” แดฮยอนส่งยิ้มให้ ก่อนจะหลับตาลง เสียงหายใจเข้าออกเป็นจังหวะบ่งบอกว่าคนตัวเล็กเข้าสู่ห้วงนิทราแล้วเรียบร้อย ฮิมชานนั่งมองซักพักก่อนจะโน้มใบหน้าลงไปประทับจูบอย่างแผ่วเบาที่หน้าผากของคนตัวเล็ก
“หายไวๆ นะ” แล้วฮิมชานก็ลุกขึ้นไปนั่งที่โต๊ะทำงาน และเริ่มลงมือทำรายงานที่ได้รับมอบหมายมา
.
.
.
.
.
1 เดือนผ่านไป
ภายในร้านกาแฟเล็กๆ ที่ถูกประดับตกแต่งอย่างเรียบง่าย กลิ่นหอมอ่อนๆ ของกาแฟประกอบกับเสียงเพลงเบาๆ ทำให้รู้สึกผ่อนคลายได้อย่างบอกไม่ถูก ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่ไม่ค่อยมีใครเข้าร้านเสียเท่าไร ทำให้ลูกค้าภายในร้านดูบางตาลงไปมาก ในมุมๆ หนึ่งของร้าน มีร่างเล็กๆ ที่กำลังขมักเขม่นอยู่กับการทำรายงาน จนไม่ได้สนใจว่ามีใครบางคนมานั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามตัวเสียแล้ว
“แดฮยอน~” ฮิมชานส่งเสียงเรียก แต่อีกคนก็ยังคงนั่งพิมพ์รายงานอย่างไม่ได้สนใจอะไรเหมือนเดิม
“ฮยอนนี่~” ฮิมชานยังคงเรียกอยู่อย่างนั้น แต่คนถูกเรียกก็ไม่ได้สนใจอยู่ดี
“ชองแด้อา~” เงียบ ยังคงไม่มีเสียงตอบรับจากคนที่ชื่อจองแดฮยอน นอกจากเสียงเคาะแป้นบนโน้ตบุ๊ก
“แดฮยอนอา~” คราวนี้ไม่ได้ส่งเสียงเรียกเพียงอย่างเดียว นิ้วยาวๆ ยื่นไปจิ้มแก้มนุ่มของอีกคนด้วย
“อ้าว! พี่ฮิมชาน มาตั้งแต่เมื่อไรครับ?” แดฮยอนเงยหน้าจากขึ้นจากจอ นิ้วเรียวดันแว่นตาขึ้นเล็กน้อย แล้วยกแก้วกาแฟขึ้นมา แต่ปรากฏว่า...
“อ้าว! หมดซะแล้ว -_-” แดฮยอนคว่ำแก้วลงแต่กลับไม่มีอะไรหกลงมาเลยแม้แต่หยดเดียว
“งั้นเราก็ไปกันได้แล้ว” ฮิมชานช่วยแดฮยอนเก็บของเล็กๆ น้อยๆ ก่อนจะลุกออกไปจ่ายเงินให้ ซึ่งแดฮยอนจะห้ามแต่ก็ห้ามไม่ทัน เลยได้แต่ปล่อยไปตามเลย
“เสร็จยัง?” หลังจากที่จ่ายเงินเสร็จเรียบร้อย ฮิมชานก็เดินกลับไปหาแดฮยอน
“เรียบร้อยครับ ^^” แดฮยอนคว้ากระเป๋าโน้ตบุ๊กมาสะพาย แต่ก็โดนฮิมชานคว้าไปถือให้
“แบกพรุงพรังคนเดียว มันหนักนะ” ฮิมชานส่งยิ้มให้ เมื่อร่างเล็กสำรวจตัวเองก็พบว่ามันเยอะจริงๆ แหล่ะ -___-;;
“แดฮยอน!” เสียงๆ หนึ่งเรียกให้ทั้งคู่ชะงักกึก รอยยิ้มหวานที่ประดับอยู่บนใบหน้าหวานค่อยๆ เลือนหายไป
“จ... จุนคยู” ร่างเล็กส่งเสียงเรียกอีกคนแผ่วเบา ตั้งแต่เลิกกันก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย จนกระทั่งวันนี้ ผ่านมาแล้ว 1 เดือน กลับได้เจอกันโดยที่อีกฝ่ายเป็นคนทักก่อนเสียด้วย
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ” อีกฝ่ายทำท่าจะไปลูบผมอีกคน แต่แดฮยอนกลับถอยหลังไปอย่างหวงตัว ทำเอาจุนคยูรู้สึกเสียหน้านิดๆ
“ไม่ได้อยากเจอ ขอโทษนะรีบ” แดฮยอนคว้ามือฮิมชานที่ยืนนิ่งให้เดินออกมา แต่ร่างเล็กกลับโดนคว้ามือไว้
“จะรีบไปไหนล่ะ ฉันอยากจะคุยกับนายนะแดฮยอน” จุนคยูจับมือแดฮยอนแน่น แต่ร่างเล็กกลับทำท่าบิดออกนิดๆ
“...” แดฮยอนเพียงแต่เมินหน้าหนีอย่างไม่สบอารมณ์
“เรากลับมาคบกันเหมือนเดิมนะ” จุนคยูมองหน้าแดฮยอน ตั้งใจที่ส่งสายตาไปให้อีกคนใจอ่อน แต่ทว่า...
“โดนผู้หญิงที่ไหนทิ้งมาล่ะ ต่อให้นายคลานเข่ามาขอร้องฉัน ความรู้สึกที่ฉันมีต่อนายมันก็เสียไปหมดจนไม่สามารถเรียกมันกลับมาได้แล้วล่ะ” แดฮยอนพูดเสียงสั่น พยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้มันไหลออกมา ตัวฮิมชานเองก็ได้แต่ยืนมองด้วยแววตาที่เจ็บปวด
“ให้โอกาสฉันเถอะนะ” จุนคยูยังคงร้องอ้อนวอน
“โอกาสนายมันหมดไปตั้งแต่เดือนที่แล้วแล้วล่ะ” แดฮยอนสะบัดข้อมืออย่างแรงจนหลุดจากการเกาะกุม
“แล้วก็อีกอย่างนะ...” แดฮยอนเงียบไปสักพักก่อนจะกุมมือฮิมชานแน่นแล้วยกขึ้นมา
“นี่แฟนของฉัน เราอย่าเจอหน้ากันอีกเลย” แล้วแดฮยอนก็เดินออกจากร้านไปโดยที่มือยังคงกุมมือฮิมชานไว้แน่น
.
.
.
.
.
คนสองคนที่ยังคงกุมมือกันไม่มีใครยอมปล่อย ทั้งสองเดินไปตามสวนสาธารณะที่มีผู้คนประปราย ตั้งแต่ก้าวออกมาจากร้านยังไม่มีใครพูดอะไรออกมาแม้แต่คนเดียว แผนที่ว่างกันไว้ว่าจะไปเที่ยว เป็นอันต้องพับเก็บไว้ ตอนนี้ทั้งสองคงไม่มีอารมณ์ไปไหนทั้งนั้น
“พี่ครับ! ผมขอโทษนะครับ” แดฮยอนเอ่ยทำลายความเงียบ แววตาหลุบต่ำลงราวกับคนไปทำความผิด
“อืม” ฮิมชานส่งเสียงอยู่ในลำคอยิ่งทำให้แดฮยอนใจเสีย
“พี่ครับ~...”
“นายอย่าเพิ่งพูดอะไรตอนนี้เลย” ฮิมชานปล่อยมืออีกคนก่อนจะทิ้งให้อยู่ข้างหลัง แดฮยอนยืนกำมือแน่น แววตาสั่นไหว น้ำใสๆ รวมตัวกันที่หน่วยตา ก่อนมันจะไหลออกมา
“ถ้าผมจะบอกว่าผมชอบพี่จริงๆ ล่ะครับ!!” แดฮยอนตะโกนเสียงดังทำให้ฮิมชานหยุดเดินก่อนจะค่อยๆ หันหลังกลับมาพบกับร่างเล็กที่ยืนร้องไห้ราวกับเด็กที่พลัดหลงกับผู้ปกครอง
“ผมไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไรที่ผมรู้สึกแบบนี้กับพี่ แค่รู้สึกดีที่มีพี่คอยดูแลผมตลอดเวลา แค่รู้สึกเสียใจที่ทำให้พี่ต้องเป็นห่วง แค่รู้สึกเขินตอนที่พี่จะเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ผมหรือตอนที่พี่บอกว่าผมเป็นคนที่มีค่าที่สุดสำหรับพี่หรือแม้แต่ตอนที่...” แดฮยอนวรรคจังหวะหายใจก่อนจะพูดออกไปอย่างอายๆ
“ผมแค่รู้สึกเขินที่พี่... จุ๊บหน้าผากผม” แดฮยอนก้มหน้านิ่งซ่อนใบหน้าแดงๆ เอาไว้ ฮิมชานค่อยๆ เดินเข้ามาใกล้ แล้วเชยคางของอีกคนให้ขึ้นมาสบตากับตัวเอง
“พี่ไม่รู้ว่านายรู้สึกแบบนี้กับพี่ตอนไหน แต่พี่รู้สึกแบบนี้กับนายตั้งแต่เจอกันครั้งแรก” ฮิมชานเอ่ยเรียบๆ นิ้วยาวเกลี่ยน้ำตาออกจากใบหน้าหวาน
“อะไรไม่รู้ที่ทำให้พี่หลงหน้าแมวๆ แบบนี้ อะไรไม่รู้ที่ทำให้พี่อยากจะปกป้องนาย” ฮิมชานหยิกจมูกอีกคนเบาๆ ส่งรอยยิ้มอบอุ่นไปให้
“แต่พี่ก็ไม่กล้าที่จะพูดกับนายตรงๆ ซักทีได้แต่คอยดูแลนายในฐานะเมทรุ่นพี่คนหนึ่ง” ฮิมชานพูดเสียงเบา ‘เค้าขี้ขลาดเกินที่จะบอกว่าเค้ารักแดฮยอนมากแค่ไหน’
“ผมรักพี่นะ พี่จะต้องดูแลผมนะ พี่ห้ามทิ้งผมนะ” แดฮยอนโผเข้ากอดฮิมชานอย่างแรง จนอีกคนเซถอยหลังนิดๆ แต่ก็สามารถทรงตัวไว้ได้
“สัญญาด้วยหัวใจของคิมฮิมชานคนนี้เลย” ฮิมชานยีหัวอีกคนก่อนจะหัวเราะออกมากันทั้งคู่
‘จุ๊บ~’
ฮิมชานอาศัยช่วงเวลาที่คนตัวเล็กนี่เผลอลงไปจุ๊บที่ริมฝีปากได้รูปของอีกคนเบาๆ ก่อนจะวิ่งหนีแดฮยอนที่ไล่ตีไปทั่วสวนสาธารณะ
เสียงหัวเราะที่ดังลั่นไปทั่วบริเวณทำให้สถานที่ที่เคยเป็นที่บอกเลิกของจองแดฮยอนกับคังจุนคยู ใครจะรู้ว่าหนึ่งเดือนต่อมามันจะกลายเป็นที่บอกรักของ...
“คิมฮิมชานกับจองแดฮยอน...”
-THE END-
ผลงานอื่นๆ ของ september. ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ september.
ความคิดเห็น