[BAP] You can't see me - Himchan x Daehyun - [BAP] You can't see me - Himchan x Daehyun นิยาย [BAP] You can't see me - Himchan x Daehyun : Dek-D.com - Writer

    [BAP] You can't see me - Himchan x Daehyun

    ไม่ใช่ว่านนายไม่มีค่า แต่เพราะว่าผู้ชายคนนั้นมันไม่เคยเห็นค่าของนายเลยต่างหาก 'จองแดฮยอน'

    ผู้เข้าชมรวม

    1,034

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    1.03K

    ความคิดเห็น


    9

    คนติดตาม


    9
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  29 ธ.ค. 55 / 00:36 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

    กราบสวัสดีงามๆ อีกครั้งค่ะ *ก้มกราบ*

    นึกเบื่อๆ เซ็งๆ การบ้านไม่ทำ #ห๊ะ

    เลยปล่อย One Shot ออกมาอีกแล้ว

    มีเวลาแต่งนะ แต่ไม่เคยมีเวลาทำการบ้าน -0-

    อย่าสนใจชีวิตเด็กขี้เกียจคนนี้เลย

    เรามาอ่านวันช็อตกันดีกว่าเนอะ ^ ^

    เหมือนเดิมค่ะ ฝากติชมด้วยนะ 5555

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      Title: You can’t see me…

      Couple: Himchan x Daehyun

                  ทำไมเวลาคนอกหัก ฝนจะต้องตกลงมาทุกครั้งไป...

                  สายฝนตกลงมาไม่ขาดสาย ผู้คนมากมายกางร่มเดินกันขวักไขว่ รถราบนถนนติดกันยาวไม่มีทีท่าว่าจะขยับเลยซักนิด มองเลยไปยังสวนสาธารณะที่น่าจะเป็นบริเวณร้างผู้คน กลับมีชายหนุ่มหน้าตาน่ารักนั่งอยู่บนม้านั่งตัวยาว แววตาสีดำขลับเหม่อมองออกไปอย่างไร้จุดหมาย เส้นผมสีออกไปทางน้ำตาลเปียกลู่แนบไปกับใบหน้าที่ขาวซีดเนื่องจากตากฝนมาเป็นเวลานาน แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าชายคนนี้จะลุกไปไหนเลย

                  จองแดฮยอน โดนหักอก เค้าอยากจะอยู่ตรงนี้ ให้สายฝนช่วยอำพลางน้ำตาของเค้า บางทีการที่ฝนตกในยามที่มีใครเสียใจ อาจจะเป็นเพราะเบื้องบนไม่ต้องการให้เราต้องร้องไห้อย่างโดดเดี่ยว...

      .

      .

      .

      .

      .

                  ก๊อกๆๆ

                  “สักครู่นะครับ” ชายหนุ่มร่างสูงผมเผ้ายุ่งเหยิงไม่เป็นทรง วิ่งไปที่เปิดประตูเพราะกลัวว่าแขกจะรอนาน แต่เมื่อเปิดออกไป ร่างสูงก็ต้องตาโตอยากตกใจ

                  “จองแดฮยอน! ทำไมเปียกเป็นลูกแมวตกน้ำแบบนี้ล่ะ” ร่างสูงทักรูมเมทรุ่นน้องของตัวเองหลังจากเห็นสภาพที่เรียกได้ว่า ดูไม่จืดเลย ของร่างเล็ก

                  แดฮยอนไม่ตอบเพียงแต่แทรกตัวเค้าไปในห้องก่อนจะทิ้งตัวลงบนเตียงของตัวเองทั้งๆ ที่ตัวเองยังเปียกโชกขนาดนั้น

                  “เฮ้ย!! แดฮยอนไปอาบน้ำก่อนเดี๋ยวไม่สบาย” ร่างสูงเดินไปดึงร่างของรุ่นน้องตัวเองขึ้นมา แต่อีกคนกลับต่อต้านซะนี่

                  “แดฮยอนอา~” ร่างสูงทรุดตัวนั่งลงข้างๆ เตียงคนตัวเล็กที่เอาแต่นอนซุกใบหน้าหวานลงกับหมอน

                  “บอกพี่มาสิ มีเรื่องอะไรไม่สบายใจหรอ?” แดฮยอนหันไปมองหน้ารุ่นพี่ของตัวเองก่อนน้ำตาที่หยุดไปแล้วจะไหลออกมาอีกครั้ง

                  “พี่ฮิมชาน~” แดฮยอนนอนน้ำตานองหน้า อยากจะพุ่งตัวเข้าไปกอดแต่ก็กลัวว่าอีกฝ่ายจะเปียกไปกับเค้าด้วย

                  คิมฮิมชาน อยากจะบ้าเหลือเกิน ใครมันทำให้คนตัวเล็กนี่ร้องไห้กัน!!

                  “ลุกไปอาบน้ำก่อนเร็วๆ” ฮิมชานอยากกอดปลอบคนตัวเล็กนี่ใจแทบขาด แต่เค้ากลัวแดฮยอนจะไม่สบายซะก่อน

                  “ปล่อยผมไว้อย่างนี้เถอะครับ” แดฮยอนพูดสั้นๆ ก่อนจะตวัดผ้าห่มมานอนคลุมโปงร่างเปียกๆ ซึ่งตอนนี้ก็ใกล้แห้งแล้วเพราะน้ำมันซึมลงไปกับที่นอนเรียบร้อย ฮิมชานกระตุกผ้าห่มเบาๆ แต่คนตัวเล็กนี่กลับกำไว้แน่น ร่างสูงส่ายหน้าอย่างเอือมๆ

                  ฮิมชานเดินไปยังเตียงนอนของตัวเองที่อยู่ข้างๆ กันก่อนจะเข้าสู่ห้วงนิทราของตัวเอง พรุ่งนี้เช้าค่อยตื่นมาดูแลก็แล้วกัน

      .

      .

      .

      .

      .

                  และก็เป็นไปตามที่คิมฮิมชานคาดการณ์ไว้ เพราะตอนนี้ร่างเล็กๆ ของจองแดฮยอนกำลังนอนซมเพราะพิษไข้

                  “ลุกขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าไป” ฮิมชานเดินไปข้างเตียงแดฮยอนก็แอบหัวเราะออกมานิดๆ

                  “อื้อ” ถึงจะส่งเสียงรับรู้ แต่ก็ยังนอนหน้าจิ้มหมอนอยู่อย่างนั้น ร่างสูงก้มมองนาฬิกาก่อนจะถอนหายใจพรืด

                  “เดี๋ยวพี่ไปเรียนแล้วจะรีบกลับมานะ” ฮิมชานก้มลงไปขยี้หัวคนที่นอนซมไม่รู้เรื่องอยู่บนเตียง ก่อนจะรีบคว้ากระเป๋าออกจากห้องไป

      .

      .

      .

      .

      .

                  “เอาล่ะ วันนี้พอแค่นี้นะ อย่าลืมรายงานที่สั่งด้วย” สิ้นเสียงพร้อมกับร่างของอาจารย์ที่เดินออกจากห้องไป ฮิมชานก็รีบกวาดหนังสือเรียนลงกระเป๋าอย่างลวกๆ ก่อนจะรีบลุกพรวดพราดจนเพื่อนสนิทตกใจ

                  “มึงจะรีบไปไหนวะ?” ยงกุกที่รีบเดินตามเพื่อนตัวเองออกมาจากห้องบ่นอย่างหัวเสีย

                  “รูมเมทไม่สบาย” ฮิมชานตอบส่งๆ ก่อนสายตาจะไปเจอเข้ากับร่างเล็กๆ ที่กำลังจะเดินขึ้นบันไดไป

                  “ยูยองแจ!!!!!” ร่างสูงตะโกนจนคนทั่วบริเวณหันมามอง เจ้าของชื่อรีบวิ่งมาตะครุบปากคนที่ทำให้เค้าอับอายทันที

                  “ทำไมต้องตะโกนด้วยเล่า!! คนเค้าหันมามองกันหมดแล้ว -__-” ยองแจเอ็ดอีกคน

                  “ช่างเหอะหน่า! แดฮยอนไม่สบายคงไม่เข้าเรียนนะวันนี้” ฮิมชานบอกเรียบๆ

                  “แหกปากเรียกผมเพื่อเรื่องแค่นี้! เอ๊ะ! เดี๋ยวนะแดฮยอนไม่สบาย ได้ยังไง? ไปทำอะไรมา? แล้วเป็นยังไงบ้าง? กินข้าว กินยาหรือยัง? แล้วๆๆ” ยองแจเขย่าคอเสื้อฮิมชาน จนร่างสูงแทบอ้วก

                  “โว๊ยยยยยยยยยยย!!!! หยุดเขย่าซะทีสิโว้ยยย!!” ฮิมชานเสียงดังอีกครั้ง แม้แต่เพื่อนเถื่อนๆ อย่างยงกุกยังตกใจ

                  “พี่แค่มีเรื่องอะไรจะคุยกับนายนิดหน่อย ยังไม่เรียนใช่มั๊ย?” ฮิมชานลดระดับเสียงลงมาเป็นปกติ บางทีเค้าอาจจะห่วงคนที่นอนป่วยอยู่ห้องเกินไป

                  “ครับ ยังไม่เรียน งั้นไปนั่งคุยกันที่โต๊ะหน้าคณะกันดีกว่า” ยองแจเดินนำทั้งสองคนไปที่โต๊ะหน้าคณะก่อนฮิมชานจะเริ่มเปิดประเด็น

                  “แดฮยอนกับแฟนเป็นยังไงบ้าง” ฮิมชานถามเสียงเรียบ ยองแจนิ่วหน้า

                  “กับจุนคยูหรอครับ ก็ยังเห็นกุ๊กกิ๊กกันดีนี่ เมื่อวานยังชวนกันไปกินเค้กอยู่เลย” ยองแจตอบไปตามที่เห็น เพราะเมื่อวานก็ยังเห็นไปด้วยกัน

                  “หรอ” ฮิมชานลากเสียงยาวเหมือนใช้ความคิดอะไรบ้างอย่างก่อนจะหันไปตามแรงสะกิดของเพื่อนสนิทที่นั่งข้างๆ ก่อนจะส่งสายตาประมาณว่า มีอะไร?

                  “แฟนเมทมึงป่ะ?” ยงกุกชี้นิ้วไปที่ร่างของชายหนุ่มตัวสูงสุดสมาร์ทเดินเคียงคู่มากับหญิงสาวหน้าตาน่ารักคนหนึ่ง ดูท่าจะหวานกันไม่เบา ถ้าเค้าจำไม่ผิดเพราะเคยเห็นอยู่ครั้งหนึ่ง

                  “เชี่ยเอ๊ยย!!!!” ยองแจหันตามไปก่อนจะสบถออกมาแล้วรีบวิ่งไปตามที่ยงกุกชี้ทันที ทำเอารุ่นพี่ทั้งสองแทบจะวิ่งตามไปไม่ทัน เพราะยองแจอารมณ์ร้อนขนาดไหนใครก็รู้ -_-

                  “ย๊า!!!!! นาย!!!!!!” ยองแจที่เดินถลกเขินเสื้อเชิ้ตเดินไปจับคอเสื้อคู่กรณีอย่างหาเรื่อง ส่วนอีกฝ่ายที่โดนขยุ้มคอเสื้อก็ได้แต่ตาโตเมื่อเห็นหน้ายองแจ

                  “ยองแจใจเย็นๆ ดิวะ!” ทั้งยงกุกและฮิมชานพยายามที่จะรั้งยองแจไว้ แต่เห็นตัวเล็กแค่นี้เวลาโกรธแรงควายชะมัด

                  “พี่จะให้ผมใจเย็นยังไง กล้าดียังไงมาเดินกับผู้หญิงอื่นแบบนี้!!” ยองแจอาละวาดจนเหล่านักศึกษาที่ผ่านไปมาต่างหยุดมอง

                  “อะไรกัน ก็เลิกกันแล้วนี่” ชายหนุ่มที่ถูกยองแจขยุ้มคอเสื้อตอบเนือยๆ แต่คนที่ตกใจที่สุดคงไม่พ้นฮิมชาน ที่ไอ้ตัวเล็กไปตากฝนจนป่วยเพราะแบบนี้หรอ

                  “อะไรนะ! ไอ้บ้านี่ ย๊ากกกก!!!!!!! ไปตายซะเถอะ” ยองแจทั้งเขย่า ทั้งกรีดร้องใส่เหมือนคนบ้า จนพี่ๆ ต้องรีบแยกออกมาให้ไวที่สุด เมื่อสามารถจับยองแจออกมาได้ฮิมชานพูดขึ้นมา

                  “นายรู้มั๊ยว่าแดฮยอนเสียใจมากแค่ไหน นายรู้มั๊ยว่าแดฮยอนไม่สบายก็เพราะนาย” บอกให้ยองแจสงบ แต่กลับกลายเป็นตัวฮิมชานเองที่เสียงดัง

                  “ห๊ะ! เหอะ! อยากจะให้ผมกลับไปหาเค้าหรอ” ชายหนุ่มผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นอดีตแฟนของแดฮยอนยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ ยิ่งทำให้ยองแจโมโหแต่ก็ทำได้แค่ดิ้นๆ ในวงแขนของยงกุกและฮิมชาน

                  “แค่บอกให้สำนึก แต่ก็คงยากอยู่” ฮิมชานพูดเสียงเรียบ หน้าตายเล่นเอาฝ่ายตรงข้ามรู้สึกเย็นวูบขึ้นมาเชียวล่ะ

                  “ไอ้อ้วน! ใจเย็นนะเว้ย! พี่กลับห้องก่อน เดี๋ยวมันตายคาห้อง ฮ่าๆๆๆ” ฮิมชานหันไปพูดอย่างอารมณ์ดีกับยองแจก่อนจะเดินออกจากบริเวณนั้นอย่างไม่รีบร้อน แต่จริงๆ แล้ว ใจเค้ามันไปตั้งแต่เรียนเสร็จนู่นแหล่ะ

      .

      .

      .

      .

      .

                  “ตื่นยังเด็กน้อยยยยย~” ฮิมชานเปิดประตูเดินเข้ามาในห้องที่เงียบสงัด รู้อยู่แล้วว่าแดฮยอนต้องยังไม่ตื่นแน่ๆ และก็จริง

                  “อื้ออ พี่เรียนเสร็จแล้วหรอ เร็วจัง แค่ก... แค่ก...” แดฮยอนปรือตาอันหนักอึ้งและขยับริมฝีปากเรียกบุคคลที่เดินเข้ามาใหม่

                  “อื้ม วันนี้ปล่อยเร็วนิดหน่อย ลุกขึ้นมาเปลี่ยนเสื้อดีกว่า” ฮิมชานเดินลงไปนั่งที่เตียง พร้อมกับเสื้อผ้าที่คาดว่าน่าจะสบายที่สุดของคนตัวเล็ก

                  “เมื่อวานบอกให้เปลี่ยนเสื้อก็ไม่ยอม บอกให้ไปอาบน้ำก็ไม่ไป แล้วก็...”

                  “พอแล้ว ๆๆ จะบ่นให้ผมหายป่วยเลยหรอครับ” ฮิมชานยังร่ายไม่ทันจบ แดฮยอนก็แทรกขึ้นมาด้วยเสียงแหบพร่า ใบหน้าหวานยิ้มน้อยๆ ทำให้ฮิมชานรู้สึกสบายใจไปเปราะหนึ่ง

                  “ถ้าบ่นแล้วนายหายก็ดีสิ เปลี่ยนเสื้อเร็ว” ฮิมชานลูบหัวคนตัวเล็กเบาๆ ก่อนยื่นเสื้อให้

                  “ผมไม่มีแรงง่า~ ไม่เปลี่ยนได้มั๊ย” แดฮยอนส่งสายตาอ้อนๆ ไปให้อีกคนที่นั่งอยู่บนเตียงเค้า

                  “หรือไม่งั้นพี่ก็... เปลี่ยนให้ผมสิ” แดฮยอนอ้อนเข้าไปอีก แต่ฮิมชานกลับนิ่ง ถ้าต้องเปลี่ยนเสื้อให้ไอ้ตัวเล็กนี่ เค้าไปเปลี่ยนเสื้อให้บังยงกุกหรือยูยองแจยังจะง่ายกว่าอีก

                  “ล... ลุกขึ้นมาเปลี่ยนดีๆ เลย” ฮิมชานตะกุกตะกัก แต่คนตัวเล็กก็ไม่ได้สังเกตอะไร

                  “ไม่เอา ก็ผมลุกไม่ขึ้นจะให้ผมลุกยังไงเล่า!!” แดฮยอนฟาดหมอนข้างลงกลางหลังฮิมชาน เล่นเอาฮิมชานถึงกับเหวอ

                  “ไม่มีแรงแต่ฟาดซะไหล่แทบหลุดเนี่ยนะ!” ฮิมชานแอบแซะร่างเล็กเบาๆ

                  “ผมไม่ได้บอกว่าไม่มีแรง ผมปวดหัวตะหากกกกกก” ร่างเล็กลากเสียงยาว จนฮิมชานอดหมั่นเขี้ยวไม่ได้

                  “พี่เปลี่ยนให้ก็ได้” ฮิมชานพูดก่อนจะค่อยๆ พยุงร่างเล็กขึ้น มือหนาค่อยๆ เลิกเสื้อยืดสีเทาเข้มที่คนตัวเล็กใส่เมื่อวานจนเห็นแผ่นหลังที่ถึงจะไม่ขาวมาก แต่ก็เนียนอย่างบอกไม่ถูก จนร่างสูงต้องแอบกลืนน้ำลายเบาๆ เมื่อถอดได้สำเร็จฮิมชานก็ขว้างเสื้อยืดตัวเก่าลงพื้นไปก่อนจะรีบเอาเสื้อตัวใหม่มาใส่ให้ทันที พอฮิมชานเลื่อนมือลงไปจะถอดกางเกงให้ ร่างเล็กกลับตีลงอย่างแรง จนร่างสูงเหวออีกรอบ

                  “เอ่อ... ผมว่า... ผมไปเปลี่ยนในห้องน้ำดีกว่า -///-” แดฮยอนรีบลุกขึ้นจากเตียง แม้จะมีเซๆ บ้างจนฮิมชานต้องไปพยุง แต่ร่างเล็กก็ฝืนตัวเองจนเข้าห้องน้ำได้สำเร็จ และไม่ลืมที่คว้ากางเกงมาเปลี่ยนด้วย

                  “น่ารัก” ฮิมชานมองไปที่ประตูห้องน้ำ ก่อนจะพึมพำออกมาเบาๆ แล้วลงมือถอดผ้าปูที่นอนที่ชื้นฝนของคนตัวเล็กออก

                  “พี่ทำอะไรน่ะ?” แดฮยอนที่ค่อยๆ เกาะตามกำแพงออกมาจากห้องน้ำถามฮิมชานที่กำลังถอดผ้าปูที่นอนของเตียงเค้าไปยัดไว้ในตะกร้า

                  “ผ้าปูนายมันชื้นเลยว่าจะให้แม่บ้านเค้าเอาไปซักน่ะ” ฮิมชานตอบขณะที่เดินไปพยุงคนตัวเล็กมาที่เตียงของเค้า

                  “นอนเตียงพี่ไปก่อนก็แล้วกัน” ฮิมชานดันร่างของแดฮยอนให้นอนลงไปก่อนจะห่มผ้าให้

                  “แล้วคืนนี้พี่จะนอนไหนล่ะ” แดฮยอนถามเบาๆ

                  “ไม่นอนกับนายก็คงจะพื้นแหล่ะมั้ง” ฮิมชานตอบยิ้มๆ ยังไงเค้าก็เลือกนอนพื้นอยู่แล้ว อยากให้คนตัวเล็กนอนสบายๆ

                  “บ้าไปแล้ว ผมนอนเตียงผมก็ได้นี่หน่า” แดฮยอนทำท่าจะลุกจากเตียง แต่ก็โดนฮิมชานกดลงไปนอนตามเดิม

                  “นอนไปเลย เดี๋ยวจะเช็ดตัวให้” ฮิมชานเดินไปหยิบกาละมังกับผ้าขนหนูเข้าห้องน้ำไป ก่อนจะออกมาแล้ววางกาละมังที่โต๊ะตัวเล็กที่กั้นระหว่างเตียงพวกเค้าทั้งสองเอาไว้

                  “นายมันเด็กดื้อ!” ฮิมชานบ่นพลางบิดน้ำออกจากผ้าแล้วบรรจงเช็ดใบหน้าขาวซีดและไล้ไปเช็ดตามลำคอ

                  “ผมไม่ดื้อ แค่ก... แค่ก...” แดฮยอนเถียงกลับ

                  “ครับ ไม่ดื้อ แค่บอกให้ทำอะไรก็ไม่ยอมทำตาม” ฮิมชานเขกหัวร่างเล็กเบาๆ ก่อนจะวางผ้าที่เพิ่งบิดน้ำหมาดๆ วางโปะลงบนหน้าผาก

                  “นอนซะ เดี๋ยวจะลงไปซื้อข้าว ซื้อยามาให้นะ” ฮิมชานลูบหัวแดฮยอนเบาๆ ก่อนจะคว้ากระเป๋าตังแล้วเดินออกจากห้องไป

                  20 นาทีผ่านไป~

                  “กลับมาแล้ว” ฮิมชานเอ่ยทักตามนิสัยปกติของตัวเอง ร่างสูงมุ่งหน้าเข้าห้องครัว จัดแจงเทโจ๊กหมูหอมกรุ่นใส่ถ้วย แล้วยกไปในรูมเมทที่นอนหลับไม่รู้เรื่อง

                  “แดฮยอนอา~” ฮิมชานกระซิบลงข้างหูอีกคน แล้วเอาผ้าที่โปะหน้าผากออก มือหนาทำหน้าที่วัดอุณหภูมิคนที่นอนหลับเป็นตาย แต่ทว่า...

                  “ทำไมผมรู้สึกไร้ค่าจังครับ...” น้ำเสียงแหบพร่าเอ่ยขึ้นอย่างแผ่วเบา แต่ในสภาพห้องที่เงียบแบบนี้ ฮิมชานสามารถได้ยินมันอย่างชัดเจน

                  “ทำไมถึงพูดแบบนั้น” ฮิมชานมองหน้าอีกคนที่ค่อยๆ ลืมตาอย่างไม่เข้าใจ ทำไมถึงได้มองตัวเองไร้ค่ากัน

                  “... ไม่อย่างนั้นเค้าจะทิ้งผมไปหรอครับ” แววตาสีดำมองอย่างเลือนลอยไม่ได้โฟกัสไปที่จุดใด

                  “อย่าคิดว่าตัวเองไร้ค่า เพียงเพราะไอ้บ้านั่นไม่เห็นค่าของนาย” ฮิมชานนั่งมองรูมเมทตัวเองด้วยแววตาที่ไม่สามารถอธิบายได้

                  “พี่ฮิมชาน~” เสียงแหบพร่าสั่นเครือ แววตาที่เหม่อลอยกลับมาโฟกัสที่ใบหน้าหล่อ น้ำใสๆ เอ่อล้นจนไหลออกมา นิ้วเรียวยาวค่อยๆ เกลี่ยออกให้เบาๆ

                  “ไม่ใช่นายไม่มีค่า แต่ไอ้นั้นต่างหาก ไม่มีค่าพอที่จะยืนเคียงข้างนาย ถึงสำหรับไอ้นั่น นายจะไม่มีค่า แต่พี่อยากให้นายรู้เอาไว้...”

                  “...”

                  “นายมีค่ามากที่สุดสำหรับพี่ ขอร้องนะ อย่าทำร้ายตัวเองแบบนี้อีกเลย” ฮิมชานจับหัวแดฮยอนอย่างแผ่วเบา แววตาคมที่ฉายแววจริงจังจ้องลึกเข้าไปข้างในดวงตากลมโตที่มีน้ำใสๆ ไหลออกมาไม่ขาดสาย

                  “ผมขอโทษ ฮึก... ผมจะไม่ทำแบบนี้อีก ฮึก... ฮึก...” แดฮยอนฝืนตัวเองขึ้นไปโผกอดร่างสูง ใบหน้าหวานซุกลงบนบ่ากว้าง ไหล่บางสั่นไหวรุนแรง ฮิมชานค่อยๆ ยกมือขึ้นลูบหลังคนตัวเล็กอย่างปลอบประโลม

                  “นายไม่ผิด ไม่ต้องขอโทษหรอก...” ฮิมชานได้แต่พูดปลอบเบาๆ ถึงแม้แดฮยอนจะไม่เคยมองเห็นความรักของเค้าบ้าง แต่เค้าก็ยังคงจะรักคนตัวเล็กอยู่อย่างนี้

                  “ผม... ผมขอบคุณนะ ที่... ที่พี่อยู่ข้างผมมาตลอด ผมขอโทษ...” ฮิมชานดันร่างเล็กออกก่อนจะค่อยๆ เช็ดน้ำตาให้อีกคนเบาๆ

                  “บอกแล้วไงว่าไม่ต้องขอโทษ กินข้าวดีกว่าจะได้กินยานะ ^^” ฮิมชานส่งยิ้มอันอบอุ่นให้ ก่อนจะจัดให้แดฮยอนนั่งพิงหัวเตียง แล้วยกชามโจ๊กที่มาวางตั้งไว้ก่อนแล้วมาป้อนให้อีกคน

                  “อื้อ มันยังร้อนอยู่เลย” พอช้อนโดนปากแดฮยอน ร่างเล็กก็หดคอหนี ฮิมชานอมยิ้มก่อนจะเอาโจ๊กที่ตัวเองตักไปเป่าคลายความร้อนให้ร่างเล็กจอมเรื่องมาก

                  “อ้ะ หายร้อนแล้ว” ฮิมชานยื่นช้อนมาจ่อใกล้ๆ ปากอีกคน แดฮยอนจัดการโจ๊กคำแรกเสร็จ คำต่อๆ มาร่างเล็กก็จัดการจนเหลือเพียงแค่ชามเปล่า

                  “หิวล่ะสิ ฮ่าๆๆๆ” ฮิมชานแกล้งแซวคนตัวเล็ก ส่วนคนโดนแซวก็ได้แต่นั่งหน้ายู่

                  “ไม่ต้องมาแซวเลย!” แดฮยอนกอดอกหันหน้าหนีบ่งบอกให้รู้ว่า ชองแด้งอนแล้วนะ

                  “งอนหรอ~ โอ๋เอ๋ ๆ อย่างอนพี่นะ~” ฮิมชานแกล้งยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ

                  “ไม่ได้งอนเว้ย!!!” แดฮยอนตะโกนใส่หน้าก่อนจะผลักหัวฮิมชานออกอย่างแรง แต่คนโดนผลักกลับหัวเราะร่วนอย่างมีความสุข

                  “ไม่ก็ดีแล้ว กำลังว่าจะซื้อชีสเค้กมาง้อซะหน่อย จะได้ไม่เปลืองตัง”

                  “อะไรนะ!! ชีสเค้ก!!!!!~ งั้นผมงอนก็ได้ ขอช็อคโกแลตด้วยนะ” แดฮยอนนั่งยิ้มร่าราวกับลืมไปว่าตัวเองป่วยอยู่

                  “โธ่วว! ไอ้เด็กเห็นแก่กิน” ฮิมชานหยิกแก้มแดฮยอนอย่างหมั่นเขี้ยว คนตัวเล็กก็ได้แต่ยู่ปากใส่

                  “ผมไม่ได้เห็นแก่กินนะ” แดฮยอนหัวเราะเบาๆ นั่นทำให้ฮิมชานยิ้มออก นายมันเหมาะกับรอยยิ้มมากกว่านะ จองแดฮยอน

                  “กินยาแล้วก็นอนพักซะ ไม่กวนแล้ว ^^” ฮิมชานส่งยาและน้ำให้ เมื่อแดฮยอนกินยาเรียบร้อยแล้ว ฮิมชานก็จับให้คนตัวเล็กนอนลงแล้วห่มผ้าให้เรียบร้อย

                  “พี่ดูแลผมดีจัง ขอบคุณครับ ^^” แดฮยอนส่งยิ้มให้ ก่อนจะหลับตาลง เสียงหายใจเข้าออกเป็นจังหวะบ่งบอกว่าคนตัวเล็กเข้าสู่ห้วงนิทราแล้วเรียบร้อย ฮิมชานนั่งมองซักพักก่อนจะโน้มใบหน้าลงไปประทับจูบอย่างแผ่วเบาที่หน้าผากของคนตัวเล็ก

                  “หายไวๆ นะ” แล้วฮิมชานก็ลุกขึ้นไปนั่งที่โต๊ะทำงาน และเริ่มลงมือทำรายงานที่ได้รับมอบหมายมา

      .

      .

      .

      .

      .

                  1 เดือนผ่านไป

                  ภายในร้านกาแฟเล็กๆ ที่ถูกประดับตกแต่งอย่างเรียบง่าย กลิ่นหอมอ่อนๆ ของกาแฟประกอบกับเสียงเพลงเบาๆ ทำให้รู้สึกผ่อนคลายได้อย่างบอกไม่ถูก ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่ไม่ค่อยมีใครเข้าร้านเสียเท่าไร ทำให้ลูกค้าภายในร้านดูบางตาลงไปมาก ในมุมๆ หนึ่งของร้าน มีร่างเล็กๆ ที่กำลังขมักเขม่นอยู่กับการทำรายงาน จนไม่ได้สนใจว่ามีใครบางคนมานั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามตัวเสียแล้ว

                  “แดฮยอน~” ฮิมชานส่งเสียงเรียก แต่อีกคนก็ยังคงนั่งพิมพ์รายงานอย่างไม่ได้สนใจอะไรเหมือนเดิม

                  “ฮยอนนี่~” ฮิมชานยังคงเรียกอยู่อย่างนั้น แต่คนถูกเรียกก็ไม่ได้สนใจอยู่ดี

                  “ชองแด้อา~” เงียบ ยังคงไม่มีเสียงตอบรับจากคนที่ชื่อจองแดฮยอน นอกจากเสียงเคาะแป้นบนโน้ตบุ๊ก

                  “แดฮยอนอา~” คราวนี้ไม่ได้ส่งเสียงเรียกเพียงอย่างเดียว นิ้วยาวๆ ยื่นไปจิ้มแก้มนุ่มของอีกคนด้วย

                  “อ้าว! พี่ฮิมชาน มาตั้งแต่เมื่อไรครับ?” แดฮยอนเงยหน้าจากขึ้นจากจอ นิ้วเรียวดันแว่นตาขึ้นเล็กน้อย แล้วยกแก้วกาแฟขึ้นมา แต่ปรากฏว่า...

                  “อ้าว! หมดซะแล้ว -_-” แดฮยอนคว่ำแก้วลงแต่กลับไม่มีอะไรหกลงมาเลยแม้แต่หยดเดียว

                  “งั้นเราก็ไปกันได้แล้ว” ฮิมชานช่วยแดฮยอนเก็บของเล็กๆ น้อยๆ ก่อนจะลุกออกไปจ่ายเงินให้ ซึ่งแดฮยอนจะห้ามแต่ก็ห้ามไม่ทัน เลยได้แต่ปล่อยไปตามเลย

                  “เสร็จยัง?” หลังจากที่จ่ายเงินเสร็จเรียบร้อย ฮิมชานก็เดินกลับไปหาแดฮยอน

                  “เรียบร้อยครับ ^^” แดฮยอนคว้ากระเป๋าโน้ตบุ๊กมาสะพาย แต่ก็โดนฮิมชานคว้าไปถือให้

                  “แบกพรุงพรังคนเดียว มันหนักนะ” ฮิมชานส่งยิ้มให้ เมื่อร่างเล็กสำรวจตัวเองก็พบว่ามันเยอะจริงๆ แหล่ะ -___-;;

                  “แดฮยอน!” เสียงๆ หนึ่งเรียกให้ทั้งคู่ชะงักกึก รอยยิ้มหวานที่ประดับอยู่บนใบหน้าหวานค่อยๆ เลือนหายไป

                  “จ... จุนคยู” ร่างเล็กส่งเสียงเรียกอีกคนแผ่วเบา ตั้งแต่เลิกกันก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย จนกระทั่งวันนี้ ผ่านมาแล้ว 1 เดือน กลับได้เจอกันโดยที่อีกฝ่ายเป็นคนทักก่อนเสียด้วย

                  “ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ” อีกฝ่ายทำท่าจะไปลูบผมอีกคน แต่แดฮยอนกลับถอยหลังไปอย่างหวงตัว ทำเอาจุนคยูรู้สึกเสียหน้านิดๆ

                  “ไม่ได้อยากเจอ ขอโทษนะรีบ” แดฮยอนคว้ามือฮิมชานที่ยืนนิ่งให้เดินออกมา แต่ร่างเล็กกลับโดนคว้ามือไว้

                  “จะรีบไปไหนล่ะ ฉันอยากจะคุยกับนายนะแดฮยอน” จุนคยูจับมือแดฮยอนแน่น แต่ร่างเล็กกลับทำท่าบิดออกนิดๆ

                  “...” แดฮยอนเพียงแต่เมินหน้าหนีอย่างไม่สบอารมณ์

                  “เรากลับมาคบกันเหมือนเดิมนะ” จุนคยูมองหน้าแดฮยอน ตั้งใจที่ส่งสายตาไปให้อีกคนใจอ่อน แต่ทว่า...

                  “โดนผู้หญิงที่ไหนทิ้งมาล่ะ ต่อให้นายคลานเข่ามาขอร้องฉัน ความรู้สึกที่ฉันมีต่อนายมันก็เสียไปหมดจนไม่สามารถเรียกมันกลับมาได้แล้วล่ะ” แดฮยอนพูดเสียงสั่น พยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้มันไหลออกมา ตัวฮิมชานเองก็ได้แต่ยืนมองด้วยแววตาที่เจ็บปวด

                  “ให้โอกาสฉันเถอะนะ” จุนคยูยังคงร้องอ้อนวอน

                  “โอกาสนายมันหมดไปตั้งแต่เดือนที่แล้วแล้วล่ะ” แดฮยอนสะบัดข้อมืออย่างแรงจนหลุดจากการเกาะกุม

                  “แล้วก็อีกอย่างนะ...” แดฮยอนเงียบไปสักพักก่อนจะกุมมือฮิมชานแน่นแล้วยกขึ้นมา

                  “นี่แฟนของฉัน เราอย่าเจอหน้ากันอีกเลย” แล้วแดฮยอนก็เดินออกจากร้านไปโดยที่มือยังคงกุมมือฮิมชานไว้แน่น

      .

      .

      .

      .

      .

                  คนสองคนที่ยังคงกุมมือกันไม่มีใครยอมปล่อย ทั้งสองเดินไปตามสวนสาธารณะที่มีผู้คนประปราย ตั้งแต่ก้าวออกมาจากร้านยังไม่มีใครพูดอะไรออกมาแม้แต่คนเดียว แผนที่ว่างกันไว้ว่าจะไปเที่ยว เป็นอันต้องพับเก็บไว้ ตอนนี้ทั้งสองคงไม่มีอารมณ์ไปไหนทั้งนั้น

                  “พี่ครับ! ผมขอโทษนะครับ” แดฮยอนเอ่ยทำลายความเงียบ แววตาหลุบต่ำลงราวกับคนไปทำความผิด

                  “อืม” ฮิมชานส่งเสียงอยู่ในลำคอยิ่งทำให้แดฮยอนใจเสีย

                  “พี่ครับ~...”

                  “นายอย่าเพิ่งพูดอะไรตอนนี้เลย” ฮิมชานปล่อยมืออีกคนก่อนจะทิ้งให้อยู่ข้างหลัง แดฮยอนยืนกำมือแน่น แววตาสั่นไหว น้ำใสๆ รวมตัวกันที่หน่วยตา ก่อนมันจะไหลออกมา

                  “ถ้าผมจะบอกว่าผมชอบพี่จริงๆ ล่ะครับ!! แดฮยอนตะโกนเสียงดังทำให้ฮิมชานหยุดเดินก่อนจะค่อยๆ หันหลังกลับมาพบกับร่างเล็กที่ยืนร้องไห้ราวกับเด็กที่พลัดหลงกับผู้ปกครอง

                  “ผมไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไรที่ผมรู้สึกแบบนี้กับพี่ แค่รู้สึกดีที่มีพี่คอยดูแลผมตลอดเวลา แค่รู้สึกเสียใจที่ทำให้พี่ต้องเป็นห่วง แค่รู้สึกเขินตอนที่พี่จะเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ผมหรือตอนที่พี่บอกว่าผมเป็นคนที่มีค่าที่สุดสำหรับพี่หรือแม้แต่ตอนที่...” แดฮยอนวรรคจังหวะหายใจก่อนจะพูดออกไปอย่างอายๆ

                  “ผมแค่รู้สึกเขินที่พี่... จุ๊บหน้าผากผม” แดฮยอนก้มหน้านิ่งซ่อนใบหน้าแดงๆ เอาไว้ ฮิมชานค่อยๆ เดินเข้ามาใกล้ แล้วเชยคางของอีกคนให้ขึ้นมาสบตากับตัวเอง

                  “พี่ไม่รู้ว่านายรู้สึกแบบนี้กับพี่ตอนไหน แต่พี่รู้สึกแบบนี้กับนายตั้งแต่เจอกันครั้งแรก” ฮิมชานเอ่ยเรียบๆ นิ้วยาวเกลี่ยน้ำตาออกจากใบหน้าหวาน

                  “อะไรไม่รู้ที่ทำให้พี่หลงหน้าแมวๆ แบบนี้ อะไรไม่รู้ที่ทำให้พี่อยากจะปกป้องนาย” ฮิมชานหยิกจมูกอีกคนเบาๆ ส่งรอยยิ้มอบอุ่นไปให้

                  “แต่พี่ก็ไม่กล้าที่จะพูดกับนายตรงๆ ซักทีได้แต่คอยดูแลนายในฐานะเมทรุ่นพี่คนหนึ่ง” ฮิมชานพูดเสียงเบา เค้าขี้ขลาดเกินที่จะบอกว่าเค้ารักแดฮยอนมากแค่ไหน

                  ผมรักพี่นะ พี่จะต้องดูแลผมนะ พี่ห้ามทิ้งผมนะ” แดฮยอนโผเข้ากอดฮิมชานอย่างแรง จนอีกคนเซถอยหลังนิดๆ แต่ก็สามารถทรงตัวไว้ได้

                  “สัญญาด้วยหัวใจของคิมฮิมชานคนนี้เลย” ฮิมชานยีหัวอีกคนก่อนจะหัวเราะออกมากันทั้งคู่

                  จุ๊บ~

                  ฮิมชานอาศัยช่วงเวลาที่คนตัวเล็กนี่เผลอลงไปจุ๊บที่ริมฝีปากได้รูปของอีกคนเบาๆ ก่อนจะวิ่งหนีแดฮยอนที่ไล่ตีไปทั่วสวนสาธารณะ

                  เสียงหัวเราะที่ดังลั่นไปทั่วบริเวณทำให้สถานที่ที่เคยเป็นที่บอกเลิกของจองแดฮยอนกับคังจุนคยู ใครจะรู้ว่าหนึ่งเดือนต่อมามันจะกลายเป็นที่บอกรักของ...

       

       

       

       

       

       

       

       

       

      “คิมฮิมชานกับจองแดฮยอน...”

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

      -THE END-

       

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×