[BAP] Easy - Himchan x Daehyun - [BAP] Easy - Himchan x Daehyun นิยาย [BAP] Easy - Himchan x Daehyun : Dek-D.com - Writer

    [BAP] Easy - Himchan x Daehyun

    I'm not OK I'm not not not OK...

    ผู้เข้าชมรวม

    461

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    7

    ผู้เข้าชมรวม


    461

    ความคิดเห็น


    7

    คนติดตาม


    3
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  24 ก.พ. 57 / 20:30 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น


    กราบสวัสดีงามๆ ค่ะ!

     

    เอา one shot ฮิมแดมาเสิร์ฟค่ะ 55555 #ได้ข่าวว่าอาทิตย์หน้าสอบ

    เอามาลงคลายเครียดเฉยๆ พอดี(ทำตัว)ว่าง

    ใครสอบเสร็จก็ขอให้เอ็นจอยรีดดิ้ง ส่วนใครยังไม่ได้สอบก็...

    อ่านฟิคเราแล้วค่อยไปอ่านหนังสือก็ได้นะ 55555555

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ฉันต้องปล่อยมือนายไปใช่มั้ย?

     

     

    มือที่แสนอบอุ่นคู่นี้ อีกนานแค่ไหนกันนะ ฉันถึงจะได้จับมันอีกครั้ง

     

     

    หรือฉันไม่มีโอกาสที่จะได้ทำแบบนั้นอีกแล้ว

     

     

    ฉันคิดว่าฉันไม่เป็นอะไร แต่ฉันไม่โอเคเลย

     

     

    ถึงแม้ฉันจะกำลังยิ้ม แต่ข้างในใจของฉันมันไม่โอเคเลยสักนิด

     

     

    การที่พูดว่าลืมนั้น มันง่ายนิดเดียว

     

     

    แต่ทำไมฉันถึงทำมันได้ยากเย็นเหลือเกิน

     

     

    ฉันทำไม่ได้...




    B.A.P -
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      Title: Easy

      Couple: Kim Himchan x Jung Daehyun

                  ร่างสูงก้าวเดินเข้ามาภายในห้องของคอนโดหรูใจกลางเมือง ไฟที่ถูกปิดมืดอยู่อย่างไร เจ้าของก็ยังคงปล่อยให้มันเป็นเช่นนั้น เขาสะบัดรองเท้าผ้าใบสีหม่นให้หลุดออกจากเท้า ก่อนจะเตะมันให้ห่างหูห่างตา เขาเดินทอดน่องมาทิ้งตัวลงบนโซฟาสีแดงเพลิงที่ตั้งอยู่กลางห้องนั่งเล่น ฝ่ามือใหญ่ถูกยกขึ้นมาลูบหน้าลูบตาอย่างเหนื่อยอ่อน

       

       

       

                  พรึ่บ!

       

       

       

                  แต่ที่เขาเกลียดที่สุดในห้องชุดหรูนี่ก็คือความไฮเทคของมัน เซนเซอร์ที่ทำงานได้ดีอย่างไม่ขาดตกบกพร่องเพียงแค่เขาทิ้งตัวอยู่ในห้องนี้ไม่ถึง 10 นาที ไฟทั้งห้องก็ถูกเปิดขึ้นโดยอัตโนมัติ

       

       

       

                  ไม่เลย เขาไม่ต้องการแบบนี้ด้วยซ้ำ

       

       

               

                เขาไม่อยากให้ความจริงมันปรากฏ...

       

       

       

       

       

       

                ว่าเขาต้องอยู่คนเดียว...

       

       

       

       

       

       

       

       

      แน บัม พุลรี คยอจีมยอน นูกุนกา

      เมื่อฉันเปิดไฟในห้องให้สว่างแล้ว

      ทาชี เวโรอุน นารึล อันนาจุลกา

      จะมีใครมากอดคนที่โดดเดี่ยวอย่างฉันมั้ย?

       

       

       

       

       

       

       

       

                  เสียงท้องร้องที่ดังประท้วง ทำให้เขาต้องลากสังขารไปเข้าไปส่วนที่เป็นห้องครัว ในเวลาเกือบตีสามเช่นนี้ สิ่งเดียวที่เขาพึ่งมันได้ ก็คงจะมีแค่อย่างเดียวเท่านั้นแหละ

       

       

       

       

                  บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป...

       

       

       

                 

                 

       

       

       

                  ร่างสูงวางหม้อรามยอนลงบนโต๊ะกาแฟที่มีผู้ชายร่างเล็กนั่งรอใจจดใจจ่อ มือเล็กกำตะเกียบไว้แน่น แววตาเป็นประกายมองตามหม้อรามยอนอย่างตื่นเต้น

       

                “ลองชิมดู”

       

                คนตัวเล็กยิ้มหวาน ก่อนจะคีบเส้นรามยอนเข้าปากด้วยความหิวโหย ปากอิ่มเคี้ยวหยับๆ ไปมา แววตายังคงความเป็นประกายเอาไว้

       

                “พี่รู้มั้ยครับ มีอยู่ไม่กี่คนหรอก...”

       

                “???”

       

                “ที่ต้มรามยอนไม่อร่อยอะ”

       

                “แดฮยอนนา!

       

                ร่างเล็กหัวเราะคิกคัก แต่ก็ยังไม่ยอมหยุดคีบเส้นเข้าปากเสียที จนคนตัวสูงอดไม่ได้ที่จะแกล้ง บังอาจมาว่ารามยอนเขาไม่อร่อย แบบนี้ต้องโดนดี!

       

                “อ๊ะ! พี่ฮิมชาน!! เอามานะ”

       

                “ไม่อร่อยไม่ใช่หรอ? ไม่ต้องกินหรอก เดี๋ยวลงไปซื้อกับข้าวข้างล่างให้”

       

                ร่างสูงดึงหม้อรามยอนออกมา แต่อีกคนกลับกอดมันไว้อย่างหวงแหน ดวงตากลมโตจ้องอีกคนอย่างไม่ยอมแพ้

       

                “ไม่เอา! จะกินนี่”

       

                ปากอิ่มคว่ำลงก่อนจะมองค้อนอีกคนว่า ถ้าหากไม่ยอมปล่อย มีโกรธจนคนตัวสูงต้องยินยอมปล่อยหม้อให้อีกคนอย่างช่วยไม่ได้ คิดจะแกล้งเขา สุดท้ายก็ต้องยอมอ่อนให้อยู่ดี

       

                “โอเคๆ ไม่แกล้งแล้วครับ ไม่แกล้งแล้ว”

       

                “ถึงรามยอนพี่มันจะไม่อร่อย แต่ผมก็จะกินหน่า~”

       

       

       

       

       

       

       

       

      แนกา กึลรีนึน ทอรอลเก มัชชอบนึน รามมยอนนึน

      รามยอนที่ฉันทำออกมาได้ไม่ดีเลย

      อีเจ นูกา กัทที มอกกอจุลกา

      จะมีใครมากินมันกับฉันในตอนนี้มั้ย?

       

       

       

       

       

       

       

       

                  รู้สึกแย่... คิมฮิมชานรู้สึกแย่ที่สุดเพียงแค่ชั่วครู่ เขาก็ปล่อยให้ภาพในอดีตผ่านเข้ามาในหัว เขาคีบเส้นรามยอนเข้าปากแล้วก็รับรู้ถึงรสชาติที่ไม่ได้เรื่องแบบที่ใครอีกคนเคยบอกไว้ มันแย่มาก

       

                  ถึงแม้เขาจะคุ้นชินกับการอยู่คนเดียว แต่ตั้งแต่ที่มีใครคนนั้นเขามาในชีวิต เขาก็ไม่เคยชินกับการที่ต้องอยู่คนเดียวอีกเลย และในตอนนี้เขาต้องกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิม แบบที่ไม่มีใครอีกคนอยู่ด้วย

       

       

       

       

       

                  แต่ทำไมมันถึงได้ยากจังนะ

       

       

       

       

       

       

                  ใครๆ ก็บอกว่าเขาเป็นหนุ่มในเมืองโดยแท้ คนเย็นชาที่แสนจะเย่อหยิ่ง เพราะใบหน้าที่ดูเรียบนิ่งแตกต่างจากตอนยิ้ม ใครต่อใครถึงได้กล่าวหาว่าเขาเป็นคนเย็นชา ทั้งๆ ที่เขาไม่ใช่คนแบบนั้นเลยสักนิด

       

       

       

       

       

       

       

       

      มัล ออบโก มูตกตกฮัน อาอี

      เธอเป็นคนประเภทที่กอดฉัน

      อานีรามยอน นัล คัมซาจูนึน Type

      บอกว่าฉันไม่ได้เป็นคนเงียบๆและเย็นชา

      ซนนี ชา แน ทู ซนนึล นชชี อันดอน บัม

      ตอนที่เธอไม่ปล่อยมือแสนเย็นเยียบของฉันตลอดทั้งคืน

      คือริบเน โอนึลรึน ทับทับแฮ แน มาอึมมี

      ฉันคิดถึงมัน ในวันนี้ฉันรู้สึกผิดหวังเหลือเกิน

       

       

       

       

       

       

       

       

                  แค่คิดถึงไออุ่นของคนที่เดินจากเขาไป เขาเคยคิดว่าจะไม่มีวันที่เราต้องแยกจากกัน แต่ยังไงเสียอนาคตก็เป็นสิ่งที่เราไม่สามารถคาดการณ์ได้ เขาบอกเลิกผมอย่างเลือดเย็น รอยยิ้มที่ประดับอยู่บนใบหน้าน่ารัก รวมไปถึงแววตาที่บ่งบอกว่ารู้สึกผิดนั้น ยังคงติดตรึงอยู่ในความทรงจำไม่ไปไหน

       

       

       

       

       

                  “เรา... เลิกกันดีมั้ยครับ?”

       

                ริมฝีปากอิ่มเม้มเข้าหากันแน่น แววตาหลุบลงต่ำอย่างรู้สึกผิด ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้ามองว่าเขารู้สึกเช่นไร

       

                “ทะ... ทำไมล่ะแดฮยอนนา...”

       

                “ผม... ผมอยากไปเรียนต่อญี่ปุ่น”

       

                “ไม่เห็นจะเป็นไรเลย”

       

                “พี่ต้องเจอคนที่ดีกว่า เชื่อผม...”

       

                อีกคนมองด้วยความรู้สึกขอโทษและอยากจะเลิก คำพูดที่ยึดมั่นว่าต้องการที่จะเลิกแน่ๆ ทำให้เขาเกิดอาการที่กลืนไม่เข้า คายไม่ออก

       

                “แต่สำหรับพี่ไม่มีใครจะดีไปกว่าแดฮยอนแล้วนะ”

       

                “ไม่เอาหน่าครับพี่ฮิมชาน”

       

                “นายก็เรียนไป ส่วนพี่ก็รอนายได้นะ”

       

                “อย่ายึดติดกับผมเลยครับ ผม... ไม่อยากรั้งพี่ไว้”

       

                ฝ่ามือเล็กคว้าสิ่งเดียวกันนี้ของอีกคนขึ้นมากำไว้แน่น แววตาที่ส่งมาบอกว่าขอร้อง แม้เขาไม่ต้องการให้มันเป็นแบบนี้ แต่สุดท้าย...

       

                “ไปญี่ปุ่นก็ดูแลตัวเองดีๆ นะ”

       

       

       

       

       

       

       

       

      กึททือโร จัล จีแนราโก มัลฮาโก ออกจีโร มูซออุน มัมมึล ซุมกีจโย คือแดน โมรือจโย

      (ชองมัล โมรือจโย)

      ในตอนจบนั้น ฉันบอกกับเธอว่าให้ดูแลตัวเองดีๆ ฉันซ่อนหัวใจที่หนักหน่วงของตัวเองเอาไว้ เธอไม่รู้เลย (เธอไม่รู้เลยจริงๆ)

      นอรึล บีวอแนนึน อิลรี คือรี ชวีอุน อิลรี อานินเด

      มันไม่ง่ายเลยที่จะลบเธอออกไปน่ะ

       

       

       

       

       

       

       

       

                  “ขอบคุณนะครับ”

       

                เขาคว้าคนเล็กเข้ามาในอ้อมกอด กอดให้แน่นที่สุดเท่าที่จะทำได้ ราวกับกลัวว่าอีกคนจะหายไป แต่ยังไงเสีย คนตัวเล็กในอ้อมกอดนี้ก็ต้องไปอยู่ดี

       

       

       

       

       

       

       

       

      กึททือโร อันนาโบจามยอ นอล อันโก ออกตีโร มูกออุน บัลรึล อลกีจโย อีกอน อานินเด

      (ชองมัล อานินเด)

      ในตอนจบของเรา ฉันกอดเธออีกครั้ง เดินจากมาด้วยขาที่ราวกับถูกถ่วงเอาไว้ นี่มันไม่ถูกนะ

      (มันไม่ถูกต้องเลยจริงๆ)

      นอรึล บีวอแนนึน อิลรี คือรี ชวีอุน อิลรี อานินเด

      ไม่ง่ายเลยที่จะลบเธอไปจากใจของฉัน

       

       

       

       

       

       

       

       

                  “พี่ต้องลืมผมให้ได้นะครับ”

       

       

       

       

       

       

       

                  ให้พูดมันก็ง่ายแต่จะให้ทำมันได้ที่ไหน ผ่านมาเป็นปีแล้วทุกอย่างยังอยู่ในความทรงจำเหมือนเดิมไม่ไปไหน หลายต่อหลายครั้งที่พยายามลืมตามที่อีกคนบอก แต่มันไม่ได้ง่ายเลย มันไม่ง่ายเหมือนเวลาเราลืมเนื้อหาที่เพิ่งเรียนมา อันนั้นแค่เดินออกจากห้องก็ลืมแล้ว แต่นี่มันคนทั้งคนเลยนะ คนที่รักหมดหัวใจจะให้ลืมได้อย่างไรกัน

       

                  “ตั้งแต่น้องมันไปญี่ปุ่น หน้าตามึงไม่แจ่มใสเลย”

       

                  เพื่อนสนิทตบที่ไหล่เบาๆ ก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ กอดคอฮิมชานที่นั่งซึมเป็นแพะแก่ใกล้ตายแบบนี้มาเป็นปีตั้งแต่ลูกแมวจากไป

       

                  “บางทีตอนนี้ลูกแมวมึงอาจจะมีความสุขกับหนุ่มญี่ปุ่น”

       

                 

       

                  ป้าบ!

       

       

       

                  “ปากแบบนี้เก็บไว้แตกหน้าหนาวดีกว่ามั้ย? เออ! นี่มันก็หน้าหนาวพอดี งั้นก็ให้มันแตกวันนี้เลยก็แล้วกัน”

       

                  คนหน้าบูดเอาฝ่าเท้าสะกิดอย่างแรกก่อนจะกำหมัดแน่นแล้วคว้าคอเสื้อเพื่อนอย่างเอาเรื่อง แต่บังยงกุกก็พอจะรู้ว่ารายนี้มันไม่กล้าหรอก แต่ก็ไม่อยากจะเสี่ยงกับอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ ของแพะแก่ใกล้ตายเท่าไร

       

                  “กูล้อเล่นแค่นี้ เล่นแรงไปป้ะ?”

       

                  “มึงล้อเล่นแรงไปป้ะ!!

       

                  “เออๆ ขอโทษๆ”

       

       

       

       

       

       

       

       

      นอรึล อิจจึล กอรัน มัลรึน นอมู ชวิบจโย

      การพูดว่าจะลืมเธอไปช่างง่ายดายเหลือเกิน

      นอรึล อิจจือรยอนึน แนกา นอมู มิบจโย

      ฉันเกลียดตัวเองที่พยายามจะลืมเธอซะจริงๆ

      เฮออจีนึน อี ซุนกันโจชาโด พาโบ กัททาซอ

      ราวกับว่าฉันเป็นคนโง่แม้ในระหว่างที่เราเลิกกัน

      มาอึมเมโด ออบนึน มัลรึล ฮามยอ อุทจโย

      ฉันพูดในสิ่งที่ไม่ได้หมายความถึงรอยยิ้มเลย

       

       

       

       

       

       

       

       

                  คิมฮิมชานก้าวเดินอย่างเชื่องช้า ปล่อยให้ตัวเองจมอยู่กับความเหงาอย่างเดียวดาย อากาศที่เย็นลงทำให้เขาต้องยกแขนขึ้นมากอดตัวเองหลวมๆ ยิ่งหนาวยิ่งคิดถึงอ้อมกอดอุ่นๆ ที่คุ้นเคย

       

       

       

                  นี่เขาคิดบ้าอะไรอยู่

       

       

       

       

                  หมับ!

       

       

       

       

       

       

                  เพ้อเจ้อ! คิดถึงมากจนมโนไปเองใช่มั้ยว่ามันอุ่นขึ้นน่ะ ไม่รู้นะว่าเกิดอะไรขึ้น แค่รู้สึกถึงความอบอุ่นจากด้านหลังที่แทรกซึมผ่านเนื้อผ้าก็เท่านั้น

       

                 

       

       

       

                  “คิดถึงมั้ย?”

       

       

       

       

                  น้ำเสียงแบบนี้

       

       

       

       

                  “แดฮยอน...”

       

       

       

                  เสียงของเขาแหบพร่า แทบจะไม่ได้ยินเสียงตัวเองเลยด้วยซ้ำ

       

       

       

       

       

                  “ไม่ใช่ว่ามีคนอื่นไปแล้วหรอ? ผมมากอดแบบนี้จะมีคนว่าอะไรผมมั้ยนะ”

       

                  อ้อมกอดที่รัดแน่นค่อยๆ คลายออกอย่างช้าๆ แต่เขากลับจับข้อมืออีกคนเอาไว้แน่น

       

       

       

       

                  “ไม่เอา อย่าปล่อยนะ!!

       

                  เสียงหัวเราะเบาๆ พร้อมกับอ้อมแขนที่กระชับให้แน่นขึ้น เป็นการย้ำเตือนให้รู้ว่านี่ไม่ใช่ความฝัน นี่มันคือเรื่องจริง

       

       

       

                  เรื่องจริงที่ว่าจองแดฮยอนได้กลับมาหาคิมฮิมชานแล้ว

       

       

       

                  “ไม่อยู่ตั้ง 1 ปี”

       

                  “พี่คิดถึงเรานะ!

       

                  ฮิมชานรีบสวนขึ้นมาแทบจะทันทีและเป็นอีกครั้งที่ได้ยินเสียงหัวเราะใสๆ นั่น

       

                  “ผมแค่จะถามว่าพี่โอเคใช่มั้ย”

       

                  “โอเคสิ พี่ไม่เป็นอะไร”

       

       

       

       

       

       

       

       

      คแวนชันนา I'm not OK I'm not not not OK

      ไม่เป็นไร ฉันไม่โอเค ไม่ ไม่ ฉันไม่โอเคแล้ว

       

       

       

       

       

       

       

       

                  “พี่ยังยิ้มได้อยู่เลย”

       

       

       

       

       

       

       

       

      อุทจีมัน I'm not OK I'm not not not OK

      แม้ฉันจะยิ้ม แต่ฉันไม่โอเคล่ะ ไม่ ไม่ ฉันไม่โอเคจริงๆ

       

       

       

       

       

       

       

       

                  “ถ้าพี่ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว แต่ว่าผมยังไม่มีคนใหม่...”

       

       

       

       

       

       

       

       

      คแวนชันนา I'm not OK I'm not not not OK

      ไม่เป็นไร ฉันไม่โอเค ไม่ ไม่ ฉันไม่โอเคแล้ว

      อุทจีมัน I'm not OK I'm not not not OK

      แม้ฉันจะยิ้ม แต่ฉันไม่โอเคล่ะ ไม่ ไม่ ฉันไม่โอเคจริงๆ

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

                  “เรากลับมารักกันได้เหมือนเดิมได้มั้ยครับ?”

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

      -THE END-

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×