นายจอมจุ้นวุ่ยหารัก - นายจอมจุ้นวุ่ยหารัก นิยาย นายจอมจุ้นวุ่ยหารัก : Dek-D.com - Writer

    นายจอมจุ้นวุ่ยหารัก

    โดย CO-SINE

    ทำไมนายเจ้าชายต้องให้ฉันปลอมเป็นแฟนกับเขาด้วยล่ะไม่เข้าใจเลย...

    ผู้เข้าชมรวม

    250

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    250

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  27 ธ.ค. 49 / 12:10 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      นายจอมจุ้นวุ่นหารัก

      นี่เธอเป็นเด็กใหม่โรงเรียนฉันใช่ป่ะ? เสียงของเด็กผู้ชายคนหนึ่งถามฉันขึ้นหลังจากที่เรานั่งมองหน้ากันอยู่พักใหญ่บนรถไฟ

                      อืม คุณจำฉันได้ด้วยเหรอ ดีใจจัง ^_^” ฉันตอบออกไปแบบเว่อร์สุด ๆ ที่คนจำได้

                      เมื่อประมาณสองเดือนที่แล้วฉันต้องย้ายบ้านกะทันหัน เพราะว่าพ่อกับแม่ของฉันต้องไปทำงานที่ฝรั่งเศส ฉันจึงจำใจต้องย้ายบ้านมาอยู่ที่ขอนแก่นกับป้าจอมโหดของฉัน และผลพลอยได้ที่ตามมาคือ ฉันต้องย้ายโรงเรียนด้วยToT อันที่จริงฉันเสียใจมากที่โดนย้ายที่อยู่ย้ายโรงเรียน จากที่ฉันเรียนที่โรงเรียนนานาชาติแพงหูฉี่ กับต้องมาเรียนที่โรงเรียนรัฐบาลที่แสนจะธรรมดาถ้าเทียบกับโรงเรียนเดิมของฉัน (พ่อกับแม่น่าจะให้ฉันไปอยู่ด้วยที่ฝรั่งเศส) แต่อยู่ไปอยู่มาก็สนุกดี

                      เธอมาทำอะไรที่ตัวเมืองเหรอ เขาถามฉันแบบสนใจสุด ๆ

                      มาเรียนพิเศษน่ะ ว่าแต่นายล่ะมาทำอะไร เขาถามแต่ฉันฉันก็เลยลองถามเขากลับไป

                      มาเรียนเหมือนกันเธอชื่ออะไรเหรอ เขาส่งยิ้มกวนประสาทให้ฉัน ชักไม่อยากคุยกับหมอนี่แล้วสิ แต่ก็จำใจต้องคุยเพราะไม่มีเพื่อนคุย ช่างเถอะอย่างน้อยก็เป็นเพื่อนที่โรงเรียน

                      ชื่อ ทราย แล้วนายล่ะ ฉันหันไปถามเขาหลังจากชมวิวนอกหน้าต่างได้ซักพัก

                      ฉันชื่อ เจ้าชาย ชื่อก็เหมาะกับหน้าหรอกแต่ไม่เหมาะกับนิสัยที่จุ้นจ้านของนายเอาซะเลย ฉันอยู่ 4/5 ว่าแต่เธออยู่ห้องไหนเหรอ ถ้าฉันจำไม่ผิดเธออยู่ ห้อง…” เขานั่งคิดตั้งนานฉันเลยต้องเฉลยแล้ว

                      4/1 ฉันอยู่ห้อง1 ฉันส่งยิ้มให้เขาแต่เขาก็ยังทำท่านั่งคิดเหมือนเดิม

                      ห้องเด็กเรียนเหรอเป็นไงอยู่ห้อง1กดดันมากไหม ตอนนี้เขาขมวดคิ้วเป็นรูปโบว์ สงสัยคิดว่าห้องหนึ่งเป็นพวกเคร่งเครียด

                      ไม่นิ ทุกคนออกจะบ้า ๆ บอ ๆ แล้วห้องนายล่ะเป็นไง

                      ห้องฉันเหรอ มีแต่พวกแสบ ๆ เรียนก็ไม่ได้เรื่อง ติดศูนย์ยกห้อง ฮ่า ฮ่า ๆ เขาดูมีความสุขมากกับการได้นินทาเพื่อน ๆ ในห้องของตัวเอง เราสองคนคุยกันจนถึงสถานีปลายทาง แล้วแยกย้ายกันกลับบ้านใครบ้านมัน

                      หลังจากอาทิตย์นั้นฉันก็ได้เจอเขาเกือบทุกวันที่โรงเรียนส่วนเสาร์อาทิตย์เราก็จะเจอกันที่โรงเรียนกวดวิชา เพราะว่าพึ่งมารู้เอาทีหลังว่าเรียนอยู่ที่เดียวกันเพราะนั่งรถสองแถวสายเดียวกัน

                      นี่ทราย เจ้าชายของเธอมาหา เสียงเพื่อนในห้องร้องมาบอกฉัน ฉันเองก็แต่งง ใครกันเจ้าชายของฉัน

                      จ๊า ^^ขอบใจที่บอก ฉันรีบออกไปห้องห้องเพราะคนที่ได้ชื่อว่าเจ้าชายของฉันรออยู่ข้างนอก อ้าว เจ้าชายมีอะไรเหรอ ที่แท้ก็นายเจ้าชายนี่เองที่มาหาฉัน

                      ทรายช่วยฉันหน่อยดิ่ เขาทำท่ารุกรี้รุกรนผิดปกติ แถมมองซ้ายมองขวาเหมือนกลัวใครมาเจอ

                      จะให้ช่วยอะไรเหรอ เขาจับมือฉันแล้วลากออกไปนอกอาคารเรียน

                      เขาลากฉันจนมาถึงหอสมุดของโรงเรียน ซึ่งเป็นที่ประจำของเราสองคน เพราะปกติที่ว่าเจอกันที่โรงเรียนเราก็กันที่หอสมุดนี่แหล่ะ

                      ทำไมนายลากฉันมาไกลจัง เขายังไม่เลิกมองซ้ายมองขวาอีก -_-

                  มีคนมาสารภาพกับฉัน ตอนนี่เขาหูแดงมาก ๆ น่ารักดีปกติจะทำน่ากวนประสาทตลอดเวลา ฉันจะทำไงดี ตอนนี้ฉันยังไม่พร้อม เขาจับไหล่ฉันเขย่าไปมา (เจ็บนะตาบ้า)

                      ใครสารภาพอะไรกับนาย เขายังไม่ยอมปล่อยมือจากไหล่ฉันอีก นายจะรู้รึเปล่าเนี่ยว่ามือนายใหญ่แถมแรงเยอะอีกต่างหาก

                      โถ่ยัยโง่เขาสบทออกมาเบา ๆ  ก็มีคนมาสารภาพรักกับฉันไง แล้วฉันจะทำไงดีล่ะ ตอนนี้เขาเปลี่ยนจากจับไหล่มาเป็นทุบหัวฉันเบา ๆ

                      เจ็บนะตาบ้า ฉันลูบหัวตัวเองป้อย ๆ แล้วก็เริ่มพิจารณาเจ้าชายที่ยืนอยู่ข้างหน้าฉัน เจ้าชายเป็นคนที่ตัวสูงมาก หน้าตาก็ดี แบบว่าตี๋อินเตอร์ หน้าใส ผิวขาวจั๋ว ถ้าไว้ผมยาวคงต้องหล่อ มาก ๆ แน่ แต่ว่าตอนนี้เขาไว้ทรงนักเรียนเหมือนนักเรียนชายทั่วไป ถ้าฉันดูไม่ผิดฉันว่าเขาเป็นลูกครึ่งแน่เลย นายเป็นลูกครึ่งรึเปล่า ฉันตัดสินใจถามเขาออกไป เขาก็ได้แต่มองหน้าฉันงง ๆ

                      ทรายรู้ได้ไง ฉันไม่เคยบอกใครเลยนะ ว่าแล้วเชียวต้องเป็นลูกครึ่งแน่ ๆ เขาเป็นลูกครึ่งอะไรกันนะ ฉันเป็นลูกครึ่งญี่ปุ่น ใครบอกทรายเหรอ ฉันอุตส่าห์เก็บเป็นความลับ โอ๊ย~~โดนรู้จนได้ เขาทำท่าเหมือนว่าจะชักตายอยู่กับที่

                      “…” ฉันก็ได้แต่มองเขายิ้ม ๆ

                      มองอะไรเล่า เรื่องนั้นเอาไง้ก่อนเถอะ จัดการเรื่องของฉันก่อนเซ่…” เขากลับมาเก๊กหน้าจริงจรังอีกครั้ง พร้องกับหน้าฉันเป็นนานสองนาน

                      โอเคนายจะให้ฉันช่วยอะไร จ้องอยู่ได้ตาบ้าเขินนะ

                      เจ้าชายค่ะ คำตอบล่ะ อยู่ดี ๆ ก็มีเสียงผู้หญิงอีกคนหนึ่งดังขึ้น ก่อนที่เขาจะอ้าปากพูด ว่าไงค่ะ ^_^” เธอส่งยิ้มให้เจ้าชายที่ตอนนี่ยืนทื่อ สงสัยไม่รู้จะตอบอะไร แต่อยู่ดี ๆ ก็มีมือที่ไหนก็ไม่รู้ มาโอบไหล่ฉันพร้อมกับขโมยหอมแก้มฉัน ฉันก็เลยหันไปมองหน้าหัวขโมยแบบอาฆาตสุด ๆ แต่เขาก็ได้แต่ขยิบตาให้

                      ฉันต้องขอโทษเธอด้วยนะฉันเป็นแฟนกับเธอไม่ได้จริง ๆ เพราะฉันมีแฟนแล้ว เขาหันมาส่งยิ้มหวานให้ฉัน ฉันก็เลยต้องยิ้มตอบแต่ ก็แอบหยิกที่หลังของเขาจนเขาเองถึงกับสะดุ้ง ขอบคุณนะที่ชอบฉัน แต่ฉันทิ้งทรายไม่ได้หรอก เขาหันมายิ้มให้ฉันอีกรอบพร้อมกับสายตาที่เหมือนอาฆาตเล็กน้อย

                      ไม่เป็นไรหรอก แค่เจ้าชายเข้าใจความรู้สึกที่ฉันมีต่อเจ้าชายก็พอแล้วค่ะ เธอส่งยิ้มให้ฉันแล้วก้มหน้าเดินออกไป ฉันสังเกตเห็นเธอเช็ดน้ำตาด้วยล่ะ -๐- อีตาเจ้าชายนี่ก็เหลือเกินทำผู้หญิงร้องไห้

                      ทำไมนายพูดแบบนั้น นายยังไม่มีแฟนไม่ใช่เหรอ ฉันต่อว่าทันทีหลังจากที่เด็กผู้หญิงคนนั้นออกไปจากห้องหนังสือแล้ว แต่เราสองคนก็ยังยืนที่เดิมในห้องหนังสือ

                      ทราย ฉันยังไม่พร้อมที่จะมีความรักกับเขา เราพูดกันแค่นี้แล้วก็ไม่พูดอะไรอีกเลย

                      หลังจากวันที่นายเจ้าชายปฏิเสธผู้หญิงคนนั้นไป เรื่องที่นายเจ้าชายบอกว่าฉันกับเขาเป็นแฟนกันก็แพร่ไปจนทั่วโรงเรียนแล้ว และดูเหมือนว่าทุกคนจะจ้องพวกเรามากเกินไปเวลาที่เราเดินไปด้วยกัน

                      เพราะนายคนเดียวเจ้าชาย ทำให้เรื่องเป็นแบบนี้ ฉันนั่งกอดอกอยู่ฝั่งตรงข้ามเขาที่โรงอาหาร

                      ใครจะคิดล่ะว่าเรื่องจะบานปลายขนาดนี้ เขาเงยหน้าจากชามก๋วยเตี๋ยวมาพูดแล้วก้มหน้าก้มตากินก๋วยเตี๋ยวต่อไปอย่างเอร็ดอร่อย

                      พวกเธอสองคนเล่นเป็นแฟนกันแบบนี้ ใครจะไม่จับตามอง นายเจ้าชายของเธอนะน่ะ เขาทั้งหล่อ เก่ง perfect man ขนาดนั้นคนทั้งโรงเรียนต้องให้ความสนใจอยู่แล้ว กุ้งเพื่อนสนิทคนใหม่ของฉันพูดขึ้น

                      ทำไมต้องเป็นฉันด้วยเล่า~~” ฉันก็ได้แต่โอดครวญเท่านั้นแหล่ะ ทำอย่างอื่นไม่ได้ ก็นายเจ้าชายขอร้องไม่ให้บอกใครว่าเราแกล้งเป็นแฟนกัน เขาว่าเขา perfect ก็เลยจะรอคนที่ถูกใจจะไม่ยอมมีแฟนเด็ดขาด จนกว่าจะเจอคนที่ใช่ (แล้วเมื่อไรจะเจอฟ่ะ)

                      ทรายไปกินข้าวกัน ^o^” นั่นไงตัวต้นเหตุที่ทำให้ฉันวุ่นวายมาแล้ว เจ้าชายหิวแล้วไปกินข้าวเถอะเจ้าหญิง ดูเขาทำเข้าไม่รู่จักอายคนในห้องฉันบ้างรึไง ฉันก็เลยมองหน้าเขาพร้อมแยกเขี้ยว แต่ถ้าคนอื่นดูอาจจะว่าฉันกำลังยิ้ม ก็เธอเป็นเจ้าหญิงของฉันนิ่ เขายิ้มหวานให้ฉัน แต่คนในห้องเรียนของฉันต่างหัวเราะกันยกใหญ่

                      ฝากไว้ก่อนเหอะ ฉันพูดเบา ๆ ลอกไรฟันทั้งที่ปากกำลังยิ้ม ทุกคนฉันไปกินข้าวก่อนนะ ไปพร้อมกันไหม ฉันหันไปถามเพื่อนในห้อง

                      ไม่ล่ะ เธอสองคนไปเหอะ ไม่อยากเป็นก้าง กุ้งพูดขึ้นแบบว่าเน้นเสียงคำสุดท้าย ทำให้ฉันยิ้มหวานกับความกวนประสาทของเพื่อน

      ในที่สุดเขาก็ลากฉันออกจากห้องเรียนไปจนได้ พออกมานอกห้องเรียนก็ยังเจอสายตาของสาว ๆ แฟนคลับนายเจ้าชายตัวดีที่มองแบบอาฆาตมาทางฉัน แต่เจ้าตัวต้นเรื่องก็ยังยิ้มอย่างอารมณ์ดี นายบ้านี่จะรู้ไหมเนี่ยว่าเขากำลังทำให้ฉันเป็น ศัตรูกับผู้หญิงทั้งโรงเรียน ฉันพึ่งมาอยู่ได้ไม่ถึงเทอมเลยน่ะ

      เลิกโกหกคนอื่นเถอะ อยู่ดี ๆ ฉันก็พูดออกมาในขณะที่เรานั่งอ่านหนังสืออยู่ในหอสมุด บอกความจริงทุกคนเถอะ

      ทำไมล่ะ ทรายไม่ชอบเหรอ ปากว่าแต่ตายังอยู่ที่หนังสือ ทรายก็มีผู้ชายมาจีบน้อยลง ส่วนเจ้าชายอย่างฉันก็มีสาว ๆ มาสารภาพรักน้อยลง เขาเงยหน้ามายิ้มให้ฉันแล้วก็ก้อมหน้าอ่านหนังสือต่อ

      ฉันพูดจริง ๆ นะ เราเลิกแกล้งคนอื่นเถอะ ฉันไม่อยากโกหกคนอื่นแล้ว

      งั้นเราเลิกโกหกคนอื่นก็ได้ เขาหันมายิ้มให้ฉัน พลางปิดหนังสือในมือ

      จริงน่ะ ฉันก็ได้แต่ยิ้มเขาก็ยิ้มเหมือนกัน เราไม่ต้องโกหกคนอื่นแล้วจริงน่ะ

      “^_^ใช่ เราไม่ต้องโกหกคนอื่นแล้ว แต่เราต้องมาเป็นแฟนกันจริง ๆ นะ คำพูดของเจ้าชายทำเอาฉันอึ้งไปจนเขาจับมือฉันไว้ ฉันชอบเธอนะทรายเป็นแฟนกับฉันนะ โอ๊ยหมอนี่ฉันจะเป็นลม ฉันชอบเธอจริง ๆ เป็นแฟนกับฉันนะ ฉันชอบตั้งแต่เจอเธอครั้งแรกบนรถไฟแล้ว ฉันก็ยังอึ้งไม่หายก็เลยพยักหน้าแบบงง ๆ ไป ทำให้เขาลุกขึ้นกระโดดตัวลอย    

      หลังจากนั้นเราสองคนก็ไม่ต้องแกล้งหวานใส่กันต่อหน้าคนอื่น เพราะว่าตอนนี้เราสองคนเป็นแฟนกันจริง ๆ เล่นเอาทุกคนอิจฉาตาร้อนในความรักของสองเรา ถึงเราทั้งสองอาจไม่ได้เป็นคนสุดท้ายของกันและกัน แต่ตอนนี้เรามีความสุขก็พอ.ใจแล้วล่ะค่ะ… (^_^)V

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×