ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฮองเฮาตำหนักเย็น krislay

    ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ สอง

    • อัปเดตล่าสุด 13 มี.ค. 63




    บทที่ ๒



    "นี่ไม่ใช่ข้า"
    อี้ชิงเบิกตาโตมองเงาตัวเองในกระจกก่อนที่จะยกมือขึ้นสัมผัสใบหน้าตัวเองเบาๆก่อนที่จะก้มลงมองมือของตัวเองก่อนที่เสียงเคาะประตูจะดังขึ้นทำเอาอี้ชิงสะดุ้งหันไปมองยังประตูห้องด้วยความหวาดระแวง
    "ฮองเฮาเพคะ ทรงตื่นหรือยังเพคะ"
    อี้ชิงขมวดคิ้วก่อนจะหันหน้ามองไปรอบๆหาฮองเฮาที่อีกฝ่ายเรียกหาแต่ก็ไม่เห็นมีใครอื่นนอกจากอี้ชิงที่นั่งอยู่ที่โต๊ะเครื่องแป้งเพียงลำพัง
    "ฮองเฮาเพคะ  ซื่อซื่อเข้าไปนะเพคะ"
    เสียงหญิงสาวพูดบอกโดยไม่ทันได้ตั้งตัวประตูก็ถูกเปิดเข้ามาก่อนที่ร่างเล็กของเด็กสาวนามซื่อซื่อจะเดินเข้ามาด้านในห้องเธอกวาดตามองหาผู้เป็นนายก่อนจะฉีกยิ้มออกมาเมื่อเห็นนายของเธอนั่งอยู่ที่โต๊ะเครื่องแป้ง
    "ทรงตื่นบรรทมแล้วหรือเพคะ  เมื่อคืนหลับสบายดีหรือไม่เพคะ"
    อี้ชิงขมวดคิ้วมองคนตรงหน้าที่เขาจำได้ว่าไม่เคยรู้จักหรือพบเห็นนางมาก่อน
    "เอ่อ. . .เจ้าพูดกับข้าหรือ"
    อี้ชิงถามเสียงเบาก่อนที่ซื่อซื่อจะพยักหน้าก่อนจะมองอี้หมิงด้วยความแปลกใจกับท่าทางไม่เป็นมิตรที่อีกคนแสดงออกมา
    "เดี๋ยวข้าไปยกน้ำมาให้ท่านล้างหน้าล้างตาดีกว่า"
    ซื่อซื่อว่าแล้วเดินหายออกไปก่อนจะกลับเข้ามาพร้อมกะละมังทองเหลืองใบเล็กและผ้าก่อนจะเดินมาหาอี้ชิงวางอ่างลงบนโต๊ะแล้วเดินมาเตรียมจะช่วงอี้หมิงล้างหน้าเหมือนเช่นทุกวันแต่อี้หมิงหรืออี้ชิงกลับเอนตัวหนียกมือขึ้นปฏิเสธ
    "ไม่เป็นไรๆข้าทำเองได้"
    อี้ชิงบอกก่อนจะกวักน้ำขึ้นมาล้างหน้าแล้วหยิบผ้าไปเช็ดหน้าเอง
    ซื่อซื่อมองอี้หมิงตรงหน้าอย่างตกใจ
    "เอ่อ. . .แม่นาง. . .ที่นี้คือที่ใดหรือ"
    อี้ชิงถามก่อนที่ซื่อซื่อจะเบิกตาโตทรุดตัวนั่งลงตรงหน้าอี้ชิง
    "ฮองเฮา!  ท่านประชวรหรือเพคะ  ให้ข้าไปตามหมอหลวงดีหรือไม่  ข้าบอกท่านแล้วแท้ๆว่าเมื่อคืนอาการเย็นให้ท่านรีบพักผ่อนท่านก็ไม่ฟัง"
    อี้ชิงสะดุ้งอีกครั้งมองเด็กสาวที่นั่งอยู่ตรงหน้าอย่างตกใจรวมถึงมือเล็กๆที่กุมมือของเขาอยู่แบบนี้อีก  
    แล้วเมื่อกี้  นางเรียกเขาว่าฮองเฮา?
    "ข้าไม่ใช่ฮองเฮาของเจ้าหรอกนะ  ข้าชื่ออี้ชิง อยู่ที่หมู่บ้านเห่ยหลาน"
    ซื่อซื่อขมวดคิ้วก่อนจะยกมือจับเนื้อจับตัวอี้ชิงอย่างเป็นห่วง
    "ตัวท่านก็ไม่ได้ร้อน  หรือว่าเมื่อคืนท่านจะไข้ขึ้นจนตื่นมาจำอะไรไม่ค่อยได้"
    ซื่อซื่อว่าก่อนที่อี้ชิงจะส่ายหน้า
    "ไม่ใช่ๆ เมื่อคืนข้าสบายดี  แต่แปลก  เมื่อคืนข้านอนอยู่ที่บ้านดีๆแล้วเหตุใดกัน ข้าถึงมาอยู่ที่นี้ได้  ข้าละเมอเดินจากบ้านมาที่นี้งั้นหรือ"
    อี้ชิงเอียงหน้าน้อยๆอย่างสงสัยแล้วมองซื่อซื่อที่ทำหน้าตาตื่นตกใจอยู่ตรงหน้าเขา
    "ตกลงที่นี้คือที่ใดกัน"
    "ฮองเฮาเพคะ  ที่นี้ก็คือวังหลวง ตอนนี้พวกเราก็อยู่ที่ตำหนักเย็นไงเพคะ"
    ซื่อซื่อตอบก่อนที่อี้ชิงจะขมวดคิ้ว
    "วังหลวง?"
    ซื่อซื่อพยักหน้า
    "ตำหนักเย็น?"
    เด็กสาวพยักหน้าอีกครั้งก่อนที่อี้ชิงจะลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกไปข้างนอก
    "ฮองเฮาจะไปไหนเพคะ"
    ซื่อซื่อรีบลุกวิ่งตามไปก่อนจะหยุดมองอี้ชิงที่ยืนนิ่งค้างอยู่ที่หน้าประตู
    อี้ชิงมองสิ่งก่อสร้างตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตามองสิ่งรอบตัวช้าๆก่อนจะหันมามองซื่อซื่อที่ยืนอยู่ด้านหลัง
    อี้ชิงหยิกแขนตัวเองทีหนึ่งก่อนที่จะเบ้หน้าเพราะความเจ็บ
    "ข้าไม่ได้ฝัน"
    "เพคะ"
    "แม่นาง  ข้าไม่ใช่ฮองเฮาของเจ้าจริงๆนะ"
    อี้ชิงพูดบอกดวงตากลมเอ่อคลอไปด้วยน้ำตา
    "จะไม่ใช่ได้อย่างไรเพคะ  ก็ที่นี้เป็นตำหนักที่กักบริเวณท่านเอาไว้"
    "เจ้าเชื่อข้าเถอะ  ฮึ่ก  ข้าอยากไปหาท่านย่า"
    อี้ชิงพูดบอกพร้อมกลั้นสะอื้น ที่นี้ไม่ใช่บ้านของเขา 
    "พาข้าไปหาท่านย่าที"
    "ท่านย่าของท่านเสียไปตั้งหลายปีแล้ว  ไปหาไม่ได้หรอกเพคะ"
    "ท่านย่ายังไม่ตาย  ก็เมื่อคืนท่านยังเรียกให้ข้าเข้านอนอยู่เลย"
    "ท่านอาจจะป่วย  ข้าว่าท่านกลับไปพักผ่อนสักหน่อยดีไหมเพคะ"
    ซื่อซื่อบอกก่อนจะพยุงพาอี้ชิงที่ร้องไห้กลับเข้าห้อง
    "ข้าอยากกลับบ้าน  กลับไปหาท่านย่า  ไปหาน้องๆ"
    "ท่านออกไปไม่ได้เพคะ  ถ้าไม่มีรับสั่งจากฝ่าบาทท่านก็ออกไปไหนไม่ได้เพคะ"
    ซื่อซื่อตอบก่อนจะที่อี้ชิงจะนั่งลงบนเตียงใบหน้าสวยเต็มไปด้วยน้ำตาที่ไหลเปรอะเปรื้อนโดยที่อี้ชิงไม่สนใจจะเช็ดมันออกส่วนซื่อซื่อเมื่อเห็นนายเหนือหัวร้องไห้เสียใจก็ทำได้เพียงกุมมือเล็กของอี้ชิงเอาไว้ก่อนจะหันไปหยิบผ้ามาซับน้ำตาให้อี้ชิงเบาๆ
    "อย่าร้องไห้ไปเลยเพคะ ข้าว่าท่านพักผ่อนอีกสักหน่อยอาจจะดีขึ้น"
    ซื่อซื่อพูดบอกก่อนที่อี้ชิงจะพยักหน้าแล้วล้มตัวลงนอนส่วนซื่อซื่อก็ยกผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวอี้ชิงเอาไว้ก่อนที่อี้ชิงจะหลับตาลงช้าๆส่วนซื่อซื่อเมื่อเห็นอี้ชิงหลับไปแล้วก็เดินออกไป
    อี้ชิงค่อยๆลืมตาขึ้นแล้วมองเพดานเตียงนอนนิ่งๆได้แต่ปลอบใจตัวเองว่านี้เป็นเพียงแค่ความฝัน เมื่อเขาตื่นขึ้นมาเขาจะอยู่ที่บ้านได้เจอท่านย่าและน้องๆทั้งสองของเขา







    ************




    ตื่นขึ้นมาภาพตรงหน้าก็ยังคงเป็นตำหนักเย็น ห้องบรรทมของฮองเฮาที่อี้ชิงไม่รู้จัก
    "ท่านย่า ข้าอยากกลับบ้าน"
    อี้ชิงหันมองไปรอบตัวอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไปดี ในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยทำให้อี้ชิงหวาดกลัวและยิ่งร่างกายนี้ไม่ใช่ของเขาอีกทำให้อี้ชิงอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่แล้วร่างกายของเขาละอยู่ที่ไหน 
    เขาต้องหาความจริงและตอนนี้เขาต้องหาทางกลับไปหาท่านย่าและน้องๆให้ได้ไม่รู้ว่าตอนนี้พวกเขาเป็นอย่างไรและร่างกายของเขาตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง
    อี้ชิงลุกขึ้นยืนก่อนจะตรงไปเปิดประตูก่อนจะหันมองไปรอบๆก็ไม่พบใครดูท่าตำหนักเย็นแห่งนี้จะมีเพียงฮองเฮาและสาวใช้ที่เขาเจอไปตอนเช้าแน่ๆ
    เมื่อเห็นว่าไม่มีคนอี้ชิงก็รีบออกจากห้องกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปตามทางเดินที่จะพาเขาออกไปจากที่แห่งนี้
    จากตำหนักที่ทรุดโทรมเปลี่ยนเป็นทางเดินเแสนโอ่อ่าทำเอาอี้ชิงที่ไม่เคยได้เห็นมองด้วยความตกตะลึงกับความยิ่งใหญ่สวยงามและความหรูหราถึงแม้จะเป็นเพียงทางเดินเพื่อไปที่ไหนสักทีในวังหลวงแค่ทางเดินยังทำให้อี้ชิงอดชื่นชมในความงามนี้ไม่ได้ก่อนที่อี้ชิงจะเดินไปหลบหลังต้นไม้เมื่อมีเหล่าทหารเดินตรวจตราผ่านมา
    ดวงตากลมมองตามเหล่าทหารไปเมื่อเห็นว่าปลอดคนอี้ชิงก็ออกเดินอีกครั้งเขาไม่รู้หรอกว่าที่เขากำลังเดินไปนี้จะไปทางไหนแต่เขาก็ไม่อยากรออยู่ที่ตำหนักเย็นอะไรนั้น เขาจะหาทางกลับไปที่บ้านให้ได้



    เวลาเดียวกัน ที่ตำหนักเย็น
    เวลาเกือบเที่ยงหลังจากที่ซื่อซื่อปล่อยให้อี้หมิงนอนพักผ่อนอีกครั้งหลังจากที่อี้หมิงพูดจาแปลกๆกับเธอเมื่อช่วงเช้าและตอนนี้เธอก็เตรียมอาหารเที่ยงไว้แล้วและถึงเวลาที่เธอจะไปปลุกอี้หมิง
    เมื่อเดินไปถึงหน้าห้องฮองเฮา ซื่อซื่อก็อดแปลกใจไม่ได้เมื่อเห็นว่าประตูห้องนอนของอี้หมิงถูกเปิดทิ้งไว้ก่อนที่ซื่อซื่อจะรีบวิ่งเข้าไปดูในห้องเพราะกลัวเกิดอะไรขึ้นกับผู้เป็นนาย
    "ฮองเฮาเพคะ  ฮองเฮาเพคะ"
    ซื่อซื่อร้องเรียกอย่างตกใจเมื่อบนเตียงไม่พบผู้เป็นนายก่อนที่ซื่อซื่อจะเดินดูรอบห้องก็ไม่เจอก่อนที่เธอจะรีบวิ่งไปบอกให้คนอื่นไปช่วยกันหาอี้หมิง



    หลายชั่วยามต่อมา
    อี้ชิงยังคงหาทางออกจากที่นี้ไม่ได้
    "ท่านย่าฮึ่ก"
    อี้ชิงยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาที่แก้มเมื่อเขาเดินมาหลายชั่วยามตั้งแต่เช้าที่แดดยังไม่แรงจนตอนนึ้พระอาทิตย์ตั้งตรงหัวเขาพอดีแปลว่าตอนนี้เวลาเที่ยงแล้วพร้อมๆกับความร้อนที่เพิ่มขึ้นเรื่อย
    เขาร้อนและหิวเพราะตั้งแต่ตื่นมาเขาก็ยังไม่ได้กินอะไรจนถึงตอนนี้น้ำสักหยดก็ไม่ตกถึงท้อง  ทางออกอยู่ที่ไหนก็เขาก็ไม่รู้
    เดินไปเดินมาจนไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ส่วนไหนของวังหลวง
    "วังหลวงทำไมถึงใหญ่เช่นนี้  แล้วเมื่อใดข้าจะได้กลับบ้านฮึ่ก"
    อี้ชิงหยุดเดินยืนร้องไห้ให้กับตัวเอง เขาไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไปแล้วจะให้เดินไปถามทหารเขาก็กลัวว่าจะถูกจับถูกลงโทษเลยได้แต่เดินไปตามทาง ตามสัญชาตญาณของตัวเองและไม่รู้ว่าเมื่อไรเขาถึงจะเจอทางออกและได้กลับบ้าน



    ร่างสูงในชุดสีทองปักลวดลายมังกรหยุดมองร่างเล็กที่ยืนหันหลังร้องไห้อยู่ตรงหน้าเขาเขาเห็นอีกคนตั้งแต่เดินมาได้สักพักแล้วแต่น่าจะเพราะอีกฝ่ายเดินนำหน้าอยู่เลยไม่รู้ว่าเขาเดินมาดูจากชุดอี้ฝานไม่รู้ว่าอีกฝ่ายอยู่ฝ่ายไหนหรืออาจจะเพิ่งเข้าวังมา
    "ฝ่าบาทจะให้ทำอย่างไรดีพ่ะย่ะค่ะ"
    ขันทีคนสนิทเอ่ยถามเมื่อเห็นอี้ฝานหยุดยืนมองสักพักแล้ว
    "ไปถามสิว่าเขาเป็นคนฝ่ายไหน  หากไม่รู้ทางเจ้าก็ให้คนพาไปส่งเสีย"
    "พ่ะย่ะค่ะ"
    ขันทีคนสนิทโค้งรับก่อนจะเดินไปหาอีกฝ่ายตามรับสั่ง


    "เจ้าเป็นคนฝ่ายใดเหตุใดถึงมายืนอยู่ตรงนี้"
    อี้ชิงสะดุ้งเมื่อมีคนเข้ามาทักก่อนที่อี้ชิงจะหันไปมองตามเสียงก็เจอชายวันกลางคนในชุดสีเขียวเข้มยืนอยู่ก่อนที่อีกฝ่ายจะเบิกตากว้างเมื่อเห็นหน้าอี้ชิงแล้วหันไปมองทางด้านหลังก่อนที่อี้ชิงจะหันไปมองตามก็เจอกับร่างสูงที่มีใบหน้างดงามราวกับเทพในชุดมังกรสีทองยืนอยู่


    อี้ฝานขมวดคิ้วมองเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายหันหน้ามา
    "อี้หมิง?"
    อี้ฝานพึมพำชื่อของฮองเฮาที่เขากักบริเวณที่ตำหนักเย็นเอาไว้แล้วเหตุใดตอนนี้อีกฝ่ายถึงมายืนอยู่ตรงนี้ได้
    "เหตุใดเจ้าถึงมาอยู่ที่นี้"
    อี้ฝานเดินเข้าไปถามยิ่งทำให้อี้ชิงหวาดกลัวเพราะเขาไม่รู้จักใครสักคนถึงแม้ร่างสูงตรงหน้าเขาจะมีใบหน้าที่งดงามขนาดไหนแต่เพราะอะไรบางอย่างทำให้อี้ชิงหวาดกลัวจนร่างกายสั่นเทาอย่างคุมไม่อยู่
    อี้ฝานมองอี้หมิงที่ตอนนี้มีร่างกายซูบผอมและเสื้อผ้าที่ใส่อยู่ก็ทำให้อี้ฝานต้องหันไปมองขันทีคนสนิทเพราะดูจากผ้าที่อีกฝ่ายใส่ไม่ต่างจากผ้าขี้ริ้วเลย
    "ข้าถาม"
    "ข้า. . .ไม่รู้"
    อี้ชิงตอบเสียงเบาได้แต่ก้มหน้ามองพื้นไม่กล้าเงยหน้ามองใครทั้งนั้นเขากลัวจนตอนนี้ห้ามน้ำตาไม่ให้ไหลไม่ได้
    "ข้าสั่งกักบริเวณเจ้า  แต่เจ้าก็ยังฝ่าฝืนคำสั่งออกมาแบบนี้  เจ้าไม่กลัวโดนลงโทษหรืออย่างไร"
    "ฮึ่ก. . .ข้าไม่รู้  ข้าไม่รู้ฮือ"
    อี้ชิงปล่อยโฮออกมาเขาไม่รู้อะไรทั้งนั้นเขาไม่ใช่เจ้าของร่างนี้  เขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับที่แห่งนี้เลยด้วยซ้ำขนาดชื่อของคนตรงหน้าเขายังไม่รู้เลยและไม่เคยเห็นอีกด้วย
    "ไม่รู้ได้อย่างไร  คำสั่งที่ข้าสั่งไปเจ้าก็ได้ยินทุกคำ  หรือเพราะว่าเจ้าคิดว่าข้าจะไม่ทำอะไรเจ้าอี้หมิง"
    "ข้าไม่ใช่อี้หมิง ฮึก  ข้าไม่ใช่อี้หมิง"
    อี้ชิงเงยหน้าขึ้นพูดแย้งออกไปเพราะเขาไม่ได้ชื่อนี้  เขาชื่ออี้ชิง
    "จะไม่ใช่ได้อย่างไร เจ้าคืออี้หมิง ฮองเฮาที่ข้าสั่งกักบริเวณอยู่ที่ตำหนักเย็นก็คือเจ้า"
    อี้ฝานพูดตอบเสียงแข็งเมื่อเห็นอีกฝ่ายเอาแต่ร้องไห้และพูดแต่ว่าไม่ใช่อี้หมิงจะไม่ใช่ได้อย่างไร  ตรงหน้าเขาก็คืออี้หมิงฮองเฮาที่เขาสั่งกักบริเวณอยู่ที่ตำหนักเย็นเขาจำได้ถึงแม้อีกฝ่ายจะไม่ได้อยู่ในชุดผ้าแพรหรูหราเหมือนเมื่อก่อนและซูบผอมไปมากแต่เขาก็ยังจำอีกฝ่ายได้
    "ข้าไม่ได้ชื่ออี้หมิงฮึก  ข้าไม่ใช่อี้หมิง"
    อี้ชิงพูดบอกพร้อมกับตบหน้าอกตัวเองไปด้วยทำไมถึงไม่เชื่อเขากันละ ว่าเขาไม่ใช่อี้หมิงอะไรนั้นเขาคือจางอี้ชิงที่โตมากับท่านย่าและน้องๆที่บ้านหลังเก่าๆบนเขาไม่ใช่ฮองเฮาอะไรทั้งนั้น
    "ท่านเชื่อข้านะ  ฮึกข้าชื่ออี้ชิงอยู่ที่หมู่บ้านเห่ยหลาน  ข้าอยู่กับท่านย่าแล้วก็น้องชายกับน้องสาว ฮึ่กท่านเชื่อข้านะข้าไม่ใช่อี้หมิงที่พวกท่านพูดถึง"
    อี้ชิงพูดบอกพร้อมกับยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาไปด้วย
    อี้ฝานหันไปมองขันทีคนสนิทอย่างขอความคิดเห็น
    "บางทีฮองเฮาอาาจะประชวรหนักจนความจำเลอะเลือนก็ได้พ่ะย่ะค่ะ"
    ขันทีคนสนิทกระซิบตอบและอี้ฝานก็คิดแบบเดียวกัน
    "ท่านเชื่อข้าเถอะนะ  ที่ข้าพูดไปคือความจริงทุกอย่างฮึก ได้โปรดพาข้ากลับบ้านที  ข้าอยากกลับบ้านฮึก"
    "ได้  ข้าจะพาเจ้ากลับ"
    อี้ฝานพยักหน้ารับก่อนที่อี้ชิงจะยิ้มกว้างออกมาแล้วโค้งให้อีกฝ่ายด้วยความดีใจ
    ก่อนที่อี้ฝานจะเดินนำตามด้วยอี้ชิงและเหล่าผู้ติดตามที่เดินตามอยู่ไม่ห่าง


    ด้วยความดีใจที่จะได้กลับบ้านทำให้อี้ชิงไม่ทันได้ดูสิ่งรอบกายว่าตอนนี้คนตรงหน้าได้พาเขามาที่แห่งใดจนกระทั่งบรรยากาศอันเย็นยะเยือกที่ทำให้อี้ชิงเริ่มมองสิ่งรอบตัวและเขาก็รู้แล้วว่าอีกฝ่ายกำลังพาเขากลับมาที่ตำหนักเย็น
    "ท่านหลอกข้า!"
    อี้ชิงหยุดเดินแล้วพูดออกมาเสียงดังทำให้อี้ฝานหยุดเดินรวมทั้งเหล่าผู้ติดตามที่มองอี้ชิงด้วยความแปลกใจ
    อี้ฝานหันหลังมามองอี้ชิงที่มองมาที่เขาด้วยความโกรธเคือง
    "ข้าหลอกอะไรเจ้า  ก็นี้คือบ้านของเจ้า"
    "ไม่ใช่  ที่นี้ไม่ใช่บ้านของข้า  ท่านหลอกข้าท่านโกหกข้า"
    "ข้าไม่ได้หลอกเจ้า"
    "ท่านโกหก"
    "ข้าไม่ได้โกหก"
    อี้ฝานตอบแล้วก้าวเข้าไปหาอีกฝ่ายแต่อี้ชิงกลับขยับถอยหนี
    "ข้าไม่เชื่อ"
    อี้ชิงส่ายหน้าก่อนจะรีบหันหลังออกวิ่งเขาต้องออกไปจากที่นี้อะไรบางอย่างบอกให้เขารีบหนีอีกฝ่ายไม่อย่างนั้นเขาจะไม่มีโอกาสอีกแล้ว
    อี้ฝานเมื่อเห็นอี้หมิงออกวิ่งก็รีบวิ่งตามตามด้วยเหล่าผู้ติดตามที่ออกวิ่งตาม
    "อี้หมิง"
    อี้ฝานร้องเรียกร่างเล็กเสียงดังเมื่อเห็นร่างเล็กล้มลงไปกับพื้นก่อนที่อี้ฝานจะรีบเข้าไปประคองอีกฝ่ายขึ้นมาอย่างยากลำบากเพราะอี้หมิงหมดสติไปแล้ว
    "อี้หมิง  อี้หมิง"
    อี้ฝานเรียกพร้อมกับใช้หลังมือตีแก้มเนียนเบาๆก่อนจะพบว่าอีกฝ่ายตัวร้อนและมีรอยแดงที่หน้าผากหน้าจะเกิดจากที่ล้มลงไปเมื่อกี้
    "ไปตามหมอหลวง"
    อี้ฝานพูดสั่งก่อนจะช้อนตัวอี้ชิงขึ้นอุ้มเพื่อพากลับไปที่ตำหนักเย็น











    ***************************
    บทที่สองมาแล้วค่าา
    ขอบคุณสำหรับคอมเม้นมากๆเลยนะคะ

    เจอกันตอนหน้าค่า


    SNAP
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×