FAN BOY
"มึงทำอะไรวะ?" คนถูกเรียกสะดุ้งสุดตัว มือเรียวรีบเลื่อนเม้าส์โน้ตบุ๊คให้เคอเซอร์ไปอยู่ตรงรูปกากบาทสีแดงแล้วกดปิดทันที....แบบมีพิรุธสุดๆ
"รีบปิดหนีแบบนี้แม่งยิ่งน่าสงสัยว่ะ มึงแอบทำอะไรมึงบอกกูมาเลยดีกว่าโอเซฮุนอย่าให้กูต้องแย่งโน้ตบุ๊คมึงมาแล้วเช็คประวัติเองว่ามึงเข้าเว็บอะไรเมื่อกี๊"
"เลวละมึง..." โอเซฮุน เจ้าของรูปร่างสูงโปร่ง ผิวสีขาวจัด ริมฝีปากสีแดงนิดๆโดยธรรมชาติ เปิดปากด่าเพื่อนแค่เพียงนิดเดียวก่อนจะหอบโน้ตบุ๊คของตัวเองลุกหนีไปนั่งมุมอื่นในห้องสมุดของมหาวิทยาลัย
"อ้าวเชี่ยเซฮุนครับ...มึงด่ากูแบบนี้แล้วก็ยังไม่ยอมบอกกูอยู่ดีว่ามึงทำอะไรเมื่อกี๊หมายความว่ายังไงวะ? เฮ่ย! รึว่ามึงแอบดูคลิปเกย์ในห้องสมุด!!!!" สายตาของคนเกือบทั้งชั้นหันมามองสองเพื่อนซี้ที่เถียงกันเป็นตาเดียวเพราะคำว่าคลิปเกย์แค่คำเดียวนั่นแหละ ถ้าสะบัดตีนขึ้นมาก่ายบนหน้าผากได้เซฮุนก็คิดว่าจะทำอยู่เหมือนกัน
แต่เอาเถอะ.....
โดนมองแบบนี้มาจนชินละ.....
ก็ตั้งแต่เปิดตัวว่าชอบผู้ชายด้วยกันนั่นแหละ.....
"โถๆๆ แค่กูไม่ยอมช่วยมึงแค่นี้ถึงกับต้องประชดชีวิตมาดูคลิปเกย์สนองนี้ดเลยหรอวะ? คือกูก็เข้าใจน่ะนะว่ากูหล่อ กูสมาร์ท กูเท่ ใครๆก็อยากจะควงกูทั้งนั้น...."
"ถุย..." น้ำเสียงเรียบๆที่เปล่งออกมาไม่ได้ดังมาก ลำพังน้ำเสียงอย่างเดียวยังไม่เท่าไหร่แต่ไอ้อาการมองตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วมองจากเท้าขึ้นไปจรดหัวก่อนจะส่ายหน้าเอือมๆของโอเซฮุนนี่มันอะไรรรรรรรรรร!
"กูสงสารรูหูกูที่ต้องทนฟังอะไรอุบาทว์ๆที่ออกมาจากปากมึง เพราะงั้นกูบอกมึงก็ได้ว่ากูทำอะไร" หน้าจอโน้ตบุ๊คที่ถูกหันมาทำให้เพื่อนของเซฮุนถึงกับทำหน้าเอือม
"ไอ้ห่านี่อีกละ มึงจะอะไรกับมันนักเนี่ย มีอะไรดีวะ ดำก็ดำ หล่อก็ไม่หล่อ สู้กูไม่ได้เลยแม้แต่น้อย"
อยากจะพูดว่าถุยอีกซักรอบ...
"กูรักของกู คนอย่างมึงไม่เข้าใจอะไรแบบนี้หรอกครับควาย" เป็นอีกครั้งที่เซฮุนทำเพื่อนแทบหงายหลัง..
เซฮุนหันกลับไปนั่งกดเซฟรูปของ 'คิมจงอิน' หนึ่งในกลุ่มนักร้องทรีโอที่กำลังมีชื่อเสียงอยู่ในขณะนี้อย่างมีความสุข เรียกได้ว่าเมินเพื่อนโดยสมบูรณ์แบบเลยทีเดียวแบบนี้
“โห..ไอ้ ไอ้ ไอ้ ไอ้เวรเอ๊ย มึงเห็นผู้ชายที่จับต้องไม่ได้ดีกว่าเพื่อนรักมึงหรอวะ!?” เซฮุนยังคงตั้งอกตั้งใจเมินเพื่อนต่อไปไม่ว่าเพื่อนของเค้าจะทำหน้าหมาหงอยหรือโวยวายยังไงก็ไม่อาจทำให้ร่างโปร่งละสายตาออกจากเหล่าบรรดารูปของจงอินได้เลย
เซฮุนรู้สึกชอบจงอินตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นแล้ว ก่อนจงอินจะได้เดบิวต์เป็นศิลปินด้วยซ้ำไป...แค่เพียงเห็นในทีเซอร์ไม่กี่วินาทีก็ทำเอาคนนิ่งๆแบบโอเซฮุนหัวใจหยุดเต้นไปครู่หนึ่งแล้วกลับมาเต้นใหม่อย่างไม่เป็นจังหวะ
ก็ใจเต้นรัว ใจเต้นโครมคราม หัวใจสะดุดตีลังกา แบบที่ชาวบ้านเค้าเรียกกันนั่นแหละ...
ไม่เคยคิดเหมือนกันว่าจะมาแพ้เอาคนที่มองๆไปก็ธรรมดา ไม่ได้หล่อมากหรืออะไร คนส่วนมากก็มองแค่ว่าจงอินเป็นคนผิวเข้มแตกต่างจากคนอื่นๆในวงที่มีแต่ขาวจั๊วะกันทั้งนั้น
อะไรบางอย่างในตัวจงอินที่ทำให้เซฮุนชอบได้มากมายขนาดนี้ อะไรบางอย่างนั้น...เซฮุนก็ยังหาคำตอบได้ไม่เจอ...
ตั้งแต่ที่รู้สึกใจเต้นรัวคราวนั้นเซฮุนก็ติดตามผลงานของจงอินตลอด ทั้งในเว็บแฟนคลับและบางครั้งก็ถึงกับตามไปยังงานต่างๆด้วย แต่ไม่มีครั้งไหนเลยที่มีโอกาสได้เข้าไปใกล้ๆจนถึงระยะที่เอื้อมถึง...
บางครั้งเซฮุนก็คิดว่าตัวเองโรคจิตหน่อยๆ...เพราะระหว่างคำว่าศิลปินกับแฟนคลับ มันควรจะเป็นแค่ความชื่นชม อาจมีความเป็นห่วงผสมมาด้วยนิดหน่อย แต่กับความรู้สึกของเซฮุนนั้นมันไม่ใช่...ไม่ใช่เลยแม้แต่นิดเดียว จริงอยู่ว่าเซฮุนชื่นชมในตัวของจงอินมาก แต่นอกเหนือจากความชื่นชมมันแฝงอะไรไว้มากมาย
ทุกครั้งที่ดูคลิปแฟนแคม...เซฮุนจะเกิดความรู้สึกแปลกๆขึ้นมา เค้าอยากเป็นคนที่ได้เดินเคียงข้างจงอิน .. ได้เดินจับมือกันแน่นอนว่าเซฮุนต้องเคยเล่าความรู้สึกเหล่านี้ให้เพื่อนสนิทฟังและคำพูดที่ได้รับกลับมาก็คือ
“มึงโรคจิตแล้วครับโอเซฮุนไอ่หมอนั่นมันเป็นคนดังจะตาย นายก็เป็นผู้ชายจะไปเป็นแบบนั้นกับมันได้ยังไงวะ?” อันที่จริงมันก็ถูกล่ะนะ...... แต่เซฮุนก็ปฏิเสธความรู้สึกของตัวเองไม่ได้จริงๆ
ขอซักครั้งนึงเถอะที่ได้กอด...
“มึง...ยังไหวอยู่ป่ะวะ? กูเห็นมึงนั่งมองค้างรูปนี้แล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่มานานแล้วนะเฮ่ย!” ร่างโปร่งสะดุ้งเล็กน้อย แล้วเมื่อมองเห็นว่าภาพที่ตัวเองวางเคอเซอร์ค้างไว้เป็นภาพจงอินเด้งเป้าพอดีก็แทบสำลักน้ำลายตัวเองตาย
“แค่กแค่ก” เสียงหัวเราะร่วนพร้อมกับแรงลูบที่หลังนี่ไม่ใช่สิ่งที่เซฮุนต้องการเลยในเวลานี้ เค้าอยากมุดดินหนีกลับหอไปให้รู้แล้วรู้รอด
“มึงหมกมุ่นกับจงอินขนาดนี้เลยหรอวะ ฮ่าๆๆๆ นี่ไม่ใช่ว่าเวลาแบบนั้นมึงก็ต้องดูรูปมันไปด้วยหรอกนะ”
“เลวอีกละมึง...” ก็แค่มีรูปติดกับฝาผนังเอาไว้ปลายเตียงแค่นั้นเองเถอะ...ให้ตาย...
“มึงว่ากูไปงานแฟนไซน์หรือหาไปฟรีฮักดีวะ?” หลังจากหายสำลักและกลับเข้าสู่ระบบปกติของตัวเองได้ เจ้าของร่างโปร่งก็นั่งคิดอยู่นานแล้วจึงเอ่ยปากถามเพื่อนสนิทอย่างขอความคิดเห็นและทำใจไปพร้อมๆกันว่าคงโดนแขวะมาอีกตามเคย แต่ถึงแขวะมาเค้าก็ไม่สนใจอะไรอยู่แล้ว
“ไปแม่งให้หมดเลยดิวะ จะเลือกทำเพื่อ?”
แปลกแฮะ........ไม่แขวะ
“มึงนี่มันแปลกคนจริง...งั้นวันมะรืนนี้กูจะไปฟรีฮัก”
“กอดให้ตัวมึงจมเข้าไปในตัวมันเลยนะมึง แล้วก็สูดกลิ่นมันมาเยอะๆ เอาตัวไปถูๆมันด้วยกลิ่นมันจะได้ติดมาเสร็จแล้วมึงก็ไม่ต้องซักชุดที่มึงใส่ไปวันนั้น เก็บเอาไว้ดมไงมึง....เป็นไงไอเดียกูบรรเจิดมั้ย?” บรรเจิดจนน่าตบกะโหลกให้ร้าวเลยทีเดียวแหละ
ดูแต่ละอย่างที่คิดมา........ไอ่นี่มันโรคจิตกว่าเซฮุนอีกมั้ย
“มึงโรคจิตกว่ากู”
####################################
“โอ้ยย กูจะใส่ชุดไหนดีอ่ะมึง” ภาพที่ร่างโปร่งยืนเลือกชุดที่ถูกใจไม่ได้ซักทีและภาพที่เสื้อผ้ากองอยู่เต็มห้องแบบนี้มันช่างเหมือนในละครที่นางเอกกำลังจะได้ไปเดทกับพระเอกเป็นครั้งแรกเสียจริงๆ
“กูล่ะอยากเอาตีนก่ายหน้าผาก มึงขนออกมาจะหมดตู้อยู่แล้วครับควายยยยยย ใส่ชุดไหนก็ใส่ไปเถอะ ดูดีหมดนั่นแหละแม่ง” ใช่....เพราะธรรมดาเซฮุนก็เป็นคนที่ดูแลตัวเองและมีรสนิยมในการเลือกใส่เสื้อผ้าอยู่แล้ว
ปกติก็ไม่เห็นมันต้องกังวลเรื่องชุดขนาดนี้นะ...
แต่เพราะครั้งนี้จะไปฮักจงอินเป็นครั้งแรกน่ะสิเลยตื่นเต้นได้ขนาดนี้....
“กูขอแนะนำให้มึงใส่เสื้อที่มึงไม่ค่อยชอบใส่ เพราะพอได้กอดจงอินสุดที่รักของมึงแล้วจะได้ไม่ต้องเอามาใส่อีก เอาไว้แขวนโชว์เป็นเสื้อแห่งความทรงจำไง ก๊ากกกกกกกกกกกก” เซฮุนตวัดสายตามามองค้อนเพื่อนทันที แต่เสียใจด้วยนะจ๊ะ....ไอด๊อนท์แคร์อยู่แล้ว
“กูใส่ตัวนี้ก็แล้วกัน”
“สลัดผัก โคตรพ่อโคตรแม่น่ารักเลยครับคุณเพื่อนโอเซฮุน มึงกะอ่อยมันใช่มะใส่แบบนี้”
เสื้อยืดคอวีสีฟ้าอ่อนลายมิคกี้เม้าส์กับกางเกงยีนส์เดฟนิดๆเนี่ยนะ...อ่อย? นี่มันธรรมดาที่สุดแล้วนะเฮ้ยยย
“สมองมึงมีปัญหาป่ะ? กูไปนะเดี๋ยวไม่ทัน” แล้วเซฮุนก็รีบร้อนออกไปเลย
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป...
ตื้ดตื้ด..
“ว่าไงเพื่อนรัก” คนนอนกระดิกขาดูทีวีรับโทรศัพท์ด้วยความเกียจคร้านอย่างถึงที่สุด แต่น้ำเสียงร้อนรนจากปลายสายที่โทรมาโวยวายก็ทำให้เค้าทั้งขำทั้งสงสาร
((โอ๊ยแม่ง กูเซ็ง...ทำไมต้องจัดแถวแบบนี้ด้วยอ่ะ ทำไมจงอินไม่ไปยืนเป็นคนสุดท้ายวะ! ทำไมต้องมายืนเป็นคนแรกอ่ะ กูไม่เข้าใจ โว้ยยยย เซ็ง!))
“เดี๋ยวครับมึง มึงใจเย็นๆ แล้วทำไมล่ะกูไม่เข้าใจเหมือนกัน ทำไมต้องอยากให้จงอินไปยืนเป็นคนสุดท้ายวะ?”
((..................จะได้ไม่ต้องกอดใครทับรอยของจง.......อินไง...........)) ตื๊ดๆๆ แล้วสายก็ถูกตัดไป แต่เพื่อนสนิทของเซฮุนคนนี้ก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก นอนดูทีวีต่อไปสบายใจเฉิบ
“เมื่อกี๊บอกว่ายังไงนะครับ?” นี่ล่ะสาเหตุที่ทำให้เซฮุนต้องวางสายกะทันหันเมื่อกี๊
คิมจงอินตัวจริงเสียงจริง!!!! ทำไมมาอยู่แถวนี้ได้วะ!?
“ค...คือ...แบบ....เอ่อ....ผม เปล่าครับ เอ้อใช่ๆ ไม่ครับ ไม่ได้พูดอะไร” จงอินมองภาพอีกคนพยายามปฏิเสธด้วยรอยยิ้ม...พูดติดอ่างขนาดนี้ หน้าก็แดงขนาดนั้น แถมยังเอาแต่แลบลิ้นเลียปากตัวเองแบบคนทำอะไรไม่ถูกเข้าไปอีก
เด็กอนุบาลยังดูออกเลยนะว่าอีกฝ่ายกำลังโกหกอยู่น่ะ...
“แต่ผมว่าผมได้ยินว่าคุณอยากให้ผมไปยืนเป็นคนสุดท้ายแล้วก็อะไรนะ...ทับรอยๆอะไรนี่แหละ” แกล้งหยอกไปอย่างนั้นแหละ อันที่จริงจงอินคนนี้ได้ยินทุกอย่างแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย ไม่เคยคิดเหมือนกันว่าจะมีแฟนบอยแบบนี้ เพราะเค้าไม่ได้น่าเป็นที่หมายปองของผู้ชายเลย...ไม่ใช่แบคฮยอนเพื่อนร่วมวงของเค้าซักหน่อย
......อ๊ากกกกกกกกกกก นี่เค้าได้ยินหมดแล้วหรอเนี่ย ทำยังไงดีโอเซฮุนทำยังไงดี....... เซฮุนคิดในใจอย่างลนลานแล้วหลับตาปี๋ตอนที่เห็นจงอินอ้าปากจะพูดอะไรบางอย่าง
“ผมต้องขึ้นเวทีแล้ว...แล้วเมื่อกี๊นี้ก็ขอโทษด้วยที่แกล้งหยอกให้คุณเขินมากขนาดนี้” จงอินหันกลับเดินไปทางเวทีแล้ว แค่นี้ก็เขินมากพออยู่แล้วยิ่งได้ยินเสียงที่ลอยมาตามลมเบาๆแต่ชัดเจนนั่นอีก...
“เชียร์ผมดังๆด้วยล่ะ”
โอเซฮุนขอลาตาย ณ วินาทีนี้........
ท่ามกลางผู้คนมากมายและเสียงดนตรีดังกระหึ่ม แม้จะโดนเบียดเสียดไปบ้างแต่มินิไลฟ์บนเวทีที่มีคิมจงอินยืนอยู่บนนั้น....ทำให้เซฮุนไม่นึกอยากบ่นเลยสักนิด.... เสียงทุ้มที่เหมือนดังอยู่ข้างหูยังคงย้ำชัด ‘เชียร์ผมดังๆด้วยล่ะ’ เพราะประโยคนั้นประโยคเดียวเลยแท้ๆที่ทำให้เซฮุนยืนโยกไปตะโกนร้องเพลงตามแถมด้วยแฟนชานท์อย่างสุดตัวแบบนี้...
เมื่อกี๊...รู้สึกเหมือนได้สบตากับจงอิน...แล้วร่างสูงนั่นก็ยิ้มออกมานิดหนึ่ง
อาห์....ให้ตายสิ...โอเซฮุนตัวร้อนหน้าร้อนจนใกล้จะระเบิดอยู่แล้ว... ไม่อยากจะคิดเข้าข้างตัวเองเลยจริงๆว่าจงอินยิ้มให้ แต่เพราะมันเป็นรอยยิ้มติดจะขำน่ะสิ แล้วในอาณาบริเวณนี้ก็มีแต่พวกผู้หญิงทั้งนั้น ส่วนพวกผู้ชายก็มีบ้างแต่ก็นั่นแหละ...ผู้ชายพวกนั้นไม่ได้มาให้กำลังใจจงอินหรอก ดังนั้นขอคิดเข้าข้างตัวเองไปก่อนก็แล้วกันว่าร่างสูงยิ้มให้โอเซฮุนคนนี้
จงอินไม่ใช่นักร้องเสียงหลัก...สิ่งที่ร่างสูงทำได้ดีก็คือการเต้น...การเต้นที่ทรงพลังและมีเสน่ห์ดึงดูดจนไม่สามารถละสายตาออกไปได้นั่น ยังไม่นับรวมที่จงอินสามารถแร็ปได้อีกด้วย ..ทั้งหมดนั้นล้วนแต่เป็นสิ่งที่เซฮุนชอบเหลือเกิน
สบตาอีกแล้ว...ถึงจะแค่แว้บเดียวแต่คราวนี้เซฮุนแน่ใจว่าสบตากันแน่ๆ
เพราะอะไรน่ะหรอ....?
ก็เพราะว่าจงอินชี้มาที่เซฮุนเลยน่ะสิ กลางท่อนแร็ปของตัวเองนั่นแหละ
โอเซฮุนกำลังจะเป็นบ้าตาย ใครจะไปนึกว่าคิมจงอินจะขี้เล่นเหมือนเด็กน้อยได้มากขนาดนี้ ถึงจะอายุเท่ากันกับเซฮุนแต่ด้วยหลายๆอย่างทำให้เหมือนจงอินจะโตกว่า แต่...ตอนนี้เซฮุนคงต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ซะแล้วล่ะ
คิมจงอินน่ารักสุดๆไปเลย...
“เอาล่ะครับ จบกันไปแล้วนะสำหรับมินิไลฟ์ ต่อไปก็คงถึงช่วงเวลาที่ใครหลายๆคนในที่นี้รอคอยนั่นก็คือช่วงของการฟรีฮักนะครับ แต่เราคงต้องให้ศิลปินพักเหนื่อยกันซักครู่นึงก่อน รอสักครู่นะครับ” ระหว่างที่ศิลปินลงไปนั่งพักเหนื่อยกันด้านหลัง ด้านหน้าเหล่าบรรดาแฟนคลับก็วุ่นวายเล็กน้อยถึงปานกลาง เพราะจำเป็นต้องจัดแถวเดินเรียงขึ้นไปกอดศิลปิน อันที่จริงเวลาที่ได้กอดมันก็แค่ไม่กี่วินาที...แต่สำหรับเซฮุน...มันคุ้มแสนจะคุ้ม และหลายๆคนในที่นี้ก็คงคิดเหมือนกัน
จำนวนคนในงานวันนี้จำกัดอยู่ที่ไม่กี่สิบคน....คงกลัวศิลปินโดนกอดจนช้ำซะก่อนล่ะมั้ง....
เซฮุนยืนรอให้ศิลปินกลับขึ้นมาบนเวทีอีกครั้ง ตามลำดับที่ยืนไล่จากซ้ายไปขวาก็จะเป็น จุนมยอน แบคฮยอน แล้วก็ จงอิน ซึ่งทางขึ้นเวทีมันขึ้นทางขวา และก็ต้องเดินจากขวาไปซ้าย TT โอเซฮุนเจ็บหัวใจ ได้กอดเป็นคนแรกก็ดี แต่ถ้าคนสุดท้ายมันจะดีกว่านะ
ศิลปินเดินขึ้นมาประจำที่แล้ว....และโดยไม่คาดคิดระหว่างที่พิธีกรกำลังประกาศกติกาการกอด ซึ่งเซฮุนไม่ได้ฟังซักเท่าไหร่เพราะมัวแต่มองจงอินอยู่ อยู่ดีๆจงอินก็เอื้อมไปสะกิดหลังจุนมยอนซึ่งยืนอยู่ทางซ้ายสุดแล้วพูดโดยไม่ออกเสียงว่า
‘แลกที่กัน’
โอ้ พระเจ้าครับ...ช่วยมารับผมไปที.... เซฮุนยืนเม้มปากแน่นด้วยความเขินสุดกำลัง ถ้าจงอินจะขี้เล่นและอยากแกล้งหยอกให้เค้าอายอีกล่ะก็...ประสบความสำเร็จอย่างงดงามเลยล่ะคราวนี้
“ไง...ได้กอดผมเป็นคนสุดท้ายแล้วนะ” เซฮุนที่ยืนลังเลว่าจะเข้าไปกอดจงอินก่อนดีหรือไม่โดนร่างสูงดึงเข้าไปกอดไว้ซะแล้วรู้สึกได้ว่าปลายคางของตัวเองกระแทกโดนไหล่อีกคนเบาๆด้วย..แล้วก็รู้สึกเหมือนจะแน่นกว่าที่คนอื่นๆกอดซะด้วยสิ “ไม่มีใครมาทับรอยผมแล้ว” น้ำเสียงกลั้วหัวเราที่พูดเบาๆก่อนจะปล่อยให้เซฮุนเดินลงจากเวทีไปแบบมึนๆ
“คนขี้แกล้ง..” ถึงจะว่าเขาไปแบบนั้นแต่เซฮุนก็เดินจับคางตัวเองไปจนถึงหอเลยทีเดียว...
######################################
“อือหือ ตั้งแต่วันนั้นที่มึงได้มีการปฏิสนธิ เอ้ย ปฏิสัมพันธ์กับจงอินสุดที่รักมาเนี่ย กูยังไม่เห็นวันไหนที่มึงอารมณ์เสียเลยนะครับโอเซฮุนเพื่อนรัก” มันก็จริงอย่างที่เพื่อนเค้าว่านั่นแหละ จากวันที่ได้กอดจงอินมามันก็เกือบสัปดาห์นึงอยู่แล้ว แต่เซฮุนยังคงอารมณ์ดีอย่างต่อเนื่องแบบนี้นี่มันชักจะกู่ไม่กลับแล้วล่ะแม้กระทั่งเจ้าตัวก็ยังรู้สึก
“อืม...บางที....กูอาจจะชอบจงอินแบบ...จริงๆจังๆก็ได้ว่ะ”
“โอ้พระเจ้าช่วยเถอะครับ คุณเพื่อนเพิ่งจะรู้ตัวหรือยังไง? มึงอ่ะตกหลุมรักมันตั้งแต่เห็นหน้ามันครั้งแรกละ เกินคำว่าแฟนคลับไปนานละมึงอ่ะ อย่างมึงมันต้องคำนี้เว่ย แฟนครับบบบบบบบบบบบบบบบ”
“พอเลย....แม่ง....”
“เขินอ่ะดิ”
“...............เออ” ใบหน้าที่เริ่มแดงระเรื่อขึ้นน้อยๆฟุบลงกับท่อนแขนตัวเองกลบเกลื่อนความอาย เพราะหลักฐานมันขึ้นมากองเด่นชัดอยู่บนแก้มแดงๆทั้งสองข้างนี้แล้วน่ะสิ
ให้ตายเถอะ....จะให้เขินจนตัวแตกตายไปเลยรึไงนะคิมจงอิน?
“เออ..พรุ่งนี้ไปแฟนไซน์นี่หว่า ไม่ใช่หรอ?” เซฮุนพยักหน้ารับคำน้อยๆ ช่วงนี้งานของจงอินมีค่อนข้างถี่ อย่างเมื่อวันก่อนก็เพิ่งไปให้สัมภาษณ์วิทยุมา เซฮุนไม่ได้ตามไปดูหรอกติดเรียน แต่สำหรับวันพรุ่งนี้...โอเซฮุนคนนี้ไม่พลาดแน่นอน
แน่ล่ะ.....ซื้ออัลบั้มมามากขนาดนี้ เขาไม่จับได้ชื่อโอเซฮุนก็แปลกแหละ......
“เตรียมชุดยังคุณมึง?” มองตามมือเรียวที่ชี้ไปยังชุดที่เตรียมไว้แล้วก็ถึงกับต้องทำหน้าแบบนี้ =__=” มันมีอะไรแตกต่างจากเสื้อยืดคอวีสีฟ้าลายมิคกี้เม้าส์ที่ใส่ไปงานฟรีฮักมากมายไม่ทราบ.....?
“ต่างจากเสื้อวันนั้นยังไงวะ? แม่ง...คอวีสีฟ้า...เปลี่ยนแค่ลาย แค่เนี้ย? คิดว่าสุดที่รักมึงจะเบื่อป้ะ?” คนปากแดงส่ายหน้ากวนๆ แล้วหันไปนั่งเซฟรูปวันงานฟรีฮักต่อ เครดิตนี้เพิ่งจะมาลงรูปแบบ HD วันนี้สดๆร้อนๆ
“แต่มันก็เหมาะกะมึงดีว่ะ รูปเป็ดสีเหลือง ฮ่าๆๆๆๆ ...เฮ่ย! นั่นมันรูปมึงรึเปล่าวะเซฮุน?” เซฮุนมองรูปที่เพื่อนตัวเองชี้อยู่แล้วก็ตาโตตกใจ รูปเค้ากับจงอินตอนกอดกันกลม(?)นี่ รู้สึกว่าบรรยากาศในรูปมันดูละมุนมาก ไม่รู้ตัวเลยว่าตอนนั้นแผ่ออร่าละมุนออกมาขนาดนี้ แล้วเจ้าของเครดิตเค้าก็ช่างเลือกรูปมาลงนะ... ตอนจงอินกอดกับคนอื่นก็มีแต่เบลอหน้าเอาไว้
แล้วไยรูปของโอเซฮุนจึงไม่เบลอหน้าเล่าครับ!!!!
ท่าทางจะถ่ายมาแบบเยื้องๆ เห็นหน้าเซฮุนไม่ค่อยชัดแต่ถ้าคนรู้จักมองดูก็จะรู้ว่าเป็นใคร โอ้ย......เซฮุนขอลาตายสักครู่
“ฮ่าๆๆๆ สมใจมึงแล้วสิคราวนี้ ท่าทางเจ๊เจ้าของเครดิตนี้เค้าจะรู้ว่ะว่ามึงชอบจงอิน ผู้หญิงสมัยนี้เซ้นส์แรงเป็นบ้าแถมยังบ้าอยากให้ผู้ชายได้กันเองอีก โลกมันเปลี่ยนจริงๆว่ะ”
วันรุ่งขึ้น...
งานแฟนไซน์
“เขียนชื่อของคุณไว้ในโพสต์อิทนะครับและแปะในหน้าที่ต้องให้ศิลปินแต่ละคนเซนต์ ศิลปินจะได้เซนต์ให้ถูกคน ถามคำถามได้คนละหนึ่งข้อต่อศิลปินหนึ่งคน เขียนใส่กระดาษนะครับเพื่อความรวดเร็วเรามีเวลาจำกัดนะครับ” แต่ละคนที่ได้มางานแฟนไซน์ครั้งนี้กำลังตั้งใจทำตามเงื่อนไขอย่างขะมักเขม้น บางคนก็ชะเง้อคอมองหาตัวศิลปินซึ่งอยู่ตรงไหนเซฮุนเองก็ไม่รู้เช่นกัน ตั้งแต่เข้ามาในนี้เค้ายังไม่เห็นศิลปินเลยซักคน
เอ๋..? เมื่อกี๊เหมือนเห็นอะไรแว้บๆ.. เซฮุนเพ่งมองไปแถวๆหลังเวทีที่ยกระดับขึ้นมาจากพื้นพอสมควรแล้วก็เห็นเป็นจงอินที่ผลุบๆโผล่ๆชะโงกหน้าออกมามองก่อนจะโดนใครสักคนดึงตัวกลับเข้าไป
“เด็กน้อยชัดๆ....อ่าห์....” ยิ้มจนแก้มจะแตก แทบหุบไม่ลง....
“ได้เวลาแล้วครับ ขอเสียงต้อนรับศิลปินของเราในวันนี้” ทั้งเสียงปรบมือและเสียงกรี๊ดดังแข่งกันจนหูเซฮุนเกือบแตก แต่ไม่เป็นไรคิดอยากจะเป็นแฟนครับ เอ้อ...แฟนคลับของจงอินต้องอดทนให้ได้
คนเริ่มทยอยเดินขึ้นไปบนเวทีเพื่อรับลายเซ็นแล้วก็พูดคุยนิดๆหน่อยๆกับศิลปินส่วนเซฮุนนั้นอยู่คิวกลางๆคงอีกสักพักกว่าจะได้ขึ้นไป เค้าจึงนั่งมองจงอินไปเพลินๆ
“เธอ ดูจงอินสิ วันนี้ก็นั่งทางฝั่งซ้ายอีกแล้วอ่ะ แปลกเนอะตั้งแต่วันฟรีฮักแล้วที่สลับที่กับจุนมยอนน่ะ” ประโยคสนทนานี้ลอยมาเข้าหูเซฮุนที่นั่งอยู่ด้านหน้าของหญิงสาวสองคนนั้นพอดีทำเอาเซฮุนอดจะเงยหน้าขึ้นไปมองจงอินแบบพิจารณาไม่ได้ ...จะเป็นไปได้ยังไง...จงอินคงจำเราไม่ได้หรอก
“วันนี้ลายเป็ดสีเหลืองหรอครับ? น่ารักดีนะ...โอเซฮุน” จงอินเงยหน้ามายิ้มให้และแวะมองลายเป็ดบนเสื้อของเซฮุนเล็กน้อยก่อนจะก้มลงไปเซนต์ลายเซ็นให้ แล้วก็คงถือโอกาสอ่านชื่อไปด้วยนั่นแหละ..
“จำผมได้หรอ?”
“จำได้อยู่แล้วล่ะ...อาห์...เรียบร้อยแล้วครับ ขอบคุณที่มา” จากนั้นทั้งคู่ก็ได้เชคแฮนด์กันก่อนที่เซฮุนจะเดินลงจากเวทีไป ร่างโปร่งยกแผ่นกระดาษที่เขียนคำถามถามจงอินเอาไว้ขึ้นมาอ่านด้วยมือสั่นน้อยๆ
คุณชอบคนแบบไหน...?
นั่นคือคำถามที่เซฮุนตัดสินใจเขียนถามจงอินไป.....
ลายมือตวัดเล็กน้อยเขียนตอบมาเพียงสั้นๆว่า
‘ you ‘
The End.
Talk ; อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก-//////////////////////////////////////- เขินจงอินราวกับตัวเองเป็นเซฮุนซะเอง 555555555555555 แต่งเข้าไปได้ยังไงเนี้ยคิเขินง่อว์ น้องไคใจง่ายเนอะอิอิ ขอบคุณสำหรับทุกคนที่สนใจเข้ามาอ่านฟิคไคฮุนของตวงเรื่องนี้นะคะ อย่าตบที่จบแบบนี้นะ 5555 ยังไงก็ฝากผลงานฟิคเรื่องอื่นๆด้วย ในเร็ววันนี้ไม่แน่ว่าอาจจะแต่งฟิคยาวมาลง ก็จะยังคงเป็นไคฮุนเหมือนเดิม ช่วยรักแล้วก็เอ็นดูไคฮุนมากๆด้วยนะคะ อย่าลืมเม้นท์น้า
อ่านแล้วยิ้มแก้มจะแตก!!!!
ฟินนนนนน
คือฟินมากกกกกกกกกกกกกกกกกก ตายแปป
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 14 กันยายน 2556 / 15:56
แก้ไขครั้งที่ 2 เมื่อ 14 กันยายน 2556 / 15:56
คิมจงอินนน ที่นายนั่งฝั่งซ้ายหลังจากวันฟรีฮักตลอดนี่แปลว่ารอเซฮุนตลอดเลยปะะะะ
ถ้าคิมจงอินจะปี๊งโอเซฮุนแต่แรกเห็นขนาดนี้ หุๆๆๆ
ดีแล้วละค่ะที่จบตรงนี้ เพราะให้ต่อจากนี้นี่เรื่องมันต้องดราม่าแน่ อยากฟินต้องจบตรงนี้เท่านั้น ฮ่าาาา
แต่จนแล้วจนรอดเพื่อนเซฮุนนี่ใคร? ชานยอลม้ะ จงอินขี้แกล้งนะ คิคิ
บอกเลยได้ว่าฟินตัวแตกกกกกก จงอินน่ารักน่าฟัดไปอ่ะฮืออออออ-/////////////-
พอจะเข้าใจฟิลของฮุนอ่ะว่ารู้สึกยังไงง ปริ่มแทน
จุดนี้ขอไม่ทนได้มั้ย ไม่ทนนนนนนน
หน้าเค้าร้อนมากเลยนะ ตอนอ่านเนี่ย >//0//<
น่ารักมากกกกกกกกก ชอบมากเลยจ้า
อินนี่รุกน้องฮุนหนักมาก อิๆ ชอบน้องแล้วอ่ะดิ อร๊ายยย ><
จงอินน่ารักมาก