[SF] คนนี้...ผมขอ !!! >> ToNo*Ritz - [SF] คนนี้...ผมขอ !!! >> ToNo*Ritz นิยาย [SF] คนนี้...ผมขอ !!! >> ToNo*Ritz : Dek-D.com - Writer

    [SF] คนนี้...ผมขอ !!! >> ToNo*Ritz

    เรื่องราวระหว่างสองหนุ่ม โตโน่และริท เรื่องราววุ่นวายน้อยๆกำลังจะเกิดขึ้น เข้ามาอ่านกันเยอะๆนะคะ

    ผู้เข้าชมรวม

    1,202

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    1.2K

    ความคิดเห็น


    8

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  15 มิ.ย. 53 / 12:13 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    Warning :: เรื่องต่อไปนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้แต่ง มิได้เกิดขึ้นจริงแต่อย่างใด ถ้าใครที่รับกับการจิ้นแบบนี้ไม่ได้ก็กดปิดไปเลยค่ะ ไม่ว่า ... ok?
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      Title :: [SF] คนนี้...ผมขอ !!!
      Couple :: ToNo*Ritz   (*68)
      Rate :: PG-13
      Author :: TuangMi
      Warning :: เรื่องต่อไปนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้แต่ง มิได้เกิดขึ้นจริงแต่อย่างใด ถ้าใครที่รับกับการจิ้นแบบนี้ไม่ได้ก็กดปิดไปเลยค่ะ ไม่ว่า ... ok?
       
      ~~!!~~
       
      “ อะไรอ่ะ พี่โตโน่ ไหนพี่ว่าจะมารับผมไง ผิดสัญญาอีกแล้วนะ ” เด็กหนุ่มขนาดพกพานามว่า ริท บ่นกับปลายสายด้วยอาการหงุดหงิดที่ ‘พี่โตโน่’ ซึ่งสัญญากับเค้าไว้ว่าจะมารับกลับบ้านพร้อมกันตอนเย็นทุกวัน ดันผิดสัญญาวันนี้เป็นวันที่สองติดกัน
       
      “ ก็ได้ๆ ถ้าพี่ติดธุระจริงๆล่ะก็ ผมกลับบ้านเองก็ได้ แต่ว่าพรุ่งนี้ต้องมารับผมนะ ห้ามเบี้ยว ” ท่าทางว่าคำตอบที่ได้รับจะน่าพอใจไม่น้อย ดูจากรอยยิ้มที่เริ่มประดับบนใบหน้าของริทแล้วน่ะนะ
       
      “ พี่หนิ ผมไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ จะได้ง้อด้วยการพาไปกินไอติมอ่ะ “ ถึงจะว่าอย่างงั้นอย่างงี้ แต่ริทก็ยังยิ้มอยู่ดี และด้วยเหตุนี้ล่ะมั้ง ริทถึงได้ขึ้นรถกลับบ้านด้วยรอยยิ้มผิดจากเมื่อวานที่หน้าบูดสนิทจนคนเป็นแม่แปลกใจ
       
      “ พี่เค้าไม่ได้ไปรับแล้วทำไมดูอารมณ์ดีจังล่ะลูก ”
       
      “ ไม่รู้สิครับ”
       
      “ อ้าว ยังไงฮึลูกคนนี้ ไปๆ ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วลงมากินข้าวนะลูกนะ ” ริท ทำตามที่แม่บอกโดยไม่บ่นซักคำ ยิ่งสร้างความแปลกใจให้คนเป็นแม่มากขึ้นไปอีก
       
      “ แปลกจริง “
       
      ~~!!~~
       
      “ ฮัลโหล ตัวเล็กอยู่ตรงไหนครับ พี่มาถึงหน้าโรงเรียนแล้วนะ “ โตโน่ จอดรถรอคนตัวเล็กอยู่หน้าโรงเรียน แต่ยังไม่เห็นวี่แววว่าคนตัวเล็กจะออกมาซักที ก็เริ่มร้อนใจ
       
      “ อยู่ข้างหลังครับ ”
       
      “ หืมม หลังโรงเรียนหรอครับ? “
       
      “ ข้างหลังพี่ต่างหากเล่า “ ริทเดินอ้อมรถมอเตอร์ไซค์มาจ๊ะเอ๋โตโน่ข้างหน้า ทำเอาโตโน่ตกใจแทบตกจากรถ
       
      “ แกล้งพี่หรอเนี่ย แสบนักนะเรา เดี๋ยวจะโดนไม่ใช่น้อย ” โตโน่มองภาพคนตัวเล็กยิ้มทะเล้นใส่อย่างหมั่นไส้ก่อนจะคาดโทษเอาไว้ในใจ แค้นนี้ต้องชำระ!
       
      “ ผมเปล่าแกล้งนะ พี่เข้าใจผิดเองต่างหาก แล้วไหนว่าจะพาผมไปกินไอติมไง ” ริทเริ่มทวงสัญญาที่คนตรงหน้าให้ไว้เมื่อวาน แต่คิดหรอว่าหลังจากโดนแกล้งแล้วโตโน่จะยอมพาไปกินไอติมดีๆ
       
      “ อะไร แกล้งคนอื่นเค้าแล้วยังกล้าทวงสัญญาอีกหรอเนี่ย? “
       
      “ พูดงี้ไม่สวยนะพี่โตโน่ เมื่อวานสัญญาซะดิบดี “ แต่จนแล้วจนรอด โตโน่ก็พาริทไปกินไอติมอยู่ดีนั่นแหละ
       
      “ ดีเลย จะกินให้พี่โตโน่หมดตัวเลยคอยดู “ ริทดูท่าทางหมายมั่นปั้นมือมาก จนโตโน่อดที่จะแซวเล็กๆไม่ได้ “ เปลี่ยนจากกินไอติมเป็นกินอย่างอื่นไม่ได้หรอครับ? “ ฟังเผินๆดูไม่มีอะไร แต่ถ้าลองมองตาคนพูดดูแล้วล่ะก็จะรู้ได้ทันทีว่าคนพูดมัน ... ทะลึ่ง!!!
       
      “ อะไรของพี่เนี่ย ผมไม่พูดกะพี่แล้ว จะกินไอติม ” ฝ่ายคนตัวเล็กน่ะเหรอหน้าแดงไปถึงใบหูแล้ว จึงได้แต่พูดแก้เขินไปส่งๆ ไม่รู้ทำไมเวลาอยู่กับ ‘พี่ชาย’ คนนี้ทีไรต้องเขินต้องใจสั่นทุกทีสิน่า เมื่อประสบผลสำเร็จในการแกล้งคนตัวเล็กแล้วโตโน่จึงก้มลงกินไอติมในส่วนของตัวเองบ้าง ไม่รู้ทำไมเค้าถึงได้ชอบแกล้งคนตัวเล็กนัก ชอบที่จะมองใบหน้าหงุดหงิดปนเขินที่คนตัวเล็กแสดงออกมา
       
      โตโน่กับริท รู้จักกันมานานเนื่องจากบ้านของทั้งคู่อยู่ใกล้กันและพ่อแม่ของทั้งคู่ก็ยังสนิทกันมาก แถมโตโน่ยังเคยเป็นรุ่นพี่ที่โรงเรียนและพี่บัดดี้ในชมรมของริทอีกต่างหาก จะไม่ให้สนิทกันยังไงไหว
       
      “ ตัวเล็ก โกรธพี่หรอครับ? “ เป็นเรื่องแล้วไง เมื่อริทไม่ยอมคุยกะโตโน่แม้แต่คำเดียว (นี่ก็ขยันงอนเค้าซะจริง :: ตวงมี่) (ก็แล้วใครแต่งให้เป็นงี้ล่ะ?? :: พี่ริท) (O.O :: ตวงมี่)
       
      ~~!!~~
       
      “ ตัวเล็ก .. พี่ขอโทษ ” ง้อกันจนถึงบ้านเลยทีเดียว แต่วันนี้ริทไม่ยอมใจอ่อนเหมือนเคยแฮะ จนโตโน่เริ่มใจเสีย
       
      “ เดี๋ยวพี่โทรหานะครับ ” เมื่อง้อไม่ได้ผล และคนตัวเล็กก็เดินห่างไปทุกที โตโน่จึงตะโกน แต่ก็ไม่ได้ทำให้ริทมีปฏิกิริยาตอบโต้ขึ้นมาได้ ...
       
      “ เป็นไรอ่ะพี่โตโน่ งอนกันกะพี่ริทอีกละหรอ? “ น้องสาวของโตโน่ถามขึ้นเมื่อเห็นใบหน้าหงอยๆของพี่ชายเดินเข้ามาในบ้าน โตโน่ทำเพียงพยักหน้าเบาๆแล้วเดินขึ้นบ้านไป
       
      “ เราไปทำอะไรให้ริทโกรธวะ? “ แล้วโตโน่ก็กลับมานั่งคิดทบทวนว่าวันนี้เค้าทำอะไรให้คนตัวเล็กไม่พอใจตอนไหน ไม่ใช่ตอนแหย่เล่นที่ร้านไอติมแน่ๆเพราะปกติเค้าก็แหย่กันอย่างงี้อยู่แล้ว คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก จนสุดท้ายโตโน่ตัดสินใจโทรหาริทตามที่ได้บอกกับริทไว้
       
      .
      .
      .
       
      .. ฮัลโหล .. น้ำเสียงราบเรียบซะจนโตโน่อึ้งค้างอีกรอบ ตัวเล็กไม่เคยทำเสียงกะเค้าอย่างงี้ ถ้างอนก็แค่ทำเสียงงุ้งงิ้งๆ แสดงว่าครั้งนี้เค้าโดนโกรธของจริง - -
      “ ตัวเล็ก ทานข้าวเย็นรึยังครับ? “ ต้นสายพยายามทำตัวตามปกติ แม้ว่าอีกคนจะผิดปกติมากมายก็ตาม
      .. ยัง แม่กำลังทำ ..
      “ ตัวเล็ก พี่ถามจริงๆ เราเป็นอะไรไป โกรธพี่เรื่องอะไรก็บอกพี่มาสิครับ ทำอย่างงี้พี่ไม่เข้าใจเราหรอกนะ “ โตโน่เริ่มใช้เหตุผลเข้าคุย แต่ดูท่าจะไม่ได้ผลแฮะ
      .. ผมไม่สำคัญขนาดให้พี่มาสนใจหรอก แล้วผมก็ไม่ได้โกรธผมไม่ได้เป็นอะไร อ้อ ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ไปพี่ไม่ต้องมารับผมแล้วนะ ผมโตแล้วกลับเองได้ สวัสดีครับ ..
       
      ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด ...
       
      โตโน่งุนงงกับท่าทางของคนตัวเล็กอย่างมากจนเริ่มโมโหขึ้นมานิดๆ แต่ก็พยายามข่มอารมณ์ลงอย่างยากเย็น ... วันนั้นโตโน่ไม่กินข้าวเย็น และก็ตั้งใจแน่วแน่ว่าพรุ่งนี้จะไปรับริทเหมือนที่เคยทำ
       
      โตโน่มาถึงหน้าโรงเรียนนานแล้ว และนี่ก็เลยเวลากลับบ้านของริทมานานแล้วด้วย แต่เค้าก็ยังไม่เห็นวี่แววของริทเลย จึงตัดสินใจโทรหา
       
      .. ฮัลโหล ..
      “ ตัวเล็ก กลับบ้านรึยังครับ? “
      .. กลับแล้ว ถึงนานแล้ว “
      “ ทำไมล่ะครับ ทำไมไม่ให้พี่มารับเหมือนเดิม “
      .. ก็บอกแล้วว่าผมโตแล้ว ..
      “ แต่ตัวเล็ก ... “
      .. หมดเรื่องแล้วใช่มั้ยครับ ผมจะได้ไปกินข้าวซะที ..
      “ ... “
      .. สวัสดีครับ .. ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าริทจะทำกับเค้าขนาดนี้ ไม่มีเหตุผลเลยซักนิด ปล่อยไว้อย่างงี้มีแต่เค้านี่แหละจะบ้าตาย ยังไงวันนี้ก็ต้องคุยกันให้รู้เรื่อง!
       
      “คุณป้าครับ ตัวเล็.. เอ่อ ริทอยู่มั้ยครับ? “ โตโน่ตัดสินใจไปเคลียร์กันถึงที่บ้านของริท แต่กลับเจอแม่ของริทแทน
       
      “ อยู่บนบ้านน่ะลูก ทะเลาะอะไรกันหรอ? ริทไม่ยอมกินข้าวมาสองวันแล้วนะลูก ” ฟังแล้วโตโน่ก็ตกใจตาโตแทบถลน ไหนริทบอกกับเค้าว่าแม่รอกินข้าวอยู่ .. สรุป นั่นก็เป็นแค่ข้ออ้างสินะ ข้ออ้างที่จะได้ไม่ต้องคุยกับเค้า
       
      “ ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันครับว่าริทเป็นอะไร ผมทำอะไรให้เค้าโกรธผมก็นึกไม่ออก แต่เค้าเย็นชากับผมมากๆเลยนะครับคุณป้า ” แม่ของริทมองหน้าโตโน่แล้วถอนหายใจยาวออกมา
       
      “ พรุ่งนี้วันเกิดป้า ถ้ายังไงโน่มากินข้าวด้วยกันนะลูก ” ฟังข้อเสนอแล้วโตโน่อยากจะตอบตกลงซะเดี๋ยวนั้น เพราะแน่ล่ะเค้าอาจจะได้คุยกับริท แต่อีกใจก็กลัวจะมาทำให้งานกร่อย
       
      “ จะดีหรอครับ ”
       
      “ ดีสิลูก แม่ชวน ริทว่าไม่ได้หรอก ชวนแม่โน่มาด้วยนะ “ โตโน่จึงพยักหน้ารับแล้วก็กลับบ้านไปด้วยความหนักใจ
       
      “ ริท ออกมาได้แล้วมั้งลูก แอบฟังน่ะไม่มีมารยาทเลยนะ ” ริทจึงค่อยโผล่หน้าออกมาตรงราวบันไดแล้วยิ้มแหยๆให้แม่
       
      “ เรานี่ไม่ไหวเลยนะ ทำให้แม่โกหกคนอื่นเค้าเนี่ย “
       
      “ แหม แม่ก็ช่วยผมหน่อยสิครับ “ ใบหน้าของริทดูอิ่มเอิบดี !?
       
      .
      .
      .
       
      วันรุ่งขึ้น ...
       
      “ สุขสันต์วันเกิดนะครับคุณป้า “ โตโน่และครอบครัวมาถึงแล้ว ความจริงก็เป็นแค่การกินข้าวร่วมโต๊ะกันธรรมดาแต่อาจจะมีอาหารเยอะอยู่ซักหน่อย โตโน่มองหาริทก่อนเป็นอันดับแรก เมื่อไม่เจอก็รู้สึกผิดหวังไม่น้อย จนถูกน้องสาวสะกิดด้วยศอกนั่นแหละถึงรู้สึกตัวแล้วหันไปตามสายตาที่น้องสาวมองอยู่ จึงได้เห็นริทนั่งชิงช้าหน้าบ้านอยู่คนเดียว
       
      “ ผมขอตัวก่อนนะครับ “ แต่พอไปใกล้ๆ โตโน่จึงได้เห็นว่าที่จริงริทนั่งอยู่กับใครอีกคน ... ใครอีกคนที่โตโน่ไม่รู้จัก ที่สำคัญ ดูท่าทางสนิทสนมกันมาก ริทยิ้มแย้มตลอดเวลาที่คุยกับใครคนนั้น ภาพที่เห็นทำให้โตโน่รู้สึกแปลกๆ ทั้งเสียใจ ทั้งโมโห จนห้ามตัวเองไม่อยู่
       
      “ ริท มากับพี่เดี๋ยวนี้ “ แล้วริทก็โดนลากดุ่มๆขึ้นไปบนบ้านโดยที่โตโน่ไม่แคร์สายตาใครทั้งสิ้น เมื่อมาถึงห้องนอนของริทโตโน่ก็ดันริทเข้าไปแล้วปิดประตูลงกลอนแน่นหนา ไม่ให้คนตัวเล็กหนีไปไหนได้
       
      “ มันเป็นใคร? “ ลงกลอนเสร็จโตโน่ก็หันกลับมาถามริททันที
       
      “ มันไหน “
       
      “ ก็คนที่นายคุยด้วยเมื่อกี๊ไง “ ริทพยายามแกะมือของโตโน่ออก แต่ยิ่งแกะก็ยิ่งแน่นสุดท้ายริทจึงยอมให้โตโน่จับมือของตนไว้อย่างงั้น
       
      “ ไอซ์ .. ทำไม? “ ความอดทนของโตโน่หมดลงแล้ว เค้าผลักริทลงไปบนเตียงแล้วตามไปคร่อมเอาไว้
       
      “ ทำไมงั้นหรอ? “     “ อื้อ!” รสจูบที่รุนแรงด้วยอารมณ์โมโหถูกส่งไปให้ริทแบบไม่มีผ่อนแรง ริททั้งดึง ทั้งผลักให้โตโน่ลุกออกไป แต่ก็ไม่สำเร็จ .. เวลาผ่านไปนานขนาดไหนไม่รู้ รู้เพียงแค่ว่าตอนนี้ริททำได้แค่เพียงเกาะไหล่โตโน่ไว้เท่านั้น
       
      “ พี่ทำแบบนี้ทำไม .. ฮะ! ทำทำไม ถ้าไม่รู้สึกอะไรกับผมแล้วทำกับผมแบบนี้ทำไม? “ ริทถามคนที่คร่อมตนไว้ไม่ยอมลุกไปไหนแม้จะถอนริมฝีปากออกไปแล้วด้วยน้ำตา โตโน่ปาดน้ำตาทิ้งให้คนตัวเล็ก ก่อนจะทิ้งตัวลงไปกอดริทไว้แน่นๆถึงจะโดนริททุบแรงขนาดไหนก็ไม่ปล่อย
       
      “ ใครบอกว่าพี่ไม่รู้สึกอะไรกับตัวเล็กครับ พี่รักตัวเล็กนะ แล้วที่พี่ทำไปก็เพราะพี่หึงมากไปหน่อย พี่ไม่อยากให้ตัวเล็กทำท่าทางสนิทสนมกับคนอื่นแบบนั้นเลย พี่เสียใจนะครับ พี่ขอโทษ “ ริทหยุดทุบคนข้างบนตั้งแต่ได้ยินคำว่ารักแล้วล่ะ แต่เปลี่ยนมาเป็นกอดแน่นๆแทน
       
      “ พี่อย่าแกล้งผมนะ ผมไม่เล่นด้วยหรอก ฮึกๆ “ โตโน่ลูบหลังคนตัวเล็กอย่างปลอบโยน ก่อนจะดันตัวออกเล็กน้อย
       
      “ พี่ไม่ได้แกล้งครับ พี่พูดจริงๆ ไม่เล่นด้วย “ ริท โดนบังคับให้สบตากับโตโน่ จะหันหน้าหนีก็ไม่ได้ คนตัวโตน่ะสิยึดคางเค้าไว้ไม่ยอมปล่อยเลย นั่นแหละ ริทถึงได้สบตากับโตโน่แบบไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่
       
      “ ผมไม่เชื่อพี่หรอก ” ถึงจะมีอิสรภาพน้อยนิดขนาดไหน คนตัวเล็กก็ยังดื้อจนได้สิน่า โตโน่ที่คิดอะไรออกขึ้นมาจึงยิ้มแปลกๆ ยิ่งทำให้ริทระวังตัวมากขึ้น
       
      “ พี่พูดจริงๆนะครับ พี่จะพิสูจน์ให้ดู ” พูดแล้ว ริมฝีปากบางของริทก็โดนริบไว้อีกครั้ง แต่คราวนี้อ่อนโยนมากจนริทลืมที่จะขัดขืนเลยทีเดียว
       
      “ เชื่อได้รึยังครับ? ” ริทพยักหน้าเบาๆ “ คือผมมีเรื่องจะบอกพี่ว่าความจริงแล้วผมไม่ได้โกรธอะไรพี่เลยจริงๆ ผมมันงี่เง่าเอง แล้วเมื่อวานนี้ที่พี่มาหาผม ผมก็แอบฟังตลอด แล้วผมก็ให้แม่โกหกพี่ว่าผมไม่ได้กินข้าวเลย ” โตโน่ฟังแล้วได้แต่อึ้ง นี่เค้าโดนหลอกหรอเนี่ย
       
      “ แสบไม่เปลี่ยนเลยนะเราอ่ะ “ มือหนาบีบจมูกของคนตัวเล็กเบาๆ
       
      “ เออ แล้วไอ่คนที่ชื่อ ไอซ์ นี่มันใคร? “ คราวนี้ริทหัวเราะเสียงดังแล้วก็หัวเราะนานด้วย จนโตโน่ต้องก้มลงหอมแก้มริทนั่นแหละถึงจะเริ่มเล่าได้
       
      “ เป็นลูกของลุงผม เราเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน “ แป่วววว ... หน้าแตกหมอไม่รับเย็บเลยครับ ภาคิน - - ส่วนริทก็ยังหัวเราะอยู่น้อยๆ
       
      “ ไม่ต้องมาหัวเราะเลย เราอ่ะทำให้พี่เข้าใจผิด ทำให้พี่หึง ผิดๆๆ งานนี้พี่ไม่ผิด “ ริทกลั้นหัวเราะสำเร็จแล้ว จึงได้ฤกษ์เปิดปากพูดซะที
       
      “ แต่ก็ดีแล้วนี่ครับ อย่างน้อยก็ทำให้เราเข้าใจกัน .. ไม่ใช่หรอ?? “ โตโน่มองคนที่โดนเค้าคร่อมอยู่ด้วยสายตารักใคร่แล้วจึงทำตามที่ใจต้องการเป็นครั้งที่สามของวัน
       
      “ อืม~ “
       
      “ ลงไปข้างล่างกันเถอะ “
       
      ~~!!~~
       
      เมื่อลงไปชั้นล่างแล้ว ทั้งโตโน่และริทก็ตกใจ เพราะทุกคนหันมามองเค้าสองคนเป็นตาเดียว
       
      “ เคลียร์กันแล้วหรอพี่โตโน่ “ น้องสาวตัวดีของโตโน่โพล่งถามขึ้นแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย

      “ นั่นสิลูก ไม่มีปัญหากันแล้วใช่มั้ย? “ แม่ริทก็อีกคน
       
      “ ?? “ ส่วนแม่ของโตโน่มีเพียงสายตาคำถามว่าจะเอายังไงต่อไปส่งมาให้เท่านั้น จนถึงตอนนี้โตโน่และริทเพิ่งจะรู้สึกตัวว่าพวกเค้าจับมือกันอยู่ แนบแน่นซะด้วย ... ตายละวา
       
      “ คุณป้าครับ.. “
       
      “ ว่าไงลูก? “ แม่ของริทมองมือของทั้งคู่ที่แม้จะรู้ตัวแล้วก็ยังไม่ปล่อยออกจากกันด้วยสายตากึ่งรู้ทัน
       
      “ ผมรักริท คนนี้ผมขอนะครับ “ ท่ามกลางความตกตะลึงของทุกคนรวมทั้งริทด้วย .. ขอกันดื้อๆอย่างงี้เลยหรอ? พูดตรงไปมั้ย? ใจเย็นบ้างอะไรบ้างง
       
      “ นะครับ “ แน่ะ มีไปอ้อนว่าที่แม่ยายอีก
       
      “ เรื่องของคนสองคน ลูกจัดการเองแล้วกัน แม่ไม่มีปัญหา “ เปิดทางให้กันขนาดนี้ จะเฉยทำไมล่ะครับพี่น้องงง
       
      “ ตัวเล็กครับ “
       
      “ อะ อะไรพี่โตโน่ “ ริทที่พอจะรู้ว่าตัวเองจะโดนอะไร ก็พูดติดๆขัดๆขึ้นมาทันที
       
      “ ไปคุยข้างนอกดีมั้ย? “ ริทพยายามหาทางเลี่ยงสุดๆ แต่ท่าทางจะสำเร็จยาก
       
      “ ตรงนี้แหละครับ พยานเยอะดี “ ริทมองใบหน้าของคนพูดแล้วก็รู้สึกอยากจะต่อยซักหมัด ไม่อายเค้าบ้างรึไง? ไม่ใช่จำอวดนะคร้าบบบบบบ
       
      “ เป็นแฟนกะพี่นะ? “ อาเมน... ได้ยินกันทั่วถึงเลยครับ ให้ตายเถอะ
       
      “ ริทครับบ ตอบพี่หน่อยสิ “ โตโน่เริ่มทำตัวเหมือนเด็กแปดขวบ เขย่ามือริทไปมา จนคนดูเริ่มขำ
       
      “ พี่อ่า ทำอะไรยังกะเด็กน้อย “
       
      “ ริทก็ตอบพี่สิครับ แค่ะพยักหน้าหรือส่ายหน้าก็ได้ “ ริททำท่าคิด ทั้งๆที่ในใจมีคำตอบอยู่แล้ว เวลาผ่านไปอีกอึดใจหนึ่ง ริทจึงพยักหน้าหนึ่งที ...
       
      “ เยส! “ โตโน่ดูจะดีใจเกินเหตุ จนริททนไม่ไหวหยิกเข้าไปทีนึง
       
      “ โหยตัวเล็กอ่า “
       
      “ พี่โตโน่ “ เมื่อเห็นคนพูดทำหน้าตาจริงจัง โตโน่ก็เลยพลอยเครียดไปด้วยอีกคน
       
      “ ผมรักพี่นะครับ “ จุ๊บ! ท่ามกลางพยานนับสิบคน ริทได้เขย่งปลายเท้าขึ้นแล้วจุ๊บเบาๆที่ริมฝีปากของโตโน่
       
      “ วิ้ดดดวิ้ววววว “
       
      The Happy Ending Story !!!
       
      TuangMi Talks : ฟิกเรื่องนี้แต่งสดค่ะ ๕๕๕ อาจจะไม่ดีเท่าที่ควร ยังไงก็ขอโทษด้วยนะคะ อ่านแล้วเม้นท์เป็นมารยาทที่ดี ถ้าไม่สนุกก็บอกกันได้เลย จะได้ไปปรับปรุงกันต่อไปไงคะ ^^ เจอกันอีกเมื่อชาติต้องการนะคะ แหะๆ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×