ณ โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย - ณ โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย นิยาย ณ โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย : Dek-D.com - Writer

    ณ โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย

    มาเยี่ยม มาเยือน บ้านบานเย็นของหมู่เฮา หมู่เฮายินดีจ้าดนักเจ้า...

    ผู้เข้าชมรวม

    29,812

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    16

    ผู้เข้าชมรวม


    29.81K

    ความคิดเห็น


    316

    คนติดตาม


    2
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  13 ก.พ. 50 / 19:00 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ลา....ลา....ลันลา....โห้..โฮ้

      เออ!!! เวลาผ่านเร็วกันจังน้อครับเพื่อนๆ อีกแปปเดียวก็จะจบม.6 แล้วก็จาได้เป็นศิษย์เก่ากันแว้ว เหอๆ คิดถึงเพื่อนๆๆกันแย่เลย ผมก็เป็นเด็กม.6คนนึงที่ไม่ค่อยได้ทำอะไรให้โรงเรียนเลย (อิอิ พึ่งสำนึกผิดมาก) เอาเป็นว่าวันนี้ผมจะพาเพื่อนๆๆไปเที่ยวโรงเรียนของผมกันนะครับ พร้อมกันรึยังครับถ้าพร้อมก็ตามกันมาเลย...



      ((ตราประจำโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย))

      ก่อนอื่นนะครับผมจะขอเล่าประวัติของโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย ให้เพื่อนๆฟังกันก่อนนะครับ

                โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย ที่พวกเราเหล่านักเรียนเรียกว่า "บ้านบานเย็น" ปัจจุบันโรงเรียนของเราตั้งอยู่บนที่ดินของพระเจ้าอินทรวิชยานนท์ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่องค์ที่ 7 ซึ่งเป็นที่ตั้งคุ้มหลวงในสมัยนั้น จึงทำให้โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย ตั้งอยู่บริเวณใจกลางเมืองเชียงใหม่ คนส่วนใหญ่จึงเรียกโรงเรียนยุพราชว่า "โรงเรียนกลางเวียง"

                โรงเรียนยุพราชวิทยาลัยเป็นโรงเรียนรัฐบาลแห่งแรกของจังหวัดเชียงใหม่ สถาปนาขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2432 ตามพระบรมราโชบาย ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5  โดยทรงมี พระราชประสงค์ จะให้จัดเป็นโรงเรียนตัวอย่างและฝึกอบรมกุลบุตรกุลธิดา ให้รู้ธรรมเนียมการหนังสือ และฝึกหัดลายมือ ให้ใช้เป็นเสมียนได้ วิชาคิดเลขและวิชาช่างที่เป็นประโยชน์ และธรรมเนียมต่างๆ ที่เป็นคุณแก่แผ่นดิน ยิ่งไปกว่านั้น พระองค์ก็ยังมีพระราชประสงค์จะปลูกฝังคุณสมบัติ ให้นักเรียนเป็นคนขยันขันแข็ง สะอาดทั้งร่างกายและจิตใจ เป็นสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี ซื่อสัตย์สุจริตมีอุปนิสัยใจคอดี และเป็นพลเมืองดีในที่สุด โรงเรียนหลวงที่ตั้งขึ้นมีจุดประสงค์สำคัญอีกประการหนึ่งคือ เพื่อเป็น โรงเรียนตัวอย่าง แก่โรงเรียนอื่นๆ ในเมืองเชียงใหม่ จึงมีชื่อเป็นที่รู้จักของคนสมัยนั้นว่า โรงเรียนประจำมณฑลพายัพ หรือ โรงเรียนตัวอย่างประจำมณฑลพายัพ จนกระทั่งถึงปี พ.ศ.2448 เมื่อพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 ครั้งยังดำรงพระอิสริยศเป็นสมเด็จพระบรม โอรสาธิราช สยามมงกุฏราชกุมาร ได้เสด็จประพาสมณฑลพายัพ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เสด็จเยี่ยมโรงเรียนเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ.2448ได้โปรด พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ จำนวน 500 บาท สมทบการสร้างโรงเรียน และได้พระราชทานนามโรงเรียน ที่ก่อสร้างใหม่ว่า โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย ซึ่งมีความหมายว่าเป็นโรงเรียนของสมเด็จพระยุพราช


      หากเพื่อนๆยังไม่หนำใจไปตามดูต่อได้ที่

      www.yupparaj.ac.th/

      ได้นะครับ

      อย่าพึ่งเบื่อกันละครับ เอาละครับผมจะพาเพื่อนๆเข้าไปในตัวโรงเรียนแล้วนะครับ พร้อมกันแล้วก็ไปเลยนะครับ...

                บริเวณนี้เป็นส่วนของประตูหน้าโรงเรียนนะครับทางขวามือเป็นป้ายของสมาคมผู้ปกครองและครูยุพราชวิทยาลัย ทางซ้ายมือเป็นป้ายโรงเรียนนะครับ ถัดเข้ามาก็จะเป็นป้อมยามหน้าโรงเรียนนะครับ ถือว่าเป็นปราการแรกสำหรับนักเรียนที่จะเข้ามาในโรงเรียน และเป็นปราการสุดท้ายสำหรับนักเรียนที่จะออกโรงเรียนนะครับ

        

       

      ป้อมยามหน้าโรงเรียน

      เดินถัดมาอีกหน่อยนะครับ หากเพื่อนๆมองไปทางซ้ายมือเพื่อนจะพบกับ

                อาคารประชาสัมพันธ์ร้อยปี เป็นที่ใช้ประกาศประชาสัมพันธ์ข่าวและประกาศต่างๆ หากเพื่อนๆเข้ามาแล้วสงสัยว่า เอ เสียงใสๆๆจากเสียงตามสายเป็นใครกันน้อ ไปตามดูได้ที่อาคารเนี่ยอะคับ ถัดไปข้างหลังก็จะเป็นอาคารเรียนดนตรีไทย และอาคารเรียนดุริยางค์นะครับ โห้!อาคารดุริยางค์นี้มีประวัติครับ สมัยก่อนใช้เป็นโรงช้างต้นนะครับ หากเพื่อนๆนึกไม่ออกก็ไปดูหนังเรื่องก้านกล้วยอะครับ ตอนที่จะคัดหาช้างทรงของกษัตริย์ อะครับ 

       

      อาคารประชาสัมพันธ์ร้อยปี                      อาคารเรียนดนตรีไทย

         
      อาคารเรียนดุริยางค์(โรงช้างต้น)  

      ถัดไปทางด้านหลังของอาคารเรียนดุริยางค์จะเป็นที่จอดรถจักรยานยนต์ของนักเรียนทั้งหลายทางขวาของอาคารประชาสัมพันธ์จะเป็นเจดีย์วัดหมื่นคอง ที่เวลาเดินเข้ามาดรงเรียนนักเรียนจะยกมือไหว้เพื่อความเป็นศิริมงคล เเละด้านหน้าของเจดีย์จะเป็นศาลาทรงไทยสีเเดงอิฐเป็นศาลาที่พวกพี่ๆรุ่น ศตรตา(100) สร้างไว้เป็นอนุสรณ์ เเละสร้างทดเเทนโดมหน้าเจดีย์ที่ถูกกิ่งไม้หักตกลงมาพังเสียหายตอนเกิดพายุต้นพฤษภาคม 2548 ครับ

           
      เจดีย์วัดหมื่นคอง                            ศาลาทรงไทย

      ถัดมาอีกนิดนึงละก็ โอ้!อันนี้เด็กยุพจะรู้จักกันดีนั้นคืออาคารสมาคมผู้ปกครองเเละครูยุพราชวิทยาลัย หรือเรียกสั้นๆว่า (ส.ป.ย.) ใช้เป็นที่ทำการของฝ่ายปกครอง เเละเป็นที่ๆเวลาใครเข้ามาติดต่อภายในโรงเรียน เเล้วไปไม่ถูกก็เข้ามาติดต่อที่นี้ได้ครับ ช่วงเย็นๆๆก็จะเป็นที่นั่งรอผู้ปกครองของเด็กนักเรียนครับ ส่วนด้านหลังของอาคาร ส.ป.ย. จะเป็นอาคารชั่วคราว ที่เป็นที่ทำการของ ห้องดนตรีสากล+ลูกทุ่ง อิอิ เเละห้องกิจกรรม โดยที่ทางด้านหน้าของอาคารจะเป็นถนนที่ใช้ในการจัดตลาดนัดทุกๆวันศุกร์เเรกของเดือน(ถ้าผมจำไม่ผิดนะ) ก็จะมีอาหารเเละของต่างๆมาขายมากมาย


      อาคารส.ป.ย.

      คราวนี้เรามาดูทางขวามือบ้างนะครับ เเหม่!!อันนี้ภูมิใจเสนอมากกก เป็นอาคารใหม่ล่าสุด ชื่อว่าอาคารเพชรรัตนราชสุดา(โดยนำพระนามของสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ) เป็นอาคาร
      4ชั้น

      โดยใช้เป็นโรงอาหาร ศุนย์การเรียนคอมพิวเตอร์ เเละอาคารเรียนรวม ถัดไปข้างๆอาคารเพรชรัตนราชสุดานะครับ เป็นกลุ่มอาคารโรงงานอุตสาหกรรม ที่พวกเราใช้เรียนวิชาเพิ่มเติม พวกช่างยนต์ ช่างโลหะ ช่างหินล้างหินขัด ช่างเขียนเเบบก่อส้าง เเละอื่นๆอีกมากมาย

        
        อาคารเพชรรัตนราชสุดา               กลุ่มอาคารโรงงานอุตสาหกรรม
            

      เหนื่อยกันยังครับยังไม่หมดนะครับ อิอิ เดินต่อมาอีกหน่อยนะครับจะเป็นอาคารวชิระ หรือ อาคารเรียนรวม 5 เป็นอาคาร 4 ชั้น ใช้เป็นที่ตั้งของห้องผู้อำนวยการ ฝ่ายวิชาการ ฝ่ายบริการ ฝ่ายธุรการ งานแผนงานและงานทะเบียน และยังใช้เป็นอาคารเรียนของน้องๆม.ต้นอีกด้วย

      อาคารวชิระ

      ฝั่งตรงข้ามจะเป็นสนามฟุตบอลขนาดใหญ่ และมีศาลาสหมิตร ซึ่งเป็นที่ให้ประธานพิธีชมกิจกรรมต่างๆบนสนามฟุตบอล

      สนามฟุตบอล+ศาลาสหมิตร

      เดินถัดมาอีกหน่อยจะเป็นตึกยุพราช นับได้ว่าเป็นจุดศูนย์รวมความเป็นยุพราชวิทยาลัยอยู่ในตึกนี้ทั้งหมดและเป็นตึกที่เก่าแก่ที่สุดในโรงเรียน ตึกนี้เป็นอาคาร2ชั้น ชั้นล่างเป็นส่วนของพิพิธภัณฑ์ที่แสดงประวัติของโรงเรียนยุพราช ส่วนของชั้นบนได้จัดตั้งเป็นหอวชิรวุทวิทยานุสรณ์ ประจำจังหวัดเชียงใหม่ ปะดิษฐานพระบรมสาธิตลักษณ์ของพรบามสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช พระบามสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตต์ พระบรมราชินีนาถ และผู้มีพระคุณต่อโรงเรียนมีมากมาย นับว่าเป็นความภาคภูมิใจของเหล่าพวกเราชาวบานเย็นที่สุด ด้านหน้าของตึกเป็นพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่พวกเราเคารพรักอย่ายิ่ง

      ตึกยุพราช


      พระบรมราชานุสาวรีย์ ร.6

      ถัดมาอีกหน่อยจะเป็นเรือนรัตน์ เรือนวิเชียร และเรือนเพชร

      เรือนรัตนื หรืออาคารเรียนรวม 2 เป็นอาคารหมวดภาษาอังกฤษและภาษาต่างประเทศนะครับ ประกอบไปด้วยภาษาฝรั่งเศส ภาษาจีน ภาษาญี่ปุ่นครับ เป็นอาคาร4ชั้น ชั้นล่างจะเป็นห้องพัสดุ ห้องERIC และห้องโรลเนียล เป็นอาคารเรียน และเป้นห้องเรียนประจำของนักเรียนEP(English Program)อีกด้วย คือการเรียนแบบสองภาษาอะครับ คือแบบว่าไฮโซอ่านะ อิอิ  ทางด้านภาษาต่างประเทศของเราก็ไม่น้อยหน้ากว่าโรงเรียนไหนเลยนะครับ ดูจากที่ว่า โรงเรียนยุพราชมีนักเรียนที่ไปแข่งทักษะทางภาษาอังกฤษได้ที่1ของประเทศ(เพื่อนผมเอง) มีนักเรียนทุนต่างประเทศหลายคน(1ในนั้นก็เพื่อนผม อยู่อิตาลีครับ) และตอนนี้โรงเรียนยุพราชมีนักเรียนทุนมหาวิทยาลัย APUแห่งประเทศญี่ปุ่นด้วย (1ในนั้นก็เพื่อนผม) แบบว่าภูมิใจมากๆๆเลย


      เรือนรัตน์

      อาคารวิเชียร หรือ อาคารเรียนรวม3 เป็นอาคารคณิตศาสตร์ แหะไม่อย่าพูดเพราะว่าอยากบอกว่าครูคณิตที่ยุพเนี่ยนะ แน่นๆๆเน้นๆๆทั้งนั้นเลย แบบว่าเทพลงมาโปรด ท่านเก่งงงงงงงงงงกันมากกกกก ดังนั้นจึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมจึงมีเด็กโอลิมปิกคณิตศาสตร์อยู่ที่ยุพราชด้วย 555+

      อาคารวิเชียร

      เรือนเพชร หรือ อาคารเรียนรวม 4 เป็นอาคารหมวดวิทยาศาสตร์ ประกอบไปด้วย ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา และวิทยาศาสตร์กายภาพ เป็นอาคารที่สำคัญมากกกกกอีกแห่งนึงเพราะว่า เป็นอาคารที่มีของเยอะมาก ของนั้นก็ไม่ใช่อะไร อุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์ที่แสนจะแพง และหาใช้ได้ยาก แบบว่ายุพราชครบอะนะ เรื่องอุปกรณ์ใช้ในการเรียนการสอนไม่ต้องกังวล ครบ!!! และครูที่นี่ก็แบบว่าแน่นๆๆเน้นๆๆเช่นกัน ดูได้จากโรงเรียนยุพราชในวันวิทยาศาสตร์โรงเรียนยุพราชจะส่งโครงงานวิทยาศาสตร์เข้าประกวดเยอะที่สุดในจังหวัด และมีเด็กโอลิมปิกวิทยาศาสตร์มากกกกกก(อาจจะมากที่สุดในจังหวัดมั้ง ถ้าข้อมูลผิดก็ขอโทษด้วยนะครับ)

      เรือนเพชร

      ฝั่งตรงกันข้ามกับเรือนเพชรก็จะเป็นกลุ่มอาคารพละศึกษาก็จะมีโรงยิม สนามบาส สนามวอลเลย์ สนามเทนนิส(เราเรียกกันว่า คอก) สนามตะกร้อ โดยโรงเรียนก็ส่างเสริมให้นักเรียนทุกคนเล่นกีฬาเพื่อที่จะได้มีร่างกายที่แข็งแรงทุกคน โรงเรียนเลยมีนักกีฬาหลายคนมากๆ เอาแบบว่าทั้งเรียนดี กีฬาก็เด่น โอ้ยอะไรจาน่าอิจฉาขนาดนี้

      กลุ่มอาคารพละศึกษา

      เย้!!!เสร็จครึ่งหน้าโรงเรียนไปแล้ว เหนื่อยกัยไหมครับ ถ้าเหนื่อยก็พักก่อนก็ได้ครับแต่ผมไม่เหนื่อย เอาเป็นว่าใครไม่เหนื่อยก็ตามผมมาเลยนะครับ ต่อไปเราจะไปดูอีกครึ่งหลังที่เหลือยู่นะครับก็จะมี อาคารพยาบาล100ปี เจดีย์วัดนางเหลียว ธรรมสถาน อาคารนวรัตน์ อาคารยุพราช100ปี เรือนศรีมรกต เรือนพัชระ เรือนแก้ว และเรือนรัตนมณี

      อาคารพยาบาล เป็นอาคารที่พึ่งสร้างใหม่เป็นอาคารชั้นเดียว เป็นอาคารหมวดสุขศึกษาและงานพยาบาลอยู่ในที่เดียวกัน ด้านหลังก็จะเป็นเจดีย์วัดนางเหลียว ที่พวกเราเคารพแล้วบูชา(ตอนจาเข้าม.4ผมก็ไปขอด้วยแหละ+ติดด้วย) ด้านหลังของเจดีย์ก็เป็นธรรมสถานเดิมทีเป็นวัดนางเหลียวที่ถูกปล่อยให้รกร้าง ทางโรงเรียนจึงได้ทำการบูรณะและใช้เป็นที่สอนวิชาพระพุทธศาสนา ภายในประดิษฐานพระทศพลญาณมหามุนี องศ์พระประธานวัดนางเหลียว และพระสมเด็จพระยุพราช พระพุทธรูปประจำโรงเรียน

        
      อาคารพยาบาล                               ธรรมสถาน

      เจดีย์วัดนางเหลียว

      อาคารนวรัตน์ เป็นอาคาร 3ชั้น เป็นอาคารขนาดใหญ่ ชั้นล่างใช้เป็นโรงอาหารและมีเวทีการแสดง ชั้นสองเป็นห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี  (ห้องสมุดกลาง)โดยล่าสุดได้รื้อเพื่อปรับแต่งใหม่ และชั้นสามเป็นหอประชุมขนาดขนาดใหญ่จุดคนได้ถึง1000คน ใช้ในการประกอบพิธีสำคัญต่างๆ


      อาคารนวรัตน์

      อาคารยุพราช100ปี เป็นอาคารที่สร้างเพื่อเฉลิมฉลองการพระราชทานนามโรงเรียนครบ100ปี โดยเป็นอาคาร3 ชั้นล่างใช้เป็นโรงอาหาร และร้านสหกรณ์ ชั้นสองใช้เป็นห้องเรียนวิชาพานิชกรรมต่างๆ เช่นพิมพ์ดีด ธุรกิจ การโรงแรม และบัญชี ชั้นสามเป็นห้องศูนยืคอมพิวเตอร์อีกแห่ง

      อาคารยุพราช100ปี

      อาคารศรีมรกต หรือ อาคารเรียนรวม 8 เป็นอาคารหมวดภาษาไทย หมวดนี้ไม่แพ้หมวดไหนเลย เพราะว่าด้วยคุณภาพของคณะครูที่อัดแน่น ด้วยผลงานของนักเรียนและรางวัลที่ได้จากการแข่งขันของนักเรียนต่างเป็นเครื่องประกันคุณภาพได้ว่า นักเรียนโรงเรียนยุพราชเรื่องภาษาไทยก็ไม่ได้น้อยหน้าโรงเรียนอื่นเหมือนกัน อิอิ

      อาคารศรีมรกต

      อาคารพัชระ หรือ อาคารเรียนรวม 6 เป็นอาคารที่เรียกได้ว่ารวมความสุนทรีทุกอย่างไว้ในอาคารนี้ เนื่องจากอาคารนี้เป็นอาคารของหมวดศิลปะ(โอ้โห้)และหมวดการงานพื้นฐานอาชีพ เช่น งานประดิษฐ์ งานบ้าน งานคหกรรม เป็นต้น อย่าลืมนะครับ เรียนเก่งก็อย่าลืมความสุนทรีให้แก่ชีวิตด้วยนะครับ

      อาคารพัชระ

      อาคารรัตนมณี หรือ อาคารเรียนรวม 7 เป็นอาคารหมวคสังคม ตึกนี้ดูเงียบๆนะครับเพื่อนๆ แต่ว่าเงียบแบบหมกเม๊ม อิอิ จาอะไรอีกละครับลองเข้ามาสัมผัสเองดีกว่าแล้วจะรู้ว่าหมวดสังคมของโรงเรียนเรา ไม่ใช่ย่อยเหมือนกันนะ ทั้งครูที่มีคุณภาพและตำราที่เรียกได้ว่า โอ้โห้!!!!

      อาคารรัตนมณี

      เอาละครับคราวนี้ผมภูมิใจเสนอ เรือนเเก้ว เพราะว่าอะไรอะเหรอครับ ก็เพราะว่าเรือนเเก้วนั้นมีประวัติที่สวยงาม โรงเรียนยุพราชมีอายุมากว่า100ปีแล้ว อาคารต่างๆที่ถูกสร้างมาแต่แรกย่อมมีการเสื่อมไปตามกาลเวลาที่ผันเปลี่ยนไปเรื่อยๆ แต่ด้วยยุคและสมัยก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลงเป็นธรรมดา อาคารที่ดูก่อนไม่ทันสมัยต่อการใช้งานก็ต้องรื้อเพื่อสร้างอาคารใหม่ขึ้นมาทดแทน แต่ด้วยที่ว่าการจะนำไม้ที่ยังมีความแข็งแรงอยู่ทิ้งไปก็เสียดายเปล่า จึงได้นำหน้าต่าง วงกบ ประตู มาแยกชิ้นแล้วนำมาสร้างเป็นเรือนแก้ว เพื่อเป็นอนุสรณ์เพื่อระลึกถึงอาคารต่างๆ และยังสะท้อนให้นักเรียนทกคนได้รู้ว่าหากไม่มีไม้เหล่านั้นก็จะไม่มีอาคารวันนี้.......พูดแล้วซึ้ง แง้!!น้ำตาจาไหล.....

      เรือนเเก้ว

      เย้!!!จบแล้วครับพี่น้อง อิอิ แล้วในที่สุดผมก็พาเพื่อนๆๆเที่ยวชมจนหมดโรงเรียนในที่สุดแล้วครับ

      ท้ายนี้ผมก็ขอฝากไว้ว่า ถ้าเพื่อนๆๆได้มาเที่ยวเชียงใหม่อย่าลืมมาสักการะ พระบรมราชาสาวรีย์ ร.6 และเยี่ยมชมโรงเรียนผมได้นะครับ และที่ขาดไม่ได้ สำหรับนักเรียนชั้นม.6 ทุกๆคนทุกๆโรงเรียน คิดอยากสอบคณะไหน มหาวิทยาลัยไหน ขอให้สมปรารถนาทุกคนครับ

      (((ขอทิ้งท้ายด้วยรูปกิจกรรมต่างๆๆของยุพราชนะครับขอบคุงครับ)))
















                                                                                                 

      ดอกไม้ ดอกไม้จะบาน บริสุทธิ์ กล้าหาญ จะบานในใจ

      ขอบคุณสำหรับคำชี้เเนะนะครับ ผมเองก็เเค่คนๆๆนึงที่อยากทำให้โรงเรียน ต่อไปนี้กระทู้ผมจะอัพอยู่บ่อยๆๆ หากมีอะไรก็เข้ามาเเจ้งกันได้นะครับ ขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็นนะครับ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×