ก้อนหินจากฟากฟ้า - ก้อนหินจากฟากฟ้า นิยาย ก้อนหินจากฟากฟ้า : Dek-D.com - Writer

    ก้อนหินจากฟากฟ้า

    เรื่องให้แง่คิด แล้วแต่จะคิด

    ผู้เข้าชมรวม

    175

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    175

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  29 ม.ค. 54 / 23:58 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      ก้อนหินจากท้องฟ้า
                      ในถนนข้างบ้านขนาดกว้างพอให้คนสัญจรไปมา สะอาดและสงบพอให้เด็กๆในหมู่บ้านได้วิ่งเล่นกันในตอนเย็น เย็นวันนี้อีกเช่นเคย เริ่มจากเด็กหญิงหน้าตาสะอาดสะอ้าน ผมสีดำสนิทสองข้างถูกผูกด้วยริบบิ้นสีชมพูสดใส รับกับแก้มแดงเปล่งน่าหยิกทั้งสองข้าง ตากลมหวานบอกแววฉลาดเกินวัย 7ขวบ เนื่องจากบ้านของจิ้บอยู่ใกล้ถนนแห่งนี้ที่สุด เธอจึงได้รับสิทธิ์เป็นคนแรกที่ได้จับจองที่เสมอ วันนี้เธอเลือกกำแพงปูนด้านหนึ่งเป็นที่ระบายความเป็นศิลปินโดยการหยิบสีเทียนแท่งน้อยบรรจงวาดและแต่ง สักพักกลุ่มเด็กอีกห้าหกคนทั้งตัวเล็กและตัวไม่เล็กก็ทะยอยกันมาพอเต็มถนน เด็กผู้หญิงต่างเล่นวาดภาพระบายสีบนกำแพงกับจิ้บ อีกฝั่งของถนนมีที่กว้างพอให้เด็กชายหนึ่งรูปร่างสมส่วนตามเกณฑ์เด็กอ้วน เนื่องจากรูปร่างและอายุที่มากกว่าเพื่อนในกลุ่มซึ่งอายุราว5-8ขวบเพียงไม่กี่เดือน เด็กชายจึงเป็นหัวหน้ากลุ่มฝ่ายชาย เริ่มชักชวนเพื่อนๆเล่นบอล เวลาบนห้องนั่งเล่นจำเป็นของเด็กๆค่อยๆเคลื่อนไปพร้อมกับเสียงหัวเราะและรอยยิ้ม จนกระทั่ง “โป๊ก”   เสียงของแข็งกระทบกัน “แง๊ๆๆๆๆๆๆๆๆ”เด็กน้อยทั้งหลายหันมองไปยังที่มาของเสียง เด็กหญิงจิ้บนั่นเอง เธอกำลังร้องไห้อย่างตกใจขณะที่มือทั้งสองปล่อยสีเทียนแท่งน้อยกุมศีรษะ ขณะที่ทุกคนยังตกใจและงงในสถานการณ์ เด็กหญิงจิ้บยืนขึ้นและคว้ากล่องสีเทียนขนาดเล็กพอจับคว้าพอดีมือเด็กน้อย ขว้างไปตรงหน้า พร้อมกับเสียงต่อว่าปนสะอื้น “หนึ่งนิสัยไม่ดี หนึ่งแย่ๆๆๆๆ แย่มากมาก ฮือๆๆ” สีเทียนแท่งน้อยกระเด็นหยุดจากกล่องขณะที่กระทบกับตัวเด็กชายหนึ่งซึ่งยืนเป็นผู้รักษาประตูอยู่ใกล้เคียง แม้จะไม่เจ็บนัก แต่ก็ทำให้เด็กชายหนึ่งโมโหขึ้นมาทันควัน จึงพูดว่า”เด็กขี้แย พาลคนอื่น” เด็กหญิงจิ้บพยายามกลั้นสะอื้นชี้หน้าเด็กชายหนึ่ง “คนเลว ทำเค้าทำไม” เด็กชายหนึ่งเห็นหน้าตาขึงขังของเด็กหญิงจิ้บแทนที่จะนิ่งกลับยิ่งนึกสนุก แลบลิ้นปลิ้นตา กลุ่มเด็กชายต่างกรูกันเข้ามาใกล้ และตามธรรมชาติของเด็กลูกน้อง เมื่อลูกพี่แกล้งเด็กคนอื่นก็รู้หน้าที่ทันที “จิ้บขี้ร้อง” จิ้บขี้เหร่ เบร่ๆๆๆ” และต่างๆนาๆ ออกจากปากของกลุ่มเด็กชาย   เด็กหญิงคนอื่นๆก็รวมกันเข้ามา เด็กหญิงโตสุดในกลุ่มผลักอกเด็กชายหนึ่งด้วยความไม่พอใจซึ่งนั่นเป็นการเริ่มใช้กำลังครั้งแรกแต่ไม่ใช่ครั้งสุดท้าย หลังจากนั้นก็มีทั้ง หมัด ข่วน กัด ดึง ทึ้ง จนทั้งสองฝ่ายโทรมและร้องไห้ไปตามๆกัน จึงได้เวลาที่ลุงยามประจำหมู่บ้านมาตรวจเวรยามและห้ามศึกเล็กๆของเด็กเล็กๆ เด็กๆต่างรุมกันฟ้องลุงยามต่างๆนาๆ สักพักลุงยามเริ่มจับเค้าเหตุได้จากหนึ่งฟ้องว่าจิ้บเป็นคนเริ่มด่าและขว้างของใส่เขา เขาจึงตีเด็กหญิงกลับ ฝ่ายเด็กหญิงก็ฟ้องว่าเด็กชายหนึ่งขว้างหินใส่เธอก่อน ลุงยามจึงเดินไปดูที่เกิดเหตุและพยานวัตถุก้อนหินกลมเกลี้ยงก้อนเล็ก และรอยปูดเล็กบนหัวเด็กหญิง เด็กชายหนึ่งกล่าวว่า”ผมไม่ได้ทำ ผมเตะบอลกับเพื่อนดีๆ” ลุงจึงถามว่าของใคร ....เงียบ.... ไม่มีใครรับ ต่างมองหน้ากันอย่างงงๆ รวมถึงจิ้บที่จ้องหน้าหนึ่งอย่างไม่พอใจ คุณลุงยามจึงถามขึ้น “รู้มั้ย ก้อนหินเกิดจากอะไร” จิ้บตอบว่า”เกิดจากดินและหินเล็กๆคะ”   หนึ่งซึ่งมีวัยที่โตกว่าเล็กน้อยพอจะจำคำเก๋ๆได้ตอบว่า”เกิดจากธรรมชาติครับ” ลุงยามยิ้มพอใจและกล่าวว่า “เป็นก้อนหินจากท้องฟ้า” เด็กๆต่างงงไม่เข้าใจความหมาย ลุงยามยิ้มและกล่าวต่อ ”เมื่อก้อนหินเกิดจากท้องฟ้าก็ไม่มีใครผิดจริงไหม เพราะท้องฟ้าเริ่มก่อน” เด็กๆบางส่วนเริ่มพยักหน้าเห็นด้วย ขณะที่ลุงยามกล่าวต่อ”เอาหละได้เวลาแยกย้ายกลับบ้าน” เด็กชายหนึ่งซึ่งรู้สึกเหมือนถูกโกงยังฮึดฮัดแล้วกล่าวขึ้นว่า “ก้อนหินมาจากท้องฟ้า แล้วสีเทียนหละมาจากไหน จิ้บปาใส่ผมนะครับ” ลุงยามก็ตอบด้วยรอยยิ้มว่า”สีเทียนก็มาจากท้องฟ้า ทุกสิ่งก็มาจากท้องฟ้านั่นแหละ” คำตอบนี้ทำให้หนึ่งเงียบได้เนื่องจากไม่สามารถคิดข้อโต้แย้งได้ การเล่นในถนนเด็กเล่นวันนั้นจึงจบลงด้วยการแยกย้าย และคำตอบสำหรับคุณแม่ที่บ้านของจิ้บเรื่องรอยนูนเล็กๆที่หัวว่า “จากท้องฟ้าคะ”
                      ไม่รู้ว่าใครเริ่มก่อน แต่แค่คิดว่าจากมันมาจากท้องฟ้า เท่านั้นก็จบ จริงไหม

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×