คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่3(ไอ)
(ไอ)
โอ้โห! อะเมซิ่งอินไทยแลนด์ ผู้หญิง(ผู้ชาย) ที่อยู่หน้ากระจกนี่เป็นใคนทำไมเธอช่างงามอย่างนี้ เอ๊ะ! หรือว่านี่จะตัวผมเอง ผมลองโบกไม้โบกมือไปเรื่อยๆปรากฏว่าคนในกระจกนั่นก็เป็นผม
อ๊ากกกก! จะว่าไปพอผมแต่งเป็นผู้หญิงก็สวยจริงๆเลยนะเนี่ย
“นี่!มึงแต่งตัวเสร็จรึยะ......”
อยู่ดีๆก็มีแขกผู้มาเยือนใหม่ นั่ก็คือเอ็มนั่นแหละ เอ้ามองผมนานเกินไปแล้วนะเนี่ยถึงจะเป็นผู้ชายด้วยกันก็เถอะมองอย่างนี้ผมก็เขินเป็นเหมือนกันนะ-///-
“นี่มึงมองอยู่นั่น แหละมีไรจะพูดหล่ะ”
“เอ่อ...กูจะถามมึงว่ามึงแต่งตัวเสร็จรึยังวะ แม่กูให้มาตามน่ะ”
“เออ เสร็จพอดี”
หลังจากนั้นผมก็เดินออกมากับไอ้เอ็มแล้ว(เริ่มรู้จักกันมากขึ้นแล้วไงใช้มึงกูไอ้) ระหว่างทางเดินมางานเราสองคนก็ไม่ได้พูดอะไรกัน จนตอนนี้ผมอยู่ในงานแล้วครับ ตอนนี้ผมกำลังรอให้ว่าที่คู่หมั้นสวมแหวนหมั้นให้ (ฟังดูแปลกๆนะ)
จนตอนนี้พิธีหมั้นก็เสร็จแล้วเท่ากับ หมดหน้าที่ของผมผมจะได้กลับบ้านไปนอนสักที แต่ระหว่างที่ผมกำลังเดินอยู่ก็มีคนมาจับมือผมไว้
“เดี๋ยวก่อนมึง อยู่ทักทายแขกด้วยดิอย่าพึ่งชิ่งกลับให้กูรับหน้าคนเดียว”
ฮือY_Y ผมอยากกลับบ้าน แต่ก็ต้องอยู่ช่วยรับหน้าแขกก็ได้
“อืมก็ได้ๆ”
ตอนนี้ผมต้องปั้นหน้ายิ้มหวานพร้อมกับแนะนำตัวเองแต่ที่กระดากปากผม ที่สุดคือ ตอนที่ผมพูดคำว่า ค่ะ
เฮ้อ เหนื่อยจริงๆเลยนะเนี่ยนี่ขนาดงานหมั้นนะเนี่ยยังเหนื่อยขนาดนี้นี่ถ้างานแต่งจริงๆ น้องผมจะเหนื่อขนาดไหน เออไหนๆก็นึกถึงกิ๊ฟ พอดีผมลองโทรถามแม่ดีกว่าแม่ยิ่งสุขภาพไม่ค่อยดีอยู่ เป็นโรคหัวใจน่ะ เพราะงี้ไงผมเลยต้องตามใจแม่บ่อยๆ แต่พอเกิดเรื่องของกิ๊ฟ ตอนแรกผมนึกว่าแม่จะอาการทรุด แต่ผมเห็นน้ำเสียงแม่ไม่ค่อยเป็นไรมาก เลยไม่ค่อยเป็นห่วงเท่าไหร่
“ฮัลโลแม่ครับ” รับพอดีเลย
“ว่าไงจ๊ะ” น้ำเสียงแม่ดูจะรู้สึกเนือยๆนะ แต่ยังทำเสียงไม่เป็นไม่ไรเพราะผมรู้ ว่าแม่อยากให้ผมสบายใจมากกว่า
“กิ๊ฟเป็นอะไรไหมครับ”
“หมอบอกว่า...กิ๊ฟเหมือนจะเป็นเจ้าหญิงนิทราไม่รู้จะฟื้นเมื่อไหร่ แต่หมอบอกว่าอาการไม่น่าเป็นห่วงแล้วแค่รอกิ๊ฟฟื้นเท่านั้น”
เฮ้อ ผมนี่โล่งใจเลยนะครับเนี่ยที่กิ๊ฟไม่เป็นไรมาก
“งั้นแม่ก็กลับไปบ้านก่อนนะครับเดี๋ยวอีกสักพักก็จะเลิกงานแล้ว”
“จ้า แล้วไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม”
“ครับงานเรียบร้อยดีครับ งั้นแค่นี้ก่อนนะครับ รักแม่นะ”
“จ่ะ”
ผมว่าอาการของแม่ต้องทรุดลงแน่ๆเลย แม่คงเป็นห่วงกิ๊ฟมาก
เอาหล่ะ ผมรีบทำงานให้เสร็จก่อนดีกว่าจะได้รีบกลับไปอยู่กับแม่ แต่ขณะที่ผมกำลังเดินไปทักทายแขกต่ออยู่ดีๆผมก็เหมือนจะเห็นคิวแวบๆนะ แต่คงไม่ใช่หรอกคิวจะมางานนี้ได้ไง แต่ถ้าเป็นคิวจริงๆผมคงต้องรีบแอบเพราะถ้าไอ้คิวมันรู้นะ มันต้องด่าผมแน่ๆว่าผมมาทำอะไรอย่างนี้ มันขี้กังวลอย่างนี้แหละ
แต่แล้วอยู่ดีๆชายคนนั้นที่ผมคิดว่าเป็นไอ้ คิว แต่ตอนนี้ไม่ใช่แค่คิดแล้วหล่ะมันใช่ไอ้คิวจริงๆตอนนี้มันกำลังจะหันมามองผมแล้ว เอาไงดีๆ งั้นไปแอบตรงห้องน้ำที่อยู่ข้างหน้าดีกว่า
“เฮ้ย! ไอ ไอ นั่นมึงป่าววะ ไอ ไอมึงวิ่งหนีกูทำไมเฮ้ย เดี๋ยว”
ซวยแล้วไงนี่มันจำผมได้ไงเนี่ยผมอุสาห์แต่งเป็นผู้หญิงนะเนี่ย เฮ้ยมันวิ่งตามผมมาแล้วตายโดนจับได้แน่เลยผมวิ่งไม่เคยชนะมันหรอก Y_Y
และตอนนี้ความคิดผมก็เป็นจริงมันจับแขนผมไว้แล้ว
“เฮ้ย ไอ้ไอรึป่าว”
ดีนะเนี่ยที่ผมหันหลังให้มันอยู่ ถึงมันจะจับแขนผมไว้อยู่ก็เถอะ งั้นผมคงต้องตอบแบบดัดเสียงให้เป็นผู้หญิงหน่อยแล้ว
“เอ่อ คุณคงจำผิดน่ะค่ะ ฉันน้องพี่ไอนะคะ”
“กูไม่เชื่อถ้าไม่ใช่จะวิ่งหนีทำไม ไหนหันหน้ามา”
ฮือ TT_TT ตอนนี้มันกระชากตัวผมให้หันไปมองหน้ามันแล้วครับ ความซวยมาเยือนแล้ว
“ไอ้ไอมึงจริงๆด้วย ทำไม มึง.....”
“คือเรื่องมันยาวนน่ะมึง เดี๋ยวกูค่อยเล่าให้ฟังT_T”
“เล่ามาเดี๋ยวนี้แล้วโทษหนักจะกลายเป็นเบา”
ผมเคยสงสัยนะเนี่ยว่าไอ้คิวเนี่ยมันเป็นแม่หรือเป็นเพื่อนผมกันแน่
“งั้นกลับเข้าไปในงานก่อนดีกว่ากูวิ่งมาออกนอกนอกงานแล้ว เดี๋ยวกูต้องรับแขกต่อ”
ใช่ครับตอนผมวิ่งหนีมันมาไม่ได้ดูหรอกว่าอยู่ตรงไหนแล้ว ตอนนี้รีบเข้าก่อนดีกว่าเดี๋ยวไอ้บ้านั่น(หมายถึงเอ็ม) มันก็ต้องด่าผมแน่
ตอนนี้ผมเข้ามาในงานแล้วครับ แล้วกำลังนั่งเล่าเรื่องทั้งหมดตั้งแต่กิ๊ฟจะหมั้นแล้วเกิดอะไรขึ้นที่ต้องทำให้ผมเป็นแบบนี้
“ตอนนี้กูเล่าหมดแล้ว มึงจะไม่ลงโทษกูใช่ป่ะ”
“เออ ก็ได้ถือว่าตอนนี้มึงไม่ผิดจริงแต่ยังไงมันก็ไม่ควรมึงเป็นผู้ชายนะถ้าถูกจับได้จะเป็นไง”
เฮ้อยังดีที่มันแค่บ่นหน่อยๆ
“เออแต่มันจำเป็นนี่หว่า อืม จะว่าไปมึงมาที่นี่ได้ไงวะ”
“มึงอย่าลืมดิ กูก็เป็นพวกลูกนักธุรกิจนะแถมงานนี้แม่มึงเชิญ แต่พวกคนใหญ่คนโตมาทั้งนั้น”
เออก็จริงของมันผมก็ลืมคิดเรื่องนี้ไปเลยนะเนี่ย
“แต่ว่า...วันนี้มึงสวยมากๆเลยนะ” ผีเข้าอะไรของมันอยู่ดีๆก็หาว่าผมสวยมันเป็นคนเดียวเนี่ยแหละที่ไม่บอกว่าผมสวย แต่...ครั้งนี้มันกับพูด ผมกำลังจะเงยหน้าไปด่ามันสักหน่อยแต่ตอนที่ผมสบตากับมันนั้น ผมรู้สึกว่าแววตาที่มันใช้มองมองผมไม่เดิมมันดูอ่อนโยน ขึ้นมาก ตอนนี้ผมคิดไปเองรึเปล่าว่าหน้าของเราสองคนใกล้กันมากขึ้นเรื่อยๆ
“นี่ทำไรกันน่ะ!”
-----------------------------------ต่อนะคะ-------------------------------
"นี่ทำไรกันน่ะ!"
เสียงนั้นมันทำให้ผมกับไอ้คิวผลักออกกันอัตโนมัต และมองรอบข้างดูปรากฏว่าทุกสายตามองมาทางผมทางเดียวแล้วคนที่มาเรียกสติผมมะตะกี้ก็ไม่ใช่ใคร นั่นก็คือคู่หมั้นของผมเอง
“นี่กูให้มึงมารับแขกไม่ใช่ให้มึง มานั้งจะจูบกับแขก ทำอะไรหัดเกรงใจสถานที่บ้าง มึงเข้าใจมั้ย กูว่ามะตะกี้อารมณ์มึงคงกำลังแน่ๆ งั้นเดี๋ยวกูจะช่วยต่อให้”
พอพูดจบอยู่ดีๆริมฝีปากที่อยู่ของคนตรงหน้าก็เลื่อนลงมาบดขยี้ริมฝีปากของผม มันรุนแรงมากๆเลยล่ะ
เอ๊ะ! นี่มันไม่ใช่จะมาบรรยายจูบ นั่นมัน จูบแรกของกรูววววววว
พลั่ก!
อยู่ดีๆปากของผมก็เป็นอิสระเพราะไอเคิวมันช่วยผมไว้ โดยการเสยหมัดไปที่ปากหนึ่งครั้งทำให้ไอ้เอ็มมีเลือดออกที่มุมปากด้วย
“หึๆ เป็นไงมะตะกี้กูจูบดีใช่ไหมล่ะเล่นซะมึงเคลิ้มเลย”
“ไอ้ชั่ว!”
พลั่ก! พลั่ก!
ตอนนี้คิวใส่หมัดไม่ยั้งใส่คนตรงหน้า ทั้งหน้าและแววตาของมันดูน่ากลัวมากกว่าทุกที เพราะที่โรงเรียนมีคนจ้องจะจีบผม หรือรังควาญผมมากไป ก็มีไอ้คิวนี่แหละที่ช่วยเป็นเกราะคุ้มครองผมตลอด และคนที่มาจีบผมก็ไม่เคยมีผู้หญิงเลยมีแต่ผู้ชาย ไอ้คิวมันก็ยังบอกเลยว่าผมมีแรงดึงดูดเพศเดียวกันมากกว่า
“หยุดๆเดี๋ยวนี้ เอ็มแม่สั่งให้หยุด!”
น้าสารีบมาห้ามขณะที่ไอ้เอ็มกำลังจะสวนหมัดที่3ไปที่แก้มของไอ้คิวพอดี
ตกลงวันนี้มันเป็นวันซวยอะไรวะเนี่ย
สวัสดีเน้อทุกคน ตอนนี้อยากจะบอกว่าอาจจะใส่ความรู้สึกไม่ค่อยเต็มที่ตรงฉากจูบนะคะ แต่ยังไงจูบนั้นก็เป็นจูบแรกของไอ ตอนนี้อาจจะสั้นไปสักนิดนะคะ แต่ก็ไม่มากเท่าไหร่ แต่ถ้าอ่านตรงไหนไม่เข้าใจก็ติชมกันได้นะคะ เจอกันตอนหน้านะคะตอนหน้าเป็นตอนของเอ็มอย่าลืมติดตามนะคะ
ป.ล ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนิยายของเรา รักคนอ่านทุกคนค่ะ>////////<
ความคิดเห็น