[ fic buddyfight ] จากเด็กหนุ่มผมสีม่วงผู้ที่มีความศรัทธาสู่การเป็นนักบุญแห่งเชื่อมั่นในโชคชะตา - [ fic buddyfight ] จากเด็กหนุ่มผมสีม่วงผู้ที่มีความศรัทธาสู่การเป็นนักบุญแห่งเชื่อมั่นในโชคชะตา นิยาย [ fic buddyfight ] จากเด็กหนุ่มผมสีม่วงผู้ที่มีความศรัทธาสู่การเป็นนักบุญแห่งเชื่อมั่นในโชคชะตา : Dek-D.com - Writer

    [ fic buddyfight ] จากเด็กหนุ่มผมสีม่วงผู้ที่มีความศรัทธาสู่การเป็นนักบุญแห่งเชื่อมั่นในโชคชะตา

    นี่เป็นเรื่องราวอิงประวัติศาสตร์ของนักบุญสาวแห่งออร์เลอองที่กลายมาเป็นเรื่องราวของเด็กหนุ่มผู้มีผมสีม่วง

    ผู้เข้าชมรวม

    340

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    340

    ความคิดเห็น


    3

    คนติดตาม


    7
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  3 พ.ค. 63 / 14:52 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

    สวัสดี...เหล่านักอ่านผู้ที่มีความคาดหวังเอย...วันนี้ไรท์จะมาเล่าเรื่องของนักบุญสาวในตำนานมาในรูปแบบของเด็กชายคนหนึ่ง...ผู้มีความศรัทธาในพระเจ้ามาก...จนนำมาสู่การเปลี่ยนโชคชะตา

    นิยายเรื่องนี่ ไม่มีความเจตนาที่จะดูหมิ่นประวัติศาสตร์แต่อย่างใด ถ้ามีข้อผิดพลาดประการใด ต้องอภัยมาน่ะที่นี่ด้วยค่ะ และอาจมีการแต่งเติมบ้างข้อความ ยังไงขอให้รับชมค่ะ

    ....................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................

     

    ณ คฤหาสน์เมืองดงเรมี

     

    มีเด็กหญิงคนหนึ่งกำลังอ่านบทสวดมนต์ศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกใกล้ๆคฤหาสน์ของหญิงแม่หม้ายแสนสวยกับลูกชายผู้มีความศรัทธาต่อศาสนา

    ไกโตะ: นี่ลิเซเนีย ทำอะไรอยู่น่ะ

    ลิเซเนีย: อ๊ะ!!!....ไกโตะ มาโผล่ไม่ให้ตั้งตัวอีกแล้วน่ะ จะไม่ให้สุมให้เสียงกันหน่อยหรอ

    ไกโตะ: ถ้าเดินไปส่งเสียงไปเดี๋ยวก็มาว่าบ้าน่ะสิ แล้วบทสวดมนต์ที่ให้ลองอ่านเป็นไงบ้าง?

    ลิเซเนีย: อืม เหมือนอย่างที่เธอพูดนั้นแหละ พอลองแล้วรู้สึกดีมาก แล้ววันนี้จะไปโบสถ์อีกแล้ว

    ไกโตะ: ใช่ แล้วเธอล่ะ

    ลิเซเนีย: วันนี้ขอผ่านดีกว่า พอดียังมีบทที่ยังไม่เข้าใจอยู่น่ะ(เป็นถึงลูกคุณหนูฐานะมั่งคั่ง แต่ชอบไปสวดมนต์มากกว่าที่จะเรียนศาสตร์ซะอีก//คิดในใจ)

    ในโบสถ์คริสต์ ไกโตะที่กำลังสวดอธิษฐานอย่างตั้งอกตั้งใจ

    ไกโตะ: ข้าแด่พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ผู้ทรงเปี่ยมด้วยปัญญา สถิตบนสรวงสวรรค์ พระแม่มารีย์ผู้เปี่ยมเมตตา

    ???: ไกโตะ~

    ไกโตะที่ได้ยินเสียงปริศนาลอยมาแต่ไกล แต่พอหันซ้ายขวากลับไม่พบใครเลย แต่พอเงยหน้าขึ้มากับพบบุคคลที่กำลังเอยถึงกำลังบินลงจากแสงจากฟากฟ้า

    ทูตสวรรค์: ไกโตะ~

    หลังจากที่นิมิตทูตสวรรค์มาปรากฏแล้วหายไป ไกโตะรีบไปปรึกษาบาทหลวงหัวหน้าโบสถ์

    บาทหลวง: นี่เห็นภาพนั้นอีกแล้วหรอ

    ไกโตะ: ครับ นี่เป็น 2 ของอาทิตย์นี่แล้ว

    บาทหลวง: แล้วเธอเห็นกี่ครั้งแล้วล่ะ จากครั้งแรกจนครั้งนี้?

    ไกโตะ: ถ้าผมบอกว่า 165 ครั้ง ถึงคุณแม่กับคุณพ่อเสียไปเมื่อ 2 ปี พวกคุณแม่บ้านคุณพ่อบ้าน หรือแม้แต่คนในเมืองบอกว่า มันเป็นเพียงแค่ภาพลวงตาอย่าให้ผมใส่ใจ...แต่ว่า...จากเงารางๆเป็นรูปร่าง จากเสียงพึมพำเป็นถ้อยคำ ถ้าไม่ใช่ภาพลวงตา แต่เป็นสาส์นจากพระเจ้าที่บอกให้ผมเดินทางไปกอบกู้ประเทศฝรั่งเศสจากอังกฤษและนำพาให้สมเด็จพระราชกุมารีอิซาเบลรัชทายาทที่แท้จริงขึ้นบัลลังก์ มันอาจเป็นสิ่งที่เปลี่ยนโชคชะตาเลยก็ได้น่ะครับ

    พบไกโตะเดินออกมาจากโบสถ์แล้วมุ่งหน้ากลับบ้านก็พบกับลิเซเนีย

    ไกโตะ: อ้าว!! ลิเซเนียไหนบอกว่า ขอผ่านไปท่องบทสวดมนต์ที่เหลือไง

    ลิเซเนีย: นึกขึ้นได้ว่า หลวงพ่อ อาจช่วยเรื่องท่องบดสวดมนต์ก็ได้

    ไกโตะ: นั่นสิน่ะ หลวงพ่ออยู่ข้างใน

    ลิเซเนีย: ดีเลยจ๊ะ

     

    ตู้ม!!!!

     

    ได้เกิดเสียงระเบิดขึ้นข้างๆเมืองดงเรมี

    ไกโตะ: นั่นอะไรน่ะ!!!!

    ลิเซเนีย: ระเบิดหรอ แถมเสียงก็มาจากทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของตัวเมือง ตรงนั้น!!!...

    ไกโตะ,ลิเซเนีย: ที่เก็บเสบียงกับที่เก็บน้ำ

    ไกโตะกับลิเซเนียรีบไปดูครอบครัวของตนเอง

    ไกโตะ: แม่ครับ อยู่ไหนถ้าอยู่ใกล้ๆ ช่วยส่งเสียงหนอยครับ

    พริมาเวร่า: ไกจัง แม่อยู่ตรงนี้ ลูกไม่เป็นไรใช่ไหมจ้ะ

    ไกโตะ: ครับ แม่ไม่เป็นไรใช่ไหม

    พริมาเวร่า: แม่ปลอดภัยดี ลูกมาก็ดีแล้ว ช่วยดูหนูลาริชหนอยสิจ๊ะ

    ไกโตะ: พ่อแม่ของลาริชล่ะครับ

    พริมาเวร่า: ทั้งคู่ถูกพวกทหารอังกฤษฆ่าตาย

    ไกโตะที่ได้ยินดังนั้น เหมือนหัวใจร้าว เพราะไม่คิดว่าพวกอังกฤษจะใจอำมหิตฆ่าพ่อแม่ทำให้เด็กต้องกำพร้า

    ลาริช: พี่ไกโตะค่ะ หนูกลัว หนูอยากไปหาแม่

    ไกโตะ: ลาริช ฟังน่ะ เธอน่ะต้องไปทำแผลกับคนอื่นๆ เชื่อพี่เถอะน่ะ

    หลังจากที่ไกโตะไปส่งลาริชที่เต็นท์พยาบาล ก็วิ่งไปที่เนินลูกหนึ่ง

    ไกโตะ: ทำไม...สงครามนี่ถึงยังไม่จบซักที...ทั่งที่พวกเราอยากใช้ชีวิตที่สงบสุขแท้ๆ

    ทูตสวรรค์: เพราะแบบนั่น ภารกิจของเธอถึงได้สำคัญไง ไปสิไกโตะ

    ไกโตะที่ได้ฟังภารกิจ จึงไปเตรียมเสบียง บอกลาครอบครัวกับคนในเมืองที่ให้ความรักมาทั้งหมด แล้วจึงโดยสารรถเกวียนไปเมืองที่เป็นที่ประทับของเจ้าหญิงอิซาเบล

    บาทหลวง: ไกโตะไไปแล้วสิน่ะ

    ลิเซเนีย: ค่ะ แหม่~เธอคนนั้น เชื่อในทุกสิ่ง

     

     

    คฤหาสน์ของเคานท์บาว์ดริคอร์ท

    ไกโตะได้ไปขอให้ท่านเคาน์พาไปเข้าเฝ้าเจ้าหญิงอิซาเบล แต่ก่อนหน้านั่น เจ้าหญิงได้รับรู้ถึงการมาของไกโตะ จึงได้เตรียมบททดสอบคือ การให้หญิงรับใช้ปลอมเป็นเจ้าหญิง ส่วนเจ้าหญิงปลอบเป็นหญิงรับใช้ พอไกโตะเดินเข้ามาคำนับผิดคนเพื่อสร้างความอับอายแก่ตนเองจนไม่กล้ามาอีก แต่พอไกโตะเดินเข้ามาแล้วเดินไปคำนับเจ้าหญิงตัวจริง แล้วถูกสอบถามเรื่องต่างๆมากมาย แต่มันกินเวลาเกินไป ไกโตะจึงกล่าวว่า

    ไกโตะ: กระผมจะไม่ว่าอะไรเรื่องการสอบถามนี่ แต่ขอพระกรุณาเชื่อในตัวกระผมว่าจะช่วยกอบกู้ออร์เลอองจากอังกฤษด้วยน่ะครับ

    ขุนนาง: แล้วเธอคิดว่าจะคุมกองทัพมากมายได้หรอ แล้วออร์เลอองก็มีทหารอังกฤษเยอะน่ะจ๊ะ พ่อหนุ่มน้อย

    อิซาเบล: แล้วเธอต้องหาข้อพิสูจน์ด้วยน่ะ

    ไกโตะ: ข้อพิสูจน์หรอ...ทั่งที่...มันอยู่แค่ข้างนอกเองน่ะครับ.....ลองมองออกมาดูภายนอกดูสิครับ....ในขณะที่กระผมกำลังเดินทางมาที่นี่ กระผมต้องเห็นภาพอันแสนเวทนา บ้านเรือนเหลือเพียงซากหักพัง แผ่นดินต้องลุกโชนโดยเปลวเพลิง เด็กๆต้องกำพร้า พวกท่านเอาแต่อยู่ในปราสาท สุขสบายแล้วแย่งชิงอำนาจกันเอง ไม่ใส่ใจถึงความยากลำบากของประชาชน ถึงพวกท่านทุกคนจะไม่เชื่อในกระผม แต่ก็ให้กระผมได้ทำอะไรให้บ้านเมืงอันเป็นที่รักแห่งนี้เถอะครับ

    ไกโตะพูดไปร้องไห้ไป จนเจ้าหญิงอิซาเบลเกิดความสงสารจนยอมให้ไกโตะคุมกองทัพ

    อิซาเบล: ถ้าพูดมาขนาดนั้น ก็ควรให้โอกาสน่ะ

    ไกโตะ: ฮ้า!!...ขอบพระทัยครับ

    หลังจากนั้นสาวใช้พาไกโตะไปเปลี่ยนชุดเป็นชุดเกราะสีเงินม่วงสุดแวววับ

    หญิงรับใช้: ท่านไกโตะ นี่ตัวเล็กแต่กล้าหาญมากน่ะค่ะ ที่จะไปกอบกู้ประเทศ ปลุกขวัญกำลังใจประชาชนที่กำลังหวาดกลัว และนำท่านอิซาเบลขึ้นเป็นกษัตริย์ นี่เก่งจริงๆน่ะค่ะ

    ไกโตะ: ไม่ต้องเรียกว่า ท่านหรอกครับ ผมเป็นเพียงลูกคุณหนูที่ทำตามสาส์นจากพระเจ้าเท่านั้น

     

     

     

    ไกโตะได้ไปสมทบกับกองทัพที่มีนายทหารที่ได้รับกาารฝึกฝนจำนวน 2,000 คนที่แม่น้ำที่ปลายทางเป็นเมืองออร์เลออง มีทหารบางคนที่ซุบซิบเรื่องของไกโตะ

    ทหาร1: แม่ทัพคนนี่ดูไม่ค่อยใช้การได้

    ทหาร2: นั่นสิๆ ยังเด็กอยู่เลย

    ไกโตะที่ได้นำกองทัพมาพักที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ที่นั่นก็ได้ต่างจากก่อนหน้านี้ แต่พอมีข่าวลือว่า ผู้กอบกู้ได้ปรากฏตัวแล้ว ชาวบ้านเริ่มมีกำลังใจขึ้นมาบ้าง และต้อนรับกองทัพ

    ชาวบ้าน: ผู้กอบกู้ได้มาถึงแล้ว พวกเรามีความหวังแล้ว

    แม่ค้า: ท่าทางจะเดินทางมาไกล พวกเราเตรียมอาหารสำหรับทำศึกให้ด้วยน่ะจ๊ะ

    ไกโตะ: ขอบคุณครับ ทุกคนพักทานอาหารได้

    ทหาร: ครับผม ขอความกรุณาด้วยครับ

    ที่จัตรุรัสกลางเมืองมีการจัดงานเลี้ยงขึ้น อาหารที่หลากหลายเช่น ซุปมะเขือเทศ,ขนมปัง,ไก่ทอด,สลัดผลไม้ ทหารทุกนายกินเต็มที่ ทุกคนเหมือนจะเริ่มยอมรับในตัวของไกโตะมากขึ้น แต่พอรุ่งสางของวันที่จะรบ

    ไกโตะ: ฮ้าวววววว เอ๊ะ....ทุกคน อยู่ไปก่อนแล้วหรอ แต่เรานัดว่าตอนรุ่งสางพอดีนิ

    ไกโตะรู้ในทันทีว่า แม่ทัพคนเดิมแอบนำกองทัพไปรบโดยไม่บอกอะไรเขา แต่ไกโตะเองก็ไม่ยอมแพ้จึงรีบขี่ม้าไปที่สนามรบทันที

     

     

    ทางด้านพวกทหาร

    แม่ทัพที่นิสัยไม่ดีนำกองทัพไปประจันหน้าพวกอังกฤษแต่ก็ไม่สามารถแม้แต่จะประชิดป้อมปรากาาร

    ทหาร: นี่พวกเราทำไมถึงโง่แบบนี้ ที่ทิ้งท่านไกโตะแล้วออกมาเองแบบนี้ เราไม่น่าเชื่อเจ้าแม่ทัพนั่นแล้ว

    แต่ในขณะที่ทหารกำลังจะถอยทัพ ไกโตะที่ขี่ม้าถือธงสีขาวที่ปลายมีเหล็กแหลม บุกไปข้างหน้าด้วยใจมุ่งมั่น

    ไกโตะ: พวกเรา อย่ามาตรงยอมแพ้ตรงนี่สิ ชนะแล้วกลับไปกินอาหารเช้ากันเถอะ

    ทหารอังกฤษที่เห็นไกโตะขี่ม้า เลยคิดว่าไกโตะเป็นพ่อมดนอกรีต ที่ใช้คาถาเวทย์มนตร์ดำ

    ทหาร(อังกฤษ): นั้นพ่อมดนี่ เราควรไปบอกองค์ราชินี

    ไกโตะสามารถนำพากองทัพไปสู่ชัยชนะได้ แล้วหลังจากนั้นจึงเปิดโอกาสให้พระราชกุมารีอิซาเบล จัดงานพิธีราชาภิเษกขึ้นเป็นราชินีโดยสมบูรณ์

     

    วันถัดมาหลังพิธีราชาภิเษก อิซาเบลที่พบเห็นไกโตะที่กำลังออกจากปราสาทจึงเข้ามาถาม

    อิซาเบล: ไกโตะ นี่เธอจะไปไหนน่ะ

    ไกโตะ: ราชินี กระผมอยากไปที่เมืองดงเรมีครับ ผมคิดถึงแม่กับคนที่เมือง

    อิซาเบล: เธออยู่ที่นี่ต่อไม่ได้หรอ

    ทูตสวรรค์: ปฏิเสธเถอะ ไม่งั้นเธอจะประสบกับเหตุร้าย

    ไกโตะที่ได้ยินเสียงทูตสวรรค์ให้เจ้าตัวปฏิเสธ แต่ไกโตะกลับตอบตกลงที่จะอยู่ที่นี่ต่อ

     

     

    กองทัพฝรั่งเศสที่ไกโตะนำกองทัพคว้าชัยชนะได้ทุกครั้ง แต่สงครามครั้งล่าสุดก็เกิดโศกนาฏกรรมขึ้น

    ไกโตะ: ทุกคน พยายามเข้ายังไงก็ต้องปกป้องประเทศนี้ให้ได้

    ทหาร: ท่านไกโตะ ระวังขอรับ....ท่านไกโตะ

    ไกโตะถูกกองทัพฝรั่งเศสจับตัวไปที่คุกอังกฤษ เพื่อแลกกับเงิน 10,000 ฟรังก์และถ้าอยากซื้อตัวคืนต้องเพิ่มเงินขึ้นเป็น 10 เท่าตอนนี้ไกโตะอยู่ในมือองค์ราชินีมารีน่า

    มารีน่า: แหม่~ ตื่นจากนิทราแล้วหรอจ๊ะ ผู้กอบกู้ตัวน้อย

    ไกโตะ: ราชินีมารีน่า นี่ท่านอยู่เบื้องหลังสิน่ะ

    มารีน่า: เก่งจริงๆ แล้วตอนนี่ พวกเราได้แลกกับเงิน 10,000 ฟรังก์ แล้วถ้าอยากออกจากที่นี่ ก็ต้องจ่ายเงินเป็น 10 เท่า

    ไกโตะ: นี่ท่านคิดที่จะขูดรีดเงินจากชาวบ้านที่ประสบปัญหาสิน่ะ

    มารีน่า: แต่มีเพียงเงินเพียง 10,000 ฟรังก์ที่แม่ของเธอให้เท่านั้น ซึ่งมันก็ควรอยู่แล้วล่ะ ที่คนเป็นแม่ต้องทำทุกอย่างเพื่อช่วยเหลือลูกตนเองในสิ่งที่ทำได้ แถมเงินนั้นเป็นเงินที่พวกเราให้แม่ทัพคนนั้นไปด้วย เห็นว่าแม่เธอฟ้องร้องศาลแถมมีพยานที่เห็นแม่ทัพคนนั้นกับคนของฉันกำลังแลกเงินและมีเธอนอนหมดสติอยู่ด้วย แม่เธอยึดเงินที่ได้จากการแลกเปลี่ยนคืนมาให้เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนด้วย แต่การที่ไม่มีใครยอมมอบเงินส่วนที่เหลือให้ แสดงว่า คงไม่มีใครต้องการเธออีก

    ชาวบ้านที่รู้เรื่องที่ไกโตะถูกทรยศหักหลังจากทหารบางคนกับแม่ทัพที่นิสัยไมดี ก็ลุกขึ้นต่อต้านพวกขุนนาง โดยผู้นำพวกต่อต้านคือ พริมาเวร่า แม่ของไกโตะ ไปเป็นคนเจรจา

    พริมาเวร่า: ขอร้องล่ะค่ะ ช่วยซื้อตัวลูกชายของฉันด้วยเถอะค่ะ

    อิซาเบล: ไม่ว่ายังไง เราก็ต้องซื้อตัวไกโตะออกมาให้ได้

    ขุนนาง: เดี๋ยวก่อนพะยะค่ะ องค์ราชินี เงินในท้องพระคลังเริ่มลดลง แล้วถึงตอนนี่มันอาจพอที่เป็นค่าไถ่ตัว แต่เราก็ต้องจ่ายค่าช่วยเหลือจากต่างประเทศน่ะพะยะค่ะ

    พริมาเวร่า: หรือพวกท่านอยากให้เด็กคนนั้นถูกฆ่าตายงั้นหรอค่ะ

    ชาวบ้านที่โกรธพวกขุนนาง ต่างก็ให้เงินเรียกค่าไถ่ แต่มันก็ส่งไปไม่ถึงมือ องค์ราชินีมารีน่าที่ยังคิดว่า ไกโตะเป็นพ่อมดนอกรีต จึงไดทำการพิพากษาในวันที่ 30 พฤษภาคม ในข้อหา เป็นพ่อมดนอกรีตและหลอกหลวงชาวบ้านว่าเป็นผู้รับสาส์นจากพระเจ้า 

    ผู้พิพากษา: คุโรอุสุ ไกโตะ เธอมีข้อหาหลอกหลวงและเป็นพ่อมดนอกรีต ถ้ายอมรับข้อกล่าวหาทั้งหมดบทลงโทษของเธอมีเพียงจำคุกตลอดชีวิต แต่ถ้าไม่ยอมรับ บทลงโทษสูงสุดคือ เผาทั้งเป็น

    แต่ไกโตะกลับตอบปฏิเสธข้อหาทั้งหมด ในที่สุดท้ายในเมือง รูอองค์ มีไม้กางเกนไม้ที่อยู่ท่ามกลางกองไม้ แล้วที่อยู่ตรงกลางไม้กางเกน มีเด็กหนุ่มผมสีม่วงตรึงไว้ ไกโตะถูกบังคับให้เปลี่ยนชุดจากชุดเกราะเป็นชุดคลุมสีม่วงอ่อนที่แขนเสื้อกับชายเสื้อคลุมยาวจนมิดมืดมิดเท้าและมีฮู้ดแต่กลับไม่ใส่ ที่คอมีสร้อยล็อกเก็ตทรงวงรีที่มีรูปไม้กางเกนภายในล็อกเก็ตมีรูปครอบครัวสามพ่อแม่ลูกที่มีโบสถ์เป็นฉากหลัง ส่วนนักโทษแทนที่จะกลัว แต่ไกโตะกลับยิ้มแล้วพึมพำกับทูตสวรรค์ที่นั่งบนไม้กางเกน

    ไกโตะ: เผาหรอ เพราะไม่ฟังท่านแท้ๆ

    ทูตสวรรค์: ดูเธอไม่กลัวเลยน่ะ

    ไกโตะ: จากเสียงของท่าน และความุ่งมั่นของข้า ที่จะช่วยทำให้ทุกคนกลับมามีรอยยิ้มอีกครั้ง แล้วข้าทำสำเร็จไหม

    ทูตสวรรค์: อืม สำเร็จสิ

    ไกโตะ: ...พระผู้เป็นเจ้า...พระแม่มารีย์....ขอให้พวกท่าน ประทานพรแก่ชาวฝรั่งเศสชั่วนิรันด์....

     

     

    วันที่ 30 พฤษภาคม เปลวไฟเผาร่างของไกโตะจนไหม้ เขาถูกเผาทั้งเป็น 3 ครั้งแล้วนำอาทิไปโปรดในแม่น้ำ ถึงแม้ผู้กอบกู้จะตายไป แต่ชาวฝรั่งเศสเริ่มมีกำลังใจลุกขึ้น ต่อต้านอังกฤษจนสามารถขับไล่สำเร็จ 25 ปีต่อมา พริมาเวร่ารื้อฟื้นคดีทำให้ไกโตะถูกตรวจว่า เป็นข้อกล่าวหาเท็จ แล้วสรุปให้ไกโตะไม่ถูกกล่าวหาว่าเป็นพ่อมดอีก หลังจากนั้นเกือบร้อยปี ชาวฝรั่งเศสเริ่มนับถือไกโตะว่าเป็น "นักบุญแห่งโชคชะตา"

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    (ขอบคุณที่รับชมค่ะ)

     

     

     

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×