ดีเจที่รัก - นิยาย ดีเจที่รัก : Dek-D.com - Writer
×

ดีเจที่รัก

เธอเป็นดีเจสาวผู้ไม่เคยสัมผัสความรัก อุบัติเหตุที่ไม่ตั้งใจทำให้เขาและเธอพบกัน จนกลายเป็นเรื่องราวของความรู้สึกที่เธอไม่เคยสัมผัสที่ไหนมาก่อน เขาอบอุ่นสุขุมใจเย็นผิดจากเธอใจร้อน ปากกล้า

ยอดวิวรวม

93

ยอดวิวเดือนนี้

1

ยอดวิวรวม


93

ความคิดเห็น


0

คนติดตาม


0
จำนวนตอน : 0 ตอน
อัปเดตล่าสุด :  13 ส.ค. 55 / 00:00 น.

ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้

   ตอน1

     กานดา หญิงสาวรูปร่าง ผอมสูงได้สัดส่วน หุ่นนางแบบแฟชั่น วัยยี่สิบแปดปีกำลังนั่งจัดรายการวิทยุ ที่กำลังออกอากาศอยู่เป็นชั่วโมงสุดท้ายระหว่างที่พักเบรกโฆษณาและตั้งเพลงรอไว้หลังโฆษณาจบ

      ยาหยี ไปไหนนะ ไม่มีความรับชอบเลย หรือว่าจะไม่สบาย ไปไหนนี่ ยังไม่ได้เวลาเลิกงานเลยนะ อย่าทำแบบนี้นะเว้ย!” หญิงสาวหันซ้ายทีขวาทีหาเพื่อนสาว ฉันกลัวนะเพราะมันมืดมากมืดจนวังเวง เธอมองไปที่นาฬิกาที่ผนังก็ใกล้จะตีสองแล้ว ยาหยีไปไหนนี่ อย่าทำแบบนี้ฉันกลัวนะ หญิงสาวเดินหาภายในอาคารที่เงียบสงบ รอบๆมืดเป็นออฟฟิศยามค่ำคืน ยามดึกแบบนี้ มันช่างหดหู่ใจเหลือเกิน การหายตัวไปของคู่หูของเธอ ที่หายตัวไปอย่างลึกลับคราวนี้ เธอห่วงงาน วิ่งตรงดิ่งมาที่ห้องจัดรายการ ที่กำลังออนแอร์สดๆออกอากาศทั่วประเทศ

             ยาหยีแกหายไปไหนนะฉันรู้ไหมว่าฉันเป็นห่วงแกแค่ไหนหญิงสาวพูดตำหนิเพื่อนพร้อม 

          ตั้งระบบอัตโนมัติเอาไว้ เพื่อออกตามหาเพื่อนรัก ที่หายไปจากหน้าที่คุมเครื่องสัญญาณและรับโทรศัพท์จากผู้ฟังทางบ้าน ทุกครั้งไม่เคยเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นเพราะยาหยีเป็นคนที่ซื่อสัตย์ต่อหน้าที่แต่แล้วทำไมครั้งนี้จึงหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ตอนนี้กำลังอกหักกับคนรักที่เป็นเพศเดียวกัน ที่สาวทอมไปมีคนรักใหม่และทำงานอยู่ที่เดียวกันต้องเจอหน้ากันทุกวันอาจจะเป็นไปได้ที่เธอจะคิดไม่ดีไม่ร้ายกับตัวเอง

 
         ยาหยีเป็นหญิงสาวสวยหุ่นดี จิตใจดี เชื่อคนง่าย ถ้ารักใครแล้วจะทุ่มหมดใจเพราะเธอเป็นลูกสาวคนเล็กของนักธุรกิจดังจึงได้รับอิสระจากการเลือกคู่ เธอจึงเลือกผิดเลือกพลาดอยู่เสมอ ครั้งที่เรียนมัธยม ยาหยี เคยเรียนดีสอบได้ที่หนึ่งของห้องเป็นประจำแต่พอเรียนมาจนถึงชั้นมัธยมปลาย จนเธอมีความรักครั้งแรกและต้องเจ็บครั้งแรก  เธอมีเพศสัมพันธ์กับแฟนหนุ่มคือ วิชิต เป็นลูกชายเจ้าของโรงสี  เธอยอมเพราะความปากหวานของเขา จนเธอตกเป็นของเขาในวันนั้น เป็นครั้งเดียวและครั้งสุดท้ายของเขาและเธอ วิชิตเผยธาตุแท้ของตัวเองออกมา พร้อมกับดูถูกยาหยีเสียๆหายๆยาหยีจึงกลายเป็นคนซึมเศร้าจนเรียนจบมัธยมปลาย พอได้เรียนต่อมหาวิทยาลัย ต้องพบรักใหม่แต่คราวนี้จิตใจเธอแข็งขึ้นไม่ยอมเสียอะไรง่ายๆ เพราะเธอเคยผ่านการมีแผลมาแล้ว จิตใจของเธอตอนนั้นมีแต่ความเย็นชา จนคราวนี้เธอเป็นฝ่ายทำให้ผู้ชายเสียใจเพราะเธอนับครั้งไม่ถ้วน เธอเกลียดผู้ชายทั้งโลก สกปรกขยะแขยง จิตใจต่ำช้าคือเพศเดียวกับวิชิตที่ทำร้ายเธอ

ยาหยีเป็นลูกสาวคนเล็กของเศรษฐีเจ้าของโรงแรมที่ติดอันดับต้นๆด้านบริการที่ดีที่สุดในเมืองไทย จัดได้ว่าเป็นไฮโซแถวหน้าที่สามารถใช้ชีวิตสบายๆไปทั้งชีวิตโดยไม่ต้องง้อใคร หลังจากที่หัวใจของเธอ ต้องพบกับความผิดหวังอีกครั้ง กับสาวทอมที่ทำงานอยู่ที่บริษัทเดียวกัน อาจจะเจอหน้ากันทุกวัน หัวใจของเธอต้องห่อเหี่ยวเมื่อเห็นภาพบาดตาบาดใจ เพราะสาวทอม คบคนใหม่ที่เด็กกว่าสวยกว่าเซ็กซี่กว่าและอยู่บริษัทเดียวกันบาดใจเธอเหลือเกิน
      ที่ผ่านมา ยาหยีกับสาวทอมต่างเอาใจดูแลกันและกันจนน่าอิจฉา จนหนุ่มหล่อในออฟฟิศต่างพากันผิดหวังอกหักต่อให้หล่อเทพแค่ไหนก็ต้องกินคุณสมหวังไปตามระเบียบ

      หลังจากที่ยาหยีผิดหวังกับสาวเพศเดียวกัน เหตุการณ์ครั้งนี้เธอต้องผิดหวังอย่างรุนแรงมาแล้วครั้งล่าสุด ยาหยีกลายเป็นคนเงียบ...เงียบจนดูน่ากลัว เพราะเธอผิดหวังเพราะ คนรักเข้ามาในชีวิตของเธอเพียงแค่ทรัพย์สินเงินทองที่เธอมีมากมายใช้เท่าไหร่ก็ไม่มีวันหมด  ครั้งนี้ถึงกับคิดสั้นเพื่อปิดบันทึกทุกอย่างที่เขียนเอาไว้ตลอดชีวิต ก่อนขอจบชีวิตด้วยการกระโดดตึก แต่กานดา กล่อมจนเธอยอมกลับเข้ามาในอ้อมกอดของเพื่อนรักอีกครั้ง

        ยาหยีพักรักษาใจด้วยการดูแลอย่างใกล้ชิดจากกานดาเพื่อนรัก นี่ก็ผ่านไปหลายเดือนแล้ว และกานดาก็ได้พาไปพบกับรุ่นพี่ที่เคยผ่านอะไรมาเหมือนเธอคือผิดหวังเพศเดียวกัน คือพี่ เอ๋ ซึ่งเป็นดีเจรุ่นพี่ที่พร้อมให้คำปรึกษารุ่นน้องเสมอคำหนึ่งที่ยังจำได้คือสิ่งที่พี่ เอ๋ พยายามจะเติมเข้ามาในความคิดของยาหยี  ถ้ารักแล้วเจ็บ มันเจ็บเพราะเราตามใจตัวเอง รักง่ายเจ็บง่ายเป็นธรรมดา รักแท้มีอยู่ทั่วไปแต่รักให้เป็นมีอยู่หนึ่งในล้าน อยู่กับความโสดความเหงาให้ชินก่อนคิดจะรักใคร เผื่อไว้เวลาเราผิดหวังครั้งใหม่จะได้ไม่รู้สึกเจ็บเลยเพราะเราผ่านความโสด ความเหงามาแล้วอย่างสบาย

          ตอนนี้ความเงียบมันพาความหดหู่หัวใจมาให้ กานดาจนบอกอะไรไม่ถูกและไม่อยากพูดอะไรแล้วตอนนี้ เพราะเวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงแล้วยังไม่พบกับยาหยีเลย
       ระหว่างทางของออฟฟิศยามค่ำคืน บริษัทประหยัดไฟเพราะทำงานแค่จุดเดียวจึงปิดไฟจนมืดเกือบทั้งอาคาร กานดาเดินหาอย่างกังวลใจมองไปรอบๆไม่เห็นใคร  เธอรีบวิ่งกระหืดกระหอบขึ้นไปบนดาลฟ้าที่มีแสงไฟจากป้ายโฆษณาขึ้นภาพซุปตาร์อันดับหนึ่งในเมืองไทยหล่อและเท่มาก หล่อไม่มีที่ติท่ามกลางลมที่พัดกระโชกแรง ยามค่ำคืน  เหงื่อในร่างกายของเธอไหลชุ่มในลำคอเป็นเม็ดที่พุ่งออกมาจากขุมขนของเธอ หุ่นที่เรียวสวยของเธอกำลังชุ่มไปด้วยเหงื่อที่ไหลออกมา เธอหายใจแรงขึ้น เมื่อไม่เห็นใครบนดาลฟ้า เธอจึงวิ่งลงกลับไปที่ตึก ร่างกายของเธอทั้งสามสิบสอง ขยับไปมาโดยเฉพาะหน้าอกของเธอที่สั่นสะเทือนตามจังหวะ การวิ่งและเดินของเธอ ใบหน้าของเธอตอนนี้เหงื่อไหลออกมาจากรูขุมขนจนชุมใบหน้า หญิงสาวยังคงวิ่งหันซ้ายหันขวาพร้อมกับตะโกนส่งเสียงเรียกหาเพื่อนรักท่ามกลางความเงียบจนเสียงของเธอก้องกังวานลั่นออฟฟิศเสียงสั่นไหวไล่จากใกล้ไปไกล  ความเหนื่อยหอบอ่อนแรงของเธอคราวนี้หวังพึ่งพระพึ่งศาลขอให้ยาหยีเพื่อนรักอย่าเป็นอะไรเลย สียงสั่นไหวไล่จากใกล้ไปไกลเธอก้องกังวานลั่นออฟฟิตหน้า หญิงสาวยังคงวิ่งหันซ้ายหันขวาพร้อมกับตะโกนส่งเสียงเรียกหาเพื่อนรักองเธอทั
       ประตูลิฟท์ข้างใดข้างหนึ่งเปิดออก กานดารีบวิ่งไปที่ลิฟท์ อย่างมีความหวังแต่เธอก็ต้องผิดหวังเพราะภายในลิฟท์ว่างเปล่า เธอเดินเยื้องกรายออกมาจากในบ้านยืนอยู่ระเบียงชั้นบนที่อยู่ไม่ห่างจากลิฟท์ มองลงไปเห็นรถแล้วความวุ่นวายยามค่ำคืนแต่ไร้วี่แววของเพื่อนรักของเธอ

       ยาหยีแกอยู่ไหนนะอย่า!ทำอะไรโง่ๆนะไม่มีใครรักแกแต่ฉันของรักแกเสมอ กานดาบ่นถึงเพื่อนรักลอยๆ

           ยาหยีนี่แกไปไหน ใกล้จะเลิกงานแล้ว หญิงสาวเดินลิ่วลงมาข้างล่าง  ลุงยาม  รักษาความปลอดภัยประจำอาคารคงได้เวลาไปตรวจตราดูความเรียบร้อยรอบๆตัวอาคาร...หญิงสาวยกข้อมือซ้ายขึ้นมาดูเวลาอีกอีกสามสิบนาทีตีสอง ในห้องจัดรายการเธอตั้งระบบอัตโนมัติจนกว่าจะมีคนมารับช่วงต่อในตอนเช้ามืด   เธอวิ่งออกไปด้านหน้าบริษัทเพื่อตามหายาหยีเพื่อนรักข้างนอก แสงสียามค่ำคืนแสงไฟจากไฟข้างทางของกรมทางหลวง ร้านค้า หลายร้านยังคงปิดเงียบ มีเพียงผู้คนบางส่วนที่พึ่งกลับไปซื้อของที่ตลาดมืดเพราะด้านข้างบริษัทผู้คนจากที่ทั่วสารทิศพากันมาเลือกซื้อของใช้ยามค่ำคืน

     กานดา ตัดสินใจทิ้งงานที่ห้องส่งเพราะดูเวลาใกล้จะตีสองแล้ว ปล่อยให้ช่วงต่อไปมารับช่วงต่อ

    ใจของหญิงสาว ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เป็นห่วงเพื่อนที่หายไปอย่างไร้ร่องรอย   ท่ามกลางผู้คนมากมายเธอมองเห็นหญิงสาวที่ บุคลิกคล้ายกับยาหยีเพื่อนรัก เธอร้องตะโกนเรียกชื่อ ร้องอย่างเอาเป็นเอาตาย

              ยาหยี...นั่นแก ใช่ไหม หญิงสาวตะโกนสุดเสียงแต่ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง คือหญิงสาวคนนั้น เขาไม่ได้ชื่อยาหยี แต่เธอยังคงมั่นใจว่านั่นคือเพื่อนของเธอ วิ่งข้ามถนนไปอย่างไม่ทันมองรถที่กำลังแล่นมาด้วยความเร็วปานกลาง

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

แสงไฟจากรถส่องหน้ากานดาจนเธอต้องยกมือมาบังพร้อมกรี๊ดสุดเสียง

 กรี้ดดดดดด หญิงสาว หน้าช็อก หมดสติ

      เอี้ยด!!!!  ตรงหน้ารถเห็นผู้หญิงรูปร่างผอมเพรียวล้มลงที่พื้นช้าๆ
     “ ไอ้กร เองขับไม่ดูเลยนะแก ชนคนน่ะ วิษณุหนุ่มหล่อมาดเท่ห์วัยสามสิบเป็นศิลปินที่มีชื่อเสียงอีกทั้งยังเป็นลูกชายคนเดียวของ คุณ พิสมัย ไกรสรเดชา เจ้าของบริษัทโฆษณาชื่อดัง พึ่งกลับจากศึกษาต่อต่างประเทศได้ไม่นาน

ไม่ทันมองว่ะใครจะไปรู้ว่าจู่ๆจะมีคนด่วนวิ่งข้ามถนนโดยไม่ทันมองรถ คู่หู ของชายหนุ่ม ปกรณ์เป็นเพื่อนสนิทอีกทั้งยังเป็นดาราที่กำลังมีชื่อเสียงตอนนี้ด้วย ...เข้ามองไปด้านหน้าบนถนนร่างของหญิงสาวยังคงนิ่งสงบไร้การเคลื่อนไหว

เขารีบเปิดประตูลงไปดูที่หน้ารถทันที ..อุ้มร่างของอันบอบบางของเธอมาอยู่ในอ้อมอกของเขา

คุณ...คุณ

หญิงสาวยังนิ่งหมดสติ ...วิษณุอุ้มร่างน้อยของกานดาขึ้นมาหนุนตัก สีหน้าตกใจทำอะไรไม่ถูก

ไอ้กร..เองนี่นะ...ชายหนุ่มตำหนิเพื่อน

ยายดา...กานดา..ยาหยีวิ่งตรงมาที่รถพร้อมกับผลัก ปกรณ์มองไปที่ วิษณุที่กำลังจะอุ้มร่างของเพื่อนสาวของเธอขึ้นมา 

หญิงสาวมองเห็นเพื่อนสาว ถุงลูกชิ้นที่จะซื้อไปฝากกานดาตกลงพื้นน้ำจิ้มแตกกระจาย ยายดายาหยีกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ไหว

ผมไม่มีเวลาอธิบายนะคุณรีบไปโรงพยาบาลก่อนดีกว่า ชายหนุ่มเอ่ย

ยายดาอย่าตายนะเว้ย!ฉันเหลือแกคนเดียวแล้ว...ยายดาแกอย่านิ่งแบบนี้..ลุกขึ้นมาคุยกับฉัน

ผมขอโทษนะคุณเพื่อนผมมันขับรถไม่ดีเอง...ตอนนี้คุณใจเย็นๆก่อนนะครับ

ผมขอโทษนะคุณ ...ปกรณ์ตอบเสียงแห้ง...

ถ้าเพื่อนฉันไม่ตายแต่เจ็บ! ยังไงคุณก็โดนฉันอยู่ดี หญิงสาวหันมามองหน้าค้อนปอน ขับรถประสาอะไรใบขับขี่หมดอายุหรือว่าไม่มีหญิงสาว ตำหนิปกรณ์ไม่ยั้ง คนนะคุณแล้วเพศแม่คุณด้วยยาหยีควบคุมอารมณ์ไม่อยู่วีนแตกใส่ปกรณ์ไม่ยั้งเป็นชุดเล็กชุดใหญ่

คุณผมว่าคุณใจเย็นๆก่อนดีกว่านะ ...ผมไม่ได้ตั้งใจนะคุณ..ปกรณ์สวนกลับทันทีด้วยสีหน้าซีเรียส

ไอ้กรมึงหยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ..โน้น!! เลี้ยวๆเข้าโรงพยาบาล...ชายหนุ่มย้ำด้วยความรีบร้อน

รถกระบะสีประตูสีดำแล่นขึ้นเนินเพื่อแล่นไปจอดที่หน้าทางเข้าฉุกเฉินพอดี พนักงานเปลของโรงพยาบาล พร้อมด้วยพยาบาลเวร รีบวิ่งตรงมาที่วิษณุที่กำลังอุ้มร่างของกานดาไปว่างที่เตียงคนไข้ ชนิดติดล้อก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข็นไป ตามทางไปห้อง ฉุกเฉิน

แสงไฟเพดานผ่านเลื่อนไปเป็นระยะ ท่ามกลางความเป็นห่วงของเพื่อนรัก...ยายดาแกต้องไม่เป็นอะไรนะฉันเหลือแกอยู่คนเดียวแล้ว พนักงานเปลและพยาบาลเวรเข็นรถมาจนถึงหน้าห้องฉุกเฉินเป็นเขตหวงห้ามเข้าได้เฉพาะทีมแพทย์และพยาบาลเท่านั้น

 หมอผู้หญิงหน้ายังสวยเดินนำเข้าไปในห้อง อย่างรีบร้อน  พยาบาลสาวสวยเดินตามมาติดๆ ยกมือมาบังเอาไว้...เข้าไม่ได้นะคะก่อนที่ประตูจะปิดลงไฟที่หน้าห้องฉุกเฉินขึ้นเป็นสีแดงไม่ต่างกับไฟหน้าห้องจัดรายการ

ใจเย็นๆนะครับคุณ...ถึงมือหมอแล้วยังไงเพื่อนคุณต้องปลอดภัย ...วิษณุพูดจาปลอบใจเพื่อลดระดับความร้อนของ ยาหยีลง

ฉันมีเพื่อนคนนี้อยู่คนเดียว ที่อยู่เคียงข้างฉันเสมอ...หญิงสาวเอ่ยทั้งน้ำตาที่ค่อยไหลออกมาช้าๆ

ผมเข้าใจตอนนี้เราภาวนาส่งใจไปช่วยให้เพื่อนของคุณปลอดภัยดีกว่าวิษณุเอ่ยเสียงพอประมาณ หันมามองหน้า เพื่อนรักที่ก้มหน้าหนีหลบสายตายอมรับความผิด

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ร้านข้าวมันไก่สูตรไหหลำ สูตรดั้งเดิม
        ม่านม่วน ถูกเปิดออกเป็นเวลาตีสี่เวลาที่หลายๆร้านกำลังจะเปิดร้าน วิกานดา หญิงสาววัยสามสิบห้าปี ผมยาวปิดหลังใส่แว่นสายตา พี่สาวของกานดา ที่พึ่งเสียใจกับคนรักมาได้ไม่นานจนกระทั่งออกจากงานมาช่วยอาม่าข้าวข้าวมันไก่ หลังจากนั้นเกือบจะคิดสั้นฆ่าตัวตาย แต่ทุกอย่างต้องหยุด เพราะเสียงอันสดใสของน้องสาวคือกานดามาเคาะประตูเรียกในวันนั้น ทำให้เธอนึกถึงอาม่ากับน้อง จึงต้องอยู่และสู้กับตัวเอง เธอเดินจัดโต๊ะ ทั้งที่ยังอยู่ในชุดนอนสบายๆเสื้อยืดสีขาวบางๆกางเกงขาสั้น  กำลังเตรียมของเปิดร้านในตอนเช้า หลังจากที่ไปซื้อของเตรียมไว้ตั้งแต่เมื่อคืน เธอเตรียมของเพียงลำพังก่อนที่อาม่าจะลุกขึ้นมาช่วยอีกแรง วันนี้ผิดสังเกตเพราะยังไม่เห็นรถของกานดามาจอดที่หน้าตึกแถว รอบๆมีเพียงรถที่ขนของมาลงเพื่อขายในตอนเช้ามืด

รถเข็นคันหนึ่งผู้ควบคุมเป็นเด็กสาวในชุดนักเรียนมัธยม พี่กานคะ นี่ค่ะ ขนมครกลูกหมูเด็กสาวในชุดนักเรียนมัธยมปลายเข็นรถขายขนมครกมาเพียงลำพัง ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม

น่ากินจังจ๊ะ มีหลายสีด้วย ...แล้วแม่ไปไหนล่ะไม่มาด้วยหรือ...วิกานดาถามพร้อมกับหยิบขนมครกใส่ปาก

แม่ไม่สบายค่ะหนูเลยมาขายเองสายๆ ค่อยไปโรงเรียน แต่วันนี้ ถ้าเข็นรถกลับบ้านคงสาย หนูขอฝากไว้หน้าร้าน อาม่า นะคะเด็กสาวเอ่ยยิ้มๆ

ได้ๆไม่มีปัญหา  แหม่! พูดเหมือนเราเป็นคนอื่นคนไกลหญิงสาวตอบพร้อมกับยิ้มอย่างอบอุ่น

เป็นอะไรมากไหม...แล้วไปหาหมอมาหรือยังหญิงสาวเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง

 เป็นไข้ค่ะพี่กานตัวร้อน หนูพึ่งไปซื้อยามาให้กินวันนี้เลยให้นอนพักลูกหมูตอบยิ้มๆ

 เวลานั้นเองจู่ๆโทรศัพท์บ้านก็ดังขึ้น เครื่องโทรศัพท์ตั้งโต๊ะที่เต็มไปด้วยบัญชีรายรับรายจ่าย หญิงสาวยกหูโทรศัพท์ขึ้นมาด้วยสีหน้าไม่พอใจ ใคร..โทรมาแต่เช้า
     วิกานดาแทบล้มทั้งยืน  “อะไรนะคะ ยายดา ได้ค่ะได้ จะรีบไปเดี๋ยวนี้ค่ะ วิกานดาวิ่งหน้าตาตื่น

สวนทางกับหญิงชราที่กำลังเดินลงมา หญิงสาววิ่งสวนแทบจะชนอาม่า วัยหกสิบ
   “ อะไรของลื้อแต่เช้าตาวันยังไม่โผล่เลยจะ รีบไปไหนของลื้อ!วะให้มันหัวฟาดพื้นไปเลยดีไหม หญิงชราเอ่ยสำเนียงจีน  ยืนมองขึ้นไปด้านบนด้วยความสงสัย ก่อนเดินไปที่หม้อต้ม ที่มีไก่แช่อยู่ในน้ำที่กำลังเดือดวิกานดาพึ่งเตรียมต้มไก่ลงไปในหม้อเพื่อเตรียมขายในตอนเช้า หญิงชราชะเง้อมองเด็กสาวยอดกตัญญู

    ลูกหมู เอ้ย!  แม่ลื้อไปไหนวะ ...หญิงชรายืนถามด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลสำเนียงจีน

 เด็กสาวยิ้มหน้าบาน แม่ไม่สบายคะ หนูเลยมาขายคนเดียว หนูจะบอกอาม่าว่าหนูขอทิ้งรถเข็นไว้ที่หน้าร้านอาม่าตอนเย็นค่อยเข็นกลับ เด็กสาวลูกสาวคนเดียวของนางสายหยุดตอบพร้อมกับยื่นขนมครกให้ลูกค้า

      ได้ๆไม่ต้องเกรงอกเกรงใจกันหญิงชรายิ้มรับ ไม่ใช่คนอื่นคนไกลคนกันเองนะหญิงชรา ออกสำเนียงจีน

    วิกานดาเดินมาไหว้ ไปก่อนนะอาม่า แล้วหนูจะรีบกลับมาหญิงสาวท่าทางรีบร้อนไม่ได้บอกอะไรกับหญิงชรา
       หญิงชราทำหน้า งง ตะโกนสวน หญิงสาว   แล้วร้านล่ะ อะไรของลื้อ...แล้วลื้อจะรีบไปไหน

ไปโรงพยาบาล...เดี๋ยวกับมา ...หญิงสาวตะโกนสวนกลับมาที่หน้าร้าน

โรงพยาบาลอะไรของลื้อ..อั๊วฟังมะรู้เรื่องเลย...หญิงชรายืนทำหน้าไม่รู้เรื่องเกาหัวแกกๆ

 ลูกหมูลื้อรู้หรือป่าวว่ายายกานไปทำไมโรงพยาบาล..หญิงชราถามด้วยความสงสัย

หนูก็ไม่ทราบค่ะอาม่า...แต่เมื่อครู่มีโทรศัพท์ดังคะ...ลูกหมูตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล

ใครกันโทรมาแต่เช้ามืด...หญิงชราตั้งหน้าตั้งตา หวังว่าคงไม่มีเรื่องไม่ดีนะทำร้านให้พร้อมขายในตอนเช้าด้วยสีหน้าไม่สบายใจ

อาม่า ยืนทำหน้างง มันต้องเกิดเรื่องขึ้นแน่ๆ (สำเนียงจีน )

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ที่หน้าห้องฉุกเฉิน   ยาหยีน้ำตาคลอเบ้า บอกกับตัวเองว่ายังไงกานดาต้องไม่เป็นอะไร ต้องปลอดภัย

ชายหนุ่มรวมทั้งคู่รู้สึกไม่สบายใจที่เป็นต้นเหตุทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น มองหน้าเพื่อนซี้ที่ทำหน้าหมดหวังระหว่างรอลุ้น

หญิงสาวเห็นหน้าชายหนุ่มทั้งสองเกิดอารมณ์ขึ้นมาอีกครั้ง...นี่พวกคุณเพื่อนฉันยังไม่ตายนะหน้าตาของพวกคุณนี่ยังไง เพื่อนฉันต้องไม่เป็นอะไร...ที่สุดหญิงสาวก็ปล่อยโฮ ออกมาน้ำตาไหลผ่านร่องรอยที่บ่งบอกอายุ

ไอ้นุ ตกลงเราต้องพาเพื่อนคนเจ็บไปให้หมอตรวจอีกคนไหม...ปกรณ์กระซิบข้างหูวิษณุ

ไอ้กรเองเงียบไปเลยไม่ใช่เพราะเองหรอกเหรอที่ทำให้เรื่องมันเป็นแบบนี้...ชายหนุ่มตำหนิเพื่อนเรื่องขับรถประมาท

ใครจะไปรู้ล่ะ จู่ๆโผล่พรวดออกมาจากต้นไม้ที่เกาะกลางถนน...ปกรณ์ยอกย้อน เสียงแหลมเอาตัวรอด

ยาหยียังคงร้องไห้น้ำตาไหลจนเป็นคราบน้ำตาที่เกาะอยู่ตามขอบริ้วรอยบนใบหน้านวิษณุ
ยายดา แกต้องไม่เป็นอะไรนะบนโลกใบนี้ ฉันไม่เหลือใครแล้ว แกอย่าเป็นอะไรนะยายดา ถ้าแกเป็นอะไรไปฉันจะตามแกไป ได้ยินมั้ย ยายดา ฉันจะตามแกไป...ยาหยีตะโกนเสียงดังก้องโรงพยาบาล

ประตูห้องฉุกเฉินเปิดออก ก่อนที่หมอสาวใสหน้าหมวย เดินออกมาจากห้องพร้อมด้วยสีหน้านิ่งไม่พูดจา

ปกรณ์เห็นสีหน้าของหมอแล้ว...กระซิบข้างหูวิษณุ..ตายเปล่าวะ!” ปกรณ์พูดจบตีหน้าซื่อๆ

ไอ้กร...เองนี่เงียบๆปากไปเลยนะในปากของเองน่ะที่หลังกั้นคอกให้อยู่กันดีๆได้ไหมชายหนุ่มตำหนิเพื่อน

เพื่อนฉันเป็นอย่างไรบ้างค่ะหมอหญิงสาวยืนตรงหน้าหมอสาวสวย ยายดาเพื่อนฉันเป็นยังไงบ้างยาหยีจับไหล่ของหมอหญิงสาวใบหน้าขาวสัดส่วนได้ขนาดเขย่าจนร่างของหมอหญิงสาวหน้าตาลูกครึ่งไทยจีนสั่นไหวไปตามมือทุกส่วนบนร่างกายของหมอสั่นไหวไปพร้อมๆกับ สเต็ทโทสโคป ที่สั่นไหวกระแทกกับหน้าอกของหมอสาว

    คุณ..คุณ..ใจเย็นๆนะคะหมอเจ็บไปหมดแล้วเพื่อนของคุณปลอดภัยค่ะแค่ ช็อก! เท่านั้นเอง
      “ยายดาไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ ขอบคุณค่ะหมอยาหยีจับมือ หมอสาวเขย่าตามจังหวะ

   เพื่อนคุณปลอดภัยแล้วค่ะ ไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน...หมอสาวยิ้มที่มุมปาก
   ขอบคุณมากครับหมอ...ชายหนุ่มบอกด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล

     ไม่เป็นไรค่ะมันเป็นหน้าที่ของ หมออยู่แล้วค่ะหมอสาววัยไม่เกินสามสิบ บอกด้วยน้ำเสียงจริงใจ

      นางพยาบาลสองคนเดินออกจากห้องฉุกเฉินพร้อมกับรถเข็นอุปกรณ์พยาบาล
      “คุณพยาบาลฉันเข้าไปหาเพื่อนฉันได้ยังคะยาหยีพูดด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงเพื่อนรัก

     นี่คุณเพื่อนฉันไม่เป็นอะไรแล้วยาหยีเผลอไปจับมือปกรณ์เขย่าเหมือนคนไม่รู้สึกตัว

      จ๊ะ!..ดีใจด้วยจ๊ะ  ปกรณ์ยิ้มแก้มปริเพราะ ไม่เคยถูกผู้หญิงจับมือ ท่าจะเพี้ยนเมื่อกี้ยังด่าไฟดับเจ็ดหมู่บ้านอยู่เลย มาหลอกจับมือหนุ่มหล่ออย่างเราเสียแล้วปกรณ์เอ่ยในใจยิ้มๆเห็นความน่ารักของยาหยี

     ยายดา...ยายดาฟื้นแล้วยาหยีวิ่งไปแตะขอบเตียงคนไข้ด้านข้างของเตียงมีเครื่องช่วยหายใจขนาดเล็กตั้งอยู่ด้านข้าง เตียงคนไข้รุ่นนี้มีสามระดับ ...ยาหยีโผกอดเพื่อนสาวเมื่อเห็นว่าลืมตาแล้วยิ้มได้
       “ยาหยีนี่แกไปไหนมาฉันเป็นห่วงแกแทบแย่ กานดาลืมตาขึ้นมาถามเพื่อนสาว ด้วยความเป็นห่วงทันที
         ยาหยียิ้มขึ้นพร้อมยิ้มหวาน ฉันไม่ได้ไปไหนมีแต่แกนั่นแหละกานดา แล้วยังไม่เลิกงานแกลงมาทำไมยาหยียืนทำหน้าคิดถึงถุงลูกชิ้นที่ ตกพื้นน้ำจิ้มแตกกระจายอ๋อ!!ที่ฉันลงมาเพราะว่าหิวฉันเลยลงมาหาอะไรกินแต่พอกำลังจะกลับ ฉันก็เห็นแกถูกรถชนเสียก่อนยาหยีตอบยิ้มๆ

       อะไรนะรถชน แล้วฉันต้องนอนโรงพยาบาลใช่ไหม...ไม่ได้นะเพราะฉันทิ้งอาม่ากับพี่กานเอาไว้ไม่ได้ฉันต้องไป ฉันอยู่ไม่ได้หรอกบนเตียงไม่ได้ทำอะไร

หมายเหตุ สเต็ทโทสโคป (Stethoscope) เป็นเครื่องมือที่แพทย์ใช้ฟังเสียงต่าง ๆ ภายในร่างกายของคนไข้ โดยเฉพาะเสียงหัวใจและปอด

 

อีบุ๊กในซีรีส์เดียวกัน ดูทั้งหมด

loading
กำลังโหลด...

นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

loading
กำลังโหลด...

คำนิยม Top

ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

คำนิยมล่าสุด

ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

0 ความคิดเห็น