Rain:Morimoto Ryutaro, Chinen Yuri, Nakajima Yuto, Okamoto - Rain:Morimoto Ryutaro, Chinen Yuri, Nakajima Yuto, Okamoto นิยาย Rain:Morimoto Ryutaro, Chinen Yuri, Nakajima Yuto, Okamoto : Dek-D.com - Writer

    Rain:Morimoto Ryutaro, Chinen Yuri, Nakajima Yuto, Okamoto

    ฟิคนี้ก็ยังมากับสายฝนและชีวิตในรั้วโรงเรียนหมือนเดิมค่ะ Pairing: none Main character: Morimoto Ryutaro, Chinen Yuri, Nakajima Yuto, Okamoto Keito

    ผู้เข้าชมรวม

    491

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    7

    ผู้เข้าชมรวม


    491

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    2
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  5 ต.ค. 55 / 15:45 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    Fanfic Rain

    “ถามจริง พวกพี่สองคนนี่เป็นโรคหัวใจ(เสาะ) หรือโรคปอด(แหก) รึป่ะ กลัวจริงง่ะ”
    เด็กหนุ่มรุ่นน้องถามอย่างหน่ายๆ

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      Morimoto Ryutaro, Chinen Yuri, Nakajima Yuto, Okamoto Keito

      Rain

       

       

      ยามเย็น แต่ท้องฟ้ากลับมืดครึ้ม เพราะฝนตกหนักอย่างไม่ลืมหูลืมตา

      นักเรียนหลายคนยืนจับกลุ่มอยู่ใต้อาคารเรียนรอให้ฝนซา บ้างก็วิ่งฝ่าสายฝนออกไป

      แต่เด็กหนุ่มหน้าสวยในชุดนักเรียนมัธยมปลายปีหนึ่งคนหนึ่งกลับนอนเอกเขนก ไม่อนาทรร้อนใจใดๆ ทั้งสิ้น

      อยากนอนค้างคืนที่ห้องพยาบาลเลยด้วยซ้ำ

      ก็นอนที่นี่ไม่ต้องทนฟังเสียงโหวกเหวกของบรรดาพี่สาวน้องสาวนี่นา น่าเบื่อจะตาย

      เอาวะ ถ้าอาจารย์ห้องพยาบาลจะมาล๊อคห้อง เราก็แอบไปอยู่หลังผ้าม่านหรือใต้เตียงก็สิ้นเรื่อง

      อาจารย์คงไม่มาสอดส่องดูหรอก หึๆ

       

      แล้วทุกสิ่งก็เข้าทาง เป็นไปดังคาด

      อาจารย์ห้องพยาบาลปิดไฟ ล็อคห้องเรียบร้อย หลังจากตรวจดูแล้วว่าไม่มีนักเรียนเหลืออยู่ในห้องนั้น

       

      ภายในห้องพยาบาลมืดสนิท มีเพียงแสงสีขาวของฟ้าผ่าที่สว่างวาบ และเสียงดังของฟ้าร้องกับเสียงสายฝนกระหน่ำกระทบบานหน้าต่างเท่านั้น

      จิเน็น ยูริเปิดไฟฉายจากมือถือ คลานออกมาจากใต้เตียง สะบัดรองเท้านักเรียนออก ก่อนจะกระโดดขึ้นนอนบนเตียง ห่มผ้าอย่างสบายใจ

      อากาศเย็นสบายอะไรอย่างนี้....

       

       

      เด็กชายตากลมราวกับแฮมสเตอร์เดินถือไฟฉายนำเพื่อนรุ่นพี่เข้ามาตามระเบียงทางเดินที่มืดสนิทและเงียบงัน มีเพียงเสียงฝีเท้าสามคู่ดังสะท้อนแนวผนัง ชวนให้บรรยากาศยิ่งวังเวงมากยิ่งขึ้น

      แต่แล้วคนอายุน้อยที่สุดก็เริ่มหมดความอดทน จนต้องหันไปโวยวายกับสองรุ่นพี่

      “เฮ้ย! จะดึงหาอะไรนักเนี่ย! เสื้อนักเรียนผมจะขาดหมดแล้วนะรุ่นพี่โต๊ะโตะ!” (ยูโตะ+เคย์โตะ)

      นาคาจิม่า ยูโตะ เด็กหนุ่มร่างสูงโย่งหัวเราะแหะๆ แต่ก็ไม่ยอมปล่อยมือ “ก็แหม บรรยากาศมันน่ากลัวอ่าริวจัง ก็ดูสิ ตอนนี้มันก็สี่ทุ่มเข้าไปแล้ว แล้วก็มืดตื๊ดตื๋อขนาดนี้ วังเวงขนาดนี้ น่ากลั๊ว น่ากลัวอ่า”

      Ye..Ye..Yeah. He’s right It’s very spooky มากๆ. น่าสะพรึงมากเลยริวจัง” โอคาโมโตะ เคย์โตะ เกาะแขนขวาของรุ่นน้องที่เดินนำหน้าไว้แน่น ไม่ได้นึกเลยว่ากล้ามแขนของตัวเองจะทำให้รุ่นน้องแทบจะแขนหักตาย

      “ถามจริง พวกพี่สองคนนี่เป็นโรคหัวใจ(เสาะ) หรือโรคปอด(แหก) รึป่ะ กลัวจริงง่ะ” เด็กหนุ่มรุ่นน้องถามอย่างหน่ายๆ “ถ้ารู้ว่าลำบากขนาดนี้ ผมไม่มาเป็นเพื่อนพวกพี่มาเอาสมุดการบ้านที่ลืมไว้หรอก”

      ยูโตะขยับมาเกาะแขนซ้ายของริวทาโร่ พยายามบาลานซ์น้ำหนักที่ถ่วงแขนรุ่นน้องอยู่ “ก็มันน่ากลัวอ้ะ! แม้แต่เสียงหมาหอนก็ยังไม่--”

      บรู๊วววววววววววว~~~~~

      ไม่ทันจบประโยค เสียงหมาหอนรับส่งกันเป็นทอดๆ มาแต่ไกล แข่งกับเสียงสายฝนที่ยังคงกระหน่ำอย่างไม่รู้จักหยุดหย่อน

      “แอร๊ยยยยยยยย!!

      สองรุ่นพี่ผวากระโดดเข้ากอดรุ่นน้องแน่น ไฟฉายในมือริวทาโร่หล่นตุบลงพื้น กลิ้งกลุกๆ ไปตามทางเดิน แสงจากไฟฉายดับวูบ

      “อื่อ.....อื่อ.......ปละ......อื่อ........”

      เสียงครางทำเอาสองรุ่นพี่กอดคอ ซุกหน้าซุกหลังรุ่นน้องเป็นพัลวัน

      “Oh my gosh…..” ยิ่งมองไปรอบที่มีแต่ความมืดมิด เคย์โตะยิ่งร้องครางตัวสั่นเทา“Oh my Buddha….”

      “.....อื่อ.....เปลาะ....ปล่อย....”

      สองรุ่นพี่โต๊ะโตะหลับตาปี๋ ขณะที่ริวทาโร่แทบจะลิ้นจุกปากตายเพราะแรงกอดที่คอ พยายามร้องบอกสองรุ่นพี่ให้ปล่อย แต่เหมือนยิ่งพยายามร้องบอก รุ่นพี่ยูโตะที่เป็นโรคหัวใจ(เสาะ) กับรุ่นพี่เคย์โตะที่เป็นโรคปอด(แหก) ก็ยิ่งกอดคอเขาแน่นขึ้นทุกที

      ริวทาโร่ที่มีสองรุ่นพี่มือตุ๊กแกกอดคอเกาะขาเกี่ยวตัวไว้ ได้แต่พยายามสะบัดสองหนุ่มให้หลุดจากตัว แต่ยิ่งดิ้น ก็เหมือนยิ่งกลายเป็นตุ๊กตาล้มลุก กลิ้งหลุนๆ ไปกับพื้นราวกับลูกโบว์ลิ่ง

      “ว้ากกกกกกกกกกกกกก!!” สามเสียงประสานเสียงร้องกัน ก่อนที่สุดท้ายจะไถลมานอนคางเกยพื้น หมอบกระแตหยุดอยู่ที่พื้นเกือบสุดระเบียงทางเดิน

      “โอ๊ย..พวกพี่จะลุกไปจากตัวผมได้รึยัง ตัวผมจะหักอยู่แล้วนะ” ริวทาโร่โอดครวญ ก็ตอนนี้สองรุ่นพี่โต๊ะโตะกอดตัวเขาแน่นเสียยิ่งกว่าเดิมอีก

      “นี่ จะลุกได้ยังอ่ะ พวกพี่นี่ป๊อดจริง--“ ริวทาโร่ปรามาสก่อนจะเงยหน้าไปเห็นปลายเท้าขาวซีดคู่หนึ่ง

      ปลายเท้าขาวซีดที่ลอยค้างอยู่ในความมืดของปลายสุดระเบียงทางเดิน

      เอี๊ยด....เอี๊ยด.....กร๊อก...

      เสียงฝนหยุดไปตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้

      เอี๊ยด......เอี๊ยด......

      “ระ..ระ..ริวจัง...เหะ..เห็น...เห็นอย่างที่พี่เห็นมั้ย...” ยูโตะฝังหน้าลงไปที่แผ่นหลังของรุ่นน้องแน่น “เห็นชะ...ใช่ป่าวอ้า...”

      ริวทาโร่กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก รู้สึกได้ถึงน้ำหูน้ำตาและมือที่สั่นเทาของสองรุ่นพี่ที่กอดเขาแน่นจากด้านหลัง

      อย่าเงยหน้าขึ้นไปมอง--

      เหมือนมีบางสิ่งบอกเขาว่าอย่าได้เงยหน้าขึ้นไปมอง

      อย่า--

      Oh mommy!... That’s a ผี ใช่มั้ย ริวจัง” เคย์โตะชี้ไปเบื้องบนด้วยนิ้วที่สั่นระริก

      ริวทาโร่เงยหน้าขึ้นไปแล้วก็ต้องอ้าปากค้าง เมื่อได้เห็นร่างในชุดสีขาวห้อยต่องแต่งลงมาจากแผงหลอดไฟเพดาน

      ปลายเท้าขาวซีดแกว่งไกวอยู่ในความมืด แสงสว่างรางๆ จากอกเสื้อสีขาวนั้นส่องกระทบเป็นเงามืดบนใบหน้าที่ปรกไปด้วยผมสีดำ

      ริมฝีปากคลี่รอยยิ้มแสยะ

      ปลายนิ้วมือขาวซีดยื่นออกมาหาริวทาโร่คล้ายจะไขว่คว้า

      แล้วริวทาโร่ก็ทำสิ่งที่พึงจะกระทำที่สุดในยามนั้น

      “ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!

      เด็กหนุ่มกรีดร้องแล้ววิ่งหนี ไม่แม้แต่จะเหลียวหลังกลับมาดูสองรุ่นพี่ที่นอนคางเกยพื้น ตาค้าง ตัวแข็ง เหมือนถูกตรึงอยู่กับที่

      เอี๊ยด....เอี๊ยด....ตุบ....

      ปลายเท้าขาวซีดค่อยๆ แตะลงบนพื้นไม้ของระเบียงทางเดิน ตรงกับระดับสายตาของยูโตะและเคย์โตะที่หมอบอยู่กับพื้นพอดี

      ไม่รอช้า

      ยูโตะและเคย์โตะประสานเสียงกันกรีดร้องแล้วเผ่นแน่บตามริวทาโร่ไปทันที

       

       

      “ปอดแหกชะมัด”

      จิเน็น ยูริพึมพัมเบาๆ แล้วหัวเราะคิกคัก เมื่อนั่งดูคลิปเหตุการณ์ที่อัดไว้จากมือถือเมื่อคืน

      เจ้าตัวไม่ได้เจตนาจะแกล้งสามคนนั้นหรอก เพียงแต่ตอนที่ยูริกำลังนอนหลับสบายอยู่บนเตียงในห้องพยาบาลนั้น เสียงโหวกเหวกโวยวายของทั้งสามปลุกให้เขาตื่นขึ้นมา จะนอนต่อก็นอนไม่หลับ

      ยูริเลยโผล่หน้าออกมาดูว่าใครมาทำอะไรเสียงดังในโรงเรียนค่ำๆ มืดๆ อย่างนี้

      พอเดินออกมาก็ได้เห็นกลุ่มตุ๊กตาล้มลุกกลิ้งโคล่โร่มาทางเขาด้วยความเร็วสูงพร้อมเสียงกรีดร้อง

      สัญชาตญาณทำให้เจ้าตัวกระโดดเกาะแผงหลอดไฟบนเพดานได้ทันท่วงที ก่อนที่จะโดนตุ๊กตาล้มลุกกลิ้งทับ

      เอี๊ยด...กร๊อก....

      เป็นเสียงแผงหลอดไฟที่กำลังทานน้ำหนักตัวของยูริที่ห้อยต่องแต่งอยู่นั่นเอง

      แล้วเมื่อได้เห็นหน้าสามคนที่นอนเคางเกยพื้นแล้วก็แทบกลั้นหัวเราะไม่อยู่

      สละมือข้างหนึ่งหยิบโทรศัพท์มือถือมาตั้งโหมดถ่ายคลิปทันที

      สามหนุ่มคนดังประจำโรงเรียนกรี๊ดแต๋วแตกวิ่งหนีผี(ปลอม)!

      ยูริยิ้มอย่างพอใจ แล้วกดปุ่มอัพโหลดคลิปเข้าสู่ระบบอินทราเนตของโรงเรียนทันที

      “เรตติ้งดิ่งลงเหวแน่ ทีนี้ก็ไม่มีใครมาชิงตำแหน่งหนุ่มป๊อบประจำโรงเรียนกับเราแล้วสินะ ว้า~ สบายใจจัง”

      แล้วเด็กหนุ่มหน้าสวยก็ลุกขึ้นจากเตียงนอนห้องพยาบาล เพื่อไปห้องเรียนยามเช้าอย่างอารมณ์ดี

       

       ++++

      บทส่งท้าย

       

      “นี่! พวกเธอรู้เรื่องโต๊ะโตะคุง และน้องริวทาโร่หรือยัง!” เสียงร้องของซูซูกะเรียกให้ทุกคนในห้องเรียนหันไปมอง

      “เกิดอะไรขึ้นกับพวกนั้นเหรอ” ยูริถามหน้าซื่อใส คลิปแต๋วแตกหนีผีล่ะสิ

      ซูซูกะทำหน้าเหยเก ก่อนจะปล่อยโฮ

      “มะ...เมื่อวานฝนตกหนัก สะ..สามคนนั้น...เลยประสบอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำตายระหว่างกลับบ้านเมื่อเย็นวานนี้!!

       

       --fin--

       

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×