คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : THE LEADER [ ยัยคอสเพลย์ขย้ำหัวใจนายลีดเดอร์] ::: Chapter Five ~ 100%
EXOTIC
EXOTIC THE villains { 1 }
THE LEADER [ ยัยคอสเพลย์ขย้ำหัวใจนายลีดเดอร์]
CHAPTER SIX
“จะบ้าตาย!! ต่อไปฉันจะไม่ดื่มแกอีกแล้ว ฮึ้ยย”เป็นเพราะเสียงของนาฬิกาปลุกสไตล์ฝรั่งเศสของฉันที่มันส่งเสียงระงมไปทั่วห้องได้ปลุกฉันตื่นจากห้วงความฝันอันสวยงาม (มั้ง)
ฉันลุกขึ้นนั่งพลางใช้มือนวดศีรษะของตัวเองเพื่อบรรเทาอาการปวดหัวที่เกิดจากฤทธิ์แอลกอฮออล์เมื่อคืนนี้ ไม่คิดเลยว่าฉันจะสู้แรงของมันไม่ไหวถึงกับเมาแล้วดั๊น...อาเจียนใส่พ่อเทพบุตรสุดหล่อมายเดียร์ของฉัน เหตุการณ์เมื่อคืนฉันจำได้ทุกอย่างยกเว้นตอนที่คริสแบกฉันมาที่ห้อง ตอนนั้นฉันหลับเป็นตายเลยหล่ะมั้ง
กว่าจะยืนได้ฉันล้มลงกับเตียงหลายครั้ง ฉันเดินมายังหน้ากระจกบานใหญ่ที่ติดเอาไว้เพื่อใช่ส่องความงามของตัวเองและเช๊คดูว่าสภาพของฉันโอเคหรือเปล่า
“อืออ ออมอ!! กะ กรี๊ดดดดดดดดดดดดด!!”ฉันมองตัวเองให้มั่นใจ ทั้งขยี้ตาแล้วก็มองอีก และตอนนี้ฉันก็ได้เห็นตัวเอง ณ บัดนาว อารมณ์โกรธก็เข้าสิงร่างคุณยุนขาวีน ฉันโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงถึงกับต้องกรี๊ดระบายอารมณ์ออกมา เมื่อได้เห็นเสื้อผ้าที่ฉันสวมใส่อยู่
มายเดียร์นะมายเดียร์ กล้าทำอย่างนี้กับคุณยุนได้ยังไงกัน หืมมมม!! (กลั้นอารมณ์สุดขีด)
ตึก ตึก ตึก ตึก !!
ฉันกระแทกปึงปังเดินออกจากห้องของตัวเองแล้วตรงดิ่งไปยังห้องของคริสที่อยู่ตรงข้าม แต่ฉันก็เปลี่ยนทิศทางกะทันหันเมื่อได้ยินเสียงคนหัวเราะกันอยู่ด้านล่าง แน่นอนว่าเป็นเสียงของพวกจอมวายร้าย เพราะทั้งบ้านนี้ก็มีแค่ฉันกับพวกเขา
“นั้นไง ยัยแม่มดเดินมานู๊นแล้ว”เซฮุนที่เห็นฉันคนแรกก็ชี้นิ้วมาที่ฉัน แต่ใครจะสนกันล่ะเพราะคนที่ฉันสนคือเขา
“คริส!! ทำไมนายทำกับฉันแบบนี้ห๊ะ ฉันเป็นผู้หญิงนะ!!”ฉันมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าของคริสที่กำลังอ่านหนังสือพิมพ์อยู่
“ทำอะไร? เหอะ ฉันควรจะถามเธอมากกว่านะว่าเมื่อคืนเธอทำอะไรกับฉันเอาไว้”คริสละสายจากหนังสือพิมพ์แล้วมองมาที่ฉันซึ่งยืนเท้าเอวมองเขาอย่างเอาเรื่อง เขาพูดเสียงเรียบทว่าฉันกับสะดุ้งเล็กน้อย
“ฉันไม่รู้อะไรทั้งนั้นแหละ หึ แต่ที่ฉันอยากรู้คือทำไมสภาพฉันถึงได้เป็นอย่างนี้? เสื้อผ้าของฉัน?”ฉันพูดออกไปด้วยความโกรธสุดขีด
ไม่รู้ว่าฉันพูดอะไรผิดไปหรือเปล่า พวก EXOTIC ถึงได้มองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วทำหน้างุนงงกับสิ่งที่ฉันพูด จากนั้นเซฮุนก็เดินมาที่ฉันแล้วจับฉันหมุนตัวไปมาราวกับตุ๊กตาไขลาน ไม่ใช่แค่เซฮุนเท่านั้น ไค ชานยอล ลู่ฮาน ก็เข้ามารุมฉันเหมือนกัน และทำเหมือนกันหมด จนฉันทนไม่ได้กรี๊ดไปหนึ่งดอกจนพวกเขาต้องใช้มืออุดหูแล้วถอยทัพกลับไปที่เดิม
“เมาจนสมองเบลอหรือเปล่ายัยคอสเพลย์ ฉันไปทำอะไรกับเสื้อผ้าของเธอ ที่ใส่มันก็ชุดเดิม ทั้งหัว ทั้งสุ่มที่เธอใส่ก็ยังอยู่ครบ”คริสพูดนิ่งๆ ผิดกับฉันที่โกรธจนตัวสั่น
“นั่นสิเจ๊ ผีบ้าเข้าสิงหรือไง”
“เออ นั่นดิ!! โวยวายอย่างกับนางเอกนิยายน้ำเน่าโดนพระเอกแก้ผ้าตอนเมา”ไคส่ายหัวแล้วหันไปสนใจกาแฟตรงหน้า
“แล้วสรุปเธอเป็นอะไรยัยหลุดโลก พวกฉันงงกับเธอไปหมดละ”
ฉันคิดว่าพวกเขาคงอยากฟังเหตุผลที่ฉันกรี๊ดบ้านแทบแตกถึงได้จ้องมาที่ฉันกันทุกคน และฉันเองก็จ้องพวกเขากลับเหมือนกัน ดี!! … ฉันจะบอกเพื่อที่พวกเขาจะได้จำเอาไว้
“ที่ฉันโมโหเนี้ยมันเป็นเพราะว่านาย!!”ฉันชี้ไปที่คริสก่อนที่เขาจ้องมาที่ฉันนิ่งๆ ให้ตายเถอะ... โคตรดึงดูดอ่ะ
“...”
“นายปล่อยให้ฉันอยู่ในชุดเดิม สภาพเดิม แบบนี้ทั้งคืนได้ยังไงกัน มายเดียร์!! รู้ไหมว่าการใส่ชุดอื่นที่ไม่ใช่ชุดนอนมันทำให้ภาพลักษณ์ฉันเสียหาย ไหนจะทรงผมอีก นี่ๆ ดูหน้าฉัน ดูหน้าของฉัน เครื่องสำอางก็ไม่ได้ล้าง ถ้าฉันเป็นสิวขึ้นมาจะทำยังไง ย๊าห์ ให้ตายเถอะพวกผู้ชายนี่ไม่รู้จักการดูแลสุขภาพกันเอาซะเลย”นี่ล่ะคือเหตุผลของคุณยุนผู้หญิงที่เพอร์เฟคที่สุด
“นี่เธอบ้าหรือบ้ากันแน่วะ”ซิวหมิ่นเป็นคนแรกที่พูดออกมาในขณะที่ทุกคนทำหน้าเอือมๆ
เหตุผลฉันมันแปลกขนาดนั้นเลยเหรอย้ะ!!
“เธอคิดว่าฉันจะเปลี่ยนชุดให้เธอหรือไงยัยคอสเพลย์ ฉันเป็นผู้ชายนะจะให้เปลี่ยนชุดให้เธอที่เป็นผู้หญิง บ้าหรือเปล่าอิมยุนอา”คราวนี้คริสเรียกฉันเต็มยศ
“นายจะมาเป็นสุภาพบุรุษกับฉันทำไมไม่ทราบ กับอิแค่เปลี่ยนชุดง่ายๆ ไม่ได้เห็นไปหมดทุกซอกทุกมุมสะหน่อย ให้ตายเถอะ!! ยังกับไม่เคยเห็นของผู้หญิง ฉันไม่ใช่นางเอกในละคร ในนิยาย ที่พอโดนพระเอกเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ตอนไม่รู้ตัว จากนั้นก็ตื่นขึ้นมาโวยวาย โอ๊ยยย... ห่างไกลจากคุณยุนอย่างฉันเยอะ”ฉันร่ายยาวด้วยความหงุดหงิด ถ้าเกิดสิวมันขึ้นมาเม็ดนึงนะฉันจะจูบคริสโชว์ผู้หญิงทั้งประเทศเลย
ไม่อายเลยฟร่ะ >”<
“เธอแมร่งโคตรแปลกของแปลกของแปลกเลยวะ”สิ้นเสียงของไคไอ้พวกตัวร้ายก็พากันหัวเราะ ยกเว้นก็แต่คริสที่ยกยิ้มเบาๆ
“มันน่าขำมากนักหรือไง เดี๋ยวก็สั่งปิดคลับซะเลย เอาไหม???”พอบอกจะปิดคลับก็เงียบกริบกันทุกคน
“ยัยหลุดโลก เธอลองคิดดีๆ ซิ๊ ว่าทำไมเฮียถึงไม่เปลี่ยนชุดให้เธอ”ชานยอลหัวเราะเบาๆ แล้วผลักหัวฉันจากนั้นก็เดินหนีไปเฉยเลย
“เหตุผลแมร่งแปลกที่สุดเท่าที่กูเคยได้ยิน”ไคเดินผ่านหน้าฉันไปพร้อมกับคนอื่นๆ
“เฮียเคลียเอาเองละกันนะ ยัยเจ๊แมร่งฮาวะ”ไอ้เด็กบ้าเซฮุนนี่มาหยิกแก้มฉันทำไมฟร่ะ มือล้างไหมก็ไม่รู้..
สุดท้ายก็เหลือแค่ฉันกับคริสอีกแล้วสินะ ... อิอิ (อาการโกรธหายไปในทันทีที่ได้อยู่กันสองต่อสอง)
“นายผิด ฉะนั้นให้ฉันลงโทษซะดีๆ”พูดจบฉันก็นั่งลงข้างคริสพร้อมกับเกาะแขนของเขา คริสปรายตามองฉันนิดนึงก่อนจะดันหน้าผากของฉันจนหงายเงิบ
“ใครกันแน่ที่ผิด เธออ้วกใส่ฉันเต็มๆเมื่อคืนนี้ แล้วฉันยังต้องแบกเธอที่อยู่ในชุดสุ่มแบบนี้จนถึงห้องอีก คิดดูให้ดีนะว่าใครกันแน่ที่ผิด!!”
“อะร๊ายยย ... ไม่เห็นจะจำได้เลย มายเดียร์มั่วหรือเปล่า เอ๊ะ วันนี้ตัวเองมีงานถ่ายแบบนิ เค้าไปอาบน้ำแต่งตัวก่อนนะเดี๋ยวจะสาย บรั๊ยยยยย!!”
จุ๊บบบบบบบบบบบบบบบบบ!!
“เธอ!! อิมยุนอา”คริสมองตามฉันที่วิ่งปรู๊ดขึ้นบันไดจนลืมไปว่าตัวเองใส่ชุดสุ่มอยู่
“จุ๊บ จุ๊บ”ฉันหัวเราะพลางส่งจูบไปให้เขาก่อนจะรีบวิ่งไปที่ห้องของตัวเอง
ได้หอมแก้มเขาก็ชื่นใจแล้วล่ะ!!
ถึงจะสิวขึ้นก็ไม่แคร์คะเพราะได้หอมแก้มมายเดียร์ฟอดนึง คิคิ ฉันดูเหมือนโรคจิตหน่อยๆ แต่ก็ชอบนะ ...
ออมอ!! ฉันคิดว่าตอนนี้ฉันควรจะรีบอาบน้ำแต่งตัวได้แล้วล่ะเพราะวันนี้ฉันต้องพาคริสที่มีงานเดี่ยวนอกเหนือจากงานกลุ่มซึ่งถูดจัดไว้ในตารางงานไปถ่ายแบบให้กับนิตยสาร HIGH CUT ได้ยินมาว่าถ่ายคู่กับนักร้องเกิร์ลกรุ๊บซึ่งได้ถูกฉันลืมชื่อไปเรียบร้อย งานนี้ฉันต้องไปคุมด้วยตัวเองเพราะได้ข่าวมาจากวงใน (ยัยทิฟฟานี่) ว่าหล่อนนะชอบจับผู้ชายไอดอลหล่อรวยเพื่อยกระดับตัวเอง
ถึงจะรู้ว่าใครกันแน่ที่จะต้องตกหลุมพรางแต่ฉันไม่ยอมให้หล่อนมายุ่งกับมายเดียร์ของฉันหรอกนะ คิคิ...
วันนี้อาจจะมีนางมารร้ายชื่อว่าอิมยุนอาปรากฏตัวขึ้นมาก็ได้ ใครจะรู้ !!!
“ให้ตายสิ ติดแหงกอยู่อย่างนี้มีหวังไปสายแน่ๆ”ฉันบ่นพลางพ่นลมหายใจออกมาด้วยความเบื่อหน่าย ชั่วโมงเร่งด่วนแต่รถกลับติดยาวเป็นหางว่าว ฉันกับคริสคงไปไม่ทันเวลาที่ทางกองถ่ายเขานัดเอาไว้แน่ๆ อีกนิดเดียวก็จะถึงสตูดิโออยู่แล้วเชียว
“เหลือเวลาอีกเท่าไหร่”คริสหันมาถามฉันเสียงเรียบ
“สิบนาที”
“ถ้ารออยู่นี้คงไปไม่ทัน”เขานิ่งไปสักพักก่อนจะหันมาหาฉัน “ไปกับฉัน”
“หะ ห๊า !!!”ก่อนที่ฉันจะได้สงสัยอะไรไปมากกว่านี้ คริสก็กระชากฉันลงมาจากรถตู้สุดหรูสดๆร้อนๆ และเหมือนตัวฉันกำลังละลายเพราะแสงแดดอันร้อนแรงของช่วงฤดูใบไม้ผลิที่แทบจะมอดไหม้ฉันให้เป็นจุน (โอเว่อร์บ้างไรบ้าง >”<)
ท่ามกลางแสงแดดและรถรามากมาย ทั้งรถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ ต่างก็หยุดรอสัญญาณไฟจราจร ทุกสายตาคงกำลังจับจ้องที่สัญญาณไฟตรงหน้า แต่พอฉันกับคริสลงมาจากรถเท่านั้นแหละ ดูเหมือนว่าทุกคนจะหันมาให้ความสนใจกับเราสองคน เนื่องจากตอนนี้ฉันอยู่ในชุดสไตล์วินเทจ สมัยมาริลีน มอนโร ชุดสีแดงเพลิงทั้งตัวกับหมวกสีแดงจัดจ้านแสบลูกหูลูกตา รองเท้าส้นเตารีดที่สูงเกือบ 5 นิ้วส่วนคริสที่อยู่ในชุดลำลองสุดท่าแถมยังเป็นไอดอลอันดับต้นๆ ของเกาหลีใต้ เลยทำให้ทุกคนรวมใจยกโทรศัพท์ออกมาถ่ายรูป
“จะรีบวิ่งไปไหน ว๊ายยยยยยย!!”หัวใจของฉันหล่นวูบไปในทันที เพราะบิ๊กไบค์คันใหญ่ที่โผล่มาจากไหนไม่รู้เกือบจะเข้ามาเซย์ไฮกับฉันอยู่แล้วเชียว ดีนะที่คริสกระชากฉันออกจากตรงนั้นทันเวลา
แต่มันก็เป๊ะเกินอ่ะ >”<
ฉันอยู่ในอ้อมกอดของคริส และเขายังกอดฉันแน่นอีกด้วย
“เธอเป็นอะไรไหม”เขากระซิบที่ข้างหูของฉัน
“มะ ไม่ แค่ตกใจนิดหน่อย ฉันโอเค”
“ถ้าเธอโอเคก็น่าจะปล่อยฉันได้แล้วยัยคอสเพลย์ ”
ฉันผละออกจากอ้อมกอดของคริสก่อนจะยิ้มเขิลๆแล้วมองต่ำลงพื้น โอ๊ยยย แล้วฉันจะอายทำไมเนี้ย ก็แค่กอด กอด กอด แล้วก็กอด !!!
กอดกันกลางถนน !!
“มายเดียร์ เค้าวิ่งไม่ถนัดอ่ะ”เพราะร้องเท้าที่มันเป็นอุปสรรคเลยทำให้ฉันวิ่งไม่ถนัด แต่ถ้าถอดก็ไม่ได้อีกเนื่องจากฉันไม่สามารถนำเท้าเปล่าของตัวเองสัมผัสพื้นถนนที่ถูกแดดมานับสิบๆ ปีได้หรอก ไม่มีทาง!!
“วุ่นวายไม่มีที่สิ้นสุดจริงๆ”พูดเสร็จคริสอุ้มฉันขึ้นพาดบ่า และมันก็ทำให้ฉันต้องตกใจเป็นรอบที่สอง
“นะ นายยยย!! จะอุ้มฉันทำไม ปล่อยให้ฉันวิ่งไปเองก็ได้”ตัวฉันสั่นตามแรงวิ่งของคริสที่ได้แบกร่างอันเป็นภาระของฉันวิ่งไปตามถนนจนถึงทางเท้าริมถนน
“เธอจะวิ่งไปด้วยรองเท้าคู่ที่เธอสวมอยู่หรือไง”จริงอย่างที่เขาพูดแหะ ...
คุณยุนอย่างฉันเงียบไปโดยปริยาย ถ้าวิ่งไปทั้งอย่างนั้นจริงๆ ฉันคงล้มหน้าแหกอยู่สี่แยกไฟแดง กลายเป็นข่าวหน้าหนึ่งไป 7 วัน และอีกบลาๆ สำหรับคนดังอย่างฉันที่อะไรนิดอะไรหน่อยก็เป็นข่าวไปหมด และฉันก็แน่ใจว่าพรุ่งนี้ฉันกับคริสจะต้องขึ้นหน้าหนึ่งพร้อมกับรูปที่เขาแบกฉันเดินกลางถนนอยู่กลางคอลัมป์
คริสแบกฉันวิ่งลัดเลาะไปทางซอยเล็กๆ ก่อนจะโผล่มายังถนนใหญ่ที่พอข้ามไปก็ถึงสถานที่ถ่ายแบบ แต่แทนที่เขาจะปล่อยฉันลง คริสกลับยังแบกฉันเอาไว้จากนั้นก็วิ่งข้ามถนนไปพร้อมๆกับคนอื่นๆ ฉันได้ยินเสียงหายใจหอบถี่ที่เกิดจากอาการเหนื่อยของเขา และมันก็ทำให้ฉันทั้งรู้สึกผิด ทั้งเหนื่อยแทน
“ขอโทษนะที่ทำให้เป็นภาระ”เมื่อคริสวางฉันลงฉันก็รีบเอ่ยปากขอโทษด้วยความจริงใจ
“ช่างเถอะ เข้าไปได้ละ”เขาจับมือของฉันแล้วพาเดินเข้ามาในสตูดิโอ
แต่เดี๋ยวนะ ... ทำไมต้องจับมือกันด้วยล่ะ >”<
ฉันกับคริสเดินเข้ามาถึงสตูดิโอสำหรับถ่ายแบบทันเวลาพอดิบพอดี เมื่อทีมงานเห็นเราทั้งสองคนพวกเขาก็รีบพาคริสไปแต่งตัว แต่งหน้า ทำผม และนั้นก็ทำให้ฉันโคตรเซงเพราะคริสปล่อยมือฉันทันที
จับอีกสักนิดก็ไม่ได้ !!
ทางทีมงานพาฉันไปที่ห้องรับรองสุดหรูที่พอพวกเขารู้ว่าฉันจะมาก็รีบกุลีกุจอจัดไว้ให้ แน่ล่ะ เพราะฉันคือคุณยุนเจ้าแม่ดีไซน์เนอร์ที่ใครๆ ก็อยากร่วมงานด้วยทั้งนั้น ทุกคนในวงการแฟชั่นรู้จักฉันเกือบหมด
“แหม๋ เพิ่งเคยเห็นคุณยุนตัวจริง สวยกว่าในรูปอีกนะคะ”เสียงของทีมงานคนนึงพูด ซึ่งฉันก็ยิ้มตอบเล็กน้อยก่อนที่เธอจะขอตัวไปทำงานต่อ
“นั่นใช่ผู้หญิงที่จะถ่ายคู่กับคริสหรือเปล่านะ ขอแสกนนิดนึง”
ผู้หญิงสูงขาว หน้าตาดีคนหนึ่งที่เพิ่งเดินเข้ามาในสตูดิโอพร้อมกับผู้จัดการของเธอ และดูเหมือนว่าเธอกำลังมองหาใครอยู่ ขนาดที่ทีมงานอันเชิญไปแต่งตัวนางก็ยังสอดสายตาไปทั่ว ถ้าให้เดาไม่ผิดคงจะมองหานายแบบที่จะถ่ายคู่กับตัวเองอยู่สินะ
ประมาณสามสิบนาทีได้กว่าที่คริสจะออกมาจากห้องแต่งตัว ทางทีมงานพูดอะไรกับเขาสักอย่างก่อนที่เขาจะพยักหน้าช้าๆ แล้วเดินเข้ามาหาฉัน ไม่สิ เขาแค่เข้ามานั่งในห้องเฉยๆ พร้อมกับหยิบเอาหนังสือพิมพ์ขึ้นมาอ่าน
“ได้เวลาถ่ายแบบแล้วไม่ใช่หรอมายเดียร์ ทำไมถึงยังมานั่งตรงนี้ได้ล่ะ”ฉันยื่นหน้าเข้าไปใกล้แต่ก็โดนสายตาพิฆาตเพ็งเล็งมาอีกแล้ว
“ทีมงานบอกว่านางแบบยังแต่งตัวไม่เสร็จเลยให้รอก่อน เห้ย นี่เธออย่าเอาหน้ามาใกล้ฉันให้มากได้ไหมยัยคอสเพลย์”ผู้ชายเย็นชาชอบดุกันจริงๆ
“มาก็สายแถมยังแต่งตัวนานอีก ไม่ได้เรื่องเลย”
ฉันนั่งกอดอกมองดูทีมงานที่กำลังวุ่นกันสุดฤทธิ์ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่คงต้องเป็นเรื่องไม่ดีแน่ๆ เพราะหน้าตาแต่ละคนพร้อมเหวี่ยงได้เต็มที่ พวกคอสตูมก็วิ่งเอาเสื้อผ้าออกมาจากห้องแต่งตัวผู้หญิง และไม่นานก็วิ่งกลับมาพร้อมกับชุดใหม่
แม่ไอดอลสุดสวยคงมีปัญหา (มหาศาล) กับชุดที่ใส่
“ขอโทษนะคะคุณคริส คุณยุน คือทางเราเกิดเรื่องนิดหน่อยคะ นางแบบไม่พอใจกับชุดทางเราเลยต้องยอมหาชุดมาเปลี่ยนให้ ยังไงช่วยรออีกอีกสามสิบนาทีได้ไหมคะ”
“ไม่ได้!!!” ฉันตะโกนออกมาจนทีมงานที่เข้ามายืนข้างในสะดุ้งกันเป็นแถว “ถ้าจะวุ่นวายมากขนาดนี้ฉันจะจัดการเอง ได้ใช่ไหม?”
มันหมายความว่ายังไงถึงไม่พอใจกับชุด แม่ไอดอลโลกสวยช่างเรื่องมากจริงๆ เสียเวลาสวีทกับมายเดียร์หมด ฉันอุตส่าจะชวนเขาไปดินเนอร์ใต้แสงเทียนกันสองต่อสองท่างกลางบรรยากาศโรแม๊นส์ กับเพลงโรแมนติ๊ค โรแมนติค
เนื่องจากสายตาที่ส่อแววเหวี่ยงเต็มที่ของฉันทำให้ทีมงานคนหนึ่งต้องรีบวิ่งไปหา บ.ก. ของนิตยาสาร และไม่นานนักคนเดิมก็วิ่งเข้ามาพร้อมกับบอกว่าให้ฉันสามารถจัดการได้ทุกอย่าง
แน่ล่ะ... งานไหนได้ฉันเป็นคนจัดจะปังทุกงาน
งานนี้ก็ไม่พลาดจ้า >”<
“ไปเตรียมงานของพวกคุณให้พร้อม ส่วนเรื่องนางแบบกับนายแบบฉันจะเป็นคนจัดการเอง อ่อ ไหนขอดูชุดที่พวกคุณเพิ่งจะเปลี่ยนกันมาสิ”แฟชั่นดีไซน์เนอร์อย่างคุณยุนจะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง
“คงไม่คิดจะทำอะไรแผลงๆหรอกใช่ไหม”คริสหันมาถามฉันพร้อมกับขมวดคิ้วเป็นปม
“เดี๋ยวก็รู้จ้ะมายเดียร์ นั่งอยู่นี่แหละนะ แล้วก็ไม่ต้องคิดถึงเขานะ คิคิ”
ฉันเดินออกมาจากห้องพร้อมกับเรียกทีมงานที่เป็นฝ่ายจัดหาอุปกรณ์ประกอบฉาก ฉันสั่งให้พวกเขาเอาโซ่ แส่ เทียนสีขาว และผ้าปิดตา มาเป็นอุปกรณ์สำหรับใช้ถ่ายแบบ ทีมงานทุกคนดูตกใจไม่น้อยแต่ก็ต้องยอมเพราะอยากให้งานออกมาดูดี
แค่ดูจากอุปกรณ์ก็น่าจะรู้นะว่าการถ่ายแบบในครั้งนี้คือคอนเซปต์อะไร
เหมือนกับหนังเรื่อง Fifty Shades of Grey ยังไงล่ะ
“สวัสดีคะคุณยุน”ในที่สุดแม่ไอดอลสุดสวยนางแบบของวันนี้ก็ออกมาจากห้องแต่งตัวเสียที และดูชุดที่นางใส่อยู่ตอนนี้มันทำให้ฉันรู้เลยว่าเพราะอะไรนางถึงได้สั่งให้ทีงานเปลี่ยนชุด
“ชุดเหมาะกับคอนเซปต์วันนี้มากเลยจ้ะ สั้น ฟิต เปรี๊ยะ โอ๊ะ เป๊ะเว่อร์!!”ฉันยิ้มให้เธอก่อนที่จะเดินไปหาคริส
แต่นางไวกว่าคะ ... ยัยไอดอลนั่นเข้าไปเกาะแขนคริสพร้อมกับแนะนำตัวเองให้คริสรู้จัก ซึ่งเขาเองก็ได้แต่พยักหน้าแล้วยอมให้นางเกาะ
แล้วทีฉันเกาะบ้างเขากลับสะบัดออกทันที ... สองมาตรฐาน!!
“เริ่มถ่ายรูปเซ็ตแรกได้แล้ว”ฉันว่าพร้อมกับเดินไปที่ฉาก
ฉันเรียกคริสกับแม่ไอดอลให้เข้ามาในฉากก่อนที่ตัวฉันเองจะเดินเข้าไปแทรกกลางระหว่างสองคนนี้พร้อมกับอธิบายถึงคอนเซปต์รูปเซ็ตแรก และแน่นอนว่าไม่มีใครตกใจไปมากกว่าแม่ไอดอลคนงามที่ยืนกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่
ก็แค่เอาผ้าปิดตาใช้โซ่ล่ามคอจากนั้นก็ให้นางทำท่าอะไรก็ได้ให้เหมือนกับว่าตัวเองกำลังอยากสุดๆ และให้เซ็กซี่ที่สุด!!
“โอ๊ยดีงามมมม... สวยๆๆ ท่านั้นแหละคริส”ฉันยืนออกคำสั่งด้วยความภาคภูมิใจกับคอนเซปต์แนวใหม่ และดูเหมือนว่าทุกคนในที่นี่จะชื่นชอบไอเดียของฉันเอามากๆ
พอถ่ายเซตแรกเสร็จก็เริ่มเซตต่อไปจนเวลาล่วงเลยมาเกือบสองชั่วโมงในที่สุดงานก็เสร็จออกมาด้วยความเรียบร้อยและพึงพอใจกันทั้งสองฝ่าย เอ่อ หมายถึงฉันกับฝ่ายเจ้าของนิตยสารหน่ะ ส่วนฝั่งแม่ไอดอลดูท่าจะไม่พอใจซักเท่าไหร่เพราะแต่รูปส่วนใหญ่นางโดนปิดตาตลอด จะมีบางรูปเท่านั้นแหละที่ได้เห็นหน้าเห็นตาบ้าง
ช่วยไม่ได้ ... มาเกาะแกะมายเดียร์ของฉันเอง
“ขอบคุณมากนะคะคุณยุนสำหรับไอเดียที่คิดออกมาจากอวัยวะเบื้องล่าง!!”แม่ไอดอลเดินเข้ามาหาฉันพร้อมกับพูดจาประชดประชันด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
“ฉันเองก็ต้องขอบคุณเธอเหมือนกันนะที่ยอมทำงานที่ฉันคิดออกมาจากอวัยวะเบื้องล่าง อ๋อ หลังจากนิตยาสารนี่ออกวางขายเธอต้องดังมากแน่ๆ เชื่อฉันสิจ๊ะ เห็นหน้าเห็นตาซะขนาดนั้น โอ๋ มายเดียร์!!”ฉันเองก็ไม่ยอมเหมือนกันหรอกนะประชดมาฉันก็กระแทกแดกดันกลับ และฉันก็ได้เปรียบกว่านางมากมายเพราะ คริสอยู่กับฉัน!!
“เธอบอกเองใช่ไหมว่าอยากจะไปดินเนอร์กับฉันใต้แสงจันทร์”คำถามของเขาทำให้ฉันกระพริบตาถี่ๆ เป็นคำตอบ
“จำได้ด้วยหรอมายเดียร์ ... อย่าบอกนะว่าคิดถึงเขาอยู่ตลอดเวลา แหม๋ๆ ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้ ยังไงก็อยู่ด้วยกัน 24 ชั่วโมง”ฉันพูดพร้อมกับเหลือบตามองแม่ไอดอลสาวที่อ้าปากพงาบๆ
“พูดมากน๊า ไปได้แล้วรถรออยู่”ว่าแล้วคริสก็คว้าแขนของฉันให้เดินตาม ส่วนฉันนะเหรอก็หันหลังกลับไปมองแม่ไอดอลก่อนจะยกมือข้างที่เขาจับให้นางดูจากนั้นก็ยิ้มเยาะอย่างผู้ชนะ
ผู้ชายคนนี้ของฉัน ใครก็ห้ามยุ่ง !!!
ฉันบอกอยากดินเนอร์กับคริสใต้แสงจันทร์ แค่สองคน ย้ำว่า แค่สองคน !!
แล้วใต้แสงจันทร์ที่ฉันหมายถึงนะคือชั้นดาดฟ้าของโรงแรมสุดหรู
ไม่ใช่ใต้แสงจันทร์ริมแม่น้ำฮัน !!
รอบตัวของฉันตอนนี้มีแต่ไอ้พวกวายร้าย EXOTIC ที่แยกกันนั่ง ซึ่งที่พวกเราอยู่ก็คือร้านอาหารเคลื่อนที่ที่เป็นรถคันเล็กๆ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำฮันที่มีรั่วกั้น ฉันมองไปรอบๆที่มีคนนั่งอยู่ไม่กี่โต๊ะ และหนึ่งในนั้นก็คือฉัน ยังดีนะที่คริสเสียสละเสื้อนอกของเขาให้ฉันใส่เพราะลมที่นี่ค่อนข้างแรง
ฉันได้แต่ตั้งคำถามอยู่ในใจว่าคริสพาฉันมาที่นี่ทำไม และเจ้าพวกนี้มาเพื่ออะไรถึงได้มากันครบทีมขนาดนี้ และดูเหมือนว่าจะชอบอาหารร้านนี้กันเอามากถึงได้สั่งมาเต็มโต๊ะ
“อะไร ยังไง นี่อย่าบอกนะว่าเจ๊กินไม่เป็น เฮ้ยยย นี่ต๊อกบ๊อกกิของอร่อยประจำชาติเราเลยนะ”
“เออ ฉันรู้ย้ะไอ้เด็กบ้าเซฮุน นายช่วยไปไกลๆ ได้ไหมคนยิ่งหงุดหงิดอยู่”
ฉันนั่งกอดอกอยู่บนเก้าอี้พลาสติกที่มีโต๊ะแสตนเลสตั้งอยู่ตรงหน้า ข้างหน้าของฉันคือเซฮุนกับลู่ฮานที่นั่งกินต๊อกบ๊อกกิ ไส้กรอกเลือด และอะไรอีกก็ไม่รู้อย่างเอร็ดอร่อย ฉันเองก็นั่งหน้าบึ่งอยู่ข้างๆ คริสที่กำลังกินเหมือนกันแต่ไม่ตะกละเท่าไอ้สองคนตรงหน้า
“คนเขาก็อุตส่าห์ดีใจนึกว่าจะพาไปดินเนอร์กันสองคน ชิส์”ฉันบ่นพลางยู่หน้าด้วยความไม่พอใจ
“ก็นี่ไง ดินเนอร์ใต้แสงจันทร์กับบรรยากาศสุดโรแมนติค หรือเธอว่าไม่ใช่?”พูดออกมาได้นะมายเดียร์ว่าโรแมนติด แค่เห็นหน้าไอ้พวก EXOTIC ก็ไม่โรแมนติคละ
“ไอ้ดีโอยังไม่ออกมาอีกเหรอวะ”เทาที่หลบไปโทรศัพท์หายัยยูริก็เดินเข้ามาหยิบไส้กรอกเลือดเข้าปากเฉยเลย
“เห็นคุยกับแม่นักเต้นอะไรนั่นอยู่ข้างในร้านอ่ะ”
หลังจากที่ได้ฟังเจ้าพวก EXOTIC คุยกันฉันก็รู้ว่าที่พวกเรามานั่งกันที่ร้านแห่งนี้เพราะดีโอมาตามหาผู้หญิงคนนึงที่เคยเป็นนักเต้นอยู่ในคลับของลู่ฮาน แต่เธอก็ลาออกด้วยสาเหตุอะไรก็ไม่รู้ แต่ที่ฉันสงสัยก็คือทำไมเขาต้องมาหาเธอด้วย และต้องยกโขยงมาถึงขนาดนี้เชียว =_=
“อ้าวววว!! พวกนายจะไปไหนกันนะ”ฉันร้องทักทุกคนที่พร้อมใจกันลุกออกจากที่นั่ง
“ดูดบุหรี่ ได้ข่าวว่าเธอไม่ชอบกลิ่นบุหรี่”คริสพูดจบก็เดินตามพวกนั้นออกไป จะมีแต่ฉันเท่านั้นแหละที่รู้สึกวาบหวิวในใจแปลกๆ
คริสใส่ใจฉันด้วยหรอเนี้ย ไม่อยากจะเชื่อ!!!
ฉันนั่งเช๊คโทรศัพท์ของตัวเองระหว่างรอ ระหว่างนั้นกลับมีเงาดำๆหลายเงาอยู่ข้างหน้า ฉันเงยหน้าขึ้นมาจากโทรศัพท์ก่อนจะต้องขมวดคิ้วเป็นปมเมื่อมีผู้ชายหน้ากลัวประมานเจ็ดแปดคนยืนอยู่ตรงหน้า พวกนั้นมองหน้าฉันสักพักหนึ่งแล้วหันไปกระซิบกระซาบแล้วถึงหันมาจ้องฉันต่อ ด้วยความว่าตอนนี้ฉันเป็นคนเดียวที่นั่งอยู่เลยเกิดอาการกลัวเล็กน้อยแต่ก็ทำใจดีสู้เสือด้วยการก้มมองโทรศัพท์ของตัวเองต่อ
โครม !! เคร้ง !!
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดด!!”ฉันกรี๊ดออกมาด้วยความตกใจพร้อมกับรีบลุกออกจากที่นั่งของตัวเองเพราะไอ้พวกตรงหน้ามันจับโต๊ะที่อยู่ตรงหน้าฉันโยนไปทางอื่น
“ถ้าไม่อยากตายก็ไปจากที่นี่ซะ”มันว่าพร้อมกับผลักฉันให้พ้นทาง
“โอ๊ยยยย!! เจ็บบบ!!”ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมากจนฉันตั้งตัวไม่ทัน มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ร่างกายของฉันชนเข้ากับโต๊ะตัวข้างๆ จนล้มแล้วตัวของฉันก็ล้มทับไปด้วยจนเจ็บไปทั้งตัว
หน๊อยยยย... นี่ถ้าพวกบอดี้การ์ดฉันอยู่นะรับรองพวกนี้ตายแน่ๆ
“ยุนอา!!!”ฉันได้ยินเสียงของพวก EXOTIC วิ่งตะโกนเข้ามาด้วยความตกใจ พวกเขาเรียกฉันกันหมดทุกคน แต่ฉันกลับได้ยินแต่เสียงของคริสคนเดียวที่มันชัดเจน
“ฉันไม่เป็นไร”ฉันพูดพร้อมกับมองหน้าคริส
ดูไม่ออกหรอกนะว่าเขารู้สึกยังไงแต่ที่รู้คือคริสวิ่งเข้ามากอดฉันเอาไว้โดยมีพวก EXOTIC ที่เหลือเข้ามายืนขว้างพวกนั้น ไม่นานก็มีผู้หญิงคนนึงวิ่งออกมาพร้อมกับดีโอ ดูเธอจะตกใจไม่น้อยไปกว่าฉันแต่เธอกลับกล้าที่จะวิ่งเข้าไปเอาเรื่องแต่ดีที่ซิวหมิ่นจับเธอเอาไว้
“อย่ามาขว้างพวกกู กูจะคุยกับนังนั่น”ไอ้หน้าโหดชี้ไปที่ผู้หญิงคนนั้น “เมื่อไหร่มึงจะใช้หนี้เจ้านายกู”
“ก็ฉันบอกไปแล้วไงว่าอีกสามวัน พวกแกไม่เข้าใจหรือไง”
“แต่กูจะเอาวันนี้ 5ล้านวอน ถ้ามึงไม่มีเงินพวกกูก็จะเอาร้านของมึง แล้วก็ตัวมึง”มันพูดเสร็จก็ตั้งท่าจะมาเอาตัวของผู้หญิงคนนั้นไป
“อย่ามายุ่งกับผู้หญิงของกู”
ผั๊วะ !!!
ไม่ต้องสงสัยว่าเกิดอะไรนอกจากการต่อสู้ของเจ้าพวก EXOTIC กับ ไอ้พวกหน้าโหด และฉันก็สรุปให้อย่างไม่ต้องสงสัยว่าใครจะชนะ
แน่นอนว่าต้องเป็นเด็กๆ ของฉัน >”<
ผู้หญิงคนนั้นถูกดันให้มายืนอยู่ข้างฉัน ก่อนที่พวกเราจะทำได้แค่ยืนมองไอ้พวกหน้าโหดโดนรุมกระทืม ซึ่งคนที่จริงจังมากที่สุดกลับเป็นลู่ฮาน เทา ดีโอ และไค เหมือนกับว่าพวกนี้เก็บกดจากใครมางั้นแหละถึงได้ซัดพวกนั้นซะยับเลย
พวก EXOTIC แทบจะไม่มีรอดขีดข่วนเลยสักนิด แต่ละคนยังคงสภาพความเป็นหนุ่มหล่อเอาไว้ หลังจากนั้นดีโอก็เดินเข้ามาหาผู้หญิงข้างๆ ฉัน และถามเธอด้วยความเป็นห่วง จากนั้นเขาก็หันกลับมามองหน้าฉันด้วยตากลมโตของเขา
“ยืมเงินหน่อย 5 ล้านวอน” ห๊ะ... ได้แต่ร้องอยู่ในใจด้วยความตกใจที่จู่ๆเขาก็มายืมเงินฉัน
“นายไม่ต้องมายุ่งกับฉัน เรื่องนี้ฉันจัดการได้”ผู้หญิงคนนั้นบอกดีโอด้วยน้ำเสียงแข็งกราว แต่ดีโอกลับไม่ยอม
“แต่...”
“ทั้งสองคนไม่ต้องพูดอะไรกันทั้งนั้น เดี๋ยวฉันจัดการเอง”ก่อนที่พวกเขาจะทะเลาะกันไปมากกว่านี้ ฉันจึงตัดสินใจหยิบสมุดเช๊คขึ้นมาจากกระเป๋าพร้อมกับเขียนจำนวนเงินและเซ็นชื่อของตัวเองลงไปโดยที่ไม่รอให้ใครทักทวง
ฉันเดินเข้าไปหาหนึ่งในกลุ่มไอ้พวกทวงนี้พร้อมกับมองพวกมันด้วยความสมเพช จากนั้นฉันก็เตะเข้าไปที่หน้าของมันทีหนึ่งก่อนจะโยนเช๊คลงกับพื้น และฉันกำลังจะซ้ำอีกแต่คริสกลับมาดึงฉันเอาไว้พร้อมกับกึ่งลากกึ่งอุ้มให้ถอยห่างออกมา
พวกนั้นพอได้เช๊คก็รีบพาร่างของตัวเองไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด โดยที่มีจอมวายร้ายตะโกนขู่ตามหลัง ครั้งหน้าคงไม่กล้ามาแล้วล่ะเพราะมันก็ได้เงินไปแล้วนิ (เงินฉันด้วย)
“กำลังจะซ้ำอยู่แล้วเชียว!!”
“ทำเป็นเก่ง เมื่อกี๊ยังร้องจนโลกแทบแตก”คริสก็พูดเว่อร์ไป เสียงฉันไม่ถึงขนาดนั้นหรอก (จริงๆ)
“แล้วนี่จะเอาไง”ซูโฮหันมาขอความเห็น
“เก็บสิย้ะ จะปล่อยให้มันเละอย่างนี้แล้วให้ผู้หญิงตัวคนเดียวเก็บหรือไง เธอหน่ะมานั่งนี่มา ปล่อยให้ไอ้พวกนั้นเก็บไป”ฉันว่าพลางเดินขากะเพลกไปนั่งเก้าอี้ที่ยังอยู่ดี ผู้หญิงคนนั้นก็เดินตามมาโดยมีสายตาของดีโอมองตาม
ผู้หญิงผมทองตัวเล็กเดินมานั่งข้างฉันพลางเหม่อสายตาไปที่ไหนสักแห่ง เธอคงจะรู้สึกไม่ดีกับเหตุการณ์ในวันนี้ แทนที่จะได้เงินจากการขายของกลับต้องมาเจอกับพวกทวงนี้ และร้านก็เละไม่เป็นท่า
“เธอหน่ะชื่ออะไร”เธอหันมามองฉันก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อย
“ฮโยยอน คิมฮโยยอนคะ ฉันขอบคุณมากนะคะสำหรับความช่วยเหลือ และเงินของคุณฉันขอสัญญาว่าจะรีบใช้หนี้ให้เร็วที่สุด แต่ขอเวลาให้ฉันหางานทำสักเดือนนะคะ”
“ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวดีโอเขาก็คืนฉันเองแหละ แฟนเธอหน่ะรวย...”
“ไม่ใช่แฟน เขาไม่ใช่แฟนฉันคะ เราเกลียดกันจะตายไป”ฮโยยอนว่าพร้อมกับมองไปที่ดีโอ สองคนนี้คงต้องมีเรื่องอะไรกันแน่ๆ เธอถึงได้ปฏิเสธความช่วยเหลือเขาทั้งที่เขาพยายามจะเข้าหาอยู่ตลอด
พอพูดมาอย่างนี้แล้วฉันก็ไม่รู้จะพูดอะไรต่อเลยได้แค่พยักหน้า พลางมองไปที่พวก EXOTIC ซึ่งกำลังเก็บของให้เข้าที่ และมันก็ใกล้จะเสร็จแล้วด้วย ทำเรื่องดีๆ ก็เป็นแหะเจ้าพวกนี้ แต่ที่ทำเนี้ยคงไม่ใช่เพราะฉันบอก คงเป็นเพราะอยากจะช่วยดีโอเพื่อนของพวกเขาเองนั้นแหละ พวกบ้านี่ไม่เคยทำตามฉันบอกสักครั้ง ต้องให้ขู่ถึงจะยอมทำ
“เออนี่ฮโยยอน ถ้าเธออยากทำงานก็ลองไปที่นี่ดูนะแล้วบอกว่าฉันสั่งให้มา เข้าใจไหม!!”ฉันยื่นนามบัตรของคลับแห่งหนึ่งให้กับฮโยยอนไปเพื่อให้เธอลองไปสมัครที่นั่นดู
“ขอบคุณคะ”เธอรับมันไปก่อนจะยิ้มให้ฉันเล็กน้อย
เมื่อทุกอย่างโอเคเรียบร้อยคริสก็ลากฉันออกมาต่อหน้าเจ้าพวก EXOTIC และฮโยยอน ฉันได้แต่ร้องโอดครวญเล็กน้อยเพราะข้อเท้าของฉันออกอาการปวดขึ้นมาทันที ทั้งแขน ทั้งตัว เจ็บปวดไปหมด คงเป็นเพราะร่างกายอันบอบบางมันไปกระแทกกับโต๊ะเหล็กตอนที่ถูกผลักมันเลยรู้สึกปวด
“มายเดียร์อ่า เค้าเจ็บข้อเท้า!!”ฉันพูดเสียงสั่นๆ เพราะอาการเจ็บปวดมันเริ่มรุนแรงขึ้น
คริสไม่พูดอะไรเลยนอกจากหยุดเดิน เขาเพียงแค่นั่งคุกลงกับพื้นพร้อมกับจับเท้าของฉันยกขึ้นมาเล็กน้อย และด้วยกลัวว่าจะล้มฉันเลยใช้มือจับไหล่ของเขาเป็นที่ยึดเหนี่ยว คริสมองข้อเท้าที่แดงและเริ่มบวมก่อนที่จะใช้มืออีกข้างจับชายกระโปรงให้เลิกขึ้นพ้นเรียวขางามของฉัน ที่ขามีแผลถลอกเล็กน้อยแต่ก็มีเลือดซึมๆออกมาบ้าง ฉันแทบจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าที่ขาก็มีแผลเหมือนกัน
“นอกจากที่ขา เจ็บตรงไหนไหม”เสียงที่เขาเอ่ยออกมามันทำให้ฉันประหม่าอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน น้ำเสียงนุ่มนวลแสดงถึงความเป็นห่วงที่ต่างจากทุกครั้งที่เราคุยกัน กับน้ำหนักมือที่เขาจับขาของฉันราวกับเขาต้องการจะถนุถนอม
ใจฉันมันเต้นไม่เป็นจังหวะอีกแล้ว >”<
“เจ็บไปหมดทั้งตัวเลยอ่ะมายเดียร์ ไม่รู้จะมีแผลหรือเปล่า ไอ้พวกบ้านั้นผลักเค้าชนเข้ากับโต๊ะเหล็กจนล้มทั้งคนทั้งโต๊ะเลย”ฉันแกล้งอ้อดอ้อนเล็กน้อย แต่ที่พูดออกมาหน่ะจริงทุกอย่าง
“แล้วเธอเดินไหวไหม?”
ฉันส่ายหน้าช้าๆ พร้อมกับแสดงสีหน้าให้เหมือนกับเจ็บมากถึงมากที่สุด หลังจากนั้นคริสกลับช้อนตัวฉันขึ้นมาและอุ้มฉันเดินไปที่รถ ฉันเองก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากใช้แขนคล้องคอเขาเอาไว้
ตอนนี้ฉันคงสนใจเขามากกว่าเดิม ดูได้จากอาการแปลกๆที่เกิดขึ้นทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้กับเขา แต่นั่นมันคงไม่เรียกว่ารักหรอกใช่ไหม เพราะคนอย่างคุณยุนจะไม่รักใครง่ายๆ และคงไม่ใช่คริสแน่นอน ฉันแค่ต้องการจะให้เขาสนใจฉันเพื่อที่พวก EXOTIC จะได้ยอมรับว่าฉันสามารถเป็นผู้จัดการของเขาได้
มันไม่ใช่ความรัก ท่องเอาไว้
“ไม่ใช่รัก !!!”
“โอ๊ยยยย เจ็บๆๆ อ๊ายยยย”เสียงร้องของยุนอาที่ดูเหมือนจะตะโกนมากกว่าดังอยู่ภายในห้องของลีดเดอร์สุดหล่อของ EXOTIC ทุกครั้งที่เธอใช้แอลกอฮอล์เช็ดแผลของตัวเอง เธอจะแกล้งร้องออกมาทุกครั้งเพื่อเรียกร้องความสนใจจากเจ้าของห้องที่ไม่ได้สนใจเธอเลยสักนิด
ตอนนี้ยุนอาต้องอยู่ในห้องนอนของคริสไปก่อนเพราะกุญแจห้องของเธอหายสาบสูญไปอยู่ไหนก็ไม่รู้ เท่าที่รู้มันอาจจะหล่นตอนที่ไอ้พวกมหาถึกอาละวาดพังโต๊ะที่เธอนั่งอยู่ และในตอนนั้นกระเป๋าสุดหรูของเธอก็ไปกองอยู่กับพื้น จากสมมติฐานการคาดคะเนและเดากุญแจอาจจะตกอยู่ที่นั่น ดังนั้นเธอจึงอาศัพจังหวะที่คริสเผลอแทรกตัวเข้ามาในห้องนอนของเขา จากนั้นเธอก็โดนละเลย ต้องนั่งอยู่คนเดียวตรงมุมห้อง
ยุนอาจิ๊ปากอย่างหมั่นไส้ชายหนุ่มที่นั่งอยู่โซฟาตัวใหญ่ เขาไม่สนใจอะไรเลยนอกจากสิ่งที่อยู่ตรงหน้า มันคือโฮมเทียร์เตอร์พร้อมจอภาพขนาดใหญ่ที่กำฉายภาพยนตร์แนวบู๊ล้างผลาญเลือดสาดทั้งเสียงเอ็ฟเฟ็คอันดังลั่นรอบทิศทาง ภาพคมชัดมหาเอชดี มันเรียกความสนใจจากคริสได้ดีทีเดียว ส่วนเธอน่ะเหรอ...ก็นั่งอยู่อีกฝั่งของห้องโดยมีอุปกรณ์ทำแผลแบบพกพาวางอยู่ข้างๆ ต้องทำแผลด้วยตัวเองไม่มีใครเหลียวแล อนาถใจจริงๆ คุณยุนผู้หน้าสงสาร!!
เมื่อทำแผลเสร็จยุนอาก็พาร่างของตัวเองเข้าไปนั่งข้างๆ คริส ซึ่งเขาเองก็ปรายตามองเธออย่างที่ชอบทำทุกครั้งที่เธอเข้ามาใกล้ ชายหนุ่มนั่งอยู่ที่เดิมแล้วเปลี่ยนสายตาโฟกัสไปที่จอภาพตรงหน้า
“มายเดียร์ เขานั่งด้วยคนสิ โอ๊ะ...”ร่างบางร้องเสียงหลงเมื่อรู้สึกถึงความเจ็บบริเวณไหล่ ขวา ในขณะที่เธอกำลังใช้ร่างกายแกล้งเบียดคนข้างๆ มือซ้ายยกขึ้นคล้ำบริเวณที่เจ็บเบาๆก่อนจะทำหน้าเหยเกเพราะมันยิ่งปวดกว่าเดิม
“เป็นไร?”เมื่อได้ยินเสียงร้องของคนข้างๆ คริสจึงละสายตาจากหนังแล้วเปลี่ยนเป็นหันไปดูยุนอาที่ตอนนี้กำลังบีบๆ นวดๆ บริเวณไหล่
“มันเจ็บๆ ปวดๆ ตรงนี้อ่ะ ไม่รู้เป็นอะไร”คนเจ็บพูดพลางบีบไหล่ตัวเองเบาๆ
“มัวแต่บีบแล้วจะรู้ไหมว่าเป็นอะไร หันมานี้”ไม่รู้ว่าเพราะรำคาญเสียงที่ร้องโอดโอยของยุนอาหรือเพราะเขาห่วงเธอกันแน่ ถึงได้ทำให้คริสลุกขึ้นจากโซฟาเพื่อไปยืนตรงหน้าเธอ
คริสคุกเข่าลงข้างหนึ่งแล้วใช้มือทั้งสองข้างจับไหล่ของยุนอาเอาไว้จากนั้นก็ดึงเธอเข้ามาใกล้ตัวเล็กน้อย เขาจัดการรูดซิบชุดของยุนอาลงจนสุดก่อนจะดึงรั้งแขนเสื้อลงมาที่ต้นแขน แม้จะเผยให้เห็นแผ่นหลังเนียนขาวของเธอแต่คริสกลับเลือกที่จะไม่สนใจ เพราะสิ่งที่เขาสนใจคือรอยช้ำสีม่วงบริเวณไหล่ข้างขวาและด้านหลังที่มีรอยช้ำเป็นจ้ำๆ ใบหน้าหล่อเหลานิ่งขรึมขึ้นกว่าเดิมราวกับใช้ความคิดก่อนจะใช้มือหนาอีกข้างลูบไล้ตรงบริเวณที่มีรอยช้ำเบาๆ
“ทำอะไรนะมายเดียร์ ตั้งใจจะยั่วกันหรอ”น้ำเสียงอันยั่วยวนที่เธอตั้งใจจะยั่วชายหนุ่มเล่นๆ เอ่ยกระซิบที่ข้างหูของเขา ก่อนที่ตัวเองจะเขยิบเข้าไปแนบชิดแผงอกแกร่งด้วยตัวเอง
“พูดบ้าอะไรของเธอ เจ็บขนาดนี้ยังทำเป็นเล่น ”คริสผละจากร่างของยุนอาก่อนจะเดินไปหาอะไรบางอย่างในกล่องปฐมพยาบาล
คริสเดินมาพร้อมกับหลอดยาเล็กๆในมือซึ่งเป็นยานวดแก้ช้ำภายใน เขาทิ้งตัวลงนั่งข้างยุนอาก่อนจะคว้าร่างบางเข้ามาไว้ในอ้อมกอดโดยที่เจ้าตัวก็ยอมแต่โดยดี มือหนาบีบยาที่ปลายนิ้วจากนั้นจึงทาไปที่รอยช้ำอย่างเบามือที่สุดทั้งไหล่และหลังของเธอก็จัดการทาจนทั่ว
“กอดอย่างนี้นานๆได้ม่ะมายเดียร์? คิคิ”ถึงจะเจ็บอยู่บ้างแต่ก็มิวายพูดจาหยอกล้อแถมยังถือโอกาสใช้มือทั้งสองข้างกอดร่างหนาเอาไว้
“ปล่อย แล้วจัดการเสื้อผ้าของตัวเองซะ”คริสทำเสียงดุทว่าอีกคนกลับไม่กลัวพร้อมกับกอดรัดแน่นยิ่งกว่าเดิม
“แหม๋...ใครเป็นคนทำก็จัดการทำให้มันเป็นเหมือนเดิมสิ มายเดียร์ขา >”< ”ยุนอาพูดขึ้นมาทั้งที่ยังคงกอดคริสอยู่ “รูดลงได้ก็ต้องรูดขึ้นได้ เอ๊ะๆ หรือว่าจะถอดให้หมดเลยเอาไหม?”
ชายหนุ่มส่ายหน้าระอากับนิสัยแปลกๆของผู้หญิงในอ้อมกอด ใช่ว่าเขาจะไม่เคยเจอผู้หญิงที่ชอบอ่อยแบบนี้ แต่กับเธอเขารู้ว่ามันไม่ใช่แบบนั้น คำพูดและน้ำเสียงนั้นแค่ต้องการหยอกล้อเพื่อกวนประสาทเขาเท่านั้นเอง หลายครั้งที่เธอพยายามจะยั่วให้เขาสนใจ แต่เขากลับรู้สึกว่าเธอไม่ได้จริงจังที่จะยั่วจนถึงขั้นต้องจบลงที่เตียง ดังนั้นทุกครั้งเขาจึงทำให้ตัวเองนิ่งที่สุดเท่าที่จะทำได้
แต่ใช่ว่าเขาจะไม่รู้สึก ...อยาก…
ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นเขาคงไม่ปล่อยให้รอด พวกเธอได้นอนครางอยู่บนเตียงอย่างสุขสมให้สมกับที่ทั้งยั่วและอ่อยถึงเนื้อถึงตัว แต่กับผู้หญิงคนนี้เขากลับไม่ต้องการที่จะทำแบบนั้น นั่นอาจจะเป็นเพราะว่าที่เธอทำไปทั้งหมดก็แค่ต้องการเอาชนะเขาเพื่อให้ทุกคนยอมรับในการที่จะเข้ามาเป็นผู้จัดการส่วนตัวของ EXOTIC
“หยุดเล่นได้แล้วอิมยุนอา”คราวนี้คริสพูดเสียงเข้มยิ่งกว่าเดิม และก็ได้ผลเมื่อคนในอ้อมกอดยอมผละออกแต่เธอกลับใช้ดวงตากวางจ้องที่หน้าของเขาแทน
“ทำไมล่ะ?”ยุนอาถามเสียงอ่อยหากแต่ดวงตายังคงมองไปที่ใบหน้าอันหล่อเหลาของคริส แน่นอนว่าตอนนี้เธอตั้งใจจะยั่วเขาเล่นเพื่อความสนุก ดูสิว่าหนุ่มจอมเย็นชาจะทนทำใจแข็งได้นานแค่ไหน อย่างน้อยมันก็ต้องมีหวั่นไหวบ้างล่ะ ตั้งใจอ่อยซะขนาดนี้
“เพราะว่า...”มือหนารั้งร่างบางให้เข้ามาใกล้จนแนบชิดทำให้ใบหน้าหวานห่างเพียงนิดเดียว มืออีกข้างของเขาก็ไม่ปล่อยให้ว่าง เขาลูบไล้ไปที่ใบหน้าของเธอช้าๆ ก่อนจะไล่ลงไปที่ลำคอระหงส์จนถึงไหล่เนียนเปลือยเปล่า จากนั้นมือทั้งสองข้างของเขาก็เลื่อนไปยังเอวบางและบรรจงลูบที่แผ่นหลังของเธออย่างตั้งใจ
ยุนอาราวกับอยู่ในมนต์สะกดเมื่อถูกคนตรงหน้าจ้อง ยิ่งตอนที่เขาสัมผัสร่างกายของเธอหัวใจมันกลับเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ มือบางกำชายเสื้อของคริสแน่น พร้อมกับเปลือกตาที่ปิดลงช้าๆ ความรู้สึกวาบหวิวแปลกๆแทรกผ่านเข้ามาในร่างกาย เธอกำลังรู้สึกว่าตอนนี้ตัวเองกำลังตกหลุมพรางของคนตรงหน้าเสียเอง แน่นอนว่าเธอกำลังรู้สึกดีกับสัมผัสของเขาถึงได้ยอมให้มือหนานั้นทำตามใจชอบ
ยอมรับเลยว่านี่เป็น ครั้งแรก ที่ยุนอายอมให้ผู้ชายได้สัมผัสร่างกายอันแสนรักแสนหวงของตัวเอง แม้ว่าเธอจะคบกับผู้ชายมาหลายคน มีจูบกันบางตามประสาคนเป็นแฟนกัน และเธอก็มักจะชอบยั่วให้พวกเขาอยากเพื่อความสนุกของตัวเองแต่ก็ไม่มีอะไรไปมากกว่านั้น
จนกระทั่ง คริส ที่เธอกลับกำลังเคลิบเคลิ้มไปกับสัมผัสของเขา
“ฉันกลัวจะอดใจไม่ไหว...”เมื่อเห็นว่ายุนอากำลังเคลิบเคลิ้มไปกับสัมผัสของเขา มือหนาก็ลูบไล้ไปทั่วทั้งแผ่นหลังเนียนขาว คริสอดรู้สึกแปลกใจไม่ได้ที่ร่างกายของยุนอานั้นเกร็งไปทั้งตัวราวกับว่าไม่เคยถูกสัมผัสอย่างที่เขาทำ
เหอะ...และนั้นมันอาจจะเป็นมารยาของผู้หญิงที่ชื่ออิมยุนอาก็ได้เพราะเธอนะเจ้าเล่ห์และร้ายกาจมากทีเดียว
คริสยกยิ้มที่มุมปากเล็กน้อยพลางกระชับให้เธอเข้ามาอยู่ในอ้อกอด เขาใช้มือจับไปที่ซิบกลางหลังของยุนอา จัดการรูดมันขึ้นช้าๆ จนสุดโดยที่อีกฝ่ายคงยังไม่รู้ตัว จากนั้นเขายังคงลูบไล้ที่กลางหลังของเธอไล่ขึ้นมาตามตัวของเธอเรื่อยๆ จนหยุดอยู่ที่ปลายคางของยุนอา ดวงตาคมจ้องไปยังดวงตากวางกลมโตที่บัดนี้สั่นระริกพร้อมกับริมฝีปากบางสีชมพูขมเม้มเป็นเส้นตรง เขานึกขำอยู่ในใจที่ได้เห็นอาการประหม่าของผู้หญิงที่มักจะดูมั่นใจไปหมดทุกอย่าง พอได้เห็นอย่างนี้มันดูเหมือนกับว่าเธอนั้นเป็นแค่ผู้หญิงที่ไร้เดียงสา ใสซื่อบริสุทธิ์ จนเขาอยากจะจับฟัดที่โซฟาตรงนี้ให้มันรู้แล้วรู้รอดแต่เขาต้องข่มใจเอาไว้เพราะถ้าเขาทำอย่างนั้นเท่ากับว่าเขาได้ตกหลุมพรางของผู้หญิงแสนเจ้าเล่ห์อย่างยัยคอสเพลย์
“ว๊ายยยยยยยย...อิตาบ้า!!”ยุนอากรีดร้องออกมาด้วยความตกใจที่จู่ๆ ตัวเธอก็ถูกคลุมด้วยเสื้อสูทตัวใหญ่อย่างไม่ทันตั้งตัว ความรู้สึกที่กำลังเคลิ้มไปกับสัมผัสของผู้ชายตรงหน้าหายไปในพริบตา
“หยุดทำหน้าเคลิ้มแล้วกลับไปนั่งที่ของตัวเอง”ชายหนุ่มเอ่ยเสียงเรียบแล้วหันไปดูหนังตรงหน้าที่เขาได้กดเล่นอีกครั้ง
“อะไร? ใครเคลิ้ม? ไม่มี!! อย่ามาพูดมั่วนะมายเดียร์ คิคิ มันก็แค่การแสดงเท่านั่นแหละจ้ะ จุ๊บบบ!!!”ยุนอาปรับสีหน้าให้ดูทะเล้นเพื่อไม่ให้คริสรู้ว่าที่เธอเป็นเมื่อครู่นั่นนะเธอรู้สึกเคลิ้มจริงๆ และเพื่อความสมจริงก็ขอยื่นหน้าไปหอมแก้มใสๆ ของคริสทีนึงก่อนจะรีบวิ่งลืมเจ็บไปนั่งที่มุมห้องซึ่งอยู่ด้านหลังของคริส
พอนั่งลงกับเก้าอี้ยุนอาก็รีบจับที่หน้าอกข้างซ้ายของตัวเองเพื่อสัมผัสถึงหัวใจที่มันเต้นเร็วจนน่ากลัว เธออยากจะทึ่งผมตัวเองที่เผลอไปชอบสัมผัสของเขาจนไม่เป็นอันทำอะไร โชคดีที่คริสไม่ทำอะไรเธอไปมากกว่านี้ ไม่อย่างนั้นเธอไม่อยากจะคิดเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนั้น
ความบริสุทธิ์ที่เธอหวงแหนมาทั้งชีวิต!! … ยิ่งคิดก็ยิ่งต้องระวังตัวเองให้ดีเพราะคริสร้ายกาจมากกว่าผู้ชายทุกคนที่เธอเคยเจอ
เมื่อคิดได้อย่างนั้นยุนอาจึงคิดว่าวันนี้พอแค่นี้ก่อนและตอนนี้ต้องออกไปจากห้องนี้ให้ได้เพื่อกลับไปตั้งหลักแล้วค่อยจัดการเขาใหม่ครั้งหน้า ถ้าขืนนั่งอยู่นี่ต่อแทนที่เธอจะเป็นคนได้จัดการเขามันจะกลายเป็นว่าคริสจะจัดการเธอแทน
คริสที่นั่งดูหนังอยู่กลับยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัวเพราะภาพที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอตรงหน้า มันไม่ใช่ภาพของหนัง แต่เป็นภาพของยุนอาที่สะท้อนอยู่บนหน้าจอตรงหน้า เธอกำลังนั่งกระวนกระวายพร้อมกับมองมาที่เขาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ ยิ่งตอนที่เธอบ่นอยู่คนเดียวมันทำให้เขาอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ ไม่เหลือสภาพคุณยุนจอมหยิ่งเลยสักนิด และสิ่งที่เธอเป็นก็เริ่มทำให้เขาสับสนเล็กน้อยว่าที่ความจริงแล้วยัยคอสเพลย์เป็นผู้หญิงยังไงกันแน่
“ทำไมไม่นั่งอยู่ในนี้ก่อนล่ะไอ้พวกนั้นยังไม่มาหรอก”คริสเอ่ยทักออกไปเมื่อเห็นยุนอาเดินผ่านด้านหลังของเขาไปช้าๆ
“จะไปกินน้ำ หิวน้ำ!! ทำไม อย่าบอกนะว่าขาดเค้าแล้วที่รักอยู่ไม่ได้”เสียงของคริสทำให้ร่างบางที่กำลังแอบเดินย่องต้องสะดุ้งเล็กน้อย แต่ก็รีบกลบเกลื่อนด้วยการเอ่ยแซว
“เปล่า ฉันก็แค่กลัวว่าเธอจะไปแอบทำหน้าเคลิ้มอยู่ที่อื่น”
“อิตาบ้า!!!”
ยุนอาอายจนลืมความเจ็บปวดไปหมด เธอได้แต่เดินฟึดฟัดออกจากห้องของคริสแถมยังปิดประตูใส่เขาเสียงดังก่อนจะหยิบเอากุญแจสำรองอีกดอกที่เธอเก็บมันไว้ในกระเป๋าขึ้นมาไขเข้าห้องของตัวเอง เธอทิ้งตัวลงบนเตียงขนาดใหญ่พร้อมกับอุ้มลูกสาวคนสวยเบบี้ขึ้นมากอดเอาไว้
“แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้นแหละนะมายเดียร์!! ”
แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวและครั้งสุดท้ายที่เธอจะเผลอไผลไปกับเขา เพราะต่อไปเขานั้นแหละที่จะต้องเป็นคนหลงเธอ คลั่งเธอ และเป็นบ้าเพราะเธอ หึ ... เธอจะทำให้หมดฟอร์มหมดมาดชายหนุ่มจอมเย็นชาลีดเดอร์ของ EXOTIC เลยคอยดู
ไรท์เตอร์ไม่ค่อยถนัดแต่งแบบเรทๆ ซักเท่าไหร่ 5555+
ชอบแนวกุ๊กกิ๊กมากกว่า คิคิ ... แต่เรื่องนี้มันออกแนวเรทนิดๆ เลยต้องมีบ้าง
กว่าจะคิดออกมาได้ แทบแย่!! อาจจะไม่ฟินหรือดูแปลกๆ ก็ขอโทษด้วยนะ
สำหรับใครที่เม้นท์บ่อยๆ ไรท์เตอร์ขอขอบคุณมากๆ เลยนะจ๊ะ
ไรท์จะแต่งออกมาให้ดีที่สุดสำหรับรีดเดอร์ทุกคน >”<
รักกันจริงก็เม้นท์ให้กำลังใจกันบ้างนะค๊ะ
ความคิดเห็น