ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {SNSD&EXO} EXOTIC THE VILLAINS ~ KrisYoon - 5 - 100%

    ลำดับตอนที่ #8 : THE LEADER [ ยัยคอสเพลย์ขย้ำหัวใจนายลีดเดอร์] ::: Chapter Five

    • อัปเดตล่าสุด 8 เม.ย. 58


    :)  Shalunla





    EXOTIC

     

    EXOTIC THE villains { 1 }

    THE LEADER [ ยัยคอสเพลย์ขย้ำหัวใจนายลีดเดอร์]

     

    CHAPTER FIVE




     

     





     

                สมแล้วกับที่เป็นแบรนด์ชื่อดังระดับโลกงานแฟชั่นโชว์คืนนี้ถึงได้มีแต่เหล่าเซเล็ปมากมายซึ่งแต่ละคนล้วนแล้วแต่รู้จักฉันกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเดินไปไหนทุกคนก็จะโค้งทักทายหรือไม่ก็เข้ามาแนะนำตัวเองราวกับว่าฉันอยากรู้จัก โดยเฉพาะพวกผู้หญิงที่ปรี่เข้ามาแทบไม่ทัน แนะนำตัวเองเสร็จศัพท์ก็แกล้งทำเป็นชมฉันอย่างนั้นชมฉันอย่างนี้ คงนึกว่าฉันโง่มากใช่ไหมที่ไม่รู้ว่าพวกหล่อนเข้ามาทำไม

     

                ก็ไอ้ผู้ชายหล่อราวกับเทพบุตรที่เดินเข้ามาในงานพร้อมกับฉันหน่ะสิ

     

                คริสดึงดูดผู้หญิงและเพศที่สามทุกคนจนผู้ชายในงานไม่มีความหมาย ยิ่งเมื่อเขาเข้าไปรวมกลุ่มกับเจ้าพวกวายร้ายกลายเป็นการรวมตัวของไอดอลหล่อขั้นเทพ EXO  ผู้หญิงนี่มองกันตาแทบถลน EXO หรือ EXOTIC ใช่ว่าจะมางานพวกนี้บ่อยสาวเจ้าเลยมองเป็นขวัญตา

     

                ชุดเธอมันโคตรแหวกและแปลกไปพร้อมๆ กันเลยวะ

     

                “อาฮ่ะ มันแน่อยู่แล้ว

     

                ฉันหย่อยก้นลงนั่งข้างแบคฮยอนที่เอ่ยชม(?)ชุดของฉันทันทีเมื่อเจอหน้ากัน คริสเองก็นั่งข้างฉันพร้อมกับใช้สายตาคมจ้องไปบนเวทีที่มีทั้งนางแบบเกาหลีและต่างประเทศเดินอวดหุ่นสวยในชุดคอลเล๊คชั่นใหม่ของ Burberry

     

                “เค้าหึงนะรู้ไหมมีสิทธิ์หึงไหมไม่รู้ รู้แค่ว่าคริสไม่สนใจฉันเลย

     

                “…”

     

    พวกนางแบบสวยสู้เค้าไม่ได้สักคน

     

    อยากเธอไม่เรียกว่าสวยเค้าเรียกว่าแปลก

     

    คนที่อยากพูดด้วยกลับนั่งเงียบ ส่วนคนที่ไม่อยากจะเสวนาดันสอดแทรกมาได้ทุกเมื่อ จะใครซะอีกถ้าไม่ใช่เซฮุนไอ้เด็กหัวเห็ดสีแปลกที่นั่งอยู่ด้านหลังของฉันซึ่งพูดแทรกขึ้นมาข้างหูก่อนจะหันไปหัวเราะกับลู่ฮาน

     

    ไม่ได้ด่าฉันสักวันจะลงแดงตายไหมเจ้าพวกนี้

     

                “ชานยอล!!”ชุดฟินนาเล่ที่ทุกคนรอคอยรวมถึงตัวฉันด้วยกำลังเดินออกมาท่ามกลางหมอกควันสีขาวตามคอนเซ็ป

     

                หญิงสาวในชุดเสื้อโค๊ทสีขาวฝั่งเพชรรุ่นลิมิเตทเอดิชั่นของ Burberry  เดินควงคู่มากับชายหนุ่มร่างสูงโปร่ง หน้าตาดี ขาว และหน้าตาน่ารัก

     

                ทุกคนปรบมือ

     

                ยกเว้นฉัน !!

     

                ผู้หญิงคนนั้นคือยัยซูยองขายาว และ ผู้ชายคนนั้นก็คือไอดอลในความดูแลของฉัน...

     

                ปาร์คชานยอล !!!

     

                ฉันต้องการคำอธิบายว่าชานยอลขึ้นไปอยู่บนเวทีได้อย่างไร ถ้าบอกว่าเป็นงานก็ไม่น่าจะใช่เพราะทาง Burberry ต้องติดต่อขอคิวงานพร้อมกับแจ้งรายละเอียดของงานให้กับทางต้นสังกัดก่อนศิลปินถึงจะเข้าร่วมได้งาน แล้วนี่อะไรทำไมชานยอลถึงกลายเป็นนายแบบกิตติมศักดิ์ไปได้

     

                ชานยอลขึ้นไปอยู่บนนั้นได้ไง?”ฉันหันไปถามคริสก่อนจะปรายตามองเจ้าพวกวายร้ายที่เหลือเพื่อต้องการคำตอบ

     

                มันถูกใจนางแบบคนนั้นคริสชี้ไปที่ยัยซูยองขายาวคงอยากจีบแหละมั้งถึงได้อาสาเป็นนายแบบ

     

                “กูว่าไม่เกินคืนนี้นางแบบสูงยาวเข่าดีเสร็จไอ้ห่ายอลแน่วะ

     

                ดูดิฮยอง ยิ้มหวานให้กันด้วย ฮ่าๆๆ

     

                พอได้ฟังฉันก็ปะติดปะต่อเรื่องราวได้ความว่าชานยอลคิดจะจีบยัยซูยองก็เลยเสนอตัวเองให้กับ Burberry เพื่อเป็นนายแบบคู่ควงนางแบบชุดฟินน่าเล่นั่นก็คือยัยซูยอง เพื่อที่ตัวเองใกล้ชิดและสานสัมพันธ์กับยัยซูยอง

     

                แล้วพวกวายร้ายตัวดีกำลังคิดว่ายัยซูยองต้องหลงเสน่ห์ชานยอลและคิดว่ายัยซูยองต้องเสร็จชานยอลแน่ ?

     

                ฉันขอเอาหัวเป็นเดิมพันว่าปาร์คชานยอลไอดอลในความดูแลของฉันต้องกินแห้ว เผลอๆ อาจจะโดนตอกกลับหน้าหงาย เพราะยัยซูยองโคตรจะเกลียดผู้ชายเจ้าชู้ เรียกได้ว่าเกลียดเข้าไส้ทะลุตับทะลวงไต

     

                หวังว่าชานยอลจะประสบความสำเร็จที่ฉันพูดแบบนี้ไม่ได้แปลว่าฉันไม่ห่วงเพื่อนสาวของตัวเองที่กำลังเป็นเป้าหมายของหนึ่งใน EXOTIC จอมวายร้าย แต่คนอย่างยัยซูยองไม่มีอะไรให้ห่วงและไม่มีอะไรให้กังวล

     

                ไม่มีผู้หญิงคนไหนกล้าปฏิเสธพวกฉัน เข้าใจไหมยัยหลุดโลก

     

                “อ่อจ้า ฉันจะจำเอาไว้

     

                หลังจากที่ชุดสุดท้ายจบลงเจ้าพวกวายร้ายทั้งหลายต่างยืนขึ้นท่ามกลางผู้คนมากมายที่ยังคงนั่งอยู่ พวกเขากลายเป็นจุดเด่นขึ้นมาทันทีเมื่อทุกสายตาต่างมองมาทางนี้เป็นตาเดียว จากนั้นต่างคนก็ต่างแยกย้ายเดินออกมาจากที่นั่งมุ่งสู่ประตูทางออกโดยไม่รอให้งานจบ

     

                สงสัยจะมาดูชานยอลเดินแบบ = =”

     

                ฉันเองก็ลุกตามคริสมาติดๆ ก่อนจะเดินตามเขาออกมาจนถึงลานจอดรถหน้าโรงแรม ทุกคนต่างแยกไปขึ้นรถของตัวเองที่จอดเอาไว้ส่วนฉันกับคริสก็เดินมาที่แลมโบกินี่สีขาวของเขาที่จอดเดี่ยวๆ อยู่ใกล้กับประตูทางเข้าที่สุด

     

                ตามมาทำไมคริสหมุนตัวหันหน้ามาคุยกับฉัน

     

                เอ้า เอ้า มาด้วยกันก็ต้องกลับด้วยกันสิฉันยิ้มพร้อมกับเดินไปขึ้นรถของเขาแต่คริสกลับขว้างทางฉันเอาไว้ แหนะ!! หลีกสิเค้าจะขึ้นรถ

     

                “เสียใจด้วยยัยคอสเพลย์ ฉันมีธุระต้องไปทำต่อจากนี้ เชิญเธอกลับเข้าไปในงานแล้วรอพวกบอดี้การ์ดของเธอมารับดีกว่านะ

     

                “ไม่รู้ ไม่ชี้ ม่ายสนนนนนนน!!!”ฉันใช้ความหน้าด้านรวมไปถึงความไวแสงของตัวเอง เชิดหน้าใส่คริสแล้ววิ่งไปขึ้นรถของเขาโดยที่เจ้าของได้แต่มองตาม

     

                คริสส่ายหน้าเบาๆ เพราะเอือมระอากับนิสัยของฉันก่อนที่ตัวเขาเองจะเดินลวงกระเป๋ามาขึ้นยังฝั่งคนขับจากนั้นคริสก็หันมาจ้องหน้าฉันโดยที่ฉันเองยังนั่งกอดอกเชิดหน้าปรายตามองเขาด้วยหางตา

     

                หน้าด้านมานั่งรถของคนอื่นแล้วยังจะเชิดอีก (ว่าตัวเอง)

     

                ไปแล้วอย่าทำตัววุ่นวาย เข้าใจไหม?”

     

                “เห็นเค้าเป็นเด็กหรือไง นี่คุณยุนผู้บรรลุนิติภาวะ มีงานทำ และยังเป็นผู้จัดการส่วนตัวของ EXOTIC ไม่ใช่เด็กนะจ๊ะมายเดียร์~”

     

                ฉันใช้นิ้วเรียวยาวของตัวเองไต่ไปตามแขนล่ำพอเหมาะกับหุ่นของคริสจนเขาต้องใช้มืออีกข้างปัดมือของฉันออก เมื่อกี๊ยังทำตัวเหมือนกับผู้ใหญ่กำลังสอนเด็กแต่พอตอนนี้ตัวเองกลับเหมือนเด็กขี้หงุดหงิดสะงั้น

     

                ไม่อยากโดนไล่ลงจากรถก็อยู่เฉยๆ

     

                “แล้วนี่จะไปไหนไม่ไปที่คลับหรอ ออมอ!! เปิดเพลงของมายเดียร์ฟังดีกว่าเน่อะ

     

                รื้อไปรื้อมาเจอแผ่นเพลงอัลบั้มแรกของ EXO พอดีฉันจึงไม่รอช้ารีบนำแผ่นใส่เครื่องเล่นทันที เพลงแรกมีชื่อว่า MAMA ซึ่งน่าจะเป็นเพลงเดบิวต์ของพวกเขา ฉันโยกหัวไปตามจังหวะเพลงโดยที่ไม่รู้ว่ามันแปลว่าอย่างไร เปิดขึ้นมาก็เป็นภาษาจีนที่ฉันไม่เคยคุ้นเคยได้แต่ฟังแล้วเคลิ้มไปตามจังหวะเพลง

     

                ตอนนี้ฉันนั่งอยู่เฉยๆ ไม่กวนใจหรือก่อกวนคนข้างกายเพราะเมื่อได้ฟังเพลงฉันก็เข้าสู่ห้วงแห่งดนตรี ไม่สนใจว่าเขาจะไปที่ไหนรู้แค่ว่าคงไม่พาไปโรงแรมอย่างแน่นอนเพราะคริสไม่กล้า และไม่คิดจะพาฉันไปที่นั่นด้วย

     

                มันน่าดีใจหรือน่าสมเพชตัวเอง (????????)

     

                หลังจากที่ฉันมัวแต่ฟังเพลงรถก็เคลื่อนตัวเข้ามายังสถานที่แห่งหนึ่งซึ่งพอฉันเห็นแค่น้ำพุด้านหน้าก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นที่ไหนเพราะที่นี่เคยเป็นที่ที่ฉันมาบ่อยแทบจะทุกวัน ฉันได้แต่นั่งตัวแข็งทื่อหายใจไม่ทั่วท้องขึ้นมาทันทีเมื่อรถหยุดตัวลงที่หน้าตึกใหญ่

     

                Woollim Entertainment !!!

     

                “มาหาใครที่นี่หรอฉันเอ่ยถามออกไปพร้อมกับหัวใจที่สั่นไหว

     

                เพื่อนพูดเสร็จคริสก็ลงจากรถพร้อมกับหยิบถุงกระดาษใบโตออกมาจากด้านหลังของรถ

     

                คำตอบของเขาช่วยได้มาก !!

     

                “ลงมาได้แล้วคริสคงจะเห็นว่าฉันไม่ลงจากรถสักทีเลยเดินอ้อมมาเปิดประตูรถให้

     

                รอที่นี่ได้ไหมไม่อยากเข้าไป

     

                คริสไม่ตอบพลางใช้มือที่ว่างคว้าข้อมือของฉันพร้อมกับดึงให้ลงมาจากรถ เขากึ่งลากกึ่งดึงฉันเข้ามาในบริษัทก่อนจะหยุดยืนอยู่หน้าลิฟท์เพื่อรอลิฟท์ลงมาจากชั้นอื่น ฉันถอนหายใจแล้วถอนหายใจอีกจนคริสหันมามองหน้าด้วยความสงสัย

     

    ทีแรกว่าจะไม่เข้ามาแล้วเชียวแต่เป็นเพราะคริสคนเดียว

     

    ไม่สบายหรือเปล่าคริสใช้มือของตัวเองยกขึ้นทาบตรงหน้าผากของฉัน ถ้าเป็นที่อื่นฉันคงจะดีใจจนกระโดดกอดเขาก็ได้ แต่เป็นเพราะว่าอยู่ที่นี่จิตใจของฉันเลยอยู่ไม่เป็นสุขจึงได้แต่จับมือของเขาออกแล้วกุมมันไว้อย่างแน่นหนา

     

    เปล่า ลิฟท์มาแล้วเข้าไปกันเถอะฉันดึงคริสให้เข้ามาในลิฟท์ก่อนที่เขาจะกดขึ้นไปยังชั้น 8

     

    ชั้น 8 ห้องซ้อมของ INFINITE อ่า ... ไปที่นั่นสินะ

     

                ไหนๆ ก็มาแล้วถ้าเจอกับเขาคนนั้นฉันก็ควรจะทำตัวให้เป็นปกติเพราะถึงยังไงเราสองคนไม่ได้เจอกันนานความรู้สึกเดิมๆ ก็น่าจะเลือนหายไปบ้าง

     

                บางที แอล อาจจะลืมฉันไปแล้วก็ได้






     

                ฉันเคยทำงานอยู่ที่ Woollim Entertainment มาก่อนในฐานะสไตลิสต์กิตติมศักดิ์เนื่องจากประธานของวูลลิมสนิทกับพี่ชาย(ญาติ)ของฉัน เขาจึงขอให้ฉันมาช่วยดูแลเรื่องเสื้อผ้าที่ใช้ในอัลบั้มใหม่ของไอดอลชื่อดังที่สุดของค่ายอย่าง INFINITE

     

                ในตอนนั้นเองที่ฉันได้รู้จักกับแอลผู้ชายเย็นชาหน้านิ่งจอมหยิ่ง (เหมือนกับคริส) เพียงแค่เขาปรายตามองฉันความรู้สึกสนใจในตัวของเขาก็เกิดขึ้น ในระหว่างทำงานร่วมกันฉันก็ตามตื้อแอลอย่างที่ทำกับคริส (รู้สึกตัวเองเลวแปลกๆ) และในที่สุดเขาก็สนใจฉันจนได้

     

                เราแอบคบกันอย่างลับๆ มีเพียงสมาชิกในวงของแอลกับเพื่อนสนิทของฉันเท่านั้นที่รู้

     

                แต่เมื่อเวลาผ่านไปฉันกลับมาอยู่ที่บริษัทของตัวเอง ส่วนแอลก็ทำการโปรโมตอัลบั้มของตัวเองที่ญี่ปุ่น เราสองคงไม่มีเวลาให้กันเลยทำให้ความสัมพันธ์ของฉันกับเขาเรียกได้ว่า ห่างจากนั้นไม่ถึงเดือนฉันจึงตัดสินใจบอกเลิกเขา

     

                แอลยอมรับ ... แต่เขากลับถามคำถามที่ฉันไม่กล้าที่จะตอบ

     

                เธอเคยรักฉันบ้างไหม?’

     

                ฉันเองก็ตอบไม่ได้เหมือนกันว่าที่ผ่านมาฉันรู้สึกอย่างไรกับเขา ตลอดเวลาที่คบกันฉันคิดเพียงแค่ว่า ฉันสนใจเขา และ เขาก็สนใจฉัน มันก็น่าจะเป็นเหตุผลที่เราสองคนตกลงปลงใจคบกัน

     

                เหมือนกับที่ฉันเคยคบกับคนอื่นๆ

     

                และตั้งแต่วันนั้นฉันกับแอลก็เลิกติดต่อสื่อสารกันทุกช่องทาง ฉันก็ทำงานของตัวเอง ส่วนเขาจากที่เห็นในทีวีก็ดูมีความสุขดี ฉันจึงคิดว่าเราสองคนน่าจะจบลงด้วยดี

     

                แต่ในตอนนี้ที่ฉันกำลังยืนอยู่หน้าห้องซ้อมของแอลหัวใจของฉันกลับเกิดกลัวขึ้นมา ถ้าไม่ได้มือของคริสที่ฉันจับเอาไว้ไม่ยอมปล่อยมีหวังฉันได้เผ่นเหน็บออกจากบริษัทไปแล้ว

     

                “เฮ้ ไอ้คริส!!”ประตูของห้องซ้อมถูกเปิดออก และดงอูก็เดินเข้ามากอดคริสจนฉันต้องเป็นคนปล่อยมือออกจากมือของคริสซะเอง

     

                กูเอาเฮดโฟนที่มึงฝากซื้อจากอเมริกามาฝาก ว่าจะเอามาให้ตั้งนานแต่ยุ่งมากวะ

     

                “ขอบใจมากเพื่อนดงอูรับถุงกระดาษจากมือของคริสแล้วจ้องมองมาที่ฉันเหมือนจะเพิ่งรู้ว่าฉันเองก็ยืนอยู่ด้วย คุณยุน!!”

     

                “ไง ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ

     

                ฉันรีบเอ่ยทักทายดงอูทันทีเมื่อเห็นว่าเขามีท่าทีตกใจ และจากนั้นไม่นานประตูห้องซ้อมก็ถูกเปิดกว้าง สมาชิกวง INFINITE เกือบจะทุกคนวิ่งมายืนตรงหน้าของฉัน กยู ฮูฮยอน ซองจง ซองยอล โฮย่า แต่ยกเว้นแอลเท่านั้นที่ยังคงนั่งอยู่ม้านั่งในห้องซ้อมด้วยท่าทีเรียบเฉยราวกับไม่ได้สนใจว่าฉันได้กลับมายืนที่นี่อีกครั้ง

     

                ถึงจะเสียเซลฟ์แต่ก็โล่งอกที่เขาไม่สนใจฉันแล้ว

     

                หวัดดีคุณยุน !!”ทุกคนประสานเสียงกล่าวคำทักทายฉันด้วยเสียงอันดัง

     

                ออมอ หนุ่มๆ ทุกคนสบายดีกันไหมเอ่ยฉันยิ้มพร้อมกับปรี่เข้าไปกอดหนุ่มๆ ทีละคนหลังจากที่ไม่เจอกันนาน

     

                เข้าไปข้างในก่อนดิวะ เชิญครับคุณยุน

     

                “เอาไว้โอกาสหน้าดีกว่าวะ ฉันกับยัยนี่ต้องรีบกลับไปที่คลับ

     

                ฉันแอบถอนหายใจเบาๆ ที่เกือบจะได้เข้าไปเจอกับแอลที่ยังคงไม่สนโลกและไม่สนว่าใครจะมา ต้องขอบคุณคริสที่คงรีบกลับไปดริ้งกับเจ้าพวกวายร้ายถึงได้ปฏิเสธคำชวนของดงอู

     

                หนุ่มๆ INFINITE พยักหน้ารับเบาๆ ก่อนที่ทั้ง(เกือบ)หมดจะโค้งให้กับฉันแล้วหันไปบอกลากับคริส เมื่อเสร็จธุระฉันก็รีบใช้มือควงแขนของคริสแล้วลากให้เขาเข้ามาในลิฟท์ที่ลงมาได้จังหวะพอดี

     

                อยากออกไปจากที่นี่เต็มทนขืนอยู่ต่อไปฉันยิ่งรู้สึกผิดที่ทำเรื่องไม่ดีกับแอลไว้

     

                สนิทกับไอ้พวกนั้นดีนิทันทีที่เดินออกจากลิฟท์คริสก็เปิดปากถามฉันก่อน

     

                ออมอ อยากรู้เรื่องของเค้าหรอมายเดียร์~”ถึงฉันจะเพิ่งผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากมาแต่ทำไมน๊าถึงได้อยากก่อกวนผู้ชายที่ชื่อคริสอยู่ตลอดเวลา

     

                เรื่องของเธอมันน่าสนใจมากถึงขนาดว่าฉันต้องอยากรู้? หลังตัวเองเกินไปแล้วยัยคอสเพลย์!!”

     

                คำพูดกระแทกแดกดันเบาๆ ของคริสไม่ได้ทำให้ฉันสะทกสะท้านสักนิดตรงกันข้ามฉันกลับยิ้มหน้าบ้านพร้อมกับเร่งสปิดวิ่งตามเขาไป ขายาวๆ ของเขานี่เดินเร็วชะมัด ไม่คิดจะเดินรอกันบ้างเลยหรือไง

     

                อยากรู้ก็บอกมาเถอะน่าฉันวิ่งไปอยู่ข้างๆ คริสก่อนจะเปลี่ยนเป็นเดินไปพร้อมๆ กับเขา

     

                ทำไมฉันต้องอยากรู้คริสตั้งหน้าตั้งตาเดินไปข้างหน้าแต่ก็ยังมีถามฉันกลับ

     

                ก็เค้าอยากเล่า

     

                “แต่ฉันไม่อยากฟัง ขึ้นรถ!!”

     

                แล้วฉันก็ยอมขึ้นไปนั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถให้กับคริสพร้อมกับเริ่มสาธยายเรื่องที่ฉันรู้จักกับหนุ่ม INFINITE ทั้งที่เขาเพิ่งบอกกับฉันเองว่าไม่อยากฟัง และถึงคริสจะห้าม(ถามหน่อยเถอะว่าเขาเคยห้ามฉันได้ไหม) แต่ฉันก็ยังคงเล่าต่อตั้งแต่เริ่มจนจบจะมีเรื่องเดียวที่ฉันไม่เล่าและจะไม่มีวันเล่าเด็ดขาด

     

                เรื่องของฉันกับแอล ... คริสไม่ควรรู้ !!!

     

                “ออมอ พูดมากไปหน่อยท้องมันเลยร้อง~”เป็นเรื่องน่าอายสำหรับผู้หญิงมากที่ท้องเกิดร้องขึ้นมาเสียงดังเวลาอยู่กับผู้ชายสองต่อสอง

     

                อ่า ... ยกเว้นฉันไว้คนหนึ่งแล้วกัน

     

                ไว้ไปกินที่คลับแล้วกัน

     

                ไม่เอา !! เค้าจะกินตอนนี้และเดี๋ยวนี้ จาจังมยอน จัมปง ตอนนี้ฉันอยากกินอาหารธรรมดาแต่รสชาติอร่อยที่สุดของเกาหลี ไม่ได้อยากกินอาหารเริดหรูที่อยู่ในคลับของลู่ฮาน

     

                น่ารำคาญจริงๆ เลยคริสบ่นด้วยเสียงรำคาญฉันสุดๆ แต่ก็ยอมเลี้ยวรถกลับไปทางเดิมซึ่งมีร้านอาหารเปิดอยู่ข้างทาง

     

                เราสองคนเดินเข้าไปในร้านอาหารเกาหลีร้านหนึ่งซึ่งเป็นร้านที่ไม่ค่อยจะมีคนเข้าเหมือนกับร้านอื่นๆ ในระแวกนั้น พอเข้าไปถึงพนักงานหญิงซึ่งมีไม่กี่คนก็ออกมาต้อนรับ ตามด้วยชายแก่คราวพ่อแต่หน้าดูหื่น (ฉันคงคิดไปเองมั้ง) เดินตามมาติดๆ

     

                จัมปง 1 จาจังมยอน 1ไม่ต้องเพิ่งเมนูเพราะฉันคิดเอาไว้แล้วว่าจะกินสองเมนูนี่เท่านั้น

     

                ฉันไม่ได้บอกว่าจะกิน

     

                “ออมอ เค้าไม่ได้สั่งเผื่อตัวเองเลยนะมายเดียร์ สองอย่างนั้นของเค้าล้วนๆนิ้วชี้ของฉันหมุนวนอยู่ตรงหน้าของคริสเพื่อต้องล้อเลียนเขาที่คิดไปเองว่าฉันจะสั่งอาหารให้กับเขา

     

                คริสเอนตัวพิงพนักเก้าอี้พลางใช้มือกอดอกแล้วจ้องใช้ด้วยสายตานิ่งๆ อย่างที่ชอบทำ หากแต่เพียงแว๊บเดียวที่ฉันเหมือนจะเห็นรอยยิ้มบางๆ ผุดอยู่ที่มุมปากของเขา หรือฉันจะตาฝาดคิดไปเอง หมาป่าจอมเย็นชาอย่างคริสยิ้มยากจะตายไปใครๆ ก็รู้ ยิ่งกับฉันแล้วด้วยเขาไม่ทำหน้านิ่ง ก็ทำหน้าดุ บางทีก็โมโห เข้าใจอารมณ์ยาก

     

                จัมปง 1 ที่ กับ จาจังมยอน 1 ที่ได้แล้วคะพนักงานนำจัมปงมาเสิร์ฟตรงหน้าฉันแล้วนำจาจังมยอนเสิร์ฟตรงหน้าคริส ขอเชิญทานให้อร่อยนะคะ

     

                “อ่ะ อ่ะ ผิดที่แล้วล่ะถ้วยจาจังมยอนที่อยู่ตรงหน้าของคริสถูกฉันเลื่อนมาไว้ตรงหน้าตัวเอง

     

                ทำตัวเหมือนเด็กๆคริสวางแขนทั้งสองข้างลงบนโต๊ะพร้อมกับจ้องมองฉันที่กำลังดูดเส้นในถ้วยจัมปง

     

                ฉันจ้องกลับไปที่คริสแต่ปากกับมือยังคงวุ่นวายกับอาหารตรงหน้า แต่พอกินไปได้สักพักดันลืมสั่งเครื่องดื่มซะได้ ฉันจึงหันหน้าไปหาพนักงานคนที่สวยที่สุดในร้าน และตอนนั้นเองที่ฉันได้เห็นเธอคนนั้นกำลังทำหน้าเหมือนกับว่ากลัวชายแก่ที่ยิ้มด้วยใบหน้าโคตรหื่น

     

                ชายแก่คนนั้นกำลังทำมิดีมิร้ายกับเด็กคนนั้นอยู่หรือเปล่า?

     

                “ฉันไปเอาของที่รถก่อนนะแล้วคริสก็เดินออกจากร้านไป

     

                ผู้จัดการคะ คือหนู คือ อย่าคะ

     

                แล้วเสียงของพนักงานหญิงคนเดิมก็ดังขึ้นมาเบาๆ แต่ดันเข้ามาในโสตประสาทหูของฉัน พนักงานหญิงคนนั้นเดินออกมาจากเคาท์เตอร์ด้วยท่าทางหวาดกลัวแล้วแกล้งทำเป็นถือเมนูมาไว้ในมือจากนั้นก็ยืนก้มหน้า แต่ชายแก่คนนั้นก็เดินออกมายืนๆ ข้างแล้วใช้มือโอบเอวของพนักงานหญิงคนนั้น เธอสะดุงโหยงสุดตัวพร้อมกับเขยิบออกห่าง

     

                กึก !!

     

                ฉันวางตะเกียบเงินลงกับโต๊ะพร้อมกับลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินเข้าไปหาพนักงานหญิงคนนั้นก่อนที่ฉันจะกระชากตัวเธอให้พ้นจากมือของชายไอ้แก่หื่นกาม (เปลี่ยนสรรพนามให้เหมาะสมกับนิสัย)

     

                คุณลุงกำลังทำอะไรอยู่หรอคะฉันดันตัวพนักงานหญิงคนนั้นให้มาอยู่ด้านหลังของตัวฉันเองก่อนจะปรายตามองไอ้แก่หื่นกามนั้นด้วยสายตาเหยียดๆ

     

                ผมไม่ได้ทำอะไรเลยครับไอ้แก่หื่นกามรีบปฏิเสธพลางใช้สายตาข่มขู่พนักงานหญิงที่อยู่ด้านหลังของฉัน ใช่ไหมซอฮยอน ลุงไม่ได้ทำอะไรเธอเลย

     

                “คือ เอ่อ...ซอฮยอน (ไอ้แก่นั่นเรียก) พูดตะกุกตะกัก

     

                พนักงานหญิงคนนี้คงไม่กล้าพูดอะไรออกมาเพราะมันจะกระทบกับงานที่เธอทำอยู่ที่นี่ รวมไปถึงเกรงกลัวสายตาที่ไอ้แก้หื่นกามนั้นกำลังจ้องเขม็งไปที่เธอ แต่ฉันในฐานะผู้หญิงคนหนึ่งที่มีศักดิ์ศรีไม่ชอบการกระทำของไอ้แก่หื่นกามที่ไม่รู้จักเจียมสังขารตัวเอง ผู้หญิงคนนี้อายุก็คราวลูกยังจะหื่นไม่เลือก

     

                คุณยุนไม่ยอมคะ ... พูดเลอะ !!!

     

                ไม่ได้ทำ ออมอ ฉันเห็นกับตาว่าลุงตั้งใจจะลวนลามพนักงานหญิงคนนี้ จริงไหม?”ฉันหันไปถามเธอที่อยู่ด้านหลังแต่ก็ป่วยการเพราะเธอมัวแต่ก้มหน้า

     

                ไม่ตอบ ฮ่าๆ ลุงไม่ได้ทำจริงๆ เธอเป็นพนักงานในร้านลุงก็แค่ดูแลเหมือนลูกเหมือนหลานเท่านั้นเอง

     

                ยังจะแหลหน้าด้านๆ !! ไอ้แก่หื่นกาม

     

                ดูแล? ดูแลด้วยการโอบ กอด หรือว่าทำหน้าหื่นใส่ยังงั้นเหรอ อย่ามาโกหกหน้าด้านๆ หน่อยเลย ฉันเห็นกับตาว่าลุงกำลังลวนลามเธอพูดแล้วของขึ้น แก่แล้วยังไม่เจียมอีกนะ แล้วที่จ้างพนักงานเด็กวัยรุ่นมาเนี้ยเพื่อที่จะเอาไว้ลวนลามยามเกิดอารมณ์ใช่ไหม โอ๊ยย สงสารเมีย สงสารลูกหน่อยเถอะ

     

                “นังเด็กนี่ แล้วแกมายุ่งอะไรกับเด็กในร้านของฉัน กินเสร็จก็ออกไปซะอย่ามาที่นี่อีกไอ้แก่หื่นกามชี้หน้าฉัน

     

                จี้จุดนิดเดียวก็เผยไต๋ออกมาแล้ว

     

                พวกเธอ เธอ แล้วก็เธอ ฉันว่าอย่าอยู่ที่นี่เลยออกไปหางานที่ดีกว่านี้ทำจะดีกว่า อย่ามาทำกับไอ้แก่หื่นกามหัวงูที่จ้องแต่จะลวนลามเด็กในร้านเพื่อสนองตัณหาของตัวเอง ห่วงสวัสดิ์ภาพของตัวเองแล้วก็ความรู้สึกของพ่อแม่เธอจะดีกว่า

     

                เพี๊ยะ !!

     

                หน้าฉันหันไปตามแรงตบของมือเหี่ยวๆไอ้แก่หื่นกามที่ฟาดเข้าที่แก้มซ้ายของฉันอย่างแรง และตอนนี้ฉันทั้งโกรธ ทั้งโมโห อยากจะเอาไอ้แก้หื่นกามนี่เข้าคุกซะให้ได้ตอนนี้ ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยโดนตบหน้าด้วยซ้ำ

     

                “นังเด็กเวร ออกไปจากร้านของฉันซะ แล้วก็พวกแกถ้าอยากไปก็ไป แต่พ่อแม่ของพวกแกต้องเอาเงินที่ฉันซื้อตัวพวกแกมาคืน

     

                “คุณคะ หนูว่าคุณ...

     

                “อ๊ะ คริส!!”

     

                “ถ้าไม่อยากเข้าไปนอนในตารางก็ปิดร้าน แล้วปล่อยพวกผู้หญิงที่แกซื้อมาให้เป็นอิสระ

     

                ยังไม่ทันที่ปากของฉันจะพ่นคำด่าออกมา ร่างของฉันกลับถูกดึงรั้งให้เข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของคริสก่อนที่เข้าจะกอดฉันแน่นแล้วเอ่ยปากข่มขู่ไอ้แก่หื่นกามที่บังอาจมาตบหน้าฉัน

     

                ตึก ตึก ตึก !!

     

                ในสถานการณ์แบบนี้หัวใจของฉันกลับเต้นเร็วเมื่ออยู่ในอ้อมกอดของคริส ฉันรู้ว่าตอนนี้มันไม่ใช่เวลาแต่มันห้ามกันไม่ได้นี่ที่จะห้ามไม่ให้หัวใจมันเต้น

     

                เอาผัวมาข่มขู่กูหรอรู้สึกดีกับคำพูดของไอ้แก่หื่นกามจัง คิคิ

     

                ฉันไม่ได้ขู่ ลองเดินออกไปหน้าร้านแล้วแกจะเห็นว่าตำรวจเยอะแค่ไหน

     

                ไอ้แก่หื่นกามเริ่มหน้าซีดหันมองซ้ายมองขวาก่อนจะวิ่งเข้าไปหลังร้าน คงจะกลัวว่าฉันกับคริสจะเอาเรื่องไปบอกตำรวจเลยเผ่นหนีหายไปหลังร้านของตัวเอง ส่วนพวกพนักงานที่อยู่ในนี้ต่างมองหน้ากันก่อนที่ทุกคนจะรีบวิ่งไปเอากระเป๋าของตัวเองแล้ววิ่งออกจากร้านไป จะเหลือก็แค่เด็กซอฮยอนที่ยังยืนทำหน้าวิตกกังวล

     

                เธอหน่ะรีบออกไปจากร้านนี้เถอะ แล้วไม่ต้องกลับมา

     

                “คะ ขอบคุณมากนะคะที่ช่วยหนูแล้วผู้หญิงที่ชื่อซอฮยอนก็วิ่งออกไป

     

                เธอนี่มันตัวเจ้าปัญหาวุ่นวายไม่เข้าเรื่องและฉันก็ถูกคริสลากไปทั้งที่เขายังกอดฉันอยู่

     

                ออมอ...ถือว่าคุ้มไหมกับการโดนตบแลกกับการโดนกอด?

     

                เจ็บนิดๆ แต่มีความสุขเว่อร์ ~

     

                ถึงคริสจะเป็นหมาป่าจอมเย็นชาแต่พอได้เข้ามาอยู่ในอ้อมกอดของเขากลับรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูกฟินเฟ่อ

     

                ลืมไปเลยว่าตัวเองเพิ่งจะถูกตบจนหน้าหัน (=  =”)

     




     

     

                ไม่มีครั้งไหนที่คุณยุนคนสวยจะไม่โชว์ใบหน้าอันสวยใสแลดูอ่อนเยาว์เมื่อออกไปยังสถานที่สาธารณะเพื่ออวดความงดงามให้ทุกคนได้ประจักษ์ แน่นอนเพราะความมั่นในหนังหน้าของตัวเองที่ไม่ว่าใครหน้าไหนเห็นเป็นต้องเอ่ยคำชม (ยกเว้นพวก EXOTIC)

     

    แต่ในวันนี้ ตอนนี้ และเวลานี้

     

                เหอะ =_=*

     

                นี่ยัยปีศาจ อันที่จริงถ้ามันลำบากมากเธอไม่จำเป็นต้องมาที่นี่ก็ได้นะ อายคนอื่นวะ

     

                นั่นดิว่ะ แล้วนี่ชุดอะไร? ย้อนยุคไปสมัยราชวงศ์ฝรั่งเศสหรือไงถึงได้อลังการงานสร้างขนาดนี้

     

                ปึกกก!!!

     

                แก้วไวน์ทรงสูงกระแทกลงกับโต๊ะทันทีที่สิ้นเสียงของไอ้เด็กบ้าคู่หูจอมกวนประสาทอย่างเซฮุนกับชานยอลที่บังอาจมาว่าสไตล์การแต่งตัวยุคฝรั่งเศสของฉันที่คัดสรรค์มาอย่างดี นอกจากสองคนนี้แล้ว หนุ่มๆ EXOTIC ก็คงอยากจะวิจารณ์เสื้อผ้าฉันจะแย่ รวมไปถึงคนอื่นๆ ที่เมื่อเห็นฉันเดินเข้ามาในคลับก็พากันจ้องมองตั้งแต่หัวจรดเท้า

     

                จะว่าไปฉันเองก็ยอมรับนะว่าชุดที่ใส่อยู่ ณ บัดนาว ไม่สมควรจะก้าวเข้ามาในคลับเลยสักนิด เพราะมันเป็นชุดที่อลังการอย่างที่ชานยอลบอกจริงๆ ลองคิดดู ชุดลูกไม้แขนตุ๊กตา กระโปรงพองอย่างกับสุ่มไก่ที่ยาวไปถึงเข่า ถุงเท้าลูกไม้ยาวสีขาวถูกสวมทับด้วยรองเท้าสีแดงรูปทรงคล้ายรองเท้านักเรียน ส่วนเรื่องทรงผมไม่ต้องพูดถึงเพราะฉันสวมหมวกบานๆ สไตล์ผู้ดีอังกฤษที่มีตะข่ายบดบังใบหน้าสวยหวานของตัวเอง

     

                และนี่แหละคือจุดพีคที่ฉันแต่งตัวแบบนี้

     

                เพราะไอ้ตะข่ายของหมวกมันช่วยบังแก้มบวมๆ ของฉันที่ถูกไอ้แก่โรคจิตตัณหากลับตบมาเมื่อวานได้ดีทีเดียว

     

                แก้มบวมเป็นอึ่งอ่างอมลมยังหอบสังขารมานี่อีกนะยัยหลุดโลก น่าเกลียดว่ะ

     

                นายเปรียบเทียบฉันได้น่ารักมากๆเลยนะ คิมจงอินฉันมุ่ยหน้าไม่พอใจกับคำพูดของไคก่อนจะเอนตัวใช้หัวซบกับไหล่หนาของคริสที่นั่งอยู่ข้างๆ

     

                เธอควรจะกลับบ้านไปพักผ่อนซะแก้มจะได้หายบวม อีกอย่าง...คริสเว้นประโยคสุดท้ายเอาไว้พร้อมกับปรายตามองที่ฉัน

     

                ออมอ!! อย่าบอกนะว่ามายเดียร์ห่วงเค้าอ่ะ

     

                ฉันจ้องหน้าคริสพลางฉีกยิ้มอ่อนๆ (ยิ้มมากไม่ได้แก้มบวม =_= ) กะไว้แล้วเชียวว่าเขาต้องเป็นห่วงฉันแน่ๆ เริ่มเห็นความดีในตัวคุณยุนขึ้นมาแล้วล่ะสิหลังจากที่ฉันเพิ่งออกตัวปกป้องเด็กน้อยไม่ให้ถูกลวนลามจนตัวเองถูกตบ

     

                หึเขาแสยะยิ้มออกมา ชิส์ อย่างที่รู้กันว่ารอยยิ้มแบบนั้นมันร้ายกาจแค่ไหน

     

                “???”

     

                “หมวกของเธอมันเกะกะลูกตาฉันยัยคอสเพลย์

     

                ย๊าห์!!”

     

                มือหนายกขึ้นมาดันหน้าผากของฉันพร้อมกับออกแรงดันหน่อยๆ แต่ด้วยความโอเว่อร์ของตัวฉันเองร่างอันแสนบอบบางในชุดสุ่มของฉันเลยเอนไปชนลู่ฮานซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ

     

                เอาจริงๆ แค่อย่างแกล้งไอ้หน้าหวานนิสัยแย่

     

                ตลอดทั้งคืนที่นั่งอยู่ในคลับฉันแทบจะไม่กระดิกตัวไปไหน เพราะชุดของฉันมันเป็นปัญหาในการเดินไปไหนต่อไหนฉันเลยต้องนั่งคลุกอยู่ที่โต๊ะกับไอ้พวก EXOTIC ที่พลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมานั่ง

     

                ยกเว้นคนนึง...

                คริส !! ยังไงล่ะ

     

                ไม่ได้โม้นะคะและไม่ได้มโนไปเอง คริสนั่งอยู่ข้างๆ ฉันตลอดไม่ได้ออกไปเหล่สาวหรือไปเต้นเหมือนกับสมาชิกในวงคนอื่นๆ ฉันเลยถือโอกาสควงแขน ซบไหล่ และเขยิบเข้าไปนั่งใกล้เขาจนก้นของฉันแทบจะไปอยู่บนตักอยู่แล้ว แต่พ่อลีดเดอร์สุดหล่อดันรู้ทันใช้สายตาคมตวัดมองมาที่ฉันอย่างดุๆ

     

                ก็คนมันขาดความอบอุ่นนี่

     

                ดูจากชุดของเธอมันไม่น่าจะทำให้เธอขาดความอบอุ่นอย่างที่บอกนะ

     

                ปากร้ายนักนะมายเดียร์ฉันยู่หน้าแกล้งทำเป็นงอน แต่ก็ไม่หวังให้คริสง้อหรอกเพราะรายนั่นนะต่อให้ฉันลงไปนั่งชักดิ้นชักงอก็คงแค่มองแล้วเมิน

     

                เย็นชาสุดๆ ไปเลยล่ะ

     

                ดรายมาร์ตินี่แก้วนึง

     

                “ไหวเหรอ?”คริสหันมาถามด้วยความแปลกใจเมื่อได้ยินว่าฉันสั่งดรายมาร์ตินี่ซึ่งเป็นค๊อกเทลที่แรงพอสมควร

     

                แค่นี่ สบาย

     

                ฉันหยิบดรายมาร์ตินี่ขึ้นมาดื่มรวดเดียวก่อนจะสั่งพนักงานเสิร์ฟให้เอามาอีก แม้จะเพิ่งเคยดื่มครั้งแรกแต่ขอบอกเลยว่านี่มันคล้ายเหล้าเพียวๆ เลยแหะ ขมคอแต่ก็ละมุนลิ้น อย่างนี้ต้องจัดอีกหลายๆ แก้วถึงจะหายเบื่อ

     

                งองแงง เอิงเอยย ... @_@       

     

    ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่ฉันเริ่มรู้สึกว่าโลกมันเอียงแปลกๆ แก้วที่อยู่ตรงหน้าก็เหมือนจะเคลื่อนไหวได้เองอย่างไงอย่างงั้น พอจะยื่นมือไปหยิบก็ไม่โดนแก้วสักที ฉันเลยหมดความอดทนหันไปขอความช่วยเหลือจากคริส แต่ทำไมคริสถึงมีหลายคนนักล่ะ

     

                แล้วคนหนายตัวเจงหว๊า ...

     

                ยัยคอสเพลย์ เธอไหวหรือเปล่าคริสจับไหล่ทั้งสองข้างของฉันเขย่าไปมา

     

                หวายยยยยยยยยย!!”แล้วฉันลากเสียงยาวทำไมฟร่ะ!!

     

                “เธอนี่มันโคตรน่ารำคาญเลย นี่ใครต้องมาดูแลใครกันแน่วะ

     

                ฉันได้ยินคริสบ่นอย่างหัวเสียก่อนที่เขาจะใช้มือโอบไหล่ของฉันเอาไว้เพื่อไม่ให้ตัวของฉันเสียการทรงตัวไปมากกว่านี้ และไม่กี่นาทีต่อมาฉันก็เริ่มเห็นหน้าไอ้พวก EXOTIC ที่ยื่นหน้ามาจ้องฉันกันทีละคน

     

                กูว่ามึงพายัยบ้านี่กลับเหอะขืนอยู่ต่อไปคงได้เดินใส่ชุดสุ่มออกไปเต้นแน่ๆเสียงลูลู่นี่หวา

     

                “เชี้ย ยัยหลุดโลกนี่กล้าดียังไงเอาเท้ามาเขี่ยกูวะไอ้บร้าชานหยอยย

     

                “เฮียเว้ยเฮีย รีบพากลับไปเลย ด่วนๆ ก่อนที่ยัยตัวประหลาดจะอ้วกใส่โต๊ะไอ้หัวสีรุ้งเซฮุงงง

     

                เสียงคุยกันของเจ้าพวก EXOTIC ดังเข้ามาในโสตประสาทการรับรู้ของฉันแต่ทำไมฉันแทบจะไม่รู้เรื่องเลยว่าพวกเขาคุยอะไรกัน ฉันคิดว่าตัวฉันเองไม่เมานะ คนเมาที่ไหนจะพูดรู้เรื่องแบบนี้

     

                เจรงงงง ม๊ะ !!

     

                อึก อึก !!

     

                เหมือนมีอะไรจ่ออยู่ที่ลำคอพร้อมจะปลดปล่อยได้ทุกเมื่อ แต่ดีนะที่ฉันกลืนลงไปเสียก่อน ถ้าขืนอยู่แบบนี้ไม่ดีแน่ต้องไปห้องน้ำ ห้องน้ำ

     

                “ออมอออออฉันพรวดพราดลุกขึ้นทันทีแต่ดันรู้สึกปวดหัวขึ้นมาเสียดื้อๆ ทำให้ฉันเสียการทรงตัวล้มนั่งลงไปที่เดิมแต่ทำไมมันกลับมีความรู้สึกว่ากำลังนั่งทับใครสักคนอยู่

     

                ให้ตายสิวะ

     

                “มายเดียร์ม่ายต้องงงง ห่วง!! คุณยุนคนเน้ หวายๆๆๆ

     

                เห้ยๆๆ ยัยปีศาจนั่นเธอจะลุกไปไหนวะ

     

                ตอนนี้ฉันกลั้นไม่ไหวแล้วต้องไปห้องน้ำด่วนๆ ไม่สงไม่สนมันละว่าชุดจะเป็นอุปสรรค์แค่ไหน ฉันใช้มือคว้าสะเปะสะปะหาที่จับเพื่อจะลุกออกจากตัวมนุษย์สักคนนึงที่นั่งทับอยู่ และพอดีกับที่มือของฉันคว้าอะไรสักอย่างไว้ได้

     

                ฮึบบบบบ!!

     

                “เชี้ยยยยยย เอ้ยยยยยยย!!”ไม่รู้ว่าเสียงของใครแต่ท่าทางเหมือนคนเจ็บปวดอย่างรุนแรง

     

                “เดี๋ยวมานะจ๊ะ เด็กๆทั้งหลายยย

     

                ฉันก้าวเดินออกมาด้วยความยากลำบากเพราะอาการมึนหัวมันทำให้ตัวฉันเซไปทางขวาทีซ้ายที โชคดีที่ห้องน้ำส่วนตัวนั้นอยู่ชั้นเดียวกับโซนวีไอพีทำให้ฉันไม่ลำบากลงบันได และบนความโชคดีก็มีความโชคร้าย

     

                ห้องน้ำมีสองประตู โอเค!! ฝั่งซ้ายก็ได้

     

                โอ๊ยยยและนั้นก็ทำให้ฉันชนเข้ากับผนังสีแดงเต็มๆ ฉันคิดว่าเข้าถูกทางแล้วนะ

     

                หมดสภาพเลยนะยัยคอสเพลย์

     

                “คริสอ่าส์ เจ็บจัง!!”

     

                ยังไม่ทันที่จะล้มลงกับพื้นฉันก็รู้สึกว่าตัวเองถูกสวมกอดจากทางด้านหลัง ทันทีที่หันหน้าไปก็พบกับมายเดียร์สุดหล่อกำลังทำหน้านิ่งพลางสวมกอดฉันจากด้านหลังเพื่อพยุงไม่ให้ฉันล้มไปนอนกับพื้น เขาส่ายหน้าหน่อยๆ พลางหมุนตัวฉันให้หันมาเผชิญหน้ากับเขาตรงๆ ฉันหลับตาเพื่อเรียกสติอันน้อยนิดกลับคืนมาเพื่อมองหน้าเขาชัดๆ

     

                >_< >>> ฉันยิ้มอายๆ

     

                -_- >>> คริสมองฉันนิ่งๆ

     

                ^_^ >>> ฉันฉีกยิ้มหวานสุดๆ

     

    ฮึก ฮึก อึก แหวะ !!

     

    แล้วฉันก็ทำในสิ่งที่ไม่สมควรทำที่สุดคืออ้วกใส่เสื้อตัวละเกือบแสนของคริส

               

    เธอ!!!”

     

                “นู๋ม่ายรู้ว์ นู๋มาววววววว!!”ก่อนที่ลมหายใจของฉันจะหมดลงเพราะโดนหมาป่าอย่างคริสฆ่าทิ้งฉันควรจะเอาตัวรอดด้วยการแกล้งหลับ อย่างน้องก็หนีความผิดไปได้เปราะหนึ่งล่ะ

     

                ตื่นมาเธอตายแน่ยัยคอสเพลย์!!”

     

                นี่คือเสียงสุดท้ายของคริสที่ฉันได้ยินก่อนที่ทุกอย่างจะมืดไปหมด (ไหนว่าแกล้งหลับไงฟร่ะ!!!)

     










     

    รีดเดอร์ข๊า ... ไรท์เตอร์กลับมาแว้วววว!!!!!

    ต้องขอโทษจากใจจริงที่หายไปหลายเดือน

    เนื่องจากไรท์เตอร์เข้าสู่วัยทำงายเลยไม่ค่อยมีเวลาอัพ แต่ก็พยายามหาเวลามาอัพในแต่ละตอน

    ดังนั้นถ้าหากไรท์หายไปนานก็ต้องขออภัยด้วยนะคะ

    รีดเดอร์อย่าโกรธเขาเน้ออ... เขาพยายามอย่างที่สุดแล้ว !!!

    ใครที่ยังติดตามอยู่ก็ไม่ต้องห่วงนะคะ ไรท์จะพยายามปั่นแล้วมาอัพให้เร็วที่สุด

     

    อ่านแล้วเม้นด้วยนะ ... ไม่งั้นเขาไม่มาอัพต่อนะ >”< คิคิ

                

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×