เสียงฟ้าคำรามระคนเสียงลมหวีดหวิวเป็นลางบ่งบอกว่าไม่นานพายุใหญ่จะพัดมา ร่างเล็กยืนนิ่งอยู่บนเนินหญ้า สายตามองออกไปไกลอย่างจุดหมาย
‘ท่านมุคุโร่...’
ได้ยินเสียงของตัวเองดังขึ้นในความคิดของตนเอง....
นัยน์ตาสีอเมทิสสุกสกาวของเธอเหลือบขึ้นมองบนผืนท้องฝ้ากว้างใหญ่สีเทาเบื้องบน จู่ๆ หยาดน้ำใสๆ ก็เอ่อร้นออกจากดวงตาคู่งาม
‘ท่านมุคุโร่คะ’
เธอเรียกเจ้าของชื่อ แต่ไม่มีเสียงตอบรับ มีเพียงแต่เสียงฟ้าคำรามเท่านั้น
“ท่าน มุคุโร่!” เธอเปล่งเสียงออกมา เสียงใสของเธอสะท้อน น้ำตาไหลออกมาเป็นสาย หญิงสาวเข่าอ่อน ล้มลงไปบนพื้นหญ้า หยาดน้ำตาล่วงลงพื้น ซึมลงพื้นดินอย่างรวดเร็ว
‘โคลมที่น่ารักของผม’
“หา? เมื่อกี๊.. – โอ๊ยย!” โคลมหวีดร้องเบาๆ พร้อมกันนั้นเธอก็รู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวไปทั่วทั้งร่าง หญิงสาวหลับตาแน่น มือทั้งสองกำแน่นจนเล็บจิกอุ้งมือ
‘เจ็บปวด ... ไปหมด -- ท่าน..มุ...คุ....โร่’
โค ลมปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมา เธอล้มลงไปนอนบนพื้นหญ้า บิดตัวไปมาอย่างเจ็บปวดทรมาน เธอควบคุมสติได้น้อยเต็มที เหงื่อกาฬเปียกชุ่มทั่วทั้งตัว
“ท่านมุคุโร่!!!!!!!!!! อย่าเป็นอะไรนะคะ!!!!!!!!!!!!!!!!!” โคลมร้องขึ้น
“มุคุโร่ งั้นเหรอ” เสียงทุ้มดังขึ้น โคลมลืมตาขึ้นช้าๆ และพบกับผู้มาใหม่ซึ่งกำลังยืนมองเธอด้วยสายตาเย็นชา
“ผู้พิทักษ์....แห่ง....เมฆา…. -- ฮิบาริ เคียวยะ” โคลมกระซิบเสียงแผ่ว นัยน์ตาเริ่มพร่าเลือน
ภาพสุดท้ายที่เธอเห็นคือฮิบาริ เคียวยะ กำลังย่อตัวลงมาหาเธอ จากนั้นเธอก็หมดสติ.......
..............
‘นี่ฉัน มาอยู่ที่ไหน’
‘รู้สึกอุ่นจัง’
เปลือก ตาของเธอต่อยเปิดขึ้น ภาพที่ประจักษ์คือเพดานไม้ขัดมัน และยังได้กลิ่นอายของญี่ปุ่นโบราณ เธอนอนอยู่บนฟูกอุ่นๆ และรู้สึกสบายตัวอย่างประหลาด
“ตื่นแล้วเหรอ”
“หา? ฮิบาริ เคียวยะ?” โคลมสะดุ้ง ฮิบาริ เคียวยะ อยู่ในชุดยูกาตะสีน้ำตาล เขานั่งขัดสมาธิตัวตรงอยู่บนเมาะ สายตาคมเฉียบจ้องลึกเข้ามานัยน์ตาสีม่วงซึ่งทอแววเศร้าหมองอยู่ลึกๆ
“ใช่น่ะสิ” ฮิบาริพูดเนิบๆ พรางปิดปากหาว
“ที่นี่ที่ไหน”
“ฐานทัพลับของฉัน”
“ฉัน ... หลับไปนานแค่ไหน?” โคลมถามเสียงแผ่ว ฮิบาริไม่ได้ตอบทันที เขาจ้องมองเธออยู่นาน
“... 4 วันเต็ม”
“4 วันเต็ม” โคลมพูดกับตัวเอง พยายามนึกถึงวันล่าสุดก่อนที่เธอจะหมดสติ ใช่สิ.... เจ็บปวด .... และ “ท่านมุคุโร่”
“หึ มุคุโร่งั้นเหรอ” ฮิบาริพูดเสียงเรียบ “พูดถึงเจ้านั่นเหมือนหลายวันก่อนเหมือนเคย” โคลมตวัดสายตาเจ็บปวดมาจ้องเขาทันที ฮิบาริไม่มีปฏิกิริยาต่อสายตานั้น
โคลมลุกขึ้นมาในท่านั่ง และพึ่งสังเกตว่าเธออยู่ในชุดยูกาตะสีม่วงอ่อน
“ขอบคุณที่ให้ความช่วยเหลือ” โคลมพูดเสียงเรียบ ฮิบาริตีสีหน้านิ่งสนิท
จู่ๆ ความเจ็บปวดก็พุ่งกระฉูดขึ้นมา มันเจ็บกว่าครั้งก่อน โคลมตัวเกร็ง ตาค้าง และล้มลงไปนอนบิดไปมาอย่างทรมาน ปากร้องเรียกชื่อมุคุโร่ตลอด น้ำตาไหลออกมาเป็นสาย
“น่าสมเพชอะไรอย่างนี้” ฮิบาริเอ่ยเซื่องๆ พร้อมกับลุกขึ้นยืน เขาเหลือบมองเธอซึ่งกำลังหายใจพะงาบๆ ด้วยสายตานิ่งสนิท ก่อนจะหันหลังเดินออกจากห้องไปอย่างไม่แยแสร่างที่กำลังดิ้นพลาดๆ อยู่เบื้องหลัง
..
“คะ โคลม มาอยู่นี่หรือครับ!!” สึนะโพล่ง
“ก็นะ” ฮิบาริเปรย “ดิ้นพลาดๆ อยู่ในห้อง ไม่รู้ตอนนี้ตายรึยัง”
“หา! ไหงเป็นงั้นล่ะ!”
“ทำไมนายไม่พาหมอมาหาเธอล่ะ!” ยามาโมโตะโพล่ง
“ใช่ บื้ออะไรอย่างนี้!” โกคุเดระพูดขึ้นบ้าง
“หมอก็ช่วยอะไรไม่ได้หรอก มีแต่ตัวยัยนั่นที่จะต้องช่วยตัวเอง” ฮิบาริพูดเสียงเรียบ
“คะ—คุณฮิบาริ” สึนะพูดเสียงแผ่ว
“ใช่ แล้ว ฮิบาริพูดถูกแล้วสึนะ” รีบอร์นพูดสบายๆ “โคลมน่ะไม่ความเป็นตัวของตัวเอง เมื่อมุคุโร่รู้สึกอย่างไร เธอก็ต้องรู้สึกอย่างนั้น และอาจจะเจ็บปวดกว่ามุคุโร่หลายต่อหลายเท่าด้วยซ้ำไป ทั้งๆที่เธอไม่จำเป็นต้องรับความเจ็บปวดนั้น แต่วิธีแก้ก็ใช่ว่าจะไม่มี”
“วิธีแก้งั้นเหรอ?”
“ใช่ นั่นก็คือ ตัวโคลมเองต้องแยกระหว่างโลกของเธอกับโลกของมุคุโร่ให้ได้มากกว่านี้ จริงอยู่ที่เธอเป็นส่วนหนึ่งของมุคุโร่ แต่เธอก็ไม่ใช่ของมุคุโร่โดยสมบูร เธอก็ยังเป็นโคลม”
“ถ้าอย่างนั้น โรคุโด มุคุโร่ ก็ต้องเป็นอะไรสักอย่าง ถึงได้เจ็บปวดเหมือนกับโครม”
“ไม่ เท่าโคลมหรอก” รีบอร์นพูด ก่อนจะหันไปหาฮิบาริ “ช่วงนี้ ยังไงก็ฝากโคลมหน่อยก็แล้วกัน ตอนนี้เป็นช่วงที่โคลมยังน่าห่วง นอกจากลองรับความรู้สึกอื่นๆ จากมุคุโร่แล้ว ยังมีผลกระทบอื่นๆ ตามมาอีก ในฐานะที่เธอก็เป็นส่วนหนึ่งของผู้พิทักษ์แห่งหมอก เธอต้องมีสภาพที่ดูดีกว่านี้หน่อย”
ฮิบาริไม่พูดอะไร เพียงแต่พยักหน้าอย่างไม่สนใจ
ฐานทัพลับใต้ดินวองโกเล่
“รีบอร์น ….. เรื่องฝากโคลมไว้กับคุณฮิบาริน่ะ ยังน่าห่วงอยู่ดีนะ”
“ใช่ครับคุณรีบอร์น ผมเห็นด้วยกับรุ่นที่ 10 ครับ! หมอนั่นน่ะ ---“
“เอาน่า ทั้งโกคุเดระและสึนะ พวกนายเลิกกังวลได้แล้ว ไปกังวลเรื่องการฝึกของพวกนายต่อเถอะ”
“ระ .. รี –“
“เอา น่าๆๆ สึนะ ไม่ต้องห่วงหรอก ถึงฉันจะไม่เชื่อใจฮิบาริซักเท่าไหร่ แต่ถ้าเจ้าหนูไว้ใจ ก็ถือว่าไว้ใจได้ล่ะนะ” ยามาโมโตะพูดอย่างอารมณ์ดี พรางตบไหล่สึนะป้าบๆ “นายก็ด้วย โกคุเดระ”
‘นั่นสินะ’
…….
“ยังน่าสมเพชเหมือนเดิมนะ”
“ฮิ บาริ เคียวยะ” โคลมพยายามพูด ขณะกำลังหอบหายใจอย่างแรง ฮิบาริมองเธอด้วยสายตานิ่งสนิทเหมือนเดิม ก่อนจะย่างเท้ามาใกล้อย่างเชื่องช้าไร้อารมณ์
“บอสมาที่นี่เหรอ”
“บอส? ถ้าเธอหมายถึง ซาวาดะ สึนะโยชิ ล่ะก็ ใช่”
“ฉันต้องการพบบอส” โคลมพูดสียงแผ่ว “ท่านมุคุโร่กำลัง - -“
“ซาวาดะกลับไปแล้ว” ฮิบาริตัดบท “ถ้าเธอกำลังจะพูดถึงมุคุโร่ ก็หุบปากซะดีกว่า”
“ฮิบาริ เคียวยะ” โคลมกัดฟันพูด พร้อมกับส่งสายตาชิงชังไปให้ชายหนุ่มในชุดยูกาตะ
“มีเรื่องจะบอก” ฮิบาริพูดเนิบๆ “เจ้าหนูรีบอร์นให้เธออยู่นี่ไปสักพัก จนกว่าความน่าสมเพชจะไม่มีในตัวเธอ”
“น่าสมเพช?”
“ใช่” ฮิบาริพูดสั้นๆ พร้อมกับหันหลังเดินออกไปอย่างรวดเร็ว มีเพียงสายตาชิงชังซึ่งจ้องอย่างอาฆาตตามหลัง
‘ท่านมุคุโร่ ฉันจะต้องหาทางช่วยท่านให้เร็วที่สุด’
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น