ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Vanguard]พ่อหนุ่มน่ารัก x คุณจิ้งจอกเย็นชา

    ลำดับตอนที่ #1 : จิ้งจอกตัวที่ 1 การพบเจอ

    • อัปเดตล่าสุด 14 ก.ค. 58


    -ช่วงบ่ายของวันอาทิตย์-
     
    "นี่นายน่ะ..."มีเสียงๆหนึ่งเรียกผมที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่โซฟา
    "อะ...อะไรหรอ"ผมหันไปตามเสียงที่เรียกผม
    "น้องนายกับแม่นายวันนี้ไม่อยู่หรอ"คนที่เรียกผมนั้นผมยุ่งกระเซอะกระเซิงเหมือนกับพึ่งตื่นนอนยังไงยังงั้น เขาพูดแล้วจ้องหน้าผมเขม็ง
    "อะ...อื้มไปซื้อของกันน่ะ"พอผมโดนจ้องเขม็งแบบนี้ผมก็แทบจะไม่กล้าพูดเลย
    "หือ..."
    "งั้นนายจะช่วยทำอาหารเช้าให้ชั้นกินหน่อยได้มั้ย"คนๆนั้นพูดขอร้องผมด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยราวกับน้ำแข็ง
    "เอ่อ...ผมทำอาหารไม่ค่อยเก่งนะ..."ผมตอบพร้อมเหงื่อตก
    "เอาเถอะ ถึงจะรสชาติแย่แค่ไหนก็ชั่ง แต่ตอนนี้ชั้นหิวก็แค่นั้น"คนๆนั้นยังมีสีหน้าเรียบเฉยเหมือนเดิม แต่คำพูดของเขาทำเอาผมหงุดหงิดขึ้นมานิดหน่อย จะหงุดหงิดก็ตรงคำว่า'รสชาติแย่'นี่แหละนะ
     
      ผมเดินไปที่ครัวแล้วหาของมาทำอาหารให้คนๆนั้น ผมหยิบต้นหอมออกมาหั่นโดยที่มีคนๆนั้นมองอย่างไม่ละสายตาอยู่ด้านหลัง คนๆนั้นมาอยู่บ้านผมเมื่อประมาณ3วันก่อน เพราะผมดันบังเอิญไปเจอเขา...
     
     
    -3วันก่อน-
     
    "หวา~จะ1ทุ่มแล้วหรอต้องรีบแล้วสิ"ผมวิ่งตรงกลับไปที่บ้านอย่างเร่งรีบเพราะวันนี้ผมไปกินข้าวเย็นกับพวกนาโอกิคุงจนลืมเวลา ในตอนที่ผมกำลังรีบอยู่นั้นผมรู้สึกเหมือนเดินผ่านอะไรบางอย่างที่ข้างทาง ผมหันกลับไปมองก็เห็นว่ามีเด็กคนหนึ่งนั่งหลับอยู่ที่ข้างทาง และข้างๆตัวของเด็กคนนั้ามีดาบวางอยู่ด้วย ผมตกใจมากแล้วรีบวิ่งไปหาเด็กคนนั้นทันที
    "นะ...นี่ตื่นสิตื่น"ผมเอามือเขย่าร่างของเด็กคนนั้นเบาๆ แต่ก็ยังไม่ตื่นผมจึงเขย่าแรงขึ้นอีกหน่อย
    "นี่ๆ..ตื่นก่อนสิ"ในที่สุดเด็กคนนั้นก็ค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยท่าทางงัวเงียสุดๆเด็กคนนั้นค่อยๆเอามือขยี้ตาเบาๆ 
    "นี่บ้านอยู่ไหนหรอ? ให้พี่ไปส่งมั้ย?"ผมถามเด็กคนนั้นที่กำลังงัวเงีย แต่เด็กคนนั้นไม่ตอบอะไร
    "งะ...งั้นลองไปที่บ้านพี่ก่อนมั้ย?"ผมลองถามเด็กคนนั้นอีกครั้งหนึ่ง คราวนี้เด็กคนนั้นพยักหน้าเบาๆ
    "งะ..งั้นหรอ ท่าทางจะยังง่วงอยู่นะงั้นขี่หลังพี่เอามั้ย?"เด็กคนนั้นพยักหน้าเบาๆ ผมค่อยๆนั่งยองๆลงกับพื้นเพื่อให้เด็กคนนั้นขึ้นมาบนหลังของผม เด็กคนนั้นหยิบดาบที่วางอยู่ข้างๆมาถือไว้ แล้วขึ้นขี่หลังผม พอเด็กคนนั้นขึ้นมาบนหลังของผมแล้วผมก็รีบวิ่งกลับบ้านทันที
     
     
    -บ้านของเซ็นโด ไอจิ-
     
    "อืม..."
    "อือ..."เอมิกับคุณแม่จ้องไปที่เด็กคนนั้นเขม็ง เด็กคนนั้นที่เริ่มตาสว่างแล้วหันมองเอมิกับคุณแม่สลับไปมาเหมือนว่ากำลังงงว่าทำไมถึงได้จ้องแบบเขาแบบนี้
    "ไอจิ...ไปเอาเด็กนี้มาจากไหนเนี่ย"เอมิถามพลางจ้องเด็กคนนั้นไปด้วย
    "อะ...เอ่อ...คือ...ไปเจอเด็กคนนั้นอนหลับอยู่ที่ข้างทางน่ะ"ผมตอบแบบติดๆขัดๆ
    "หา...นั่งหลับอยู่ที่ข้างทางเนี่ยนะ"เอมิทำเสียงเหมือนไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่
    "แต่แม่ว่านะเด็กคนนี้แต่งตัวน่ารักดีนะ"คุณแม่พูดพลางยิ้มบางๆ
     
      จริงสิตั้งแต่แรกแล้วผมก็นึกสงสัยอยู่ว่าทำไมเด็กคนนี้ถึงแต่งตัวด้วยชุดฮากามะแถมมีหางที่เหมือนกับจิ้งจอกด้วยตั้งเก้าหางแถมมีหูจิ้งจอกอีกด้วย ตอนแรกที่ผมเห็นผมก็คิดเลยว่าเด็กคนนี้คงจะแต่งคอสเพลย์
    "นั่นสินะค่ะ เด็กคนนี้เขาแต่งคอสเพลย์หรอ?"ดูเหมือนเอมิเองก็คิดเหมือนผมในตอนแรก
    "หรอ...แต่หูกับหางเนี่ยแม่ว่ามันเหมือนจริงมากๆเลยนะ"คุณแม่พูดพลางชี้ไปที่หูกับหาง
    "เอ่อ...ผมว่าลองถามชื่อของเด็กคนนั้นก่อนดีกว่ามั้ยครับ..."ผมพูดเพื่อให้คุณแม่กับเอมิเลิกสนใจเรื่องการแต่งกายของเด็กคนนั้น
    "อ๊ะ...จริงด้วย หนูจ้ะหนูชื่ออะไรหรอ?"คุณแม่ถามพร้อมกับยิ้มให้ เด็กคนนั้นเงียบไปพักหนึ่งก่อนจะตอบสั้นๆว่า
    "ไค..."
    "หือ...ชื่อไคหรอ แล้วบ้านอยู่ไหนเอ่ย?"คุณแม่ยังคงถามอยู่ เด็กคนนั้นไม่ตอบอะไรแต่ทำหน้านิ่งเหมือนกับคนไร้ความรู้สึก
    "เอ่อ...งั้นคุณพ่อกับคุณแม่ล่ะจ้ะ"คุณแม่ยังคงถามต่อไป 
    "พ่อกับแม่หรอ..."คราวนี้เด็กคนนั้นพูดออกมาเบาๆ แม้ใบหน้าจะนิ่งเฉยแต่ผมเห็นดวงตาของเด็กคนนั้นเต็มไปด้วยความเศร้าสร้อย แล้วเด็กคนนั้นก็ส่ายหน้าเบาๆ ทำให้บรรยากาศในบ้านเริ่มอึมครึม
    "งะ...งั้นแบบนี้จะทำยังไงดีล่ะค่ะ"เอมิหันไปถามคุณแม่
    "ที่นี่..."จู่ๆเด็กคนนั้นก็พูดออกมาเบาๆ
    "ผมอยาก...อยู่ที่นี่..."
    "อะ...เอ่อ...เอาไงดีล่ะค่ะเนี่ย"เอมิทำสีหน้าเหมือนลำบากใจ
    "ก็ได้จ้ะ หนูอยู่ที่นี่ได้เลยนะ"แต่คุณแม่กลับตอบว่าได้ไปพร้อมกับรอยยิ้ม ทำให้บรรยากาศในบ้านเริ่มเปลี่ยนไป
    "อะ..เอ๋จะดีหรอค่ะ"
    "ก็แหม...เด็กคนนี้ไม่มีที่ให้ไปนี่นา จะปล่อยทิ้งไว้แบบนี้ก็ไม่ได้ งั้นก็ให้เด็กคนนี้มาอยู่บ้านเราก็แล้วกันนะ"คุณแม่พูดพร้อมรอยยิ้ม
    "ถ้าคุณแม่พูดแบบนั้นก็โอเคค่ะ"เอมิเองก็ตกลงเหมือนกัน
    "งั้นเรื่องห้องนอนก็..."คุณแม่ยืนนิ่งคิดอยู่สักพักก่อนที่จะชี้มาที่ผมแล้วพูดว่า
    "ให้ไปนอนห้องของไอจิก็แล้วกันนะ"
    "ได้รึเปล่าจ้ะไอจิ?"คุณแม่ถามผม
    "อ่อ...ดะ...ได้ครับ"ผมตอบตกลงออกไปโดยไม่ได้คิดอะไร
    "งั้นเดี๋ยวแม่ไปทำอาหารก่อนนะ"พูดแล้วคุณแม่ก็เดินไปที่ครัว
    "เดี๋ยวหนูช่วยนะค่ะ"เอมิเดินตามคุณแม่เข้าไปในครัว แล้วจู่ๆเสียงของคุณแม่ก็ตะโกนออกมาบอกกับผมว่า
    "ไอจิลูกไปอาบน้ำก่อนก็ได้นะ"
    "คะ...ครับ"พอได้ยินคุณแม่พูดแบบนั้นผมก็กะจะไปอาบน้ำทันที แต่ตอนนั้นผมก็หันไปถามเด็กคนนั้นพร้อมกับถือวิศาสะ(เขียนถูกมั้ยเนี่ย-..-)เรียกชื่อของเด็กคนนั้น
    "อะ...เอ่อ...ไคคุงจะอาบน้ำมั้ย?"เด็กคนนั้นหันหน้ามาหาผมด้วยใบหน้าเรียบๆแล้วส่ายหน้าเบาๆ
    "งะ...งั้นหรอ...งั้นพี่ไปอาบก่อนนะ"พอผมเห็นเด็กคนนั้นให้คำตอบกับผมแล้วผมก็เดินไปที่ห้องอาบน้ำทันที
     
     
    -หลังจากนั้น-
     
    "ผมขอไปนอนก่อนนะครับ"ผมลุกขึ้นยืนแล้วหันไปถามเด็กคนนั้น
    "ไคคุงจะนอนเลยมั้ย?"
    "อือ..."เด็กคนนั้นยังคงตอบสั้นๆเหมือนเดิม
    "งั้นไปกันเถอะ"ผมยื่นมือไปให้เด็กคนนั้น ผมแอบคิดอยู่ลึกๆว่าเด็กคนนี้คงจะไม่จับมือผมหรอกพอผมกำลังจะเอามือลง เด็กคนนั้นก็เอามือมาจับผมไว้แล้วพูดว่า
    "ครับ...พี่ชาย..."คำพูดนั้นของเด็กคนนั้นทำให้ผมรู้สึกดีใจขึ้นมานิดหน่อย จนผมเผลอยิ้มอย่างดีใจออกไป
    "อื้อ..."
    "ราตรีสวัสดิ์นะไอจิ ไคคุงด้วย"เอมิพูดขึ้น
    "อื้อ...ราตรีสวัสดิ์นะ"ผมตอบเอมิไปอย่างยิ้มแย้มก่อนที่จะเดินขึ้นไปที่ห้องนอนพร้อมกับเด็กคนนั้น
     
      พอมาถึงหน้าห้องผมเปิดประตูให้เด็กคนนั้นเดินเข้าไปในห้องก่อน แล้วผมค่อยเดินตามเข้าไปพร้อมกับปิดประตูห้องแล้วพูดว่า
    "ห้องของพี่อาจจะแคบไปหน่อยนะเดี๋ยวไคคุงนอนข้างบนนะ เดี๋ยวพี่จะนอนข้างล่างเองนะ"ผมพูดแล้วเดินไปหาผ้าปูที่นอนมาปูลงบนพื้น
    "งั้นก็ราตรีสวัสดิ์นะไคคุง"ผมยิ้มให้เด็กคนนั้น แต่เด็กคนนั้นกลับยังทำสีหน้าเรียบเฉยแล้วพูดกับผมว่า
    "ราตรีสวัสดิ์ครับ...พี่ชาย"แล้วเด็กคนนั้นก็ฟุบนอนลงบนเตียงไปทันที
    "อื้อ..."ผมนอนลงบนเตียง แล้วค่อยๆหลับตาลง...
     
     
    -เวลา05:48-

      ในตอนที่ผมกำลังนอนอยู่นั้นผมรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างนุ่มๆมาโดนที่แก้มของผม ผมค่อยๆลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ แล้วลุกขึ้นมามองไปที่ไคคุง ผมที่ยังงัวเงียอยู่มองเห็นภาพตรงหน้าไม่ค่อยชัด ผมจึงขยี้ตาเบาๆแล้วก็ตบแก้มตัวเองพอให้ตาสว่างขึ้น พอผมเริ่มตาสว่างภาพที่ผมเห็นนั้นทำเอาตกใจจนตาค้าง เด็กหนุ่มตัวเล็กๆน่ารักที่น่าจะนอนอยู่ที่เตียงของผมไม่อยู่แล้วแต่กลับกลายเป็นผู้ชายตัวโตลักษณะเหมือนคนอายุ17-18มานอนหลับอยู่บนเตียงผมแทน แถมยังมีหูกับหางจิ้งจอกอีกตั้งเก้าหาง ผมตกใจมากจนทำอะไรไม่ถูก ผมค่อยๆตั้งสติของตัวเองแล้วค่อยๆเดินไปปลุกคนๆนั้นให้ตื่นขึ้นมาอธิบายว่าทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่และเขาเป็นใคร แล้วไคคุงหายไปไหน
    ผมเขย่าตัวของเขาแรงๆพอให้รู้สึกตัว
    "นี่นายน่ะ..ตื่นเดี๋ยวนี้นะ!!"ผมเรียกเขาเพื่อให้ตื่นขึ้นแต่เขาก็ไม่มีทีท่าว่าจะตื่นเลยสักนิดเดียว ผมจึงเรียกเขาอีกแล้วเขย่าตัวเขาให้แรงขึ้นอีก
    "นี่นายบอกให้ตื่นไงเล่า!!"ผมเรียกเขาเสียงดัง ดูเหมือนครั้งนี้จะได้ผลเขาค่อยๆลุกขึ้นมานั่งบนเตียงอย่างช้าๆ ผมปล่อยมือออกจากตัวเขาแล้วเดินห่างเขาออกมาสัก2-3ก้าว แล้วถามคำถามที่ผมอยากถามเขาทันที
    "นายเป็นใครน่ะ..."พอผมถามคำถามเขาออกไปดวงอาทิตย์ก็เริ่มขึ้นสู่ท้องฟ้าทีละน้อย แสงแดดค่อยสาดส่องเข้ามาในห้อง ทำให้ผมเห็นใบหน้าของคนๆนั้น ใบหน้าของเขาอาจไม่เหมือนเท่าไหร่ แต่ผมรู้สึกได้ว่าเขามีความคล้ายคลึงกับเด็กคนนั้นคล้ายกับไคคุง เส้นผมสีน้ำตาลนั้นและดวงตาสีเขียวมรกตที่ชวนให้หลงใหล ใบหน้าที่เรียวสวยได้รูปดูงดงามนั้น แถมอยู่ในสภาพท่าทางงัวเงีย ทำเอาผมใจเต้นนิดหน่อย แต่ผมคิดว่าผมอาจจะคิดไปเองก็ได้ มันก็จริงแหละจู่ๆเด็กตัวเล็กๆน่ารักแบบนั้นจะโตขึ้นมาเป็นหนุ่มหน้าตาดีขนาดนี้ในค่ำคืนเดียวเนี่ยนะเป็นเรื่องที่ไม่มีทางเป็นไปได้แน่นอน ผมจึงถามคำถามเดิมอีกครั้ง
    "นายเป็นใคร"คราวนี้เด็กหนุ่มคนนั้นจ้องมาที่หน้าผมแล้วใบหน้างัวเงียเมื่อกี้ก็หายไปราวกับว่าเขาตาสว่างแล้ว
    "อะไรกัน...จำไม่ได้จริงๆหรอเนี่ย..."เด็กหนุ่มคนนั้นพูดออกมาด้วยเสียงที่แผ่วเบา
    "หา...นี่นายพูดเรื่องอะไรน่ะ"ผมเริ่มงงกับคำตอบของเด็กหนุ่มคนนั้น
    "ก็ชั้นไงล่ะ ไค เด็กที่นายไปเจอที่ข้างทางไง"เด็กหนุ่มพูดด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วกระดิกหูหนึ่งที
    "หา...อย่ามาโกหกนะไคคุงน่ะเป็นเด็กนะไม่ใช่..."ผมยังพูดไม่จบเด็กหนุ่มคนนั้นก็พูดแทรกขึ้นมา
    "งั้นจะแสดงหลักฐานให้ดู"
    "หลักฐานหรอ...?"
     
      เด็กหนุ่มคนนั้นลุกขึ้นยืนแล้วจู่ๆก็มีควันฟุ้งออกมาจากที่ๆเขายืนอยู่ สิ่งที่ผมเห็นทำเอาผมพูดอะไรไม่ออกจู่ๆเด็กคนนั้น จู่ๆไคคุงก็มายืนอยู่ตรงหน้าผมพร้อมจ้องผมแล้วพูดว่า
    "ทีนี้เชื่อรึยังครับ..."พูดจบไคคุงก็กลับไปอยู่ในร่างตัวโตเหมือนเดิม
    "นะ..นี่นายเป็นตัวอะไรกันแน่เนี่ย..."ผมแทบไม่เชื่อในสิ่งที่ตัวเองเห็น เด็กหนุ่มคนนั้นมองผมตาไม่กระพริบแล้วพูดว่า
    "งั้นจะขอแนะนำตัวใหม่อีกครั้ง ชั้นชื่อไค เป็นปีศาจจิ้งจอกไงล่ะ"
    "ปะ...ปีศาจหรอ หวะ...เหวอ!!"ในตอนที่ผมกำลังอึ้งอยู่นั้น เด็กหนุ่มคนนั้นก็เอาหางจิ้งจอกหนึ่งหางมาพันรอบตัวผมแล้วดึงผมไปใกล้หน้าของเขา
    "จากนี้ ขอฝากตัวด้วยนะ..."เด็หนุ่มคนนั้นพูดขึ้นพร้อมกับเอามือที่มีเล็บแหลมมาจับแก้มผมเบาๆ
    "นะ..."
    "หือ?"
    "นี่มันอะไรกันเนี่ย!?!"ผมตะโกนออกมาสุดเสียง
    "จะตะโกนทำไมน่ะแสบแก้วหูนะ..."
     
     
    -ปัจจุบัน-

      ตั้งแต่วันนั้นหมอนี่ก็มาอยู่ที่บ้านผม ผมถามอะไรก็ไม่ค่อยตอบมิหนำซ้ำยังเย็นชาใส่ แถมชอบพูดชวนผมหงุดหงิดอีกต่างหาก พอคุณแม่กับเอมิรู้เรื่องก็แทบไม่เชื่อเหมือนผมตอนแรกๆนั่นแหละ แต่พอหมอนั่นแปลงร่างเป็นเวอร์ชั่นตัวจิ๋ว(ร่างเด็กนั่นแหละ)ก็เชื่อกันสนิทใจเลย ทั้งที่เย็นชาและปากร้ายขนาดนี้แท้ๆไม่รู้ทำไมตอนที่เห็นหมอนี่ในร่างโตครั้งแรกผมถึงใจเต้นได้ นึกแล้วก็โมโหตัวเองในตอนนั้นจริงๆ
    "อาหารเสร็จแล้วครับ"ผมเดินยกอาหารไปให้ไคคุง แต่ไคคุงไม่ได้พูดอะไรสักคำแล้วตักอาหารเข้าปาก พอผมเห็นเขี้ยวในปากของเขาผมก็เผลอคิดบางครั้งว่าถ้าผมทำให้หมอนี่โกรธจะโดนกัดรึเปล่า(?) ไคคุงหันมามองหน้าผมด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึกแล้วพูดว่า
    "มองอะไร..."
    "เปล่านี่"ผมตอบแบบนั้นออกไปแล้วแอบเหล่มองหูของเขาที่กระดิกอยู่และหางบางหางที่ส่ายไปมานิดหน่อยแล้วจู่ๆผมก็นึกถึงตอนที่เขาอยู่ในร่างเด็กกับร่างในตอนนี้ว่าทำไมตอนที่อยู่ในร่างเด็กกับร่างในตอนนี้นิสัยมันถึงได้ดูต่างกันถึงขนาดนี้ ถึงจะไม่ต่างกันตรงที่ทำหน้าไร้อารมณ์ก็เถอะ ตั้งแต่นี้ไปการดำเนินชีวิตของผมจะเป็นยังไงต่อนะถ้าหากมีหมอนี่เข้ามาในชีวิต... ผมคิดแบบนี้อยู่ในใจพร้อมกับถอนหายใจออกมา...
     
     
                                  จิ้งจอกตัวที่ 1 การพบเจอ

    #สนุกรึเปล่าเอ่ยช่วยคอมเม้นกันหน่อยน้าไรท์จะได้เอาไปปรับปรุงงงง
     
    CR.SHL
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×