ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    :: เพลงใบไม้ ::

    ลำดับตอนที่ #6 : บทที่หก

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 117
      0
      7 ธ.ค. 47

    บทที่06



        สถานีตำรวจยามบ่ายของวันเนืองแน่นไปด้วยผู้คน เนื่องจากมีการนัดประกันตัวผู้ต้องหาคดีใหญ่ที่สื่อมวลชนจับตามองจึงทำให้ทั้งผู้เกี่ยวข้องและนักข่าวพากันมาออเต็มไปหมด  ชายหนุ่มร่างสูงในเสื้อสีอ่อน เดินแทรกผู้คนจำนวนมากลงมาพร้อมกับหญิงวัยกลางคนร่างท้วนจนมาถึงหน้าสถานี ฝ่ายหลังจึงเอ่ยขอบคุณฝ่ายชายด้วยน้ำเสียงจริงใจ

        “ ป้าต้องขอขอบคุณจากใจจริงเลย  ถ้าไม่ได้พ่อหนุ่มช่วยวิ่งตามละก็ พวกค่าเช่าที่ป้าเก็บมาคงสูญแน่  นี่นะคนสมัยนี้อันตรายจริง ๆ  ตายแล้ว นี่ป้าทำให้เสียเวลารึเปล่าลูก ”

        “ ไม่เป็นไรหรอกครับป้า ถ้ายังไงเดี๋ยวผมต้องไปธุระต่อ คงต้องขอตัวก่อนนะครับ ” รติพัทธ์พูดคุยอีกสองสามประโยคก็รีบแยกตัวออกมา เหลียวดูนาฬิกา เหงื่อกาฬที่ไหลอาบแผ่นหลังจากการวิ่งตามจับโจรวิ่งราว ก็เหมือนจะพร้อมใจกันออกมาอีกรอบ นี่เขาเลทเวลานัดไปมากแล้ว  ชายหนุ่มรีบตรงไปที่รถส่วนตัวสตาร์ทเครื่องแล้วบึ่งออกจากลานจอดทันที



        ห้องประชุมเล็กตกแต่งสวยงามมีสไตล์สมกับเป็นห้องประชุมของบริษัทโฆษณาชั้นนำ ผนังห้องบุผ้าติดที่เก็บเสียงไม่ให้เล็ดลอดออกไปภายนอก ด้านหนึ่งเป็นกระดานไวท์บอร์ดและผืนผ้าสำหรับดึงมาฉายสื่อนำเสนอรูปแบบต่าง ๆจากโปรเจคเตอร์ขนาดย่อม  รวมถึงตู้ด้านข้างที่วางทีวีจอแบนไว้สำหรับเปิดวีดีโอนำเสนอในโอกาสต่าง ๆ

        แก้วกาแฟของบรรดาผู้ร่วมประชุมพร่องไปพอสมควร เนื้อหาหลัก ๆของงานได้ข้อสรุปไปหลายอย่าง วริตฐา แอบลอบถอนหายใจน้อย ๆไม่ได้หลังจดงานที่ตนต้องรับผิดชอบในสมุดโน้ตเล่มถนัด  งานนี้ทางบริษัทเครือข่ายสัญญาณมือถือที่เป็นสปอร์นเซอร์หลักของค่ายเพลงดัง ต้องการทำโฆษณาแบบซีรีย์นำเสนอความสามรถของระบบที่ ติดต่อสื่อสารได้ทั่วประเทศ และอยากให้เป็นเรื่องระหว่างชายหญิงที่เป็นคู่รักเข้ามาเป็นเรื่องหลัก เพื่อดึงดูดความสนใจ โดยกำหนดฝ่ายชายไว้ว่าเป็นศิลปินหนุ่มหน้าใหม่ที่จนป่านนี้ยังไม่มีวี่แววว่าจะมาถึงห้องประชุม  ส่วนทางฝ่ายหญิงกำลังอยู่ในช่วงตัดสินใจว่าจะเป็นดาราหรือนักแสดงหน้าใหม่

        หลังจากผู้เรื่องใหญ่ ๆไปแล้ว ก็มีข้อตกลงของทางค่ายเพลงที่ต้องการในโฆษณาชุดนี้ด้วย

        “ ทางเรานอกต้องการจะใช้เพลงในอัลบั้มของรติพัทธ์ ในการเป็นเพลงประกอบหนังโฆษณาชุดนี้ด้วย เพื่อเป็นการโปรโมตตัวศิลปินอีกทางหนึ่ง  ไม่ทราบว่าเคยได้รับฟังกันหรือยังคะ ตอนนี้เพลงซิงเกิ้ลของอัลบั้มกำลังติดอันดับตามคลื่นวิทยุต่าง ๆไม่น้อย  พอดีทางเรามีซีดีติดมาด้วยก็จะเปิดให้ได้ฟังเป็นตัวอย่างด้วยน่ะค่ะ ” ปรารถนาพูดพลางเปิดประเป๋าเอกสารหนังสีดำหยิบแผ่นซีดีในซองออกมา เจ้าหน้าที่อีกคนของบริษัทรับไปจัดการให้ ไม่นานเครื่องเสียงที่ติดอยู่รอบห้องก็เริ่มทำงานพร้อมกัน

        เสียงอินโทรเพลงเป็นเสียงเป่าใบไม้หวานติดหู วริตฐาตกใจไม่น้อย เพลงที่เธอตามหาในช่วงไม่กี่วันนี้กำลังบรรเลงอยู่  เมื่อรู้ว่าศิลปินคนที่เธอต้องร่วมงานด้วยคือเจ้าของเพลงนี้หญิงสาวอดตื่นเต้นไม่ได้  เสียงเพลงและท่วงทำนองในเพลงทำให้หญิงสาวเคลิบเคลิ้มไปพอควร ภาพวัยเด็ก ภาพบรรยากาศเดิมหมุนวนมาให้เธอให้สัมผัสตรงหน้าช้า ๆและนุ่มนวลจนเธออยากจะคว้ามันเอาไว้ให้อยู่กับเธอนาน ๆ

        เสียงกระแอมเรียกเบา ๆของหัวหน้าเธอทำให้หญิงสาวผมยาวหลุดจากภวังค์ ปราถนายิ้มให้หญิงสาว หลังจากซีดีคืน เธอก็เปิดกระเป๋าเอกสารใบเดิม หยิบซีดีแผ่นสมบูรณออกมา 3 แผ่นแจกให้แก่ทางบริษัทโฆษณา

        “ อันนี้เป็นแผ่นสมบูรณ์ค่ะ แต่พอดียังไม่มีปก ทางเราให้ลองไปฟังดูก่อนเผื่อจะได้ไอเดียมาใช้งานโฆษณา  แต่ต้องขอไว้ก่อนนะคะ แผ่นสมบูรณ์ยังไม่วางจำหน่าย จะเริ่มวางต้นเดือนหน้า ถ้ายังไงรบกวนอย่าให้ใครเอาไปอัด หรือเผยแพร่... ” หญิงสาวอธิบายอีกเล็กน้อยตามหน้าที่ก่อนจะนั่งลงประชุมในหัวข้อถัดไป

        

        การจราจรบริเวณใจกลางเมืองติดแทบไม่ขยับ ไม่รู้ว่ารถราทั้งหลายประดังประเดกันมาจากไหน รติพัทธ์แทบจะหมดแรงอยู่หน้าพวงมาลัย เหลียวมองนาฬิกาหน้ารถไปถอนใจไป ชายหนุ่มส่งข้อความไปบอก และขอโทษผู้จัดการส่วนตัวแล้วและหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะไปให้ทันก่อนการประชุมจะเลิก แต่สภาพถนนเบื้องหน้าทำให้กำลังใจทั้งหลายและจะหมดไปซะทุกครั้งที่มอง

                     มองตรงไปตึกที่เป็นจุดหมายอยู่เบื้องหน้าแล้ว พ้นไฟแดงนี้ได้เมื่อไหร่เขาก็จะได้เข้าประชุมเสียที น่าแปลกที่คราวนี้นอกจากความรู้สึกรับผิดชอบที่กระตุ้นให้เขารีบแล้ว อะไรบางอย่างในตัวกำลังร้องบอกให้เขาเร่งมือ  บางสิ่งที่ขาดหายพลัดพรากจากกันมานานแสนนานจะถึงเวลามาบรรจบกันอีกครา แต่ชายหนุ่มก็ไม่อาจบอกว่าสิ่งนั้นคืออะไร  โดยไม่รู้ตัวชายหนุ่มเอื้อมมือไปคลำที่คอ วันนี้เขาไม่ได้ใส่สร้อยใบไม้มา แต่หากไม่ลืมสร้อยแหวนดอกหญ้าที่เด็กตัวน้อยคนหนึ่งให้เขาไว้ ก่อนที่โชคชะตาจะพาพวกเขาแยกจากกัน



                    การประชุมเสร็จสิ้นลงตามเวลาที่กะไว้ วริตฐาเดินไปคุยกับปรารถนาที่กำลังเก็บกระเป๋าอยู่อย่างเป็นมิตร

                    “ ไม่คิดว่าโลกจะกลมแบบนี้นะคะพี่  เราเพิ่งเจอกันเมื่อวานแท้ ๆ ”

                    “ ค่ะ คิดไม่ถึงเหมือนกัน ต้องขอโทษด้วยนะคะที่ศิลปินของพี่มาเข้าประชุมไม่ทัน พอดีเค้าติดธุระด่วน  ตอนนี้ก็กำลังรีบมาน่ะค่ะ พี่คงหาที่นั่งรอเค้าก่อน  เอ่อคุณวริตฐาใช่มั้ยคะ ” หญิงสาวสวมแว่นเอ่ยอย่างไม่แน่ใจว่าเรียกชื่อฝั่งตรงข้ามถูกหรือเปล่า

                   “ ไม่เป็นไรค่ะ คราวหน้าคงได้พบกัน เรียกว่าฝ้ายก็ได้ค่ะพี่  ...ถ้าจะรอ  ชั้นล่างของตึกนี้มีร้านเบเกอรี่เล็ก ๆอยู่ร้านนึงค่ะ น่าจะนั่งรอสะดวก  พอดีฝ้ายจะลงไปซื้อขนมให้เพื่อนด้วย ถ้ายังไงลงไปด้วยกันเลยก็ได้นะคะ ” หญิงสาวเอ่ยชวนจริงใจ ยิ้มใสซื่อชวนมองทำให้ดวงหน้าขาวดูสดใส

                   “ ค่ะ งั้นรบกวนด้วยนะคะ ” ตอบแล้วปรารถนาก็หันไปลาผู้ร่วมงานอีกคนที่ต้องไปทำธุระที่บริษัทก่อนจะเดินตามวริตฐาไปลงลิฟท์

    ทั้งสองพูดคุยกันอีกพอสมควรระหว่างลงมาจากชั้นบน ความที่วริตฐาเข้ากับคนง่ายทำให้คนเงียบ ๆที่มีเพื่อนไม่มากนักอย่างปรารถนาเริ่มถูกคอ จึงลิฟท์พาคนทั้งคู่มาจนถึงชั้นล่างของอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ หญิงสาวผมยาวเดินนำแขกไปที่ร้านเบเกอรี่ร้านเล็ก ๆที่คนในตึกมักจะแวะมาหาขนม ของว่างขึ้นไปกินเล่นกันบนออฟิศ หรือใช้เป็นที่นั่งรอเป็นประจำ เช่นเดียวกันสำหรับวริตฐาถึงแม้ขนมจากร้านนี้จะไม่ถูกใจเธอเท่ากับร้านประจำ แต่ก็ยังพอจะแก้ขัดไปได้บ้าง พอเธอพาปรารถนาไปเลือกขนมหาที่นั่งได้แล้ว โทรศัพท์ติตามตัวของผู้จดัการส่วนตัวสาวก็ดังขึ้น วริตฐาจึงเดินเลี่ยงไปเลือกซื้อคุ้กกี้ห่อกลางกะเอาขึ้นไปฝากกุลวรินทร์ที่ชั้นบน

                   เอ่ยลาจากลูกค้าเสร็จวริตฐาก็ตรงไปทางประตูร้าน  ขณะเดียวกันกับที่ชายหนุ่มคนหนึ่งท่าทางรีบร้อนเปิดประตูเข้ามาแทบจะชนกับเธอ  หญิงสาวร่างบางเอียงหลบวูบ หากหางตาของเธอเหลือบไปเห็นของบางอย่างเข้า ประตูที่เปิดอ้าอยู่ของร้านได้หอบเอาลมเย็น ๆสายหนึ่งเข้ามาพัดผมที่ระหน้าเธอออก ก่อนที่หญิงสาวจะหันหน้าตามไปยังเสียงเอ่ยขอโทษ

                   รติพัทธ์ แทบจะชนเอาหญิงสาวที่ก้าวไปที่ประตู เขาเห็นจังหวะที่ร่างน้อยเอี้ยวหลบ พลางรีบหันไปขอโทษ อะไรบางอย่างในสายตาของหญิงสาวตรงหน้าชวนให้เขารู้สึกแปลก ๆ

                   “ ขอโทษครับ  ผมไม่ทันสังเกต ”

                    ดวงหน้าของวริตฐามีสีชมพูเรื่อขึ้น สายตาเธอจับจ้องไปยังแหวนดอกหญ้าเล็ก ๆตรงอกของชายหนุ่ม ก่อนจะมองขึ้นไปยังใบหน้าและเรือนผม  เค้าบางอย่างบนใบหน้านั้นกระตุกความรู้สึกของหญิงสาวขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว

                    รติพัทธ์รู้สึกราวกับเวลาหยุดลงอีกครั้งเหมือนจังหวะเดียวกับเย็นเมื่อวาน ความรู้สึกถึงสิ่งที่โหยหามานานกลับมาสู่มือ  หญิงสาวตรงหน้าเป็นใคร ทำไมเขาถึงรู้สึกคุ้นเคยนัก ชายหนุ่มอดแปลกใจไม่ได้ บางอย่างในแววตาคู่นั้นทำให้ปากบางหลุดคำพูดออกไปโดยไม่รู้ตัว

                    “ ปุยฝ้าย ”.







    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×