อากาศยามเช้าวันเสาร์นี้ไม่ร้อนนัก มีเพียงแสงแดดอ่อนๆที่ทอลอดผ่านปุยเมฆสีขาวบริสุทธิ์มาต้องพื้นถนน  กับลมเอื่อยๆที่มาจากฟากฟ้า  พัดเอากิ่งไม้ใบหญ้าริมทางไหวตามลมเบาๆ
                ถนนที่อาบไล้ด้วยแสงอบอุ่นปูทางให้รถมากมายหลากสีสันเคลื่อนผ่านไปอย่างช้าๆ  จนสัญญาณจราจรสีแดงมาหยุดการเคลื่อนไหวของรถลง  รถเต่าสีครีมคันเก่าค่อยๆชะลอลงด้วยการบังคับของหญิงสาว...ลมฟ้า...เจ้าของรถร่างเล็กบาง  ผมยาวสีดำสนิทถูกรวบเป็นหางม้าด้านหลังหลวมๆ  เข้ากับใบหน้าเรียวขาวเนียนอมชมพูโดยธรรมชาติ  เสื้อยืดสีขาวกับกางเกงยีนส์ดูโดยรวมแล้วเหมือนเด็กสาวรุ่นเสียมากกว่าจะเป็นหญิงสาวที่มีหน้าที่การงานแล้ว
    ร่างบางฮัมเพลงเบาๆ  เคาะนิ้วกับพวงมาลัยรถ  ริมฝีปากสีชมพูแต้มด้วยรอยยิ้มอย่างอารมณ์ดี
    ...ชูวับ...ชูวับ...ชูวับ...ชูวับ...โว้...โว..โว...........  เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์เพลงรุ่นคุณแม่ยังสาวที่ถูกนำมาร้องใหม่ขัดจังหวะการฮัมเพลงของเธอ
    “ ติ๊ด...ฮัลโหล ”  หญิงสาวรับโทรศัพท์
    “ ผมนัดคุณ  9  โมงนะครับ  ช่วยมาให้ตรงเวลาด้วย  แค่นี้ล่ะ.....ตึ๊ด ”  เสียงเข้มดังมาตามสายวางลงโดยที่หญิงสาวยังไม่ทันได้พูดอะไร
               
เฮ้ย!!! โทรมาแค่เนี้ย  เห็นฉันเป็นคนเหลวไหลขนาดนั้นเลยเหรอไง  คุณบอสจอมดุ  แค่เคยไปประชุมสายสี่ห้าครั้ง  แล้วก็แค่มาทำงานที่บริษัทสาย.........เกือบทุกวัน....อืม...  ถือว่าไม่นับแล้วกันอันนี้....
              เธอได้แต่คิดอยู่ในใจ
            “ วันนี้วันเกิดฉันแท้ๆ  จะมาให้ทำงานอะไรกันนะ ”  ลมฟ้าบ่นกับตัวเองนึกสงสัยว่างานอะไรกันต้องนัดมาทำที่สวนสนุก  จะมาประชุมสัมมนากับลูกค้า  ปกติก็นัดกันตามร้านอาหาร  หรือไม่ก็โรงแรม  แถมวันนี้ยังให้เธอแต่งตัวมาสบายๆไม่ต้องใส่เครื่องแบบเป็นทางการอีกเสียนี่
    หล่อนไพล่คิดไปถึงหน้าดุๆของเขาที่ไม่เข้ากับคำว่า  ‘สวนสนุก’  เอาเสียเลย  เสียงเข้มๆที่คอยดุเธออยู่บ่อยๆก็ชวนให้นึกถึงภาพตนถูกเจ้านายดุจนร้องไห้  ท่ามกลางเสียงหัวเราะของเด็กๆบนเครื่องเล่น
               
...โดนดุจนร้องไห้ในสวนสนุก  หึๆ  สยองงงงง...
    คิดแล้วทำหน้าเหยเก  ย้อนไปเห็นภาพครั้งที่เธอเข้ามาทำงานแรกๆ  และครั้งแรกที่เธอต้องเสียน้ำตาให้กับเขา
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    หญิงสาวถูกแนะนำโดยพี่ชายของเธอ  ‘พายุ’  เพื่อนสนิทของประธานบริษัทที่เธอจะมาสมัครงาน  เขาแนะนำตัวเองว่าชื่อ  ‘อิส  อิสระ  พงศ์พัฒนพันธุ์’  ร่างสูงใหญ่ทำเอาเธอที่ตัวเล็กอยู่แล้ว  เล็กลงไปอีกเหมือนเด็ก  5  ขวบ  ใบหน้าคมกับสายตาดุมองหล่อนอย่างพิจารณา  มือหนายื่นมาตรงหน้าเพื่อทักทาย  ด้วยคงจะเคยกับวัฒนธรรมตะวันตกเพราะหน้าที่การงาน  แต่เธอยกมือไว้เขาแทน  เขาจึงชะงักไปนิดหนึ่งก่อนยกมือรับไหว้อย่างไม่ชินนัก
                ลมฟ้ายอมรับว่าอิสระมีเสน่ห์อย่างร้ายกาจ  ดวงหน้ากับสายตาคมๆที่บาดใจสาวๆได้อย่างไม่ยากเย็น  แต่เธอก็ไม่อยากยอมรับสักเท่าไหร่ว่าบาดใจเธอเช่นกัน 
   
เขาก็แค่หล่อดี  ไม่ได้คิดอะไรมากกว่านั้นหรอกน่า
    ถึงแม้จะคิดเช่นนั้น  ลมฟ้ากลับมีอาการแปลกๆอยู่เสมอ  หน้าแดงบ้าง  พูดตะกุกตะกักเวลาอยู่ต่อหน้าเขาบ้าง  หนำซ้ำยังทำงานผิดพลาดอยู่บ่อยๆ  ทั้งที่เธอก็มืออาชีพพอสมควรในการทำงาน  หญิงสาวพยายามอ้างเหตุผลมากมายมาแก้อาการแปลกๆกับหัวใจตัวเอง  ว่าเธอคงไม่สบาย  และไม่สบายมากขึ้นเรื่อยๆเสียด้วย  เมื่อเขาชอบโผล่ไปให้เธอเห็นหน้านอกเวลาทำงานอยู่เสมอเพราะสนิทสนมกับพี่ชาย 
      อิสระเคยทำเธอร้องไห้มาครั้งหนึ่งที่ถูกเขาดุเพราะทำงานผิดพลาด  เธอไม่ได้โกรธเขาแต่รู้สึกเจ็บใจตัวเองที่ทำอย่างที่เขาต้องการไม่ได้  ชายหนุ่มยื่นผ้าเช็ดหน้าสีน้ำเงินเข้มมาตรงหน้าหล่อน  กลิ่นน้ำหอมผู้ชายอ่อนๆแตะจมูก  เธอเงยหน้าขึ้นสบตากับเขา  สายตาที่อ่อนโยนต่างไปจากเดิม  แต่ก็เพียงชั่วครู่เท่านั้น  นัยน์ตาดุก็กลับมาดังเดิม  เขาสลัดผ้าเช็ดหน้าที่พับเรียบร้อยนั้นออก  แล้วเช็ดหน้าให้เหมือนหล่อนเป็นเด็กสามขวบ  หล่อนเลยแกล้งดึงผ้าเช็ดหน้ามาสั่งน้ำมูกใส่เสียเลย
                ความอ่อนโยนเพียงครั้งเดียวเท่านั้นที่หล่อนได้รับ  มันทำให้หล่อนต้องยอมรับหัวใจตัวเองว่าชอบเขา  ไม่ได้เป็นไข้อะไรอย่างที่คิด  แต่หล่อนก็ไม่เคยแสดงอาการอะไรให้เขารู้  แสดงแต่อาการที่ตรงข้ามกับหัวใจไปให้เขาเห็นเท่านั้น   
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
          หญิงสาวร่างเล็กบางวิ่งกระหืดกระหอบมาตามทางที่ปูด้วยอิฐหลากสี  แสงแดดที่เริ่มสาดแสงร้อนแรง แผดเผาต้นไม้ข้างทางเป็นสีเหลืองกระจ่าง  เหงื่อเม็ดเล็กๆผุดขึ้นบนดวงหน้าใสของหญิงสาว
    “ถ..ถึง  พอดี  9 โมงแป๊ะ  บอสไม่มีทางดุฉันได้แน่ๆ”
    ลมฟ้าเดินเข้าไปนั่งหลบแดดใต้ต้นไม้ใหญ่  ที่มีม้านั่งล้อมรอบ  ริมฝีปากชมพูแต้มยิ้มบางๆรอคอยคนที่ยังมาไม่ถึง
    ...ครึ่งชั่วโมงผ่านไป....ก็ยังไม่มีแม้แต่เงาของเขา...บอส  อิสระ....
   
นี่มันตั้งครึ่งชั่วโมงแล้วนะ  ไหนบอกให้ฉันตรงเวลา  แต่คุณกลับสายเสียเอง  คอยดูเถ้อออ  ถ้าคุณมาเมื่อไหร่  ฉันจะดุคุณอย่างที่คุณเคยทำกับฉันเลย
   
                ลมฟ้านั่งรอ  ยืนรอ  เดินไปเดินมารอ  จนเวลาล่วงเลยไปถึงสิบโมง
    “นี่มันสิบโมงแล้วนะ”  ร่างบางอุทานออกมาด้วยอารมณ์กรุ่น
   
ปล่อยให้ฉันรอตั้งชั่วโมงหนึ่ง  ให้ตายเถอะ  คิดจะหลอกกันงั้นสิ  หลอกให้ฉันมารอเก้อ  แก้แค้นที่ฉันเคยมาสาย
              หล่อนคิด  ขอบตาร้อนผ่าว  ทั้งโกรธ  ทั้งน้อยใจ 
   
เฮอะ  แล้วคิดว่าฉันจะรอรึไง....
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------   
    สายลมเบาๆพัดพาความเย็นสบายให้ผู้คน  ดวงอาทิตย์ที่ถูกบดบังด้วยก้อนเมฆเห็นเพียงแสงสีทองจางๆ  ลมฟ้าอยู่บนกระเช้าลอยฟ้าของสวนสนุก  ดวงตาทอดไปยังทัศนียภาพเบื้องล่าง  แต่สิ่งที่เธอเห็นกลับเป็นภาพของเขา  ‘บอส  อิสระ’
                ทั้งๆที่เธอพยายามปัดภาพนั้นออกไป  เล่นเครื่องเล่นทุกอย่างเพื่อที่จะลืมเขา    สวนสนุกที่ทำให้เธอมีความสุขทุกครั้ง  วันนี้กลับทำให้เธอเศร้าได้อย่างน่าประหลาด 
             
เพราะคุณแท้ๆ 
              ลมฟ้าโทษคนในความคิด  ไม่เคยนึกเลยว่า  คนเพียงคนเดียวจะทำให้เธอคิดมากมายถึงเพียงนี้
              ร่างบางเดินพาจิตใจที่แห้งแล้ง  มาถึงเครื่องเล่นสุดท้าย  ‘รถไฟตะลุยอวกาศ’  หญิงสาวยิ้มบางๆนึกถึงความทรงจำเก่าๆ  จำได้ว่าเธอเคยมาเล่นเครื่องเล่นนี้เป็นครั้งแรกสมัยเด็กๆกับพ่อแม่และพี่ชาย  เธอร้องไห้จะไม่เล่นเจ้ารถไฟเหาะในที่มืดๆเช่นนี้  แต่ก็ถูกพายุบังคับขึ้นเสียจนได้  แล้วหลังจากนั้นก็ร้องไห้อีกรอบ  ด้วยติดใจอยากจะเล่นอีก  จนไม่ยอมกลับบ้าน
             
วันนั้นเป็นวันเกิด.....วันนี้ก็วันเกิดฉัน
              ลมฟ้าลืมนึกไปเสียว่าวันนี้เป็นวันเกิดของเธอ  หลังจากที่โมโหที่  ‘เขา’  ไม่มา 
              ลมฟ้าเดินเข้าไปในเครื่องเล่นที่จำลองคล้ายกับเป็นห้องควบคุมยานอวกาศ  ผนังสีเงิน  ทางเดินที่มืดมิดและเงียบจนได้ยินเสียงรองเท้ากระทบพื้น  ความเงียบทำให้หล่อนเหงา  แต่ก็นึกเอะใจไปพร้อมๆกันว่าเหตุใดจึงไร้ผู้คน
              หรือว่าจะปิดซ่อมแซม  แต่ด้านหน้าก็ไม่ได้เขียนไว้นี่
              ตึก.....เสียงฝีท้าวของใครอีกคนก้าวตามหล่อนมาด้านหลัง  ลมฟ้าหยุดชะงัก  นึกกลัวขึ้นมาจับใจ  แต่แล้ว....ก็มีเสียงร้องเพลงอย่างที่เธอไม่คาดคิด
              แฮปปี้เบิธเดย์ทูยู...........แฮปปี้เบิธเดย์ทูยู
..
              เสียงร้องเพลงประสานกันของหลายๆคนตามมาหลังจากเสียงฝีเท้าคู่นั้น  หล่อนหันกลับไปดู 
            “บอส!!”
            คนมาสายยืนยิ้มอยู่ตรงนั้น  ด้านหลังของเขามีพี่ๆในบริษัทที่เธอรู้จักหลายคนยืนร้องเพลงอวยพรเธออยู่
            “ครับ  เซอร์ไพรส์มั้ย”
            “ซ....เซอไพรส์เหรอ”  หญิงสาวถามกลับสู้เสียงเพลงวันเกิด
            “ใช่ซี่  แกต้องเซอร์ไพรส์อยู่แล้วล่ะ”
            “พี่ยุ”  หล่อนร้องด้วยความประหลาดใจที่  พายุ  พี่ชายของหล่อนก็อยู่ที่นี่ด้วย
            “นี่มันอะไรพี่ยุ”  หญิงสาวถามพี่ชาย
            อิสระตอบแทนพี่ชายของเธอ
            “เซอร์ไพรส์ไงคุณ  ไม่รู้จักเหรอ  วันเกิดคุณทั้งทีก็อยากให้คุณเซอร์ไพรส์”
            “หมายความว่า... ที่คุณบอกให้ฉันมา  ให้ฉันรอ  ก็เป็นแผนเซอร์ไพรส์ของคุณงั้นสิ”  หล่อนดีใจที่ทุกคนอยากให้เธอเซอร์ไพรส์ในวันเกิด  แต่พอไปนึกดูที่เขาทำให้เธอรอเก้อ  มันก็คนละเรื่องกัน
            “เปล่านะครับ  ผมไม่ได้ตั้งใจให้คุณรอ
”
            “ใช้แผนเซอร์ไพรส์ให้เป็นประโยชน์  แก้แค้นที่ฉันเคยมาสายงั้นสิ  คุณ....ไม่เห็นต้องทำขนาดนี้เลย”
            ลมฟ้ากล่าวหาเขาด้วยความน้อยใจ 
            อิสระมองเธอโดยไม่พูดอะไร  ได้แต่ยิ้มและส่งสายตาแปลกๆมาให้อย่างที่หล่อนคาดเดาอารมณ์ไม่ถูก
            “นี่...ไอ้ลม  อิสเค้าเซอร์ไพรส์แกขนาดนี้แล้วยังไปว่าเขาอีกเหรอวะ  ห๊ะ”
            “ลม  เปล่าว่าซะหน่อย... ก็แค่...”
            “เอาเถอะครับ  ผมขอโทษแล้วกัน”
           
ขอโทษแล้วได้อะไร
            หล่อนนึกไปถึงคำพูดที่เขาเคยว่าเธอตอนเธอมาสาย  จะมาเข้าใจความรู้สึกของเขาเวลาเธอมาสายก็ตอนนี้
            ลมฟ้าจึงตอบกลับไปด้วยอาการสำนึกผิด
          “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ  ฉันต่างหากต้องขอโทษคุณที่เคยมาสายบ่อยๆ” 
          “นี่....อย่าพูดกันเรื่องมาสายเลยน่า  ร้องเพลงจบแล้วก็เป่าเค้กสิไอ้น้องรัก” พายุเอ่ยขัดจังหวะทั้งคู่เมื่อเพลงจบลง
          “หา  มีเค้กด้วยเหรอ”  น้องสาวพายุเอ่ยงงๆ
          “มีซี่  วันเกิดน้องสาวทั้งคน  มีร้องเพลงเซอร์ไพรส์แล้ว  จะไม่มีเค้กได้ยังไง”
          เค้กก้อนใหญ่ปักเทียนส่องสว่างไสวไปรอบๆ  เขียนคำว่า  ‘สุขสันต์วันเกิด  ลมฟ้า’  ถูกยื่นมาตรงหน้าจากตัวแทนคนหนึ่งในกลุ่มนักร้องเพลงวันเกิดของบริษัท  ทำเอาลมฟ้ายิ้มแก้มแทบปริ 
          “เป่าเลย”  เสียงร้องมาจากคนในกลุ่มเดิมอีกเช่นกัน
ลมฟ้ายิ้ม  เป่าเทียนจนหมด  พร้อมกับเสียงปรบมือ  และแข่งกันตะโกนอวยพรของพี่ๆที่เธอรู้จัก หญิงสาวกลั้นน้ำตาแห่งความปลื้มปิติเอาไว้แทบจะไม่อยู่  แต่ซึ้งอยู่ได้ไม่นานนัก  ก็มีมือแข็งแรงของใครคนหนึ่งดึงข้อมือเธอไปทางเครื่องเล่น
          “บอส  จะทำอะไรคะ”
          “ก็เล่นรถไฟเหาะไงคุณ  คุณชอบไม่ใช่เหรอ”  อิสระทำตาวิบวับ  ทั้งยังยิ้มทั้งปากทั้งตา  ดูแล้วมีเสน่ห์ยิ่งกว่าตอนทำหน้าปกติขึ้นไปอีกหลายเท่า  ทำเอาหล่อนรู้สึกคันๆที่หัวใจอย่างบอกไม่ถูก
          อิสระจัดการพาร่างบางลงมานั่งคู่กับเขาเรียบร้อย  พร้อมกับลอคเซฟตี้ให้เสร็จสรรพ  และคนอื่นๆก็จับคู่นั่งเตรียมพร้อมกันอยู่ด้านหลัง
        “ค..ใครบอกคุณว่าฉันชอบรถไฟเหาะ”  ลมฟ้าทำเป็นถามเขา  กลบเกลื่อนอาการเขินที่เขายังจับข้อมือหล่อนไว้ไม่ปล่อย 
          “หรือคุณไม่ชอบ”
          “ก็...เปล่านี่”
        “งั้นก็ดีแล้วล่ะครับ”
          “แต่ฉันว่าไม่ดีแน่”  หล่อนหันไปมองร่างสูงที่ดูแปลกไปอีกแบบเมื่อต้องมานั่งอยู่บนรถไฟเหาะ  คนตัวโตๆอย่างเขา  ไม่เข้ากับรถไฟเหาะเอาเสียเลย  จนหล่อนต้องพยายามกลั้นหัวเราะ
          “บอสดูแปลกๆนะ  ไม่สบายรึเปล่าคะ”
          “ผมแปลกเหรอ  แปลกยังไงล่ะ”  บอสอิสระยิ้ม
         
ยิ้มอีกแล้ว  เป็นอะไรของคุณเนี่ย  แล้วนี่อะไรชวนฉันเล่นรถไฟเหาะ  ติงต๊องรึเปล่านะ  คนอย่างคุณไม่น่าจะมาเล่นอะไรเด็กๆอย่างนี้  ตัวก็ออกโต  เป็นถึงประธานบริษัท  .....ถึงแม้ฉันจะโตแต่ยังชอบเล่นเหมือนกันก็เถอะ  แต่คุณมันไม่ใช่
หล่อนคิดในใจยาวเหยียดแต่ไม่พูดอะไรออกมาสักคำ
          “ว่าไงครับ  ผมแปลกยังไง”
          “บอสยิ้ม”
          “ครับ  ผมยิ้ม  แปลกเหรอครับที่ผมยิ้มน่ะ”
          “ค่ะ”
          “ก็ผมมีความสุขนี่  อืม....ที่....”
          “คะ  ที่....”  สาวทวนคำ
          “ที่....ได้เล่นรถไฟเหาะไงครับ”
          “บอส....โธ่  บ้ารึเปล่า  ชอบขนาดนั้นก็บอกมาสิคะ  ไม่ต้องอ้างหรอกว่าอยากเซอร์ไพรส์ฉันน่ะ”  หญิงสาวบ่น  ส่งค้อนให้เค้าทีหนึ่ง  แล้วทำหน้างอ
        “ฮะๆ  ผมล้อเล่นน่ะ  จริงแล้วผมมีความสุขเพราะคุณมีความสุขต่างหาก”
        พอเขาพูดออกมาอย่างนี้  หน้าที่งอเป็นม้าหมากรุกก็เธอก็คลายออก  กลายเป็นสีหน้าประหลาดใจ  พร้อมๆกับใบหน้าขาวที่ค่อยๆซับสีเรื่อขึ้น
           
แล้ว....แล้ว  ทำไมคุณถึงมีความสุขเพราะฉันมีความสุขด้วยเล่า  โอ๊ย  แล้วนี่ฉันจะหน้าแดงไปทำไมกัน  เขาพูดแค่นี้
ชายหนุ่มมองหน้าด้านข้างของหญิงสาวที่ก้มหน้าก้มตาไม่ยอมมองหน้าเขา  แล้วอดยิ้มไม่ได้
            “คุณรู้อะไรมั้ย....”
            “ร...รถไฟจะออกแล้ว”  หญิงสาวเสเปลี่ยนเรื่องเพื่อระงับใบหน้าที่ค่อยๆแดงขึ้นเรื่อยๆ
            “ผมมีแผนเซอร์ไพรส์คุณอีกนะ”
          “จะเซอร์ไพรส์แล้วจะบอกทำไมล่ะคะ  แหะๆ”  หญิงสาวพูดก้มหน้าก้มตา  พร้อมกับหัวเราะแห้งๆ 
            “อยากรู้มั้ย”
           
โอ๊ย  จะบอกก็บอกสิจะมาชวนคุยทำไมกันเล่า
            เสียงเครื่องยนต์เริ่มจะออกดังขึ้น
            “ไม่ๆ ไม่อยาก”
            “เหรอครับ  ว้า  แต่ผมอยากบอกคุณจังว่าผมวางแผนจะเซอร์ไพรส์คุณโดยการบอกรักคุณบนรถไฟเหาะน่ะ”
            “ก็แค่นั้นล่ะค่ะ  บอกมาก็สิ้นเรื่อ.......ห๊ะ”
            หญิงสาวอึกอักไม่ทันจะพูดจบ  หันหน้าไปมองคนข้างกายด้วยใบหน้าที่เหมือนภูเขาไฟกำลังจะระเบิด  ใบหน้าแดงๆจากความเขิน  ที่ชายหนุ่มไม่มีโอกาสได้เห็นเพราะความมืด  แต่ก็สามารถรับรู้ได้  หากลมฟ้าคงไม่รู้ว่าอิสระก็เขินไม่แพ้กันที่จะต้องมาบอกเธอแบบนี้  ชายหนุ่มซ่อนอาการไว้ภายใต้ใบหน้านิ่ง  มีแต่ดวงตาเท่านั้นที่สื่อความรู้สึก
              รถไฟออกตัว  หญิงสาวหันกลับมามองข้างหน้า  แต่ภาพทางรถไฟยาวเหยียดตรงหน้าไม่ได้อยู่ในความคิดของเธอเลยแม้แต่น้อย
ฉันฝันไปรึเปล่าน่ะ  เขาบอกรักฉัน 
              ลมฟ้ายิ้มดีใจสุดชีวิต  หลับตาแน่น  วันนี้เป็นวันเกิดที่เธอมีความสุขที่สุด  ประทับใจ  ตื้นตันใจ  ทุกสิ่งทุกอย่างที่พี่ชายของเธอ  พี่ๆที่บริษัท  และเขา  บอสอิสระทำให้  เธอคงจะไม่มีวันลืมไปชั่วชีวิต
            เสียงร้องกรี๊ดกร๊าดของสาวๆด้านหลังดังระงมด้วยความหวาดเสียว  แล้วก็ถึงตาเธอบ้างแล้วที่จะร้อง  ไม่ใช่เพราะหวาดเสียวอะไรหรอกเครื่องเล่นแค่นี้  แต่เธออยากจะระบายความสุขใจ  ในแบบที่ไม่สามารถบรรยายเป็นคำพูด
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
            ชายหนุ่มและหญิงสาวเดินเคียงคู่กันออกมาจากเครื่องเล่น  ลมฟ้าไม่ทันสังเกตว่าพี่ชายตัวแสบกับพี่ๆในบริษัทหายหน้ากันไปหมดแล้ว  ทิ้งไว้ให้เธอกับบอสอยู่กันตามลำพังอย่างเงียบๆ
            “บอสคิดยังไงถึงมาสวนสนุกคะ”  หล่อนเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นก่อนทำลายความเงียบ
            “ก็คุณชอบ”
            “บอสรู้ได้ยังไง?”  หญิงสาวถามกลับด้วยสีหน้าสงสัย  อิสระมองหล่อนด้วยสายตาเอ็นดู
            “พี่ชายคุณน่ะ”
            “ขายน้องสาวนี่”  ลมฟ้าร้องขึ้นมานึกถึงพี่ชาย  หันซ้ายแลขวามองหาคนขายน้องแต่ก็ไม่พบ  รวมถึงอีกหลายคนด้วย
            “หายไปไหนกันหมด  นี่บอสคะ  มีอะไรจะแกล้งกันอีกหรือไง”
            “เปล่านะครับ  พวกเขาก็แค่ไม่อยากเป็นก้างขวางคอคู่รักใหม่”
            “คู่รัก ?  ใครคู่รักคะ”
            “ผมกับคุณไง”
            “ใครบอกกัน”  หญิงสาวเฉไฉ  แต่ดวงหน้าใสเริ่มซับสีเรื่ออีกระลอก
           
คู่รัก  พูดออกมาได้ยังไง  ฉันยังไม่ได้บอกอะไรคุณสักหน่อย 
            “หรือคุณไม่ได้รักผม”
            “ก็.........ก็..........”  ลมฟ้าหน้าแดงขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่  พอชายหนุ่มถามเข้าอย่างนี้  หญิงสาวก็ปฏิเสธไม่ลง  เพราะที่เขาพูดมาเป็นความจริง  แต่เป็นความจริงที่หล่อนไม่อยากจะยอมรับกับคนตัวโตๆตรงหน้านัก
              อิสระมองลูกน้องสาวที่ส่งค้อนปะหลับปะเหลือกมาให้อยู่นานสองนาน  ดวงหน้าใสเห็นชัดว่าเลือดฝาดขึ้นมาจางๆ  เขาส่งยิ้มให้หล่อน  ผู้หญิงตัวเล็กๆที่ทำเขาสะดุดใจตั้งแต่วันแรกที่เจอ
              อาการสะดุดตาและใจตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ  ค่อยๆสร้างความห่วงใยที่อิสระมีให้ลมฟ้าอย่างที่เจ้าตัวไม่เข้าใจ  กระทั่งวันที่ทำเธอร้องไห้  ความรู้สึกที่ถาโถมเข้ามาอย่างที่ไม่เคยเป็น  เสียใจ อยากปลอบใจ  อยากแก้ตัว  ไม่อยากเห็นน้ำตา  หลากหลายความรู้สึกนั่นเองกลายเป็นคำตอบที่ว่า  เขา  รัก  เธอ
            เขาไม่เคยคิดเลยว่าจะต้องดุใครมากมายเพราะความเป็นห่วง  ไม่เคยคิดเลยว่าจะมีผู้หญิงคนไหนที่ทำให้เขารู้สึกดีทุกครั้งที่อยู่ใกล้  หรือจะมีใครสักคนที่จะทำให้เขายิ้ม  และมีความสุขอย่างเช่นวันนี้
             
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
   
                “ยืนอ้ำๆอึ้งๆกันอยู่ได้สองคนนี้”  พายุที่แอบดูอยู่ห่างๆบ่นพึมพำ  เห็นน้องสาวยืนมองลมมองฟ้า  ทำเป็นไม่สนใจคนข้างๆ  แล้วไหนจะเพื่อนเขาก็ได้แต่ยืนมองน้องสาวเขาไม่วางตา  เห็นแล้วน่าหมั่นไส้
    “เฮ้อ  โรแมนติกชะมัดเลยเนอะบอสเนี่ย  จะมีใครทำอย่างนี้ให้ฉันบ้างนะ”  หญิงสาวคนหนึ่งในกลุ่มที่แอบดูทั้งคู่อยู่เช่นกันเอ่ยออกมาอย่างเคลิบเคลิ้ม 
                พายุส่ายหน้า
    “โธ่  อย่างอิสมันจะโรแมนติกอะไรขนาดนี้ได้  ถ้าไม่ได้ตัวช่วยอย่างฉันน่ะ”
    “ตัวช่วย  อะไรเหรอ”  สาวๆหลายคนถามด้วยความสงสัย
    “ก็ตัวช่วยคิดแผนน่ะสิ  ฉันนี่ๆ  คิดให้มันทั้งหมดล่ะ”
    หลายคนในกลุ่มทำหน้าเข้าใจ 
    “ว่าแล้วเชียว  คนอย่างบอสน่ะเหรอจะทำอะไรโรแมนติกขนาดนั้น” 
    พายุยิ้ม  แน่นอนว่าเขาเป็นตัวการสำคัญที่ช่วยให้แผนดำเนินไปตามขั้นตอน  แต่ทุกอย่างคงก็ไม่สำเร็จถ้าไม่มีขั้นตอนของหัวใจของคนทั้งคู่  ขั้นตอนที่ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถมากำหนดได้  ขั้นตอนของความรัก  ที่พวกเขามีให้แก่กัน
....จบจ้า....
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น