จอมใจเจ้ารัตติกาล
เมื่อเธอถูกดึงเข้าสู่วังวนความขัดแย้งนับพันปีระหว่างสองเผ่าพันธุ์และจุดจบเป็นเพียงการเริ่มต้น ความผูกพันอันฝังรากลึกกับภาระหน้าที่อันยิ่งใหญ่...ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไปอีกแล้ว...
ผู้เข้าชมรวม
55,670
ผู้เข้าชมเดือนนี้
39
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
[ เริ่มต้นรัตติกาล ณ 6
JANUARY 2008 ]
เพื่อแลกกับการให้ภรรยามีชีวิตอยู่ โอเนล เครสเซ่นจำต้องให้สัญญาว่าจะมอบบุตรสาวให้แก่ผู้ช่วยชีวิตตามที่เขาร้องขอ หากแต่เหตุผลที่อยู่เบื้องหลังคืออะไร และเธอเกี่ยวข้องอย่างไรกับเผ่าพันธุ์ที่หายไปจากหน้าประวัติศาสตร์ ติดตามได้ใน…
จอมใจเจ้ารัตติกาล
ข้า…มีหน้าที่ต้องแบกรับ
ข้า…ไม่มีสิทธิทำตามใจปรารถนา
ข้า…ต้องทวงสิ่งเหล่านั้นกลับคืนมา
ข้า…
“คุณเดมานคะ หนูหิวแล้ว”
“…”
[เคยขึ้น Hilight นิยายของคอลัมน์นักเขียนกับเค้าด้วยน้า]
คอมเมนต์ติชมของผู้อ่านคือกำลังใจที่ดีที่สุดของผู้เขียนค่ะ ^^
ผลงานอื่นๆ ของ Pedela Thira ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Pedela Thira
"วิจารณ์ครับ อย่าโกรธกันนะ"
(แจ้งลบ)เรื่องนี้เป็นเรื่องน่าสนใจมาก แต่ความน่าสนใจมันลดลงเพราะการดำเนินเรื่องที่มีแต่น้ำ ดูเหมือนจะไม่เข้าประเด็นสักที บางตอนก็มีส่วนเกินมากเกินไป ให้ความรู้สึกน่าเบื่อหน่าย อืม... อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน แต่คนที่อ่านแล้วคงรู้ว่ามันรู้สึกยังไง ยังไงก็หวังว่าไรเตอร์จะตั้งใจแต่งต่อไปนะครับ เพราะพล็อตน่าสนใจมาก เป็นกำลังใจให้ครับ สู้ๆ อ่านเพิ่มเติม
เรื่องนี้เป็นเรื่องน่าสนใจมาก แต่ความน่าสนใจมันลดลงเพราะการดำเนินเรื่องที่มีแต่น้ำ ดูเหมือนจะไม่เข้าประเด็นสักที บางตอนก็มีส่วนเกินมากเกินไป ให้ความรู้สึกน่าเบื่อหน่าย อืม... อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน แต่คนที่อ่านแล้วคงรู้ว่ามันรู้สึกยังไง ยังไงก็หวังว่าไรเตอร์จะตั้งใจแต่งต่อไปนะครับ เพราะพล็อตน่าสนใจมาก เป็นกำลังใจให้ครับ สู้ๆ
นักอ่านสุดขี้เกียจ | 12 ธ.ค. 52
23
4
"บทวิจารณ์ จอมใจเจ้ารัตติกาล"
(แจ้งลบ)จากที่ได้อ่านนิยายแฟนตาซี เรื่อง จอมใจเจ้ารัตติกาล ที่แต่งโดยรินสเล็ตต์ ไปกว่า 40 ตอนแล้ว ก็ยังอยู่ในช่วงเกริ่นนำ หรือปูพื้นเรื่องเท่านั้น จึงคาดว่าเรื่องนี้ต้องเป็นนิยายขนาดยาว ถ้าพิมพ์เป็นเล่มก็คงหลายเล่มจบ เนื่องจากผู้แต่งวางโครงเรื่องไว้ใหญ่มาก มีทั้งโครงเรื่องหลัก คือ เรื่องราวความรักระหว่างเจ้ารัตติกาลกับดาเลเน่ เด็กหญิงชาวมนุษย์ที่ขณะน ... อ่านเพิ่มเติม
จากที่ได้อ่านนิยายแฟนตาซี เรื่อง จอมใจเจ้ารัตติกาล ที่แต่งโดยรินสเล็ตต์ ไปกว่า 40 ตอนแล้ว ก็ยังอยู่ในช่วงเกริ่นนำ หรือปูพื้นเรื่องเท่านั้น จึงคาดว่าเรื่องนี้ต้องเป็นนิยายขนาดยาว ถ้าพิมพ์เป็นเล่มก็คงหลายเล่มจบ เนื่องจากผู้แต่งวางโครงเรื่องไว้ใหญ่มาก มีทั้งโครงเรื่องหลัก คือ เรื่องราวความรักระหว่างเจ้ารัตติกาลกับดาเลเน่ เด็กหญิงชาวมนุษย์ที่ขณะนี้เพิ่งจะอายุ 6 ขวบ และการฟื้นคืนเผ่าพันธุ์รัตติกาลจากการล่มสลายเพราะเผ่าพันธุ์มนุษย์ ขณะเดียวกันก็มีโครงเรื่องย่อยๆ อีกเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องราวความลับของตัวละครหลายตัว เช่น เจ้ารัตติกาล บัลซัค (สัตว์พาหะที่ถูกขังอยู่ใต้ปราสาทเอวาซ) หรือ ซาเบียน (ผู้ทรยศแห่งเผ่าพันธุ์รัตติกาล) และความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครกลุ่มต่างๆ เช่น รักสามเส้าระหว่าง ศาสตราจารย์เอเดรียน แอคคลิฟ (ครูใหญ่) ศาสตราจารย์ซิซีเลีย เดรานี (รองครูใหญ่) และคุณหนูเตย่า ริวอัน (แฟนเก่าของศาสตราจารย์เอเดียนก่อนสูญเสียความทรงจำ) ความเกลียดชังระหว่างศาสตราจารย์อิริเกล เอสโทรา กับ ซาเบียน (น้องชายฝาแฝดของศาสตราจารย์ซิซีเลีย) และความสัมพันธ์ระหว่างเด็กใหม่กับเด็กใหม่ และเด็กใหม่กับรุ่นพี่ที่ดูแล ทั้งนี้คาดว่าโครงเรื่องย่อยๆ น่าจะมีเพิ่มขึ้นอีกเป็นจำนวนมากเช่นกัน นิยายเรื่องคล้ายคลึงกับนิยายแนวแฟนตาซีเรื่องอื่นๆ ในหลายประเด็น ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอเรื่องราวความขัดแย้งระหว่างมนุษย์กับเผ่าพันธุ์อื่น ในที่นี้คือเผ่ารัตติกาล จนนำมาซึ่งสงครามและการทำลายล้าง เรื่องกำหนดให้ตัวเอกอยู่กันคนละเผ่าพันธุ์และเป็นเผ่าพันธุ์ที่เป็นศัตรูกันด้วย คือ พระเอกเป็นราชาแห่งเผ่าพันธุ์รัตติกาล ในขณะที่ ดาเลเน่ เครสเซน นางเอกของเรื่อง เป็นมนุษย์ที่ต้องมาใช้ชีวิตร่วมกับเผ่ารัตติกาล โดยที่ตัวเองก็ไม่รู้เรื่อง นอกจากนี้ยังมีการผนวกเรื่องราวเกี่ยวกับโรงเรียนเวทมนตร์เข้าไปด้วย เพราะเรื่องกำหนดให้ ดาเลเน่ ต้องเข้ามาเรียนที่ปราสาทเอวาซ แห่งมหานครโอเซนไทน์ เพื่อความปลอดภัย ดังนั้นเรื่องราวส่วนใหญ่จึงดำเนินไปในโรงเรียนแห่งนี้ นับตั้งแต่การเปิดตัวอาจารย์ผู้สอน และนักเรียนรุ่นพี่ และรุ่นปัจจุบัน ซึ่งเป็นเด็กใหม่ที่เพิ่งเข้าเรียนในปีนี้พร้อมกับดาเลเน่อีกหลายคน และคงจะเป็นตัวละครสำคัญของเรื่องต่อไป เช่น หลิวหลงซิน (เด็กใหม่ลูกครึ่งชาวจีนกับเผ่าพันธุ์รัตติกาลที่สามารถได้ยินเสียงทูตรัตติกาลที่ถูกขังในเขตภวังค์ได้) หรือ เดมาน เครเดียส (เจ้ารัตติกาลที่ปลอมตัวเป็นเด็กใหม่ที่ได้รับหน้าที่ดูแลดาเลเน่) ในขณะนี้ผู้อ่านเริ่มทราบแล้วว่าโรงเรียนแห่งนี้แบ่งการเรียนการสอนเป็น 3 ระดับ คือ ระดับต้น ระดับกลาง และระดับสูง โดยแต่ละระดับจะใช้เวลาเรียนระดับละ 5 ปี ซึ่งนักเรียนที่เข้าใหม่แต่ละคนไม่จำเป็นต้องเริ่มเรียนที่ชั้นต้นระดับหนึ่ง แต่ก็จะเข้าเรียนในระดับใดนั้นขึ้นอยู่กับผลการทดสอบในตอนสอบเข้า แต่เนื่องจากยังอยู่ในช่วงต้นเรื่องจึงยังไม่ทราบถึงวิธีเรียนและสอนของโรงเรียนแห่งนี่ว่าจะต่างหรือเหมือนกับโรงเรียนเวทมนตร์ในนิยายแฟนตาซีเรื่องอื่นอย่างไร จึงเป็นเรื่องที่ต้องติดตามอ่านต่อไป แม้ว่านิยายเรื่องนี้ยังไม่สามารถฉีกโครงเรื่องให้ต่างนิยายแนวแฟนตาซีเรื่องอื่นๆ ดังที่กล่าวถึงข้างต้น แต่ก็มีการสร้างตัวละครบางตัวให้แตกต่างออกไป เช่น การสร้างเผ่าหมาป่าเวหา ซึ่งมีร่างทั้งเป็นหมาป่าและมนุษย์ ขณะที่เป็นหมาป่าจะมีขนสีขาวราวหิมะ ตาสีแดงเหมือนโลหิต มีปีก ซึ่งทำให้สามารถเดินทางได้อย่างรวดเร็วจนได้ชื่อว่าเป็นเผ่าพันธุ์ที่เร็วที่สุดในโลก เมื่อเป็นมนุษย์ก็ยังคงมีดวงตาสีแดงเหมือนโลหิตเช่นเดิม และผิวขาว นอกจากนี้ ผู้แต่งยังเลือกใช้กลวิธีการแต่งที่สร้างเรื่องให้น่าสนใจด้วยการเปิดปมปัญหา และความลับของตัวละคร เพื่อช่วยกระตุ้นให้ผู้อ่านสนใจ ใคร่รู้ และเฝ้าติดตาม ไม่ว่าจะเป็นความลับเรื่องอดีตของเจ้ารัตติกาล เหตุใดมนุษย์และเผ่าพันธุ์รัตติกาลที่เคยอยู่ร่วมกันอย่างสันติลุกขึ้นมาทำสงครามประหัตประหารกันเอง หรือ ดาเลเน่มีความสำคัญต่อเผ่าพันธุ์รัตติกาลอย่างไร ทว่าผู้แต่งใช้กลวิธีนี้บ่อยครั้งเกินไป จนอาจกล่าวได้ว่าใช้เพียงกลวิธีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องการเปิดตัวละครใหม่ๆ หรือเหตุการณ์ใหม่ๆ เกือบทุกครั้งก็จะพ่วงด้วยความลับเบื้องหลังที่ผู้แต่งไม่ยอมเปิดเผย จนบางครั้งผู้อ่านก็รู้สึกว่าเรื่องราวที่กำลังอ่านอยู่นี้รู้กันเองเฉพาะภายในกลุ่มตัวละคร แต่ผู้อ่านไม่มีส่วนรับรู้ด้วยเลย เช่น ความหมายของดอกรัตติกาล ก็เป็นที่รู้กันเฉพาะคนเผ่าพันธุ์รัตติกาลเท่านั้น เช่นเดียวกับความผูกพันระหว่างเรเอต กับดาเลเน่ จะมีผู้รู้ความลับนี้เพียงเจ้ารัตติกาล กับ เบียงโก้ หัวหน้าเผ่าหมาป่าเวหา ผู้อ่านจึงดูเสมือนถูกกันให้เป็นเพียงคนนอก ความรู้สึกนี้อาจส่งผลให้ผู้อ่านบางคนเลิกติดตามเรื่องก็เป็นได้ เพราะไม่ว่าจะตามอ่านมากเท่าไร ก็ไม่ได้รู้อะไรเพิ่มขึ้น แต่กลับพบว่ามีความลับเพิ่มมากขึ้น ในกรณีนี้ ผู้วิจารณ์เห็นว่าปมปัญหา หรือความลับของตัวละครที่ไม่ได้ส่งผลต่อแก่นเรื่องหรือโครงเรื่องโดยรวม (ว่าต้องปกปิดไว้แล้วเปิดเผยตอนสุดท้ายเพื่อสร้างความเข้มข้นให้กับเรื่อง) ก็น่าจะเปิดเผยออกมาบ้าง เช่น เหตุผลที่ซาเบียนทรยศเผ่าพันธุ์รัตติกาล ก็น่าจะเปิดเผยได้เพราะเป็นเรื่องราวในอดีตที่ผ่านไปแล้ว หรือเหตุผลที่ศาสตราจารย์ซิซีเลีย เดรานี ต้องนำบัลซัคมาซ่อนไว้ใต้ปราสาทเอวาซ ความผิดพลาดที่ทำให้เรเอตมีหน้าคล้ายผู้หญิง แต่ร่างกายเป็นผู้ชาย และความสำคัญของเรเอตต่อเผ่าพันธุ์หมาป่าเวหา หรือ เหตุการณ์อดีตเกี่ยวกับการที่มนุษย์ทำลายล้างเผ่าพันธุ์รัตติกาล ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นไปได้ว่า หากผู้แต่งยังใช้กลวิธีนี้เป็นหลักในการเขียนเรื่องต่อไป เรื่องราวจะเต็มไปด้วยความลับและปมปัญหาที่ไม่มีการคลี่คลาย จึงน่าเป็นห่วงแทนว่า ผู้แต่งจะใช้วิธีการใดมาคลี่คลายปมปัญหาและความลับที่สร้างไว้จำนวนมากนี้ได้ครบถ้วน ผู้วิจารณ์เห็นว่าการแบ่งตอนในนิยายเรื่องนี้ แม้ว่าแต่ละตอนจะมีชื่อกำกับไว้ และผู้แต่งก็สามารถที่จะนำเสนอเรื่องราวในแต่ละตอนให้สอดคล้องกับชื่อตอนได้เป็นอย่างดี แต่บางครั้งผู้แต่งก็ขึ้นตอนใหม่ทั้งๆที่เนื้อเรื่องหรือเหตุการณ์ที่ดำเนินอยู่ในตอนนั้นยังไม่จบ เช่น ตอนที่ 11 และตอนที่ 12 เช่นเดียวกันตอนที่ 23 และ 24 และตอนที่ 31 และ 32 เห็นว่าผู้แต่งน่าจะรวมตอนดังกล่าวเข้าด้วยกัน และเปลี่ยนชื่อตอนใหม่ให้ครอบคลุมเนื้อหาทั้งหมดน่าจะดีกว่า ความน่าสนใจอีกประการของเรื่องนี้คือ ผู้แต่งสามารถใช้ภาษาบรรยายและภาษาสนทนาได้อย่างลื่นไหล ช่วยให้ผู้อ่านสนุกไปกับเรื่องราวที่ผู้แต่งต้องการนำเสนอ ขณะเดียวกันก็สามารถสร้างจินตนาการถึงตัวละคร และฉากต่างๆ ที่ผู้แต่งบรรยายไว้ได้ไม่ยากนัก ส่วนคำผิดมีให้เห็นประปรายเท่านั้น เช่น สัญชาตญาณ เขียนเป็น สัญชาติญาณ คฤหาสน์ เขียนเป็น คฤหาสถ์ พ่อค้าวาณิช เขียนเป็น พ่อค้าวานิชย์ แป๊บ เขียนเป็น แปบ กิจจะลักษณะ เขียนเป็น กิจลักษณะ และ กะพริบตา เขียนเป็น กระพริบตา อย่างไรก็ดี ผู้วิจารณ์เห็นว่าด้วยความสามารถในการใช้ภาษาได้อย่างลื่นไหล และวางโครงเรื่องได้อย่างน่าสนใจ จึงนับว่า จอมใจเจ้ารัตติกาล เป็นนินายแฟนตาซีที่น่าติดตามเรื่องหนึ่ง --------------------------- อ่านน้อยลง
bluewhale | 15 ก.พ. 53
16
1
ดูทั้งหมด
"ข้อปรับปรุง"
(แจ้งลบ)ที่จริงเราก็เพิ่งจะมาอ่านนิยายของรินสเล็ตต์ ได้ไม่นานก็จริง แต่ก็อยากจะให้ปรับปรุงแก้ไขอีกหน่อย ถึงแม้ว่าไรเตอร์จะบอกว่าแก้ไปแล้วก็ตาม ซึ่งเรื่องที่ให้แก้อีกรอบก็คงเป็นเรื่องความยืดเยื้อของเนื้อเรื่องอีกเช่นเดิมนะคะ เนื่องจากยังมีส่วนของน้ำมากเกินไปจนทำให้ดูน่าเบื่อ โดยเฉพาะตรงส่วนของเหล่าอาจารย์ตอนเริ่มเรื่อง ซึ่งเราคิดว่า ถ้าตัดบทในส่วนที่มีความ ... อ่านเพิ่มเติม
ที่จริงเราก็เพิ่งจะมาอ่านนิยายของรินสเล็ตต์ ได้ไม่นานก็จริง แต่ก็อยากจะให้ปรับปรุงแก้ไขอีกหน่อย ถึงแม้ว่าไรเตอร์จะบอกว่าแก้ไปแล้วก็ตาม ซึ่งเรื่องที่ให้แก้อีกรอบก็คงเป็นเรื่องความยืดเยื้อของเนื้อเรื่องอีกเช่นเดิมนะคะ เนื่องจากยังมีส่วนของน้ำมากเกินไปจนทำให้ดูน่าเบื่อ โดยเฉพาะตรงส่วนของเหล่าอาจารย์ตอนเริ่มเรื่อง ซึ่งเราคิดว่า ถ้าตัดบทในส่วนที่มีความจำเป็นน้อยออกไปหน่อยก็ดี เรื่องจะได้ไม่ยืดเยื้อจนเกินไป แถมดูจากเนื้อเรื่องก่อนเปิดเทอมสองวันมันก็มากเกินไปด้วย อีกเรื่องก็คือบทของนางเอกตอนแรกที่เรียกได้ว่าแทบไม่มีเลย แต่มีบทของอาจารย์เข้ามามากเกินไป อย่างการพูดเล่นของอาจารย์ เป็นต้น สรุปว่าถ้าตัดน้ำออกได้ก็ตัดไป แต่ถ้ามันมีผลกับเนื้อเรื่องต่อไปค่อยว่ากัน เพราะดูแล้วยังต้องตัดตรงช่วงแรกอีกมาก จะทำให้เนื้อเรื่องน่าอ่านกว่านี้ ไม่น่าเบื่อ จนคนอ่านไม่ต้องมาถามหานางเอก(ดูจากเม้นท์ ช่วงแรกที่มีแต่คนถามหานางเอก) อ่านน้อยลง
Faderles_mild | 31 มี.ค. 53
3
0
"บทวิจารณ์ จอมใจเจ้ารัตติกาล"
(แจ้งลบ)จากที่ได้อ่านนิยายแฟนตาซี เรื่อง จอมใจเจ้ารัตติกาล ที่แต่งโดยรินสเล็ตต์ ไปกว่า 40 ตอนแล้ว ก็ยังอยู่ในช่วงเกริ่นนำ หรือปูพื้นเรื่องเท่านั้น จึงคาดว่าเรื่องนี้ต้องเป็นนิยายขนาดยาว ถ้าพิมพ์เป็นเล่มก็คงหลายเล่มจบ เนื่องจากผู้แต่งวางโครงเรื่องไว้ใหญ่มาก มีทั้งโครงเรื่องหลัก คือ เรื่องราวความรักระหว่างเจ้ารัตติกาลกับดาเลเน่ เด็กหญิงชาวมนุษย์ที่ขณะน ... อ่านเพิ่มเติม
จากที่ได้อ่านนิยายแฟนตาซี เรื่อง จอมใจเจ้ารัตติกาล ที่แต่งโดยรินสเล็ตต์ ไปกว่า 40 ตอนแล้ว ก็ยังอยู่ในช่วงเกริ่นนำ หรือปูพื้นเรื่องเท่านั้น จึงคาดว่าเรื่องนี้ต้องเป็นนิยายขนาดยาว ถ้าพิมพ์เป็นเล่มก็คงหลายเล่มจบ เนื่องจากผู้แต่งวางโครงเรื่องไว้ใหญ่มาก มีทั้งโครงเรื่องหลัก คือ เรื่องราวความรักระหว่างเจ้ารัตติกาลกับดาเลเน่ เด็กหญิงชาวมนุษย์ที่ขณะนี้เพิ่งจะอายุ 6 ขวบ และการฟื้นคืนเผ่าพันธุ์รัตติกาลจากการล่มสลายเพราะเผ่าพันธุ์มนุษย์ ขณะเดียวกันก็มีโครงเรื่องย่อยๆ อีกเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องราวความลับของตัวละครหลายตัว เช่น เจ้ารัตติกาล บัลซัค (สัตว์พาหะที่ถูกขังอยู่ใต้ปราสาทเอวาซ) หรือ ซาเบียน (ผู้ทรยศแห่งเผ่าพันธุ์รัตติกาล) และความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครกลุ่มต่างๆ เช่น รักสามเส้าระหว่าง ศาสตราจารย์เอเดรียน แอคคลิฟ (ครูใหญ่) ศาสตราจารย์ซิซีเลีย เดรานี (รองครูใหญ่) และคุณหนูเตย่า ริวอัน (แฟนเก่าของศาสตราจารย์เอเดียนก่อนสูญเสียความทรงจำ) ความเกลียดชังระหว่างศาสตราจารย์อิริเกล เอสโทรา กับ ซาเบียน (น้องชายฝาแฝดของศาสตราจารย์ซิซีเลีย) และความสัมพันธ์ระหว่างเด็กใหม่กับเด็กใหม่ และเด็กใหม่กับรุ่นพี่ที่ดูแล ทั้งนี้คาดว่าโครงเรื่องย่อยๆ น่าจะมีเพิ่มขึ้นอีกเป็นจำนวนมากเช่นกัน นิยายเรื่องคล้ายคลึงกับนิยายแนวแฟนตาซีเรื่องอื่นๆ ในหลายประเด็น ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอเรื่องราวความขัดแย้งระหว่างมนุษย์กับเผ่าพันธุ์อื่น ในที่นี้คือเผ่ารัตติกาล จนนำมาซึ่งสงครามและการทำลายล้าง เรื่องกำหนดให้ตัวเอกอยู่กันคนละเผ่าพันธุ์และเป็นเผ่าพันธุ์ที่เป็นศัตรูกันด้วย คือ พระเอกเป็นราชาแห่งเผ่าพันธุ์รัตติกาล ในขณะที่ ดาเลเน่ เครสเซน นางเอกของเรื่อง เป็นมนุษย์ที่ต้องมาใช้ชีวิตร่วมกับเผ่ารัตติกาล โดยที่ตัวเองก็ไม่รู้เรื่อง นอกจากนี้ยังมีการผนวกเรื่องราวเกี่ยวกับโรงเรียนเวทมนตร์เข้าไปด้วย เพราะเรื่องกำหนดให้ ดาเลเน่ ต้องเข้ามาเรียนที่ปราสาทเอวาซ แห่งมหานครโอเซนไทน์ เพื่อความปลอดภัย ดังนั้นเรื่องราวส่วนใหญ่จึงดำเนินไปในโรงเรียนแห่งนี้ นับตั้งแต่การเปิดตัวอาจารย์ผู้สอน และนักเรียนรุ่นพี่ และรุ่นปัจจุบัน ซึ่งเป็นเด็กใหม่ที่เพิ่งเข้าเรียนในปีนี้พร้อมกับดาเลเน่อีกหลายคน และคงจะเป็นตัวละครสำคัญของเรื่องต่อไป เช่น หลิวหลงซิน (เด็กใหม่ลูกครึ่งชาวจีนกับเผ่าพันธุ์รัตติกาลที่สามารถได้ยินเสียงทูตรัตติกาลที่ถูกขังในเขตภวังค์ได้) หรือ เดมาน เครเดียส (เจ้ารัตติกาลที่ปลอมตัวเป็นเด็กใหม่ที่ได้รับหน้าที่ดูแลดาเลเน่) ในขณะนี้ผู้อ่านเริ่มทราบแล้วว่าโรงเรียนแห่งนี้แบ่งการเรียนการสอนเป็น 3 ระดับ คือ ระดับต้น ระดับกลาง และระดับสูง โดยแต่ละระดับจะใช้เวลาเรียนระดับละ 5 ปี ซึ่งนักเรียนที่เข้าใหม่แต่ละคนไม่จำเป็นต้องเริ่มเรียนที่ชั้นต้นระดับหนึ่ง แต่ก็จะเข้าเรียนในระดับใดนั้นขึ้นอยู่กับผลการทดสอบในตอนสอบเข้า แต่เนื่องจากยังอยู่ในช่วงต้นเรื่องจึงยังไม่ทราบถึงวิธีเรียนและสอนของโรงเรียนแห่งนี่ว่าจะต่างหรือเหมือนกับโรงเรียนเวทมนตร์ในนิยายแฟนตาซีเรื่องอื่นอย่างไร จึงเป็นเรื่องที่ต้องติดตามอ่านต่อไป แม้ว่านิยายเรื่องนี้ยังไม่สามารถฉีกโครงเรื่องให้ต่างนิยายแนวแฟนตาซีเรื่องอื่นๆ ดังที่กล่าวถึงข้างต้น แต่ก็มีการสร้างตัวละครบางตัวให้แตกต่างออกไป เช่น การสร้างเผ่าหมาป่าเวหา ซึ่งมีร่างทั้งเป็นหมาป่าและมนุษย์ ขณะที่เป็นหมาป่าจะมีขนสีขาวราวหิมะ ตาสีแดงเหมือนโลหิต มีปีก ซึ่งทำให้สามารถเดินทางได้อย่างรวดเร็วจนได้ชื่อว่าเป็นเผ่าพันธุ์ที่เร็วที่สุดในโลก เมื่อเป็นมนุษย์ก็ยังคงมีดวงตาสีแดงเหมือนโลหิตเช่นเดิม และผิวขาว นอกจากนี้ ผู้แต่งยังเลือกใช้กลวิธีการแต่งที่สร้างเรื่องให้น่าสนใจด้วยการเปิดปมปัญหา และความลับของตัวละคร เพื่อช่วยกระตุ้นให้ผู้อ่านสนใจ ใคร่รู้ และเฝ้าติดตาม ไม่ว่าจะเป็นความลับเรื่องอดีตของเจ้ารัตติกาล เหตุใดมนุษย์และเผ่าพันธุ์รัตติกาลที่เคยอยู่ร่วมกันอย่างสันติลุกขึ้นมาทำสงครามประหัตประหารกันเอง หรือ ดาเลเน่มีความสำคัญต่อเผ่าพันธุ์รัตติกาลอย่างไร ทว่าผู้แต่งใช้กลวิธีนี้บ่อยครั้งเกินไป จนอาจกล่าวได้ว่าใช้เพียงกลวิธีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องการเปิดตัวละครใหม่ๆ หรือเหตุการณ์ใหม่ๆ เกือบทุกครั้งก็จะพ่วงด้วยความลับเบื้องหลังที่ผู้แต่งไม่ยอมเปิดเผย จนบางครั้งผู้อ่านก็รู้สึกว่าเรื่องราวที่กำลังอ่านอยู่นี้รู้กันเองเฉพาะภายในกลุ่มตัวละคร แต่ผู้อ่านไม่มีส่วนรับรู้ด้วยเลย เช่น ความหมายของดอกรัตติกาล ก็เป็นที่รู้กันเฉพาะคนเผ่าพันธุ์รัตติกาลเท่านั้น เช่นเดียวกับความผูกพันระหว่างเรเอต กับดาเลเน่ จะมีผู้รู้ความลับนี้เพียงเจ้ารัตติกาล กับ เบียงโก้ หัวหน้าเผ่าหมาป่าเวหา ผู้อ่านจึงดูเสมือนถูกกันให้เป็นเพียงคนนอก ความรู้สึกนี้อาจส่งผลให้ผู้อ่านบางคนเลิกติดตามเรื่องก็เป็นได้ เพราะไม่ว่าจะตามอ่านมากเท่าไร ก็ไม่ได้รู้อะไรเพิ่มขึ้น แต่กลับพบว่ามีความลับเพิ่มมากขึ้น ในกรณีนี้ ผู้วิจารณ์เห็นว่าปมปัญหา หรือความลับของตัวละครที่ไม่ได้ส่งผลต่อแก่นเรื่องหรือโครงเรื่องโดยรวม (ว่าต้องปกปิดไว้แล้วเปิดเผยตอนสุดท้ายเพื่อสร้างความเข้มข้นให้กับเรื่อง) ก็น่าจะเปิดเผยออกมาบ้าง เช่น เหตุผลที่ซาเบียนทรยศเผ่าพันธุ์รัตติกาล ก็น่าจะเปิดเผยได้เพราะเป็นเรื่องราวในอดีตที่ผ่านไปแล้ว หรือเหตุผลที่ศาสตราจารย์ซิซีเลีย เดรานี ต้องนำบัลซัคมาซ่อนไว้ใต้ปราสาทเอวาซ ความผิดพลาดที่ทำให้เรเอตมีหน้าคล้ายผู้หญิง แต่ร่างกายเป็นผู้ชาย และความสำคัญของเรเอตต่อเผ่าพันธุ์หมาป่าเวหา หรือ เหตุการณ์อดีตเกี่ยวกับการที่มนุษย์ทำลายล้างเผ่าพันธุ์รัตติกาล ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นไปได้ว่า หากผู้แต่งยังใช้กลวิธีนี้เป็นหลักในการเขียนเรื่องต่อไป เรื่องราวจะเต็มไปด้วยความลับและปมปัญหาที่ไม่มีการคลี่คลาย จึงน่าเป็นห่วงแทนว่า ผู้แต่งจะใช้วิธีการใดมาคลี่คลายปมปัญหาและความลับที่สร้างไว้จำนวนมากนี้ได้ครบถ้วน ผู้วิจารณ์เห็นว่าการแบ่งตอนในนิยายเรื่องนี้ แม้ว่าแต่ละตอนจะมีชื่อกำกับไว้ และผู้แต่งก็สามารถที่จะนำเสนอเรื่องราวในแต่ละตอนให้สอดคล้องกับชื่อตอนได้เป็นอย่างดี แต่บางครั้งผู้แต่งก็ขึ้นตอนใหม่ทั้งๆที่เนื้อเรื่องหรือเหตุการณ์ที่ดำเนินอยู่ในตอนนั้นยังไม่จบ เช่น ตอนที่ 11 และตอนที่ 12 เช่นเดียวกันตอนที่ 23 และ 24 และตอนที่ 31 และ 32 เห็นว่าผู้แต่งน่าจะรวมตอนดังกล่าวเข้าด้วยกัน และเปลี่ยนชื่อตอนใหม่ให้ครอบคลุมเนื้อหาทั้งหมดน่าจะดีกว่า ความน่าสนใจอีกประการของเรื่องนี้คือ ผู้แต่งสามารถใช้ภาษาบรรยายและภาษาสนทนาได้อย่างลื่นไหล ช่วยให้ผู้อ่านสนุกไปกับเรื่องราวที่ผู้แต่งต้องการนำเสนอ ขณะเดียวกันก็สามารถสร้างจินตนาการถึงตัวละคร และฉากต่างๆ ที่ผู้แต่งบรรยายไว้ได้ไม่ยากนัก ส่วนคำผิดมีให้เห็นประปรายเท่านั้น เช่น สัญชาตญาณ เขียนเป็น สัญชาติญาณ คฤหาสน์ เขียนเป็น คฤหาสถ์ พ่อค้าวาณิช เขียนเป็น พ่อค้าวานิชย์ แป๊บ เขียนเป็น แปบ กิจจะลักษณะ เขียนเป็น กิจลักษณะ และ กะพริบตา เขียนเป็น กระพริบตา อย่างไรก็ดี ผู้วิจารณ์เห็นว่าด้วยความสามารถในการใช้ภาษาได้อย่างลื่นไหล และวางโครงเรื่องได้อย่างน่าสนใจ จึงนับว่า จอมใจเจ้ารัตติกาล เป็นนินายแฟนตาซีที่น่าติดตามเรื่องหนึ่ง --------------------------- อ่านน้อยลง
bluewhale | 15 ก.พ. 53
16
1
ดูทั้งหมด
ความคิดเห็น