คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : [SF] :: series 6 : Secret is a KISS ::
I’ve nearly given up the best thing in life.
If one day I’ve fallen, and without your heart.
siwon407 SiwonChoi
โกรธมาก !
ทงเฮเลื่อนอ่านไทม์ไลน์ทวิตเตอร์แล้วหัวเราะลั่นก่อนจะยื่นโทรศัพท์ในมือให้คยูฮยอนอ่านด้วย คยูฮยอนเหลือบตาอ่านก่อนจะมองไปที่ซีวอนที่วันนี้ตีกลองแทบจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆซองมินอยากจะเอ่ยบอกว่าซ้อมเพลงป๊อบนะไม่ใช่เพลงร๊อคแต่พอเห็นหน้ามือกลองของวงซองมินเลยเลือกที่จะเงียบเกาๆกีตาร์ไปตามประสา
กลัวไอ้ซีวอนจะเขวี้ยงไม้กลองใส่กระบาลจริงๆถ้าพูดอะไรไม่ถูกใจ T___T
AllRiseSilver Hyuk Jae
ไม่ได้ตั้งใจ
ทงเฮได้แต่ปิดปากหัวเราะเบาๆเมื่อเห็นทวิตเตอร์ของทั้งสองคนโอเคซีวอนและฮยอกแจทะเลาะกันอยู่เห็นซีวอนโมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยงตั้งแต่เมื่อวานซองมินเลยส่งคังอินผู้เชี่ยวชาญด้านชีวิตคู่?ไปเป็นทัพหน้าพร้อมกับส่งคยูฮยอนไปเป็นกรรมการห้ามมวยเวลาที่ทั้งสองคนความเห็นไม่ตรงกัน และเมื่อสืบสาวราวเรื่องมาได้เหตุผลที่ซีวอนโกรธฮยอกแจจนไม่คุยด้วยก็คือ
อีฮยอกแจไปกินข้าวกับเดือนคณะบริหาร อีมินโฮ !!
โอ้มายก๊อด ! แค่หัวข้อก็ดูเป็นเรื่องใหญ่โตอีทงเฮเด็กศิลปกรรมเต็มตัวเลยอาสาไปสืบที่มาที่ไปสาเหตุที่ฮยอกแจไปกินข้าวกับชู้นัมเบอร์วัน ? เด็กแคระผู้ซึ่งสนิทและรู้จักกับทุกคนในคณะได้เรื่องมาว่าจริงๆแล้วคืออีมินโฮเป็นเพื่อนกับชอนดุงที่เป็น เพื่อนของฮยอกแจที่คณะศิลปกรรมอีกที กว่าจะเข้าใจทงเฮอยากจะวาดแผนภูมิเป็นกราฟมาก ความสัมพันธ์ช่างซับซ้อนสรุปง่ายๆ การเริ่มต้นการเจอกันของมนุษย์ทั่วไปคือ
เพื่อนของเพื่อน
วันนั้นฮยอกแจเพิ่งเสร็จจากคลาสเรียนเพราะเลยเวลามามากแล้วเพราะมัวแต่เต้นอะไรบ้าๆบอๆกันในคลาส ชอนดุงเลยชวนไปกินข้าวเพราะเห็นว่าเย็นมากแต่ไม่ได้ไปกันแค่สองคน ยังมีลิซซี่ไปด้วยร้านอาหารหน้ามหาลัยเลยเป็นตัวเลือกเพราะเห็นว่าใกล้และอร่อยดี ตอนแรกก็นั่งกันอยู่สามคนดีดี เสียงเปิดประตูร้านพร้อมกับชอนดุงยกมือโบกๆเรียกให้อีกคนมานั่งด้วย ทันทีที่รู้ว่าใครฮยอกแจถือช้อนค้างไว้จนลิซซี่ต้องสะกิด
อีมินโฮ เดือนคณะบริหาร ..
ฮยอกแจได้แต่ทักตามมารยาทเมื่อเห็นอีกฝ่ายยิ้มซะจนหวานเยิ้ม และฮยอกแจก็ไม่ใช่เด็กๆที่ไม่รู้ว่าคนตรงหน้าคิดอะไรอยู่ มินโฮแสดงออกตั้งแต่แรกว่าสนใจ เบอร์ฮยอกแจมินโฮก็มีมันไม่ใช่เรื่องยากเลยเพราะมินโฮเอามาจากชอนดุง ฮยอกแจยังจำได้ว่าชอนดุงยังซื้อขนมมาให้เขาซะกองเท่าบ้านไถ่โทษที่ให้เบอร์กับมินโฮไป มินโฮไม่ค่อยโทรแต่ส่งข้อความมาเยอะมาก เยอะจนต้องคอยลบตลอดแต่ฮยอกแจไม่คิดจะเล่นด้วยอยู่แล้ว
และแน่นอนเรื่องทั้งหมด ซีวอนยังไม่รู้ ..
ฮยอกแจได้แค่นั่งมองนู่นมองนี่ภายในร้านเพราะรู้สึกว่าสายตามินโฮเอาแต่มองหน้าฮยอกแจอย่างเดียวไม่ยอมมองที่อื่นลิซซี่ก็ลุกไปเข้าห้องน้ำส่วนชอนดุงก็ลุกไปหาเพื่อนอีกโต๊ะนึง มินโฮกลั้นหัวเราะเมื่อเห็นว่าฮยอกแจเอาแต่แกล้งทำเป็นไม่สนใจ
“ ซีวอนไม่ว่างรึไงวันนี้ ”
“ มีเรียนเพิ่ม ”
“ ถามจริง เป็นแฟนกันรึยัง ”
“ ไม่เกี่ยวกับนาย ”
มินโฮเลยยกมือยอมแพ้ไม่ถามต่อก่อนจะมองไปที่หน้าประตูร้านอาหารสลับกับหน้าฮยอกแจ จนฮยอกแจต้องหันไปมองตามสายตามินโฮ
ชเวซีวอน ....
ร่างสูงในชุดนักศึกษายืนนิ่งอยู่หน้าประตูพร้อมกับคังอินและเพื่อนในกลุ่มสองสามคน คังอินเงยหน้าจากโทรศัพท์ตั้งใจจะทักฮยอกแจแต่คนที่นั่งอยู่ด้วยทำเอาคังอินกระพริบตาปริบๆก่อนจะทำท่ามีดปาดคอให้ฮยอกแจ ซีวอนมองหน้าฮยอกแจเพียงนิดเดียวก่อนจะเดินไปสั่งอาหารใส่กล่องกลับบ้านหน้าเค้าเตอร์ ร่างบางเลยลุกตามแล้วไปยืนข้างๆ
“ทำไมไม่โทรมาบอกว่าจะมากินข้าว ”
“ ก็คิดว่ายังไม่เลิก ”
ซีวอนไม่ได้ตอบอะไรต่อแต่บรรยากาศตรงหน้าฮยอกแจรู้ดีว่าซีวอนกำลังโกรธมาก ฮยอกแจเลยไม่รู้จะพูดอะไรต่อเลยยืนนิ่งๆจนร่างสูงรับกล่องข้าวจากพนักงานมาถือไว้ก่อนจะเอี้ยวตัวมากระซิบบอก
“ ถึงบ้านแล้วโทรมาบอก เรามีเรื่องต้องคุยกันเยอะนะ อีฮยอกแจ ..”
วันนั้นนับเป็นวันแรกที่ทะเลาะกันจนใหญ่โตนับจากเรื่องยุนอาซีวอนโกรธที่ฮยอกแจไม่เคยยอมบอกเรื่องมินโฮไม่ว่าจะเรื่องเบอร์โทรฮยอกแจที่มินโฮโทรมาหาและส่งข้อความมาตลอด แล้วเรื่องกินข้าววันนี้ที่บังเอิญเจอกัน แต่ซีวอนก็ยังคงโมโหไม่ยอมฟังอะไรง่าย ๆ ฮยอกแจเองก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นคนใจเย็นพอต่างฝ่ายต่างร้อนกันทั้งคู่สรุปว่าก็คุยกันไม่รู้เรื่องพอวางสายไปฮยอกแจก็นั่งมองโทรศัพท์ในมือ
ซีวอนไม่ได้โทรมาอีก …
จำได้ว่าฮยอกแจรอทั้งคืนก็ไม่มีสายเข้า ฮยอกแจรู้ดีเรื่องมินโฮเขาผิดเองที่ไม่ยอมบอกซีวอน มันอาจจะดูเหมือนไม่จริงใจที่มีเรื่องอย่างนี้แล้วไม่เคยบอกเพราะซีวอนไม่รู้ว่าเป็นมายังไงคิดไปถึงไหน สุดท้าย
ฮยอกแจก็โดนโกรธจนได้….
I knew I loved you before I met you
I think I dreamed you into life
I knew I loved you before I met you
I have been waiting all my life
เสียงเคาะประตูหน้าห้องซ้อมทำให้ทุกคนหยุดเล่นดนตรีซองมินเงยหน้ามองคนที่โผล่หน้ามาจากประตูแล้วยิ้มให้อีฮยอกแจเดินเข้ามาในห้องซ้อมสายตามองไปยังมือกลองที่แกล้งทำเป็นตีกลองต่อไม่สนใจคนที่เดินเข้ามาใหม่
“ คิดถึงพี่คังอินเหรอจ๊ะน้องฮยอกแจ มาหาถึงที่นี่ ”
“ เงียบไปเลย ”
“ ง้อกันดีดีนะ ไอ้ซีวอนตีกลองแทบจะพังตั้งแต่เช้าไม่อยากจะเสียเงินซื้อใหม่”
ฮยอกแจเดินไปนั่งบนลำโพงใกล้ๆกับที่ซีวอนตีกลองสายตาเหลือบมองร่างสูงที่ใส่หูฟังตีกลองเบาๆไปเรื่อยๆ ซองมินหันมากลั้นหัวเราะแล้วชูสองนิ้วให้ฮยอกแจที่ทำหน้าจ๋อยเพราะซีวอนยังไม่สนใจเลยสักนิด จนฮยอกแจเอื้อมมือไปจับแขนเสื้อซีวอนไว้จนซีวอนหยุดตีกลองแล้วหันมามอง
“ โกรธมากเหรอ ”
“ ……………………………”
“ ขอโทษ ต่อไปนี้จะเล่าให้ฟังทุกเรื่องเลย ”
“ …………………………….”
ฮยอกแจพยายามพูดเบาๆถึงแม้ซีวอนจะใส่หูฟังไว้แต่ฮยอกแจรู้ดีร่างสูงไม่ได้เปิดเพลงไว้ซีวอนพยายามกระตุกแขนเสื้อหนีแต่ฮยอกแจก็ไม่ยอมปล่อยเอาแต่จับแขนเสื้อไว้แน่นจนซีวอนยกไม้กลองอีกข้างตีลงบนผมสีทองนั่นเบาๆเพราะหน้าตาฮยอกแจดูจ๋อยซะจนน่าสงสารยังไม่ทันจะได้พูดอะไรเด็กแคระทงเฮก็ตะโกนดังลั่นห้องซ้อม
“ สายแล้ว ฮยอกแจไปเรียนกันเถอะ !”
เพราะถึงเวลาเข้าเรียนทำให้ฮยอกแจยกนาฬิกาขึ้นมาดูก่อนจะตัดใจปล่อยมือจากเสื้อซีวอนแต่อยู่ดีดีร่างสูงก็กลับเป็นฝ่ายพลิกมือมาจับฮยอกแจไว้เองก่อนจะลุกขึ้นพร้อมกับดึงให้ฮยอกแจเดินตามมาด้วย เลยโดนคังอินบอกไล่หลังว่าไม่แน่จริงใจแข็งไม่พอ
“ เดี๋ยวนี้ต้องห้ามปล่อยให้คลาดสายตา เดี๋ยวไปกินข้าวกับใครอีกไม่รู้ ”
“ บอกว่าไม่ได้ไปกันสองคน ”
ฮยอกแจยกมือข้างที่ว่างตีลงบนแขนซีวอนแรงๆหนึ่งทีเลยโดนซีวอนเขกหัวอีกรอบพลางบอกว่ายังโกรธอยู่ยังจะมาทำร้ายร่างกายอีกฮยอกแจบ่นอุบอิบว่าวันนี้โดนตีหัวทั้งวัน ซีวอนกลั้นหัวเราะก่อนจะตีหน้านิ่งตามเดิมเมื่อฮยอกแจเงยหน้าขึ้นมามอง
“ ตีกันทำไม รักกันไว้สิดีสมัยนี้หาแฟนยากจะตาย ดูคู่ไอ้เด็กแคระซิรักกันตลอดเวลา 24 ชั่วโมง ”
ซองมินบอกซีวอนและฮยอกแจแทนที่คู่ที่ถูกพาดพิงจะเขินอายแต่เด็กแคระทงเฮกลับเขย่งเท้าจนสุดตัวพยายามอามือกอดไหล่คยูฮยอนตบปุบๆคล้ายจะบอกว่ารักกันดีคยูฮยอนเลยแกล้งทำตัวสูงขึ้นอีกจนทงเฮเขย่งไม่ถึงเลยหันมาตีกันแทน เสียงเคาะประตูหน้าห้องซ้อมดังขึ้นทำให้ทุกคนหันไปมองคังอินบอกว่าวันนี้ชมรมเราป๊อปมากมีคนมาหาทุกๆห้านาที
พอคังอินเดินไปเปิดประตูกลับพบ รุ่นพี่คนสวยปี 3 ศิลปกรรมเอกเดียวกับฮยอกแจ อย่าง วิคตอเรีย ยืนอยู่หน้าห้อง คังอินเลยแกล้งทำเสียงเก๊กหล่อขึ้นมาทันที
“ คยูฮยอนอยู่รึเปล่า ”
พอคนสวยหน้าห้องถามถึงคยูฮยอนคังอินเลยทำหน้าเซ็งเดินกลับมาเล่นเบสตามเดิมพลางดันตัวคยูฮยอนออกไปหาวิคตอเรียแทน คยูฮยอนพอเจอหน้าวิคเรียก็ร้องอ้อก่อนจะยิ้มให้ หญิงสาวตรงหน้าหันมาทักฮยอกแจเพราะเป็นน้องในเอกเห็นหน้ากันบ่อยๆแต่มือบางของฮยอกแจที่ถูกจับไว้ทำให้วิคตอเรียมองอย่างล้อๆ และเมื่อหันมาเจอทงเฮที่ยืนกระพริบตาปริบๆอยู่ เด็กแคระเลยก้มหัวทักทายรุ่นพี่ในคณะ ตามมารยาท ก่อนที่วิคตอเรียจะหันไปคุยกับคยูฮยอน
ทงเฮรู้วิคตอเรียมาขอให้คยูฮยอนทำเพลงประกอบโปรเจคงานที่ต้องทำส่งอาจารย์ก่อนจบเทอม แต่คยูฮยอนยังไม่ได้ตกลงอยู่ในช่วงดูๆงานกันอยู่ สายตาของวิคตอเรียที่มองคยูฮยอนดูก็รู้ว่า ชอบ ..
“ ผมกำลังจะไปคณะพี่ เดิยไปคุยไปก็ได้ ”
“ ไปคณะพี่ทำไมกัน ?”
“ เดินไปส่งเพื่อน ”
คยูฮยอนมองไปยังทงเฮที่เก็บขนมต่างๆลงกระเป๋าโดยมีซองมินคอยหยิบออกเพราะเห็นว่าอยากกินบ้าง ไอ้เด็กแคระก็ไม่ยอมหยิบมาใส่ใหม่ แย่งกันหยิบออกหยิบใส่มันอยู่อย่างนั้นจนคังอินต้องเข้ามาห้าม
“ งั้นไปเลยไหม นี่รายละเอียดงาน ”
ทันทีที่ออกมาจากห้องซ้อมวิคตอเรียพยายามชวนคยูฮยอนคุยอยู่ตลอดเวลาโดยที่อีกข้างมีเด็กแคระทงเฮเดินมองนู่นมองนี่เสียงพูดคุยของทั้งสองคนทำให้ทงเฮเลือกที่จะเงียบแล้วเดินไปข้างๆ คยูฮยอนเหลือบมองเด็กแคระที่เงียบผิดปกติแต่เพราะรุ่นพี่กำลังอธิบายถึงเพลงที่เขาต้องร้องทำให้ไม่มีจังหวะที่จะคุยกับไอ้ตัวยุ่งข้างๆเท่าไหร่จังหวะที่เดินไปคยูฮยอนเลยคว้ามือทงเฮมาจับไว้หลวมๆแต่ก็ยังฟังวิคตอเรียอธิบายงานไปด้วย จนทงเฮกระชับมือแน่นๆตอบกลับทำให้คยูฮยอนเผลอยิ้มออกมา
There's just no rhyme or reason
Only the sense of completion
And in your eyes,
หลังจากไปส่งฮยอกแจและทงเฮที่คณะพอถึงตอนบ่ายต่างคนก็ต่างแยกตัวไปเรียนวันนี้ซีวอนและคังอินเรียนพร้อมกันเพราะเป็นวิชาเลคเชอร์รวมนักศึกษาคณะวิศวะเลยล้นหลามเต็มห้องประชุม เพราะวิชานี้อาจารย์ไม่ได้เคร่งมากนักเลยเหมือนเป็นวันเจอเพื่อนในคณะวิศวะในแต่ละภาค
“ คังอิน มึงจะเว้นว่างเก้าอี้ไว้ทำไมตัวนึงวะ ทำไมไม่เขยิบมา ”
“ กูไม่อยากจะนั่งใกล้มึงเท่าไหร่ ความหล่อกูถดถอยหมด ”
ซีวอนส่ายหน้ากับความกะล่อนของคังอินเพราะวันนี้สาวๆวิศวะต่างภาคค่อนข่างเยอะทำให้คังอินกระชุ่มกระชวยพอสมควรมันน่าจะถ่ายภาพทวิตไปให้พี่อิทึกจับให้ได้คาหนังคาเขาจริงๆ ช่วงพักเบรกของการบรรยายซีวอนนั่งเล่นโทรศัพท์ไปเรื่อยๆ ก่อนที่เสียงดังโหวกเหวกในห้องบรรยายกลับเงียบไปซะเฉยๆ ร่างสูงเลยเงยหน้าขึ้นมามองก่อนจะขมวดคิ้วเมื่อเห็นคนที่คุ้นตาเดินเข้ามาในห้องแลคเชอร์วิศวะ
เพราะสีผมที่เด่นกว่าทุกคนและแน่นอนไม่มีเด็กวิศวะคนไหนทำผมสีนี้แน่นอน ฮยอกแจเดินก้มหน้าก้มตาก่อนจะนั่งลงข้างๆเก้าอี้ซีวอนที่ว่างอยู่
“ มาได้ไง ”
“ เดินมา ”
“ ไม่คิดว่าจะมา ”
“ มาง้อต่อน่ะสิ ก็นายโกรธอยู่แล้วคณะนายเป็นอะไรมากไหมหะ มองยังกะตัวประหลาด ”
ฮยอกแจบ่นอุบอิบแก้มใสแดงแจ๋คงเพราะเพื่อนในคณะต่างหันมามองกันเป็นจุดเดียว ซีวอนเลยเงยหน้ามองเพื่อนในคณะที่ส่งสายตาล้อเลียนมาให้
“ โอ้โห …เดี๋ยวนี้มีคนมาเฝ้าเดือนคณะเราด้วยว่ะ ” เสียงซึงฮยอนเป็นแกนนำในการส่งเสียงจนฮยอกแจยกมือท้าวคางแกล้งทำเป็นไม่สนใจแต่แก้มแดงๆทำให้ทุกคนรู้ว่าฮยอกแจกำลังเขินมากๆ
“ เปิดตัวแล้วเหรอวะ เห็นงึมงัมกันอยู่ตั้งนาน ”
“ มีมานั่งเรียนด้วยกัน โห พัฒนา ”
“ ซีวอนมึงจีบฮยอกแจติดแล้วเหรอ นานโคตรๆนึกว่าจะเป็นแฟนกันหลังจบปริญญา ”
“ ฮยอกแจศิลกรรมแฟนนายเหรอวะ ซีวอน! เฮ้ย ทำไมกูไม่รู้เรื่อง อะไรวะเนี่ย ”
“ ไอ้ซีวอน มึงคว้าตัวท๊อปศิลกรรมเลยเหรอวะ โคตรเจ๋ง ”
เสียงแซวมารอบทิศทางจนฮยอกแจได้แต่ลูบหน้าลูบตาแก้เขินไปตามเรื่องตามราวจนทุกคนเห็นว่าหนำใจเลยหันกลับไปคุยกันตามเดิมมีแค่บางกลุ่มที่ไม่ได้สนิทจะหันมามองกันเป็นระยะ ๆ ซีวอนหันมามองคนข้างๆที่เหลือบตามองเช่นกันก่อนที่ซีวอนจะแกล้งตีหน้านิ่งต่อไป
“ เพื่อนนายกวนทุกคนเลยนะ ”
“ โดนแซวอยู่แล้ว ก็ไม่เคยมีใครมานั่งเรียนด้วย ”
“ พูดจริง ?”
“ ไม่เคยมีใครกล้าบ้าบิ่นเดินมาเข้ามาคนเดียวเหมือนนาย ”
“ จะกลัวอะไรก็เป็นผู้ชาย ”
“ ที่น่ารักกว่าผู้หญิง ”
ซีวอนต่อท้ายให้จนฮยอกแจเงียบไปและคงเขินมากๆเพราะไม่ใช่แค่แก้มที่แดงแต่มันแดงไปทั้งหน้าทั้งๆที่อากาศค่อนข้างหนาวแต่ฮยอกแจก็แกล้งเฉไฉหยิบชีทของซีวอนขึ้นมาอ่านแก้เก้อแต่ภาษาวิศวะทำให้ฮยอกแจต้องเบ้หน้า
“ ยังไม่หายโกรธ อย่าเพิ่งได้ใจความผิดเรามันเยอะนะ อีฮยอกแจ ”
ซีวอนเอาปากกาจิ้มแก้มฮยอกแจจนแก้มบุ๋มๆลงร่างบางเลยต้องหันหน้าหนีก่อนจะนั่งตัวลีบเพราะอากาศค่อนข้างเย็นซีวอนเลยถอดผ้าพันคอของตัวเองมาพันให้ฮยอกแจเสียงโห่แซวดังขึ้นอีกรอบเมื่อเห็นฉากน่ารักๆเหมือนพระเอกนางเอกในละครเลยโดนซีวอนตะโกนบอกอย่างขำๆ
“ พวกมึงช่วยหันไปมองทางอื่นได้ไหม จะจ้องกูกับฮยอกแจไปไหน ”
“ ก็พวกมึงสองคนน่ารักดีนี่ กูไม่ค่อยเห็นมึงเทคแคร์ใครอย่างนี้มาก่อน ฮยอกแจน่ารักจะตายดูสิ เขินจนเหลือแค่ลูกกะตาแล้วตอนนี้ ”
เพราะฮยอกแจดึงผ้าพันคอขึ้นมาปิดหน้าจนเหลือแค่ลูกตาแป๋วๆจนซีวอนต้องเอื้อมมือมาดึงลงแต่ฮยอกแจก็ยื้อไว้จนซีวอนยอมแพ้และการบรรยายก็เริ่มต้นอีกครั้ง ซีวอนจดบ้างฟังบ้างหันมามองหน้าฮยอกแจที่นั่งวาดรูปอะไรสักอย่างในกระดาษ จนซีวอนต้องกลั้นหัวเราะฮยอกแจบอกว่าจะมาง้อแต่ไม่เห็นจะทำอะไร แต่เอาเถอะแค่กล้าเดินมาที่วิศวะก็สุดยอดแล้วการบรรยายบนไสลด์ยังคงผ่านไปเรื่อยๆและดูท่าทางฮยอกแจจะเริ่มเบื่อการวาดรูปเลยนอนฟุบลงไปกับโต๊ะหันหน้ามาทางซีวอนก่อนจะแปะโพสอิทแผ่นเล็กๆลงบนหลังมือซีวอนที่วางอยู่
หายโกรธนะ ง้อไม่เป็น
ซีวอนดึงมาอ่านแล้วต้องพยายามกลั้นยิ้มก่อนจะวาดรูปคนหน้าบึ้งให้ฮยอกแจแทน ร่างบางรับมาก่อนจะหันมามองค้อนซีวอนก้มหน้าก้มตาเขียนอีกรอบ
ดีกันเถอะ
ยิ่งอ่านก็ยิ่งอยากจะหัวเราะจนโทรศัพท์ฮยอกแจสั่นและเบอร์ที่โทรเข้ามาทำให้ซีวอนมองหน้าฮยอกแจก่อนจะหันไปมองกระดานบรรยายแน่นอนมันคือชื่ออีมินโฮและมีอีโมชั่นทำหน้าเอือมต่อท้าย ฮยอกแจหยิบโทรศัพท์ก่อนจะยื่นให้ซีวอนเป็นคนจัดการ
“ สวัสดีครับ ฮยอกแจอยู่ที่ไหน ”
“ อยู่ที่คณะวิศวะ ห้องแลคเชอร์ 009 นั่งอยู่ข้างๆชเวซีวอนได้ยินชัดยัง ”
“ ซีวอน ?”
“ เออ โทรมาก็ดีของเตือนเป็นครั้งสุดท้าย อย่ามายุงกับฮยอกแจอีก ! จำเอาไว้ด้วยนะ ”
ซีวอนกดวางโทรศัพท์ซะโทรศัพท์แทบพังก่อนจะส่งคืนให้ฮยอกแจที่รับมาวางไว้ข้างๆร่างสูงหันมามองฮยอกแจก่อนจะยกมือหยิกแก้มขาวนั่นจนเป็นรอยแดงๆ
“ ป๊อปเกินไปแล้วนะ ฉันไม่หายโกรธง่ายๆหรอก ง้อให้มันนานๆหน่อย ” ฮยอกแจแลบลิ้นใส่พร้อมกับนั่งเขียนอะไรยุกยิกในโพสอิทแล้วแปะลงบนแขนซีวอนอีกรอบ
หล่อแล้วเล่นตัว !
ซีวอนหันมาหาฮยอกแจก่อนจะขยี้หัวอย่างหมั่นเขี้ยวจนฮยอกแจยกสองมือมาดันซีวอนไว้ คังอินเลยเอาชีทตีหัวทั้งสองคนบอกว่ามันน่าหมั่นไส้ไปง้อกันที่บ้านบนเตียงนู่นจะมานั่งสวีทให้คนในห้องเลคเชอร์อิจฉาทำไม ซีวอนเลยผละไปนั่งเรียนตามเดิมแต่อีกมือข้างที่ไม่ได้จับปากกาก็จับมือของฮยอกแจมาวางไว้บนตักพร้อมกับบอกเบาๆ
“ หายโกรธแค่ครึ่งนึง ”
see the missing pieces I'm searching for
I think I've found my way home
I know that it might sound
more than a little crazy but I believe..
“ คงต้องลองซ้อมหลายๆรอบ อาจจะนานหน่อยนะ ”
วิคตอเรียหันมามองคยูฮยอนแต่สายตากลับมองไปยังทงเฮที่นั่งเล่นไอแพตอยู่ตรงด้านหน้าเวที เพราะการแสดงเป็นการแสดงสดและคยูฮยอนก็ต้องร้องสดด้วยเช่นกันทำให้ต้องฝึกซ้อมหลายๆรอบ และตั้งแต่บ่ายอีทงเฮก็ยังไม่ยอมไปไหนนั่งจ๋องเล่นเกมส์อยู่อย่างนั้น ขนาดวิคตอเรียบอกว่าให้ทงเฮกลับไปก่อนก็ได้เพราะมันนานมากจริงๆอาจจะเย็นจนมืดค่ำแต่คยูฮยอนก็เป็นคนบอกเองว่าไม่เป็นไร
วิคตอเรียเลยปล่อยเลยตามเลยเขาไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่เป็นยังไงแต่ใครๆก็บอกว่าเป็นแค่เพื่อนที่สนิทกันมากๆ ไมได้มีอะไรแต่สำหรับเธอมันไม่ใช่ เขามองรุ่นน้องอย่างคยูฮยอนมานานและพอจะรู้ว่าคยูฮยอนไม่เคยมีแฟน และคนทีคยูฮยอนอยู่ด้วยตลอดเวลาก็คือ อีทงเฮ
ในเมื่อทั้งสองคนบอกว่าเป็นเพื่อนดังนั้นเธอก็มีโอกาสที่จะใกล้ชิดคยูฮยอน หลายต่อหลายครั้งที่เขาพยายามจะชวนไปกินข้าวแต่ก็ไม่เคยสำเร็จเพราะทงเฮมักจะอ้างว่าปวดท้อง ปวดหัว ป่วยซะจนคยูฮยอนต้องปฏิเสธเขาทุกรอบ วิคตอเรียเลยเดินมานั่งลงใกล้ๆทงเฮที่นั่งเล่นอะไรสักอย่างในไอแพตอยู่
“ ทงเฮ ไม่เบื่อรึงไงนั่งรอคยูฮยอนทั้งวัน ”
“ ไม่เบื่อหรอกครับ ตอนผมแสดงเวทีคยูฮยอนก็นั่งรออย่างนี้ทั้งวัน ”
“ อยู่ด้วยกันตลอดเวลาเลยเหรอ ”
“ ก็ …..ครับ ”
“ ไม่หวงเพื่อนไปหน่อยหรือไง ?”
ทงเฮหยุดนิ้วที่จิ้มลงบนไอแพตก่อนจะหันมามองรุ่นพี่วิคตอเรียที่มองอย่างยิ้มๆ ร่างบางหันมานั่งเล่นไอแพตตามเดิมแต่ก็ไม่ได้ตอบอะไรร่างบางไม่รู้ว่ารุ่นพี่คนสวยตรงหน้าต้องการอะไรเลยเลือกที่จะเงียบ
“ ถามจริงๆนะ จะไม่ปล่อยให้เพื่อนมีแฟนเลยเหรอ ตามติดอยู่อย่างนี้ตลอดเวลา คยูฮยอนไม่อึดอัดหรือไง ”
วิคตอเรียลุกกลับไปซ้อมตามเดิมแล้วเหลือแต่ทงเฮที่นั่งนิ่งอยู่ที่เดิมมือบางเลื่อนไทม์ไลน์ทวิตเตอร์ไปเรื่อยๆ ก่อนจะทวิตบอกคยูฮยอนแล้วลุกออกไปจากที่นั่ง
donghae861015 이동해
@GaemGyu หิวไปหาขนมกินที่ห้องชมรมก่อนนะ
คยูฮยอนเงยหน้ามองไปยังที่นั่งของทงเฮแต่ตอนนี้มันว่างเปล่าไม่มีไอ้เด็กแคระที่นั่งเล่นเกมส์อยู่ตรงนั้นคยูฮยอนกดโทรออกไปยังเบอร์เดิมๆซ้ำแล้วซ้ำเล่าแต่ปลายสายก็ไม่ยอมรับ คยูฮยอนเลยตัดสินใจวางโทรศัพท์ลง
GaemGyu Chokyuhyun
@ donghae861015 รออยู่ที่ห้องชมรมอย่าหนีไปไหน !
เสียงเตือนจากโทรศัพท์ที่ดังขึ้นทำให้ทงเฮที่นอนนิ่งๆใส่หูฟังบนอยู่บนโซฟาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมามองก่อนจะปล่อยลงข้างลำตัวเป็นครั้งแรกที่ทงเฮต้องมานอนคิดอะไรมากมายอย่างนี้ ทุกวันนี้เขามีความสุขดีระหว่างเขากับคยูฮยอนไม่เคยต้องมาพูดว่าเป็นอะไรกันแต่มันก็มีแต่เรื่องดีดีเกิดขึ้นทุกวัน แต่เพราะการไม่พูดให้มันเคลียร์บางทีมันก็ทำให้วางตัวไม่ถูก
ประตูห้องซ้อมเปิดออกกว้างและเสียงฝีเท้าที่เดินเข้ามาทำให้ทงเฮลืมตาขึ้นมามองคยูฮยอนกอดอกมองเด็กแคระที่นอนนิ่งอยู่บนโซฟาไม่มีแม้แต่คำพูดทงเฮเลยขยับตัวขึ้นมานั่งกอดเข่าอยู่ตรงริมโซฟาก่อนที่จะดึงหูฟังออก
“ เลิกซ้อมแล้วเหรอ ”
“ ทำไมถึงกลับมาก่อน ”
“ หิว ”
“ มีเรื่องอะไร ”
“ ก็บอกว่าหิวเฉยๆ แต่ซองมินเอาขนมไปหมดเลย ”
“ ฉันถามว่ามีเรื่องอะไร ”
ทงเฮยู่หน้าโจคยูฮยอนไม่ยอมเฉไฉไปเรื่องอื่นเลยต้องยอมหันมามองหน้าคยูฮยอนตรงๆแต่สายตาของคยูฮยอนทำให้เด็กแคระต้องก้มหน้าลงตามเดิมทงเฮหายใจเข้าพร้อมกับกำมือแน่นท่าทางไม่รู้ว่าจะพูดดีหรือไม่พูดดี คยูฮยอนไม่ได้รบเร้าแต่นั่งเฉยๆรอจนกว่าทงเฮจะพร้อม แค่เพียงไม่นานเสียงพูดเบาๆก็เอ่ยออกมาแต่เพราะอยู่ด้วยกันสองคนทำให้คยูฮยอนได้ยินชัดเจน
“ คยูฮยอน … บางทีฉันก็อยากรู้ว่าฉันมีสิทธิ์ในตัวนายได้แค่ไหน ทำขนาดไหนนายถึงจะไม่อึดอัด มากไปรึเปล่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ”
เสียงเงียบในห้องซ้อมทำให้ทงเฮใจคอไม่ดีเป็นครั้งแรกที่เริ่มคุยกันเรื่องแบบนี้คยูฮยอนได้แต่นั่งเคาะนิ้วกับโซฟาเหมือนใช้ความคิดแต่สำหรับทงเฮมันเป็นบรรยากาศที่ดูไม่ค่อยดีมือบางเผลอยกแหวนในมือขึ้นมามองก่อนที่หันไปมองคยูฮยอนที่หันมามองหน้าเช่นกัน
“ ได้ทุกอย่าง ”
“ อะไร ”
“ ก็นายถามว่า นายมีสิทธิ์ในตัวฉันได้แค่ไหน ฉันก็ตอบว่า ได้ทุกอย่าง จะห่วง จะหวง จะหึง จะโกรธ จะงอน จะแสดงความเป็นเจ้าของ จะจัดการคนที่มาจีบฉัน นายทำได้ทุกอย่าง ”
ทงเฮกระพริบตาปริบๆคล้ายไม่เชื่อหูตัวเองคยูฮยอนหัวเราะแล้วดึงข้อเท้าทงเฮให้นอนราบกับโซฟาร่างบางหลับตาปี๋เพราะคิดว่าหัวต้องกระแทกกับขอบโซฟาอย่างจังแต่คยูฮยอนก็รองมือไว้ใต้ศีรษะกันกระแทกไว้ได้ทันก่อนจะนอนทับลงมาทงเฮมองตาแป๋วก่อนจะเอ่ยเสียงเบาๆคล้ายจะถามเพื่อความมั่นใจอีกรอบ
“ ฉันทำได้ทุกอย่างเลยนะ ”
“ ทำได้ทุกอย่าง จะกอด จะหอม จะจูบ มากกว่านั้นก็ได้ ”
แก้มเด็กแคระแดงแจ๋เมื่อนึกถึงประโยคสุดท้ายคยูฮยอนก้มหน้ามาเรื่อยๆจนทงเฮต้องกันหน้าหนีแต่สุดท้ายก็ยอมหันกลับมามองคยูฮยอนตรงๆตามเดิม
“ นายมีสิทธิ์ทุกอย่างในตัวฉัน ฉันก็มีสิทธิ์ทุกอย่างในตัวนาย จำเอาไว้เลยอีทงเฮ ข้อแรกที่ควรจำไว้คือ อย่าปล่อยฉันไว้กับคนที่จะเข้ามาจีบฉัน เข้าใจไว้ซะ !”
ทงเฮนิ่วหน้าเพราะคยูฮยอนกระแทกหน้าผากเบาๆ ก่อนจะยิ้มแป้นผิดกับการทำหน้าเหงาหงอยเป็นเด็กถูกทิ้งเมื่อกี้ คยูฮยอนยกมือลูบแก้มเด็กแคระที่นอนอยู่ข้างใต้ร่างสูงเลือกที่จะก้มหน้าลงมาเรื่อยๆ มือทงเฮเผลอกำแขนเสื้อคยูฮยอนไว้แน่น
“ เฮ้ย ไปกินข้า… เอ่อ ไม่ทราบว่าเพื่อนทั้งสองทำอะไรกันอยู่ ? ”
ซองมินชะงักค้างอยู่หน้าประตูเมื่อเห็นภาพที่อยู่บนโซฟาคยูฮยอนและทงเฮหันมามองหน้ากันแล้วหัวเราะก่อนที่เด็กแคระจะดันตัวคยูฮยอนให้ลุกขึ้นไปนั่งดีดี
“ เล่นเกมส์ตอบคำถามกันอยู่ ”
“ กติกาใครแพ้โดนจูบงั้นสิ ”
“ มีอีกข้อใครขัดจังหวะโดนเตะ ”
ซองมินยกมือตั้งการ์ดทำท่าจะต่อยคยูฮยอนที่จะพุ่งเข้ามาจริงๆ กว่าเหตุการณ์จะสงบซองมินก็ชวนทุกคนไปกินข้าวเพราะนัดคังอินกับพี่อิทึกไว้แล้วส่วนซีวอนและฮยอกแจไปกินกันสองคนง้องอนกันไม่เลิก ซองมินเดินคุยโทรศัพท์กับคังอินนัดแนะเรื่องสถานที่จนซองมินเดินออกไปนอกประตู
ทงเฮทำท่าจะเดินออกไปบ้างแต่อยู่ดีดีคยูฮยอนก็ปิดประตูห้องซ้อมก่อนจะคว้าร่างของเด็กแคระพิงประตูพร้อมกับยกมือกลั้นตัวไว้ทงเฮจะอ้าปากเถียงแต่ก็ยอมเงียบลงเพราะสายตาคยูฮยอนทำให้เขินมาซะดื้อๆ คยูฮยอนไล้มือไปตามแก้มใสที่เริ่มแดงขึ้นมาทีละนิด แต่พอจะก้มลงไปเสียงเคาะประตูจากข้างนอกพร้อมเสียงเรียกของซองมินทำให้คยูฮยอนถอนหายใจอีกรอบ ทงเฮเลยหัวเราะก่อนจะตบแก้มคยูฮยอนเบาๆ ร่างสูงตั้งใจจะผละออกไปแต่อยู่ดีดีเด็กแคระก็รั้งปกเสื้อคยูฮยอนลงมาพร้อมกับจูบเบาๆ ทีหนึ่งก่อนจะเปิดประตูห้องซ้อมออกไปทิ้งคยูฮยอนยืนอยู่กับที่แล้วหัวเราะออกมา
“ จูบแค่นี้ ? ไอ้เด็กแคระเอ๊ย ”
I knew I loved you before I met you
I think I dreamed you into life
I knew I loved you before I met you
I have been waiting all my life
เสียงสายฝนที่ดังกระทบหน้าต่างรถทำให้ฮยอกแจห่อตัวมากกว่าเดิมเพราะอากาศข้างนอกหนาวมากจริงๆทั้งๆที่อากาศหนาวมากจะตายอยู่แล้วแต่อยู่ดีดีฝนก็ยังตกลงมาอีก ทันทีที่ถึงหน้าบ้านฮยอกแจ ซีวอนเอื้อมมือไปหยิบร่มจากเบาะหลังก่อนจะเปิดประตูไปรับฮยอกแจอีกด้านฝนไม่ได้ตกแรงมากนัก เลยไม่ได้เปียกอะไรมาก ซีวอนกางร่มให้ฮยอกแจที่ลงมายืนตรงข้างกำแพง ฮยอกแจกำลังจะเดินไปเปิดประตูบ้านแต่อยู่ดีดีก็หันกลับมาหาซีวอนที่กางร่มให้
“ หายโกรธหรือยัง ”
“ ถ้าบอกว่ายัง ”
ฮยอกแจยู่หน้าก่อนจะเดินเข้ามาหาซีวอนใกล้ๆไหล่ซีวอนเริ่มเปียกฝนเพราะร่างสูงเอียงร่มมาทางฮยอกแจมากกว่าซีวอนมองคนตรงหน้าท่าทางจะเป็นไม้ตายการง้อขั้นสุดท้ายเพราะตอนนี้ฮยอกแจเขยิบเข้ามาใกล้กันมากๆ
“ ที่ฉันไม่บอกนายเรื่องมินโฮ เพราะฉันไม่สนใจ ไม่คิดจะใส่ใจอยู่แล้วไม่อยากให้นายคิดมาก ฉันแคร์นายคนเดียวนะซีวอน ”
ซีวอนยิ้มบางๆเขาไม่ได้โกรธฮยอกแจจริงจังแต่ก็น้อยใจบ้าง มีคนมาจีบฮยอกแจถึงขนาดมีเบอร์โทรศัพท์ขนาดนี้ก็ต้องโมโหเป็นธรรมดาและยังจะมีการมากินข้าวด้วยกันอีก มันทำให้เขาควบคุมอารมณ์ไม่ค่อยอยู่ ซีวอนยกมือข้างที่ว่างไล้ตามแก้มใสของฮยอกแจที่โดนละอองฝนเบาๆ
“ ฉันอยากให้นายบอกฉันทุกเรื่อง ไม่ว่าจะมีใครเข้ามาหาหรือเรื่องอะไรก็ตาม ฉันก็แคร์นายมากนะฮยอกแจ ”
ฮยอกแจยิ้มให้ซีวอนก่อนจะพยักหน้าเบาๆ สายฝนยังไม่หยุดตกฮยอกแจเองยังยืนอยู่อย่างนั้นมันใกล้ซะจนเห็นเงาตัวเองในดวงตาของซีวอน จนซีวอนหัวเราะออกมาเมื่อเห็นว่าฮยอกแจเงียบไปไม่ยอมพูดอะไรอีก
“ ได้เห็นนายง้อขนาดนี้ก็รู้สึกดีนะ กลัวฉันไม่รักล่ะซิ ”
“ นายก็โกรธไม่จริง กลัวฉันไม่รักเหมือนกันล่ะน่า ”ฮยอกแจเขยิบเข้ามาพูดใกล้คล้ายจะล้อ
“ ฮยอกแจ เข้ามาใกล้กว่านี้เป็นเรื่องแน่ๆ ”
ฮยอกแจหยุดมองหน้าซีวอนแทนที่จะถอยตัวออกไปแต่กลับเขยิบเข้ามาใกล้ซีวอนมากกว่าเดิม
“ ดีกันนะ ซีวอน ”
ซีวอนหัวเราะเบาๆเพราะฮยอกแจท่าทางจะแกล้งเขาเต็มที่ร่างสูงใช้มือข้างที่ว่างรั้งเอวบางเข้ามาใกล้ๆจนฮยอกแจยืนชิดอยู่กับอกแกร่งร่างสูงก้มลงมามองหน้าฮยอกแจที่ตอนนี้เม้มปากคล้ายจะทำอะไรไม่ถูก ซีวอนก้มลงจูบเบาๆที่หน้าผากฮยอกแจเบาๆก่อนที่ริมฝีปากจะเลื่อนมาที่ปลายจมูก ฮยอกแจเหลือบตามองซีวอนเพราะรู้ดีว่าซีวอนหมายความว่ายังไงแก้มใสแดงกล่ำก่อนที่ดวงตาหลับลงเมื่อริมฝีปากถูกซีวอนกดจูบลงมา บนริมฝีปาก มือแกร่งกระชับให้ฮยอกแจแนบชิดมากกว่าเดิม ซีวอนขบเม้มอยู่แค่ภายนอกยังไม่ได้ล่วงเกินไปมากกว่านั้น ด้านหลังซีวอนเปียกไปด้วยละอองฝนเพราะร่มในมือถูกถือมาบังให้ฮยอกแจทั้งตัว มือบางที่ตกข้างลำตัวยกขึ้นมากำเสื้อซีวอนไว้แน่นๆ เมื่อรู้สึกว่าซีวอนจะเพิ่มน้ำหนักกดจูบให้ลึกซึ้งมากกว่าเดิม ซีวอนตัดสินใจปล่อยร่มในมือให้หล่นลงพื้นก่อนจะยกมือประคองศีรษะให้ฮยอกแจรับจูบได้ถนัด ละอองฝนที่กระทบบนผิวแก้มไม่ได้ทำให้ทั้งคู่รู้สึกตัว จนกระทั่งฮยอกแจต้องทุบซีวอนเบาๆคล้ายจะบอกว่า จะหมดลมหายใจในไม่กี่นาทีซีวอนเลยผละออกเพียงนิดเมื่อเห็นว่าฮยอกแจจะขาดอากาศจริงๆ ฮยอกแจหอบใจหายเบาๆแต่ก็เพียงแค่แป๊บเดียวก่อนที่ซีวอนจะกดจูบลงมาใหม่ แต่ครั้งนี้อาจจะไม่ได้ลึกซึ้งเหมือนครั้งแรกแต่ก็ทำให้ฮยอกแจแทบจะละลายได้เหมือนกัน
“ เปียกฝนจนได้ ” ซีวอนพูดชิดริมฝีปากบางที่ตอนนี้แดงกล่ำฮยอกแจยกมือปาดน้ำฝนที่หล่นกระทบบนแก้มตัวเองเบาๆก่อนจะยกมือเช็ดให้ซีวอนด้วยเช่นกันก่อนที่ร่างสูงจะรั้งฮยอกแจมากอดไว้แน่นๆ
“ อย่าทะเลาะกันอีกนะ ” เสียงอู้อี้ตรงอกทำให้ซีวอนพยักหน้าพร้อมกับกระชับกอดฮยอกแจให้แน่นมากว่าเดิม ร่มสีฟ้ายังตกอยู่ที่พื้นโดยที่เจ้าของไม่คิดจะก้มลงไปเก็บเลยสักนิด
ช่างเถอะ …. ถึงอากาศจะหนาว
แต่เชื่อเถอะนะตอนนี้ทั้งคู่อบอุ่นมากกว่าใครๆ แน่นอน
siwon407 SiwonChoi
ป่วย ..
AllRiseSilver Hyuk Jae
ไม่สบาย..
Never Ending Story
thanks : เพลง http://writer.dek-d.com/doc_teeth19/story/view.php?id=208619
Author note : โอ๊ยยยยยยยย เขิน >//<
ความคิดเห็น