[SF] Junseung # สร้อยคู่...(2)The end - [SF] Junseung # สร้อยคู่...(2)The end นิยาย [SF] Junseung # สร้อยคู่...(2)The end : Dek-D.com - Writer

    [SF] Junseung # สร้อยคู่...(2)The end

    กลับมาอีกครั้งกับบทสรุปของสร้อยคู่ ฟากติดตามด้วยน้า^^

    ผู้เข้าชมรวม

    1,156

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    5

    ผู้เข้าชมรวม


    1.15K

    ความคิดเห็น


    18

    คนติดตาม


    8
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  21 พ.ค. 55 / 21:41 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      เราเป็นนักเขียนมือใหม่มากๆ กับเรื่องที่สองเรื่องนี้ "สร้อยคู่ 2"
      เราอยากได้คอมเม้นเล็กๆน้อยๆ ติชมบ้างไรบ้าง  เป็นกำลังใจให้กันเนอะ

      ...รักบิวตี้ทุกๆคน...

      [SF]     Junseung   # สร้อยคู่...(2)
       
      ผมพยายามทำชีวิตให้เป็นปกติ พยายามทำเหมือนไม่ได้มีความผิดปกติอะไร
      ผมเพิ่งรู้นะครับ ว่าการที่เราฝืนความรู้สึก แสดงในสิ่งตรงข้ามกับความจริง...
       
       
      มันเจ็บมากกว่า...การยอมรับความจริง...
       
       
      ความเป็นจริงที่ผมสมควรยอมรับ...แต่ผมกลับทำไม่ได้
       
       
      วันนี้ ผมปลีกตัวออกจากเพื่อนๆในกลุ่มออกมาซื้อของใช้ ของกินอะไรเรื่อยเปื่อย เพราะไม่อยากให้ทุกคนสงสัยผมไปมากกว่านี้
       
       
       
       
      ...ก็ผมโกหกไม่เก่งนี่ครับ...
       
       
      .......................................................................
       
       
      “อ้าว กีกวังจะไปถ่ายละครแล้วหรอ” ทันทีที่ผมก้าวเข้าห้อง กีกวังก็เดินสวนออกมาพอดี
      “อืม ไปก่อนนะฮยอนซึง^^” รอยยิ้มที่สดใสของเพื่อนตัวเล็ก เรียกร้อยยิ้มบนหน้าผมได้อีกครั้ง
       
       
       
      “พี่กีกวัง!!! รอด้วยคร๊าบบบ” กีกวังเดินจะถึงตัวลิฟ มักเน่ของกลุ่มก็วิ่งตามออกมาทันที
       
      “เดี๋ยว! จะไปไหน?” ผมรั้งถาม
       
       
      “ไปส่งพี่กีกวังครับ ไปก่อนนะพี่ฮยอนซึง”
       
       
       
       
       
       
       
      ปึง~
       
      ตอนนี้ ในหอพักคงเหลือผมอยู่คนเดียวแล้วหละ   ก็ดูจุนกับโยซอบไปออกรายการเกมส์โชว์ ส่วนอีกสองคนเพิ่งไปเมื่อกี้นี้
      จุนฮยองก็คงออกไปเร็ปให้ชาวบ้านเค้าตามเคย
       
       
       
       
      แคร้งงงงง
       
       
      มีคนอยู่ในห้อง!
       
       
      ว่าแต่ใครกัน?
       
      ผมเดินตามเสียงของอะไรสักอย่างที่ตกกระทบพื้น จนถึงระเบียงหอพัก...
       
       
       
       
      ...จุนฮยอง...
       
       
       
      คนที่ผมไม่อยากเผชิญหน้ามากที่สุด กลับมาอยู่กับผมสองคน...
       
       
       
      “ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วยว่ะ!” เค้าพูดขึ้นมาเบาๆ แล้วกระแทกก้นแก้วลงพื้น น้ำเสียงเค้าตอนนี้ทำให้ผมรู้เลยว่าเค้าเมา น่าจะมากด้วย
       
       
       
      ผมไม่อยากสนใจเค้าให้ตัวเองเจ็บอีกแล้ว 
       
       
       
      ...คนเราทำดีให้มากขนาดไหน ถ้าคนรับไม่ได้ใส่ใจมันก็เหมือนกับเอาน้ำไปลดต้นไม้ที่ตายแล้ว ถ้ามันตายแล้ว ไม่ว่าเราจะดูแลยังไง มันก็ไม่สร้างดอกไม้ให้เราดูหรอก...
       
       
       
       
      แล้วมีเหตุผลอะไรที่ผมจะไปสนใจ?
       
       
       
       
       
       
       
       
      “เป็นไรไป?” ต่อให้ผมมีข้ออ้าง มีเหตุผลที่จะไม่อยากทำขนาดไหน 
       
      สุดท้าย...ผมก็แพ้ใจตัวเองทุกที แพ้หัวใจที่รับความเป็นจริงไม่ได้...แพ้ความเป็นห่วง แพ้ให้กับเค้า
       
      “ฮยอนซึง” เค้าหันมามองผมที่นั่งลงข้างๆเค้าช้าๆ ก่อนจะพูดสิ่งที่น่าจะอยู่ในใจเค้าออกมา
       
       
      “ทำไมวะฮยอนซึง ฉันผิดด้วยหรอที่มีแฟน...”
       
       
      ‘แฟน’ คนๆนั้นเค้าคือเหตุผลที่นายมาเมาแบบนี้หรอกหรอ
       
       
      “มันผิดมากเลยหรอฮยอนซึง!!”
       
      “…..” ชั้นไม่รู้จุนฮยอง ไม่รู้เลยจริงๆ
       
      “ทำไมเค้าต้องต่อต้านด้วยวะ”
       
      “นาย...หมายถึงแฟนคลับหรอ?”
       
       
      “...” คงใช่แล้วหละ ผมก็ติดตามข่าวของเค้าตลอด ก็พอรู้ว่ามีกลุ่มแอนตี้เกิดขึ้น ผมไม่อยากพูดประโยคที่ผมเคยทำนั้นคือ ความพยายาม พิสูจน์ให้เค้ายอมรับ
       
       
      ...ผมเห็นแก้ตัว...ผมรู้...
       
       
      “นายรู้ไหมฮยอนซึง ว่าการที่เรามีความรัก  การที่เราใด้ใช้เวลาร่วมกันกับเค้า...มันมีความสุขมากขนาดไหน นายรู้ไหมชั้นมีความสุขขนาดไหนที่ได้อยู่กับเค้า แม้จะในช่วงเวลาสั้นๆแต่ชั้นก็มีความสุขมาก” เค้าพูดด้วยรอยยิ้มบางๆ
       
       
       
       
      รู้... ฉันรู้ดี แล้วนายหละเคยรู้ไหมว่าฉันมีความสุขขนาดไหนที่ได้อยู่กับนาย
       
       
       
       
       
      “แต่ความสุขที่เราจับต้องได้ มันถูกกีดกันมันเจ็บปวดมากนะ จับต้องได้ แต่ไม่ควรจับ แม่งเจ็บหวะ”
       
      “…..” ฉันว่าฉันเจ็บกว่านายนะจุนฮยอง
       
       
      “เหอะ! ลืมไปนายมันจะไปเข้าใจอะไร” ที่เค้าพูดออกมานั้นเค้าตั้งใจว่าผม หรือเมาจนไม่รู้ตัวว่าพูดอะไรออกมา
       
       
      ทำไม? คนอย่างฉันมันเจ็บเพราะความรักไม่เป็นหรือไง!!
       
       
      “จุนฮยอง...”
      “อือ”
      “นายรู้ไหมว่าชั้นชอบดาวมาก”
      “รู้สิ ก็นายเป็นเพื่อนรักชั้นนิ”
       
       
       
       เกลียดจังคำๆนี้ ผมหละอยากร้องไห้จริงๆ
       
       
       
      “แต่ตอนนี้ สิ่งที่ชั้นเกลียดมากที่สุด...ก็คือดาว”
      “???” เค้าหันมามองหน้าผมทันที
      “เพราะ...ชั้นเห็นว่าดวงดาวอยู่ตรงนั้น อยู่ตรงหน้าชั้น...แต่พอชั้นเอื้อมมือจะไปหยิบมัน ชั้นกลับทำแบบนั้นไม่ได้ ฉันหยิบดาวมาไว้ที่ฉันไม่ได้...” แย่หละสิ เสียงผมสั่น อุตสาพยายามจะกลั้นความรู้สึกทั้งหมดไว้แล้ว
       
       
       
      “นาย......พูดเหมือนนายไปชอบใครเลยนะฮยอนซึง”
       
       
       
      ...ก็นายไง...จุนฮยอง...
       
       
       
      ผมเลือกที่จะหันไปยิ้มให้เค้าก่อนจะพูดต่อ
       
      “แต่ตอนนี้...นายสามารถจับดาวดวงนั้นได้ นาย...นาย...นายต้องรักษาไว้หละ ดูแลเค้าดีๆ ดวงดาวดวงนั้นมันคือของนายนะ”
       
       
      หน้าที่ที่ผมต้องทำ ...หน้าที่ของเพื่อน...
       
       
       
      ผมทำถูกแล้วใช่ไหมครับ...
       
       
       
      พอผมละออกมาอาบน้ำ กลับมาอีกที โยซอบกับดูจุนก็มานั่งเป็นเพื่อนจุนฮยอง ผมจึงเลือกที่จะเข้านอน
      เวลาผ่านไปพอควร ผมก็ยังคงหลับไม่ลง จนดูจุนและโยซอบมานอนแล้ว
       
      ทั้งสองคนเข้าห้องนอนมาแล้ว...
       
       
      แล้วจุนฮยองหละ!
       
      รอเวลาจนผ่านมาครึ่งชั่วโมง เค้าก็ยังไม่เข้ามา เลยตัดสินใจออกไปดู
       
       
      จุนฮยองยังคงอยู่ที่เดิม นอนกอดขวดเหล้าอยู่...
       
      เฮ้ออออออ ทำไมผมต้องมาลำบากแบกไอห้อยนี่ด้วยเนี่ย
       
      ผมว่าผมควรจัดการเค้าก่อนดีไหม กลิ่นเหล้าที่ตัวเค้าแรงมาก เกินกว่าที่ผมจะนอนด้วยได้ จัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าเค้าแล้วค่อยพาไปนอน กว่าจะถึงเตียงผมก็แย่นะครับ
       
       
       
       
      หลังจากวันนั้น  จุนฮยองใช้เวลากับการกินเหล้าทุกวัน ผมกลัวว่าเค้าจะเป็นตับแข็งตายจริงๆ แล้วที่แย่กว่านั้นคือในทุกๆครั้งที่เค้าเมา ผมต้องแบกมานอนทุกครั้ง = =
       
       
       
       
       
       
       
      “ฮยอนซึง~”
      “ดูจุน! โยซอบ!”   ผมคิดว่าทุกคนหลับแล้ว ในคืนหนึ่งที่เหมือนเป็นกิจวัตรที่จะต้องแบกไอห้อยมานอน แต่ว่าพวกเค้ายังไม่หลับ! และไม่ใช่แค่สองคนที่ผมเห็นแค่นั้น ทั้งกีกวังและดงอุนก็ยังไม่ได้หลับ
       
      “ไม่เหนื่อยหรอที่ทำแบบนี้” ดูจุนถามผมด้วยคำถามที่มีความหมายแฝงไว้…..แต่ผมไม่เข้าใจ
       
       
      “ไม่เหนื่อยหรอที่ต้องคอยดูแล คอยทำดีให้กับคนที่ไม่รับรู้อะไรเลย...”
      “นาย...หมายความว่าไง?” ดูจุนถามผมเหมือนรู้ทุกอย่าง
       
      “ซึงอา...นายหนะดูออกง่ายจะตาย พวกเรารู้ ว่านายคิดยังไงกับจุนฮยอง” โยซอบพูดต่อจากดูจุน คำพูดที่ทำให้ผมอึ้ง ถ้าทุกคนรู้ แล้วจุนฮยองหละ!
       
       
      “นะ นาย พวกนายหมายความว่าไง   ที่ว่ารู้? ... แล้ว ...” ผมก้มมองหน้าคนที่หลับอยู่คนเดียวในห้อง
      “ไอจุนมันกำลังมีเรื่องให้คิดมาก มันคงไม่รู้หรอก....มั้ง” มันจะดีกว่านี้นะดูจุนถ้าไม่มี ’มั้ง’
      “เออ...ผมว่าพวกเราออกไปคุยข้างนอกดีกว่านะครับ ปล่อยให้ฮยองหลับต่อไปเถอะ เพราะเดี๋ยวจากไม่รู้  จะรู้จนได้” เป็นความคิดที่ดีจากดงอุน พวกเราเลยอพยพไปข้างนอก แต่ผมขอออกไปที่หลังเพราะต้องจัดการไอขี้เมาก่อน
       
       
       
      “ฮยอนซึง...จุนฮยองถามชั้นทุกเช้าเลยว่าที่เค้าเมาหนะ ใครพามานอนที่ห้อง...” ผมตกใจสุดขีด ตาที่โตคงโตเท่าไข่ห่านมากกว่าเดิมอีก
      “เฮ้ย!ๆๆ แต่ชั้นไม่ได้บอกอะไรหรอกนะ คิดว่านายคงไม่ต้องการ...ใช่ไหม?” ประโยคถัดไปของดูจุนเรียกความโล่งอกของผมได้ขึ้มมานิดนึง ผมคิดว่าไม่ให้จุนฮยองรู้ว่าเป็นผมดีที่สุด เพราะถ้าเค้ารู้ว่าผมเป็นคนดูแลเค้า เรื่องอื่นๆเค้าอาจจะรู้มากกว่าเดิม แต่ผมคงต้องหาใครสักคนแล้วหละที่จะมาช่วยผม...
       
       
       
      “โยซอบ” คนที่ผมเลือกเป็นคนๆนี้น่าจะเหมาะที่สุดเพราะทั้งคู่ก็ดูสนิทกัน
      “ว่าไง”
      “เป็นนายนะ...ทุกคนช่วยบอกเค้าว่าเป็นโยซอบนะ...ฉันขอร้อง”
       
       
      “เฮ้ย!! ไมเป็นงั้นหละฮยอนซึง!!” พวกผมทุกคนตกใจกันหมดหันไปมองไอคนที่โวยวายคนแรก..ซึ่งไม่ใช่โยซอบ กลับเป็น...ดูจุน...
       
      “เออ...คือ...ถะ...ถ้างั้นไอจุนมันก็ไม่รู้นะสิว่านายดูแลมัน” ประโยคต่อมาของหลีดเดอร์ดูติดๆขัดๆนะ
      “ก็ฮยอนซึงบอกว่าไม่อยากให้จุนฮยองอารู้ไง ดูจุน!” โยซอบหันไปตีหน้ายักษ์ใส่แล้วหันมารับปากผม และพวกเราก็ตกลงกันไปนอน ส่วนกีกวังนั้นหลับตั้งแต่ออกมานอกห้องแล้วหละ ไม่รู้เหมือนกันจะออกมาทำไม จึงต้องลำบากมักเน่อีกตามเคยให้พาไปนอน
       
       
      ตั้งแต่จุนฮยองรู้ว่าคนที่ดูแลเป็นโยซอบเค้าสองคนก็สนิทกันมากขึ้น และเลิกดื่มเพราะสงสารโยซอบที่ต้องคอยมาดูแล ทั้งๆที่ผมเป็นคนเสนอความคิดแบบนั้นเอง แต่มันก็อดไม่ได้ที่จะน้อยใจ ก็ผมกับเค้าคุยกันวันไม่ถึงสามครั้งด้วยซ้ำ จากเมื่อก่อนที่ผมกับเค้าอยู่ด้วยกันตลอดกลับเป็นว่าตอนนี้เค้าอยู่กับโยซอบตลอดเวลาก็ว่าได้
       
       
       
       
      เจ็บเนอะ เวลาทำอะไรให้เค้าแต่เค้าไม่ได้รู้เลย แต่อย่างน้อยก็ได้ดูแล...ดีแล้วหละฮยอนซึง แค่นี้ก็ดีแล้ว แล้วก็เลิกเถอะเลิกยุ่งกับเค้าเถอะ พอแล้ว เจ็บมากกว่านี้ไม่ไหวแล้ว...
       
       
       
       
       
       
      “ไปไหนมาฮยอนซึง!”
      “จุนฮยอง” เค้าถามผมหลังจากที่ผมก้าวเข้ามาในหอพัก ผมเพิ่งกลับมาถึง ผมเหนื่อยที่จะต้องเห็นคนที่เรารักอยู่กับคนอื่นที่ไม่ใช่เรา รู้ว่าไม่ได้มีอะไรมากเกินเพื่อน แต่ผมอดที่จะรู้สึกไม่ได้ เลยเลือกที่จะไปที่บ้านของซึงรีเพื่อนผมเพื่อผ่อนคลายอารมณ์บ้าง
       
      “ไปไหนมา! ทำไมถึงกลับดึก!” เค้าขึ้นเสียงใส่ผม ผมว่าผมเลิกสนใจดีกว่า เลยเลือกที่จะเดินผ่านเข้าไปอาบน้ำ
       
      “ชั้นถามว่าไปไหนมา!!” จุนฮยองกระชากแขนผมด้วยแรงที่มากพอจะทำให้ผมเซ่มาอยู่ข้างๆเค้า น้ำเสียงเค้าฟังดูโมโหชอบกล ชั้นทำอะไรให้นายอีกเนี้ย!
       
      “จุนฮยองปล่อย! ชั้นเจ็บ!” ผมไม่ได้สำออยนะ ก็แรงที่แขนของผมมันมากกว่าเดิม
       
      “ตอบชั้นมา!!”
      “มันเรื่องของชั้น! นายอย่ามายุ่ง!” ใครจะยอมให้ตะคอกฝ่ายเดียวกันหละ ผมพยายามสบัดแขนออกจากมือเค้าแต่ก็ไม่เป็นผล จนกระทั้ง...
       
      “ทำอะไรกันเสียงดังเชียว?” กีกวังออกมาจากห้องนอน เค้าจึงปล่อยแขนผมแล้วออกจากห้องไป ส่วนผมหนีไปนอนก่อนดีกว่าขี้เกียจพูดถึงเค้า
       
       
       
       
       
      ...ทำไมต้องทำเหมือนเป็นห่วง...ใบหน้าของจุนฮยองที่กำลังโมโหโผล่เข้ามาในหัวของผมอีกครั้งหลังจากที่พยายามข่มตาหลับ
       
       
      ...ทำไมต้องรอชั้นกลับมา... ผมว่าผมคิดไม่ผิดนะว่าเค้ารอผมก็เค้านั่งหน้าโทรทัศน์  แต่มันไม่ได้ถูกเปิดไว้
       
       
      ....คิดไปเอง....
       
       
      เลิกคิดเถอะยิ่งคิดยิ่งเจ็บ..........
       
       
       
       
       
       
       
      กึก กึก 
       
       
      “อือ~” ขณะที่ผมหลับไปได้สักพักก็รู้สึกตัวอีกครั้ง ทั้งๆที่ไม่อยากลืมตาเลยสักนิด แต่อะไรบ้างอย่างกระตุ้นให้ผมต้องเปิดตา
       
      “เฮ้ย!”
       
       
       
      เกิดอะไรขึ้น! 
       
       
       
      นี่มันอะไรกัน!
       
       
       
      ดวงตาที่พร่ามัวชัดขึ้นทันที!
       
      จำได้! จำได้ดี!
       
       
       
      “จุนฮยอง!!!”
       
      “หยุด!! ปล่อยนะเว้ย!! จุน!!” ผมหวีดร้องอย่างตกใจที่ลืมตาขึ้มก็เจอกับจุนฮยอง กลิ่นเหล้าคละคลุ้งไปทั้งตัว...เค้าเมา...แต่นั้นมาใช่ประเด็นเพราะต้อนนี้เค้ากำลังจะข่มขืนผม!!
       
      ริมฝีปากร้อนตรงเข้ามาหมายจะจูบ แต่ผมยกมือดันออกทัน สองมือกระชากเสื้อกล้ามที่ผมใส่นอนจนขาดเผยให้เห็นแผ่นอกเปลือย ดูเหมือนเค้าจะขาดสติไปแล้ว
       
      “จุน!! อย่า!!” เค้าฝั่งริมฝีปากบริเวรรอบคอ ผมสาบานได้ว่าผมขัดขืนหันหน้าหนีเค้าแล้ว แต่กลับเป็นการเปิดทางซะงั้น ยกมือดันตัวออกก็ถูกจับตรึงกับเตียง
       
      โถ่โว้ย!! ผมดิ้นสุดแรงตะโกนสุดเสียงยังไงๆคนอื่นๆในกลุ่มต้องได้ยินแน่ๆ และก็เป็นกีกวังที่นอนอยู่ใกล้ที่สุดลุกขึ้นมาโวยวายเรียกสมาชิกคนอื่นๆให้ลุกขึ้นช่วยผม
       
      ดูจุนและดงอุนที่ตัวใหญ่กว่าไอบ้านี้ดึงตัวออกไปได้สำเร็จ ผมรีบลุกขึ้นทันที โมโห! โมโหมาก สองมือกระชากเศษเสื้อที่ยังคงอยู่บนตัวออกแล้วขว้างลงพื้นทันที!
       
       
      เพี๊ยะ!!! 
       
       
      ตรงเข้าง้างมือซัดลงไปบนหน้าของจุนฮยองแบบไม่ยั้ง คิดว่าชั้นเป็นใคร!?  เป็นตัวอะไรที่นายมีสิทธิมาทำแบบนี้!
      ความโกรธมากขึ้นกว่าเดิม ถ้าดงอุนไม่คว้ามือผมไว้ก่อน ผมซัดมันจริงๆแน่!
      “พอแล้วฮยอง!  พอแล้ว!”
      “ปล่อยชั้นดงอุน!”   ปล่อยได้ไหม! ชั้นจะฆ่ามัน! ผมไม่ยอม ยังคงดิ้นให้หลุดจากแขนดงอุนที่ล็อคตัวผมไว้
       
       
       
       
      แต่แล้วผมก็ต้องสงบลงแค่คำๆเดียว..
       
       
       
       
      “ขอโทษ...” คำเดียวจริงๆจากปากจุนฮยอง จากนั้นเค้าก็เดินออกจากห้องไป จนกระทั้งเช้าของอีกวันเค้าก็ยังคงไม่กลับมา
       
       
       
       
      โกรธสิฮยอนซึง! นายสมควรที่จะโกรธเค้าสิ! แต่ทำไม ทำไมถึงเป็นห่วงได้มากขนาดนี้ เค้าทำกับนายแบบนั้นนายต้องโกรธเค้าสิ!
       
       
       
      “ดงอุน! จุนฮยอง!”
       
      จุนฮยอง!!... สองขาก้าวเร็วมาทีหน้าหอพัก ดงอุนพยุงจุนฮยองเข้ามา เค้าหน้าซีดมาก ซีดจนน่าเป็นห่วง ผมรีบเข้าไปช่วยดงอุนทันที
       
      ...ตัวร้อน... สัมผัสแรกที่รับรู้ได้
       
       
      “พาไปนอนที่เตียงเร็วดงอุน! โยช่วยเอาน้ำกับผ้ามาให้ชั้นที!” ผมสั่งพัลวัน ไม่รู้หรอกว่าอาการหนักหรือเปล่า แต่คนเป็นห่วงแค่เป็นไรนิดหน่อยก็เห็นเป็นเรื่องใหญ่หมด
       
       
      “ผมเจอฮยองนอนหมดสติบนดาดฟ้าตึกอะครับ”
      “แล้วนายขึ้นไปทำไมบนนั้น?”
      “ไปออกกำลังกาย...”
      “....”
      “กับพี่กีกวัง” -/- 
      ดงอุนกับโยซอบคุยกันข้างหลังผม ผมไม่ได้สนใจหรอก ผมสนใจคนตรงหน้าผมมากกว่า ตัวร้อนมากจนต้องรีบเช็ดตัวเพื่อลดไข้
       
       
       
       
      “เฮ้อออ” ค่อยยังชั่วไข้เค้าลดมาแล้ว หันมาอีกทีทั้งโยซอบ ดงอุนก็หายไปแล้ว ส่วนดูจุนออกไปซื้ออาหารเช้า เอาไงหละทีนี้เหลือผมคนเดียวที่ต้องดูแลจุนฮยอง แล้วผมต้องทำยังไงก่อนหละ
       
       
      อันดับแรกต้องหาอะไรก็ได้รอเค้าตื่นขึ้นมาจะได้กินยา แต่...ผมทำกับข้าวไม่ค่อยเป็น - -*
      ถ้าข้าวต้มก็พอไหว...  
       
       
      แต่ในตู้เย็นไม่มีอะไรเลย T^T  นอกจาก...ขนมปัง
       
       
      เอาวะนี้ก็ได้ ผมเลยเตรียมขนมปังออกมาไว้รอเค้าตื่น แล้วเดินกลับเข้าห้องนอนอีกครั้ง สายตาเหลือบไปเห็นเสื้อตัวเมื่อคืนที่กลายเป็นเศษผ้าแล้วนึกโมโหอีกรอบ เผลอกำมือจนเล็บจิกมือตัวเองไม่รู้ตัว อยากจะเข้าไปต่อยอีกซักรอบ ถ้าไม่ติดว่าป่วยนะ
       
       
      ...ป่วย...
       
       
      จากตอนแรกที่หน้าซีดแต่ตอนนี้กลับแดงมากกว่าปกติ! ไข้ขึ้นมาอีกครั้งและเป็นอีกครั้งที่ผมต้องรีบหาผ้ามาเช็ดตัวเค้า จนอาการดีขึ้น
       
       
      ว่าแต่...แล้วคนอื่นๆไปไหนกันหมดไม่เห็นมีใครกลับมาสักคน?
       
       
      “เฮ้ย!” 
       
      ตกใจสิครับกำลังคิดอะไรเพลินๆ จู่ๆก็ถูกไอร้อนจากมืออีกคนจับมือผมที่เช็ดตัวเค้าอยู่ จุนฮยองรู้สึกตัวแล้ว หลังจากหลับไปนานกว่าสองชั่วโมง
       
      “ตื่นแล้วหรอ ไปกินข้าวกิน ยาเถอะ” ผมยังคงเคืองเรื่องเมื่อคืนไม่หายแต่ก็อดที่จะเป็นห่วงไม่ได้
       
      “...” เค้ายังคงเงียบ ผมเลยเลือกที่จะเดินออกไปเอาขนมปังที่เตรียมไว้กับยามาให้ แต่ก็ถูกจับมืออยู่แบบนั้น แรงบีบมากขึ้น ตาเรียวจับจ้องผมไม่วางตา จนผมหวันไหวอีกครั้ง ใจเต้นแรงอีกครั้งหลังจากที่ผมไม่มีอาการนี้ตั้งแต่พยายามเลิกสนใจเค้า 
       
       
      มันทำให้ผมรู้ว่าผมไม่สามารถตัดเค้าออกจากใจได้เลย...
       
       
      “ฮยอนซึง” เค้าเรียกชื่อผมด้วยเสียงที่แหบลงกว่าเดิม
       
      ผมแค่เพียงชายตาไปมองแค่นั้น
       
      “ขอโทษ...” ดวงตาคมสั่นไหวเล็กน้อย แค่นั้นใจผมก็อ่อนลงทันที
       
      “เรื่อง?” แต่ผมว่าหยิ่งนิดนึงดีกว่านะครับ
       
      “เรื่องเมื่อคืน...”
      “คิดว่าชั้นคือใครหละ” ผมถามออกไป แต่เหมือนเค้าไม่ได้ฟังที่ผมพูดเลย พูดตัดขึ้นมาทันที แล้วก็คนละเรื่องกับที่ผมถามด้วย
      “ขอโทษสำหรับทุกๆเรื่องที่ผ่านมา ขอโทษที่ไม่เคยรู้เลย ขอโทษที่ชั้นมันโง่ไม่รู้เลยว่านายคือคนที่ดูแลชั้นทุกคืน..” 
       
       
      ฮะ! ว่าไงนะ! เรื่องนั้นนายรู้ได้ไง!
       
       
      “นะ...นาย...” ผมตะลึงมากที่รู้ว่าเค้ารู้ความจริง แล้วรู้ได้ไง!
       
      “ขอโทษที่มองข้ามนายไป...ขอโทษที่ทำร้ายจิตใจ ขอโทษ...”
      “พอเถอะจุนฮยอง” พูดแทรกขึ้นมาทันที และเลือกที่จะหลบสายตาเค้า
      “พอเถอะ นายมันไม่รู้อะไร ไม่ต้องขอโทษหรอก”  นายมันไม่รู้อะไรเลยจุนฮยอง นายไม่รู้ว่าชั้นรักนาย นายไม่รู้ว่าที่ชั้นทำไปทั้งหมดเพราะว่ารัก นายจะขอโทษทำไม มันก็แค่เรื่องเล็กๆน้อยๆแค่นี้...
       
       
      “ก็นายไม่เคยบอก...แล้วชั้นจะรู้ได้ไงฮยอนซึง...”
       
       
      “.....” บอก? แต่ถ้าบอกแล้วนายไม่เหมือนเดิมชั้นจะบอกทำไม?
       
       
       
       
       
       
      “ฮยอนซึง ที่นายเกลียดดาวเพราะชั้นใช่ไหม?” เค้าถามขึ้นท่ามกลางความเงียบ
       
      “....” แย่หละสิ ความแตก
       
       
      “ปล่อยมือชั้นจุนฮยอง” ผมพยายามแกะมือเค้าออก เค้าก็ยอมปล่อยแต่โดยดี ไม่ตอบดีที่สุด ผมเลือกที่จะหันหลังให้ความจริงที่ว่าเค้ารู้แล้วว่าผมคิดยังไง กลับไปอยู่ที่เดิม ที่ที่ไม่รู้ว่าเค้ารู้
       
       
      ผมรีบลงจากเตียงสาวเท้าไปที่ประตูทันที ทันทีที่มือหมุนลูกบิด ผมกลับต้องหยุดลง เพราะคำพูดของจุนฮยอง
      “นายยังอยากหยิบดาวดวงนั้นมาไว้กับนายอยู่ไหมฮยอนซึง...” 
       
       
       
      ให้ความหวังหรอ หรือว่าอะไรอีกหละ
       
       
       
      “ชั้นว่า.....ให้ดาวดวงนั้นมันอยู่ที่เดิมของมันเถอะจุนฮยอง.....ไม่อยากไขว้คว้าลงมาให้เจ็บ” อีกครั้งที่ผมพยายามก้าวออกจากห้อง
       
       
       
      ‘หมับ’
       
       
       
      ผมไม่รู้ว่าเค้าก้าวมาประชิดตัวผมตอนไหน   รู้แค่ตอนนี้ผมถูกแขนแกร่งโอบรัดตัวผมจากด้านหลัง   ไอร้อนจากตัวเค้าทำให้รู้ว่าไข้เค้าขึ้น   คางมนเกยไว้บนไหลผม ลมร้อนที่ขับออกมาย้ำให้ผมรู้ว่าอาการเค้าหนักกว่าเดิม
       
       
       
      “แล้วถ้าชั้นเป็นแค่คนๆหนึ่ง ไม่ใช่ดวงดาวนายอยากได้ไหม ... ถ้านายเป็นแค่คนธรรมดาคนนึงที่หวังจะได้ดวงดาวที่นายไม่มีทางได้มา งั้นชั้นขอเป็นคนธรรมดาที่เคียงข้างนายได้ไหม...ฮยอนซึง”
       
      “......” พูดไม่ออกครับ ใจผมมันเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ พร้อมคำพูดที่ผมยังไม่แน่ใจว่าใช่การสารภาพรักหรือเปล่า
       
      “อย่าให้ชั้นเป็นดวงดาวเลยนะ...เพราะนายนั้นแหละที่เป็นดวงดาว ดวงดาวที่ยอมลดตัวลงมามองคนอย่างชั้น มองคนธรรมดาคนนึงที่ไม่มีอะไร แต่นายรู้ไหมว่าดวงดาวอย่างนาย แสงสว่างจากนายมันทำให้ชั้นเห็นสิ่งที่ชั้นไม่เคยเห็น ได้เห็น ‘หัวใจ’ จริงๆของตัวเองว่าจริงๆแล้วมันอยู่ที่นาย โดยที่ฉันเองก็ไม่รู้ตัว...”
       
      นาย...นายกำลังโกหกฉันอยู่ใช่ไหม?  ...จุนฮยอง... 
       
       
       
       
      น้ำสีใสไหลลงมาช้าๆ ที่หางตา มันตื้นตัน ดีใจอย่างบอกไม่ถูก และแล้วผมก็เก็บกั้นน้ำตาแห่งความดีใจไว้ไม่อยู่ หันกลับมาหาเค้าแล้วโผล่กอดทันที
       
      เพียงแค่คำว่า...
       
      “ชั้นรักนายนะฮยอนซึง...”
       
       
       
       
       
       
       
      หลังจากนั้นสร้อยเส้นเดิมที่ผมเก็บไว้ก็ถูกสวมใส่อีกครั้ง...พร้อมกับคำว่า....
       
       
       
       
       
      “คู่รัก”   ^ ^
       
       
       
       
      ~HAPPY ENDING~
      ***Special Dooseob***
       
      ตั้งแต่ไอจุนมันรู้ว่าโยซอบดูแลมันตอนเมา ไอนี้ทำตัวติดโยซอบตลอด ผมงี้แทบเข้าไม่ถึงตัว 
       
      ยกเว้น........ตอนนอน
       
      เฮ้ย!! อย่าคิดลึกนะครับ ไม่มีอะไรๆ
       
      “โยซอบ” ผมเรียกคนที่นอนข้างๆผมเบาๆ เพราะเดี๋ยวดงอุนตื่น
      “ว่าไง?” โยหันกลับมามองผม
      “บอกจุนฮยองดีไหมว่าจริงๆ แล้วฮยอนซึงเป็นคนดูแลมัน ไม่ใช่นาย”
      “ไม่ดีมั้ง ฮยอนซึงขอร้องไว้นะ” ผมหน้างอใส่ทันที
       
      “แล้วทำไมดูจุนอาจะบอกความจริงหละ?” เด็กน้อยของผมเท้าคางหันมามอง 
       
      แม่งนารักชิบ! เดี๋ยวพ่อจับกดเลยดีไหม!!
       
       
       
       
       
      “ก็หึงนิที่ไอจุนมาเจาะแจะกับโย!” หันหลังให้แล้วหลับเลยดีกว่า นี้ถ้าไม่รู้ว่าคิดยังไงก็ไม่รู้จะพูดว่าไรแล้วนะโยซอบ
       
      0.0
       
      “......”
       
       
      “ก็แล้วแต่ดูจุนอาสิ....เค้า...เค้าก็ไม่อยากให้ดูจุนอาไม่สบายใจเหมือนกัน” -/- ว่าแล้วโยซอบก็นอนหันหลังกัดผ้าห่มแก้เขินเงียบๆคนเดียว....ส่วนดูจุนยิ้มแก้มแทบปริ
       
       
       
       
       
       
      อ๊ากกกกกกกกกกกกก แล้วทำไมผมกับกีกวังอาต้องนอนห่างกันด้วยเนี้ยยยยยยยย >>> ดงอุนที่แอบได้ยินบทสนทนาทั้งหมดT^T







      ***มาเป็นคู่***
       



      COMMENT  หน่อยครับ!

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×