ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ Touken Ranbu ] S H A D E S ( Rewrite )

    ลำดับตอนที่ #2 : C H A P T E R - 1

    • อัปเดตล่าสุด 8 พ.ค. 61


    CHAPTER 1

    ในช่วงเวลาฤดูใบไม้ผลิของฮงมารุแห่งหนึ่ง บรรยากาศที่ร่มรื่นเหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจแต่ไม่ใช่ในวันนี้ที่มีภารกิจสำคัญที่ทำให้เหล่าบุรุษศาสตราและซานิวะเจ้าของเรือนแห่งนี้ต่างมีสีหน้าเคร่งเครียดคิดไม่ตกอย่างนี้มาตลอดช่วงหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา

    “นายท่าน ข้ามีเรื่องอยากจะถาม”ชายหนุ่มเรือนสีม่วงยาวในชุดออกศึกสีทองอร่ามแลดูแสบตาเอ่ยถามนายหญิงของตนที่ยืนนิ่งเหมือนกำลังรออะไรบางอย่างอยู่ทั้งที่สมาชิกในทัพก็มากันครบแล้ว

    “ว่ามาสิ”

    “ภารกิจในครั้งนี้ของพวกข้าคืออะไรกัน”

    “ภารกิจของพวกเราคือ การรับหน้าที่คุ้มครองซานิวะคนใหม่จนกว่าจะเดินทางไปถึงฮงมารุจากพวกดาบมารโดยปลอดภัย”หญิงสาววัยทำงานตอบคำถามของชายหนุ่มผู้เป็นดาบแรก “และเราจะพลาดไม่ได้เด็ดขาด ถ้าซานิวะคนใหม่เป็นอะไรขึ้นมา...”

    “ไม่ใช่แค่พวกเราที่จบไม่สวยแน่ เข้าใจไหมฮาจิสึกะ”

    “ขอรับ” ฮาจิสึกะ โคเท็ตสึ ขานรับเมื่อดวงตาที่ผ่านสงครามแห่งความเป็นและความตายมาไม่น้อยของนายท่านจ้องมองมาทางตนโดยหวังจะเข้าใจที่เธอพูดไป

    “ในตอนนี้พวกเราก็ทำได้เพียงแค่รอสัญญาณเรียกเท่า-

    “มาแล้ว!!

    ไม่ทันทีซานิวะสาวจะพูดจบ เธอก็รู้สึกถึงกระแสพลังงานบางอย่าง ตอนนั้นเองก็มีแสงสว่างส่องขึ้นมาจากพื้นเบื้องล่างล้อมรอบพวกเขาไว้ ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วพร้อมกับร่างทั้งหกของบุรุษศาสตราและหนึ่งซานิวะได้เลือนหายไปโดยไร้ร่องรอย

    ร่างทั้งเจ็ดได้ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งกลางท้องฟ้าสีมืดครึ้มที่เหมือนพายุดำลังจะเข้าในอีกไม่ช้า ยามาบูชิ คุนิฮิโระ ทาจิร่างใหญ่ผู้อยู่ใกล้นายสาวที่สุดเอื้อมมือคว้าร่างเข้ามาใกล้ก่อนจะลงพื้นได้สวยงามทุกคน

    หญิงสาวผละตัวออกทันทีที่เท้าเหยียบถึงพื้น ตอนนี้พวกเขาได้ยืนอยู่กลางถนนเปลี่ยวเส้นหนึ่งที่คาดว่าน่าจะเป็นหนึ่งในเส้นทางระหว่างมิติกาลเวลาที่มีโอกาสสูงจะถูกลอบโจมตีจากดาบมารได้โดยง่าย เธอเงยหน้ามองไปยังท้องฟ้าที่ควรสว่างสดใสอย่างทุกทีกลับมืดลงและมีประกายแสงของสายฟ้าแลบออกมาบ่งบอกได้ถึงศัตรูที่ปะทะกันมานับครั้งไม่ถ้วนจะมาถึงที่นี่

     “ทุกคน เตรียมตัวให้พร้อม”

    “เรากำลังเข้าสู่สนามรบ”

    เปรี้ยง!! เปรี้ยง!!

    เสียงสายฟ้าที่ฟาดลงมาหลายครั้งดังขึ้นเมื่อรถยนต์คันหรูสีดำได้ปรากฏขึ้นในสายตาเธอและหยุดจอดลงพร้อมกับสายฟ้าที่ชักนำร่างสูงใหญ่ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยออร่าสีดำรอบกายไม่ทราบจำนวนยืนขวางเส้นทางนี้ไว้

    บุรุษศาสตราทั้งหกต่างชักดาบของตนออกจากฝัก พุ่งเข้าประชิดตัวและวาดดาบฟาดฟันใส่ศัตรูพยายามเปิดทางให้รถเคลื่อนไปต่อได้โดยมีซานิวะสาวคอยหนุนหลังเป็นกำลังเสริม

    แต่ภายในรถยนต์ที่เงียบสนิทต่างจากภายนอกที่มีเสียงดังโครมครามเป็นระยะ ในนั้นมีเพียงผู้โดยสารสองคน หนึ่งเป็นเด็กสาวร่างเล็กในชุดฮากามะสีขาวแดงและอีกหนึ่งเป็นชายหนุ่มแต่งกายด้วยชุดนักพรต ใบหน้าครึ่งบนของเขาถูกหน้ากากจิ้งจอกสีขาวปกปิดเอาไว้เห็นแค่ริมฝีปากที่บึ้งตึงของอีกฝ่ายเท่านั้น

    ทั้งคู่นั่งอย่างสงบนิ่งไม่มีอาการตื่นตระหนกกับการลอบโจมตีที่เกิดขึ้นแม้แต่น้อย จนกระทั่งเด็กสาวเป็นฝ่ายเริ่มบทสนทนาขึ้น

    “ให้ฉันลงไปจัดการเองไหมคะ”เธอไม่พูดเปล่าพลางกระชับดาบเรเปียร์ในมือแน่น หากชายหนุ่มตรงหน้าอนุญาต เธอก็พร้อมที่จะไปจัดการด้วยตัวเอง

    “ไม่เป็นไรครับ ทางเราได้จัดการเตรียมคนไว้เรียบร้อยแล้ว”

    “เดินทางกันต่อเถอะครับ”

    เขาว่าอย่างนั้นและสั่งให้คนขับออกรถเมื่อเห็นว่าเส้นทางโล่งพอที่จะขับฝ่าตรงนี้ไปได้

     

    - S H A D E S -

     

    รถยนต์คันหรูได้จอดลงตรงหน้าบันไดหินที่เรียงซ้อนกันเป็นขั้นหลายสิบขั้น ชายหนุ่มเจ้าของหน้ากากจิ้งจอกลงจากรถเป็นคนแรกก่อนจะเลี้ยวตัวมาทางเปิดประตูอีกฝั่งที่เด็กสาวนั่งอยู่ให้ เธอเงยมองบันไดขึ้นไปจนสุดสายตาเห็นซุ้มประตูโทริอิสีแดงที่เด่นท่ามกลางสายตาเธอ

    “ตอนนี้ข้าวของทุกอย่างของคุณคงอยู่ที่ฮงมารุหมดแล้วครับ”เขาหยิบแท็บแล็ตออกมา ใช้ปลายนิ้วเลื่อนหน้าจอมองดูกำหนดทั้งหมดได้วันนี้และเดินไปยังกระโปรงรถด้านหลังเพื่อเอากระเป๋าเดินทางใบใหญ่ของเด็กสาวให้กับเจ้าตัว

    “ค่ะ”เธอขานรับพลางหยิบหน้ากากปิดดวงตาทั้งสองข้างขึ้นมาผูกและจัดผ้าผืนบางเฉียบปกคลุมเส้นผมยาวให้เรียบร้อย

    “หวังว่าหลังจากนี้คุณความสุขกับที่นี่”

    “ก็หวังให้เป็นแบบนั้นเหมือนกันค่ะ”

    เมื่อหมดธุระกับที่นี่แล้ว ชายหนุ่มจึงเอ่ยขอตัวแล้วเดินกลับขึ้นรถไปโดยมีเด็กสาวคอยยืนรอจนกระทั่งรถคันนั้นเคลื่อนออกไปพ้นสุดสายตาเธอ ก่อนจะเดินขึ้นบันไดไปยังสถานที่ที่เรียกว่า ฮงมารุ

    รองเท้าบูทหนังยาวสีดำได้เหยียบย่ำลงบนเนินหญ้าสีเขียวขจีและมีต้นซากุระขนาดใหญ่ตั้งเด่นสง่าอยู่ตรงกลางสายตา กลีบดอกไม้สีชมพูโปรยปรายลงมาตามสายลมที่พัดผ่านและร่วงโรยลงมาบนฝ่ามือเล็กสีขาวซีดที่ยื่นออกมาราวกับรอรับอยู่

                   "ยินดีต้อนรับสู่ฮงมารุขอรับ ท่านซานิวะ"เสียงเล็กแหลมดังขึ้นจากทางด้านหลังเรียกให้เด็กสาวใต้ต้นซากุระผินหน้าไปมองเล็กน้อยให้เห็นจิ้งจอกตัวน้อยที่เข้ามาใกล้โดยที่เธอไม่สามารถจับการเคลื่อนได้เลย

                   "กระผมมีนามว่า คอนโนะสุเกะ จะมาเป็นผู้สอนหน้าที่ของซานิวะให้ท่านขอรับ"

                   จิ้งจอกตัวลายสีน้ำตาลอ่อนสลับขาวก้มหัวคำนับต่อผู้ที่จะมาเป็นซานิวะคนใหม่แห่งฮงมารุเรือนนี้ ก่อนเงยหน้ามองเด็กสาวผู้ซ่อนเร้นตัวเองภายใต้หน้ากากที่ยืนสงบนิ่งและปล่อยให้กลีบซากุระในมือตนปลิวไปตามสายลมอีกครั้ง

                   "กระผมจะแนะนำสถานที่ต่างๆในฮงมารุแห่งนี้ให้รับทราบ โปรดตามมาด้วยขอรับ"ว่าจบคอนโนะสุเกะหันตัวเดินนำทางเข้าเรือนญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมโดยไม่รอรับฟังคำตอบ

                   เด็กสาวใช้สายตาที่ถูกบดบังมองตามร่างของจิ้งจอกด้วยสายตาที่บอกไม่ถูกก่อนจะเดินตามอีกฝ่ายอย่างว่าง่าย

                   "ท่านคงได้ยินมาบ้างแล้วเกี่ยวกับที่นี่ ดังนั้นท่านน่าจะพอรู้ว่า เมื่อเหล่าบุรุษศาสตรานั้นไร้ผู้เป็นนายต้องกลับไปสู่สภาพดั้งเดิมของตน"ระหว่างทางคอนโนะสุเกะได้แนะนำสถานที่ต่างๆในฮงมารุที่เธอจำเป็นต้องรู้รวมทั้งอธิบายเหตุผลว่า ทำไมที่นี่ไม่มีใครเลยนอกจากเธอและจิ้งจอกตรงหน้า

                   "และความทรงจำของพวกเขาจะถูกลบทิ้งรวมทั้งข้อมูลทุกอย่างของซานิวะจะถูกนำไปเก็บรวบรวมที่ส่วนกลาง"

                   เด็กสาวกวาดสายตามองข้างของเครื่องใช้ที่ยังคงอยู่ ไม่มีร่องรอยการเคลื่อนย้ายสิ่งของซึ่งขัดกับคำพูดเมื่อครู่ คอนโนะสุเกะไม่ปล่อยให้สงสัยนานนักก่อนจะอธิบายต่อ

                   "แต่ในกรณีของท่านเป็นกรณีพิเศษ เนื่องจากซานิวะคนเก่านั้นได้ทำการวิจัยค้นคว้าเกี่ยวกับพวกดาบมารและเคบิอิชิไว้จำนวนมากแต่ท่านกลับเสียชีวิตลงไปอย่างกระทันหัน"แววตาของข้ารับใช้เทพอินาริดูเสียใจไม่น้อย เมื่อกล่าวถึงชายหนุ่มสติเฟื่องที่วันๆเอาแต่คิดเรื่องสนุกไม่ให้ชีวิตของตนน่าเบื่อเกินไปและหนึ่งในกำลังสำคัญของการค้นหาความจริงอันแสนยาวนานได้จากไปอย่างไม่มีทางหวนกลับคืน ทิ้งไว้เพียงเอกสารที่ยังไม่มีข้อสรุปส่งต่อให้คนรุ่นหลังทำต่อไป

                   "ฝ่ายทางรัฐบาลเรานั้นต้องการคนที่จะมาทำหน้าที่ต่อจึงได้ทำการเลือกสรรซานิวะที่จะมาแทนตลอดช่วงเวลาหกสิบกว่าปีนี้จนกระทั่งท่านคาซุมิ ยายของท่านได้เสนอชื่อท่านเข้ามา"

                   "นั้นคือสาเหตุที่ท่านถูกเรียกมายังที่แห่งนี้ขอรับ"

     

    - S H A D E S -

     

                   "ข้างหน้านี้คือโรงตีดาบขอรับ ตอนนี้นายช่างกำลังรอพบท่านอยู่"คอนโนะสุเกะหยุดลงตรงสถานที่ที่มีไอร้อนและกลิ่นเผาไหม้ลอยคุกรุ่นออกมา "เชิญขอรับ"

                   "สวัสดี ท่านคงจะเป็นคนที่มาแทนท่านอาสึมะสินะ...อ่อ หมายถึงซานิวะคนก่อนน่ะ"เมื่อเดินเข้าไปเด็กสาวก็พบกับบุคคลที่มีขนาดตัวกำลังน่ารัก(?)โยนแร่เหล็กเข้าเตาหลอมและเอ่ยทักทาย

                   "ข้าเป็นนายช่างประจำฮงมารุแห่งนี้ ถ้าหากท่านต้องการให้ข้าตีดาบก็เชิญสั่งมาได้เลย"

                   "ต่อไปข้าจะนำทางท่านไปพบกับเหล่าดาบในเรือนนี้"ทันทีที่นายช่างแนะนำตัวเองจบ คอนโนะสุเกะก็เอ่ยเสียงเรียกให้ไปอีกทางซึ่งมีดาบจำนวนไม่ต่ำกว่าสิบเล่มวางเรียงกันอยู่บนแท่นวาง

                   "ในตอนนี้ได้มีดาบมาถึงที่นี่แล้วจำนวนสิบสี่เล่ม โปรดเลือกดาบที่จะมาเป็นผู้ช่วยท่านในตอนนี้ขอรับ"

                   เด็กสาวก้าวเท้าเดินออกมาข้างหน้า ฝ่ามือถูกยกค้างก่อนสัมผัสตัวดาบเพียงไม่กี่เซนติเมตรแล้วค่อยๆเลื่อนมือจากดาบเล่มหนึ่งสู่ดาบอีกเล่มเป็นอย่างนี้ไปจนครบจำนวนดาบทั้งหมด

                   การกระทำของซานิวะคนใหม่นี้สร้างความฉงนไม่น้อยแก่คอนโนสุเกะแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป จนกระทั่งเด็กสาวได้ลดมือลงและเดินไปยังตรงหน้าดาบเล่มหนึ่ง เธอใช้มือทั้งสองข้างยกดาบขึ้นอย่างระมัดระวังและพยายามเบามือที่สุด

                   "เมื่อท่านเลือกได้แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการสร้างร่างเนื้อและอัญเชิญจิตวิญญาณให้กับพวกเขาขอรับ"

                   "ซึ่งวิธีการก็แตกต่างกันออกไปแล้วแต่ซานิวะขอรับ"เด็กสาวพยักหน้าให้กับอีกฝ่ายคล้ายว่าเข้าใจสิ่งที่อธิบายให้ฟังแล้ว

                   เธอชักดาบออกมาจากฝัก เงยหน้ามองเหล็กที่สะท้อนแสงไปมายามเมื่อขยับมือสำรวจมันก่อนใช้มือข้างที่ว่างกำใบมีดแน่นจนเลือดไหลหยดเป็นทางและรูดมือขึ้น ดวงตาที่ซ่อนอยู่ใต้หน้ากากมองใบดาบที่ได้ถูกย้อมไปด้วยสีแดงของเลือดแล้วสีแดงนั้นซึมลงไปในเนื้อเหล็กอย่างช้าๆ

                   เมื่อสีแดงในถูกดูดกลืนจนหมด เด็กสาวก็เก็บดาบเข้าฝักตามเดิมใช้มือทั้งสองยกประคองตัวดาบขึ้นและปิดเปลือกตาลง

                   "ในนามของเราผู้ปกปักษ์รักษาความสมดุลแห่งกาลเวลา ขอให้ท่านผู้หลับใหลตื่นจากห้วงนิทราอันเป็นนิรันดร์และ...."น้ำเสียงใสราวกับระฆังแก้วร่ายคาถาพร้อมกับแสงสว่างจากตัวดาบได้ส่องสว่างขึ้นมาเรื่อยๆจนคอนโนะสุเกะและนายช่างที่แอบเข้ามาดูฝีมือของซานิวะคนใหม่ต้องหลับตาหันหน้าหนีแทบไม่ทัน

                   'นี่มัน...อะไรกัน"ตั้งแต่ได้ถวายตนเข้ารับใช้ท่านเทพอินาริมาเป็นเวลาหลายร้อยปี ฝึกสอนซานิวะมาหลายต่อหลายคนแต่คอนโนะสุเกะไม่เคยเจอใครที่สามารถเรียกแสงขณะอัญเชิญได้สว่างขนาดนี้มาก่อน

                   ....ราวกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าคือ พระอาทิตย์

                   "จงลืมตาขึ้น"

                   สิ้นคำพูดของเด็กสาว แสงที่ส่องสว่างไปทั่วโรงตีดาบก็หรี่แสงลงมาจนดับสนิท ปรากฏให้เห็นร่างชายหนุ่มร่างสูงเจ้าของเรือนผมหยักศกสีม่วงลาเวนเดอร์และดวงตาสีน้ำทะเลที่ค่อยๆลืมตาขึ้น

                    “ข้าคือ คะเซ็น คาเนะซาดะ ข้าถูกตีขึ้นโดยรุ่นที่สองซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นที่สุดแห่งตระกูลคาเนะซาดะรุ่นต่อๆมาที่เป็นที่รู้จักกันในนาม โนซาดะ ต้นกำเนิดนามของข้ามาจากสามสิบหกนิรันดร์แห่งบทกวี สง่างามยิ่งใช่หรือไม่ล่ะ? ..แม้กระนั้นเจ้านายคนเก่าของข้าก็ได้พลั้งสังหารข้ารับใช้ไปถึงสามสิบหกนาย ถ้าจะให้พูดแล้วในครานี้ทุกคนคงรู้ว่าควรทำตัวต่อข้าอย่างไร”

    "..."

                   หลังจากแนะนำตัวจบสิ่งที่คะเซ็นได้กลับมามีเพียงความเงียบ เขารู้สึกทำตัวไม่ถูกเมื่อเด็กสาวที่น่าจะเป็นนายใหม่ของตนเงียบไม่พูดอะไรออกมาก็หันหน้ามองคอนโนะสุเนะเพื่อยืนยันสิ่งที่ตัวเองคิดซึ่งได้รับคำตอบโดยการพยักหน้า

                   "อ่า...ท่านคงจะเป็นซานิวะคนใหม่ ไม่ทราบว่านามของท่านคือ?"

                   "อิซานะค่ะ"

                   "ยินดีที่ได้พบครับ ท่านอิซานะ"

                   "ท่านอิซานะ ท่านสามารถเลือกดาบอีกเล่มสองเล่มมาช่วยงานคะเซ็นได้ขอรับ"คอนโนสุเกะเอ่ยขึ้นเรียกความสนใจเธอให้ละออกจากคนตรงหน้าและไล่สายตาพิจารณาดาบที่เหลือแต่ละเล่ม

                   แต่สุดท้ายก็เลือกไม่ได้ ก่อนหันไปขอความช่วยเหลือจากคนข้างๆ

                   "คะเซ็นซังมีคนไหนที่อยากจะแนะนำไหมคะ"

                   "มีหลายคนที่ข้าอยากจะแนะนำให้ท่านรู้จักแต่ในเวลานี้ข้าคิดว่าบุคคลเหล่านี้สามารถช่วยแบ่งเบาภาระงานของท่านได้"คะเซ็นหลับตาลงใช้ความคิดซักพักนึง แล้วตัดสินใจหยิบยกดาบมาตราฐานและมีดจากแท่นมาวางลงตรงหน้าเธออย่างละเล่ม

                   "ข้าขอเสนอทั้งสองคนนี้ครับ ท่านอิซานะ"

                   

    _______________________________________

     

                    Talk :

                      ติชมได้  คอมเมนต์ให้คำแนะนำเพื่อพัฒนาการเขียนได้

       ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน

    B
    E
    R
    L
    I
    N
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×