ปรารถนาวิวาห์หวาม (พิมาลินย์)
เมื่อกลลวงของงานวิวาห์ กำลังปลุกเร้าแรงปรารถนาให้ลุกไหม้ดั่งไฟโชน...
ผู้เข้าชมรวม
3,661
ผู้เข้าชมเดือนนี้
20
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
บทนำ
มันไม่ตลกเลยนะ!
ระหว่างความฝันกับความรัก มีใครบ้างอยากจะเลือกทางใดทางหนึ่ง โดยทิ้งอีกทางหรืออีกคนไว้ด้านหลัง เด็กอนุบาลยังรู้เลยว่ามันไปด้วยกันได้
คนรักกัน ใช่ต้องตัวติดกันเสียเมื่อไหร่?
เอมิกาทอดถอนใจอย่างตึงเครียดกับสิ่งที่ได้รับฟังทางโทรศัพท์ เรื่องที่เคยคุยกับเขาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง แต่คนบ้าอำนาจนั่นก็ไม่เข้าใจเธอเสียที
“ชะเอมจะไปค่ะ คุณปู่ก็อนุญาตแล้วด้วย”
เสียงหวานที่เอ่ยบอก เด็ดเดี่ยว เฉียบขาด
“ถ้ามีปัญหามากนักก็ถอนหมั้นไปเลยสิคะ พี่ภาคหาคนใหม่มาแทนชะเอมได้ง่ายๆ อยู่แล้วนี่! เลิกกันไปเลย! แค่นี้นะคะ!!”
ว่าจบก็กดวางสายแล้วปิดเครื่องทันที ก่อนทิ้งตัวลงนอนบนเตียงนุ่ม มือบางควานหาหมอนหอมกรุ่นขึ้นปิดใบหน้าอ่อนใสที่เปียกชื้นด้วยไอน้ำตา เกือบครึ่งปีแล้วที่เธอกับแฟนหนุ่มทุ่มเถียงกันด้วยเรื่องที่ ‘ไร้สาระ’ ในสายตาของเขา
คนบ้า... ทำตัวเป็น ‘ตาแก่’ เอาแต่สั่งๆๆ! ห้ามๆๆ!
เผด็จการ!
เอมิกากำลังจะเดินทางไปนิวยอร์กในเช้าวันพรุ่งนี้...
หลังจากที่เมื่อครึ่งปีก่อน ลูกพี่ลูกน้องของเธอก้าวเข้าสู่ประตูวิวาห์ ใช่ว่าเอมิกาจะไม่เคยเป็นแขกในพิธีแต่งงานมาก่อน แต่เธอเดินทางไปดูการถ่ายภาพ Pre - wedding ตามคำเชิญของกอบัว... ว่าที่เจ้าสาว ซึ่งเชิญนักถ่ายภาพระดับโลกให้เดินทางมาประเทศไทยเพื่องานนี้โดยเฉพาะ
เอมิการู้สึกราวโลกทั้งใบหยุดอยู่เพียงช่วงเวลาไม่กี่ชั่วโมงนั้น...
เธอไปถึงช้ากว่ากำหนดเพราะติดสอบ และการถ่ายภาพใกล้เสร็จสิ้นแล้วในเวลานั้น หากแต่การทำงานของมืออาชีพและภาพที่เธอเห็นในจอคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กหลังกระบวนการถ่ายภาพเสร็จสิ้น ราวกับจะสะกดให้หัวใจหยุดเต้นได้โดยง่าย! หญิงสาวเคยเห็นรูปถ่ายจากตากล้องคนดังหลายต่อหลายคน แต่ก็ไม่มีผลงานของใครมีมนต์สะกดถึงเพียงนี้ ชุดเจ้าสาว บรรยากาศ รอยยิ้ม และกลิ่นหอมอวลของมวลดอกไม้ราวกับแผ่ซ่านออกมากระทบทุกอณูของความอ่อนไหวในใจ จนเธอรู้สึกหลงใหลอย่างบอกไม่ถูก
‘ตากล้องเหรอชะเอม? เพื่อนพี่เองจ้า เจอกันตอนพี่ไปเรียนต่อมัธยมที่ญี่ปุ่นไง หมอนี่ไปเรียนถ่ายภาพที่อเมริกาแล้วไม่รู้ติดใจอะไรถึงอยู่โน่นยาวจนมีงานมีการมีชื่อเสียงแล้วก็ติดลมไปละ ถึงจะดังระดับโลกแต่บ้าถ่ายเฉพาะ Pre-Wedding นะ แปลกคน’ หันไปย่นจมูกใส่เพื่อนหนุ่มที่เลิกคิ้วรับอย่างไม่อนาทรร้อนใจกับคำค่อนว่าภาษาอังกฤษนั้น ปล่อยให้บัวเบนใบหน้าสวยซึ้งคล้ายคลึงเอมิกากลับมายิ้มหวานให้ญาติสาวอย่างเจ้าเล่ห์เจ้ากล ‘ใกล้จะแต่งกับคุณภาคแล้วรึไงจ๊ะเรา ถึงได้ถามหาช่างภาพเตรียมไว้เนี่ย?’
ณ เวลานั้น เอมิกาไม่ได้สนใจเสียงเย้าแหย่ของหญิงสาวในชุดกรุยกรายราวเจ้าหญิงหรอก แต่สนใจคำว่า ‘อเมริกา’ เสียมากกว่า
‘ชะเอมขอไปเรียนรู้งานกับเพื่อนพี่บัวได้ไหมคะ?’ ถามพลางเงยมองหนุ่มลูกครึ่งอเมริกา ญี่ปุ่นที่ใบหน้าและผิวพรรณเหมาะเจาะลงตัวราวกับได้เลือดยุโรปกับเอเชียมาจากพ่อและแม่คนละเท่าๆ กัน ตากล้อง... เพื่อนพี่บัว... ที่เธอยังไม่ได้รับการแนะนำอย่างเป็นทางการ หันมองเอมิกาด้วยประกายตาที่หญิงสาวอ่านไม่ออก แต่ก็บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าเหตุใดจึงรู้สึกดีกับผู้ชายคนนี้นัก
คิ้วเรียวสวยของว่าที่เจ้าสาวเลิกขึ้นอย่างแปลกใจ หากไม่ทันได้สอบถามอะไร หญิงสาวผู้ชื่นชมในความงามของศิลปะ ก็เอ่ยบอกด้วยโทนเสียงหนักแน่น มั่นคง
‘เรียนจบ ม.๖ เมื่อไหร่ ชะเอมจะขอคุณปู่ไปเรียนถ่ายภาพต่อที่อเมริกาให้ได้ค่ะ’
**************************************************
ไม่ตลกเลยนะ!
ภาคินสบถในใจอย่างหงุดหงิดหลังจากพยายามติดต่อแฟนสาวทางโทรศัพท์อยู่นานนับชั่วโมงแต่เธอก็ปิดเครื่องหนีเป็นครั้งแรกนับแต่คบหากันมานานสามปีเต็ม
และเป็นครั้งแรกที่เด็กสาวหัวอ่อนแบบเอมิกาดื้อดึงกับเขาด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง!
ร่างสูงเดินไปเดินมาริมสระน้ำข้างตัวคฤหาสน์ของตระกูล ‘ไวทิน’ ซึ่งแวดวงไฮโซต่างรู้กันดีว่าเป็นตระกูลผู้ดีเก่าที่ขึ้นชื่อเรื่องผ้าทอโบราณและเปิดร้านหลายสาขารวมถึงพิพิธภัณฑ์ผ้าใจกลางเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ และมีชื่อเสียงที่สุดในโลก
ทายาทสายตรงคนโตของตระกูลทิ้งตัวลงนั่งบนม้านั่งยาวข้างสระน้ำ ก่อนกดวางสายโทรศัพท์ครั้งที่เท่าไหร่... เขาก็ไม่ได้นับ! แล้วเอนกายลงนอนมองดวงดาวบนฟ้าเพียงไม่กี่ดวงที่กำลังพราวระยับแข่งกับแสงสีในเมืองใหญ่ ปิดเปลือกตา คิดคำนวณในสมองว่าจะทำอย่างไรกับกระต่ายน้อยของเขาดี
คนรักที่อายุห่างกันถึงเก้าปีจนภาคินถูกเพื่อนๆ แซวด้วยความคะนองปนอิจฉา
ว่าหลอกกินหญ้าอ่อน
ภาคินยังจำได้ดีถึงความรู้สึกตอนที่เพิ่งเรียนจบปริญญาโทจากสหรัฐอเมริกาและกลับมาเจอเอมิกาครั้งแรกในงานเลี้ยงวันเกิดของท่านผู้หญิงประไพพร เธอสวย... สวยอย่างไร้ที่ติ ดวงตาเป็นประกายเปล่งปลั่งราวดวงดาวจรัสแสง วันนั้นเอมิกาแต่งหน้าแต่งตาและเนรมิตให้ตัวเองเป็นสาวสะพรั่งด้วยเดรสยาวกรุยกรายคอลเลคชั่นล่าสุดของเวอร์ซาเซ่ จนเขาเดาไม่ออกจริงๆ ว่าหญิงสาวในตอนนั้นอายุเพิ่งย่างสิบหกปี
คิดว่าสักสิบแปดหรือสิบเก้า
แต่แค่มองตาก็สปาร์ก แล้วภาคินจะปล่อยให้สาวสวยพริ้งเช่นนั้นเดินผ่านไปแล้วลับหาย อาจตามหากันไม่เจออีกเลยน่ะหรือ?
ไม่มีทาง!
ชายหนุ่มเป็นฝ่ายก้าวเข้าไปใช้คารมคมคายและรอยยิ้มเปี่ยมเสน่ห์ดึงดูดใจให้สาวน้อยหวั่นไหวได้ไม่ยาก แต่ที่ยากคือเมื่อติดต่อกันแบบหมาหยอกไก่อยู่นานพอสมควร เอมิกาถึงรับนัดออกมาทานข้าวกับเขาแล้วปรากฏตัวด้วยชุดนักเรียนชั้นมัธยมปีที่สี่ของโรงเรียนเอกชนชื่อดัง! แถมมากับคนขับรถส่วนตัวที่นั่งเป็น ‘ก้าง’ อยู่ตลอดเวลาจนถึงเวลากลับบ้านของเธอตามที่คุณปู่สั่งอีกต่างหาก
สาวสวยจัดในคืนนั้นที่แปลงร่างเป็นเด็กสาวถักเปียสวมเสื้อนักเรียนคอบัวกับโบแบบไขว้สีน้ำเงินเช่นเดียวกับกระโปรงจีบสั้นแค่เข่า ทำเอาคาสโนว่าตัวพ่อแบบเขาถึงกับ ‘ไปไม่เป็น’ แทบจะมุดดินหนีไปตั้งหลักไกลๆ ซะให้ได้
แต่เกรงว่าจะเสียเชิงชายเลยทำเนียนคุยกับเธอต่อไป...
แล้วภาคินก็ค้นพบหลังจากนั้นว่าเอมิกานี่แหละเหมาะสมจะเป็น ‘แม่ของลูก’ เขาที่สุด!
เด็กสาวไม่เพียงเป็นลูกสาวคนเดียวของตระกูลที่ทรงอิทธิพลอันดับต้นๆ ในประเทศ เธอยังเพียบพร้อม อ่อนหวาน เป็นกุลสตรีในแบบที่หาได้ยากจากสังคมปัจจุบัน หน้าตาหรือก็สะสวยแบบไม่เป็นรองใครทั้งที่ยังโตไม่เต็มที่ด้วยซ้ำ และที่สำคัญคือเขากับเธอเคมีเข้ากันอย่างน่าประหลาด ชายหนุ่มคิดว่าตัวเองจะเบื่อเด็กจืดๆแบบเธอในเวลาอันสั้น แต่เปล่าเลย!
เอมิกาไม่ใช่ผู้หญิงน่าเบื่อไร้สีสันอย่างที่เขาคิด เธอมีอะไรบางอย่างที่ดึงดูด... ให้เขารู้สึกดีเวลามีเธออยู่ใกล้ๆ จำได้ว่าเขาคิดหนักมากตอน ‘คุณปู่’ ของเธอที่เป็นอดีตผู้มีอิทธิพลระดับประเทศและปัจจุบันก็มีอิทธิพลที่สุดในบ้านบริรักษ์ รับรู้ถึงความสัมพันธ์ของเธอกับเขา จึงยื่นข้อเสนอให้เขาพาผู้ใหญ่มาสู่ขอให้หมั้นหมายกัน ไม่อย่างนั้น ก็ห้ามมาพบเจอเอมิกาอีก เด็ดขาด!
การหมั้นหมายกับ ‘เด็ก’ มันทำให้ชีวิตคาสโนว่าของเขาจบลง...
เสียเมื่อไหร่?
เขาค้นพบผู้หญิงที่ดีที่เพียบพร้อมแถมยังมีเวลาให้เลี้ยงดูปูเสื่อกว่าเธอจะโตอีกหลายปี ที่เขาจะแสวงหาความสำราญให้ชีวิตได้อีกมากโข แล้วเขาจะปล่อยเธอไปง่ายๆ หรือ? ไม่มีทางหรอก พ่อแม่ของเขารักเอมิกามากและจัดการสู่ขอหมั้นหมายให้แทบจะทันทีที่เขาเอ่ยปากขอปรึกษาเลยด้วยซ้ำ
ภาคินอาจจะดูเป็นสุภาพบุรุษในสายตาเอมิกา เพราะกระทั่งที่มีศักดิ์เป็นคู่หมั้นแล้ว แต่เขาก็ไม่เคยแตะเนื้อต้องตัวเธอเกินกว่าการจับไม้จับมือหรือโอบไหล่บ้างตามประสาคู่รักทั่วไปแม้ว่าจะอยู่กันตามลำพังก็ตาม แต่เธอไม่รู้หรอกว่าเพราะเขาไม่อยากเสี่ยงกับข้อหาพรากผู้เยาว์ต่างหาก เลยพยายามห้ามใจ
และถือคติอดเปรี้ยวไว้กินหวาน...
อีกทั้งสามปีของการคบหากันเขาก็มี ‘ของหวาน’ สำหรับกินผ่านๆ มากมายจนแทบนับไม่ไหว แม้ว่าต้องคอยหลบจาก ‘สายข่าว’ ของเธอ ทั้งญาติ ทั้งเพื่อนก็เถอะ
แต่เขากลัวซะที่ไหนล่ะ!
สามปีที่ผ่านมาเพิ่งถูกจับได้ไปจังๆ แค่สองครั้ง และแม้ว่าจะโกรธมากแค่ไหน สุดท้ายสาวน้อยของเขาก็ยกโทษและเปิดโอกาสให้ภาคินแก้ตัวใหม่อยู่ดี
เธอหนีไปไหนไม่รอดหรอก ก็ถูกเขาหลอกล่อให้หลงรักเสียขนาดนี้
เอมิกาอาจจะแค่ประชด...
ชายหนุ่มเปิดเปลือกตามองผืนฟ้าที่บัดนี้เมฆหมอกได้บดบังดวงดาราไปเสียหมด ก่อนยกสองมือขึ้นรองท้ายทอย ขยับตัวนอนสบายๆ และเหยียดยิ้มมุมปากนิดๆ
สาวอ่อนต่อโลกแบบ เอมิกา บริรักษ์... ไม่มีทางถอนหมั้นและทิ้งหมาป่าตัวพ่อแบบเขาเพียงเพื่อไปเรียนถ่ายรูปบ้าบออะไรนั่นถึงอเมริกาอย่างที่ ‘ขู่’ ได้หรอก
ไม่มีวัน!!
ฝากติดตามต่อในหนังสือนะคะ ^________^
โปรยปกหลัง:
เมื่อภาคินอดีตคู่หมั้น มาขอให้ช่างภาพฝึกหัดอย่างเอมิกาช่วยถ่ายภาพสำหรับพิธีวิวาห์ให้กับเขาและเจ้าสาวคนใหม่มีหรือที่การกลับมาเผชิญหน้าอย่างใกล้ชิดอีกครั้ง จะไม่ทำให้เธอต้องตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน ที่จำต้องเลือกระหว่างความบาปอันหอมหวานและความถูกต้องอันบอบช้ำเอมิกาจะเลือกทางใดเมื่อ “ความปรารถนา” คือเปลวไฟที่พร้อมจะเผาไหม้หัวใจให้แหลกเป็นจุณ !
ผลงานอื่นๆ ของ พิมาลินย์ / ดุจดาริน ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ พิมาลินย์ / ดุจดาริน
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ความคิดเห็น