ตอนที่ 46 : Vroom vroom !
VROOM VROOM !
เสียงดังจากท่อไอเสียของบิ๊กไบค์คันใหญ่ปลุกชายวัยกำหนัดให้ตื่นจากฝันดี เจ้าของใบหน้าคมเข้มย่นคิ้วหนาเข้าหากันพลางหยีตาด้วยความหงุดหงิด มือขวาควานหาโทรศัพท์มือถือตอนตัวเองที่ตอนนี้ไม่อาจรู้ได้ว่าไปหล่นอยู่ส่วนไหนของเตียง จนเป็นเขาเสียเองที่ทนไม่ไหว จนต้องลุกเปิดโคมไฟหัวเตียงเพื่อหาโทรศัพท์มือถือแต่สุดท้ายกลับพบว่ามันวางอยู่ใกล้ ๆ โคมไฟนั่นแหละ
05.30 AM
นาฬิกาบอกเวลาตีห้า ชายหนุ่มทุบหัวตัวเองเรียกสติให้กลับคืนมาโดยเร็ว เนื่องจากวันนี้มีนัดกับลูกค้าคนสำคัญ ขืนลองไม่ลุกออกจากเตียง ไอ้ลูกค้านั่นคงได้มาลากเขาออกจากเตียงเป็นแน่ ร่างหนาลุกขึ้นจากเตียงพร้อมบิดขี้เกียจ บิดซ้ายทีบิดขวาทีเพื่อไล่ความเมื่อย อายุอานามก็ไม่ใช่น้อย ๆ เหมือนคนอื่นเขา มันก็ต้องมีเมื่อยกันบ้างเป็นธรรมดา
เจ้าของอู่รถลุกเปิดประตูห้องนอนตัวเอง เพื่อเดินลงไปชั้นล่างทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้จัดการตัวเอง มีเพียงกางเกงขาสั้นท่อนล่างที่ปกปิดร่างกายเอาไว้ ส่วนท่อนบนกลับเปลือยเปล่าเผยให้เห็นมัดกล้ามสมกับเป็นชายชาตรี กล้ามแขน ซิกแพ็ค ไหนจะวีไลน์ที่สวยงาม ใครมาเห็นคงอิจฉาไม่เบา
ประตูชั้นล่างถูกเปิดออก ภายในอู่ซ่อมรถเงียบสงัดราวกับป่าช้า มีเพียงไฟสองสามดวงที่คอยส่องสว่าง จึงทำให้เขาเห็นเด็กคนหนึ่งที่นั่งเล่นมือถืออยู่บนบิ๊กไบค์คู่ใจ ตัวการที่ปลุกเขาให้ลุกออกจากเตียงนั่นเอง จัดการใส่รองเท้าเรียบร้อยก่อนจะค่อย ๆ ก้าวเข้าไปหาเจ้าของรถบิ๊กไบค์คันใหญ่ด้วยสภาพที่มีเพียงกางเกงขาสั้นตัวเดียวที่ปกคลุมร่างกาย
“ อ้าวพี่ ตื่นแล้วเหรอ ” เจ้าของใบหน้าหวานแต่นิสัยโคตรจะแมนเอ่ยทักเจ้าของอู่ด้วยท่าทีกระตือรือร้นเกินเหตุ นี่ตีห้าไม่ใช่บ่ายโมง จำเป็นต้องสดใสขนาดนี้เชียว
“ เออ ตื่นละ ตรงเวลาจริงนะ ” อดพูดเหน็บแนมอย่างอดไม่ได้ นัดตีห้าครึ่งก็มาซะตีห้าครึ่งเป๊ะ พ่อมันเป็นนาฬิกาบอกเวลาเหรออยากจะรู้นัก มาสายนิดนึงก็ไม่ได้หัวเขาเพิ่งจะแตะหมอนไปตอนตีสองนี่เอง
“ ก็เดี๋ยวพี่รอไง ว่าแต่ ... พี่ไม่ไปใส่เสื้อให้เรียบร้อยเหรอ ” ร่างบางหรี่ตามองคนโตกว่าตั้งแต่หัวจรดเท้า ไอ้ดูดีน่ะมันก็ดูดีอยู่หรอก แต่สภาพแบบนี้กล้าลุกจากเตียงมาหาเขาได้ยังไงวะ กางเกงตัวเดียวกับรองเท้าแตะช้างดาวเนี่ยนะ หมดสภาพเจ้าของอู่หมด
แต่กล้ามเนื้อสวย ๆ นั่น เห็นแล้วอิจฉาว่ะ
“ อยากโชว์ ” ตอบพลางยักไหล่เดินเฉียดร่างบางในชุดแจ็คเก็ตหนังสีดำ กางเกงรัดรูปอวดโชว์เรียวขา ไปด้วยท่าทางที่แสนจะกวนเบื้องล่าง
“ ไม่ดูให้เสียตาหรอกพี่ ”
“ โห น้อง เมื่อกี้เห็นจ้องตาเป็นมัน นึกว่าจะชอบ ”
“ ตั้งใจเช็ครถไปเหอะพี่ เดี๋ยวเจ็ดโมงล้อเลื่อนแล้ว ”
เจ้าของรถบิ๊กไบค์คันใหญ่ส่งสายตาค้อนให้กับเจ้าของอู่ร่างหนา หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาสไลด์รอเวลาระหว่างอีกคนเช็คเครื่องยนต์ให้กับเขา มือบางกดเข้าแอปพลิเคชั่นสีเขียว กดเข้าไปยังกรุ๊ปไลน์เพื่อเช็คเวลานัดและสิ่งของที่จำเป็นให้ครบถ้วนก่อนเวลาล้อเลื่อน หากของไม่ครบคงหงุดหงิดมากเป็นแน่
“ คราวนี้จะไปไหนล่ะ ” เสียงทุ้มแว่วมาทำให้เด็กหนุ่มที่นั่งกดมือถือต้องละสายตาจากจอหันไปสบตากับอีกฝ่าย
“ น้ำตกแถวนี้แหละพี่ ทริปใกล้ ๆ ไม่ได้ไกลมาก ทริปไกลเอาไว้ปลายปีเลยทีเดียว ” การออกทริปดูเป็นเรื่องประจำสำหรับคนขับบิ๊กไบค์ไปแล้ว มันก็สนุกดี ได้พูดคุยกับคนที่ชอบเรื่องเดียวกัน แต่ท่ามกลางกลุ่มคนมากมายมันก็ทำให้เขารู้สึกเหงาอยู่ดีนั่นแหละ ด้วยความที่เข้ากับคนอื่นได้ยาก หากไม่สนิทก็จะไม่พูด อ้อ เว้นกับเจ้าของอู่หน้าโหดคนนี้ไว้คนหนึ่งแล้วกัน แปลกดีเหมือนกันที่เขากลับไม่เคยรู้สึกอึดอัดเหมือนตอนไปออกทริปเลย ทั้ง ๆ ที่เพิ่งจะเป็นลูกค้าอู่เมื่อไม่นานมานี้
“ จริง ๆ เช็คเครื่องแค่นี้ไม่เช็คเองอ่ะน้อง เสียเงินเปล่า ๆ มาให้พี่เช็คเนี่ย ” ใช่ เช็คสภาพเครื่องเบื้องต้น ปกติแล้วคนทั่วไปก็มักจะเช็คกันเอง ตั้งแต่ทำอู่มายังไม่เคยเจอใครคนไหนเอารถสภาพดีมาให้เขาเช็คเลยสักครั้ง เอาเขาศูนย์บริการไม่สะดวกกว่าหรือ ก็แอบงงอยู่เหมือนกันที่ไอ้เด็กนี่มักจะวนเวียนเอารถมาให้เช็คทุกครั้งที่จะเอาไปออกทริป เสียเงิน เสียเวลา แต่เขาจะไม่ขัดศรัทธาของน้องมันหรอกนะ
“ ขี้เกียจอ่ะ มันเปื้อน ไม่ชอบ ” ที่แท้ก็ขี้เกียจ แต่เอาเหอะ ได้เงินเขาก็ทำทั้งนั้น
“ มาใกล้ ๆ ดิ เดี๋ยวสอนให้เอาป่ะ ” ร่างหนาหยัดตัวขึ้นยืนตรง ยกท่อนแขนปาดเหงื่อทิ้งไป เป็นภาพที่สุดแสนจะฮอตจนเด็กหนุ่มเจ้าของรถอดกลืนน้ำลายให้กับภาพที่เห็นไม่ได้
“ สอนฟรีป่ะพี่เบิ้ม ถ้าคิดเงินขอบายนะ ” ริมฝีปากอิ่มเหยียดยิ้มทะเล้นใส่อีกฝ่าย ก่อนจะได้รับคำตอบกลับมาว่า ...
“ ลูกค้าวีไอพีแบบน้องเล้ง พี่สอนฟรีเลยครับผม ”
คิดถูกหรือคิดผิดที่สอนมันวะเนี่ย
“ พี่ ๆ เอาใหม่อีกทีได้ป่ะ งงอ่ะ ”
“ โหยน้อง พูดไปตั้งเยอะ จะให้พูดใหม่เหรอวะ ”
“ นะพี่ ไหนว่าจะสอนอ่ะ พูดอีกที ผมโง่ ขับเป็นอย่างเดียวนั่นแหละ ” เจ้าของรถนั่งลงข้าง ๆ ชายหนุ่ม สีหน้ากวนเบื้องล่างของมันทำให้เจ้าของอู่เอื้อมมือเปื้อนน้ำมันเครื่องไปผลักใบหน้าขาววอกจนเกือบจะหงานหลังล้ม
“ เครื่องยนต์ ระบบของเหลว ล้อกับลมยาง ระบบไฟ อันนี้เป็นหลัก ๆ ที่ต้องดูเลย ดีละที่มาหาพี่ แต่ถ้าเช็คเองเป็นก็ไม่ต้องเสียเงิน อย่างระบบไฟ ก็เปิดเช็คดูว่ามีครบไหม เปิดไฟดิ๊น้อง ” เจ้าของอู่สั่งอีกคนให้เช็คระบบไฟตามคำสั่ง
“ โอเคป่ะพี่ ”
“ เออ ยังดีอยู่ คราวที่แล้วเพิ่งจะเปลี่ยนไปให้ไง ”
“ แล้วเช็คอะไรอีก ล้อกับลมยางป่ะ ? ”
“ ใช่ น้องก็ลองดูว่ายางอ่ะมีพวกรอยแตกหรือรอยรั่วไหม ยื่นหน้ามาดูดิ ” ชายหนุ่มเรียกให้คนเด็กกว่าที่นั่งอยู่ข้างกันชะโงกหน้ามาดู ใบหน้าอยู่ห่างกันไม่ถึงคืบ ใกล้จนได้ยินเสียงหายใจของกันและกัน แต่ดูเหมือนคนเด็กกว่าจะไม่ได้ระวังตัวอะไรเลยสักนิด ถึงไม่รู้ว่ามีอีกคนกำลังจ้องมองเขาด้วยสายตาที่อ่านยาก
“ อ่ะเรียบร้อย ไม่มีพี่ ”
ใบหน้าขาวหันไปพูดกับอีกคนเป็นจังหวะเดียวกันที่เจ้าของอู่หันกลับมาพอดี เกิดความเงียบไปชั่วอึดใจ เมื่อสายตาประสานกัน ปลายจมูกแตะกันแผ่วเบา แค่นิดเดียวก็รู้สึกได้ถึงกระแสไฟฟ้าที่ไหลไปทั่วร่าง ต่างคนต่างนิ่งเงียบแม้แต่จะหายใจเข้าก็ยังรู้สึกว่ายากเย็น ไม่ต้องพูดถึงว่าจะขยับตัวเลย ทุกอย่างดูเหมือนอยู่เหนือการควบคุมไปเสียหมด
“ เอ่อ .. ” เจ้าของอู่เป็นฝ่ายขยับออกเสียก่อน ไม่อย่างนั้นเราสองคนคงได้ขาดใจตายกันไปข้าง เพราะต่างคนต่างอึ้งทำอะไรไม่ถูกกันทั้งคู่
“ ยางมันยังดีอยู่ ” เด็กหนุ่มเป็นฝ่ายเอ่ยบอกชายหนุ่มอีกครั้งเพื่อย้ำเตือน แกล้งเสมองไปทางอื่นเพื่อกลบเกลื่อนอาการบางอย่างที่กำลังเกิดขึ้นกับตัวเอง รู้สึกว่าใบหน้าร้อนวูบวาบไปหมด แม้แต่ปลายจมูกเขาก็ยังรู้สึกได้ถึงมัน
“ ทีนี้เช็คพวกน้ำมันเรื่อง เล้งก็ทำแบบนี้ ” เล้งได้แต่มองเจ้าของอู่พูดไปตามปกติ แม้ใบหน้าจะพยักหน้าตามบ้างเป็นบางครั้งเพื่อบอกให้อีกฝ่ายรับรู้ว่าเขาเข้าใจที่พูดทั้งหมด แต่ลึก ๆ แล้วเขาไม่เข้าใจมันสักนิด เหตุการณ์เมื่อสักครู่ที่เพิ่งเกิดขึ้นทำให้ต่างฝ่ายต่างขัดเขินกัน
06.30 AM
“ ขอบคุณครับพี่เบิ้ม เอาของฝากป่ะ เดี๋ยวซื้อกลับมาให้ ” เอ่ยถามอีกคนพลางวาดขาเรียวขึ้นคร่อมบิ๊กไบค์คู่ใจ
“ พาตัวเองกลับมาให้ครบสามสิบสองก็พอน้อง ”
“ ทำไมอ่ะ กลัวลูกค้าประจำแบบผมหายเหรอพี่ ” พูดพร้อมหัวเราะไปด้วย ดวงตาที่ปกติแล้วมักจะกลมโตสดใสตอนนี้กลับหยีลงจนน่าเอ็นดู
“ เป็นห่วง ” น้ำเสียงทุ้มน่าฟังเอ่ยขึ้นขณะจ้องหน้าอีกคน ใบหน้าหวานดูตกใจอย่างเห็นได้ชัด ทำหน้าเลิ่กลั่กจนอดหัวเราะไม่ได้ มือหนายื่นหมวกกันน็อคราคาแพงให้อีกฝ่าย เดินถอยหลัง พยักหน้าโบกมือลาอีกคนด้วยท่าทีแบบที่มักจะเคยทำประจำ
“ ไปแล้วนะพี่เบิ้ม กลับมาเดี๋ยวเอารถมาให้เช็ค ”
“ บ้านผลิตเงินได้เหรอน้อง ”
“ ก็รวยอยู่พอตัวอ่ะนะ ”
เจ้าเด็กนั่นปิดกระจกหมวกกันน็อคลง บิดเครื่องยนต์แทนเสียงกล่าวอำลาและขับรถออกไปในที่สุด
“ อ้าวพี่เบิ้ม นั่นน้องเล้งเหรอพี่ ” เสียงลูกน้องคนสนิทตะโกนถามชายหนุ่ม เพราะเพิ่งจะเห็นแผ่นหลังบางของเด็กหนุ่มขับสวนกันออกไปเมื่อครู่นี้
“ เออ น้องมันมาให้เช็ครถ ”
“ มีลูกค้าแต่เช้า วันนี้รวยเละแน่ ”
“ มึงก็พูดไป กูไปอาบน้ำละ ”
เออ ก็สมควรไปอาบอยู่ สภาพเบิ้มตอนนี้แทบดูไม่ได้ เหงื่อไหลท่วมไปทั่วท่อนบนที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม ส่วนท่อนล่างกางเกงก็เปียกและเปื้อนน้ำมันเครื่องไปหมด ถ้าหน้าพี่มันไม่หล่อจะดูดีแบบนี้มั้ยวะ สงสัย
แต่ลูกน้องคนสนิทของเบิ้มก็แอบสังเกตอยู่ตั้งแต่ตอนมาถึง
พี่มันยิ้มอะไรวะ
“ เห้ย พี่เบิ้ม ยิ้มอะไรวะพี่ ”
“ เสือก ”
โอเค ไม่รู้แล้วก็ได้
“ อัพเครื่องหน่อยพี่ ” เสียงหวานของเด็กหนุ่มหน้าหวานเอ่ยกับเขาอย่างชิล ๆ ขณะนั่งไขว่ห้างอยู่ที่ห้องรับรองแขกของอู่ซ่อมรถ
“ อัพทำไมอีกน้อง ”
“ อยากให้มันแรงอ่ะพี่ แรง ๆ เท่ ๆ ท่อดัง ๆ อ่ะ เหมาะกับผม ” เบิ้มก้มมองคนตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า เสื้อแจ็คเก็ตสีดำแต่คนละแบบกับตัวเก่า เสื้อยืดสีดำที่ใส่ทับด้านในก็ดูเท่ดี กางเกงหนังสีดำแต่งขาดดูไปดูมาเมื่อมาอยู่บนตัวของเด็กนี่ก็ดูเท่ดี รองเท้าราคาแพงของมัน .. ก็ดูเท่ดี มีอย่างเดียวที่ไม่เท่
หน้าหวาน ๆ ของมันนั่นไง
“ อัพเครื่องอะไรหนักหนาวะน้อง พอได้แล้วมั้ง มันอันตราย พี่เป็นห่วง ”
ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เดินมาใกล้อีกคนที่เอาแต่ก้มหนาเล่นเกมในมือถือไม่สนใจสิ่งรอบข้างเลยสักนิด ปากอิ่มนั่นก็เอาแต่บ่นกระปอดกระแปดว่าทำไมไม่ยอมอัพเครื่องไหนบ้างล่ะ ทำไมถึงทำไม่ได้ เพื่อนมันไปทำมายังทำได้เลย คนเท่ ๆ อย่างมันต้องอัพได้บ้างดิ เขาล่ะไม่อยากจะเถียง ด้วยเข้าใจว่าวัยรุ่นเป็นวัยคึกคะนอง เขาเคยผ่านช่วงเวลานั้นมาแล้ว ตั้งแต่เอาท่อรถปกติไปเปลี่ยนเป็นท่อปากแคบเสียงดัง บิดทีคนตื่นกันทั้งหมู่บ้าน วันนั้นจบลงด้วยการโดนจับปรับและยึดท่อไว้ที่โรงพัก เบิ้มวัยสิบหกปีในวันนั้นก็คึกคะนองไม่ต่างอะไรกับเด็กตรงหน้าเขาในวันนี้ ถึงได้บอกไงว่าเขาน่ะเข้าใจมันหมดทุกอย่างนั่นแหละ
และอีกอย่าง รถท่อดังมันผิดกฎหมายโว้ยยยยยยยยยยยยยย เกิดตำรวจรู้ว่าทำอยู่เขาเดี๋ยวก็มีปัญหาอีก
“ อัพให้ไม่ได้เหรอพี่ ” มือบางกดปิดเกมพร้อมโยนมือถือทิ้งไว้ข้างตัว ส่งสายตาเว้าว้อนมายังเจ้าของอู่แบบเขา ความหนักใจเริ่มเกิดขึ้นเมื่อเขาเผลอสบกับดวงตาคู่นั้นเข้าเต็ม ๆ
“ ไม่อยากแก่ตายเหรอน้องเล้ง อายุก็แค่นี้ ”
ร่างหนาทิ้งประแจในมือลงกับพื้นจนเกิดเสียงดัง เดินเข้ามาหาคนเด็กกว่าที่นั่งหน้าง้ำอยู่ที่โซฟา กลิ่นน้ำมันเครื่องและกลิ่นเหงือไหลผสมปนเปกันไปหมด เสื้อยืดสีฟ้าอ่อนเปรอะเปื้อนทั้งคราบดินและคราบเขม่า แต่ไอ้น้องเล้งก็ไม่เห็นรังเกียจเลยสักนิด หนำซ้ำยังขยับเข้ามานั่งใกล้อีกด้วย
“ งั้นวันนี้ก็ปกติไปก่อนก็ได้ ทำเหมือนเดิม ไม่อัพก็ได้เครื่องอ่ะ ”
“ แล้วทำไมน้องทำหน้าแบบนั้นวะ เล้ง ” เจ้าของอู่ชะโงกหน้ามองร่างบางที่นั่งกอดอกจมไปกับโซฟ้าผ้าสีแดงที่ไม่ได้นิ่มอะไรมาก ก้มหน้าเล่นมือถือต่อไม่สนใจสิ่งที่เขากำลังพูด
“ อยากอัพเครื่อง ! ” พี่เบิ้มนะพี่เบิ้ม ปกติก็ไม่เห็นจะขัดใจกัน ขนาดเขาเองรถที่ไม่เป็นอะไรมาเช็คก็ยังยอมเช็คให้เลย นี่แค่อัพเครื่องจะอะไรหนักหนาเนี่ย คิดแล้วก็อดเคืองไม่ได้ ขุ่นข้องหมองใจมากอยากบอกให้รู้
“ อัพน่ะอัพได้ แต่น้องต้องไปอัพร้านอื่น ”
“ อ้าวเห้ยพี่ไล่ผมเหรอ เสียใจนะเห้ยยย ” มือบางผลักหน้าอกแกร่งออกอย่างคนมีน้ำโห สองมือทุบไหล่คนโตกว่าด้วยใบหน้าบูดบึ้งจนเบิ้มหัวเราะชอบใจ แหม ก็มันไม่เจ็บเลยสักนิด ถ้าจะทำให้คนอย่างเบิ้มเจ็บ มันต้องแรงกว่านี้
“ เห้ยน้อง พอได้แล้ว พี่ช้ำตายหมดละ ”
“ แล้วพี่เบิ้มหัวเราะอะไรของพี่วะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะ ”
“ น้องเล้ง อย่าอาละวาดดิ พี่ไปทำงานต่อละ ” ชายหนุ่มยีหัวเจ้าเด็กที่เอาแต่อาละวาดก่อนจะลุกไปหยิบประแจอันเดิมแล้วเดินตรงดิ่งไปทำงานต่อทันที
“ เดี๋ยวเปิดแอร์ไว้ให้ จะกลับตอนไหนก็บอกพี่ละกัน ”
“ พี่เบิ้ม ” แว่วเสียงเรียกทำให้เบิ้มหันกลับมามอง
“ ว่า ”
“ ขอนอนด้วยได้ป่ะ ” เบิ้มเลิกคิ้วขึ้น รู้ดีว่าสนิทกันพอสมควร แต่ไม่มีครั้งไหนเลยที่ไอ้เด็กน้องเล้งจะเอ่ยปากขอค้างด้วยกันเลยสักครั้ง แม้เขาจะเคยเอ่ยปากให้ค้างด้วยกันเวลาเด็กนี่กลับจากทริปตอนดึก ๆ ก็เถอะ
“ มาแปลก เป็นอะไรมาอ่ะน้อง ”
“ ทะเลาะกับพ่อ ไม่อยากกลับบ้านว่ะพี่ ”
“ เรื่องทริปอ่ะดิ ไปบ่อยเกินไปป่ะเล้ง ” ขนาดเขาที่เป็นคนรู้จัก ไม่ได้เป็นพ่อของเด็กนี่ ยังรู้สึกเลยว่าออกทริปบ่อยไป แต่อีกใจนึงก็เข้าใจว่าเด็กนี่ก็มีสังคม นานาจิตตัง เขายังไงก็ได้
“ อุตส่าห์มาขอค้างด้วยยังพูดแบบนี้เลย เดี๋ยวไปหาที่อื่นค้างจริง ๆ นะ ” เอาอีกละ นั่งหน้านิ่งอีกละ จริง ๆ เลย
“ คนเป็นพ่อเขาก็ห่วงอ่ะน้อง ”
“ ขนาดพี่ไม่ใช่พ่อ แต่ทำไมพี่ห่วงผมอ่ะ ”
“ เออ นั่นดิ ”
“ … ”
“ พี่ก็ไม่รู้ว่ะ
ก็แค่ ... เป็นห่วงมั้ง ”
เบิ้มเดินออกไปด้วยอาการประหลาดที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ตั้งแต่เลิกกับเมียคนล่าสุดเขาก็ไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครเลยสักนิด แม้จะรู้ว่าอาการที่เกิดขึ้นกับตัวเองมันเริ่มไม่ปกติ แต่ชายหนุ่มกลับเลือกที่จะเพิกเฉยและหันไปสนใจกับงานตรงหน้าก่อน
ทางด้านของเล้ง ตาคู่สวยเอาแต่มองไปนอกห้องกระจก มองอีกคนที่กำลังทำงานด้วยความมุ่งมั่นด้วยแววตาที่อ่านยาก ความรู้สึกบางอย่างเริ่มก่อตัวขึ้นทีละนิดโดยที่เขาเองก็ไม่รู้ตัวเหมือนกัน ด้วยเป็นผู้ชายยิ่งแล้วใหญ่ เราไม่ได้ใส่ใจรายละเอียดยิบย่อยเหมือนกับพวกผู้หญิง ไม่อย่างนั้นเขาคงหาคำตอบให้ตัวเองได้ไปแล้วว่า ... ไอ้ความรู้สึกดี ๆ ที่เขามีต่ออีกคนมันเกิดขึ้นตั้งแต่ตอนไหน
“ เตียงหกฟุต แบ่งครึ่งกันนอนแล้วกัน ห้องน้ำอยู่ทางนู้น ผ้าเช็ดตัวอยู่ในตู้ อยากได้อะไรหยิบได้เลย หาไม่เจอก็บอก โอเคป่ะ ”
“ งั้นขออาบน้ำก่อนดีกว่า แล้วเดี๋ยวผมตามลงไปกินข้าว ”
เจ้าของบ้านพยักหน้าก่อนจะหมุนตัวหันหลังเดินออกไป เหลือเพียงเด็กหนุ่มวัยเบญจเพสอยู่ในห้องนอนคนเดียว มือเรียวพาดผ้าเช็ดตัวสีขาวไว้ที่ไหล่ลาด ถือวิสาสะเดินสำรวจกรอบรูปในห้องนอน มือเรียวไร้ไปตามชั้นวางอย่างประณีต หยิบกรอบรูปแรกขึ้นมามองอย่าพินิจพิจารณา มุมปากเริ่มเผยยิ้มเมื่อเห็นคนในรูป
เด็กในรูปฉีกยิ้มให้กล้องอย่างเป็นธรรมชาติ ร่างตุ้ยนุ้ยนั่งอยู่บนม้าโยกในสวนสาธารณะ ช่างเป็นภาพที่น่ารักดีเหมือนกัน ถ้าดูจากในรูป พี่เบิ้มก็งานดีไม่เบาอยู่หรอก จากเด็กอ้วนในวันนั้นสู่เจ้าของอู่สุดฮอตในวันนี้ ถ้าเป็นสาว ๆ เพื่อนพี่เบิ้มมาเห็นคงเสียดายอยู่ไม่น้อย ขนาดเขาที่เพิ่งมารู้จักอีกคนได้ไม่กี่เดือนยังรู้สึกเลยว่าพี่เบิ้มเป็นคนที่ดูดีมาก ๆ ยิ่งเวลาที่เจ้าตัวกำลังมุ่งมั่นเช็ครถให้กับเขาอยู่ด้วยแล้วยิ่งเท่เข้าไปใหญ่
“ เล้ง พี่... ” ประตูห้องนอนถูกผลักออกโดยเจ้าของบ้าน เล้งลนลานรีบวางกรอบรูปลงทันที แต่ด้วยความรีบทำให้มันไม่ได้ตั้งตรงเหมือนเดิม แต่กลับล้มคว่ำหน้าตกลงมายันพื้นกระเบื้อง
“ ขอโทษพี่ ผมซุ่มซ่ามไปหน่อย ”
“ ปล่อยไว้คนเดียวดูเพลินเลยรึไง ” ชายหนุ่มเอ่ยถามอีกคนด้วยสีหน้าจับผิด ตั้งใจจะแกล้งแต่พอเห็นใบหน้าซีดเซียวของเด็กน้องเล้งเลยต้องล้มเลิกความคิดนั้นทันที เกิดน้องมันหัวใจวายขึ้นมาเขาซวยแน่
“ น่ารักดี เด็กในรูปอ่ะ พี่เบิ้มใช่ป่ะ ”
“ อืม พี่เอง โตแล้วเป็นไง ”
“ โตแล้วก็หล่ออ่ะ แถมยังฮอตด้วย ” ปากอิ่มพูดไปเรื่อยพร้อมยิ้มให้กับรูป ไม่รู้ตัวสักนิดว่ากำลังมีสายตาคู่คมกำลังจ้องมองตัวเองอยู่
“ รู้ป่ะว่าเล้งพูดอะไรออกมา ”
“ ฮะ พูดอะไรอ่ะ ”
“ ช่างเถอะ รีบอาบน้ำแล้วไปกินข้าว หิวแล้วครับน้องเล้ง ”
พี่เบิ้มแม่ง เรื่องประชดประชันเนี่ย เก่งดีนัก !
“นอนได้ป่ะ ” ชายหนุ่มยันตัวขึ้นจากเตียง พลิกตัวถามคนเด็กกว่าที่นอนพลิกไปมาอยู่บนเตียงกว้าง อาจจะไม่คุ้นที่หรือไม่สะดวกสบายเท่าเตียงที่บ้านของอีกคน ฟูกมันอาจจะนิ่มไม่พอมั้ง
“ เห้ยพี่ นอนได้ดิ ”
“ เตียงแข็งป่ะ ”
“ แข็งกว่าที่บ้าน แต่ก็นอนได้อ่ะ มาอาศัยเขาอยู่ ผมไม่เรื่องมากหลอก ” ร่างบางย่นจมูกใส่อีกคน เขาก็ไม่ได้คุณหนูอะไรขนาดนั้น คลุกดินคลุกฝุ่นก็ทำมาหมดแล้ว อยู่ง่ายกินง่าย ทำได้หมดทุกอย่างนั้นแหละ
“ โอเค งั้นฝันดีนะน้อง ”
“ ฝันดีพี่เบิ้ม ”
เล้งพยายามจะข่มตาหลับแต่ก็ทำได้ยากเหลือเกิน เขาเพลียมาทั้งวันหลังจากนั่ง ๆ นอน ๆ เล่นในอู่ของอีกคน ลุกไปช่วยงานบ้างอะไรบ้าง ช่วยหยิบช่วยจับงานเท่าที่พอจะทำได้ แต่สุดท้ายก็โดนไล่กลับเข้ามานั่งในห้องแอร์ดังเดิม เด็กหนุ่มขยับตัวพลิกไปทางด้านขวาก็เจอกับแผ่นหลังกว้างของอีกคนที่นอนหันหลังให้กันอยู่
เล้งมองแผ่นหลังกว้างด้วยหัวใจที่สับสน กลิ่นกายของชายหนุ่มที่อายุมากกว่าทำให้เด็กหนุ่มเองเริ่มรู้สึกใจเต้นขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ เขาเองก็เคยมีแฟนมาหลายคน รู้ดีว่าความรู้สึกแบบนี้มันคืออะไร แต่ไม่คิดว่ามันจะมาเกิดขึ้นกับคนที่เพิ่งรู้จักและสนิทได้ไม่กี่เดือน ยิ่งอีกคนเป็นผู้ชายแล้วด้วย ... ยิ่งแล้วใหญ่
ลมหายใจสม่ำเสมอของอีกฝ่ายทำให้เล้งคิดว่าพี่เบิ้มหลับแล้ว ร่างบางหยัดตัวขึ้นชะโงกมองอีกฝ่ายเพื่อเช็คความมั่นใจ แต่ก็ต้องตกใจจนแทบหลุดกรี๊ดเมื่ออีกคนพลิกตัวกลับมาอยู่ตรงหน้าเขา ทำให้ใบหน้าของเราอยู่ห่างกันไม่กี่คืบ ลมหายใจกลิ่นมิ้นต์ของอีกฝ่ายทำให้ลมหายใจของเล้งแทบสะดุด
ตึก ตัก
หัวใจเต้นดังระรัวจนแทบจะทะลุออกมาจากอก ใบหน้าเริ่มเห่อแดงและร้อนวูบวาบจนแทบจะทนไม่ไหวอีกต่อไป เล้งทิ้งตัวลงกับหมอนนิ่มดังเดิม นอนมองอีกฝ่ายด้วยสายตาที่สับสน ขยับเข้าใกล้ร่างหนาทีละนิด ๆ ใกล้พอที่จะสูดดมกลิ่นกายของอีกฝ่ายได้เต็มปอด ใกล้...จนได้กลิ่นมิ้นต์ของยาสีฟันอีกครั้งหนึ่ง
ร่างบางค่อย ๆ วาดเรียวโอบกอดอีกฝ่ายอย่างถือวิสาสะ ซุกใบหน้าลงบนอกแกร่ง ใกล้จนลมหายใจของอีกคนเป่ารดอยู่บนศีรษะกลม เพื่อเช็คความรู้สึกของตัวเอง เล้งเริ่มซุกใบหน้าเข้าหาอ้อมอกอีกครั้งพลางเงยหน้าสลับขึ้นมองอีกฝ่าย แขนเรียวพาดไว้ที่บั้นเอว
ใกล้ ... จนเริ่มเข้าใจความรู้สึกของตัวเอง
ขณะที่กำลังจะละออกจากอีกคน เอวบางกลับถูกรั้งด้วยท่อนแขนหนาของชายเจ้าของบ้าน
หมับ !
“ ทำอะไร ”
“ พะ...พี่เบิ้ม ยังไม่หลับเหรอ ”
“ พี่ถามว่าทำอะไร ” ถามเสียงเข้มพร้อมทอดสายตามองอีกฝ่ายอย่างคาดคั้น แขนเรียวพยายามแกะท่อนแขนหนาออกไปจากเอว แต่ก็ไม่เป็นผลเพราะอีกฝ่ายกลับรั้งให้เขาเข้ามาแนบชิดยิ่งขึ้นกว่าเดิม
“ ปะ...เปล่านะเว่ย ! ”
“ แล้วกอดพี่ทำไม ”
“ … ”
“ เล้ง ตอบ ”
“ อย่าดุได้ไหมวะ ”
“ ก็ตอบดิ กอดทำไม ”
เล้งพ่นลมหายใจร้อนออกมา กลืนก้อนสะอื้นก้อนใหญ่ลงคอไป ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องร้องไห้ เพียงแค่ได้ยินเสียงทุ้มนี่เคยพูดดี ๆ กับเขาดุกลับมาก็พาลพาให้น้ำตาจะไหลอยู่แล้ว
“ แค่อยากเช็คอะไรบางอย่าง ” เด็กหนุ่มตอบ
“ เช็คอะไร ”
“ ก็กำลังเช็คตัวเองอยู่ไง ว่าผมคิดยังไงกับพี่ ! ”
“ แล้วคิดยังไงล่ะ ”
“ ปล่อยโว้ยยยยยยยยยยย ! ”
“ ไม่ปล่อย ”
“ พี่เบิ้ม ปล่อยผมดิ ”
“ จะอยากให้ปล่อยทำไม เล้งมากอดพี่ก่อนป่ะ ”
“ ปล่อย ”
“ รู้ป่ะ มันมีอีกวิธีนะที่จะเช็คความรู้สึกอ่ะ ”
“ อ...อะไร ”
“ ก็แบบนี้ไง ”
“ อื้ออออ ”
ตั้งแต่ริมฝีปากจรดปลายเท้าของเด็กหนุ่มรู้สึกชาวาบไปหมดยามที่อีกฝ่ายทาบทับริมฝีปากลงมา กลีบปากหยักโลมไล้กับริมฝีปากอิ่ม ดูดดึง ขบเม้ม แลบเลียจนเปียกชุ่ม ก้มลงจูบซ้ำ ๆ ละเลียดชิมความหวานจากกลีบปากที่บวมแดงเพราะรสจูบ เป็นความรู้สึกที่ดีและสับสนไปพร้อมกัน คนเชี่ยวชาญไม่ยอมปล่อยให้อีกฝ่ายได้หายใจนาน หยอกล้อกับก้อนเนื้อนิ่มไม่รู้เบื่อ ขบกัดเบา ๆ จนเจ้าของยอมเผยอกลีบปากขึ้นเพราะความตกใจ เปิดทางให้อีกคนได้เข้าไปลิ้มรสความหวานจากโพรงปากอุ่น
เสียงชื้นแฉะดังขึ้นท่ามกลางแสงไฟสลัว กายบางชาดิกไปหมดไม่สามารถขยับส่วนใดของร่างกายได้เลยสักนิดเดียว แม้แต่ฝ่ามือก็ถูกอีกฝ่ายดึงไปประสานไว้ อีกข้างโอบบนต้นคอ มือหยาบช้อนปลายคางมนขึ้น ปรับองศาหน้าให้เหมาะสมต่อการจูบ ละจูบออกมา มองหน้าคนเด็กกว่าที่ปรือตาฉ่ำน้ำมองเขาพร้อมแก้มแดงน่าฟัด มันเป็นภาพที่ชายหนุ่มตัดสินใจได้ว่า
ขอชิมอีกสักรอบแล้วกัน
“ พี่เบิ้ม อื-- ” เมื่อจะเอ่ยปากพูด กลีบปากอิ่มกลับถูกทาบทับลงมานับครั้งไม่ถ้วน จนทำให้เด็กหนุ่มที่ตั้งใจว่าจะหยุดอีกคน เลิกล้มความคิดนั้นไปทันที
อะไรจะเกิดก็เกิด
อย่างน้อย เขาก็เข้าใจความรู้สึกนี้แล้ว
บางทีวิธีเช็คความรู้สึกของพี่เบิ้มก็ไม่ได้เสียหายอะไร
“ ไงน้องเล้ง รู้หรือยังว่าคิดยังไงกับพี่ ”
“ พี่แม่ง ... ”
“ ลองคบไหมล่ะ เดี๋ยวเช็ครถให้ฟรีตลอดชีวิตเลย”
“ มีเงินจ่าย บ้านรวย .. ” บ่นอุบพร้อมก้มหน้าซุกอยู่กับอกแกร่ง น้องเล้งคนแมนคนเดิมหายไปแล้ว เหลือแต่น้องเล้งคนขี้เขินที่ซุกใบหน้าเข้ากับแผ่นอกของพี่เบิ้มเจ้าของอู่
“ อยากอัพเครื่องใช่ป่ะ ” เสียงทุ้มที่กระซิบข้างหูทำให้เล้งถึงกับเงยใบหน้าที่ยังแดงซ่านขึ้นมองอีกคนพร้อมทำตาโต
“ พี่เบิ้มจะอัพให้ฟรีเหรอ ! ” เอาวะ เสียจูบแต่พี่มันอัพเครื่องให้ ก็น่าจะโอเคนะ แต่ต่อให้ต้องเสียเงินเขาก็จะทำกับอู่พี่มันอยู่ดี จะมีเจ้าของอู่ที่ไหนรู้ใจเล้งเท่าอยู่พี่เบิ้มไม่มีอีกแล้ว
“ ก็บอกแล้วว่าจะไม่อัพให้ไง ”
“ ถ้าไม่อัพก็ปล่อยดิวะ แม่ง ”
“ เปรี้ยวจังวะน้องเล้ง กล้ามากอดผู้ชายก่อนแล้วจะหนีออกไปง่าย ๆ ได้ยังไง ” ก็ใครมันจะไปรู้ล่ะว่าพี่มันยังไม่หลับ แค่จะเช็คความรู้สึกตัวเองเฉย ๆ ไม่ได้ตั้งใจอยากจะให้มันรู้เสียหน่อย เพราะถ้ารู้ว่าพี่เบิ้มยังไม่หลับ คนแมน ๆ อย่างไอ้เล้งจะไม่เข้าไปกอดเด็ดขาด ไหนจะยังเสียจูบให้กับผู้ชายอีก เกิดมายี่สิบห้าปี เคยจูบกับผู้หญิงมาหลายครั้งแล้ว แต่ปกติทุกทีเขามักจะเป็นคนนำเสมอ ไม่คิดไม่ฝันว่าวันนึงต้องมาถูกจูบโดยผู้ชายตรงหน้า แล้วยังจูบเก่งกว่าเขาอีกต่างหาก ! ทำให้ความมั่นใจในตัวเองที่คิดมาตลอดว่าตนนั้นจูบเก่งลดหายฮวบลงไปเลย
“ จะกลับบ้านแล้ว ! ”
“ ไหนว่าทะเลาะกับพ่อ ”
“ เปล่า ไม่ได้ทะเลาะ แกล้งบอกไปงั้น จริง ๆ แค่อยากค้างที่นี่เฉย ๆ ”
“ ไหน ๆ ก็ไหน ๆ ละ ลองป่ะล่ะ ”
“ ลองอะไรของพี่วะ ”
“ ไหน ๆ ก็เสียจูบให้พี่แล้ว จะลองคบดูหน่อยไหมล่ะ ”
“ ก็ผู้ชายทั้งคู่ไหมล่ะพี่ พี่พูดบ้าอะไรเนี่ย ”
“ ถ้าไม่อยากจะคบ หรือไม่อยากจะเสียจูบ น้องก็ไม่ควรมาลวนลามพี่นะครับ ”
“ พี่แม่ง-- ”
“ จุ๊ ๆ ไม่เอาไม่พูด ถ้าพูดต่อจะไม่ให้นอนแล้วนะ ”
“ ไม่นอนแล้วจะทำอะไร ”
“ ทำอะไรก็ได้ ”
“ … ”
“ อะไรก็ได้ที่ทำให้น้องเล้งเป็นของพี่ : ) ”
!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
“ เล้ง หยิบประแจให้พี่หน่อย ” เจ้าของอู่รถเรียกแฟนหนุ่มของตัวเองให้หยิบของมาให้ แต่กลับพบว่าเจ้าตัวนั่งหน้าบึ้งตึงอยู่ที่โซฟา เขาจึงต้องจำยอมละสายตาจากบิ๊กไบค์คันโปรดของแฟนเด็ก ทิ้งผ้าเช็ดเหงื่อลงกับพื้นแล้วก้าวเข้าไปหาอีกคนด้วยท่าทีหวั่น ๆ น้องเล้งจะอาละวาดขึ้นมาเมื่อไรก็ไม่อาจรู้ได้ กลัวโดนเอาประแจฟาดหัวอยู่เนี่ย
“ พี่แม่ง ”
“ ครับน้องเล้ง ทำไมทำหน้าแบบนั้น ”
“ มานี่ดิวะ ! ”
ร่างหนานั่งลงข้าง ๆ กับอีกคน ดึงร่างบางของน้องมากอด กลิ่นเหงื่อของอีกฝ่ายทำให้เล้งยอมอ่อนให้อ้อมกอดอุ่นนั่น ริมฝีปากหยักกดจูบไปทั่วใบหน้าขาว ตั้งแต่หน้าผาก พวงแก้มนิ่มทั้งสอง ปลายคาง และสุดท้าย ที่ริมฝีปากอิ่ม
“ อือ พี่เบิ้ม ” มือเรียวสอดเข้าไปใต้เสื้อยืดสีขาวที่เปรอะเปื้อนน้ำมันเครื่อง ไล้วนบริเวณรอยน้ำหมึกสีเข้มตรงหน้าอก ลากไล้มือขึ้นลงตั้งแต่ด้านบนลงไปถึงขอบกางเกง
“ เล้ง เดี๋ยวก่อน นี่ในออฟฟิศ ”
“ ปิดม่านดิวะพี่ คบกันมากี่เดือนละ ไม่ยอมทำสักที เป็นพระอิฐพระปูนหรือไงวะ หรือว่าตายด้านอ่ะถามจริง ” คนเด็กกว่าพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดพลางกระชากม่านปิดทันที มือบางล็อคประตูห้องแล้วหันไปเผชิญหน้ากับอีกคนด้วยสีหน้าบูดบึ้ง
“ โหเล้ง พูดแบบนี้เดี๋ยวก็สวยเลยดิวะ ”
“ เหอะ ”
“ ตัวเหม็นเหงื่อ ”
“ ไม่เป็นไร เล้งชอบ ”
“ ที่ไหนดีอ่ะ ”
“ บนมอเตอร์ไซค์มั้ย เล้งอยากลอง ”
“ ชอบโลดโผนหรือยังไง ”
“ ครั้งแรก ขอโลดโผนหน่อยดิ J ”
“ เปรี้ยวจังวะเล้ง ”
“ จะทำไม่ทำ ”
“ ทำครับน้อง เดี๋ยวอัพเครื่องให้อย่างแจ่มเลย ”
“ จริงนะ ! ”
“ ไม่ใช่เครื่องมอเตอร์ไซค์ดิ หมายถึงเครื่องของพี่
ร้องเบา ๆ แล้วกันนะครับน้อง ”
“ ลามกว่ะ ” ปากก็พูดแบบนั้นแต่มือเรียวกลับปลดทุกอย่างบนร่างกายตัวเองทิ้งไปจนเหลือเพียงแต่กายเปลือยเปล่า มือเล็กสาละวนอยู่กับการช่วยอีกฝ่ายถอดกางเกงรู้ตัวอักทีก็ถูกวางลงบนไอ้บิ๊กไบค์ลูกรักเสียแล้ว
“ รัก ”
“ ไม่ต้องพูดมาก มาจูบเลย ”
“ รักพี่ป่ะน้องเล้ง ”
“ อืม ”
“ … ”
“ รักครับพี่เบิ้ม ”
เห็นทีเสร็จจากกิจกรรมคราวนี้ ต้องเช็คช่วงล่างให้กับไอ้บิ๊กไบค์ลูกรักแล้วมั้ง โชล์คอาจจะพังไปแล้ว ...
“ พี่เบิ้ม กับน้องเล้งเป็นไงบ้างอ่ะ ”
“ เออพี่ แหมๆๆตั้งแต่ได้กินเด็ก หน้าตาแจ่มใสดูเป็นหนุ่มขึ้นเลยน้าพี่น้า ” ลูกน้องในอู่ตะโกนแซวเจ้าของอยู่อย่างชอบใจ
“ อ้าวเห้ย ๆๆๆๆๆๆ นั่นพี่เบิ้มจะไปไหนอ่ะ ”
“ ยังไม่เที่ยงเลยนะพี่ ”
“ ไปดูเล้ง น้องมันป่วย ”
“ ฮิ๊วววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว ”
ไอ้พวกนี้ แม่งน่าไล่ออกให้หมด !
#crushโฮลิน
พักเรื่องเครียด ๆ มาอ่านเรื่องเบาสมองหน่อยค่ะ ภาษาอาจจะแปลก ๆ ไปนิด ขอโทษด้วยนะต้ะ ; - ;
พล็อตนี้เกิดจากการแลกพล็อตกันแต่งระหว่างเราและ @pinqpolar 55555 โดนบิ๊วมา
ข้อมูลเรื่องรถเรื่องอู่บลา ๆ ได้จากคนใกล้ตัว แล้วก็กูเกิ้ลหาา แงง ถ้ามันผิดอะไรตรงไหนบอกได้เลยนะคะ
ให้กำลังใจกันได้ที่คอมเม้น หรือ #crushโฮลิน ไว้เจอกันเมื่อชาติต้องการ เลิ้บจ้า
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

น้องงง น่าตีจริงๆๆๆ
เด็กก็ร้ายพี่ก็ยิ่งร้าย เห็นความแอบหงอละมีแววกลัวเมียนะพี่อ่ะ
น้องเล้งน่าจับตีจริงๆ. งื้อเขินเวอร์
น้องเล้งงงงงงงงงงง โดนพี่เบิ้มจัดการแล่ววววววว
พี่เบิ้ม ฮิ้ววววววววววว ไม่อ่อนโยนกับน้องเล้งเลย น้องป่วยเลยเห็นม่ะพี่
ชอบที่พี่เบิ้มรู้ต้องน้องมันจะเช็คความรู้สึกอ่ะ นึกออกเลยยิ่งใช้เสียงนิ่งๆแบบดุๆ อีกนะ เกือบทำเล้งร้องไห้แล้วไหมล่ะนั่น(แต่ก็อยากให้ดุน้องเยอะนะ)
ทั้งพี่ทั้งคือคือแบบฟหดฟกหดหกฟกหด อ๊ากกกกกกกกกก ตอนอ่านฉากที่เค้าจูบกับคือจมูกบานมากๆ เลยอะ 55555
นี่ไม่ใช่เล้งธรรมดาแล้วนะคะ เป็นเล้งเเซ่บไปเลย แถมยังเปรี้ยวเข็ดฟันชนิดที่ว่าลืมมะนาวไปได้เลย
ส่วนพี่เบิ้มเรานั้น โซฮ็อททททมากก ตั้งแต่ฉากเปิดตัวแบบไม่ใส่เสื้อ เค้าเป็นเล้งเค้าก็ไม่ทนนน .
ชั้นชอบความทอแร้ว่าทะเลาะกับพ่อมาค้างบ้านผช คือเปรี้ยวมากป้ะ งงน้าาาาาาา เจออัพเครื่องเซทใหญ่ไปไม่เดี้ยงก็สะโพกครากอะจ้า 55555555