บทนำ
“หากน้องไม่ได้เป็นน้องสาวข้างวัง เห็นทีว่าน้องคงอยากต่อแถวเป็นแน่”
ช่อเอื้องแซวคนจับมือ เรียกคิ้วขมวดจากอีกฝ่าย
“แถวจับจองตัวท่านชายอย่างไรเล่าเจ้าค่ะ” ถึงบันไดสุดท้ายแล้ว ช่อเอื้องก็ปล่อยแล้วเดินนำหน้าเขาไปยังด้านใน ปล่อยให้คนอยากถูกจับจองยืนยิ้มอยู่คนเดียวก่อนจะส่ายหน้าแล้วเดินตาม
เสียงฝีเท้ายังคงติดตามแล้วถามคนด้านหน้า “หากพี่จะให้แม่เอื้องต่อแถวเป็นคนแรกแม่เอื้องจะกรุณาพี่ไหม”
ไม่ได้ถามว่าเธอจะยินยอมไหม แต่ถามอย่างละมุนว่าจะรับเขาไว้ในใจหรือเปล่า โอ๊ยท่านชายท่านจะน่ารักไปไหน ช่อเอื้องที่ใจไม่เล็กตามร่างแต่วิญญาณรับรู้ความรักเช่นหนุ่มสาวมากแล้ว เพราะเป็นแบบนี้เธอจึงรับรู้ความเจ็บปวดเสียใจมาเช่นกัน ช่อเอื้องหันมองอีกฝ่าย
“เอื้องยังเรียนไม่จบนะเจ้าค่ะ หากท่านชายรอเอื้องถึงตอนนั้นจะรอไหวหรือเจ้าคะ”
คนถูกถามนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ไม่คิดว่าจะได้คำตอบนี้ กำลังจะพูดความในใจแต่อีกฝ่ายก็พูดขัดเสียก่อน “อีกอย่างหนึ่งอายุของเอื้องกับท่านชายก็ห่างกันมาก หากเทียบแล้วก็เหมือนลุงกับหลาน”
จู่ๆ ก็กลายเป็นลุงกับหลานคนอายุมากกว่าถึงกับไปไม่เป็น คนพูดหันหลังแล้วเดินไปข้างในปล่อยให้คนถูกปฏิเสธยืนไร้สติอยู่ชั่วขณะ จนกระทั่งมีอีกคนเดินขึ้นตึกมา
หม่อมราชวงศ์ไตรเทพเดินมาถึงคนตรงหน้า ครั้นเดินไปได้สองก้าวก็ต้องหันมอง “ไม่เข้าด้านในหรอกหรือท่านชาย”
หม่อมเจ้าทศทิศมองไปยังน้องชายต่างมารดา “พ่อไตรมาตั้งแต่เมื่อไร”
คนถูกถามทำสีหน้าครุ่นคิดตอบด้วยสีหน้านิ่งไม่ได้มองคนถาม
“หมายปองดอกแก้วงดงาม แต่ดอกไม้ยังไม่เบ่งบานชูช่อ
หวังเด็ดเชยชมโฉมตรู หากแต่ดอกไม้ไม่เต็มใจ”
หม่อมเจ้าราชวงค์ไตรเทพพูดจบก็เดินจากไป ปล่อยให้คนเกี้ยวสาวยืนนิ่งกลางอากาศเช่นเดิม คิดว่าวิญญาณเขาตอนนี้อาจจะถึงสวรรค์จริงๆ แล้ว
ร่วมย้อนเวลาไปยังสมัยรัชกาลที่ 5
#แนวพีเรียด #ละมุนหัวใจ #ย้อนกาลใจคนึงหา
พี่เฝ้าคิดถึงทุกเมื่อเชื่อวัน
กำลังออกดอกเบ่งบานเต็มสวน
พี่อยากให้หล่อมมาเห็นยิ่งนัก
ใจพี่ก็หาได้เบ่งบานเช่นดอกแก้วเลย
ความคิดเห็น