เหนือกาลเวลา องค์หญิงสิบแห่งคังซี - นิยาย เหนือกาลเวลา องค์หญิงสิบแห่งคังซี : Dek-D.com - Writer
×

    เหนือกาลเวลา องค์หญิงสิบแห่งคังซี

    เพราะยาอายุวัฒนะที่ได้นางกิน ทำให้นางต้องใช้ชีวิตเป็นอัมตะหลายพันปี กาลเวลาที่หมุนเวียนต้องมองเห็นคนล้มตายต่อหน้า นางจึงขอเพียงให้มีใครสักคนจบชีวิตนางก็พอ

    ผู้เข้าชมรวม

    8,593

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    116

    ผู้เข้าชมรวม


    8.59K

    ความคิดเห็น


    28

    คนติดตาม


    290
    จำนวนตอน :  23 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  14 พ.ค. 64 / 19:00 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ


    เหนือกาลเวลา 

    องค์หญิงสิบยงเจิ้ง

    บทนำ

     

               

    ปีที่ 13 ในรัชสมัยยงเจิ้ง

                เสียงฝีเท้าเข้าออกไม่ขาดสายในห้องบรรทมสีทองอร่าม ณ พระราชวังหยวนหมิงหยวน 圆明园 ตอนนี้เหล่าขุนนางชั้นสูงตลอดเชื้อพระวงศ์ต่างคุกเข่าอยู่หน้าตำหนัก เมื่อฮ่องเต้หยงเจิ้งประชวรหนักถึงขั้นกระอักโลหิตเป็นสีเลือด

                องค์หญิงสิบเผยหนิงเอ๋อร้อนพระทัยแต่ก็ไม่อาจย่างก้าวเข้าไปเพื่อดูอาการของพระบิดาได้ ต้องคุกเข่าอยู่หน้าพระตำหนักรอคอยเวลา วันนี้ล่วงเข้าวันที่สามแล้วแต่อาการฝ่าบาทก็ยังไม่ดีขึ้น

                เสียงฝีเท้ากลุ่มใหญ่ดังขึ้นมาอีกครั้ง คราวนี้เป็นนักพรตเจี่ยซื่อฟาง หัวหน้านักพรตที่ฝ่าบาททรงโปรดให้เข้ามารับใช้ที่ซิ่วชิงชุน เพื่อปรุงยาอายุวัฒนะถวาย

                ชุดสีขาวดำลายสำนักเดินถือถาดบรรจุยาโอรสเข้าไปด้านในด้วยความเร่งรีบ องค์หญิงสิบเผยหนิงเอ๋อมองไปยังองค์ชายเฉินหลงที่มองยาถ้วยน้ำด้วยสีหน้ากังวลแต่ก็ทำได้เพียงเฝ้ารอ

                หมดไปหลายชั่วยามไม่นานประตูก็เปิดออก เป็นหลิวกงกงขันทีคนสนิทที่ออกมาเชิญองค์ชายเฉินหลงเข้าไปด้านในพร้อมด้วยพระสนม นางอยากเข้าไปด้วยแต่ก็ทำได้เพียงเฝ้ารอ

                เฝ้ารอได้หนึ่งชั่วยามก็ถึงนางเข้าเฝ้า องค์หญิงเผยหนิงเอ๋อเดินเข้าไปในตำหนักสิ่งแรกที่รับรู้คือกลิ่นยาที่แตะจมูก มองไปยังร่างพระบิดาที่นอนอยู่บนเตียงนางวิ่งเข้าไปแล้วจับมือไว้แน่น

                “พระบิดาได้โปรดอย่าทิ้งลูกไป”

                ดวงตายงเจิ้งหันมองบุตรสาวคนเล็กที่โปรดปรานยังจดจำน้ำเสียงเจื่อแจ่วได้อย่างดี เขาหันมองหลิวกงกงก่อนส่งมอบฎีกาสีทองอร่ามส่งให้กับนาง

                “นี่คือสิ่งที่บิดาจะทำให้เจ้าได้ หนิงเอ๋อเจ้าต้องมีชีวิตคู่ที่ดีอย่างที่เราต้องการ”

                องค์หญิงเผยหนิงเอ๋อหันมองพระบิดาดวงตาพระองค์เริ่มอ่อนล้าน้ำเสียงเริ่มลดลงจนกระทั่ง มือที่จับมือนางทิ้งตัวไปกับพื้นเตียง

                “ฝ่าบาท!!!เสด็จพ่อ” เสียงรอบด้านร่ำไห้ร้องแล้วคุกเข่ากับการสิ้นพระชนม์ของฝ่าบาท

                เสด็จพ่อสิ้นแล้ว สิ้นในมือนาง องค์หญิงเผยหนิงเอ๋อมองมือที่วางเปล่าไร้ซึ่งความอบอุ่นอีกแล้ว

                “อย่าทิ้งลูกไว้แบบนี้เพคะ” เสียงนางร่ำไห้แต่ร่างไร้วิญญาณก็หาได้ลืมตาขึ้นมาดุนางอีกแล้ว

                ตลอดเวลาสิบปีที่นางอยู่ในวังหลวงแห่งนี้ เสด็จพ่อทรงเรียกนางเข้าเฝ้าอยู่บ่อยครั้ง นางที่ไร้ซึ่งมารดาไร้ซึ่งสกุลปกป้องหากไม่ได้เสด็จพ่อคงไม่มีชีวิตอยู่จนถึงทุกวันนี้

                องค์หญิงเผยหนิงเอ๋อคุกเข่าแล้วอำลาเสด็จพ่อเป็นครั้งสุดท้าย จากนี้จะไม่มีแล้วเสียงหัวเราะ ตักเตือน หรือคำปลอบโยนจากพระบิดา นางจะจดจำคำสั่งสอนที่พระองค์มอบให้มาตลอดหลายปีให้ขึ้น

                เสียงกระดิ่งตรงประตูร้านอาหารคังซีดังขึ้น ทำให้คนที่นึกถึงอดีตดึงสติกลับมาก่อนหันมองแขกของร้านที่เดินเข้ามากลุ่มใหญ่

                “ร้านอาหารองค์หญิงสิบแห่งยงเจิ้งยินดีต้อนรับค่ะ”

                หญิงสาวมีใบหน้ารูปไข่ แต่งกายด้วยชุดสมัยยงเจิ้งเป็นกี่เพ้ายาวสีม่วงอ่อนปักลายดอกเหมยหลากสี ด้านบนมีผมเตี่ยนจึอันเล็กประดับอยู่พร้อมกับเครื่องประดับสวยงาม

                แขกที่มาทานอาหารหันมองร้านอาหารที่เปิดรับเพียง 1 โต๊ะต่อวัน และคนไม่เกิน 8 คน พวกเขาที่ได้มากินต้องจองล่วงหน้าอย่างน้อย 6 เดือน จึงจะได้โต๊ะจองที่ว่า แลกกับจำนวนราคาโต๊ะที่หลายหน่วย

                บรรยากาศด้านในถูกตกแต่งเหมือนตำหนักจีนโบราณ มีเครื่องประดับตกแต่งล้วนเป็นของรัชสมัยยงเจิ้งทั้งสิ้น เมื่อพวกเขานั่งลงบนโต๊ะเพียงหนึ่งเดียว

                เจ้าของร้านก็ยกผ้าเช็ดหน้าขึ้น จากนั้นเหล่าพนักงานที่แต่งกายคล้ายนางกำนัลก็เดินถืออาหารออกมาวางบนโต๊ะอาหารมองไปยังจานแรกของโต๊ะ

                “จานนี้มีชื่อว่าเริงราตรีบุบผา ตัวเนื้อไก่ถูกตุ๋นด้วยเตาถ่านนานถึง 6 ชั่วโมง ตัวเครื่องเทศเต็มไปด้วยสมุนไพรที่บำรุงร่างกายให้อ่อนวัย รอบด้านประดับด้วยกรีบดอกบัวที่เคลือบด้วยน้ำผึ้งที่หมักด้วยสมุนไพรเช่นกัน”

                แค่จานแรกก็มหัศจรรย์แล้ว สมแล้วที่ต้องรอคอยมา 6 เดือนเพื่อได้ชิมรสร้านอาหารแห่งนี้

                เจ้าของร้านหันมองสีหน้าแววตาของแขกเมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรแล้วจึงเดินกลับเข้าห้องตัวเอง ประตูบานไม้สีแดงโบราณเปิดออกก็พบรูปของจักรพรรดิยงเจิ้งอยู่บนฝาผนังเด่นตระหง่าอยู่เบื้องหน้า

                หญิงสาวยิ้มแล้วเอ่ยกับรูป “เสด็จพ่อกาลเวลาของลูกจะจบลงเมื่อไรกัน แล้วลูกจะได้พบเขาอีกไหม” น้ำเสียงนางอ่อนลงเมื่อคิดถึงชายผู้นั้น

                หลายพันปีที่ผ่าน ทุกยุคทุกสมัยเวียนผ่านไปตามกาลเวลา แต่นางก็ยังคงเป็นองค์หญิงเผยหนิงเอ๋อคนเดิมไม่เปลี่ยน



    ---------------------

    เนื้อเรื่องจะสลับไปมาระหว่างอดีตและปัจจุบัน 

    เนื้อเรื่องทั้งหมดเกิดจากจินตนาการจากผู้เขียน มีทั้งที่ตรงกับประวัติศาสตร์และการเสริมแต่งเพื่ออรรถรสในนิยาย


    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น