คนเดียวที่ผมรัก - คนเดียวที่ผมรัก นิยาย คนเดียวที่ผมรัก : Dek-D.com - Writer

    คนเดียวที่ผมรัก

    ความรักของคนเล็กๆบนโลกใบใหญ่ ที่อาจดูธรรมดาแต่ก็ไม่ธรรมดาสำหรับใครหลายๆคน

    ผู้เข้าชมรวม

    2,985

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    6

    ผู้เข้าชมรวม


    2.98K

    ความคิดเห็น


    21

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  18 เม.ย. 50 / 14:14 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      คนเดียวที่ผมรัก

          สวัสดีครับท่านผู้อ่านทั้งหลาย คุณคงไม่รู้จักผมใช่ไหมล่ะ ผมชื่อว่าเป็นเอกครับ เรียกสั้นๆว่าริวก็พอ ผมมีเรื่องอะไรจะมาเล่าให้คุณฟังกันมันเป็นแค่เรื่องธรรมดาๆน่ะครับ แต่ก็ลองอ่านกันดูนะครับ……….

                 "ริวๆทำไมไม่ไปเรียนหนังสือล่ะ ใกล้สอบแล้วนะ เวลาจะไม่ทันเดี๋ยวไม่ได้สอบนะ"
      ดารณีเพื่อนร่วมห้องเอ่ยทักเมื่อเห็นผมที่ศูนย์การค้าตอนเย็นๆ

      "ทำไมเราต้องไปด้วย อย่ามายุ่ง"
      ผมเดินหนีเธอทันที
      เมื่อก่อนผมได้ชื่อว่าเป็นคนที่รักโรงเรียนมากๆ ไม่ว่าวันนั้นผมจะอยากไปเรียน

      หรือไม่ก็ตามผมก็จะไปทุกวัน นั่งเรียนทุกชั่วโมง แต่ตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้วครับ

      ผมขึ้นรถกลับบ้าน การเดินเข้ามาที่บ้านของผมเปรียบเหมือนกับเดินเข้ามาในคุก

      นั่นล่ะครับ ผมไม่รู้ว่าทำไมผมถึงเกลียดที่นี่หนัก

      เพล้ง!
      เสียงจานแตกตามมาด้วยเสียงทะเลาะกันของพ่อกับแม่ของผม

      ท่านทะเลาะกันทุกวันล่ะครับ ผมดูท่านทะเลาะกันมานานพอที่จะไม่สนใจอีกต่อไป

      มันก็เหมือนคอนเสิร์ตดีๆนี่เอง เพระามีแต่เสียงวุ่นวายแทบไม่ได้ยินเสียงนักร้อง

      โปรดเลยสักนิด

      "พ่อ แม่ฮะ ผมอยากถามว่าทำไมพ่อกับแม่ไม่หยุดกันสักทีผมรำคาญ"

      ผมมักจะพูดประโยคนี้กับพ่อและแม่เสมอ แปลกไหมล่ะลูกคนอื่นๆเขาพูดกันว่า

      รักพ่อแม่แต่ผมเปล่า การใช้ชีวิตในครอบครัวที่เป็นทุกข์แบบนี้ทำให้ผมเอือมระอา

      เหลือเกิน ผมกลับเข้ามาในห้องของผม

      มันเป็นที่ๆเดียวที่ผมแสดงความเป็นตัวเองมากที่สุด ผมนั่งลงที่เตียงและหยิบภาพ

      ถ่ายครอบครัวที่ตอนนั้นยังอบอุ่นอยู่

      ผมร้องไห้เงียบๆ นานมาแล้วที่ผมได้รับความอบอุ่นและตอนนี้ผมไม่รู้จักคำนั้นอีก

      ต่อไป พ่อและแม่คือคนแปลกหน้าเหลือเกินสำหรับผม

      ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมแต่ผมไม่อยากทำอะไรตามที่ท่านต้องการอีก เช่น
       
      เรียนหนังสือ

                 วันนี้อากาศดีมาก พ่อและแม่ออกไปทำงานตั้งแต่เช้าแล้ว

      ผมรู้สึกว่าโลกนี้ดูสงบขึ้นเยอะเพราะปราศจากเสียงโวยวายใส่กัน

      ผมเดินทอดน่องไปเรื่อยๆแล้วก็ไปเจอกับดาที่ยืนขวางทางผมอยู่ เธอมองผมด้วย

      สายตาตำหนิก่อนเอ่ยว่า

      "ริว ทำไมแต่งตัวแบบนี้ ไม่ไปเรียนหนังสือเหรอ"

      "ไม่ล่ะ ผมมีธุระไม่ว่างไปนั่งเรียนหรอก"

      "ไม่ว่าง ธุระ บ้า อายุอย่างเรามีหน้าที่เรียนนะ เราไม่รู้ว่าริวมีปัญหาอะไรนะ แต่การที่

      ประชดปัญหาด้วยวิธีนี้มันโง่ที่สุดเลย"

      ดาเดินไปโรงเรียนต่อ ทิ้งให้ผมยืนอึ้งอยู่นานสองนาน

                  ตกเย็น พ่อกับแม่ผมทะเลาะกันอีกแล้ว แต่คราวนี้มันมากกว่าทุกครั้ง

      พ่อผมตบแม่ของผม ผมไม่เคยเห็นพ่อใช้กำลังมาก่อน

      "หยุดนะฮะ พอเสียที ผมไม่อยากเห็นภาพแบบนี้อีก"

       ผมตะโกนขณะที่ไปประคองแม่ที่ร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่

      พ่อมองมือของตัวเองแล้วก็เดินออกจากบ้านไป ผมได้ยินเสียงรถยนต์ที่วิ่งไกลออก

      ไปราวกับเสียงหัวใจที่แหลกละเอียดของผม

      "แม่ทะเลาะกับพ่อทำไม"  

      ผมถามแม่ด้วยความเป็นห่วงหลังจากที่ไม่ใส่ใจมานาน

      "พ่อเขาว่าว่าแม่ดูแลลูกไม่ดี ทำให้ลูกไม่ยอมไปเรียนหนังสือ"

      ผมได้ยินก็เจ็บราวกับมีดโกนบาด

      มันกรีดผมจนร่างผมพรุนไปด้วยร่องรอยแห่งความเสียใจ

      "แม่ฮะ พรุ่งนี้ริวจะไปโรงเรียน ริวจะทำเพื่อแม่นะฮะ"

      แม่ยิ้ม เป็นยิ้มที่ผมไม่เคยเห็นมานานเหลือเกิน

                   "ริว! เธอจริงๆด้วย มาเรียนแล้วเหรอ"

       ดาเข้ามาทักผม ผมพยักหน้าน้อยๆเชิงให้เธอรับรู้ว่าก็เป็นผมน่ะสิ

      ดายิ้มหวานและเอ่ยอีกคำว่า

      "ยินดีต้อนรับอีกครั้งนะจ๊ะ"

      ความจริงแล้วดาคงเอ่ยไปอย่างนั้นแหละ

      แต่ผมก็ดีใจมากที่ยังมีคนห่วงใยผมมากขนาดนี้  

      การเรียนวันนี้เล่นอาผมแทบเอาชีวิตไม่รอด ทำไมน่ะเหรอ
       
      ความรู้ของผมมันหายไปไหนหมดก็ไม่รู้ อะไรวิ่งเต็มไปหมดในสมอง
       
      ผมตามใครไม่ทันเลยจริงๆ

      "ดาสอนให้นะ ไม่เข้าใจตรงไหนก็ถามมาสิ"

      ตั้งแต่นั้นทุกเย็นผมก็รบกวนให้ดาช่วยติวย้อนหลังให้

      ซึ่งเธอก็แสนดีช่วยผมอย่างเต็มใจ  

      ผมเดินกลับบ้านมาด้วยหัวใจที่อิ่มสุข แต่บ้านของผมก็ดีได้แค่ครู่เดียว

      เริ่มมีเสียงทะเลาะกันเล็ดลอดออกมา พ่อมองหน้าผมที่เดินเข้าบ้านมาและเอ่ยว่า

      "ดูมันให้ดีกว่านี้ ฉันเหลืออดกับมันแล้ว"

      ในที่สุดความอดทนของผมก็ถึงขีดสุด

      "อะไรกันพ่อ ผมไปเรียนตามที่พ่อต้องการแล้ว ทำไมถึงยังทะเลาะกับแม่อีกล่ะ"

      พ่อมองหน้าแม่อีกทีและมองมาทางผม

      "ใช่แกไปเรียนแล้ว แต่ฉันก็ยังอยากทะเลาะกับแม่แกอีก ทำไมน่ะเหรอ แม่แกไม่ยอมหย่าไง"

      ผมฟังคำว่าหย่านั้นด้วยหัวใจที่แหลกสลาย ผมเจ็บมากครับ เหมือนกับแผลเก่าที่ใกล้ปิดโดยสะกิดขึ้นมาอีกผมเสียใจมากขึ้นอีกที่ได้ยินแม่พูดว่า

      "ได้ ฉันจะหย่า"

      นี่แม่กับพ่อมองเห็นผมบ้างไหมนะ

      ผมเสียใจมากขึ้นอีกและเรี่ยวแรงสุดท้ายที่มีอยู่ผมก็ใช้มันออกวิ่งไปทันที

                  ไม่รู้เหมือนกันว่าเท้าพาผมไปที่ไหน
      ด้วยความแค้นที่อัดอั้นมานานผมจึงเอามือประเคนลงบนเสาไฟ

      มันเจ็บเหมือนกันครับ

      แต่ผมก็รู้สึกว่าอะไรๆมันหายออกไปเยอะ

      "ริว!"

      เสียงดาเรียกผม ทำให้ผมรู้ว่าที่นี่มันเป็นซอยใกล้บ้านของดา

      ดาพาผมไปทำแผลที่บ้าน

      ผมมองเธอพันมือเงียบๆด้วยความรู้สึกว่างเปล่า

      "ริวอยากระบายอะไรบ้างไหมล่ะ"

      เท่านั้นล่ะ ผมก็เอ่ยทุกอย่างที่ผมเก็บไว้

      ดารับฟังผมเงียบๆ เธอเป็นผู้ฟังที่ดี

      "ดาว่านะ เราเป็นลูกก็ย่อมจะไม่อยากให้พ่อแม่เลิกกันเป็นธรรมดา

      แต่ว่าถ้าหากท่านเลิกกัน อาจจะดีสำหรับท่านที่สุดนะ เพราะท่านจะได้ไม่มานั่ง

      เสียใจแบบนี้อีก"

      "แล้วเราล่ะ เราจะอยู่อย่างไร"

      ผมเริ่มมีน้ำตาคลอน้อยๆ

      "ท่านเลิกกันก็จริง แต่ไม่ได้เลิกรักริวนี่ ท่านอาจจะอยู่ด้วยกันไม่ได้แต่ความเป็นพ่อ แม่ ลูก ตัดยังไงก็ไม่ขาดนะริว"

      ผมมองหน้าดาที่ยิ้มอย่างอบอุ่น จริงสิบางทีนี่อาจดีที่สุด

                  ดังนั้นผมจึงทำความเข้าใจกับพ่อและแม่ ท่านดีใจที่ผมยอมรับการตัดสินใจ

      ของท่าน และในที่สุดท่านก็หย่าจากกัน

      แต่ผมก็ยังได้รับความรักจากท่านเสมอ พ่อมาหาผมเกือบทุกวัน และพ่อกับแม่ก็พูด

      ด้วยกันดีอย่างที่ผมไม่เห็นมานานแล้ว

      "ดาดีใจนะที่ริวตัดสินใจให้ท่านทั้ง2มีความสุข"

      ผมยิ้มให้เธอกับความรู้สึกบางอย่างที่ก่อตัวขึ้นในใจ………………  

      ปิดเทอมแล้วผมเลือกที่จะเรียนพิเศษเพิ่มเพราะผมห่างการเรียนไปนาน

      ดาเองก็เรียนพิเศษเหมือนกัน แต่คนละที่เพราะว่าผมไม่ต้องการเห็นอะไรบางอย่าง
       
      ก็เห็นดากับเจ้าเอกนั่งด้วยกันน่ะสิ ใช่แล้วครับ ดามีแฟนแล้วชื่อว่าเอก

      วันที่เธอแนะนำให้ผมรู้จัก ผมแทบคลั่งแน่ะ

      แต่ดีที่ผมเก็บมันไว้ได้ เธอคงไม่ใช่เนื้อคู่ของผมหรอกครับ

      แล้ววันหนึ่งขณะที่ผมกำลังไปจะไปเรียนก็เห็นดาเดินมาหา ดาร้องไห้และวิ่งมากอด

      ผม ผมตกใจมากจึงพาเธอไปหาที่เงียบๆคุยกัน
       
      "ดากับเอกเลิกกันแล้วล่ะ เอกมีคนใหม่แล้ว"

      ดาร้องไห้อีกครั้งเมื่อพูดถึงตรงนี้
      ผมไม่รู้จะพูดอะไรได้แต่เป็นที่ที่ดาให้ระบายความในใจเท่านั้น

      แค่นี้ผมก็รู้สึกดีใจแล้วล่ะที่ดาเห็นผมเป็นคนแรกในวันที่เป็นทุกข์

                     หลังจากผ่านไป2เดือนผมและดาก็สนิทกันมากขึ้น

      ดาตัดใจจากเอกได้แล้ว ผมเริ่มมีความหวังอีกครั้ง

      และด้วยความที่ผมไม่อยากรออีกต่อไป ผมจึงตัดสินใจที่จะบอกความรู้สึกของผม

      ให้ดารู้ แต่การบอกที่ธรรมดาก็ธรรมดาเกินไป

      "เรียกดามาที่เรือนเพาะชำทำไมเนี่ย"

      ผมยิ้มน้อยๆก่อนพาดามาที่แปลงปลูกต้นไม้

      "ดาเห็นแปลงนี้ไหม เวลาเราจะปลูกต้นไม้เราต้องใช้อะไรบ้าง"
       
      "ก็มีน้ำ ดิน และปุ๋ยนะที่ทำให้มันโต"

      ผมพยักหน้า

      "ใช่แล้วสมมติว่าริวเป็นต้นไม้ที่เหี่ยวเฉา และมีดินคือพ่อและแม่ ริวขอดามาเป็นน้ำช่วยทำให้ริวเติบโตอีกครั้งได้ไหม"

      ดาทำหน้าแปลกๆแสดงว่าไม่เข้าใจ

      "ดาฟังให้ดีนะ ริวอยากขอดามาเป็นคนพิเศษที่พิเศษยิ่งกว่าใครจะได้ไหม"

      ผมเริ่มเขินแล้วนะ พูดอะไรบ้างสิ ผมคิดในใจ

      "ดาก็นึกว่าอะไร ตกลงดาเป็นน้ำให้ริว แล้วริวก็อย่าลืมเป็นน้ำให้ดานะ"

      ดายิ้มอายๆแล้วเดินจากไป ผมดีใจมาก ผมมีคนพิเศษแล้วนะ



                      เวลาผ่านไป ตอนนี้ก็7ปีแล้วครับที่เราคบกันมา(ไวจังนะครับ)

      ผมสอบเข้ามาเป็นสัตวแพทย์ส่วนดาก็ได้เป็นคุณหมอสมใจ

      เราต่างทำงานอย่างหนักและสนุกกับมันมาก จนเริ่มลืมๆความหวานๆแล้วล่ะครับ

      แต่เราก็เชื่อนะว่าเรายังรักกันอยู่ ตั้งแต่ตอนที่ผมบอกรักดาเราก็คบกันแบบสบายใจ

      มีหลายครั้งที่ทะเลาะกันแต่ก็ดีกันได้ ดาดีที่สุดสำหรับผมแล้วล่ะ แต่ผมเริ่มเบื่อการที่

      มีดาเป็นแฟนแล้วล่ะครับตอนนี้ผมว่างจากเวลางานครับ ก็เลยมาเดินเที่ยวเล่นที่ห้าง

      ตากแอร์เย็นๆ และก็แค่ซื้ออะไรๆมาแค่นิดหน่อยเท่านั้นแหละครับ

      "ดาเหรอ พรุ่งนี้ว่างไหมมาหาริวที่ร้านที่เดิมหน่อยสิ"

      ผมโทรหาดาครับ เธอตอบตกลงว่าจะมาพบผมตอนเที่ยง

      หมอก็งี้แหละไม่ค่อยมีเวลา

      แล้วเวลาที่ผมรอคอยก็มาถึงครับ ผมนั่งรอดาประมาณ10นาที เธอก็มาถึง

      "โทษทีริว ดายุ่งมากเลย ดามีเวลาแค่นิดเดียวนะ"

      ผมเริ่มทำหน้าแบบน้อยใจ ช่วงนี้เราไม่มีเวลาให้กันเลยครับ และผมก็แน่ใจว่าผมเบื่อ

      "เราคบกันมากี่ปีแล้วดา"

      ผมเริ่มเปิดประเด็น

      "7ปีกว่าๆทำไมเหรอ"

      ดาเริ่มมองผมแปลกๆ

      "คือว่า......"

      ผมพูดไม่ออก เริ่มเอามือล้วงกระเป๋า เวลาผมเครียดก็เป็นแบบนี้ล่ะครับ

      "คือริว....อยากบอกดาว่าดาเป็นคนที่ดีมากสำหรับริว แต่ว่า...."

      "แต่อะไร"

      ดาเริ่มตกใจ

      "แต่ว่า ริวเบื่อการเป็นแฟนของเราแล้วล่ะ เราเลิกเป็นแฟนกันเถอะนะ"

      ดายกมือปิดปาก น้ำตาเริ่มรินออกจากตา คู่สวย

      "ทำไมล่ะริว หรือว่าดามีเวลาให้ริวน้อยไป"

      "เปล่าหรอก ริวเบื่อ"

      ผมเอามือไปเช็ดน้ำตาดาช้าๆ แต่ดาเบือนหน้าหนีแล้ววิ่งออกไปจากร้านทันที

      ผมก็วิ่งตามน่ะสิ

      "เดี๋ยวดา ริวยังพูดไม่จบเลย"

      ผมคว้าเธอไว้ได้

      "ไม่ล่ะ ดาไม่อยากฟัง ริวเคยสัญญาว่าจะไม่ทิ้งดาแล้วไงล่ะ ในที่สุดริวก็เบื่อ"
       
      "ก็ใช่น่ะสิ ริวเบื่อการเป็นแฟนกับดาแล้ว"

      ผมเอาของบางอย่างวางที่มือของดา ดาคลายมือออกมาพร้อมกับสีหน้าตกใจ
       
      "ริวจะพูดว่า ดาเลิกเป็นแฟนกับริวแล้วมาเป็นภรรยาริวได้ไหม ริวเบื่อการเป็นแฟนแล้วล่ะ"

      ผมหยิบแหวนที่อยู่ในมือดา มาสวมให้ดาที่ตอนนี้ก็ร้องไห้อีกแล้วครับ

      แต่ผมรู้ว่าดาร้องต่างจากเมื่อครู่นี้

      "ดา.....ก็ได้เราเลิกกัน ดาไม่เป็นแฟนริวแล้ว"

      ผมมองหน้าดา ดาก็มองหน้าผม เรารู้ใจกันดี

      ใช่แล้วครับผมขอเลิกเธอจากการเป็นแฟนมาเป็นภรรยาและเธอก็ตอบตกลง............

                    ตอนนี้ก็อย่างที่คุณรู้นั่นล่ะครับ ดากับผมแต่งงานกัน เรารักกันมากขึ้น

      และเราก็ใช้ชีวิตร่วมกัน แต่ต่อจากนั้นผมก็คงจะมีลูกน่ารักๆและคงได้เป็นพ่อล่ะครับ

      แต่ว่าตอนนี้ เรายังไม่พร้อม เพราะยังอยากทำงานครับ แต่ผมเชื่อว่าสักวัน

      ครอบครัวผมคงสมบูรณ์กว่านี้แน่นอนครับ  คุณล่ะครับตอนนี้มีคนพิเศษหรือยัง

      ดูแลเขาให้ดีนะครับ จะได้เหมือนผมที่ตอนนี้มีความสุขที่สุดเลยครับ................*_*


      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×