Darkness night :ใครจะรู้บ้างว่าหมามันทรมานแค่ไหน
คุณเคยเลี้ยงสุนัขไหม ? แล้วคุณเคยทำให้มันเจ็บช้ำรึเปล่า ? ลองถามมันดูสิว่ามันเจ็บแค่ไหน ?
ผู้เข้าชมรวม
280
ผู้เข้าชมเดือนนี้
0
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ราตรีนี้ซ่อนร่างอยู่ภายใต้ผ้าคลุมสีดำสนิทมองดูราวกับว่าท้องฟ้ากำลังส่งสัญญาณอันตรายไปยังใครสักคน ดวงดาราแวววาวแพรวพราวที่เคยประจัญแสงแข่งโคมไฟแห่งรัตติกาล บัดนี้ได้ลอยลับหายวับไปไกลตา แม้แต่ดวงจันทราก็ไม่ปรากฏเงา ทั่วทั้งนภามีเพียงก้อนเมฆก้อนน้อยๆ เลื่อนลอยอย่างอ่อนแรง ดังกับว่าไปออกแรงวิ่งแข่งกับใครมา
เมฆสีขาวที่ดูราวกับสำลีบัดนี้ได้แปรเปลี่ยนเป็นเมฆสีเทา ไม่ต่างไปจากจิ้งจกที่ปรับสภาพไปตามฝาผนัง คลื่นลมโหมกระหน่ำซ้ำซ้อนทำเอาขยะในเมืองปลิวว่อนกระจัดกระจายไปทั่วทุกสารทิศ แสงสีเงินแว๊บแว๊บแลบแพลบแพลบตัดกับสีดำของท้องนภา สายฟ้าเปรี้ยงปร้างตั้งเค้าว่าจะผ่าลงที่ใด
ในที่สุดสายฝนก็โปรยปรายชำระล้างสิ่งสกปรกในจิตใจมนุษย์ที่ไม่เคยจะหมดไปเสียที ค่ำคืนนี้ช่างเป็นคืนที่ดูไร้ความหมายสำหรับใครหลายๆ คนที่เอาแต่นอนคุดคู้อยู่บนเตียง แต่ไยเล่าจะรู้เลยว่า มีใครบางคนกำลังดิ้นรนอยู่อย่างทรมาน
" ราตรีนี้มีเพียงความเหงา ราตรีนี้มีเพียงความเศร้า โอ้! ราตรีนี้มีเพียงแค่เรา...ที่จมปรักกับความทุกข์ทรมาน"
เสียงกระซิบแพ่วเบาจากห้วงลึกของจิตใจหมาน้อยตัวหนึ่ง ซึ่งกำลังยืนเปียกปอนอยู่ที่เชิงสะพาน
" บรู๊วววววววววววววววววว"
มันค่อยๆ บรรจงหอนด้วยเสียงอันครวญครางคร่ำครวญราวกับว่าเพิ่งสูญเสียมารดาไป แต่ชะตากรรมของมันมิได้เป็นเช่นนั้น
เจ้าหมาขนสีน้ำตาลเคยเป็นลูกหมาในร้านขายลูกสุนัขแห่งหนึ่งในย่านนี้ มันถูกซื้อไปโดยเด็กผู้ชายใจร้ายคนหนึ่งที่ตั้งชื่อให้กับมันซะเพริดพริ้ง " เจ้าน้ำตาล "เขาเรียกมันด้วยคำคำนั้น เจ้าน้ำตาลไม่อาจล่วงรู้เลยว่าในอนาคตกาลนั้นมันจะถูกทิ้ง
เมื่อก่อน เจ้าลูกหมาพันธุ์ปักกิ่งตัวนี้มี นัตน์ตาโตสีน้ำตาลที่สดใส เป็นประกายแวววับระยิบระยับต้องตายิ่งกว่าดวงดาราบนฟากฟ้า แต่หลังจากที่ไปป์ เด็กชายผู้เป็นเจ้าของสนใจแต่เกมส์ จนไม่ใยดีเจ้าลูกสุนัข ทำให้มันเปลี่ยนไป แม้จะมีนัยน์ตาสีน้ำตาลเช่นเดิม แต่ดวงตานั้นกลับโศกเศร้าทุกข์ทรมานแสนสาหัสสุดจะทน ดวงตาที่แสนจะอ่อนโยนนั้นแปดเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา และคราบขี้ตา
ก่อนนั้นเจ้านายเคยพามันไปเดินเล่นทุกวั้นทุกวัน แต่เดี๋ยวนี้กลับไม่แม้แต่จะปรายตามอง เวลานายให้อาหารมันเลยหยิ่งไม่กินข้าวกินแต่กับข้าว แต่เจ้านายก็ยังไม่สนใจ เจ้าน้ำตาลคิดว่าแผนของมันไม่ได้ผลจึงเปลี่ยนแผนใหม่ ตอนนี้มันกินข้าวหมดเกลี้ยง เพื่อให้เจ้านายของมันต้องลำบากหาข้าวมาให้มันกินอีก หลายวันมานี้มันสะใจที่ทำให้เจ้านายลำบาก แต่ก็ไม่เท่าที่มันต้องเสียใจ
คืนนี้เจ้านายของน้ำตาลไม่อยู่ทิ้งให้มันนอนเหงาอยู่ตามลำพังในบ้านหลังเล็กของมัน
" ออกไปนอกบ้านโดยไม่บอกข้าอีกแล้วนะ" เจ้าน้ำตาลคิด
จากนั้นมันก็แหงนหน้ามองท้องฟ้าสีดำที่ถูกกระหน่ำด้วยฝนชุดใหญ่
" ดาวอยู่ไหนกัน พระจันทร์หายไปไหน!!!!!แย่แล้ว!!!! มีคนขโมยดาวกับพระจันทร์ของข้าไป " มันเห่าอย่างสุดเสียงด้วยความโมโหอย่างสุดขีด ตอนนี้มันกระวนกระวายสับสนในจิตใจ วิ่งไปวิ่งมาพร้อมกับเห่า
" จะทำยังไงดี ทำไงดี ๆๆๆๆๆ " แล้วจู่ๆ มันก็หยุดนิ่งเสียเฉยเลย คอตั้งหลังตรง ดวงตาฉายแววมุ่งมั่น
" ข้าจะไปตามหามัน จะเอาดาวกับพระจันทร์มาใส่ไว้บนท้องฟ้าของข้าเหมือนเดิม " ด้วยสาเหตุนี้เจ้าน้ำตาลจึงได้ไปหยุดอยู่ที่เชิงสะพาน
หลังจากที่มันแแผดเสียงอันโหยหวนออกมาจากลำคอ มันก็บ่นพรึมพรำว่า
" ข้าอุตส่าห์เฝ้ามองดวงดาว ดวงจันทร์ ทุกคืนทุกวัน อยากจะเอามาเก็บไว้ในบ้านหลังน้อยของข้า แต่ข้าไม่เคยกระโดดงับถึงเลย ชะไหนเจ้าโจรใจทรามถึงทำกับข้าได้ลงคอ "
บัดนี้สีหน้าของมันช่างดูรันทดซะเหลือเกิน ทำเอาจมูกบี้ๆ หน้าย่นๆ ของมันดูไม่ตลกเลยในตอนนี้ เจ้าน้ำตาลกำลังค่อยๆ ยกขาสั้นๆ ป้อมๆ ของมันขึ้นไปบนสะพาน ลำตัวของมันยาวแสนยาว เพราะความขี้เกียจเอาแต่นอนของมัน บนหลังที่เปียกโชกโชนของมันมีสีน้ำตาลอ่อน แต่พอลองมองดูอีกที่เหมือนสีโอรสเข้มมากกว่า เจ้าสุนัขลากสังขารของมันมาถึงกลางสะพานก็หยุดนิ่ง
" ทำไมกันเพราะอะไรกัน ข้าถึงมีภาพของนายอยู่ในใจ " น้ำตาลคิดถึงนายของมัน
" ข้าไม่อยากกลับไปหาเจ้านายที่ใจร้ายคนนั้น " มันบอกกับตัวเอง
" ข้าคิดถึงนายจังเลย "อีกใจหนึ่งของมันคิด
ครืดดดดด... เสียงๆหนึ่งดังมาจากท้องของเจ้าน้ำตาล
" อ้า! หิวจัง ไม่มีแรงจะเดินแล้ว " มันพูดอย่างอ่อนล้า ชะโงกหน้ามองธารน้ำที่ไหลริน น้ำใสแจ๋วจนมองเห็นชิ้นเนื้อก้อนใหญ่ก้อนหนึ่ง เจ้าน้ำตาลน้ำลายไหลด้วยความกระโหยหิว
ตูมมมมมมม... เสียงลูกหมากะโจนลงน้ำ เจ้าน้ำตาลดำดิ่งลงไปสู่ก้นบึ้งของลำธาร มันพยายามควานหาก้อนเนื้ออย่างสุดชีวิต และแล้วมันก็ได้รู้ว่า ก้อนเนื้อก้อนนั้นคือ เงาของมันที่ทอดลงมา มันจึงตะเกียกตะกายพยายามไปให้ถึงฝั่ง แม้ว่ามันจะว่ายน้ำไม่เป็นก็ตาม กล้ามเนื้อของมันสั่นด้วยความหนาวเย็นของน้ำ ขาของมันแหวกว่ายอย่างกระเสือกกระสนทุรนทุราย ในที่สุดมันก็หมดแรง
" ลาก่อนเจ้านาย" คำพูดคำสุดท้ายในชีวิตได้หลุดปากออกมา แม้จะรู้ว่าเจ้านายคงไม่ได้ยิน ภาพทุกอย่างพร่าเลือน มันเห็นแต่ภาพของมันกับเจ้านายวิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน แล้วทุกอย่างก็ดับวูบไป
" อย่าตายนะ อย่าตายนะ ฟื้นสิเจ้าตาลฟื้นขึ้นมา " เด็กชายน้ำตาเอ่อล้นเขย่าร่างสัตว์เลี้ยงของเขา
ไปป์เด็กหนุ่มที่ใจร้ายกับสัตว์เลี้ยงนั่งร้องไห้กอดหมาของตัวเอง ไปป์เขย่าขาเขย่าตัวมัน แต่เจ้าน้ำตาลก็ยังคงนอนแน่นิ่งไม่ไหวติง
" ฉันไม่ยอมหรอกนะ...แกจะตายไม่ได้ ฉันยังไม่ได้ขอโทษแก ยังไม่ได้ทำหน้าที่เจ้านายที่ดี ฟื้นขึ้นมาเถอะ ขอให้ฉันได้แก้ตัวด้วยเถอะได้โปรด "
เด็กหนุ่มพรรณนาด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย น้ำตาใสๆ ไหลอาบแก้ม เปลือกตาของหมาน้อยค่อยๆ เปิดออก ร่างกายของมันเริ่มขยับ มันรู้สึกเหมือนตื่นจากฝันอันชั่วร้าย เจ้าสุนัขมองดูหน้านายของมัน เด็กหนุ่มยิ้มทั้งน้ำตาโผลเข้ากอดเจ้าน้ำตาล พร้อมกลับพูดอย่างสะอึกสะอื้น
" ฮือๆ... ฉัน... ฮือ...รักแก "
แม้จะเป็นเพียงคำพูดคำหนึ่งเท่านั้น แต่มันทำให้เจ้าหมาน้อยยิ้มออกมาอย่างมีความสุข บัดนี้นัยน์ตาของมันเปล่งประกายสดใสด้วยความรักอันบริสุทธิ์ น้ำตาล มองดูท้องฟ้าที่งดงามซึ่งมีสายรุ้งพาดผ่าน แสงอรุณยามเช้าได้ตื่นตัวแล้ว ในที่สุดมันก็พบดวงดาว ดวงจันทร์ของมันแล้วแม้จะไม่ใช่เวลากลางคืน ก็อยู่ตรงหน้ามันนี่ไง เจ้าน้ำตาลเห่าเบาๆ ที่ข้างหูนาย ฟังดูเหมือนมันอยากบอกว่า
" ฉันก็รักนาย "
ป.ล. ขอขอบพระคุณอย่างสุดซึ้ง ท่านที่การุณอ่านเรื่องของคนที่เป็นมือใหม่อย่างข้าพเจ้า หากช่วยเม้นท์หน่อยจะเป็นพระคุณแก่เด็กน้อยตาดำๆ คนนี้อย่างยวดยิ่ง
ผลงานอื่นๆ ของ นัยน์ตาสีขุ่นมัว ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ นัยน์ตาสีขุ่นมัว
ความคิดเห็น