องค์หญิงกำมะลอ ภาคสาม

เนื้อเรื่อง

เมื่อองค์หญิงกำมะลอเปลี่ยนตัวแสดง

โดย ผู้จัดการออนไลน์

1 มีนาคม 2550 13:51 น.

       
       
        องค์หญิงกำมะลอภาค 1-2 ปะทะภาค 3
       หลังจากโด่งดังแบบฉุดไม่อยู่จากองค์หญิงกำมะลอภาค 1 และ 2 แล้ว เจ้าเวย หลินซินหยู ซูโหย่วเผิง ฟั่นปิงปิง และจางเถี่ยหลิน ก็กลายเป็นดาราเนื้อหอม ที่มีงานจ่อคิวเป็นหางว่าว เจ้าเวยที่ผันตัวเองไปชิมลางกับงานภาพยนตร์เคยให้สัมภาษณ์หลังถ่ายทำองค์หญิงกำมะลอภาค 2 ว่า เธอหมดความรู้สึกสนใจในบท “เสี่ยวเยี่ยนจื่อ” อีกต่อไปแล้ว
       
       และด้วยเหตุผลเกี่ยวกับคิวงานที่ไม่ลงตัว บวกกับความรู้สึกอิ่มตัวในบทบาทการแสดงดังกล่าวแล้ว ดาราชุดเก่าหลายคนไม่คิดร่วมงานต่อ ทำให้ทีมงานต้องเปลี่ยนตัวแสดง ขณะที่บทสาวใช้ผู้จงรักภักดี “จินสั่ว” ของฟั่นปิงปิง ก็ไม่ปรากฏในภาคล่าสุดอีก คงเหลือแต่ “โจวเจี๋ย” ที่รับบท “เอ่อร์คัง” และ “หวังเหยียน” ในบท “ท่านหญิงฉิง” ที่ยังคงรั้งตำแหน่งเก่าได้อยู่
       
       หวงอี้ หม่าอีลี่ และกู่จี้ว์จี คือ พระ-นางที่ฉงเหยาตั้งใจปั้นสุดฤทธิ์ให้แจ้งเกิดในองค์หญิงกำมะลอภาค 3 ที่กำลังฉายในบ้านเราขณะนี้ แน่นอนว่าหนีไม่พ้นถูกนำไปเปรียบเทียบกับภาคก่อนหน้าอย่างเลี่ยงไม่ได้
       
       เสี่ยวเยี่ยนจื่อ : เจ้าเวย VS หวงอี้
       
       บทบาทองค์หญิงกำมะลอที่เจ้าเวยเคยทิ้งฝีไม้ลายมือไว้นั้น ตราตึงใจผู้ชมมิรู้ลืม ถ้าพูดถึง “เสี่ยวเยี่ยนจื่อ” ทุกคนล้วนหวนนึกถึงสาวน้อยแสนซน ท่าทางนักเลง นัยน์ตาคู่โตใสซื่อไร้เดียงสา เทียบกับเจ้าเวยแล้ว เสี่ยวเยี่ยนจื่อฉบับหวงอี้ดูผ่านโลกมามาก เอะอะอะไรก็ถลึงตาโต ทำท่าไร้เดียงสาสุดฤทธิ์ ไม่มีลักษณะของความซุกซน เฉลียวฉลาดอย่างที่เสี่ยวเยี่ยนจื่อฉบับก่อนมี และที่รับไม่ได้สุดๆ ก็คือ เวลาที่ปล่อยมุก เจ้าเวยแสดงออกถึงความ "ไม่รู้เดียงสา" อย่างแท้จริง แต่การแสดงของหวงอี้ทำให้คนดูรู้สึกว่าเสี่ยวเยี่ยนจื่อกำลังแกล้งโง่มากกว่าทำให้หมดรสชาติไปเยอะ
       
       
       
        เจ้าเวย - หวงอี้
       จื่อเวย : หลินซินหยู VS หม่าอีลี่
       
       หากพิจารณาถึงรูปร่างหน้าตาแล้ว ทั้งสองคนกินกันไม่ลงเลยทีเดียว แต่พอหม่าอีลี่มาสวมชุดแมนจูแล้ว ลักษณะของจื่อเวยที่มีทั้งความสุภาพและเยือกเย็นกลับดูจะหายไปสิ้น ตามบทประพันธ์ของฉงเหยา จื่อเวยเป็นสตรีที่เพียบพร้อมด้วยรูปสมบัติและความรู้ ทั้งนิสัยอ่อนโยน แต่ว่า ในองค์หญิงกำมะลอภาค 3 จื่อเวยกลับกลายเป็นหญิงเก็บกด ไม่อ่อนโยนเหมือนอดีต อีกทั้งใน 2 ภาคแรก หลินซินหยูและเจ้าเวยสวมบทบาทพี่น้องที่ร่วมเป็นร่วมตาย ฝ่าฟันอุปสรรคมาด้วยกัน แต่ในภาค 3 นี้ ความสัมพันธ์ระหว่างหม่าอีลี่และหวงอี้กลับไม่ลึกซึ้งถึงเพียงนั้น
       
       
        หลินซินหยู - หม่าอีลี่
       องค์ชาย 5 : ซูโหย่วเผิง VS กู่จี้ว์จี
       
       จู่ๆ ก็ส้มหล่นมารับบท “องค์ชาย 5” ในองค์หญิงกำมะลอภาค 3 แต่กู่จี้ว์จีก็ยังไม่สามารถสลัดเงาของ “เหอซูเหิง” ตัวเอกในเรื่อง มนต์รักในสายฝน 《情深深雨蒙蒙》 ไปได้ ถึงอย่างนั้นเมื่อเปรียบเทียบกับ ซูโหย่วเผิง ผู้เป็นต้นแบบในภาค 1 และ 2 แล้ว คาแรคเตอร์ของกู่จี้ว์จีค่อนข้างเป็นผู้ใหญ่กว่า และเหมาะกับการเป็น “องค์ชาย 5” ที่แต่งงานมีครอบครัวแล้วในภาคล่าสุด แต่ในด้านการแสดงยังดูแข็งกระด้าง อีกทั้งความสัมพันธ์ฉันท์สามีภรรยาระหว่างองค์ชาย 5 และจือฮว่า (แสดงโดย ฉินหลัน) ตัวละครใหม่ที่ฉงเหยาปั้นแต่งขึ้น ได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความรักที่องค์ชาย 5 มีต่อเสี่ยวเยี่ยนจื่อใน 2 ภาคแรก
       
       
        ซูโหย่วเผิง - กู่จี้ว์จี
       ฮ่องเต้เฉียนหลง : จางเถี่ยหลิน VS ตี๋หลง
       
       การแสดงของจางเถี่ยหลินในภาค 1 และ 2 ชนะใจคนดูทั้งในแง่ของการแสดงและภาษากาย ขณะที่บทบาทฮ่องเต้ของดาราฮ่องกงตี๋หลงยังแสดงออกถึงความสนิทสนมไม่มากพอ แม้แต่ตอนยิ้มยังดูทื่อๆ ตอนพูดบทก็เสียงราบเรียบเป็นโมโนโทน ไม่เพียงไม่มีเค้าความเป็นฮ่องเต้ แถมบางทียังดูเป็นชายมากรัก บางครั้งก็เปลี่ยนเป็นพ่อที่ไม่มีความเห็นใจลูกและไม่ค่อยมีเหตุผล
       
        จางเถี่ยหลิน - ตี๋หลง