Evil Guardian
ก็เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกของผมนะครับ ผมอยากจะลองมาหาประสบการณ์ทางด้านการเขียนนิยายดู แต่ผมก็ตั้งใจแต่งเรื่องนี้เป็นอย่างมาก ถึงผลออกมาจะไม่ค่อยดีมาก ถ้าดีไม่ดียังไง ก็ติชมกันได้นะครับ^^
ผู้เข้าชมรวม
48
ผู้เข้าชมเดือนนี้
0
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ฟหกราชอาณาจักรลอเรนเซีย กษัตริย์เซบาสเตียนและราชินีมาลีน ได้มีคำสั่งลงมาให้มีการจัดการแข่งขันคัดเลือกผู้เหมาะสมให้เป็นอัศวินราชองครักษ์ให้แก่ลูกสาวคนเดียวของทั้งคู่ องค์หญิงซีน่า แน่นอนย่อมมีผู้มาเข้าแข่งขันเป็นจำนวนมาก แต่ขึ้นชื่อว่าองครักษ์ ผู้ที่จะเป็นต้องปกป้องชีวิตขององค์หญิงไว้ด้วยชีวิต ซึ่งผู้ที่จะเป็นได้ต้องมีฝีมือในทุกๆด้าน การคัดเลือกครั้งนี้มีผู้เข้าแข่งขันมากมายนับไม่ถ้วน แต่จะมีผู้เดียวเท่านั้นที่จะได้รับตำแหน่งนี้
“คนต่อไป อิโรซาวะ รากิ เชิญครับผม” เสียงของชายร่างกำยำในชุดอัศวินที่นั่งอยู่ที๋โต๊ะหน้าห้องสัมภาษณ์เรียกคิว
ประตูห้องสัมภาษณ์ เปิดออก พร้อมกับชายหนุ่มคนนึง ชายคนนั้นเดินตรงเข้าไปนั่งเก้าอี๊หน้าอัศวินผู้สัมภาษณ์อย่างรู้งาน
“แนะนำตัวหน่อยซิ”
“ผมชื่ออิโรซาวะ รากิครับ”
“แค่นี้เหรอ จะไม่แนะนำหน่อยเหรอว่านายมีผลงานอะไรยังไง หรือว่าจะเป็นทักษะการต่อสู้หรืออาวุธที่นายถนัด”
“ไม่มีครับ ส่วนเรื่องการต่อสู้ ผมขอไม่เปิดเผยละกันนะครับ”
“หืมมม ไม่อยากให้รู้งั้นสิ ไม่เป็นไร จะว่าไปนายก็แปลกนะ เข้ามาโดยไม่มีอะไรมาอวดเลย คนก่อนหน้านายแต่ละคนนี่ เต็มยศ ใส่นู่นติดนี่เต็มไปหมด แต่ก็นะ การคัดเลือกเราเอาฝีมือล้วน ไม่ได้เอาผลงานที่เคยทำ”
“………………..”
“อันนี้ต้องการคำตอบจริงนะ …ไหนลองบอกเหตุผลที่นายต้องการเป็นองครักษ์ให้องค์หญิงหน่อยสิ”
………………………………………
การสัมภาษณ์ระหว่างอัศวินและชายหนุ่มก็ได้ผ่านมาเรื่อยๆ
“อื้มมม นายนี่น่าสนใจเป็นบ้าเลย เอาเถอะขอให้นายโชคดี เอ้านี่ บัตรของนาย”
“ขอบคุณครับ” ชายหนุ่มรับบัตรประจำตัวผู้แข่งขันจากอัศวิน
“อย่าให้หายนะ ใช้ถึงรอบไฟนอลนู่นแหนะ การสัมภาษณ์จบแล้ว นายกลับบ้านได้”
“ขอบคุณครับ”
ชายหนุ่มกล่าวขอบคุณอัศวินเสร็จก็เดินออกจากห้องไปทันที… ‘คนๆนี้น่าสนใจจริงๆ หวังว่าคงจะได้ทำงานร่วมกันนะ’
………………………………………….
ภาระกิจที่1:อัศวินสีเงิน
การสอบสัมภาษณ์ผ่านไฟวันนึงแล้ว มีผู้ไม่ผ่านการสัมภาษณ์มากกว่าครึ่งของผู้สมัคร จากวันที่ชายหนุ่มสัมภาษณ์ก็ผ่านมาวันนึงเต็มๆ จำนวนผู้กล้าที่เข้ามาสมัครได้ผิดหวังไปหลายราย วันที่ชายหนุ่มสัมภาษณ์คือวันสุดท้ายของการสัมภาษณ์ พอผ่านการสัมภาษณ์ไป ไม่นานทางราชอาณาจักรก็จัดการรอบการแข่งขันของนักสู้แต่ละคนออกมา รากิได้รอบตอน2ทุ่มตรง
“เห้อออ!! อยากพักอีกสักหน่อย เบื่อจริง” ชายหนุ่มครวญครางอยู่บนที่นอนของเขา สักพักเขาก็ลุกไปทำธุระร่างกาย อาบน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน
“คืนนี้แล้วสินะ เฮ้อออ น่าเบื่อจริง”
เนื่องจากผู้เข้ารับการคัดเลือกมีจำนวนมาก ถึงจะลดไปกว่าครึ่ง แต่ก็ยังเหลือผู้คัดเลือกอีกกว่าพันคน การคัดเลือกจึงต้องดำเนินไปอย่างไม่มีหยุด ตลอดทั้งวันทั้งคืน ถึงรากิจะได้รอบตอนสองทุ่ม แต่เขาก็ตื่นเช้าอยู่ดี เขามีธุระบางอย่างต้องทำก่อนจะไปแข่งในคืนนี้
ช่วงเวลาบ่ายๆ ชายหนุ่มเดินออกจากตึกหอพัก เดินไปตามถนนจนถึงสถานีรถไฟ ชายหนุ่มซื้อตั๋วเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ยืนรอรถไฟ ไม่นานรถไฟก็เข้าจอดเทียบชานชลาที่รากิรออยู่ รถไฟขบวนนี้ไม่มีล้อ เคลื่อนที่ด้วยพลังงานไฟฟ้าและแม่เหล็ก รากิเดินเข้าไปในรถไฟ ก็พบว่ารถไฟขบวนนี้ข้างในเป็นแบบโปร่งสามารถมองเห็นวิวได้รอบขบวน แม่กระทั่งรางที่อยู่ใต้รถไฟขบวนนี้
ถึงสถานีจุดหมาย รากิก็ออกจากขบวนรถ หลังจากเดินออกจากสถานี รากิเดินเรียบถนนสายหนึ่ง ไม่ไกลนักก็เดินเลี้ยวเข้าไปในซอกซอยหนึ่ง เดินเข้าไปประมาณสามร้อยเมตร รากิหยุดอยู่ตรงหน้าประตูโทรมๆของบ้านโทรมๆหลังหนึ่ง รากิยังไม่ทันได้กดกริ่งประตูเหล็กสนิมเขรอะก็เปิดต้อนรับ รากิเดินเข้าไปในตัวบ้าน พอเปิดประตูบ้านเข้าไปอีกบาน รากิยกแขนขึ้นอย่างรู้งาน ปัดข้อมือของชายแก่ร่างหนุ่มที่ถือดาบยาว ทำเอาดาบเล่มนั้นหลุดออกจากมือของชายรูปหนุ่มทันที
“ถึงฝีมือการตีดาบของท่านจะหาผู้เทียบเทียมได้ยาก แต่ฝีมือการลอบฆ่าของท่านก็ไม่ต่างอะไรจากการเล่นซ่อนแอบเลยนะ”
“ฮ่าๆๆๆ รากิศิษย์รักของไอ้นักบวชจอมหื่นเองเหรอ เป็นไงบ้างล่ะไม่ได้เจอกันนาน”
“สบายดีครับ ท่านเองก็เช่นกันนะ ต้อนรับแขกได้น่าประทับใจทุกครั้งเลยนะครับ” รากิตอบรับพร้อมยิ้มทักทาย ชายแก่หงำหงอกที่อยู่ในรูปของชายอายุราวๆยี่สิบปลายๆ
“ท่านทำเสร็จแล้วใช่ไหมครับ”
“อื้อ เสร็จแล้วล่ะ รอสักแป๊บนะ เดี๋ยวไปหยิบมาให้” ชายแก่ผมยาวสีขาว แต่ใบหน้าและร่างกายประมาณยี่สิบปลายๆ หายเข้าไปในห้องมืดๆ หายไปสักพัก ก็เดินออกมาพร้อมกับดาบที่อยู่ในฝักคู่นึง แล้วก็มอบดาบคู่นั้นให้รากิ
“สิ่งที่อาจารย์เจ้าสั่งทำแบบพิเศษ จะทดลองอาวุธนี้ดูหน่อยไหมรากิ”
“ไม่ล่ะครับ ผมเชื่อในวัตถุดิบของท่านอาจารย์ และก็เชื่อในฝีมือของท่าน”
“ปากหวานไม่เปลี่ยนเลยนะ เอาเหอะยังไงก็ขอให้โชคดีล่ะ ข้าเชื่อในฝีมือของเจ้านะ”
“ครับผม ผมไปหล่ะ ยังไงก็ขอให้ท่านขายดี เงินทองไหลมาเทมา อย่าเครียดมากหล่ะ เดี๋ยวกายเทียมจะเน่าตามอายุท่านน้าาา” จบประโยคนี้รากิรีบเบิ่งออกมาจากบ้านหลังโทรมๆทันที ก่อนที่จะโดนสารพัดของมีคมลอยใส่หัว
รากิเดินออกมาจากซอก แล้วเดินไปตามถนนใหญ่ เขากำลังเดินไปตามทางเรื่อยๆ เดินไปจนถึงถนนอีกสาย ถนนสายนี้มีแต่คนเดิน มีของขายตามข้างทางทั้งสองฝั่งตลอดสาย รากิเดินไปดูของที่ขายตามข้างทางด้วยความเพลินใจ…..
สี่โมงเย็น ระหว่างที่รากิกำลังจะกลับ
“โย่ หนุ่มน้อย พี่คุยด้วยหน่อยได้ไหม”
รากิหันไปตามเสียงเรียก รากิพบว่าคนที่เรียกเขาคือชายร่างใหญ่ หัวล้าน สวมแต่กางเกง ที่แขนขามีเกราะประดับ มือถือขวานยักษ์ พร้อมกับลูกน้องตามหลังอีก5คน ที่คอห้อยบัตรประจำตัวผู้แข่งขัน
“ครับ มีอะไรหรือครับ”
“โอ้โห ใช้ดาบคู่เหรอเนี่ย แต่พี่ไม่มีอะไรหรอก แค่ต้องการสิ่งที่ห้อยอยู่บนคอของนายแค่นั้นแหละ ยกให้พี่ได้ไหมบัตรนั้นหน่ะ”
รากิผงะ แต่ก็ยังมีสีหน้านิ่งเฉยเหมือนเดิม ในใจรากิคิดว่าจะหนียังไงดี เพราะถ้ามีเรื่องกันตอนนี้คงไม่เหมาะแน่ๆ
“บัตรประจำตัว ผมคงยกให้พี่ไม่ได้หรอก ขอโทษนะครับผมติดธุระนิดหน่อย”
พูดจบลูกน้องของชายร่างยักษ์คนนี้ก็เข้ามาล้อมชายหนุ่มไว้ รากิไม่มีทางหนีเลย
“คิดจะหนีง่ายๆเลยเหรอ ทิ้งบัตรกับเงินทั้งหมดไว้ดีกว่า แล้วพี่จะปล่อยน้องไป แต่ถ้าไม่พี่ก็ไม่รับประกันความปลอดภัยนะ”
รากิรู้ดีว่าคำตอบของตัวเองไม่สามารถเลี่ยงเหตุการณ์นี้ไปได้เลย รากิจึงเตรียมที่จะสู้ ลูกน้องทั้ง5เห็นว่ารากิไม่ยอมจึงควักเอาอาวุธของตัวเองออกมาเตรียมที่จะทำร้ายชายหนุ่มอย่างเหี้ยมโหด ชายคนแรกวิ่งเข้าไปเงื้อดาบกำลังจะฟันที่ตัวของชายหนุ่ม ยังไม่ทันที่ดาบจะถึงตัว มีอัศวินคนนึงเข้ามาช่วยรากิไว้ เขาใช้กระบองสลักลายอย่างสวยงามรับดาบเอาไว้ แล้วฟาดกระบองสีเงินไปที่ท้องเพียงครั้งเดียว ชายที่ถูกฟาดถึงกับจุกลงไปนั่งกุมหน้าท้องตัวเองด้วยความเจ็บปวด ชายที่เหลืออีก4คนถึงกับผงะไปชั่วครู่ สักพักก็ถอยกลับไปอยู่ข้างหลังหัวหน้าของพวกมันเหมือนเดิม
“ไม่ค่อยเลยนะ ใช้พวกเข้ารุมแบบนี้หน่ะ” อัศวินกล่าวขึ้น
“อัศวินเงินอย่างท่านไม่เกี่ยว โถ มาสมัครเป็นอัศวินราชองครักษ์ ร่างกายอ้อนแอ้นอย่างกับผู้หญิง กำจัดไปก็ไม่เป็นไรหรอก”
“เจ้าเอาอะไรมาตัดสินคนคนนี้แหล่ะ เคยประลองกับเขาแล้วหรือ” ชายร่างยักษ์ถึงกับผงะ หน้าถอดสีทันทีที่อัศวินคนนี้พูดจบ
“ไว้ค่อยไปประมือกันในสนามประลองดีกว่าไหม จะได้ทดสอบกันไปเลยว่าระหว่างเจ้ากับชายคนนี้ใครแกร่งกว่ากัน”
สีหน้าของชายร่างยักษ์บ่งบอกว่าไม่ค่อยพอใจเท่าไรนัก แต่ก็หือไม่ได้เพราะคนที่อยู่ต่อหน้าคืออัศวินเงิน ที่ทั้งราชอาณาจักรมีไม่กี่คนเท่านั้น
“ชิ ฝากไว้ก่อนเถอะไอหนู หากเจอกันในการแข่งข้าจะเอาให้น่วมเลย กลับเว๊ย” แล้วชายร่างยักษ์กับลูกสมุนก็เดินจากไป
“เจ้าเองไม่เป็นอะไรใช่ไหม” อัศวินถามรากิ
“ครับผม ไม่เป็นไรครับ”
“ดีแล้วหล่ะ งั้นข้าไปก่อนหล่ะ”
“เดี๋ยวก่อนครับ ท่านอัศวิน ได้โปรดไปกับผมได้ไหมครับ ผมอยากรู้เกี่ยวกับอัศวินสีต่างๆ ท่านช่วยบอกผมได้ไหม”
ในใจของอัศวินถึงกับสดุดยอดเขาหิมาลัยตกลงมาตาย มาสมัครคัดเลือกเป็นอัศวิน แต่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องอัศวินเลย พ่อหนุ่มผมดำคนนี้เป็นใครกันแน่นะ
“เฮ้อ! อืม ข้าจะอธิบายให้เจ้าฟังอย่างละเอียดยิบเลย ในระว่างการเดินไปส่งเจ้า”
ในบรรดาอัศวินสี จะแบ่งตามลักษณะพลังยุทธของอัศวินคนนั้น โดยพลังยุทธของอัศวินแรกๆจะยังไม่มี เลยเป็นแค่อัศวินใส่เกราะธรรมดา แต่ถ้าอัศวินคนนั้นได้ฝึกฝนสั่งสมประสบการ ก็จะสามารถปลดปล่อยพลังยุทธออกมาได้ พลังยุทธสามารถเพิ่มความสามารถการต่อสู้ให้กับอัศวินคนนั้นได้อย่างมาก ยิ่งอัศวินคนนั้นเก่งเท่าไร พลังยุทธก็จะยิ่งเปลี่ยนแปลงไปตามความสามารถของอัศวินผู้นั้น โดยพลังยุทธจะเรียงจากสีขาว สีแดง สีน้ำเงิน สีเงิน และก็สีทอง ซึ่งอัศวินสีก็จะเป็นไปตามสีของพลังยุทธ พลังยุทธสีแดง ก็จะเป็นอัศวินแดง อย่าข้าอัศวินเงิน ก็จะมีพลังยุทธสีเงิน แต่พลังยุทธยังมีขั้นที่เหนือกว่าสีทอง คือสีลักษณะเฉพาะของพลังยุทธของอัศวินคนนั้น ซึ่งคนที่มีพลังยุทธแบบนี้จะถือว่าเป็นอัศวินขั้นสูง เนื่องจากจะมีความสามารถที่เหนือความคาดหมาย
แล้วทั้งคู่ก็เดินไปกินราเมนด้วยกัน โดยตกลงกันไว้ว่าอัศวินเงินจะเป็นคนเลี้ยง
“ในราชอาณาจักรรอเลนเซียของเรามีอัศวินเงินทั้งหมด12คน อัศวินสีทอง1คนและอัศวินสีต่างๆอีกเยอะแยะ”
“แล้วอัศวินแบบพิเศษหล่ะ ไม่มีเลยเหรอ” รากิถามขณะที่เพิ่งดูดเส้นบะหมี่เข้าปาก
“ถามดีนี่ ข้าบอกเลยละกันว่าไม่มีหรอก เป็นเรื่องนี้เป็นแค่ตำนานหน่ะ ทำไงได้ หลายคนกว่าได้เป็นอัศวินเงินก็อายุสี่สิบกว่าๆแล้ว อัศวินทองกว่าจะพัฒนาถึงขั้นนี้ ก็เกือบหกสิบแล้ว ดังนั้นอัศวินพิเศษ ผู้ที่จะเป็นได้ไม่ใช่ง่ายๆเลย บางคนเป็นได้ แต่ร่างกายก็ไม่ไหวเสียแล้ว”
“อืม แล้วอย่างผมนี่ขั้นไหนแล้ว ผมเป็นอัศวินขั้นไหนได้แล้ว”
“อันนี้ก็อยู่ที่ตัวเจ้าเองแล้วหล่ะ พลังยุทธของเจ้า เจ้าต้องรับรู้เอง สถานีรถไฟแล้ว ข้าส่งเจ้าเท่านี้และกัน ว่าแต่เจ้าแข่งกี่โมงหล่ะ”
“2ทุ่มครับผม”
“นี่6โมงเย็น เจ้ารีบเตรียมตัวได้แล้วหล่ะ แล้วเจอกันที่สนามประลอง”
“ท่านชื่ออะไรขอรับ”
“อัศวินเงิน เรียว ข้าไปแล้ว! ค่าราเมนเดี๋ยวข้าจ่ายให้ตามที่สัญญา เจ้าเองก็รีบไปเตรียมตัวเถอะ”
อัศวินเงินสบัดชายเสื้อคลุมลุกออกจากเก้าอี๊พร้อมวางเงินค่าราเมนไว้ที่เคาท์เตอร์ แล้วหายวับไปจากหน้าร้านอย่างไร้เงา
“เร็วมาก เร็วจนลืมตังค์ทอนเลยนะเนี่ย เอาเหอะ ค่ารถ”
หลังจากอัศวินเรียวออกจากร้านราเมนด้วยความไวสูง ไม่นานรากิก็เดินทางกลับห้องพักเพื่อไปเตรียมตัวที่จะแข่งทันที เรากิใช้เวลานั่งรถไฟแค่5นาที เนื่องจากไม่ต้องรอดรถไฟนาน แล้วใช้เวลาอีก10นาทีในการวิ่งกลับห้องพัก วิชาการเคลื่อนไหวของรากิไม่ใช่เล่นๆ เขาสามารถเข้าห้องของเขาทางระเบียงห้องที่อยู่ที่ชั้น10ของตึก รากิถึงห้องแล้วเค้าก็หันมองนาฬิกา พบว่ายังพอเหลือเวลา เพราะตอนนี้6โมงครึ่ง
“นึกว่าจะไม่ทันเสียแล้ว” รากิเปิดตู้เสื้อผ้าหยิบหีบใบนึงออกมา เสร็จแล้วเขาก็ไปอาบน้ำแต่งตัวเตียมพร้อมที่แข่งขัน
หลังจากทำธุระเสร็จเรียบร้อย ชายหนุ่มอยู่ในชุดพร้อมเหมือนออกรบ…เสื้อเชิร์ต กางเกงยีน รองเท้าผ้าใบเก๋ๆคู่นึง ชายหนุ่มไม่ลืมสิ่งสำคัญที่ต้องใช้ คือบัตรประจำตัวผู้แข่งขันที่ได้รับหลังจากผ่านการสัมภาษณ์ และ อาวุธ ชายหนุ่มเดินไปเปิดหีบใบยาวใบหนึ่ง เขาหยิบอาวุธของเขาที่จะใช้แข่งในวันนี้…ดาบไม้สองเล่ม หลายคนคงคิดว่าพระเอกของเราบ้าหรือปัญญาอ่อนกันแน่ จะไปสู้ แต่งตัวอย่างกับไปเที่ยวทั้งที่ควรจะใส่เกราะป้องกันตัว แถมยังพกอาวุธเด็กเล่นไปแข่ง เหมือนเอาชีวิตไปทิ้งแท้ๆ ชายหนุ่มเอาผ้ามาพันดาบไม้ของเขาไว้แล้วออกเดินทางไปสเตเดี่ยมการแข่งทันที
ณ สถานที่ประลอง
รากิยื่นบัตรประจำตัวให้อัศวินที่อยู่หน้าทางเข้าสนามประลอง แต่ยังไม่ให้เข้าไปข้างใน เพราะจะต้องอธิบายกฏการแข่งให้ผู้ประลงอทุกคนก่อน ค่ำคืนที่สวยงาม แสงไฟของสเตเดี่ยมส่องสว่างไปทั่วเมือง ผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนมองมาทางรากิอย่างไม่ละสายตาบางคนก็ซุบซิบกัน เพราะทุกคนแต่งตัวด้วยชุดอัศวินเต็มยศ ทั้งเกราะ ทั้งอาวุธแต่รากิกลับแต่งตัวสบายๆมาแข่ง ไม่นานนักก็มีอัศวินเงินคนนึงเดินออกมาจากสเตเดี่ยม อัศวินคนนั้นคือเรียวนั้นเอง
ผู้กล้าทุกคนฟังข้า การประลองในวันนี้ขอให้ทุกคนแข่งขันอย่างเต็มที่ แต่ขอให้อยู่ภายใต้กฏพวกนี้ด้วยเถิด การแข่งขันของแต่ละคนจะมีทั้งหมด3รอบ แต่ละรอบเราจะมีเวลาให้รอบละ10นาที หากภายในสิบนาทีนี้ไม่สามารถล้มคู่ต่อสู้ได้ เราจะถือว่าผู้นั้นมีคุณสมบัติไม่พร้มที่จะเป็นอัศวินราชองครักษ์ขององค์หญิง เราจะให้ตกรอบทั้งคู่ ในสเตเดี่ยมนี้มีทั้งหมด30สนามประลองด้วยกัน เป็นที่แน่นอนว่าทุกๆ10นาทีจะมีผู้ตกรอบ30ถึง60คนด้วยกัน ผู้ที่สามารถทำให้คู่ต่อสู้ไม่สามารถต่อสู้ต่อไปได้ถือว่าชนะการแข่งขัน และขอให้หยุดการต่อสู้เพียงเท่านั้น หน่วยพยาบาลเราพร้อมทุกเมื่อหากมีผู้บาดเจ็บ ระหว่างที่ยังไม่ถึงรอบแข่งขัน ขอให้ผู้กล้าไปพักผ่อนยังห้องของตนที่ได้ระบุไว้ในบัตรเป็นที่เรียบร้อย เมื่อถึงเวลาแข่งเราจะมีประกาศเรียก ขอให้ทุกคนโชคดี เชิญเข้าสู้สเตเดี่ยมประลองได้
เวลาหนึ่งทุ่มครึ่ง การประลองรอบแรกได้เริ่มต้นขึ้น เสียงเชียร์ของผู้เข้ามาดูการแข่งขันดังสนั่นไปทั่งเมืองในคืนนี้ รากิมานั่งพักอยู่ในห้องรับรองตาจ้องมองดูจอมอนิเตอร์ที่ถ่ายทอดการประลองอย่างไม่ละสายตา ในห้องนี้มีผู้พักร่วมกับรากิรวม10คน บางคนก็วอร์มอัพร่างกาย บางคนนั่งเช็ดอาวุธของตน บางคนก็เชื่อมไมตรีต่อกัน ทุกๆ10นาทีจะมีอัศวินประกาศเรียกชื่อผู้แข่งขันคนต่อไป และจะมีผู้แข่งขันเดินเข้ามาเปลี่ยนกัน ผู้ที่เดินกลับมาที่ห้องพักคือผู้ชนะการแข่งขัน และผู้แพ้หล่ะ? แน่นอน จะถูกส่งไปหาหน่วยแพทย์ทันที
เวลาผ่านไปจนถึงสองทุ่ม รากิรู้งานรีบเอาดาบไม้ที่พันผ้าไว้สะพายขึ้นหลัง แล้วเสียงประกาศชื่อรากิก็ดังขึ้น รากิเดินออกจากห้องไป แน่นอนคนในห้องก็คงงง ว่ารากิมาแข่งหรือมาเที่ยวเล่นกันแน่
ระหว่างทางเดินไปสนาม รากิได้พบกับอัศวินแถบเงิน2คน คนนึงก็คือเรียว ส่วนอีกคนก็คือผู้ที่สัมภาษณ์รากินั่นเอง อัศวินหนุ่มหล่อ2คน เรียวผู้มีผมหยักสั้นสีเงินหน้าตาคมเข้มดุจหมาป่า ส่วนอีกคนผมยาวสีน้ำเงิน ดวงตาสีทองเป็นประกาย
“ไงรากิ ถึงเวลาแล้วสินะ” อัศวินผมน้ำเงินทักรากิ
“ครับผม”
“อ้าว นี่รู้จักกันแล้วเหรอเนี่ย” เรียวพูดกับอัศวินอีกคน
“อ่าฮะ ฉันเป็นคนสัมภาษณ์เค้าเองนี่”อัศวินผมน้ำเงินพูดกับเรียวก่อนหันมาพูดกับรากิ “อย่าให้ผิดหวังที่เลือกนายเข้ามาหล่ะ”
“ครับผม ว่าแต่ท่านชื่ออะไร”
อัศวินผมน้ำเงินยิ้มแล้วหันมามองรากิ
“อัศวินเงิน วัลแคส”
“ตังค์ทอนของฉันหน่ะ หากนายชนะเอาไปเลย แต่ถ้านายแพ้ จ่ายคืนสองเท่า” เรียวพูดแทรกขึ้นมา
&n
ผลงานอื่นๆ ของ The moonlight ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ The moonlight
ความคิดเห็น