แฉ..ร้านโถพลู ที่จตุจักร - แฉ..ร้านโถพลู ที่จตุจักร นิยาย แฉ..ร้านโถพลู ที่จตุจักร : Dek-D.com - Writer

    แฉ..ร้านโถพลู ที่จตุจักร

    แย่มากๆ

    ผู้เข้าชมรวม

    550

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    550

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  นิยายวาย
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  9 พ.ย. 50 / 21:01 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    เรื่องจริงหรือไม่ ข้าพเจ้าไม่รู้ เพราะมาจาก ฟอร์เวิล์ดเมลคะ
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      เพื่อน ๆ นักชิมนักช้อปทั้งหลาย คงจะรู้จักร้าน "โถพลู" ที่สวนจตุจักรกันดี เพราะเป็นร้านที่ขึ้นชื่อว่าอาหารอร่อย ราคาก็พอไปไหว แถม
      ยังเป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ใครไปช้อปที่สวนฯ ถ้าไม่ได้ลิ้มลองอาหารที่นี่ก็ถือว่าไปไม่ถึงสวนฯค่ะ  เราเอง + เพื่อน ๆ
      + ญาติ ๆ ก็ชื่นชอบในรสชาติอาหารร้านนี้เช่นกัน แต่ไม่นึกไม่ฝันเลยค่ะ ว่าจะเกิดเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงเช่นนี้

      วันนั้นเราไปกัน 3 คน คือ เรา แม่แฟน และเพื่อนของแม่แฟน  อาหารที่พวกเราสั่งมีดังนี้ค่ะ * ทอดมันปลากราย * ข้าวมันส้มตำ * ข้าว
      ผัดสัปปะรด * ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ * น้ำดื่ม * น้ำมะพร้าว ประมาณว่าหิวมากค่ะ เห็นอะไรน่าทานก็สั่ง ๆๆๆ วันนั้นเราได้โต๊ะด้านหน้าของ
      ครัวใหญ่ที่ไม่ใช่ห้องแอร์-และอยู่ระหว่างบริเวณที่ล้างจาน (ใครที่เคยไปร้านนี้คงทราบดีว่า ร้านโถพลูเค้าจะมีที่นั่งแบ่งเป็นหลาย ๆ ส่วน
      และห้องครัว ก็จะมีหลายครัว ครัวผัด ครัวยำ ส่วนเตรียมเครื่องดื่ม อะไรแบบนี้)

      อาหารจานแรกที่ยกมาคือ ทอดมันปลากราย จานเล็ก ๆ น่ารัก ประดับประดาด้วยดอกกล้วยไม้และผักแต่งจานสวยงาม  ซึ่งก็มีทั้ง แตงกวา
      กะหล่ำปลีซอย แครอท ประมาณนั้น ไม่แน่ใจนะคะ จำไม่ได้ว่าเป็นผักดองหรือเปล่า ส่วนทอดมันนั้น มีประมาณ 5 ชิ้น จัดเรียงสวยอยู่ในมัน
      ทอดที่ทำเป็นกรวย ๆ หรือที่รู้จักกันในชื่ออาหารว่า "รังนก"  (ก็คงทราบกันดีว่าที่ โถพลู เค้าจะมีการจัดจานอาหารสวยงามน่ารับประทาน
      มาก)  อาหารจานแรก หมดไปอย่างรวดเร็ว อร่อยมากๆ เลยค่ะ ขอบอก แม้แต่ผักแต่งจานก็เกือบไม่เหลือ แล้วแม่แฟนเรายังแอบชิมเจ้า
      รังนกนั่นด้วย บอกว่าแข็ง ๆ ไปหน่อย สงสัยทิ้งไว้นาน แต่พวกเราก็แอบคอมเพลนเล็กน้อยว่า แพงจัง จานนิดเดียวเอง ตั้ง 100 บาทแน่ะ
      แต่ก็อร่อยดีนะ

      วันนั้นคนเยอะมาก อาหารค่อนข้างนาน พวกเราก็นั่งเม้าท์กันไปถึงเรื่องต่าง ๆ  นั่งอีกสักครู่ใหญ่ ๆ อาหารแต่ละอย่างก็ทยอยมาเสิร์ฟ
      พวกเราก็ก้มหน้าก้มตาทาน ไม่คุยแล้ว จนอาหารหมด อิ่มกันได้ที่ ก็ถึงตอนนั่งย่อย พูดคุยกันถึงรสชาติอาหาร บริการ ยังเอ่ยปากชมกันว่า
      อาหารอร่อย บริการก็ดี คนรับรายการยิ้มแย้ม คล่องแคล่ว แถมยังพูดภาษาอังกฤษได้ด้วย  ร้านก็คนเยอะแยะ ฝรั่งมากินกันเต็มไปหมด น่า
      อิจฉาเจ้าของร้านจริง ๆ เลย ประมาณนั้น ในขณะที่พนักงานก็เริ่มเข้ามาเก็บจานออกไป พวกเราก็สอดส่ายสายตารอบ ๆ ร้านไปด้วย ชี้

      โบ้ชี้เบ้ ประกอบการสนทนา

      นั่นเอง.......สิ่งที่พวกเราไม่คาดฝันว่าจะเห็น ว่าจะเกิด  ขอเล่าเป็นข้อ  ๆ เลยนะคะ


      เห็นกันจะ ๆ ต่อหน้าต่อตา แบบนี้จริง ๆ ค่ะ


      1. จานทอดมันฯ อันแสนโอชะของพวกเรา ถูกยกเข้าไปยังส่วนของการล้างจาน ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ประจำอยู่หนึ่งคน เป็นผู้หญิงอายุประมาณ
      30 ปลาย  ๆ  ภาพที่เราเห็นเผิน ๆ คือ เค้าคอย - แยกอาหาร แยกขยะ หรือกวาดเศษอาหารทิ้งจากจานก่อนล้าง  แต่ดูไปดูมามันไม่
      ใช่ค่ะ พอสังเกตดี ๆ จะเห็นว่า ตรงนั้นมันจะมี ตระกร้าแบบเหลี่ยม ทรงเตี้ย ใบเล็ก ใบใหญ่  อยู่หลายใบ ทีเดียว แต่ละใบก็จะบรรจุสิ่ง
      ของต่าง ๆ กัน ที่เห็นก็มีดังนี้ค่ะ * รังนกทอด * ผักแต่งจาน * กล้วยไม้ที่ใช้ประดับจาน *  หลอดน้ำดื่ม  * ขยะรวม
      จานทอดมันฯของพวกเราถูกยกไปวางแถว ๆ นั้น พร้อม ๆ กับจานอาหารแต่ละประเภท จากแต่ละโต๊ะ ญ. คนดังกล่าวก็เริ่มทำการ
      "แยก" กล้วยไม้ไว้ในตะกร้ากล้วยไม้   รังนกทอด หยิบมาดู ๆ เห็นว่าถูกหักเป็นชิ้น ๆ แล้ว ทิ้งไปในขยะรวม  ส่วนรังนกที่มาจากโต๊ะอื่น
      ๆ ยังสภาพดีอยู่ รวมไว้ในตะกร้ารังนกด้วยกัน
      2. ข้าวผัดสัปปะรด ลักษณะเวลาเสิร์ฟคือ เป็นข้าวผัด ที่อยู่ในลูกสัปปรรดที่ถูกผ่าซีกในแนวนอน แล้วถูกควักเนื้อออกหมดแล้ว ประดับขอบ
      ด้วยกล้วยไม้ บัดนี้ เมื่อทานหมด จับเข้าส่วนล้างจาน ถูกกระทำด้วยผู้หญิงคนเดิม  กล้วยไม้ ถูกแยกไว้กับตะกร้ากล้วยไม้   กวาดเศษข้าว
      ผัดที่เหลือ ๆ ออก นำสัปปรรดซีกนั้น แกว่ง ๆ จุ่มๆ ในกะละมังที่มีน้ำอยู่ แล้วนำไปรวมกันไว้กับสัปปรรดซีกอื่นๆ  ในตะกร้าสัปปะรด

      ตอนนี้พวกเราเริ่มมองหน้ากันตาปริบ ๆ  สงสัยกับการกระทำนั้น  ๆ  ว่าเค้าทำอาไรเน้อ

      3. น้ำมะพร้าว เวลาเสิร์ฟ ลักษณะคือ มาทั้งลูก แล้วเสียบหลอด เมื่อทานหมด บัดนี้ ถูกนำมาตั้งรวมไว้ที่เดียวกัน ถูกผู้หญิงคนเดิม นำ
      หลอดออก แล้วมารวมกันไว้ในตะกร้าหลอด วางตั้งไว้สักพัก มีผู้ชายคนหนึ่งมาหยิบเอาลูกมะพร้าวไป โอ้.........พระเจ้าจอร์ช  น่า
      สะอิดสะเอียนมาก เมื่อเห็นชายผู้นั้น นำลูกมะพร้าวดังกล่าว มาเปิดฝา แล้วเทน้ำมะพร้าวที่บรรจุไว้ในขวดเข้าไป แล้วจัดแจงเสียบหลอด
      ปิดฝา จิ้มด้วยกล้วยไม้ แล้วเดินหายลับตาไป คาดว่าน่าจะเอาไปเสิร์ฟผู้โชคร้ายสักคน (ทั้ง ๆ ที่เราก็แงะเนื้อกินไปแล้ว 2-3 คำ)

      ตะลึงค่ะ บอกได้คำเดียวว่าตะลึง ทั้งโต๊ะ อ้าปากค้างกันเป็นแถว หันกลับไปดู ผู้หญิงด้านล้างจานกันแบบไม่ได้นัดหมาย

      4. จานอาหารที่ผ่านการรับประทานยังทยอยกันมาไม่ขาดสาย ผู้หญิงคนนั้นก็ยังขมักเขม้นกับการ "แยก" วัตถุต่าง  ๆ อย่างชำนาญ ไม่ว่า
      จะเป็น รังนกทอด ผักแต่งจาน ดอกกล้วยไม้ หลอด ลูกมะพร้าว ลูกสัปปะรด  ฯลฯ ส่งต่าง  ๆ ที่ยังดูไม่สึกหรอ  เมื่อบางตะกร้าเริ่มมี
      จำนวนของมากพอสมควร ก็จัดแจงส่งเข้าครัว (ซึ่งตรงนั้นมันจะเป็นช่อง ๆ ไว้สำหรับผ่านสิ่งของกัน ระหว่างห้องครัวกับที่ล้างจาน)
      ไม่ต้องเล่าต่อแล้วใช่มั้ยคะ ว่าเกิดอะไรขึ้น  ไม่นึกไม่ฝันว่า จะเกิดการรักษ์โลก รีไซเคิลกันได้ถึงเพียงนี้  สิ่งที่รับประทานไปเมื่อตะกี้
      แทบจะออกมาทางเดิมเลยค่ะ ท่านผู้อ่านที่เคารพรัก

      พวกเรามองกันอยู่นานนนนนมากกกกก จนผู้หญิงคนนั้นเค้าเริ่มจะรู้สึกตัว กิจที่ทำอยุ่เริ่มเป็นไปอย่างตะกุกตะกัก แบบว่า ไม่ค่อยรื่นน่ะค่ะ ทำ
      แบบเคอะเขิน จนเมื่อมีพนักงานเสิร์ฟเดินเอาจานมาวางไว้ให้ เค้าก็เริ่มกระซิบกระซาบกัน แล้วก็หันมามองพวกเรา จนพวกเรามีความ
      เห็นตรงกันว่า.....ถอยดีกว่า ไม่อาวดีก่า แล้วก็เช็คบิล รีบออกมาจากที่นั่นทันใด


      ค่าอาหารมื้อนี้ ตกราว  ๆ  600 กว่า บาท จำตัวเลขที่แน่นอนไม่ได้ค่ะ ยังคุยกันเลยว่าค่อนข้างแพงถึงแพงที่สุดกับการนำอาหาร "ขยะ"
      มาให้ทาน
      หนำซ้ำการคิดราคาค่าอาหาร ยังบวกแวต (ภาษีมูลค่าเพิ่ม) เข้าไปอีก 7 เปอร์เซ็นต์ ทำเหมือนเมืองนอกเลยค่ะ ระบบนี้ในเมืองไทยไม่

      ค่อยเห็น  นอกจากตามโรงแรมหรือภัตตาคารใหญ่ ๆ ระดับอินเตอร์ ฯ

      เดินกันออกมาจากร้าน ยังขนลุกอยู่ไม่หาย กับพฤติกรรมดังกล่าว
      พวกเราคิดกันว่า  ไม่ใช่ตัวลูกจ้างหรอก ที่จะกล้าทำแบบนั้น ถ้าหากว่าเจ้าของร้าน ไม่สั่งให้ทำ   ไม่รู้จะหากำไรอะไรกันขนาดนั้นคะ ใช้
      วิธีสกปรกมากไปหรือเปล่า

      เรื่องที่เราเจอนี้ เกิดขึ้นเมื่อประมาณ  2 เดือนที่ผ่านมานี้เองค่ะ ตอนแรกกะว่าจะเข้ามาเล่าให้ชาวพันธุ์ทิพย์ฟังตั้งนานแล้ว แต่ไม่มีโอกาส
      สักที  ได้แต่เล่าให้เพื่อนฝูงคนรู้จักกันฟัง ให้เค้าได้ไปเล่า ต่อ ๆ กัน

      อ้อ......วันนั้นกลับบ้านกันไป ตัวเรา ระหว่างทางกลับบ้าน ปวดท้องนิดหน่อย แบบมวน  ๆ  แต่ไม่เป็นไรมาก เพราะปกติ เป็นคนธาตุ
      แข็ง  ส่วนแม่แฟนเรา อายุ 60 แล้ว ท้องเสียทั้งคืนเลย แต่โชคดีที่ไม่เสียแบบหนัก ๆ  และเพื่อนของแม่แฟน จากที่ได้โทรฯ สอบถาม
      อาการกันแล้ว ก็มีท้องเสียบ้างเหมือนกัน 2-3 ครั้ง

      ยังนึกเสียดายอยู่ว่าวันนั้นไม่ได้ถ่ายรูปไว้ จะได้มาโพสต์ให้เห็นกันจะๆ ไปเลย มีแต่กล้องจากโทรฯมือถือ ซึ่งไม่สามารถถ่ายเห็นในระยะนั้น
      ได้
      แต่คิดไปคิดมาอีกที ถ้ามีกล้องจริง ๆ ก็ไม่รู้ว่าจะกล้าถ่ายหรือเปล่า กลัวถูกอุ้มค่ะ


      เมื่อประมาณเดือนที่แล้วนี่เอง  หลังจากที่เราได้เล่าเรื่องนี้ให้แก๊งค์เพื่อนสนิทเราฟัง  เราก็ได้มีโอกาสไปเดินสวนฯ อีกครั้ง เราก็เลย
      บอกเพื่อนๆ ว่า จำได้มั้ย เรื่องที่เคยเล่าให้ฟัง  เดี๋ยวเราจะพาไปดูสถานที่จริง ก่อนไปถึง เราก็เตี๋ยมกับเพื่อน ๆ ว่า อะไรอยู่ตรงไหน
      ให้สังเกตอะไรส่วนไหนบ้าง

      วันนั้นไปกันทั้งหมด 4 คนค่ะ รวมตัวเราด้วย  ก็ทำเป็นว่า เดินหลงกัน แล้วก็ไปหยุดรอกันตรงที่เกิดเหตุพอดี  ก็สายตาใครสายตามันค่ะ
      กวาดบรรยากาศรอบ ๆ กันใหญ่ เราเห็นแล้วก็ยังอดขำไม่ได้ ทำหน้าเหมือนคนหลงทางกันจริง ๆ เลย   เราเองก็ยืนอยู่แถว ๆ นั้นด้วย
      เหมือนกัน  ก็เห็นแบบเดิม ๆ เลยค่ะ  เพื่อน ๆ เห็นแล้วต่าง ก็อุทานเป็นเสียงเดียวกันว่า "แหวะ"
      โชคร้ายที่วันนั้น ยังไม่มีใครทานข้าวกันไปเลย แล้วก็เลยไม่กล้าทานข้าวนอกบ้านเลยค่ะวันนั้น ต้องหิ้วท้องกลับมาทำทานกันที่บ้าน

      เข้าเรื่องต่อค่ะ   หลังจากที่หมดแผนทำเป็นหลงทาง หาเพื่อนไม่เจอแล้ว
      เราก็นัดกันว่า ให้เดินมาเรื่อย ๆ จนสุดร้าน ให้ไปจนถึงโซนที่เริ่มมีร้านขายของ ให้ไปรอกันแถว ๆ นั้นนะ  (ตรงแถวนั้น ร้านแรกจะเป็น
      ร้านขายกระโปรงแนวแขก  ๆ )  ซึ่งเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งไปถึงก่อน ก็ยืนดูกระโปรงร้านนั้นอยู่  เมื่อเจอกันจนครบแก๊งค์  ก็เริ่มเม้าท์แตก
      กัน เจ้าของร้านเค้าก็ฟังอยู่ด้วย เค้าก็ถามขึ้นมาว่า "มีอะไรกันเหรอคะ"  เราก็เริ่มเม้าท์พฤติกรรมร้านโถพลูให้ฟัง ว่าอย่างโน้นอย่างนี้
      พี่เค้าก็ทำ ปากจุ๊ ๆ  แบบว่า ให้หยุดพูด  ตอนแรกเราก็งง ๆ เอ๊ะ ทำไมเหรอ  พี่เค้าก็ชี้ไปที่ข้าง  ๆ ร้าน ช่องถัดไป
      อ้าว.......กลายเป็นส่วนจัดเตรียมน้ำของร้านโถพลูซะงั้น โห อะไรมันจะขยายสาขาได้มากมากก่ายกอง

      เราหันไปมอง เพื่อน ๆก็มองตามกันไป มีคนอยู่ในนั้น 2 คน คนหนึ่งเป็นคนเดินเสริฟและเก็บแก้ว อีกคนหนึ่งเป็นคนตระเตรียมเครื่องดื่มไว้
      คอยท่า (จากการสังเกตค่ะ)    อีกแล้วครับท่าน ภาพที่เห็นนั้น มันน่าขยะแขยงอีกแล้ว ไม่นึกเลยว่าจะต้องมาเจอภาพเหตุการณ์แบบนี้อีก
      แก้วน้ำต่าง  ๆที่ผ่านการดูดดื่มมาแล้ว ถูกยกมาวาง  หลอดถูกแยกออกไปรวมกันไว้ แน่นอนค่ะ  นำกลับมาใช้ใหม่  แก้วน้ำที่ยังมีน้ำและน้ำ
      แข็งค้างอยู่ ถูกเททิ้ง.....ไม่ล้างค่ะ นำน้ำแข็งชุดใหม่อัดใส่แก้วแล้วเสิร์ฟเลยทันทีทันใด
      โอ้.....พระเจ้าจอร์ช มัน......อะไรดี เกินบรรยายค่ะ

      หันไปมองหน้าเพื่อน ๆ แล้วทำหน้าแหย ๆ ใส่กัน
      หันไปมองหน้าพี่ขายกระโปรง  พี่เค้าได้แต่ยิ้ม ๆ
      " พี่ขา วันก่อนนู้นหนูก็มาทาน เจอยิ่งกว่านี้อีกค่ะ"

      พี่ขายกระโปรง ยังเอาแต่ยิ้ม
      เรากะเพื่อน ๆ "โห เลวว่ะ ทำงี้ได้งัย" "แหวะ" "แบบนี้มันต้องแจ้ง" ฯลฯ
      "พี่อยู่แถวนี้ก็คงพอเห็นบ้างใช่มั้ยคะพี่" เรายิงคำถาม
      พี่เค้าก็ได้แต่ยืนยิ้ม คงไม่กล้าพูดอะไรมาก เพราะต้องขายของแถวนั้น
      หลังจากที่พวกเราเม้าท์กันอย่างดุเดือด และกำลังจะเดินจากไป
      พี่เค้าก็พูดขึ้นมาว่า " เห็นกันจนชินแล้วน้อง คนขายของที่จตุจักรเค้าไม่กินกันหรอกร้านเนี้ย"
      กึ๋ย....หยอง

      คือเรื่องจริงนะคะ ที่เล่ามาทั้งหมดนี้ ไม่ได้กุเรื่องใด ๆ ขึ้นมาทั้งสิ้น
      แล้วเราก็ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับร้านนี้นะคะ ไม่ใช่พวกที่เข้ามาก่อกวน
      ให้ร้านเค้าเสียหายค่ะ  หากจะถามหาหลักฐาน ขอบอกว่า "ไม่มี"ค่ะ
      แต่ถ้าอยากจะเห็นกับตา ลองไปที่ร้านดูนะคะ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×