คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : พบกันอีกครั้ง #แก้ไขแล้ว
Three.
06:50
ยุน โบมีที่ตื่นขึ้นมาไม่สิ ต้องเรียกว่ายังไม่ได้นอนมากากว่าเธอลุกขึ้นมาใส่เสื้อผ้าที่กระจัดกระจายไปทั่วแล้วเดินออกไปจากห้องทันที ในหัวเธอตอนนี้มีแต่ความว่างเปล่าเธอเดินออกไปจากบ้านหลังโตเรื่อยๆจนมาถึงร้านเค้กร้านหนึ่งที่กำลังเปิดร้านพอดี
“เชิญเข้าไปข้างในก่อนได้เลยนะคะ” พนักงานทักทายโบมีที่กำลังเดินอยู่
“งั้นขอรบกวนหน่อยนะคะ” โบมีที่เดินเข้าไปในร้านก็พบว่ามีลูกค้าอยู่ก่อนแล้วคนหนึ่ง เธอเดินเข้าไปนั่งที่โต๊ะในสุด
“รับอะไรดีคะ” พนักงานเดินมาถามโบมีที่โต๊ะ
“ขอกาแฟแก้วหนึ่งค่ะ” โบมีที่ตอบกลับไปเสียงเรียบ
“ได้ค่ะ” เมื่อพนักงานเดินกลับไปที่หลังเคาน์เตอร์
โบมีก็นอนลงกับโต๊ะทันทีแล้วคิดถึงเรื่องเมื่อคืน เธอส่ายหัวไปมาเพื่อให้เลิกนึกถึงมัน
“ขอโทษนะคะ” หญิงสาวน่าตาน่ารักคนหนึ่งเดินเข้ามาทักเธอ เธอคนนั้นคือลูกค้าที่มาก่อนหน้าโบมีเมื่อกี้
“มีอะไรหรอคะ”
“ไม่ทราบว่าขอนั่งด้วยคนได้ไหมคะ”
“ถ้าไม่รังเกียจก็เชิญตามสบายเลยค่ะ” เธอคนนั้นนั่งลงที่ตรงข้ามกับโบมี
“เอ่ออ..มีอะไรติดหน้าฉันหรอคะ” โบมีถามหญิงคนนั้นด้วยความสงสัยเพราะเธอสังเกตเห็นว่าเขาจ้องเธอมาได้สักพักแล้ว
“อ๋อเปล่าค่ะ ฉันแค่เห็นว่าคุณดูเพลียๆน่ะค่ะมีเรื่องอะไรไม่สบายใจหรือเปล่าคะระบายกับฉันได้นะ”
“เปล่าหรอกค่ะฉันไม่มี”
“งั้นก็แล้วไปฉันก็นึกว่าคุณมีเรื่องไม่สบายใจซะอีก ฮ่าๆ”
“ขอบคุณที่เป็นห่วงนะคะ”
“คุณพักอยู่แถวนี้หรอคะ”
“เปล่าค่ะฉันแค่มาอยู่บ้านเพื่อน เพราะพอดีทีเรื่องนิดหน่อยแล้วคุณละคะ”
“ฉันเพิ่งกลับจากต่างประเทศค่ะแล้วก็กำลังจะไปบ้านพี่” ทั้งคู่คุยกันไปได้สักพักพนักงานก็เอากาแฟมาเสิร์ฟให้โบมี
“กาแฟมาแล้วค่ะ”
“ขอบคุณค่ะ” โบมียิ้มให้พนักงานทันที
“แล้วคุณออกมาทำอะไรข้างนอกแต่เช้าคะเนี่ย หรือว่ามาออกกำลังกาย”
“เปล่าหรอกค่ะพอดีอยากออกมาเดินคิดอะไรนิดหน่อย”
“อ้อออ” เธอตอบโบมีไปสั้นๆก่อนที่จะเริ่มจ้องที่คอของโบมี
“คือมีอะไรหรือเปล่าคะ บอกฉันมาเถอะค่ะ”
“คือที่คอนั่น…”
“อย่าใส่ใจมันเลยนะค่ะ” โบมีรับพูดตัดบทก่อนที่เธอคนนั้นจะถามอะไรไปมากกว่านี้ ทั้งคู่นั่งเงียบไปสักพัก
“งั้นฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ” เธอกล่าวลาโบมีก่อนที่จะลุกออกไป
“ลาก่อนค่ะ” โบมีเมื่อดื่มกาแฟหมดแล้วก็ออกไปเดินเล่นต่อเรื่อยๆ
………………………………………………………………………
โชรงที่ตอนนี้ตื่นขึ้นมาอย่างงัวเงียก่อนที่จะใช้มือคลำหาคนที่นอนข้างๆแต่ก็ไม่พบใคร
“โบมี!”
โชรงตะโกนออกมาเมื่อไม่พบโบมีที่นอนอยู่ข้างๆ โชรงรีบวิ่งลงไปหาโบมีและถามแม่บ้านว่าเธอไปไหนแต่แม่บ้านก็บอกแค่ว่าโบมีบอกว่าจะออกไปเดินเล่น โชรงที่ตอนนี้วิ่งออกไปหน้าบ้านก่อนจะพบกับรถสีดำคันใหญ่ที่ขับมาจอดหน้าบ้านของเธอพอดี
“นั่นใครน่ะแม่บ้าน” โชรงหันไปถามแม่บ้านของเธอ
“ไม่ทราบค่ะ”
“ไม่รู้ไปดูสิจะมัวยืนอยู่ทำไมล่ะ!” ก่อนที่แม่บ้านจะวิ่งไปดูคนในรถนั้นก็ลงมาก่อนแล้ว
“สวัสดีค่ะโชรงออนนี่”
“เธอรู้จักชื่อฉันได้ยังไง” โชรงที่ตอนนี้ยืนจ้องหน้าคนตรงหน้าด้วยความสงสัย
“รู้จักสิคะก็เราพี่น้องกันไม่ใช่หรอ” โชรงที่ตอนนี้ยิ่งทำหน้า งง ไปใหญ่
“แต่ฉันจำได้ว่าไม่มีพี่น้องที่ไหนนะ”
“เอานี่ไปดูค่ะ” คนตรงหน้ายื่นซองจดหมายมาให้โชรง
“นี่มันรูปแม่นี่!” โชรงไม่รอช้ารีบแกจดหมายอ่านทันที
‘ถึงโชรงลูกรักหวังว่าลูกคงจะสบายดี ถ้าลูกได้อ่านจดหมายนี้ลูกคงจะเจอกับฮายองแล้ว จริงๆแล้วฮายองคือน้องแท้ๆของลูกนะ ฮายองเป็นลูกของแม่กับสามีใหม่แม่คงต้องขอฝากฮายองให้ลูกดูแลด้วย ต่อไปนี้ฮายองจะไปอยู่กับลูก แม่รักลูกมากนะช่วยดูแลฮายองแทนแม่ที่ไม่ได้เรื่องคนนี้ด้วยนะลูกรัก รักลูกจากแม่’
โชรงเมื่ออ่านจดหมายจบก็ไร้ข้อสงสัยเกี่ยวกับตัวฮายองทันที
“เธอเป็นน้องฉันจริงๆสินะ”
“ใช่แล้วค่ะ”
ฮายองที่ตอนนี้ยิ้มให้กับโชรงอย่างจริงใจก่อนที่จะวิ่งเข้าไปกอดโชรงทันที
“ฮายองอยากเจอออนนี่มานานมากเลยนะคะ ฮายองดีใจที่เจอออนนี่ค่ะ”
“อื้อฉันก็ดีใจ แต่ตอนนี้ฉันรีบต้องออกไปตา…” ก่อนที่โชรงจะพูดจบก็พอกับโบมีที่เดินกลับมาถึงพอดี
“เธอไปไหนของเธอมา รู้ไหมว่าฉันเป็นห่วง!” โชรงที่ตอนนี้สลัดตัวออกมาจากอ้อมกอดของฮายองและเดินตรงไปหาโบมีทันที
“ฉันแค่ไปเดินเล่นเองฉันก็บอกแม่บ้านไว้แล้วนะ” โบมีที่ตอนนี้ได้แต่ก้มหน้า
“แล้วทำไมไม่ปลุกฉันล่ะ!” โชรงที่ยังคงตะคอกใส่โบมี
“ก็เธอหลับอยู่แล้วจะให้ปลุกได้ไง” โชรงยืนจ้องหน้าโบมีด้วยสายตาโกรธเคือง
“อ่าวคุณที่ร้านกาแฟไม่ใช่หรอ” ฮายองเดินเข้ามาทักโบมี
“อ่าวคุณ” โบมีที่ทักทายฮายองกลับอย่าง งงๆ
“นี่รู้จักโบมีด้วยหรอ” โชรงรีบหันไปถามฮายองทันที
“อื้อเจอกันที่ร้ากาแฟเมื่อเช้า ชื่อโบมีหรอกหรอชื่อน่ารักจังเนอะ” ฮายองมองหน้าโบมีด้วยสายตาหวานเยิ้ม
“ฮายองอ่าทำไมไม่ยอมปลุกฉันล่ะ ถึงแล้วก็ปลุกกันหน่อยไม่ไ…โบม” คนที่ลงจากรถสีดำมานั้นคือคิม นัมจูนั่นเอง
“รู้จักโบมีด้วยหรอนัมจู” ฮายองที่ถามเพื่อนของตัวเองด้วยความสงสัยเมื่อเห็นนัมจูมองหน้าโบมี
“อ๋อปะ..ป่าวไม่รู้จัก” นัมจูพูดติดขัดเล็กน้อย
“นี่ใครหรอฮายอง” โชรงถามฮายองเมื่อเห็นนัมจู
“เพื่อนฮายองเองชื่อนัมจูจะมานอนด้วยวันหนึ่งเดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ไปแล้ว”
“สวัสดีค่ะฉันคิม นัมจูค่ะแล้วคุณ..”
“ฉันพัค โชรงพี่ของฮายองแล้วนี่ก็…” โชรงส่งสายตาให้กับโบมีเพื่อให้เธอกล่าวทักทายนัมจู
“เอ่อสวัสดีค่ะฉันยุน โบมียินดีที่ได้รู้จักค่ะ”
“รู้จักกันหมดแล้วนะ โชรงออนนี่ฉันหิวจังเลยมีอะไรกินไหมเมื่อเช้าแวะกินแค่โกโก้ร้อนเอง -3-” ฮายองที่เห็นว่าทุกคนรู้จักกันหมดแล้วก็กลายเป็นเด็กเรียกร้องหาอาหารเช้าทันที
“งั้นก็เข้าไปในบ้านก่อนสิ” ทั้งสี่เดินเข้ามาในบ้านทันทีคนที่เดินนำเข้ามาก็เป็นโชรงและตามด้วยฮายองที่วิ่งไปทั่วอย่างกับเด็กได้ออกมาเล่นนอกบ้าน(ก็เด็กนี่นา
-.-) และสองคนที่เดินตามกลังมาก็คือโบมีกับนัมจูทั้งคู่ไม่ได้คุยอะไรกันเลยระหว่างเดินไปห้องทานอาหาร
“นั่นใครหรอโชรง” นาอึนที่กำลังเดินลงบันไดมาเห็นฮายองกับนัมจูพอดี
“น้องสาวฉัน”
โชรงตอบอย่างไม่ใส่ใจมากนัก
“เอ๋? เธอมีน้องสาวด้วยหรอ”
“น้องต่างพ่อ” โชรงตอบเสียงเรียบ
“นั่นใครหรอคะโชรงออนนี่” ฮายองถามโชรงพร้อมมองไปที่นาอึน
“ลูกพี่ลูกน้องฉันชื่อนาอึน ก็อายุเท่าเธอได้มั้ง” ฮายองตาโตทำท่าดีใจที่เจอเพื่อนอีกคน
“งั้นฮายองก็มีเพื่อนเพิ่มแล้วสิดีใจจัง” ฮายองกระโดดไปมาทำท่าดีใจสุดขีด
“ฉันขอตัวไปข้างบนก่อนนะพอดีไม่ค่อยหิวเท่าไหร่” โบมีที่ยืนเงียบอยู่สักพักก็พูดขึ้นมาก่อนที่จะเดินขึ้นบันได้สวนกับนาอึนไป
“ฉันไปด้วยสิโบมเอ่อ…คุณโบมี…เดี๋ยวฉันจะขึ้นไปจัดของให้ฮายองด้วย” นัมจูพูดพร้อมเดินตามโบมีไป
“ขอบใจน้านัมจูย่า” ฮายองที่พูดขอบคุณนัมจูเสร็จก็วิ่งไปที่โต๊ะอาหารทันทีเมื่อเห็นแม่บ้านนำอาหารมาเสิร์ฟ ก่อนที่คนที่เหลือจะเดินตามฮายองไปทานข้าว
บนชั้นสองที่มีโบมีกับนัมจูที่เพิ่งขึ้นมา
“หมีน้อยรอเค้าก่อนสิ” โบมีที่ขึ้นมาก่อนนัมจูเธอรีบเร่งฝีเท้าและหนีเข้าไปในห้องนอน แต่นัมจูก็วิ่งตามทันและก็เข้ามาในห้องนอนทันทีก่อนที่จะทำการล็อคกลอนประตู
“อย่าหนีหน้ากันแบบนี้ได้ไหม” นัมจูพูดกับโบมีที่ยังคงยืนหันหลังให้
“ไม่คิดจะพูดอะไรหน่อยหรอ”
“ดีใจที่ได้เจอนะ”
“แค่นี้เองหรอ เราไม่ได้เจอกันตั้งสองปีนะที่จะพูดมีแค่นี้จริงๆน่ะหรอ”
“อื้อ” นัมจูที่ทำท่าเหมือนจะร้องไห้และเดินเข้าไปสวมกอดโบมีจากด้านหลัง โบมีได้แต่ยืนนิ่ง
“ฉันคิดถึงโบมมาตลอดเลยรู้ไหมตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่มีเวลาไหนเลยที่ฉันไม่คิดถึงโบม”
...............................................................................
เมื่อ 2 ปีก่อน
“ฉันขอให้เธอเลิกมายุ่งกับลูกฉันได้แล้ว” คนที่อยู่ตรงหน้าของโบมีนั้นคือแม่ของนัมจูนั่นเอง
“แต่เราสองคนรักกันนะคะ”
“รักกันแล้วกินเข้าไปได้ไหม! ลูกของฉันยังมีหน้าที่และอนาคตที่สวยงามจะต้องให้มันมาพังเพียงเพราะความรักบ้าบอแบบนี้น่ะหรอฉันที่เป็นแม่รับไม่ได้หรอกนะ” โบมีได้แต่เงียบฟังคนที่อยู่ตรงหน้าตะคอกใส่เธอไม่หยุด
“ฉันจะให้นัมจูไปอยู่ต่างประเทศ และฉันก็อยากให้เธอบอกเลิกนัมจูซะเขาจะได้ตัดใจจากเธอเสียที”
“ฉันคงทำแบบนั้นไม่ได้หรอกค่ะ”
“เธอไม่เห็นแก่อนาคตของนัมจูเลยหรอ ฉันมีลูกสาวแค่คนเดียวนะช่วยเห็นใจฉันบ้างได้ไหม” โบมีนั่งเงียบไปอีกครั้งก่อนที่จะคิดทบทวนเรื่องราวต่างๆ
“ถ้า…ฉันทำอย่างนั้นแล้ว…มันจะดีต่อนัมจู…ฉันก็จะทำให้ค่ะ” โบมีที่ฝืนใจกัดฟันพูดออกไป
“ขอบใจเธอมากนะ ธุระที่ฉันจะคุยก็มีแค่นี้แหละ” แม่ของนัมจูพูดจบก็ลุกเดินออกไปทัน
ในตอนนี้โบมีได้แต่นั่งจ้องโทรศัพท์ก่อนที่เธอจะตัดสินใจกดเบอร์โทรหานัมจู
(ว่าไงที่รัก) นัมจูทักทายโบมีด้วยเสียงที่สดใส
“อื้มไงที่รักพอดีมีเรื่องจะคุยด้วยนิดหน่อย”
(เรื่องอะไรหรอพูดมาเลย)
“คือ…เราเลิกกันเถอะนะ”
(เอ๋? พูดเล่นอะไรเนี่ยไม่สนุกเลยนะ ฮ่าๆ) นัมจูที่ตอนนี้ยังคงหัวเราะออกมาแต่ข้างในของเธอนั้นปั่นป่วนไปหมด
“ฉันไม่ได้ล้อเล่นเราเลิกกันเถอะ”
(แม่ของฉันใช่ไหม) นัมจูที่ตอนแรกพูดอย่างสดใสแต่ตอนนี้กลับตอบปลายสายอย่างเย็นชา
“มันไม่เกี่ยวกับแม่นัมจู ฉันแค่ไม่ได้รักเธอแล้วเราอย่ามาเจอกันอีกเลยนะ”
(โบมีมันไม่ตลกเลยนะ ถ้ามันไม่เกี่ยวกับแม่ของฉันแล้วมันมีเหตุผลอะไรที่เธอจะไม่รักฉันล่ะ)
“ฉันมีคนรักใหม่แล้ว และฉันก็หมดรักเธอไปแล้ว”
(ฉันไม่เชื่อ ใครกันที่เป็นคนรักใหม่ของเธอแน่จริงก็ให้เขามาคุยสิ)
“……” ปลายสายนั้นเงียบไปสักพักก่อนจะมีคนตอบกลับมา
“สวัสดีครับผมเป็นแฟนของโบมี ไม่ทราบว่ามีเรื่องอะไรจะคุยกับผมหรือป่าวครับ”เสียงปลายสายนั้นเป็นเสียงของผู้ชายที่นัมจูไม่คุ้นเคย
(เรียกโบมีมาคุยเดี๋ยวนี้นะ!)
“แค่นี้พอจะเข้าใจไหมว่าฉันไม่ได้รักเธอแล้ว”
(มันไม่ฮึก….จริงใช่ฮึก..ไหมโบมี…ฮึกไม่จริงใช่ไหมบอกฉัน..มาเถอะ) นัมจูที่ตอนนี้ร้องไห้ออกมาจนพูดไม่ประติดประต่อกันแล้ว
“ความจริงก็คือฉันไม่ได้รักเธอไงนัมจู เราเลิกกันแค่นี่นะ” ตู้ดด…. โบมีกดวางสายไปทันทีนัมจูพยายามโทรกลับไปหาโบมีครั้งแล้วครั้งเล่าแต่ก็ไม่ติด เธอคิดในใจว่าโบมีคงจะไม่รักเธอแล้วจริงๆเธอจึงตัดสินใจไปเรียนเมืองนอกเพราะถ้าเธอยังอยู่ที่นี่เธอคงจะตัดใจจากโบมีไม่ได้แน่ๆ
…………………………………………………………………
“ฉันคิดถึงโบมมาตลอดเลยรู้ไหมตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่มีเวลาไหนเลยที่ฉันไม่คิดถึงโบม”
“ฉันก็บอกตั้นานแล้วไงว่าอย่ามาเจอกันอีก”
“แต่ฉันรู้ความจริงหมดแล้วนะที่โบมทำไปทั้งหมดก็เพราะฉันใช่ไหม”
“ใครบอกเธอฉันก็บอกไปแล้วไงว่าฉันไม่ได้รักเธอแล้ว แค่นี้ไม่เข้าใจหรอ” โบมีที่ยังคงใจแข็งไม่ยอมพูดความจริง
“ฉันรู้นะว่าโบมทำเพื่อฉัน แต่ถ้าโบมลำบากใจที่จะพูดความจริงก็ไม่เป็นไร” นัมจูถอดอ้อมกอดนั้นออกก่อนที่จะเดินออกจากห้องนั้นไปยังห้องอาหาร โบมียืนนิ่งไปสักพักก่อนที่จะเดินไปห้องของอึนจี
ก๊อกๆ!
“อึนจีอ่าตื่นหรือยัง” ไม่มีเสียงตอบกลับจากคนในห้อง
“งั้นฉันจะเข้าไปละนะ” โบมีเมื่อพูดจบก็เปิดประตูเข้าไปทันทีเธอพบกับอึนจีที่ยังคงนอนอยู่ไม่ยอมตื่น
“อึนจีอ่า ตื่นได้แล้วคนอื่นเขาตื่นกันหมดแล้วนะ” โบมีที่พยายามปลุกอึนจีแต่ก็ไม่สำเร็จ
“อึนจีตื่นนนนนนนนนนๆๆ” โบมีทั้งเขย่าตัวอึนจีทั้งตะโกนปลุกแต่อึนจีก็ไม่มีท่าจะตื่นเลย
“ตั้งแต่เด็กแล้วก็ยังปลุกยากไม่เปลี่ยนเลยนะ” โบมีที่บ่นออกมาเพราะนึกถึงความหลังตอนเด็ก
“…….” อยู่ๆโบมีก็เงียบลงไปอย่างสินเชิง
“อึนจีเรื่องเมือคืนฉันขอโทษจริงๆนะ ฉันรู้ว่าเธอตื่นแล้วยังไงก็รีบๆตามลงไปที่ห้องอาหารนะฉันจะไปก่อนล่ะ” โบมีรู้ตัวว่าอึนจีนั้นได้ตื่นแล้วแต่ยังคงแกล้งหลับต่อไป โบมีก็ลุกออกจากเตียงและลงไปที่ห้องอาหารทันที
“ฉันไม่โกรธเธอหรอกโบม” อึนจีที่ลุกขึ้นมานั่งหลังจากที่โบมีได้ออกจากห้องไปแล้ว
ห้องอาหาร…
“ไหนบอกว่าไม่หิวไง” โชรงที่แกล้งแหย่โบมีที่กำลังเดินมาที่โต๊ะอาหาร
“ก็คนมันหิวช่วยไม่ได้” โบมีที่ตอบกลับไปเสียงเรียบ ก่อนที่แม่บ้านจะเอาข้าวต้มมาเสิร์ฟ
“อ่าวอึนจีออนนี่ตื่นแล้วหรอ ทำไมวันนี้ตื่นเองได้ล่ะ” นาอึนทักทายอึนจีที่กำลังเดินลงบันไดมา
“อื้อ…อยู่ดีๆท้องมันร้องก็เลยตื่นเองอัตโนมัติน่ะ”
“งั้นก็รีบลงมากินสิคะเดี๋ยวหมดก่อนไม่รู้น้า” อึนจีที่เดินมายังโต๊ะอาหาตามคำพูดของนาอึน
“แล้วนั่น…” อึนจีนั่งลงข้างๆนาอึนก่อนจะมองไปที่ฮายองกับนัมจู
“อ๋อนั่นน้องโชรงน้องต่างพ่อน่ะ”
“เอ๋ไม่เห็นเคยบอกกันเลย”
“พวกฉันก็เพิ่งรู้เรื่องวันนี้แหละ” นาอึนตอบคำถามของอึนจีก่อนที่แม่บ้านจะเอาข้าวต้มมาเสิร์ฟ
“อ๋ออย่างนี้เองงั้นก็ยินดีที่ได้รู้จักนะฉันจอง อึนจี”
“ฉันโอ ฮายองค่ะแล้วนี้ก็คิม นัมจู”
“สวัสดีค่ะคุณฮายองกับคุณนัมจู”
“เรียกชื่อเฉยๆก็ได้น่ายัยพวกนี้อายุเท่าฉันนะ แล้วอีกอย่างพวกเธอก็ต้องเรียกอึนจีว่าออนนี่ด้วย”
“ไม่จำเป็นหรอกน่า เรียกชื่อฉันเฉยๆก็ได้นะเราก็อยู่ปีเดียวกันแต่แค่ฉันอายุมากกว่าเท่านั้นเอง”
“’ไม่เป็นไรหรอกค่ะเรียกออนนี่ก็ได้ งั้นฝากตัวอีกครั้งนะคะอึนจีออนนี่” หลังจากที่ทุกคนทักทายและทานข้าวกันเสร็จต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันไปคนละส่วนของบ้านทันที
ซึ่งอึนจีกับนาอึนก็กลับไปที่ห้องของตัวเอง ส่วนฮายองก็ไปเดินสำรวจบ้านใหม่ของตัวเองโดยมีโชรงเป็นคนพาชม
และในสวนหลังบ้านก็มีโบมีที่ยังคงชอบไปนั่งอยู่ที่ม้าหินอย่างเคยก่อนที่นัมจูจะเดินตามมาทีหลัง
“ไงโบม”
“ไง” โบมีตอบเสียงเรียบก่อนที่จะหันหน้าไปทางอื่น
“เรายังเป็นเพื่อนกันได้อยู่ใช่ไหม”
“ได้สิทำไมจะไม่ได้ล่ะ” โบมีที่หันกลับมามองหน้านัมจูก่อนที่จะยิ้มให้ ส่วนนัมจูก็ยิ้มให้โบมีกลับเช่นกัน
“จริงนะ”
“อื้อจริงซิ”
“เย้….เฮ้ยยย!”
“กรี๊ดดด!” ตูมมมม!
นัมจูดีใจมากเลยกระโดดไปกอดโบมีเลยทำให้ทั่งสองพลาดหงายหลังตกไปในน้ำ
“นัมจูจะกระโดดมาทำไมเนี่ยเห็นไหมเปียกหมดแล้ว”
“แหะๆ
ขอโทษนะก็คนมันดีใจจะให้ทำยังไงได้ฉันก็เปียกนะไม่ใช่แค่โบมสักหน่อย”
“ช่างเถอะรีบเข้าไปเปลี่ยนชุดกันดีกว่าเดี๋ยวก็ได้เป็นหวัดเอาหรอก ฉันเริ่มหนาวแล้ว” โบมีพูดก่อนที่จะเดินนำนัมจูไป
“พวกเธอไปทำอะไรกันมาเนี่ย!” เสียงของโชรงที่เดินกลับมาเจอโบมีกับนัมจูพอดี
“พอดีเราตกน้ำที่สวนหลังบ้านน่ะค่ะออนนี่” นัมจูที่ตอบแทนโบมีที่ก้มหน้าเมื่อโดนโชรงตะคอกใส่
“แล้วไปทำอีท่าไหนถึงตกไปได้ล่ะยุน โบมี” โชรงที่ยังคงไม่สนใจนัมจูเอาแต่ตะคอกใส่แต่โบมี
“ออนนี่อย่าโกรธโบมเลยนะคะ จริงๆมันเป็นความผิดฉันเองโบมไม่ผิดเลยถ้าจะโกรธก็โกรธฉันเถอะค่ะ” นัมจูที่เห็นท่าไม่ดีเลยรีบพูดขึ้นเพราะดูท่าโชรงจะโกรธมากซะด้วย
“เดี๋ยวนี้มีคนแก้ตัวให้ด้วยดีจังนะโบมี” โชรงที่ทำเป็นพูดประชดใส่โบมี
“ฉันไม่ได้พู…” นัมจูที่กำลังพูดช่วยโบมีอยู่นั้นก็ต้องหยุดชะงักเมื่อโบมีดึงนัมจูเข้าไปจูบต่อหน้าโชรง และตอนนี้โชรงก็อึ้งกับเหตุการณ์ในตอนนี้อยู่เช่นกันก่อนที่โบมีจะถอดริมฝีปากนั้นออก
“ก็ทำแบบที่เธอเห็นนี่ไงพอใจหรือยัง ฉันกับนัมจูจะไปเปลี่ยนชุด” พูดจบโบมีก็ดึงแขนนัมจูแล้วขึ้นไปบนบันไดทันทีทิ้งไว้แต่คำถามในใจของโชรง…
...................
ไรท์คงจะเขียนไม่รู้เรื่องนะค่ะช่วงนี้ เพราะรู้สึกสมองจะไม่ไหวแล้ว5555
ยังไงก็ทนๆอ่านกันด้วยนะค่ะ ไรท์จะพยายามเขียนให้ดีกว่านี้ค่ะ
ความคิดเห็น