คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ครั้งแรก #แก้ไขแล้ว
Two.
เริ่มเช้าวันใหม่ในขณะที่ร่างบางกำลังลืมตาตื่นขึ้น เมื่อร่างบางลืมตาก็พบกับใบหน้าของใครบางคน เธอตกใจเล็กน้อยก่อนที่จะนอนจ้องหน้าของคนตรงหน้าอย่างไม่ละสายตาจนทำให้ร่างสูงนั้นตื่นขึ้นมาเมื่อรู้สึกได้ถึงสายตาอะไรบางอย่าง
“อ่าวตื่นแล้วหรอ” ร่างสูงส่งยิ้มสดใสให้กับร่างบาง
“อะอื้ออ ตื่นมาได้สักพักแล้ว” ร่างบางบิดขี้เกียจก่อนจะตอบร่างสูงกลับ
“รู้สึกดีขึ้นบางไหม”
“ก็ดีขึ้นแล้วล่ะฉันว่าวันนี้คงกลับได้แล้ว”
“นั้นสินะหมอก็บอกอยู่เหมือนกันว่าถ้าฟื้นแล้วก็กลับบ้านได้เลย”
“นี่ว่าแต่ไม่ได้กลับบ้านเลยหรอเฝ้าฉันทั้งคืนเลย?”
“ก็ใช่นะสิ ก็เมื่อคืนเธอละเมอบอกว่าอย่าเข้ามานะอย่ามาทำร้ายฉันเลยวนไปวนมา จะให้ฉันไม่อยู่เป็นเพื่อนก็ยังไงๆอยู่”
“อ๋อหรอ แต่ว่านะเธออยู่ปีไหนหรอ”
“อยู่ปีสามและก็เป็นรุ่นพี่ของเธอ”
“รุ่นพี่”
“ใช่…เพราะฉะนั้นเธอต้องเรียกฉันว่าออนนี่”
“ไม่จำเป็นสักหน่อย” ร่างบางเบ้ปากแล้วหันหน้าไปทางอื่น
“หรือเธออยากจะเรียกฉันว่าที่รักมากกว่า ฮ่าๆ” ร่างสูงหัวเราะชอบใจ
“ทำไมฉันต้องเรียกเธอแบบนั้นด้วยล่ะ”
“เหตุผลของเมื่อวานคงพอเข้าใจได้ไม่ยากนะ ว่าเธอกำลังตกอยู่ในอันตรายสำหรับโรงเรียนนี้”
“ทำไม? เธอรู้หรอว่าใครทำฉันแบบนี้” ร่างบางถามด้วยความสงสัย
“รู้”
“งั้นบอกฉันหน่อยได้ไหม”
“ซน นาอึนลูกพี่ลูกน้องฉันเอง ยัยนั่นเป็นซาตานในคาบนางฟ้าของแท้”
“ลูกพี่ลูกน้องของเธอแล้วเขามาทำกับฉันแบบนี้ทำไง” ร่างบางถามอย่างไม่เข้าใจ
“เพราะยัยนั่นไม่ชอบคนจนยังไงล่ะ” ประโยคเมื่อกี้คงจะทำร้ายจิตใจของร่างบางไปนิดหน่อย เมื่อร่างสูงเห็นร่างบางทำหน้าเศร้าๆก็เลยหาเรื่องอื่นคุย
“เฮ้อออยังไงซะ ตั้งแต่พรุ่งนี้ไปเธอต้องมาอยู่ที่บ้านของฉัน”
“เอ๋? ทำไมฉันต้อ…” ไม่ทันที่ร่างบางจะพูดจบก็ถูกริมฝีปากของร่างสูงนั้นทำให้เงียบซะก่อน ร่างบางไม่ขัดขืนแต่อย่าใดเพราะกำลังอึ้งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“เอาล่ะ ฉันไปละเดี๋ยวตอนบ่ายๆจะมารับกลับนะ” ร่างสูงที่ถอดริมฝีปากออกไปแล้วรีบเดินออกไปจากห้องผู้ป่วยทันที
……………………………………………………………………
โคร๊กกก คร๊ากกก
เสียงท้องของนาอึนที่ตอนนี้กำลังเรียกร้องขออาหารอย่างด่วน
“อึนจีออนนี่อ่าาา~ ฉันหิวจังเลยไปหาอะไรกินกันนะ” นาอึนที่ตอนนี้กำลังออดอ้อนอึนจีให้พาไปทานอาหารช่วงบ่าย
“เดี๋ยวก่อนสิ”
“ออนนี่อุส่าหยุดเรียนทั้งทีมั่วแต่นั่งทำอะไรอยู่ได้”
“ฉันกำลังแต่งเพลงอยู่อย่ากวนมากได้ไหม ฉันต้องการสมาธิ”
“ไหนขอดูหน่อยสิ” ไม่ทันขาดคำนาอึนก็แย่งกระดาษเพลงของอึนจีไปด้วยความเร็วเสียง
“เฮ้ยยยย! เอามานะซน นาอึน” อึนจีพยายามแย่งกระดาษเพลงคืนแต่ไม่สำเร็จ
“เธอจำได้รึเปล่า เมื่อตอนเด็กที่เธอกับฉันยังตัวเล็กๆอยู่ เธอจำได้รึเปล่า พวกเราอยู่ด้วยกันตลอด
ตอนนั้นเพื่อนๆต่างก็อิจฉาพวกเรา เธอจับมือเล็กๆของฉัน
และปกป้องฉันไว้ ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ยิ้มให้ ที่รัก ตอนนั้นเธอยังเด็กมาก อาจจะไม่รู้
หรืออาจจะทำเป็นไม่รู้ก็ได้” นาอึนอ่านเนื้อเพลงทั้งหมดออกมาทำเอาอึนจีที่ตอนนี้เขินจนอยู่ไม่สุขเดินตีนั่นตีนี้ไปทั่ว
“พอได้แล้วน่า~
ฉันเขินนะมันยังแต่งไม่จบเลย”
“เพลงนี้ดีนะแต่งให้ใครหรอ แต่งให้ฉันล่ะซี๊”
“ใครจะไปแต่งให้เธอกันแบร่ ฉันแต่งให้คนพิเศษต่างหาก”
“น้อยใจนะเนี่ย ใครกันน้าเป็นคนพิเศษของจองอึนจีออนนี่ของฉัน บอกกันหน่อยน้าา~”
“ไม่มีทางย่ะ”
“หู้ยยยยย งั้นต้องทำโทษที่ไม่ยอมบอกไปเลี้ยงข้าวฉันซะดีๆ หึหึ”
“นั่นสินี่ก็บ่ายสองละไปกินที่ไหนดีล่ะ”
“ที่ประจำของเราไง ร้านนั้นอร่อยที่สุดแล้ว”
ร้านทงคัตสึแห่งหนึ่ง…
“สวัสดีจ้าหนูไม่เจอตั้งนานเลยนะ” คุณป้าท่านหนึ่งเดินออกมาทักทายอึนจีกับนาอึน
“สวัสดีค่ะ” ทั้งสองโค้งคำนับอย่างสวยงาม
“วันนี้รับอะไรดีจ๊ะ”
“ขออย่างเดิมสองที่ค่ะ”
“จ้าา” คุณป้าเดินกลับเข้าไปในห้องครัว ร้านนี้ไม่ใช่ร้านในภัตคารหรูหรอกค่ะฉันกับนาอึนเรามาที่นี่กันบ่อยถึงร้านจะดูเก่าและโทรมไปหน่อยแต่ก็อาหารอร่อยมากเลยนะคะ
“มาแล้วจ๊ะหนู ท่านให้อร่อยนะ” คุณป้าเดินมาเสิร์ฟทงคัตสึให้ทั้งสอง
“ขอบคุณค่ะคุณป้า” ทั้งสองส่งยิ้มให้คุณป้าก่อนที่จะเริ่มทานทงคัตสึอย่างเอร็ดอร่อย
“อ่าาาา อิ่มจังเลยอร่อยมากด้วย” อึนจีตบพุงตัวเองเมื่อทานเสร็จ
“อร่อยไหมจ๊ะ”
“อร่อยเหมือนเดิมเลยค่ะ” นาอึนตอบ
“ดีจังเลยนะ ป้าคิดว่าพวกหนูจะต้องเป็นเพื่อนที่ดีกับลูกของป้าแน่เลย” ทั้งคู่ทำหน้าสงสัย
“ลูกของป้าอยู่โรงเรียนเดียวกับพวกหนูหรอค่ะ” อึนจีถามอย่าสงสัย
“ใช่จ๊ะ AK
school อะไรนั่นแหละ”
“เอ๋! จริงหรอคะลูกของป้าชื่ออะไรคะ”
“ชื่อยุน โบมีจ๊ะหนูพอจะรู้จักไหม
อ๊ะ!! นั้นไงกลับมาพอดีเลยแล้วนั่นมากับใครนะ” สายตาของทั้งสามมองกันเป็นตาเดียวเมื่อเห็นโชรงที่ตอนนี้กำลังพยุงโบมีลงมาจากรถ
“แม่สวัสดีค่ะ” โบมียิ้มหวานให้กับแม่
“โชรงเธอมาที่นี่ได้ยังไง” นาอึนที่ตอนนี้ทำสีหน้าเย็นชาแบบสุดๆ
“ฉันก็มาส่งแฟนตัวเองน่ะสิ กลัวว่าจะมีหมาที่ไหนมากัด” โชรงตอบพร้อมกับใช้หางตามองไปยังนาอึน
“เอ่อออคือว่า ฉันไม่ใช่แฟนโชรงนะคะอย่าเข้าใจผิดว่าแต่คุณคือ?”
“ฉันนาอึน และนี่อึนจี” โบมีทำสีหน้าตกใจเล็กน้อยก่อนที่จะส่งยิ้มให้กับทั้งคู่
“ไงโบมีจำฉันได้ไหม ฉันจอง อึนจีไง”
“ขอโทษนะคะเรารู้จักกันด้วยหรอคะ ฉันจำไม่ได้จริงๆค่ะ”
“เรา…เราจะไม่ทิ้งกัน…เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป…” อึนจีร้องเพลงที่ทำให้ความจำของโบมีถูกรื้อฟื้นขึ้นมา
“อึนจีย๊าใช่ไหม จำแทบไม่ได้แหนะสวยขึ้นเป็นกองเลย”
“ก็ใช่น่ะสิยัยแองกี้เบิร์ด”
“นี่เลิกเรียกฉันแบบนั้นได้แล้ว -3-” โบมีเบ้ปากใส่อึนจี ทั้งคู่เล่นกันอย่างสนิทสนม
“นี่ไปรู้จักกันตอนไหน!” นาอึนกับโชรงพูดขึ้นพร้อมกันทำเอาทั้งคู่ถึงกับเงียบ
“ฉันกับแองกี้เบิร์ดไม่ใช่สิ โบมีเราเป็นเพื่อนสมัยเด็กกันน่ะ” อึนจีอธิบายให้ทั้งสองฟัง
“ตอนนั้นอึนจีมาสารภาพรักกับฉันด้วยแหละ ฮ่าๆ”
“โบมีก็อย่าพูดสิอายเขาตอนนั้นฉันยังเด็กอยู่นะ”
“ตอนนั้นอึนจีน่ารักจะตายไปร้องเพลงเพราะด้วย เธอยังชอบแต่งเพลงให้ฉันฟังบ่อยๆเลย”
“มานี่เลยกลับกันเถอะ ลาล่ะค่ะคุณป้า” นาอึนลากแขนอึนจีให้กลับไปด้วยกันแต่โดยดีแถมยังส่งสายตาพิฆาตให้อีก
“โบมี! ไปทำอะไรมาบอกแม่เดี่ยวนี้นะ”
“มันมีอุบัติเหตุนิดหน่อยค่ะแม่อย่าเป็นห่วงไปเลย”
“เอ่อคุณแม่คะ หนูจะให้โบมีไปพักที่บ้านของหนูนะคะคงจะไม่ว่าอะไรใช่ไหมคะ”
“ว่าแต่หนูเป็นใครหรอจ๊ะ”
“หนูพัค โชรงค่ะ”
“นะ..หนูคือเจ้าของโรงเรียน AK school ใช่ไหมจ๊ะ”
“ใช่ค่ะ” โชรงส่งยิ้มไปให้แม่ของโบมีอย่างน่ารัก
“รอเดี๋ยวนะจ๊ะ เดี๋ยวป้าไปจัดเสื้อผ้ามาให้”
“แม่ค่….” ไม่ทันที่ร่างบางจะรั้งแม่ไว้ทันแม่ก็วิ่งขึ้นบนไดไปซะแล้ว
“ไม่ต้องห่วงหลอก ไปอยู่ที่บ้านฉันปลอดภัยจะตายฉันไม่ทำมิดีมิร้ายเธอหรอกนะ”
“นั่นแหละที่ฉันยิ่งห่วง แต่นี่เลิกเรียกฉันว่าเธอได้แล้วฉันก็มีชื่อนะ”
“ค้าาา ที่รักโบมี”
“เห้ออ~ จะเรียกอะไรก็เรียกเถอะ”
“ไม่เอาน่าโบมี อย่าเครียดมากสิถ้าเธอไม่มาอยู่กับฉันเดี๋ยวยัยนาอึนก็ส่งคนมาทำร้ายเธออีกหรอก เธอก็เห็นแล้วนี่ว่าถ้าเธอมาอยู่กันฉันนาอึนไม่กล้าทำอะไรหรอก”
“มาแล้วจ้า รอนานไหมลูก” แม่ของฉันที่วิ่งหอบกระเป๋าลงมาอย่างยิ้มร่าโดยไม่รู้เรื่องอะไรเลยว่าลูกแม่ตกลงอยู่ในกำมือของปีศาจกับซาตานแล้ว
แงๆ
“ขอบคุณค่ะคุณแม่โบมี เดี๋ยวหนูจะพาโบมีกลับมาเยี่ยมบ่อยๆนะคะลาก่อนค่ะ” จบประโยคโชรงก็ขับรถสุดหรูออกไปทันที ซึ่งคนที่นั่งข้างๆยังคงทำหน้าบู่อยู่ไม่เปลี่ยน
“โบมีเป็นอะไรของเธอ ไม่พอใจอะไร”
คำตอบที่ได้กลับมาคือความเงียบ
“เธอจะไม่ตอบฉันดีๆหรอ” ร่างสูงที่เริ่มรู้สึกหงุดหงิดกับอาการของร่างบาง ร่างสูงหักพวงมาลัยเลี้ยวเข้าไปจอดข้างทางทำเอาร่างบางที่ตอนแรกเงียบมานานต้องร้องออกมาเพราะความตกใจ
“ทำบ้าอะไรของเธอเนี่ยโชรงมันอันตรายนะ”
“ยอมพูดแล้วหรอที่รัก” ร่างสูงยื่นหน้าเข้ามาใกล้ร่างบางเรื่อยๆทำให้ร่างบางนั้นผลักร่างสูงออกไป
แต่ไม่เป็นผลเพราะร่างสูงนั่นดูท่าจะมีแรงเยอะกว่า
“จะทำอะไรของเธอน่ะ”
“ฉันก็ยังไม่ทำอะไรนี่ หรือว่าอยากให้ฉันทำ” โชรงทำหน้าตาเจ้าเล่ห์
“งั้นก็ออกไ….”
ร่างสูงที่ดึงร่างบางเข้ามาจูบอย่าร้อนแรงและดูดดื่ม ร่างบางในตอนนี้ไม่มีแม้อากาศที่จะหายใจไม่ว่าเธอจะพยายามดันร่างสูงออกไปแค่ไหนก็ไม่มีท่าทีว่าจะสำเร็จ ร่างสูงกัดริมฝีปากของร่างบางอย่างแรงจนทำให้มีเลือดออก
“อื้อออ….อือออ…” เสียงของร่างบางที่เล็ดออกมา ร่างสูงที่ยังคงไม่ไม่ถอดริมฝีปากออกแม้จะเห็นว่าร่างบางใกล้จะขาดอากาศหายใจเต็มที และมือขวาที่ซุกซนของร่างสูงตอนนี้ก็เริ่มเลื่อยไปแกละกระดุมเสื้อของร่างบาง
“อื้อออ…ออ…อือออ” ร่างบางพยายามขัดขืนแต่ด้วยอากาศหายใจที่ใกล้จะหมดจึงทำให้ไม่มีแรงมากนัก ร่างสูงปลดกระดุมเสื้อทั้งหกเม็ดของร่างบางออกและตอนนี้ร่างสูงเริ่มที่จะถอดริมฝีปากออกอย่างช้าๆ
“เฮื้อออออ” เสียงสูดอากาศเข้าปอดอย่างของร่างบางทำให้ร่างสูงอดยิ้มไม่ได้ แม้ในตอนนี้ร่างสูงกำลังจูบที่คอของร่างบางอย่างนุ่มนวลและค่อยๆเรื้อนลงไปที่หน้าอกของร่างบางอย่างช้าๆ ร่างสูงเริ่มปลดตะขอเสื้อในของร่างบางออก ร่างบางสะดุ้งและถีบร่างสูงออกอย่าแรง
ปึ้งงง!
“โอ้ยย เจ็บนะทำอะไรของเธอยัยบ้า” ร่างบางดึงเสื้อขึ้นมาใส่อย่างรวดเร็ว
“เธอนั้นแหละทำอะไร ทำบ้าอะไรของเธอ” ร่างบางที่พูดไปทั้งน้ำตาพร้อมกับจับแผลที่ปากตัวเอง
“ขอโทษ” ร่างสูงหันหน้าหนีร่างบางที่กำลังร้องไห้อยู่และขับรถออกไปทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น
บ้านสุดหรูของโชรง…
“นี่ถึงแล้ว ตื่นซิ” ร่างสูงที่ตอนนี้กำลังปลุกร่างบางที่หลับอยู่กลังจากร้องไห้เสร็จ
“อือออ” ร่างบางพูดออกมาแค่คำเดียวและก็หลับต่อ
“เฮ้อออ นี่เธอสองคนช่วยพาแฟนฉันไปนอนบนห้องที พยุงดีๆล่ะ” ร่างสูงที่ตอนนี้กำลังออกคำสั่งให้กับแม่บ้าน
“ค่ะคุณหนู”
“ให้นอนบนเตียงนั่นแหละ ไม่มีอะไรแล้วไปได้เดี๋ยวที่เหลือฉันจัดการเอง”
“ค่ะคุณหนู”
ในตอนนี้ร่างสูงที่กำลังจ้องหน้าของร่างบางอย่าสำนึกผิดเล็กน้อย
…อะไรของฉันเนี่ยทำบ้าอะไรไปว่ะต้องบ้าไปแล้วแน่ๆเลย โอ้ยปวดจิตไปอาบน้ำดีกว่า… ร่างสูงบ่นในใจก่อนที่จะเข้าไปอาบน้ำ
“ฮืออ หาววว”
ร่างบางที่ตอนนี้ลืมตาขึ้นมาก็พบว่าตัวเองอยู่ในห้องที่ไหนไม่รู้ เธอรีบลุกขึ้นมาทันทีและสำรวจร่างกายตัวเองอย่าถี่ถ้วน
“ฉันยังไม่ทำอะไรเธอหลอกน่า ไม่ต้องห่วง” ร่างบางมองตามเจ้าของเสียงก็พบกับร่างสูงที่ตอนนี้เดินออกมาจากห้องน้ำพลางเช็ดผมไปด้วย
“อ่ะนี่ผ้าเช็ดตัวเธอ ไปอาบน้ำซะเน่าจะตายอยู่ละ”
“อื้มม” ร่างบางรับผ้าเช็ดตัวมาแล้วรีบวิ่งเข้าห้องน้ำไปทันที ระหว่างรอร่างบางอาบน้ำอยู่นั้นร่างสูงก็นั่งดูทีวีไปพลางๆ
ตึง แก๊ง ตัง ตึง!
“นี่เป็นอะไรหรือเปล่าโบมี นี่!” ไม่มีเสียงตอบรับจากร่างบางที่ตอนนี้มีแต่ความเงียบตอบกลับมา
ตึง ตึง ตึง ตึง! ร่างสูงถีบประตูอย่างแรงจนประตูเปิดออกก็พบกับร่างบางที่นอนอยู่ข้างหน้า ร่างสูงตกใจและทำอะไรไม่ถูกเมื่อเห็นเลือดที่หัวของร่างบาง ร่างสูงเอาผ้าขนหนูไปปิดห้ามเลือดของร่างบางไว้ และเรียกแม่บ้านมาช่วยทันที
“ใครก็ได้มานี่ที!!”
ปัง!
เสียงปิดประตูของนาอึนที่ตอนนี้หงุดหงิดแบบสุดๆ
“เป็นอะไรของเธอนาอึน” อึนจีถามด้วยความสงสัยเพราะไม่เคยเห็นนาอึนเป็นแบบนี้มาก่อน
“ก็ฉันหึ…ช่างมันเถอะหิวแล้วอ่า” อึนจียิ้มออกไปทั้งๆที่สงสัยกับคำพูดเมื่อกี้
“อ่าๆแล้วจะกินอะไรฉันจะทำให้”
“เอาอะไรก็ได้ตอนนี้ขนาดอึนจีออนนี่ฉันยังกินได้เลย หิวมากๆ”
“งั้นกินฉันแทนละกัน ฮ่าๆ”
“มาแม่จะกินให้เรียบเลย มาให้กินซะดีๆฮ่าๆ” ทั้งคู่วิ่งไล่กันเป็นเด็ก ตึงง!
“ว๊ายยย” อึนจีสะดุดขาเก้าอี้ที่วางเกะกะอยู่
ทำให้นาอึนที่วิ่งตามมาล้มตามๆกันไป ตอนนี้สภาพของทั้งสองอยู่ในท่าที่นาอึนนอนทับตัวของอึนจีอยู่
“เป็นอะไรไหมนาอึน”
“ออนนี่นั่นแหละเป็นอะไรไหม เจ็บตรงไหนหรือป่าว”
“เจ็บสิเธอทับฉันอยู่นะ” นาอึนที่รู้สึกตัวก็รีบลุกออกไปทันทีแต่ที่แก้มเธอตอนนี้แดงไปหมด
“อยากกินฉันขนาดนั้นเลยหรอ ฮ่าๆ”
“จะบ้าหรอ ก็ออนนี่นั้นแหละล้มเองนะ”
“ขอโทษนะคร้าบบบ ขุ่นแม่”
“หิวแล้ววววววววว” นาอึนบ่นออกมาแก้เขิน
“จ้าาาา มาจุ๊บหน่อยทีนึงจะได้หายเจ็บ” อึนจีจับหัวนาอึนเข้ามาจุ๊บที่หน้าผากอย่างอ่อนโยน จริงๆมันก็เป็นเรื่องปกติที่ทั้งคู่ทำแบบนี่กันแต่ไม่รู้ทำไมครั้งนี้มันถึง…ใจเต้นแรงแปลกๆนะ
ร่างสูงที่ตอนนี้กำลังนอนหลับอยู่ข้างๆร่างบาง
“ฉันกลัวแล้วๆ”
เสียงละเมอของร่างบางทำให้ร่างสูงตื่นขึ้นมาทันที
“ไม่เป็นไรนะโบมีฉันอยู่นี่แล้ว” ร่างสูงหันมานอนกอดร่างบางเอาไว้แน่น
“ฉันไม่ทิ้งเธอไปไหนแล้วนะ จะอยู่ด้วยตลอดไปเลย” ร่างสูงที่ตอนนี้ยังคงกอดร่างบางไว้ไม่ปล่อย และร่างบางก็กอดร่างสูงกลับเช่นเดียวกัน
“ขอบใจนะ…อึนจี” สิ้นเสียงละเมอสุดท้ายที่ออกจากปากร่างบางทำเอาร่างสูงถึงกับน้ำตาคลอ
“อะไรกันกอดเราแล้วทำไมพูดชื่ออึนจีมาได้ล่ะ” ร่างสูงห่มผ้าให้กับร่างบางก่อนที่จะลุกออกจากเตียง และเดินตรงไปที่ระเบียง
ร่างสูงได้แต่ยืนรับลมเย็นที่ตีปะทะเข้ามาที่ใบหน้าของเธอ และน้ำใสๆก็ได้ไหลออกมาจากดวงตาของคนที่ชื่อว่าพัค โชรง
…อะไรกันแล้วนี่ฉันจะร้องไห้ให้เธอทำไมกันนะโบมี… เธอปาดน้ำตาที่ไหลออกมาไม่หยุดและพยายามควบคุมสติตัวเอง และก็กลับเข้าไปนอนบนเตียงเช่นเดิม
…………………………………………………………………………
กริ๊งงงงงงๆ!
เสียงนาฬิกาปลุกสองตัวที่หัวเตียงของโชรงดังขึ้น
“โอ้ยรำคาญ!”
ร่างสูงปานาฬิกาปลุกลงพื้นอย่างแรงทำเอาคนที่นอนข้างๆสะดุ้งตื่นขึ้นมา
“เฮ้ยอะไรอ่ะ -_-?” ร่างบางที่ตอนนี้ตื่นขึ้นมาอย่างงๆ
“ไม่มีอะไรนอนต่อไปเถอะ”
“ใครจะไปนอนได้ล่ะ นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้วเนี่ยแล้วโรงเรียนไม่…โอ้ยยเจ็บ!” ร่างบางจับที่หน้าผากของตัวเอง
“จะไปจับทำไมละเดี๋ยวเลือดก็ไหลหรอก” ร่างสูงดึงมือของร่างบางออกอย่างรวดเร็วก่อนที่เลือดจะไหลซะก่อน
“มันเกิดอะไรขึ้น”
“นี่เธอจำไม่ได้หรอ แล้วนี่จำฉันได้ไหมเนี่ยตายๆฉันชื่ออะไรไหนบอกมาหน่อย”
“ปีศาจใจร้าย”
“ค่อยยังชั่วนึกว่าจะลืมฉันไปแล้วซะอีก”
“นี่ไม่โกรธหรอแปลกแฮะ แล้วตกลงฉันโดนอะไร”
“ก็เธอดันโง่ลื่นล้มในห้องน้ำน่ะสิ ก็เลยเป็นเงี้ยแหละ”
“อ้อพอจำได้แล้ว” คร๊อกก
แคร๊กกก ท้องของโบมีคำรามเบาๆก่อนที่โชรงจะหัวเราะออกมาอย่างอดไม่อยู่
“หัวเราะอะไรของเธอ ก็คนมันหิวเมื่อวานก็ไม่ได้กินอะไรเลย”
“นั้นสินะ งั้นลงไปข้างล่างกันแม่บ้านคงเตรียมอาหารเช้าไว้แล้ว”
“แล้ววันนี้ไม่ไปโรงเรียนหรอ”
“จะไปยังไงดูสภาพตัวเองด้วย เลิกถามแล้วลงไปข้างล่างเถอะ”
“ก็ได้งั้นไปเลยหิวแล้ว ไปเลยเร็วๆ” ร่างบางพยายามผลักให้ร่างสูงเดินไปเร็วๆ
“โหวววว ใหญ่เป็นบ้าจะใหญ่เว่อร์ไปล่ะ”
“นี้แค่ข้างในเองออกไปข้างนอกยิ่งกว่านี้อีก รีบๆกินแล้วจะพาไปดู”
“โอเคครับ” ร่างบางพูดจบก็รีบเอาอาหารที่อยู่ตรงหน้าเข้าไปในหลุมดำ(?) ในปากของเธอทันที
“ปะไปกัน จะพาไปที่สวนหลังบ้านนะ” โชรงพูดขึ้นหลังจากที่ทานอาหารเสร็จแล้ว
“นั้นมัน..!!!”
ร่างบางเห็นที่ม้านั่งกลางสวนน้ำเล็กๆก็ไม่รีรอวิ่งเข้าไปนั่งทันที ทำตัวเป็นเด็กไปได้
“อะไรของเธอจะตื่นเต้นทำไมนักหนา”
“ก็ฉันชอบนี่ ฉันฝันมาตลอดเลยว่าจะต้องมีที่นั่งทำการบ้านแบบนี้” โบมีพูดไปพรอ้มกับทำท่าทางเพ้อฝัน
“ชอบหรอ อยากได้ไหมล่ะ”
“อยากได้สิถามมาได้”
“งั้นฉันให้เอาม่ะ”
“เอา!”
“มาเป็นแฟนฉันก่อน” ร่างสูงเขยิบเข้ามาใกล้ร่างบางเรื่อยๆ ร่างบางเลยพยายามถอยหนี
“ให้ฟรีๆไม่ได้หรอไง”
“มันต้องมีอะไรแรกเปลี่ยนสื แค่เป็นแฟนเอง”
“ให้ตายก็ไม่เอาหรอก”
“อ่ะนี่ โทรศัพท์” ร่างสูงยื่นโทรศัพท์ให้ร่างบาง
“อะไร ให้ฉันทำไม” ร่างบางรับมันมาอย่างงงๆ
“ฉันเมมเบอร์ฉันไว้แล้ว เผื่อมีปัญหาจะได้โทรตามฉันได้”
“ไม่เอาหรอก ฉันรับไว้ไม่ได้หลอก” ร่างบางพยายามคืนให้ร่างสูงแต่อีกฝ่ายกลับไม่รับไป
“เอาไปเหอะน่า ถือว่าไถ่โทษเรื่องเมื่อวานละกัน”
“…” ร่างบางเงียบไปก่อนที่จะรับโทรศัพท์มาไว้ดังเดิม
“เอาเหอะยังไงซะกว่าจะจบเทอมนี้ก็อีกนานทนหน่อยละกัน” ร่างสูงเอามือขยี้หัวร่างบางก่อนที่จะเดินเข้าไปในบ้าน
……………………………………………………………………………
กริ๊งงงงงง กริ๊งงงงงง กริ๊งงงงง!
เสียงปลุกของนาฬิกานับสิบทำเอานางฟ้าซนถึงกลับกลายร่างเป็นซาตานเพราะอึนจีที่ไม่ยอมตื่นมาปิดนาฬิกาปลุกของตัวเองสักที
“ย๊าาาอึนจีอ่าาา ตื่นสักทีสิ” นาอึนที่ตอนนี้เดินไล่ปิดนาฬิกาจนทั่วห้อง
“ฮ่าๆ อะไรของเธอเนี่ยโบมอ่าา” การละเมอของอึนจีทำให้นาถึงขว้างนาฬิกาลงพื้นทันทีที่ได้ยิน
“จะไปพูดชื่อยัยนั้นทำไม จนแล้วยังจะกล้ามาเรียนที่ AK school อีกเชอะ”
“ฉันรักเธอนะ” นาอึนทนไม่ไหวที่เห็นอึนจียังละเมอถึงโบมี เธอเลยทำตามแผนเดิมกระโดดกอดอึนจีแต่คราวนี้ไม่เป็นตามแผนเพราะอึนจีตื่นมาก่อนแล้วหลบนาอึนทัน
“ฮ่าๆ จะทำอะไรหนอนาอึนจ้า”
“ชิ ตื่นมาทำไมตอนนี้ย่ะ”
“ไม่เอาไม่งอนน้า เดี๋ยวออนนี่คนนี้จะทำอาหารเช้าให้สุดฝีมือไปเลยดีไหม”
“เอาาา แต่วันนี้ช่วงบ่ายฉันจะไปบ้านโชรงหน่อยออนนี่ไปด้วยกันนะ”
“เอาสิ ว่าแต่จะไม่ทำอะไรที่นั้นหรอ”
“ก็พอดีมีเรื่องที่จะต้องคุยกับโชรงนิดหน่อยเลยอยากได้เพื่อนไปด้วย”
“โอเคๆ
ช่วงบ่ายนะจะไปเป็นเพื่อนเองจ้า”
บ่ายแล้วแต่มีคนที่ยังคงนอนกลางวันอยู่
“ออนนี่บ่ายแล้วนะจะไปไหมเนี่ย”
“ไปสิปายยยย
Z z zZz” และแล้วก็หลับต่อ
“ออนนี่ตื่นเร็วๆสิฉันจะไปแล้วจริงๆนะ” อึนจีพยายามยันตัวเองให้ลุกขึ้นมาจากเตียง
“ไปกันเลยก็ได้ แต่เธอขับนะฉันอยากนอนต่ออีกหน่อย”
“อะจ๊ะๆ” นาอึนขับรถว่าจนถึงบ้านโบมีแต่อึนจีก็ยังไม่ยอมตื่น จนสายตาของนาอึนไปสะดุดเข้ากันใครบางคน
“เอะนั้นมัน! ทำไมกันทำไมโบมีถึงมาอยู่ที่นี่ได้!!” นาอึนตะโกนดังลั่นทำให้อึนจีที่หลับอยู่ถึงกับตื่นขึ้นมาพร้อมๆกับมองหาโบมีทันที
“ไหนๆ ไหนแองกี้เบิร์ด”
“แหม่ทีนี่ตื่นมาได้นะ เชอะ”
“เจอแล้วแองกี้เบิร์ดมานี่ได้ไง ไปหาแองกี้เบิร์ดกันเถอะนาอึน” สุดท้ายนาอึนก็ถูกอึนจีลากมาหาโบมีจนได้
“งายยยยยยแองกี้เบิร์ด”
“อ่าวอึนจีอ่า มาอยู่นี่ได้ไง”
“ฉันต่างหากที่ต้องถามแองกี้เบิร์ดมาอยู่นี่ได้ไง”
“ก็มาอยู่ในฐานะแฟนฉันไง” โบมียังไม่ทันได้ตอบก็โดนโชรงแย่งพูดซะก่อน
“ฟะ…แฟนหรออ!”
“ไม่ใช่ๆ ไม่ใช่นะฉันกับโชรงเราเป็นแค่พี่น้องกัน”
“งั้นเองหรอตกใจหมดเลย”
“ว่าแต่พวกเธอมีธุระอะไร มาทำอะไรที่บ้านคนอื่นเขามิทราบ” โชรงพูดขึ้นเสียงออกไป
“ฉันแค่จะมาคุยเรื่องงานโรงเรียนแค่นั้นแหละ”
“งานโรงเรียนอ๋อเรื่องนั้นฉันจัดการเรียบร้อยแล้วไม่ต้องห่วง”
“งั้นพวกฉันกลับล่ะ”
“เดี๋ยวสินาอึน ว่าแต่แองกี้เบิร์ดไม่ได้เจอกันตั้งนานขอค้างสักคืนสองคืนได้ไหม” อึนจีทำเสียงอ้อนแบบสุดๆ
“ไม่ได้!” นาอึนกับโชรงพูดขึ้นพร้อมกันทำเอาสองคนมองกันเป็นตาเดียว
“ได้สิงั้นมานอนห้องฉันนะ ห้องตั้งกว้างเรานอนสองคนก็คงพอแหละ”
“เอาไงก็เอาเถอะ” โชรงบ่นพึมพรำออกมา
“เย้” โบมีกับอึนจีกระโดดดีใจกันใหญ่
ตกกลางคืนอาหารสุดหรูถูกจัดเตรียมไว้ให้เต็มโต๊ะอาหาร
“โห้วว เยอะอะไรขนาดนั้นน่ากินหมดเลย” โบมีพูดออกมาก่อนที่จะลงมือทานทันที
“แองกี้เบิร์ดใจเย็นๆ เดี๋ยวก็ติดคอหรอก”
“ไม่หลอก.. แอ๊กๆๆ” พูดยังไม่ขาดคำโบมีก็สำลักไก่ชิ้นโตที่เพิ่งกัดเข้าไปคำโตเมื่อตะกี้
“ก็บอกแล้วไม่เชื่อ อ่ะนี่น้ำ”
“นึกว่าจะตายซะแล้ว”
“น่าจะตายๆไปซะ” นาอึนพึมพำเบาๆอยู่คนเดียวระหว่างนั่งดูสองคนนั้นนั่งหยอกล้อกันไปมาเหมือนกันเด็กไม่มีผิด
“พูดไม่ดีเลยนะซน นาอึน” โชรงกระซิบข้างหูของนาอึนก่อนที่จะส่งยิ้มเข้าเล่ห์ไปให้
“เราขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะ” อึนจีพูดพร้อมกับพาโบมีไปด้วย
………………………………………………………….
ในห้องนอนสุดหรูที่มีอึนจีกับโบมีที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จนั่งเล่นพูดคุยความกลังกันอยู่
“ตอนนั้นเธอน่ารักมากเลยรู้ไหม ตอนที่เพิ่งตัดหน้าม้าใหม่ๆน่ะ” โบมีพูดขึ้นพร้อมหวนนึกถึงความหลังวัยเด็ก
“แองกี้เบิร์ดล่ะก็ ฉันก็เขินเป็นนะ”
“ฮ่าๆ เห็นไหมน่ารักจะตาย”
“โบมี…คือ” อยู่ดีๆอึนจีก็เปลี่ยนสรรพนามเรียกโบมี
“มีอะไรหรือป่าวบอกฉันได้นะ” โบมีถามเมื่อเห็นหน้าของอึนจีดูมีความกังวน
“คือโบมคิดกับฉันยังไงหรอ”
“ก็แหง่อยู่แล้วก็ต้องเป็นเพื่อนรักที่สุดยังไงล่ะ”
“แต่…ฉันคิดกับโบมไม่ใช่เพื่อนนะ…เธอรู้ใช่ไหม”
“แต่ฉันว่...”
ไม่ทันที่โบมีจะได้พูดอะไรก็ถูกอึนจีโผล่เข้ากอดทันที
“ที่ผ่านมาฉันยังรักโบมมาตลอดเลยนะ ฉันรักเธอนะยุน โบมี”
“ฉันก็รักเธอนะอึนจี แต่ตอนนี้ฉันว่ามันไม่เหมือนแต่ก่อนแล้ว” อึนจีกกอดโบมีแน่นกว่าเดิม
“ปล่อยฉันเถอะนะ ฉันรักอึนจีแบบเพื่อนจริงๆนะ”
“แต่ยังไงฉันก็รักโบมอยู่ดีนะ ฉันรอโบมมาตั้งสิบปีจนในที่สุดก็ได้เจอกัน” อึนจีที่ตอนนี้น้ำตาเริ่มไหลออกมา
“โบมทำเป็นรักฉันแค่คืนนี้ได้ไหม ฉันขอร้อง” อึนจีที่ไม่เคยร้องไห้มาก่อนถึงกับปล่อยโฮออกมาให้กับผู้หญิงคนนี้
“ก็ได้ถ้าอึนจีต้องการแบบนั้น ฉันรักเธอนะ”
“……” ทั้งๆที่อึนจีควรจะตอบกลับมาว่ารักโบมเหมือนกัน แต่กลับไม่มีเสียงอะไรเลย
“อึนจีอ่าา เป็นอะไรหรือป่าว” อึนจีก็ยังคงเงียบต่อไปแล้วสักพักก็ค่อยๆปล่อยอ้อมกอดนั้นออกช้าๆ อึนจีใช้มือสัมผัสที่ใบหน้าของโบมีอย่าอ่อนโยนก่อนที่จะค่อยๆจูบร่างบางนั้นอย่างนุ่มนวล โบมีสัมผัสได้ถึงความแตกต่างระหว่างใครบางคน
“พอใจแล้วใช่ไหม อึนจีอ่า” โบมีพูดพลางยิ้มหลังจากที่อึนจีถอดริมฝีปากออก
“อึนจีว่า อึนจีไปดีกว่าโบม ขอบคุณมากสำหรับทุกๆอย่างนะ” อึนจีวิ่งออกไปนอกห้องพร้อมกับน้ำตาที่ไหลเป็นทาง
“ฉันขอโทษนะ”
โบมีพูดขึ้นมาพร้อมๆกับน้ำตาที่เริ่มไหลออกมาทีละนิด เวลาผ่านไปเรื่อยๆแต่โบมีก็ยังคงร้องไห้ไม่หยุดถ้าดูเวลาแล้วก็ผ่านไปได้ครึ่งชั่วโมงแล้ว
ตึงปั้ง! เสียงประตูถูกปิดลงอย่างแรง
“อึนจีฉัน…” คนที่กลับเข้ามาควรจะเป็นอึนจีแต่ทะว่าคนที่อยู่ตรงหน้านั้นกลับเป็นโชรงแทน
“อะไรของเธอออ บ่นอะไร ใครกันอึนจงอึนจีห๊าา!!” ร่างสูงที่เดินเข้ามาใกล้ๆร่างบางพร้อมกับขวดเหล้า ร่างสูงพูดแบบเมาๆมึนๆแทบจะจับใจความไม่ได้
“เธอเมาแล้วนะ ไปนอนเถอะ” ร่างบางพยายามเช็ดน้ำตาแล้วไล่ให้ร่างสูงไปนอน
“เธอจะร้องไห้ทำไม ลืมอึนจีไม่ได้หรอไงห๊ะ!” ร่างสูงพูดเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ
“ไม่ใช่สักหน่อย เธอเมาแล้วไปนอนไป” ร่างสูงโยนขวดเหล้าทิ้งแล้วจับข้อมือร่างบางขึ้นมาอย่างแรง แล้วเหวี่ยงร่างบางลงไปบนเตียงและขึ้นครอมไปนอนทับร่างบางทันที
“จะทำอะไรของเธอออกไปนะฉันเจ็บ”
“เจ็บสิดีจะได้จำว่าเธอน่ะเป็นของฉัน ถ้าเธอลืมอึนจีไม่ได้ฉันจะทำให้เธอลืมยัยนั่นเอง”
“มันไม่ใช่อย่างที่เธอคิดนะ ออกไปได้แล้วเราเป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้น”
”เพื่อนอะไรเขาจูบกันห๊ะ!” โบมีทั้งอึ้งทั้งโกรธที่รู้ว่าตัวเองโดนคนอื่นแอบฟังตอนที่อยู่กับอึนจี
“นี่เธอมาแอบฟังหรอ”
“ก็ใช่นะสิแล้วจะทำไมห๊ะ!” ร่างสูงในตอนนี้เมาไม่ได้สติแล้ว
“แย่ที่สุด เธอบอกเองไม่ใช่หรอเวลาคนอื่นเขาคุยกันห้ามแอบฟังไง”
“ก็นี่มันฉันจะทำอะไรก็ได้ อย่างคืนนี้ฉันจะทำอะไรกับเธอก็ได้ใครจะทำไม” ร่างสูงก้มลงไปจูบที่ร้อนแรงร่างบางพยายามเอาตัวเองออกจากที่ตรงนั้นแต่ก็ไม่สำเร็จ เพราะทั้งสองมือของร่างบางถูกสองมือของร่างสูงจับไว้อย่างแน่นจนแทบไม่สามารถขยับได้เลย ร่างสูงเริ่มถอดริมฝีปากออกก่อนที่จะค่อยๆไซ้ไปที่คอของร่างบางและประทับรอยที่แสดงถึงความเป็นเจ้าของ
“หยุดเดี๋ยวนี่นะพัค โชรงฉันบอกให้หยุดยังไงล่ะ!” ร่างสูงไม่ฟังอะไรทั้งนั้นก่อนที่จะปล่อยมือทั้งสองข้างของร่างบางแล้วเปลี่ยนมากอดเอวของร่างบาง ร่างบางทุบๆไปที่แผ่นหลังเล็กของร่างสูงและร้องตะโกนบอกให้หยุด
“หยุดนะๆ หยุดดดดฉันบอกให้หยุดไง!” ยังไงร่างสูงก็ยังไม่ยอมฟังคำพูดของร่างบาง ร่างบางพยายามดิ้นจนหมดแรงก่อนที่ร่างสูงจะดึงชุดนอนของร่างบางออกอย่างไม่กลัวว่ามันจะขาดแต่อย่างใด
“จะ..จะทำอะไรของเธอน่ะ”
“ก็จะทำครั้งแรกของเธอให้มันสนุกสุดๆไปเลยยังไงล่ะ หึหึ” ร่างสูงหัวเราะเจ้าเล่ห์ออกมาก่อนที่จะเริ่มการจูบอีกครั้งคราวนี้ร่างสูงจูบนานและดูดดื่มกว่าเดิม ร่างบางไม่สามารถขัดขืนได้แต่อย่าใดร่างสูงเริ่มที่จะปลดตะขอเสื้อในของร่างบางออก
“โชรงฮึก..พอเถอะนะฮึก..ฉันขอร้อง” ร่างบางที่พยายามพูดในขณะที่สติเริ่มเลื่อนลอย ร่างสูงยังคงไม่ฟังอะไรทั้งสิ้นได้แต่ย่ำยีร่างกายน้อยๆของร่างบางอย่าไม่ปราณี
“เธอจะเป็นของฉันคนเดียวเท่านั้นยุน โบมี” ร่างสูงกระซิบข้างหูของร่างบาง ก่อนที่ค่ำคืนนั้นจะเต็มไปด้วยความรักของร่างสูงที่ยัดเหยียดให้กับร่างบางอย่าไม่เต็มใจ
(จิตนาการเอานะค่ะ ><)
……………………………………………………………………
เสียงร้องไห้ของจองอึนจีที่กำลังนอนซบนาอึนอยู่นั้น ยังคงไม่หยุดร้องไห้ที่ตัวเองนั้นอกหักจากคนที่รักและรอมานานกว่าสิบปี
“หยุดร้องได้แล้วออนนี่ยังมีฉันอยู่ทั้งคน” นาอึนพูดปลอบอีกคน
ไม่รู้ว่าทำไมเวลาเธอเห็นผู้เป็นพี่เสียใจเธอถึงใจเจ็บปวดตามไปด้วย
“แต่ฉันรักโบมนะ”
“จะไปรักทำไมคนแบบนั้น อยู่กับฉันอย่าไปพูดถึงคนพันนั้นเลย”
“ฉันรักเขามากจริงๆนะ ฉันรักเขาฮรือออ” อึนจียังคงไม่หยุดร้องแม้เวลาจะผ่านไปถึงสองชั่วโมงแล้ว
“ออนนี่ตาบวมหมดแล้วนะ หยุดร้องเถอะนะถือว่าฉันขอ”
“อื้อ”
“นั้นแหละหยุดร้องเลยนะ ดีแล้ว” นาอึนที่ตอนนี้กำลังกอดอึนจีเพื่อให้เธอนั้นหยุดร้องไห้
“นอนเถอะฉันไม่ร้องไห้แล้ว”
“แน่ใจนะ” นาอึนถามอึนจีที่ตอนนี้หยุดร้องไห้แล้วก่อนที่อึนจีจะนอนลง
“อื้อ…ฝันดีนะ”
“ฝันดี” นาอึนที่นอนมองแผ่นหลังของอึนจีอยู่เงียบๆก่อนที่เธอจะหลับไป
02:17
นาอึนที่ตื่นขึ้นมาเพราะได้ยินเสียงร้องไห้ของอึนจี
“อรือออ” อึนจีที่นอนร้องไห้อยู่บนเตียงเบาๆ นาอึนไม่พูดอะไรออกไปแต่เธอเข้าไปกอดอึนจีจากด้านหลังอึนจีที่ยังคงร้องไห้ต่อไปก่อนที่นาอึนจะกอดอึนจีแน่นกว่าเดิม
“ไม่ร้องนะ ไม่ร้อง” นาอึนที่ยื่นหน้าไประหว่างไหล่ของอึนจีแล้วพูดอย่างแผ่วเบา อึนจีไม่ได้ตอบกลับแต่อย่าใด
“ฉันจะอยู่ข้างๆออนนี่เองนะ” อึนจีที่ตอนนี้หยุดร้องไห้แล้วและหันกลับมากอดนาอึนกลับ ทั้งคู่กอดกันตลอดทั้งคืนเช้าเพราะนั้นทำให้อึนจีจะไม่ร้องไห้อีก….
...............................................................
ความคิดเห็น