ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [B.A.P] SF/Fic HimDae - Two of Us

    ลำดับตอนที่ #7 : SF : HimDae - มาเฟียที่รัก

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 537
      2
      26 มิ.ย. 56

    Title: มาเฟียที่รัก
    Author: 2R_Rainbow_esoR
    Rating: PG
    Note: หายไปนานมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ยังมีใครคิดถึงฮิมแดอยู่ไหมคะ? ^^

    ชอบแบบนี้อ่ะ พี่ชาย น้องชาย ~ น่ารักกกกกกกก
     
     
    ::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::



    ท่ามกลางกระแสสังคมนิยม ธุรกิจทุกอย่างกำลังดำเนินไปได้ดี เศรษฐกิจกำลังรุ่งเรือง แต่สิ่งที่กลับทำเงินผลกำไรได้สูงกลับไม่ใช่ธุรกิจบนพื้นดินอย่างที่หลายๆคนเห็นกัน 
     
    ธุรกิจใต้ดินภายใต้การควบคุมและดูแลของมาเฟียใหญ่ที่น้อยคนนักจะรู้จัก ถ้าไม่ใช่คนในวงการเดียวกัน น้อยคนนักที่จะรู้ว่านักธุรกิจหนุ่มไฟแรง ‘คิมฮิมชาน’ ผู้นี้คือผู้ที่อยู่เบื้องหลังวงการผิดกฎหมายและเป็นผู้ที่คุมบังเหียนทั้งธุรกิจบนและใต้ดินไว้ในกำมือ
     
    รถลีโม่สีดำค่อยๆแล่นผ่านแนวรั้วประตูเหล็กดัดบานใหญ่เข้ามา บ้านทรงยุโรปหลังใหญ่อยู่ห่างจากประตูรั้วนอกไม่ไกลมากนัก เมื่อรถคันหรูจอดลงที่ปลายบันไดประตูบ้าน คนในชุดสูทดำก็ออกมายืนเรียงต้อนรับพร้อมกันตั้งแต่หน้าประตูบ้านลงมายันประตูรถ
     
    คนที่ยืนใกล้ประตูที่สุดก้าวเข้ามาโค้งตัวแล้วเปิดประตูรถออก  ฮิมชานก้าวเท้าลงจากรถด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย นิ่งสนิทเสียจนบรยากาศแถวนั้นหนาวยะเยือกอย่างไม่ทราบสาเหตุ 
     
    “พวกนายนี่มันเลี้ยงเสียข้าวสุกจริงๆ” ดวงตาคมกวาดมองไปยังเหล่าบรรดาลูกน้องทั้งหลายที่ยืนตัวตรงก้มหน้าคล้ายกลัวความผิด
     
    “ไหนว่าวางแผนกันรัดกุมแล้วไง แล้วทำไมมันถึงได้พังแบบนี้ห๊ะยองแจ!!!” เสียงทุ้มตวาดเสียงต่ำใส่ลูกน้องคนสนิทที่ยืนอยู่เคียงข้าง
     
    “ขอโทษครับนาย ผมว่าในหมู่พวกเราอาจจะมีหนอนบ่อนไส้ก็ได้นะครับ” ฮิมชานหันมองหน้าของลูกน้องคนสนิทก่อนที่จะพยักหน้ารับกลายๆ
     
    “หาตัวมันให้เจอแล้วก็ ........” ดังเสียงเงียบนั้นคือชะตาตัดสินของมันผู้ที่คิดทรยศ “ฆ่ามันทิ้งซะ” สิ้นคำสั่งทุกคนในบริเวณนั้นก็ลอบกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก ในกระแสเสียงเย็นชานั้นไร้ซึ่งความปราณีใดๆต่อผู้คิดคดทนยศ
     
    ถ้าไม่เฉียบขาดและไม่เก่งจริงก็คงที่จะก้าวขึ้นมายืนตรงจุดนี้ไม่ได้ จุดที่สูงที่สุด จุดที่อยู่เหนือผู้คนทั้งหมด คำสั่งของฮิมชานถึงว่าเป็นคำสั่งเด็ดขาด ต้องทำให้ได้และภารกิจนั้นๆจะต้องสำเร็จลุล่วงไม่ว่าจะกรณีใดๆก็ตาม
     
    แม้ว่าคำสั่งนั้นจะเป็นคำสั่งให้ปลิดชีวิตใครก็ตาม ฮิมชานก็ไม่เคยคิดที่จะลังเลเลยสักครั้ง ทั้งเพื่อนสนิทที่อยู่ในวงการเดียวกัน ลูกน้องทุกคนก็ยังคงสงสัยว่า......
     
    ‘คิมฮิมชาน คนนี้ยังมีหัวใจอยู่หรือเปล่า’
     
    “พี่ฮิมชานกลับมาแล้วเหรอฮะ~” เสียงใสๆมาพร้อมกับเจ้าของเสียงที่วิ่งตึกตักออกมาด้วยรอยยิ้มสว่างสดใส วิ่งลงบนไดหน้าประตูลงมาหาฮิมชานที่ยืนมองนิ่งๆ เมื่อเด็กคนนี้ปรากฏตัวบรรยากาศรอบข้างที่มาคุก็สลายหายไปสิ้น
     
    “วันนี้กลับช้าจัง ประชุมอีกแล้วเหรอฮะ” รอยยิ้มร่าเริงถูกส่งมาอีกครั้ง ดวงตาคมหันมองคนตัวเล็กที่วิ่งมายืนข้างๆแล้วแย่งกระเป๋าทำงานในมือยองแจไปถือเสียเอง
     
    “อืม” รับคำสั้น ง่ายตามแบบฉบับ 
     
    “วันนี้แดฮยอนทำมื้อเย็นเองด้วยนะ พี่ฮิมชานต้องชอบแน่ๆเลย เข้าไปข้างในกันเถอะฮะ” แล้วเจ้าตัวก็คว้าข้อมือพี่ชานแสนเย็นชาให้ตามเข้าบ้านไป ฮิมชานก็เดินตามแรงลากไปโดยที่ไม่บ่นสักคำ
     
    ทิ้งให้เหล่าบอดี้การ์ดลอบอมยิ้มกันเอง ใครๆก็ว่าเจ้านายของพวกเขาแสนเย็นชาและน่ากลัว แต่คุณหนูเล็กของบ้านก็ละลายความเย็นชาที่ล้อมรอบตัวเจ้านายของพวกตนได้ คุณหนูเล็กผู้ที่ก้าวเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ ก้าวเข้ามายืนเคียงข้างเจ้านายแสนเย็นชาและค่อยๆละลายความเย็นชานั้นลงอย่างไม่รู้ตัว
     
    ใครว่า คิมฮิมชานไม่มีหัวใจ .. ถ้าไม่มีหัวใจจะเดินตามแดฮยอนที่ตัวเล็กกว่าเกือบครึ่งไปโดยไม่ขัดขืนได้อย่างไรกัน
    ถ้าไม่มีหัวใจจะยอมยกเลิกงานทุกอย่างหลัง 5โมงเย็นเพื่อกลับบ้านมาทานมื้อเย็นพร้อมกันทุกวันได้อย่างไร
    ถ้าไม่มีหัวใจนัยน์ตาแสนนิ่งสงบคู่นั้น จะประกายแวววาวได้อย่างไรกัน
     
    “วันนี้ผมลองทำเสเต็กดูล่ะ ผมว่าพี่ฮิมชานต้องชอบแน่ๆเลย~” แดฮยอนหันกลับไปบอกฮิมชานที่ยังคงเดินตามมือที่จูงเข้ามาในห้องนอน
     
    “วันนี้ที่มหาลัยเป็นไงบ้าง” ถามไปก็ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีขาวที่ข้อมือไป แดฮยอนที่วางกระเป๋าทำงานเรียบร้อยก็เดินวนกลับมาช่วยปลดเนคไทให้
     
    “ก็ดีฮะยากเหมือนเดิม มีรายงานสองเล่มแต่ผมแยกกับเจลโล่ทำกันคนละเล่มแล้ววันนี้ก็มีอาจารย์ใหม่มาสอนไม่รู้ทำไมเขาถึงเรียกผมตอบคำถามตลอดเลย ยืนเหนื่อยมากเลย” ลูกแมวน้อยในอ้อมแขนทำหน้างอ ดวงตาคมดุมองใบหน้าแสนงอง้ำนั้นแล้วก็ยกยิ้มบางๆ วันนี้พี่ฮิมชานยิ้มด้วยแฮะ..
     
    “อาจารย์คนใหม่? ชื่ออะไรแล้วสอนอะไร”
     
    “ชื่ออะไรไม่รู้ฮะไม่ได้สนใจแต่สอนแคลครับ” ฮิมชานเพียงแค่พยักหน้ารับก่อนที่จะเดินผละไปล้างหน้าในห้องน้ำ
     
    บนโต๊ะอาหารยาวที่รองรับผู้ใช้ได้ถึงยี่สิบคนกลับถูกจับจองแค่เพียงสองเจ้าของบ้านเท่านั้น คุณชายฮิมชานและคุณหนูเล็กแดฮยอน ยองแจยืนอยู่ด้านหลังเยื้องกับเด็กรับใช้คนอื่นๆ ซึ่งบางทีแดฮยอนก็สับสนว่าคุณเลขายูนั้นเป็นแค่เลขาหรือพ่วงตำแหน่งพ่อบ้านมาด้วยกันแน่
     
    “วันเสาร์หน้าพี่ฮิมชานว่างไหมฮะ” อยู่ๆบทสนทนาที่ถามถึงเนื้อสเต็กในจานก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว รอยยิ้มจากคนถามนั้นเล่นเอาคนที่กำลังจะไม่ว่างเงียบปากฉับ แดฮยอนหน้ามุ่ยทันทีเพราะรู้แล้วว่าคำตอบของคำถามนั้นคืออะไร
     
    “พี่ยองแจฮะ” แล้วลูกแมวก็หันไปหาตัวช่วยทันที “ยกเลิกประชุมให้พี่ชายที่บ้างานของผมด้วยนะฮะ.. บอกพวกนั้นไปว่าน้องชายของท่านประธานอยากไปเที่ยวมากๆ ถ้าพวกเขาไม่ยอมยกเลิกประชุมเดี๋ยวผมจะเข้าไปอาละวาดเอง” แล้วคนที่จะเข้าไปอาละวาดก็หัวเราะคิกคัก ยองแจก็หัวเราะตามเบาๆแล้วรับคำ
     
    “เอาแต่ใจ” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นนิ่งๆ แดฮยอนทำแก้มป่องแล้วลุกขึ้นเดินอ้อมไปยืนอยู่ด้านหลังก่อนที่จะวาดแขนโอบรอบคอฮิมชาน
     
    “ก็เอาแต่ใจน่ะสิฮะ ตกลงว่าว่างแล้วนะห้ามเบี้ยวด้วย” ว่าแล้วก็โน้มใบหน้าลงแนบแก้มเข้ากับแก้มสากของพี่ชายซะเลย
     
    แดฮยอน คุณหนูเล็กของบ้านที่สดใส ช่วยฉายแสงอบอุ่นไล่ความหนาวเย็นและเย็นชาของบ้านหลังนี้ให้หายสิ้นไปหมด 
     
    ดวงอาทิตย์ดวงเล็กๆของบ้าน และของใครบางคนที่รอคอยแสงสว่างนั้นตลอดเวลา
     
     
    เย็นนี้ก็เป็นอีกวันที่ฮิมชานรีบเคลียร์งานในบริษัทถูกกฎหมายที่ใช้บังหน้าเพื่อทำธุรกิจขาวสะอาดและใช้ฟอกเงินจากงานผิดกฎหมายให้มันถูกกฎหมาย การออกมาต้อนรับของเหล่าลูกน้องที่ดูแลรอบบริเวณบ้านนั้นเป็นเรื่องปกติและคุ้นชินที่ฮิมชานเจอมาตั้งแต่เกิด
     
    แต่วันนี้กลับไม่ชินเลยสักนิดเมื่อเจ้าของรอยยิ้มสดใสนั้นไม่ออกมาต้อนรับดังเดิม ปลายเรียวคิ้วขมวดเข้าหากัน เมื่อได้รับรายงานว่าวันนี้ลูกแมวขี้อ้อนน่ะอยู่บ้านแต่ไม่ยักกะออกมาหาเหมือนดั่งเคย ฮิมชานก็ก้าวเท้าเข้าบ้านทันทีโดยที่ไม่ทันได้ฟังรายงานต่อจากนั้นอีกเลย
     
    “พี่ฮิมชานกลับมาแล้วเหรอฮะ? วันนี้เจลโล่มาช่วยทำรายงานล่ะ ทำกันไม่ทัน” ปรายสายตามองก่อนที่จะยิ่งขมวดคิ้วอีกครั้ง เด็กนั่น... เจลโล่คนนั้นที่เคยได้ยินแต่ชื่อก็ได้เห็นหน้ากันสักที ว่าแต่คุ้นๆนะ...
     
    “จุนฮง?? ใช่ไหม” เจลโล่ยิ้มแล้วพยักหน้ารับ
     
    “ครับ ชเวจุนฮงครับ” แดฮยอนหันมองทั้งสองสลับกันไปมา
     
    “พี่รู้จักเจลโล่ด้วยเหรอ?”
     
    “รู้สิ นายน่ะเป็นอะไรกับยงกุกนะ?” ริมฝีปากกระตุกยิ้มบางๆ เจลโล่สะดุ้งแล้วกระพริบตาถี่ๆเพื่อหาทางออก
     
    “อ่า...... น้องข้างบ้านพี่ยงกุกครับ” ฮิมชานไม่ตอบรับแต่กลับกระตุกยิ้มขึ้นอีกนิด ก็นับว่าดีที่ใช้คำแทนตัวเองว่าเป็น ‘เด็ก’ ของบังยงกุกได้
     
    “พี่ยงกุกหรอ? นายรู้จักพี่เขาด้วยเหรอ? โห้~ โลกกลมจังเลย พี่ฮิมชานก็ชวนพี่ยงกุกมากินข้าวบ้านเราบ้างสิ ไม่ได้เจอพี่ยงกุกตั้งหลายปีแล้ว” ฮิมชานเพียงแค่พยักหน้ารับแล้วเดินขึ้นบันไดไปด้านบน
     
    ชเวจุนฮง เด็กของบังยงกุกเพื่อนซี้ที่ทำงานมาด้วยกัน เด็กคนนั้นก็ถูกส่งมาดูแลลูกแมวน้อยยามที่อยู่ไกลหูไกลตา แต่ก็ไม่คิดว่าไอ้เจ้าเพื่อนบ้าจะส่งให้มาตีสนิทได้ถึงขนาดนี้ ฉลาดจริงๆนะชเวจุนฮง
     
    ดวงอาทิตย์ที่แสนเจิดจ้าแบบนี้ จะปล่อยให้คนอื่นครอบครองไปได้ยังไงกันล่ะ
     
    ฮิมชานที่อาบน้ำเปลี่ยนเป็นชุดลำลองสบายๆเรียบร้อยแล้ว เดินลงจากชั้นสองมานั่งโซฟาในห้องรับแขก เหตุผลที่ต้องเดินแยกไปก่อนก็เพราะต้องรีบขึ้นมาอาบน้ำนี่ล่ะ กลิ่นดินปืนและคาวเลือดยังคงคลุ้งอยู่เลย 
     
    เมื่อร่างสูงนั่งลงที่โซฟาข้างๆลูกแมวที่นั่งหลังพิงโซฟาพิมพ์งานอยู่ที่โต๊ะตัวเล็กหน้าโซฟา เจ้าตัวก็ถอยตัวมานั่งพิงขาของพี่ชายเสียเลย แดฮยอนหยิบแผ่นงานหลายแผ่นที่ไฮไลท์เนื้อหาสำคัญขึ้นมาอ่าน คุณแม่บ้านนำน้ำผลไม้ ขนมและกาแฟมาให้คุณชายและคุณหนูทั้งสอง
     
    ยองแจก็ขนเอาแฟ้มงานมาให้ฮิมชานนั่งอ่าน แดฮยอนที่นั่งเมื่อยหลังก็ขยับสอดตัวเข้าไปแทรกกลางระหว่างขาของฮิมชานแล้วเอียงตัวนอนซบท่อนขานั้นแทนหมอน ฝ่ามือใหญ่เอื้อมมาลูบกลุ่มผมนิ่มสีคาราเมล กลีบปากอิ่มสีสดวาดรอยยิ้มอย่างชอบใจ
     
    เจลโล่และยองแจที่แอบมองอยู่ก็อมยิ้มกับภาพความน่ารักของคนทั้งสอง เมื่อครั้งที่คุณผู้ชายคนก่อนยังอยู่และก่อนที่แดฮยอนจะก้าวเท้าเข้ามาในบ้านหลังนี้ ฮิมชานไม่เคยที่จะยิ้มหรือแสดงความรู้สึกใดๆเลย เฉยชา เสียจนด้านชา หนาวเย็นจนนึกสงสัยว่าคนๆนี้ยังมีหัวใจที่ยังคงความรู้สึกหรือไม่ หรือมันด้านชาไปหมดแล้ว
     
    หลังจากที่ดวงอาทิตย์ดวงน้อยค่อยๆสาดแสงเข้ามา ทุกอย่างก็ค่อยๆเปลี่ยนไปทีละน้อย..ทีละน้อย ยกเว้นอาชีพผิดกฎหมายเท่านั้นที่พวกเขาไม่เคยคิดที่จะละทิ้ง เจลโล่แอบกดส่งข้อความจากโน้ตบุคของตัวเองไปหาใครอีกคนที่แอบสละเวลาประชุมมาคุยแชทกับตัวเองด้วยรอยยิ้ม
     
    “วันนี้ผมทำสลัดนะ” หลังจากที่อ่านข้อมูลในมือจนมึนหัวไปหมดแดฮยอนก็เลยวางแผ่นงานทั้งหมดไว้บนโต๊ะก่อนที่จะหันมานั่งเอาหลังพิงขาของคนบ้างาน 
     
    “อืม” พูดน้อย ตอบน้อยตามภาษา ขอแค่เป็นลูกแมวที่หันหน้ามายิ้มให้น่ะอะไรก็ยอมหมดนั่นล่ะ ถึงจะดูเย็นชาไปเสียหน่อยแต่คุณชายของบ้านก็ไม่เคยทำร้ายจิตใจคุณหนูเล็กเลยแม้แต่ครั้งเดียว อันนี้ยูยองแจรับประกัน
     
    หลังจากที่ทำรายงานเสร็จเจลโล่ก็ขอตัวกลับไปก่อนโดยมีรถจากบ้านของยงกุกมารับ และวันนี้ยองแจก็ได้รับอนุญาตให้เลิกงานไวกว่ากำหนดได้ ซึ่งแน่นอนว่ายองแจต้องมีเรื่องที่ต้องไปทำหลังจากนี้ กำจัดหนอนบ่อนไส้
     
    มื้อเย็นนี้ก็เลยมีแค่คุณชายและคุณหนูเล็กของบ้านเท่านั้น เสียงใสก็ยังคงเล่าเรื่องราวที่พบเจอมาในวันนี้
    ให้ฟังพร้อมกับเสียงหัวเราะใสๆที่ดังกังวานไปทั้งบ้าน 
     
    ฮิมชานก็ยังคงนั่งเงียบๆไม่ตอบรับหรือแสดงความคิดเห็นอื่นใด ยังคงก้มหน้าก้มตาทานอาหารในจานของตัวเองดังเดิม แดฮยอนอมยิ้มอย่างมีความสุข ไอ้ท่าทีเย็นชาเฉยเมยที่ว่าไม่ได้สนใจฟังนั่นน่ะ ขอบอกเลยนะว่าคนนิ่งๆนั่นน่ะเก็บข้อมูลทุกอย่างนั่นล่ะ
     
    “เออใช่ นี่ต้องสอบวิชาอะไรนะเนี่ย ลืมแล้วแหะ ยังไม่ได้อ่านหนังสือเลย”
     
    “แคลกับเคมี”
     
    “ตอนไหนนะฮะ”
     
    “เช้าเคมี เย็นควิซแคล”
     
    “เออใช่โปรเจ็คก็ต้องส่งพรุ่งนี้นิน่า คงไม่ได้นอนแน่ๆเลย”
     
    “อีกสามวันส่ง”
     
    “คะแนนภาษาวันนี้ทำได้ตั้ง84แน่ะ เก่งเนอะ~”
     
    “อย่ามั่วได้80”
     
    เห็นไหมล่ะ?? คิมฮิมชานน่ะซึนจะตาย .... ทำเป็นเก๊กนิ่งแต่ก็หูพึ่งฟังทุกอย่างนั่นล่ะ
     
    ก๊อก.. ก๊อก... ดวงตาคมหันไปมองยังบานประตูห้องนอนที่ค่อยๆถูกเปิดออกช้าๆพร้อมกับใบหน้าของลูกแมวที่ยิ้มแป้นแล้นโผล่เข้ามา เจ้าของห้องนั่งไขว้ขาอ่านแฟ้มงานพิงหลังอยู่บนเตียง ดังนั้นลูกแมวก็เลยเปิดประตูให้กว้างเพื่อที่ตัวเองจะได้เดินเข้าไป
     
    “นอนด้วยนะฮะพี่ฮิมชาน” ลูกแมวกอดหมอนเดินเข้ามายืนยิ้มหน้าแป้นอยู่ข้างเตียงเสียล่ะ
     
    “ทำไมอีกล่ะ” ไม่ใช่แค่คืนนี้ที่ลูกแมวมาขอนอนด้วย แต่เพราะมาทุกคืนนั่นล่ะก็เลยลองถามหาเหตุผลสักหน่อยว่าวันนี้จะมาขอนอนด้วยเหตุผลอะไร
     
    “แอร์ที่ห้องหนาวอ่ะ ห้องพี่ฮิมชานอุ่นดี นอนด้วยนะฮะ” ฮิมชานไม่ได้ยิ้มตอบเพียงแค่พยักหน้ารับเท่านั้น ลูกแมวก็ก้าวขึ้นเตียงมานอนข้างๆเสียเลย ดวงตาโตมองพี่ชายที่นั่งก้มหน้าอ่านแฟ้มงานด้วยท่าทีเคร่งเครียด
     
    “พี่ฮิมชานฮะ.. พี่เหนื่อยไหมที่ต้องมาดูแลผม” คนที่กำลังเพ่งสมาธิไปที่งานหันไปมองลูกแมวที่นอนมองตาแป๋ว
     
    “ทำไมถึงถามแบบนั้น หื้ม? เด็กน้อยของพี่” แดฮยอนยิ้มรับกับชื่อเรียกในสมัยเด็ก ฝ่ามือที่ลูบหัวนั้นก็ยังอุ่นเหมือนเดิม
     
    “ผมเห็นพี่ทำงานหนักทุกวันเลย พี่ชายเหนื่อยมากไหม? ผมจะเรียนให้เก่งๆนะจะได้มาช่วยงานพี่” ฮิมชานปิดแฟ้มงานแล้ววางไว้ที่โต๊ะข้างหัวเตียงก่อนที่จะหันมาคุยกับลูกแมวน้อย
     
    “ไม่ต้องหรอก ไปทำอะไรแบบที่อยากทำเถอะ”
     
    “ทำไมล่ะฮะ? พี่ชายไม่ดีใจเหรอพี่ผมจะไปช่วยงาน”
     
    “เราเรียนวิศวะถามหน่อยจะมาทำอะไรที่บริษัทพี่ได้? จะสร้างตึกให้ใหม่ใช่ไหม?” แล้วแดฮยอนก็หัวเราะส่งเสียงใส ฮิมชานยิ้มบางๆให้กับลูกแมวที่นอนหัวเราะกลิ้งไปกลิ้งมา
     
    “อย่างน้อยก็เป็นน้องชายเจ้าของบริษัทนะฮะ~” 
     
    “นอนได้แล้วไป” 
     
    “ฝันดีครับพี่ชาย”
     
    หลังจากที่แดฮยอนหลับตาไปแล้ว ฮิมชานก็หยิบแฟ้มงานมาอ่านต่อพร้อมกับมองเวลาเพื่อรอรายงานจากยองแจว่าคืนนี้ภารกิจสำเร็จหรือไม่ 
     
    บางทีฮิมชานก็รู้สึกเกลียดตัวเองอยู่ไม่น้อย ที่สามารถสั่งชี้เป็นชี้ตายชีวิตของผู้อื่นได้ บางทีก็นึกเกลียดตัวเองที่ต้องเกิดมาเพื่อเดินทางสายนี้ เกลียดที่ตัวเองต้องเกิดมาเป็นคิมฮิมชาน
     
    ไฟหน้าจอมือถือกระพริบว่ามีข้อความเข้า ฮิมชานหยิบขึ้นมากดดู ข้อความนั้นส่งมาจากยูยองแจ เลขาคนสนิท ...ภารกิจเสร็จสิ้น จัดการเรียบร้อยครับนาย... การตัดสินชีวิตคนไม่ใช่เรื่องดีและน่าภูมิใจเสียเท่าไหร่เลย
     
    แต่ก็มีอยู่แค่เรื่องเดียวเท่านั้นที่รู้สึกดีใจ ดีใจที่เกิดมาเจอและได้อยู่กับแดฮยอน ....แค่นั้นจริงๆ ใบหน้าคมก้มลงจุมพิตที่หน้าผากมนเบาๆก่อนที่จะถอนออก ปลายเรียวนิ้วปัดเส้นผมที่ปรกใบหน้าใสออก
     
    “ฝันดีนะ” คนเย็นชาอย่างฮิมชานผู้ที่ไม่เคยมีหัวใจและไม่เคยยิ้ม กลับยิ้มให้คนที่หลับตาพริ้มอยู่ข้างเคียงนี้
     
    ก็แค่คนเดียวที่ทำให้รู้ว่า มาเฟียที่โหดสุด เลวสุดก็ยังมีหัวใจที่เต้นได้อยู่เหมือนกัน
     
     
    วันเสาร์ที่แดฮยอนรอคอยมาถึงแล้ว... วันนี้เจ้าตัวดูจะอารมณ์ดีเป็นที่สุด ก็เพราะว่าจะได้ไปเที่ยวน่ะสิ แดฮยอนหมุนตัวหน้ากระจกอีกครั้ง เสื้อสเวตเตอร์สีครีมกับกางเกงยีนส์ฟอกสี เมื่อมองแล้วเสื้อหน้า หน้าผมเข้าที่ก็หยิบกระเป๋าสะพายหลังสีดำแล้วเดินออกจากห้องนอนทันที
     
    วันนี้ฮิมชานก็เลือกที่จะแต่งชุดโทนสีขาวดำตามสไตล์ เสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงยีนส์สีดำสวมทับด้วยเสื้อโค้ทยาวสีดำ แว่นเรย์แบรนด์ที่ถูกสวมไว้แล้วเรียบร้อย
     
     
    “พี่ฮิมชานเหมือนคุณพ่อที่พาลูกชายไปเที่ยวเลยอ่ะ” แล้วเจ้าตัวก็หัวเราะคิกคักใหญ่เมื่อเห็นการแต่งตัวของพี่ชาย
     
    “พี่ยองแจจะไปด้วยเหรอครับ? แล้วลูกน้องพี่พวกนี้ด้วยเหรอ?” แดฮยอนชี้ไปที่เหล่าลูกน้องในบ้านที่วันนี้ไม่ได้ใส่สูทแต่สวมชุดไปรเวทแล้วยืนเรียงแถวกันหน้าสลอน
     
    “ครับไปดูแลคุณหนูเล็กกับคุณชาย” แดฮยอนมุ่ยหน้าเพราะคิดว่าจะได้ไปเที่ยวกันสองคนเสียอีก
     
    “แต่แดฮยอนดูแลตัวเองได้นิครับพี่ยองแจ” เลขาคนสนิทหัวเราะเบาๆ
     
    “ครับ แต่คุณพี่ชายของคุณหนูเล็กน่ะกลัวคุณหนูเล็กจะหลงทางเอาน่ะสิครับ” คนที่โดนกลัวหลงทางยู่หน้าใส่พี่ชายแล้วเดินออกไปนั่งบนรถก่อนโดยที่ไม่รอใครเลย ฮิมชานเองก็แอบยกยิ้มบางๆ
     
    สวนสนุกวันนี้คนมาเที่ยวเยอะกว่าวันไหนๆ ด้วยทั้งเป็นวันหยุดและวันครอบครัวที่ส่วนใหญ่คุณพ่อกับคุณแม่ก็พาลูกๆมาเที่ยวกัน
     
    ฮิมชานเดินเคียงข้างแดฮยอนที่ดูจะสนอกสนใจกับรอบข้างไปเสียหมด ดวงตากลมเบิกกว้างทอแววประกายสนุกเสียเหลือเกิน เหล่าบอดี้การ์ดทั้งหลายที่เหลือก็เดินเรียงแถวกันอยู่ด้านหลังคอยคุ้มกัน
     
    ถ้าท่านประธานบริษัทเป็นแค่ประธานบริษัทธรรมดา บอดี้การ์ดทั้งหลายเหล่ก็คงจะไม่ตามมาเป็นขโยงแบบนี้หรอก แดฮยอนวิ่งไปยังแผนผังของสวนสนุกแล้วจดๆจ้องๆว่าวันนี้จะตะลุยเล่นเครื่องเล่นไหนบ้าง
     
    “จะเล่นอะไร” แดฮยอนหมุนตัวกลับมายิ้มแป้น
     
    “เฮอร์ริเคนฮะ!!!!” ตั้งใจแกล้งพี่ชายสุดที่รักสินะ คิมฮิมชานกลัวความสูงเป็นที่สุด เห็นว่าเป็นมาเฟียโหดแบบนี้ก็เถอะ!!
     
    “ต่อด้วยไวกิ้งนะฮะ!!!
     
    “ล่องแก่ง!!!”
     
    “รถไฟเหาะ!!!!”
     
     
    “ไหวไหมฮะพี่ฮิมชาน” ปลายประโยคแผ่วด้วยเพราะกำลังกลั้นหัวเราะ ท่านประธานบริษัทที่แสนเย็นชาและน่าเกรงขามกลับหน้าซีดเผือดเพราะเล่นเครื่องเล่นที่ทั้งเร็วและสูงแบบนั้น คิๆ
     
    “รอบนี้ผมให้พี่เลือกเลยว่าพี่จะเล่นอะไร” ฮิมชานกระตุกยิ้มก่อนที่จะคว้าข้อมือเล็กให้เดินตามไปด้วยกัน
     
    “บ้านผีสิง!!!! ไม่เข้าได้ไหมฮะ” แต่คำตอบที่ได้คือการส่ายหน้า
     
    “อย่าทิ้งผมนะฮะพี่ชาย” แดฮยอนเกาะแขนของฮิมชานแน่น 
     
    เมื่อเข้าไปด้านในลูกแมวน้อยก็สั่นเสียแล้ว สองแขนก็กอดแขนของคนพาเข้ามาแน่นเลย สองเท้าก็ไม่ยอมก้าวเท้าออกเดินจนฮิมชานต้องค่อยๆเดินช้าๆและลากลูกแมวขี้กลัวให้เดินตามมา
     
    ตลอดข้างทางเหล่าผีปลอมต่างก็พากันมาหลอกให้ขวัญหนี และแน่นอนว่าคนที่กลัวผียิ่งกว่าอะไรก็ร้องไห้สะอื้นกอดแขนพี่ชายไว้ไม่ปล่อยและจะไม่มีทางปล่อยแน่ๆ
     
    “ร้องทำไมก็แค่ผีปลอม” ลูกแมวน้อยที่ตัวสั่นค่อยๆเงยหน้าขึ้นมา หยาดน้ำตายังคงไหลรินเป็นสาย
     
    “ก็ผมกลัวนิ พี่ฮิมชานใจร้าย!!” ก็รู้ว่ากลัวแล้วพาเข้ามาในนี้ทำไม!!?
     
    “ใครว่าใจร้ายเนี่ยให้กอดแขนมาตลอดทางเลยนะ” แดฮยอนเงยหน้าจากที่ซบกับท่อนแขนนั้นแล้วสะบัดทิ้ง
     
    “โป้งแล้ว โกรธมากด้วย!!” ฮิมชานยักไหล่ไม่สนใจแล้วก็ออกก้าวเดิน ทิ้งให้แดฮยอนยืนอยู่ตรงนั้น
     
    “พี่..ฮิมชาน ฮือๆๆ” แล้วลูกแมวก็ลงนั่งยองๆปิดหูเพื่อไม่ให้ได้ยินเสียงหวีดหวิวที่หลอนประสาทนั้น เสียงฝีเท้าเดินตรงเข้ามาหาก็ยิ่งพาให้แดฮยอนเขยิบชิดผนังซ่อนตัวให้มิด
     
    “ร้องไห้ทำไมเด็กน้อยของพี่” แดฮยอนเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นคนที่เดินทิ้งไปมานั่งยองๆอยู่ตรงหน้า ริมฝีปากบางวาดรอยยิ้มส่งมาให้
     
    “พี่ชายทิ้งผม” ฮิมชานยื่นมืออกไปลูบหัวแมวน้อยขี้แย
     
    “ใครจะกล้าทิ้ง”
     
    แล้วก็เป็นผลให้ฮิมชานต้องแบกลูกแมวขี้กลัวขึ้นหลังพาออกมาจากบ้านผีสิงแห่งนั้น สองแขนโอบรัดรอบคอคนอุ้มไว้แน่น แดฮยอนโน้มหน้าชิดแก้มติดแก้มกอดคนอุ้มไปตลอดทางแม้จะออกมาด้านนอกแล้วก็ตาม
     
    “ไม่ลงหรือไง” แดฮยอนส่ายหน้าพร้อมกับหัวเราะเสียงใส
     
    “หิวแล้วฮะ” แล้วฮิมชานก็ต้องเปลี่ยนเส้นทางไปยังร้านอาหารภายในสวนสนุกแทน
     
    แดฮยอนนั่งรออยู่ที่โต๊ะนอกร้านอาหารเพื่อรอให้พี่ชายไปสั่งอาหารมาให้ มื้อเที่ยงก็เลือกที่จะกินอาหารฟาส์ทฟู๊ดง่ายๆก่อนที่จะไปเดินเล่นเพื่อรอขบวนพาเหรดช่วงบ่ายกัน
     
    ไม่นานฮิมชานก็เดินถือถาดอาหารออกมา ทั้งคู่ก็นั่งกินกันไปนั่งคุยกันไปถึงเครื่องเล่นต่างๆว่าอยากที่จะไปเล่นอะไรก่อนกลับบ้าน แม้ว่าตอนนี้เหล่าบอดี้การ์ดที่มาด้วยจะแยกตัวไปแล้วแต่ทุกคนก็ยังคอยอยู่รอบๆไม่ห่าง 
     
    หลังจากกินข้าวเสร็จทั้งสองก็พากันเดินไปเรื่อยๆเพื่อที่จะไปยืนรอดูขบวนพาเหรดกัน แต่แล้วเสียงวุ่นวายโกลาหลก็เกิดขึ้นพร้อมกับกลุ่มคนที่วิ่งกรูเข้ามาทางฮิมชานและแดฮยอน เหล่าบอดี้การ์ดที่กระจายตามที่ต่างๆก็พากันวิ่งเข้ามาคุ้มกัน
     
    แดฮยอนถูกดันไปหลบที่ด้านหลัง ฮิมชานกางมือกันแดฮยอนที่ยืนตัวสั่นกำเสื้อตนไว้แน่น ผู้คนแตกตื่นวิ่งกันไปคนละทิศคนละทาง เสียงปืนดังขึ้นฮิมชานกับแดฮยอนถูกพาออกไปยังที่ปลอดภัยแต่แล้วฮิมชานก็พลาดที่พาแดฮยอนวิ่งฝ่าวงล้อมของเหล่าบอดี้การ์ดทั้งหลายหมายว่าจะวิ่งไปยังลาดจอดรถ แต่ไม่คิดว่าทางนั้นก็มีคนดักรออยู่เช่นกัน
     
    ปัง!!... สิ้นเสียงปืนร่างของพี่ชายที่อยู่ด้านหน้าก็ล้มลงพร้อมกับเลือดที่ไหลนองพื้น 
     
    “พี่ฮิมชาน ไม่นะ!!!!!” แดฮยอนเข้าไปประคองฮิมชานขึ้นมาหนุนตัก หยดน้ำตาไหลรินหยดลงเปื้อนใบหน้าของคนที่ถูกยิง
     
    “พี่ยองแจ!!! พี่ยองแจช่วยพี่ฮิมชานด้วย!!!!”
     
    ยองแจรีบวิ่งมาแล้วประคองเจ้านายไปขึ้นรถพร้อมกับแดฮยอน รถคันหรูพุ่งทะยานไปยังโรงพยาบาลที่ไกลที่สุด และจะต้องไวที่สุด เลขาคนสนิทเหยียบมิดเกโดยไม่สนใจกฎจราจรแล้ว แดฮยอนยังคงสะอื้นเสียจนตัวโยน กอดคนที่นอนอยู่บนตักด้วยขวัญเสีย
     
    “อย่าตายนะพี่ชาย ถ้าพี่ตายแดฮยอนจะอยู่กับใคร ..ฮือ....”
     
    หน้าห้องฉุกเฉินทุกคนนั่งก้มหน้าภาวนาขอให้คนหลับประตูนั่นปลอดภัย เหล่าบอดี้การ์ดที่ตามมาก็มารายงานกับยองแจ ซึ่งแดฮยอนไม่ได้สนใจ ตอนนี้ลูกแมวตัวสั่นกำลังนั่งภาวนาขอให้พี่ฮิมชานปลอดภัย
     
    พี่ต้องตื่นมาหาผมนะ พี่ชายต้องตื่นมาหาแดฮยอนนะ
     
    นานหลายกว่าชั่วโมงที่ประตูบานนั้นจะเปิด เมื่อคุณหมอเดินออกมาแดฮยอนก็ถลาไปหาคนแรก เมื่อถามอาการแล้วว่าไม่เป็นไรแม้ว่าลูกกระสุนนั้นจะเข้าอกซ้ายก็ตาม แค่นี้แดฮยอนก็ดีใจจนร้องไห้โฮอีกรอบ ร้องไห้จนหมดสติไป
     
    “อ๊ะ... พี่ฮิมชาน!!” แดฮยอนที่ได้สติก็ลุกขึ้นพรวดพราดจนแทบจะตกโซฟาในห้องเฝ้าไข้ ยองแจที่ยืนอยู่ข้างเตียงก็ต้องถลามาช่วยพยุงไว้ 
     
    “พี่ฮิมชาน” แดฮยอนมายืนเกาะข้างเตียงพี่ชายก็ยังคงนอนไม่ได้สติ แค่นั้นน้ำตาก็ไหลอีกครั้ง
     
    “รีบๆตื่นนะฮะ พี่ชายต้องตื่นนะ” 
     
    “คุณหนูเล็กไปล้างหน้าล้างตาหน่อยนะครับ เชื่อพี่ยองแจนะ” ยองแจดันหลังของคุณหนูเล็กให้เข้าห้องน้ำเพื่อไปล้างหน้าล้างตาก่อนที่จะกลับมายืนข้างเตียงเหมือนเดิม 
     
    “แกล้งคุณหนูเล็กทำไมครับเจ้านาย” ฮิมชานลืมตาขึ้น ไม่ได้ตอบแต่แค่กระตุกยิ้มที่มุมปาก
     
    “ไม่ดีเลยนะครับเจ้านายเดี๋ยวคุณหนูเล็กก็ร้องไห้อีกหรอก” 
     
    “ยองแจตามหาพวกมันเจอหรือยัง”
     
    “ครับ จะให้จัดการแบบไหนดีครับ”
     
    “จัดการอย่าให้เหลือซาก” เมื่อสั่งเสร็จคนป่วยก็หลับตาลง ยองแจแปลกใจได้ไม่นานก็รู้ถึงสาเหตุว่าทำไมคนป่วยต้องหลับตาอีก
     
    “พี่ยองแจฮะเมื่อไหร่พี่ฮิมชานจะฟื้นล่ะฮะ”
     
    “อ่า... ไม่ทราบสิครับ อาจจะสักสองสามวันล่ะมั้งครับ” ถ้าเจ้านายอยากเลิกแกล้งคุณหนูเล็กน่ะนะครับ ยองแจแอบต่อท้ายในใจเงียบๆ
     
    คิมฮิมชาน .. ไม่ใช่คนไร้หัวใจ แต่ก็มีอารมณ์ขันอยู่นะ แม้ว่าจะไม่ค่อยเข้ากับสถานการณ์เท่าไหร่ก็ตาม
     
    กว่าที่คนป่วยจะเลิกแกล้งคุณหนูเล็กของบ้านได้ก็โน้นปาเข้าไปสามวัน ยองแจก็ไม่เข้าใจว่าการที่นอนนิ่งๆฟังคุณหนูเล็กของบ้านร้องไห้นี่มันสนุกตรงไหนแต่เจ้านายของตนดูท่าจะสนุกมากเสียด้วย
     
    ปลายมีดเล็กค่อยๆเฉือนเปลือกสีแดงของแอปเปิ้ลออกทีละน้อย แดฮยอนนั่งก้มหน้าง่วนอยู่กับแอปเปิ้ลในมือ ฮิมชานที่นั่งพิงหลังอยู่บนเตียงก็มองตามด้วยรอยยิ้มจางๆ
     
    “พี่อยากกินอะไรอีกไหมฮะเดี๋ยวผมจะไปซื้อมาให้” แดฮยอนเงยหน้าขึ้นมาหาคนป่วยที่นั่งจ้องอมาอยู่ก่อนแล้ว
     
    “ไม่” ตอบสั้นอีกตามเคย แดฮยอนก็ยิ้มแล้วก้มลงหั่นแอปเปิ้ลเป็นชิ้นๆ
     
    “กว่าที่พี่จะหายดี พวกผู้บริหารคนอื่นไม่หุบบริษัทพี่แล้วเหรอ” ว่าแล้วก็หัวเราะคิกคักอย่างสนุกสนาน ขอให้ได้จิกกัดบริษัทที่เป็นที่รักของพี่ชายหน่อยเถอะ แค่นี้แดฮยอนก็มีความสุขแล้ว
     
    “ไม่หรอก ใครจะกล้า” แล้วก็ตามด้วยเสียงทุ้มที่หัวเราะหึหึเบาๆ
     
    “พี่ฮิมชาน.....” แดฮยอนวางจานแอปเปิ้ลไว้ที่โต๊ะเยี่ยมไข้ข้างตัวก่อนที่จะหันหน้ามาหาฮิมชานที่เลิกคิ้วรอฟังคำถาม
     
    “พี่ลาพักร้อนสักเดือนหนึ่งได้ไหม ผมอยากอยู่กับพี่นะ... งานก็ให้พี่ยองแจทำก็ได้ งานเซ็นก็ให้พี่ยองแจขนมาบ้านก็ได้นะ .. นะครับ” ก็เจ้าลูกแมวน้อยในอาณัติร้องขอมาแบบนี้มีหรือที่คุณชายจะปฏิเสธ
     
    “ก็ได้” ฮิมชานหยิบรีโมทมากดเปิดทีวีก่อนที่จะมีข่าวฉายเรื่องที่แก๊งมาเฟียแก๊งหนึ่งโดนถล่มเผาราบจนไม่เหลือชิ้นดี “แดฮยอน... นายว่าพวกนั้นเป็นยังไง”
     
    “พวกไหนฮะ? มาเฟียเหรอ? ผมไม่ชอบพวกเขาดูน่ากลัว ทั้งฆ่ากัน ทั้งทำเรื่องไม่ดี ทำไมเหรอฮะ?”
     
    “ถ้าพี่เกิดเป็นมาเฟียขึ้นมาล่ะ” แดฮยอนเอียงคอก่อนที่จะหัวเราะคิกคัก
     
    “ผมไม่ชอบก็จริงแต่ถ้าพี่เป็นผมชอบก็ได้ เพราะไม่ว่ายังไงผมก็รักพี่” ฮิมชานไม่ตอบอะไรเพียงแค่มองใบหน้าของน้องชายนิ่งๆ ฮิมชานเอื้อมมมือไปลูบหัวเด็กน้อยที่นั่งยิ้มแป้นเบาๆ 
     
    “พี่จะกินแอปเปิ้ลเลยไหมฮะ?” คนป่วยส่ายหน้าก่อนที่จะตีบนพื้นเตียงเบาๆ
     
    “มานี่สิ” แดฮยอนขึ้นนั่งข้างเตียงโดยที่หันหน้าไปหาคนป่วย
     
    “เป็นห่วงมากไหม ร้องไห้ตาบวมเลยสินะ” ฝ่ามืออุ่นแนบแก้มใสไว้แล้วไล้ปลายนิ้วเกลี่ยแก้มนิ่ม
     
    “มากสิ ผมมีพี่ชายอยู่คนเดียวนิ ถ้าพี่เป็นอะไรขึ้นมาผมคง....” ถ้อยคำถูกปิดด้วยเรียวนิ้วชี้ของคนป่วย
     
    “พี่จะไม่เป็นอะไร จะไม่มีทางเป็นอะไรเด็ดขาด” แดฮยอนพยักหน้ารับสัญญาที่หนักแน่นและเด็ดเดี่ยวนั้น
     
    นัยน์ตาสีเข้มจ้องลึกเข้ากับนัยน์ตาโตของอีกคนก่อนที่จะค่อยๆเคลื่อนตัวช้าๆเข้าไปหา เปลือกตาบางค่อยๆปิดลงเมื่อใบหน้าของพี่ชายเริ่มเข้ามาใกล้จนสัมผัสถึงลมหายใจ กลีบปากที่ถูกสัมผัสกลับนุ่มและอุ่นละไม แม้ไม่รุกล้ำแต่ก็เร้าร้อนอยู่ในที บดเบียดเข้าหากัน แดฮยอนค่อยๆเลื่อนมือขึ้นไปกำเสื้อของคนป้อนรสหวานมาให้
     
    แต่แล้วบานประตูก็ถูกเปิดออก แดฮยอนสะดุ้งแล้วผละถอยออก ส่วนฮิมชานก็หันไปคาดโทษกับเลขาคนสนิทที่ทะเล่อทะล่าโผล่เข้ามาขัดจังหวะ ยองแจก้มหัวลงเพื่อขอโทษก่อนที่จะเดินเข้ามา
     
    “ขอประทานโทษครับที่ขัดจังหวะ” แดฮยอนที่แก้มแดงรีบลงจากเตียงแล้วลงไปยืนข้างเตียงด้วยท่าทีรุกรี้รุกรน
     
    “ผะ...ผมลงไปซื้อขนมนะฮะ!!” แล้วเจ้าลูกแมวก็วิ่งหนีออกจากห้องไปเลย ฮิมชานตวัดสายตามองลูกน้องคนสนิทเพื่อคาดโทษ และแน่นอนยองแจก็รับรู้ถึงชะตากรรม ที่นอนจ๋ายองแจลาก่อน~
     
    “อีกแล้วนะไอ้ยองแจ” ก็ได้แต่หัวเราะแหะๆส่งไป จริงๆก็ยืนฟังนานแล้วล่ะแต่ขอให้ได้เข้ามาขัดจังหวะเสียหน่อยเถอะ
     
    “เจ้านายไม่คิดที่จะบอกคุณหนูเล็กหรือครับว่าเราไม่ได้ทำงานบริษัทแต่เป็นมาเฟียน่ะ”
     
    “ต่อให้ตายฉันก็ไม่บอก...... ความลับนี้จะอยู่กับฉันไปจนตาย”
     
    “ทำไมล่ะครับ”
     
    “ฉันว่านายได้ยินนะยองแจ ต่อให้ตายฉันก็จะไม่บอกว่าฉันเป็นในสิ่งที่เขาเกลียด”
     
    “พี่ยองแจฮะ~ ผมลืมเอากระเป๋าเงินมายืมเงินหน่อยฮะ~~” อยู่ๆลูกแมวก็เปิดประตูแล้วค่อยๆโผล่หน้าเข้ามาพร้อมกับรอยยิ้มกว้างๆ รอยยิ้มแสนอบอุ่นที่เจิดจ้าดั่งดวงอาทิตย์
     
    ถ้าเพื่อให้แดฮยอนยังมีรอยยิ้มต่อไป ต่อให้ต้องโกหกไปตลอดชีวิต ฮิมชานก็ยอมทำ!
     
     
     
     
     
    Epilogue
     
    ปี 19xx
    ท่ามกลางฝนที่ตกกระหนำอย่างไม่ลืมหูลืมตานั้น คุณแม่บ้านวิ่งกางร่มกลับเข้ามาในบ้านด้วยสีหน้าตื่นตกใจ ก้าวถลาเข้ามาในห้องรับแขกที่ตอนนี้คุณผู้ชายกับคุณชายฮิมชานยืนจ้องหน้ากันที่คล้ายกับกำลังจะมีเรื่องกัน
     
    “คุณผู้ชายคะที่หน้าบ้านมีเด็กที่ไหนก็ไม่รู้มานั่งหลบฝนอยู่ เนื้อตัวมีแต่บาดแผลค่ะ” คุณแม่บ้านเอ่ยบอกด้วยเสียงละล่ำละลัก
     
    “ไปเอาเขาเข้ามา” ไม่ใช่เสียงของคุณผู้ชายแต่เป็นเสียงทุ้มต่ำของคุณหนูฮิมชาน คุณผู้ชายของบ้านสะบัดหน้ามองลูกชายคนเดียวที่ต่อต้านเขาเสียทุกอย่าง
     
    ไม่นานเด็กตัวเล็กผิวขาวซีด เนื้อตัวมอมแมมและมีรอยบาดแผลฟกช้ำก็ถูกพาเข้ามาในบ้าน เด็กตัวเล็กยืนก้มหน้าทำตัวลีบพยายามเบียดชิดคุณแม่บ้านเพื่อหลบซ่อนตัว
     
    ฮิมชานก้าวเท้าเข้าไปยืนตรงหน้าเด็กคนนั้นก็ถอยหนี ฝ่ามือใหญ่ถูกยื่นไปตรงหน้าของเด็กตัวเปียกปอน ดวงตากลมช้อนขึ้นมองใบหน้าของคนตรงหน้าที่ยื่นมือมาให้ เย็นชา เฉยชา แต่นัยน์ตาคู่นั้นกลับอบอุ่น เด็กตัวน้อยค่อยๆยื่นมืออกไปวางที่มือนั้นอย่างไม่รู้ตัว
     
    “ต่อจากนี้เขาจะเป็นของผม ถ้าคุณให้เขาอยู่กับผมไอ้ฐานะนั้นที่ผมไม่ต้องการผมจะเป็นให้”
     
    ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดฮิมชานถึงยอมรับเด็กคนนี้ และยอมรับสถานะดำรงตำแหน่งมาเฟียแทนบิดา ตำแหน่งที่ไม่อยากรับและไม่อยากได้ หรือจะเป็นเพราะดวงตากลมโตและรอยยิ้มที่ส่งมาให้กันนะ ถึงอยากที่จะปกป้องเด็กคนนี้ ถ้าฉันเป็นคนธรรมดาคงปกป้องนายไม่ได้หรอก
     
    “ชื่ออะไร” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยถาม
     
    “แดฮยอนฮะ”
     
    “ฉันชื่อฮิมชาน เรียกฉันว่าพี่ชาย”
     
     
    หลังจากที่แดฮยอนเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ความเย็นชาก็ค่อยๆหายไปทีละนิดด้วยความสดใสร่าเริงและเสียงหัวเราะของเด็กคนนี้ ไม่ว่าแดฮยอนจะอยู่ที่ไหนที่ข้างกายก็จะมีคุณชายฮิมชานเสมอ  คอยดูแลและตามใจจนผู้พบเห็นคิดว่าเด็กน้อยที่มาใหม่อาจจะต้องเสียคนและเสียนิสัย
     
    แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่เห็นว่าเด็กคนนี้จะเปลี่ยนไปตรงไหนซ้ำยังร่าเริงมากขึ้น หัวเราะและยิ้มมากขึ้นเสียอีก ซ้ำยังจะพาให้คุณผู้ชายและคุณชายยิ้มและพูดคุยกันมากขึ้น ความสดใสดั่งดวงอาทิตย์นี้ค่อยๆพัดพาเอาความเงียบเหงาและเย็นชาออกจากบ้านหลังนี้อย่างช้าๆ
     
    “พี่ชาย แดฮยอนอยากกินส้ม” เด็กตัวน้อยวิ่งเข้ามานั่งลงข้างๆแล้วกระตุกชายเสื้อร่างสูงพร้อมกับรอยยิ้มกว้างๆ
     
    “อื้อ รอแปบนะ” แล้วฮิมชานก็ลุกขึ้นเดินเข้าไปในตัวบ้านไปเอาส้มมาให้
     
    “ขอบคุณฮะ รักพี่ชายจังเลย~ ใครๆก็บอกว่าแดฮยอนเอาแต่ใจจนจะเสียคน จริงเหรอฮะ?” เด็กน้อยเอียงคอทำตาใส ฮิมชานยิ้มแล้วลูบหัวของอีกคนเบาๆ
     
    “ไม่นิ อยากได้อะไรก็บอกพี่ยินดีทำให้” 
     
    “แล้วพี่ชายอยากได้อะไรจากแดฮยอนไหมฮะ”
     
    “แค่รอยยิ้มแล้วก็หัวใจก็พอ” ไม่รู้ทำไมแต่แดฮยอนเขินมากนะ เขินจนจะมุดพื้นอยู่แล้วเนี่ย
     
    “แดฮยอนก็เป็นของพี่ชายอยู่แล้วนิฮะ” พูดเองก็เขินเอง
     
    หลังจากที่คุณผู้ชายไม่ค่อยกลับบ้าน บ้านหลังนี้จึงมีแค่คุณชายฮิมชานและคุณหนูเล็กแดฮยอนเท่านั้น วันที่แดฮยอนไปเรียนฮิมชานก็จะไปรับกลับแน่นอนล่ะคำถามประจำที่ได้ยินทุกวันก็คือ
     
    “วันนี้เป็นไงบ้าง” พอเล่าให้ฟังก็ทำหน้านิ่งเหมือนไม่สนใจฟังอย่างนั้นแหละ บางทีก็น้อยใจนะ
     
    “พี่ฮิมชาน! ทำไมไม่ฟังกันเลย!”
     
    “ก็ใครว่าไม่ฟังล่ะ”
     
    “งั้นบอกสิวันนี้แดฮยอนสอบกี่วิชา ได้คะแนนเท่าไหร่”
     
    “สอบไป 3วิชา คะแนนเต็ม50 ได้ 48 49 48คะแนน” แดฮยอนทำตาโต
     
    “แดฮยอนจะไปเข้าค่ายวันไหน”
     
    “อีก3วัน ไปมกโพค้าง3วัน2คืน” แดฮยอนได้แต่ทำตาปริบๆ ฮิมชานกระตุกยิ้มบางๆ
     
    “แกล้งกันนินา”
     
    “แต่ก็ยิ้มใช่ไหมล่ะ” แล้วแดฮยอนก็ยิ้มกว้างๆก่อนที่จะพยักหน้า
     
    “อื้อ!!” 
     
     
    ก๊อก... ก๊อก... บานประตูห้องนอนค่อยๆถูกเปิดออก ฮิมชานที่นั่งอยู่บนเตียงหันไปมองแล้วก็หันกลับมาดูทีวีต่อ ก็ตั้งแต่ที่เด็กน้อยเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ก็มักจะขอมานอนด้วยทุกคืน เพราะฝันร้าย ฝันถึงตอนที่ยังอยู่ที่อื่น ฝันถึงตอนที่โดนทำร้ายจากนรกขุมนั้น 
     
    เพราะแบบนี้ไงคนธรรมดาถึงปกป้องนายไม่ได้ พี่อยากให้นายเข้าใจนะแดฮยอน
     
    “นอนด้วยนะฮะพี่ชาย”
     
    “อืม” เมื่อได้รับคำอนุญาตแดฮยอนก็ปีนขึ้นเตียงมาลงนอนข้างๆทันที
     
    “พี่ชาย..”
     
    “อืม”
     
    “พี่ฮิมชาน..”
     
    “อืม”
     
    “พี่ฮะ”
     
    “อืม”
     
    “ไม่ว่าพี่จะเป็นอะไรผมก็จะอยู่กับพี่นะ” ฮิมชานหันหน้ามามองเด็กตัวเล็กที่เริ่มกลายร่างเป็นลูกแมวขึ้อ้อนกระแซะเข้ามานอนใกล้ๆ
     
    “อะไร? ได้ยินอะไรมา”
     
    “คุณแม่บ้านบอกว่าสักวันพี่ชายอาจจะต้องออกไปนอกบ้านเพื่อทำงาน แล้วแดฮยอนจะต้องอยู่บ้านคนเดียว พอถามว่างานอะไรคุณแม่บ้านก็บอกว่าเหมือนคุณผู้ชาย ..ว่าแต่มันงานอะไรเหรอฮะ?”
     
    “สักวันนายก็จะรู้เอง” ฮิมชานสั่งไม่ให้ใครบอกว่าตระกูลนี้ทำอาชีพอะไร แน่นอนก็เพื่อปกป้องรอยยิ้มและความสดใสนั้น ไม่มีใครรับได้หรอกกับการที่มีเพื่อนเป็นมาเฟีย ยกเว้นไอ้ยงกุกสักคนเพราะมันกับเขานี่เล่นกันมาตั้งแต่เด็กและแน่นอนมันก็ทำอาชีพเดียวกับเขานี่ล่ะ ถึงจะยังไม่เต็มตัวก็ตาม
     
    “เหรอฮะ? ช่างเถอะไม่ว่าพี่ชายจะเป็นอะไร จะทำอะไรแดฮยอนก็จะอยู่กับพี่ชายคนเดียว” ยิ้มกว้างจนตาหยี ฮิมชานโน้มตัวลงมาจุมพิตที่หน้าผากมนก่อนที่จะผละออก
     
    “นอนได้แล้ว”
     
    “ฝันดีฮะพี่ชาย” แล้วนัยน์ตากลมก็ถูกซ่อนด้วยเปลือกตาบาง
     
    ฮิมชานกดปิดทีวีแล้วล้มตัวลงนอนตะแคงข้างไปหาเด็กน้อยที่หลับตาพริ้ม ปลายนิ้วตามโครงหน้าของอีกคนก่อนที่จะไล้แก้มใสเบาๆ ริมฝีปากบางกดลงบนกลีบเนื้อสีแดงสดวางทาบไว้แบบนั้นก่อนที่จะผละออกแล้วกดจูบลงไปอีกครั้ง.. อีกครั้ง... และอีกครั้ง
     
    “ฝันดีนะ” ฝันถึงพี่ล่ะ แค่คนเดียวเท่านั้น นายเป็นของพี่คนเดียวเท่านั้น
     



    ไม่ว่าจะยังไงพี่จะปกป้องรอยยิ้มของนายไว้ จะไม่ยอมให้ใครพรากมันไปได้
     
    ไม่มีใคร
     
    และไม่มีวัน!!!
     
     
     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×