ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [B.A.P] SF/Fic HimDae - Two of Us

    ลำดับตอนที่ #6 : SF : HimDae - Secret Love

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 412
      3
      27 พ.ค. 56

    Title: Secret Love
    Author: 2R_Rainbow_esoR
    Rating: PG
    Note: ชอบเพลงนี้และคิดว่ามันเหมาะมากกับคู่นี้ค่ะ ความลับของเราสองคนที่บอกใครไม่ได้
     
     
    ::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::





    “อะไรกันวะเนี่ย” เสียงทุ้มต่ำของพี่ใหญ่สบถเสียงดังทำเอาเหล่าเมมเบอร์ที่กระจายตัวอยู่ตามที่ต่างๆหันมามองพี่ใหญ่ที่นั่งอยู่หน้าโน๊ตบุคที่โซฟากลางหอพัก
     
    “อะไรเหรอฮะ” เจ้ามักแนตัวโตรีบถลาเข้าไปนั่งคลอเคลียขาของลีดเดอร์ทันที แค่พี่ใหญ่ทำอะไรหรือสนใจอะไร เจลโล่ก็จะสนใจด้วย~ ทุกเรื่องต้องมีชเวจุนฮง!!
     
    “ก็ไอ้ข่าวพวกนี้น่ะสิ ก็ไม่เข้าใจนะว่าไอ้พวกคู่จิ้นนี่มันน่าขายได้ตรงไหน” งงไหม? ใครไม่งงแต่เจลโล่โคตรงงเลยขอบอก
     
    “อะไรคือคู่จิ้นฮะ” ยงกุกหันมามองเด็กน้อยที่ตัวไม่น้อยนั่งทำหน้าเอ๋อแล้วก็ยื่นมือมาลูบหัวเบาๆก่อนที่จะหันกลับไป
     
    “ก็พวกคู่ที่แฟนคลับเขาจับกันไง” เจลโล่ร้องอ๋อแล้วพยักหน้าเหมือนเข้าใจ แต่จริงๆแล้วก็ไม่เข้าใจหรอก
     
    “แล้วทำไมอ่ะพี่” ยองแจเดินเข้ามาพร้อมกับแก้วน้ำเย็นในมือ เปล่าไม่ได้ให้ลีดเดอร์แต่จะกินเอง ยงกุกหันมองก่อนที่จะหันหน้าจอโน้ตบุคให้ดู
     
    “เป็นโพลสำรวจคู่จิ้นที่น่าจิ้นที่สุด”
     
    “แล้วทำไมล่ะฮะ” ยงกุกหรี่ตามองน้องชายสุดรักก่อนที่จะขยี้หัวของน้องให้ยุ่งเข้าไปอีก
     
    “มันก็น่าแปลกน่ะสิ ทำไมถึงชอบกันขนาดนั้นนี่ถึงขนาดทำโพลสำรวจกันยิ่งใหญ่เลยนะ” น้องเล็กพยักหน้าอีกครั้งแต่ก็ไม่ได้เข้าใจหรอก 
     
    “ทำไมล่ะฮะ? ผมว่าก็ไม่แปลกนะความรักน่ะดีจะตาย ผมก็อยากมีนะ” แต่เอ็งหลงประเด็นหรือเปล่าจุนฮง
     
    “ไอ้เด็กบ้านี่! มันหมายถึงผู้ชายสองคนที่จับมาเป็นคู่กัน มันไม่ใช่ความรักแบบชายหญิง เข้าใจไหม?”
     
    “แล้วทำไมวะ?” ฮินชานที่ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายก็เดินออกมาจากห้องครัวพร้อมของกินเต็มสองมือ แน่ล่ะให้เจ้ามักแนไลน์นั่นแหละ
     
    “มันผิดธรรมชาติน่ะสิ ผู้ชายก็ต้องคู่ผู้หญิงสิวะจะให้มาคู่ผู้ชายได้ยังไง ขนลุกจะตาย” ยงกุกทิ้งหลังลงพิงพนักโซฟาอย่างแรง เจลโล่ได้ทีก็เขยิบเข้าไปนวดขาให้พี่ใหญ่ทันที ไม่ได้หรอกถ้าพี่ยงกุกอารมณ์เสียเมื่อไหร่ ทั้งหอพักคงลุกเป็นไฟ
     
    “แล้วเราล่ะก็ออกจะเลิฟๆกันไม่ใช่เหรอ เนี่ยติดโพลด้วยนะ บังชานเนี่ย” ฮิมชานทำท่าแอ๊บแบ๊วใส่พร้อมกับขยิบตาให้ ซึ่งคนอื่นๆน่ะขำแต่ไอ้คนโดนทำใส่น่ะไม่ขำไง
     
    “เดี๋ยวกูก็ถีบให้นี่ เพราะมึงแหละเล่นอยู่นั่นเป็นไงล่ะติดโพลอันดับ3เลยมึง ดีนะที่ไม่ใช่ที่1”
     
    “ทำไมวะ นี่ถามจริงๆ เป็นการเป็นงานเลยนะ ทำไมถึงไม่ชอบวะ” ฮิมชานเลิกคิ้วแล้วเดินไปนั่งที่โซฟาเดี่ยวอีกตัวและเผลอหันมองสายตาไปยังมุมห้องตรงข้ามที่มีร่างเล็กๆนั่งนิ่งกับหนังสือในมือ ใบหน้านั้นก้มลงก็เลยไม่เห็นว่าสีหน้าของคนนั้นเป็นเช่นไร
     
    “กูว่ามันตลกดีออกนะ” ละสายตาจากร่างนั้นมาหาเพื่อนที่นั่งทำหน้าบูดบ่งบอกว่ามันโคตรไม่สบอารมณ์ นี่ถ้าไอ้นัมเห็นโดนล้อตายห่าสิกู
     
    “ตลกอะไรล่ะ ผู้ชายกับผู้ชายนี่มันตลกหรอวะ?” ก่อนที่พี่รองทั้งสองคนจะได้ฟาดฝีปากกัน 1ในมักแนไลน์ก็เดินเข้าไปหาใครอีกคนที่นั่งก้มหน้านิ่งอยู่นานแล้ว
     
    “พี่เป็นอะไรหรือเปล่าฮะ” เอ่ยถามพร้อมกับมือที่แตะไหล่พี่ชายเบาๆ
     
    “อ๊ะ... เปล่าหรอก สงสัยจะอ่านหนังสือมากไปแฮะ” เอ่ยบอกด้วยรอยยิ้มบางๆซึ่งน้องเกือบเล็กก็ส่งรอยยิ้มคืน
     
    “ไปพักหน่อยไหมแดฮยอน ช่วงนี้โหมอ่านหนังสือสอบหนักไปนะ” เสียงแห่งความห่วงใยของลีดเดอร์ดังขึ้น แดฮยอนหันไปมองก่อนที่จะพยักหน้า
     
    “งั้นผมไปนอนก่อนนะฮะ” เมื่อพี่ใหญ่อนุญาตแดฮยอนก็ลุกขึ้นเดินเข้าห้องนอนไป 
     
    “ถึงเวลาข้าวเย็นแล้วเรียกด้วยนะจะไปนอนอ่านการ์ตูน” แล้วฮิมชานก็เดินตามเข้าไป  ทุกคนรู้ว่าถ้าแดฮยอนอ่านหนังสือจะต้องไม่เข้าไปก่อกวนใกล้ๆเด็ดขาด แต่ถ้าจะเข้าไปก็ต้องทำตัวเงียบๆเช่นฮิมชานถึงจะอยู่ร่วมที่เดียวกันได้ เพราะคนอื่นๆเคยโดยมาแล้วไงถึงไม่มีใครกล้าอยู่ใกล้เวลาเด็กหน้าแมวอ่านหนังสือสักที
     
     
     
    “แดฮยอน...” ฮิมชานปีนขึ้นเตียงไปนั่งข้างๆคนที่ยังคงนั่งก้มหน้าอ่านหนังสือ ฝ่ามืออุ่นลูบที่กลุ่มผมสีอ่อนเบาๆ
     
    “อย่าคิดมากเลย ไอ้ยงกุกมันก็พูดไปแบบนั้นล่ะ” แดฮยอนเงยหน้าจากหนังสือแล้วก็โผเข้ากอดใครอีกคน
     
    “นี่ลูกแมวน้อย.. คนที่นายควรสนใจน่ะคือใคร ไอ้ยงกุกหรือไง?” แดฮยอนละอ้อมกอดออกก่อนที่จะหัวเราะเบาๆแล้วใช้นิ้วจิ้มที่หน้าอกของคนทำหน้าดุ
     
    “พี่ฮิมชานครับ” คนที่ได้ยินชื่อตัวเองก็ยิ้มกริ่มแล้วลูบหัวลูกแมวอีกครั้ง
     
    “เพราะฉะนั้นอย่าคิดมากเลย มันจะคิดยังไงก็ช่างไม่เกี่ยวกับเราสักหน่อย” แดฮยอนพยักหน้ารับอีกครั้งแต่ก็อดที่จะกังวลไม่ได้ “แล้วนี่จะอ่านหนังสือหรือนอน หื้ม?”
     
    “นอนกอดกับพี่ดีกว่า” แล้วพี่รองก็ตะครุบลูกแมวในอ้อมแขนซะเลย
     
    “อย่าทำตัวน่ารักมากได้ไหม เดี๋ยวจะโดนดีนะ” เสียงทุ้มกระซิบข้างหู แดฮยอนย่นคอหนีพร้อมกับใช้สองมือดันอกของคนชอบแกล้ง แต่อ้อมแขนก็ยิ่งกอดรัดจนแดฮยอนล้มลงนอนกับพื้นเตียง
     
    “อย่านะพี่ฮิมชาน ปล่อยเลยนะผมจะนอน” เอ่ยบอกเสียงเบาก็กลัวว่าคนนอนห้องจะได้ยินน่ะสิ ฮิมชานยิ้มกริ่มแล้วก้มลงจุมพิตที่ปลายจมูกโด่งรั้นเบาๆ
     
    “ก็นอนสิครับ ใครห้ามล่ะเนอะ” ฮิมชานฝากรอยสัมผัสไว้ที่ซอกคอระหงส์ก่อนที่สองมือจะค่อยๆเลิกชายเสื้อขึ้น 
     
    “อื้อ... ไม่เอานะ เดี๋ยวใครก็ได้ยินหรอก” เอ่ยห้ามเสียงเบาหวิว ริมฝีปากบางได้รูปไล้สัมผัสได้ทั่วลำคอและใบหน้า
     
    “ก็อย่าร้องเสียงดังสิ” แดฮยอนทุบไหล่ของคนที่ยังสาละวนกับการเล็มชิมผิวกายตัวเองเบาๆ
     
    ความลับที่หอมหวานคล้ายดั่งยาพิษเมื่อมีผู้ใดล่วงรู้ 
    ความลับที่แสนหวานหอมแต่ก็แสนอันตรายหากมันหลุดรอดออกไป
    ความลับของคิมฮิมชานและจองแดฮยอน ... รักที่เป็นความลับต่อผู้อื่นใด 
    รักที่เป็นดั่งตราบาปที่แสนหอมหวน รักที่มีแต่สองเราเท่านั้นที่รับรู้
     
    เวลายามค่ำคืนที่เป็นของสองเรา มีเราสองคนเท่านั้นที่ล่วงรู้ เมื่อเวลาเป็นใจเราทั้งคู่จะออกมาพบกัน ในที่ที่เป็นความลับของเราสองคน
     
    เมื่อเวลาล่วงเลยเข้าวันใหม่แล้วแดฮยอนก็ค่อยๆลืมตาตื่นเพื่อมองว่าเหล่าสมาชิกคนอื่นๆน่ะหลับกันหมดหรือยัง เมื่อเห็นว่าทุกคนหลับกันหมดและใครอีกคนก็หายออกไปแล้วแดฮยอนก็ค่อยๆปีนลงจากเตียงชั้นสองของตัวเอง บานประตูห้องนอนถูกเปิดอย่างเบามือที่สุด
     
    กลิ่นหอมเย็นจากบุหรี่ลอยพัดเข้าในอวลในห้อง แดฮยอนก้าวเท้าไปยังระเบียงของห้องที่ถูกประตูกระจกไว้ แผ่นหลังกว้างเจ้าของกลิ่นเย็นนั้นยืนเท้ามือกับขอบระเบียงแหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้าสีดำมืด แม้จะบอกว่าไม่ให้คิดมากแต่คนที่คิดมากที่สุดก็คงไม่พ้นคนนี้
     
    “พี่ฮิมชาน ผมบอกแล้วนะว่าไม่ให้พี่สูบบุหรี่อีก” คนโดนเรียกหันกลับมาแล้วยิ้ม ปลายนิ้วยังคงคีบมวนนิโคตินนั้นอยู่ แสงแดงวาบจากปลายมวนเป็นสิ่งเดียวที่สว่างอยู่ในคืนเดือนมืดนี้
     
    “ก็นานๆทีน่า” ว่าแล้วก็ขยี้ปลายมวนนั้นลงกับที่เขี่ยบุหรี่ของยงกุกที่วางไว้ประจำตรงระเบียง
     
    “ไหนพี่บอกผมห้ามคิดมากไงแล้วพี่น่ะคิดทำไม” แดฮยอนกอดอกมองหน้าอีกคนอย่างคาดโทษ แดฮยอนไม่ชอบให้ฮิมชานสูบบุหรี่หรือดื่มเหล้าทั้งนั้นแหละ แต่ถ้าต้องสังสรรค์จริงๆสิ่งที่ไม่อยากให้ทำก็คือสูบบุหรี่นี่ล่ะ
     
    “ไม่ได้คิดสักหน่อย อย่ามามั่วนะลูกแมวน้อย” ฮิมชานวาดรอยยิ้มแล้วใช้ปลายนิ้วแตะไว้ที่ปลายจมูกรั้นของลูกแมวไว้ แดฮยอนปัดมือนั้นออกก่อนที่จะทำหน้ามุ่ยใส่
     
    “พี่คิดว่าผมไม่รู้จักพี่เหรอไง” ฮิมชานวาดแขนโอบลูกแมวเข้ามาชิดแล้วลูบแผ่นหลังบางเบาๆ
     
    “ก็ไม่ได้คิดมากขนาดนั้นแต่ก็แค่รู้สึกไม่ดีเท่านั้นเอง” แดฮยอนซุกหน้าเข้ากับอกของอีกคนแล้วก็หลับตาไว้ เรื่องที่กังวลใจกันอยู่นี้ก็ไม่พ้นเรื่องเดียวกัน เรื่องเดิมๆที่พาให้ต้องมายืนอยู่ตรงนี้ทุกคืน
     
    เรื่องที่เราสองคนรักกัน ..... เรื่องที่ไม่มีใครรู้ และไม่อยากให้ใครรับรู้
    จะพูดก็ไม่ได้ แต่จะปล่อยไว้แบบนี้ก็ไม่ได้
     
    “ไม่เป็นไรหรอกครับ” แดฮยอนค่อยๆผละตัวออกก่อนที่จะยิ้มกว้างจนตาเป็นขีดคล้ายเสี้ยวพระจันทร์ “ผมน่ะชินแล้วนะ”  ฮิมชานที่มองอยู่ก็รู้สึกเจ็บร้าวที่ใจ
     
    ทุกวันนี้ก็อยู่ห่างกันคล้ายคนโกรธกันมาสิบชาติ ไม่ค่อยได้พูดคุยกันแค่จะสัมผัสมือกันยังหาโอกาสแทบไม่มี แม้หัวใจจะอยู่ใกล้กันแต่ทว่ากายของเรานั้นช่างไกลกันเหลือเกิน
     
    “แต่...” 
     
    “ผมไม่เป็นไร แค่พี่ยังอยู่กับผมก็พอ อยู่ตรงนี้กับผมแค่นี้ก็พอแล้ว”
     
    ฝ่ามืออุ่นช้อนประคองแก้มนิ่มไว้ก่อนที่จะก้มหน้าลงสัมผัสกลีบปากอิ่มสีหวาน สัมผัสนุ่มที่บดเบียดเข้าหากันท่ามกลางคืนเดือนหนาว ความร้อนรุ่มที่ส่งผ่านซึ่งกันและกัน 
     
    สองมือเล็กค่อยๆยกขึ้นโอบรอบคอร่างสูงกว่าไว้เพื่อเป็นหลักค้ำ เรียวลิ้นที่พันกระหวัดกันบดเบียดไล่ต้อนลิ้นของอีกฝ่ายอย่างไม่ยอมแพ้ ฮิมชานละมือที่ประคองแก้มใสข้างหนึ่งค่อยๆลากมือสัมผัสผิวเนียนใต้อาภรณ์เนื้อบาง
     
    “อื้อ...” เสียงครางหวานสะท้อนก้องในราตรี ฮิมชานยิ่งเบียดกายและบดรสจูบให้ร้อนเร่ายิ่งขึ้น มือข้างที่ประคองแก้มค่อยๆเลื่อนไปที่ท้ายทอยสวยแล้วล็อคแหงนหน้าลูกแมวในอ้อมแขนให้เงยหน้าขึ้นอีก 
     
    มืออีกข้างที่สาละวนกับผิวเนื้อเนียนก็อ้อมไล้ไปยังบั้นเอวด้านหลังแล้วรั้งให้แนบชิดสนิท แสงไฟอ่อนๆตามอาคารสูงอาบไล้ร่างของทั้งคู่บางเบาคล้ายดั่งเทพนิยาย รสจูบหวานล้ำที่พาให้ล่องลอยคล้ายอยู่บนนภา
     
    รสจูบที่เร่าร้อนเคล้าไปด้วยกลิ่นเย็นจากรสบุหรี่ ไอหวานที่ลอยอวลโอบล้อมทั้งคู่เอาไว้ให้แนบชิด ความลับที่แสนหอมกำลังพาทั้งคู่ให้ลอยเคว้งอยู่บนนภากาศ ...... แต่ถ้าไม่ระวังก็อาจจะร่วงลงสู่พื้นดินก็เป็นได้
     
    เช้าที่สดใสและวันนี้ก็ยังคงเป็นวันหยุดของ B.A.P เหล่าสมาชิกทั้งหลายต่างก็ดำเนินกิจกรรมของตัวเองไป ฮิมชานอยู่ในครัว เจลโล่กับจงออบนั่งเล่นเกมอยู่ที่โต๊ะทานข้าว ยงกุกนั่งเล่นโน๊ตบุคที่โซฟาหน้าทีวี ยองแจยืนคุยโทรศัพท์อยู่ที่ระเบียง และแดฮยอนนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่เก้าอี้ตัวเดิมมุมห้อง
     
    “เฮ้ย!!!!” เสียงของยงกุกดังขึ้น ทุกคนก็สะดุ้งตกใจยกเว้นน้องเล็กที่กระโดดโผเข้าไปนั่งคลอเคลียที่ขาแล้วชะโงกหน้าดูหน้าจอโน๊ตบุคด้วย ทุกเรื่องต้องมีชเวจุนฮงนะจะบอกให้!
     
    “อะไรอีกวะ ตกใจหมดข้าวจะได้กินกันไหมเนี่ย” ฮิมชานเดินออกมาพร้อมกับตะหลิวในมือ พี่รองที่สวมผ้ากันเปื้อนยืนเท้าเอวทำหน้าคิ้วขมวดใส่ ยงกุกหันมายกมือขอโทษขอโพย
     
    “นั่นอะไรฮะพี่” เจลโล่ยื่นหน้าเข้าไปดูแต่ยงกุกผลักหน้าน้องออกก่อนที่จะพับหน้าจอลง
     
    “อะไรน่ะพี่ ฟิคชั่นเหรอ?” เจลโล่หันหน้าไปมองพี่ยองแจทันที 
     
    “อะไรคือฟิคชั่นฮะ” ยงกุกลูบหัวน้องเล็กเบาๆ
     
    “มันเป็นเหมือนนิยายนั่นล่ะแต่ว่าเอาเรื่องราวของพวกเราๆเนี่ยไปเขียน” เจลโล่ทำตาโต
     
    “ก็ดีสิฮะ ดังออก” 
     
    “มันเป็นเรื่องของความรักที่เอาเราๆเนี่ยไปเขียนเป็นตัวละครในฟิคชั่น ก็จะสมมติเหตุการณ์ต่างๆขึ้นมา” ยองแจอธิบายเพิ่มเติม เจลโล่พยักหน้าเหมือนจะเข้าใจนะ
     
    “แล้วพี่เจอคู่ไหนล่ะ” ยองแจขยับมานั่งด้วยก่อนที่จะจับโน๊ตบุคมาเปิด
     
    “ห๊ะ??????” เสียงของยองแจก็ทำเอาทุกคนสนใจอีกครั้ง ฮิมชานถึงกับยอมปิดไฟเตาแก๊สแล้วเดินออกมารวมกลุ่มอีกรอบ
     
    “ร้องอะไรของนายวะเนี่ย” ฮิมชานเท้าเอวอีกรอบ ตอนนี้แดฮยอนก็เงยหน้าจากหนังสือขึ้นมาสนใจแล้ว
     
    “มันมีคู่นี้จริงดิ” ยองแจหันมองหน้าทุกคนก่อนที่จะมาจบที่ยงกุกที่ยักไหล่ เจลโล่ทนอาการสงสัยมากๆไม่ไหวก็คว้าโน๊ตบุคมาดูบ้าง
     
    “อิมแด? อะไรคือฮิมแดฮะ? วงเราไม่มีคนชื่อฮิมแดนิ มีแต่พี่ฮิมชานกับพี่แดฮยอน” 
     
    “ก็นั่นล่ะฮิมแด” หนังสือในมือแดฮยอนร่วงลงพื้น ทุกสายตาหันไปจับจ้อง ลูกแมวน้อยสะดุ้งก่อนที่จะก้มลงเก็บหนังสือขึ้นมา
     
    “ดูท่าว่าพวกเรานี่จะขายอะไรแบบนี้ได้นะ มันต้องเริ่มมาจากแกแน่ๆไอ้เหยิน ชอบสกินชิพดีนัก” ยงกุกหันไปคาดโทษใส่ฮิมชาน
     
    “อ้าวไอ้เหงือกนี่ ไม่ดีเหรอไงแกลองคิดดิถ้าพวกเขาชอบใช่ไหมล่ะ เขาก็ต้องมาตามว่าพวกเราเป็นใคร มาดูประวัติ มาฟังเพลงพวกเราแล้วก็ บูม! กลายเป็นเบบี้ของเราซะเลย” ฮิมชานยักคิ้วใส่เพื่อนที่ดูว่าหัวสมองคงจะคิดอะไรแบบนี้ไมได้ ยงกุกเลิกคิ้วขึ้นแล้วก็พยักหน้า
     
    “อืม ก็ดีว่าแต่นายสองคนไม่ถูกกันไม่ใช่เหรอวะ?” ยงกุกชี้นิ้วไปที่ฮิมชานและแดฮยอน ทั้งสองมองหน้ากันก่อนที่จะหันมองหน้าของลีดเดอร์ที่มองจ้องมา ภายนอกใครๆก็มองว่าทั้งสองไม่ถูก ไม่ค่อยคุยกัน ไม่ค่อยอยู่ใกล้กัน อยู่ใกล้กันทีไรไม่ใครก็จะพูดจิกกัดอีกฝ่ายก่อนตลอด
     
    “ก็เปล่านิฮะ ผมออกจะเฉยๆ” แดฮยอนยักไหล่แล้วเปิดหนังสือออกอ่านอีกครั้ง สมทบด้วยการยกขาขึ้นไขว้ห้าง ฮิมชานเท้าเอวแล้วสะบัดหน้าหนี
     
    “เออ ฉันก็ไม่ได้อะไรสักหน่อย แกก็คิดมากไปว่ะ” ยงกุกเองก็มองว่าทั้งสองคงไม่ชอบกันจริงๆนั่นแหละแต่ก็ไม่อยากให้ทำหัวหน้าวงไม่สบายใจ เจลโล่เองก็พยักหน้าสนับสนุนเพราะเจ้าตัวโตก็คิดว่าพี่ทั้งสองไม่ถูกกันแน่ๆ
     
    “แต่เจลโล่ว่าพี่แดฮยอนต้องไม่ชอบพี่ฮิมชานแน่ๆเลย  เจลโล่เคยได้ยินพี่แดฮยอนบอกว่าพี่ฮิมชานน่ะประสาทด้วย” ยงกุกหัวเราะดังลั่น เออที่น้องแมวเหมียวพูดมามันก็ถูกนะ คิมฮิมชานแม่งโคตรประสาทเลยให้ตายสิ ฮ่าๆๆ
     
    “อย่ามามั่วน่า ใครว่าอะไร ไม่มี๊~~” แดฮยอนเงยหน้ามองฮิมชานแล้วก็ยักไหล่ใส่ ฮิมชานเองก็สาวเท้าเข้ามาหาแล้วเกี่ยวคอน้องมาสำเร็จโทษโดยการดึงแก้มให้ยืดเสียเลย
     
    “กล้าว่าพี่เหรอ ฉันเป็นพี่นายนะจองแดฮยอน!”
     
    “โอ๊ยพี่ผมเจ็บ อ๊าก... ปล่อยผม~~” แล้วทุกคนก็หัวเราะกับเสียงโหยหวนของเมนวอยซ์คนนี้ การที่จะหาเรื่องเข้าใกล้กันนั้นไม่ง่ายเลยจริงๆ ต้องพยายามปกปิดความรู้สึกเอาไว้มิเช่นนั้นความลับนี้คงแตกสลาย 
     
    ถ้าความลับไม่เป็นความลับอีกต่อไป ความรักก็คงจะสลายไปด้วย
    การเปลี่ยนใจคนนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ... เหมือนกับการที่จะเปลี่ยนความคิดของบังยงกุก
    คนที่หูตาไวอย่างกับสัปปะรด 
     
    วันนี้เหล่าสมาชิกมีงานขึ้นโชว์ที่รายการของช่อง KBS แน่ล่ะ ฮิมชานคว้ามือของแดฮยอนแล้วลากเข้าห้องแต่งตัวไป ไม่มีใครเห็นและไม่มีใครรู้ วันนี้ฮิมชานกับแดฮยอนออกมาจากหอก่อนที่จะมาที่สถานี แล้วสมาชิกคนอื่นๆจะตามมาทีหลัง
     
    เมื่อบานประตูปิดลงพี่รองก็คว้าตัวลูกแมวน้อยมาป้อนจูบให้ทันที จูบหวานที่ร้อนเร่าถูกป้อนซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างโหยหา แดฮยอนไม่อยู่หอสามวันเพราะไปติวหนังสือที่หอเพื่อน และเป็นสามวันที่ฮิมชานไม่ได้ไปยืนกอดคลายไอหนาวให้ลูกแมวน้อยที่ริมระเบียงเลย
     
    “อื้อ... เดี๋ยวฮะ” แดฮยอนผลักอกของคนตัวสูงกว่าออก ลูกแมวหอบหายใจเอาอากาศเข้าปอด “อะไรของพี่น่ะ ผมหายใจไม่ทันนะ”
     
    “ก็พี่คิดถึงนายนี่นา” ฮิมชานไล้หลังมือกับข้างขมับของคนในอ้อมแขนเบาๆ เรียวปากได้รูปวาดรอยยิ้ม “ลูกแมวน้อยของพี่” ว่าแล้วก็ยื่นหน้าเข้าไปฝากรอยจุมพิตไว้ที่หน้าผากกลมเสียงหนึ่งทีอย่างคิดถึง
     
    “คิดถึงอะไรกัน พี่โทรหาผมแทบจะทุกชั่วโมงถ้าผมสอบไม่ผ่านนะพี่จะโดนดีแน่ๆ” แดฮยอนชี้นิ้วใส่อีกคนแล้วทำหน้า(เหมือนจะ)น่ากลัวใส่ ซึ่งอีกคนก็ทำท่ากลัวเสียเหลือเกิน
     
    “จะยอมรับผิดแต่โดยดีเลยครับ” ฮิมชานรวบนิ้วนั้นเข้ามากุมแล้วยิ้มกว้าง ก้าวเท้าเข้าชิดกายเล็กที่ยังคงกรุ่นหอมติดปลายจมูก “ทีนี้หายใจทันหรือยังครับ” แดฮยอนกัดปากแล้วทุบอกอีกคนสักหนึ่งทีก่อนที่จะพยักหน้ารับ
     
    ปลายจมูกไล้สัมผัสกันเบาๆก่อนที่กลีบปากอิ่มจะถูกครอบครองอีกครั้ง ไล้บดเบียดเข้าหากันอย่างโหยหา สองมือน้อยกำเสื้อของคนเป็นพี่ไว้ ฝ่ามือใหญ่ประครองแก้มใสและล็อคเอวเล็กให้แนบชิด ทุกส่วนแนบชิดติดกันเสียจนอากาศยังลอดผ่านไม่ได้
     
    ปลายลิ้นหยกล้อกันก่อนที่จะไล่ต้อนพันเกี่ยวกัน ลูกแมวน้อยละลิ้นหลีกหนี คนโตกว่าก็ยิ่งรุกตามแล้วเรียวลิ้นอุ่นก็ยอมเกี่ยวพันอย่างโดยดี ฮิมชานค่อยๆลืมตาขึ้นมองใบหน้าที่หลับพริ้มของลูกแมวในอ้อมรัก 
     
    ดวงตากลมโตที่ปิดสนิทซ่อนอยู่หลังเปลือกตาบาง สันจมูกโด่งและปลายจมูกเชิด แก้มกลมๆที่สัมผัสเมื่อก็นิ่มมือ กลีบปากอิ่มสีสดที่กำลังลิ้มรสอยู่นี้ ถ้าถามว่าทำไมถึงได้รักคนๆนี้ ฮิมชานหาคำตอบไม่ได้ 
     
    ฮิมชานไม่รู้หรอกว่าความรักคืออะไร มีความหมายว่าอย่างไร แต่ความรักสำหรับฮิมชานคือ จองแดฮยอน ...เพียงผู้คนเดียว
     
    ทุกสิ่งทุกอย่างที่สรรสร้างเป็นคนตรงหน้า แรกเจอที่พบเห็นรอยยิ้มและดวงตากลมใสนั้นก็ทำให้หัวใจของคนมองสั่นไหวเสียแล้ว คิมฮิมชานไม่ใช่พวกรักเพศเดียวกัน เขาชอบผู้หญิงสาวใครๆก็รู้ แต่ไม่รู้ว่าทำไมครั้งแรกที่เจอแดฮยอนที่ห้องซ้อม หัวใจของเขาถึงเต้นถี่รัวและบอกว่าคนนี้แหละที่ใช่สำหรับเขา
     
    จองแดฮยอนเป็นผู้ชายที่ห่างไกลคำว่าผู้หญิงไปไกลโข กว่าที่จะมากรักกันได้ก็ทะเลาะกับน้องจนต่อยกันไปหลายรอบ แต่พอได้น้องมายืนข้างกายกลับพบว่าลูกแมวน้อยตัวนี้ขี้อ้อนและน่ารักมากเพียงใด รักมากจนไม่ยอมเสียไป 
     
    แม้ว่าความรักครั้งนี้ต่อให้ต้องเก็บเป็นความลับไปจนตายเขาก็จะทำ ถ้าแลกกับการที่จะไม่ต้องเสียคนในอ้อมแขนไป
     
    ฮิมชานรั้งอีกคนให้เข้ามาชิดใกล้แล้วสัมผัสให้มากยิ่งขึ้น ให้สมกับความห่วงหาที่คะนึงถึง กลีบปากอิ่มแสนฉ่ำหวานล้ำสำหรับเขาจริงๆ กลิ่นกายหอมและผิวแก้มนิ่ม ฮิมชานแทบคลั่งตายทุกครั้งที่ได้สัมผัสคนนี้
     
    เสียงพูดคุยกับเสียงย่ำเท้าดังเข้ามาใกล้ห้องพัก เสียงหัวเราะและเสียงพูดคุยที่จำได้ว่าเป็นของใคร เสียงนั้นใกล้มากคล้ายกับอยู่เพียงหลังประตูกั้น บานประตูถูกเปิดออกไม่เบานักด้วยฝีมือของลีดเดอร์ คิ้วเข้มๆเลิกขึ้นมองอีกสองคนกลางห้อง
     
    “มากันแล้วเหรอ? นี่เลือกชุดเสร็จหรือยัง” ยงกุกยิ้มแล้วมองฮิมชานกับแดฮยอนที่ยืนอยู่กลางห้องตรงโต๊ะที่วางเสื้อผ้าและเครื่องประดับไว้ ทั้งสองยืนอยู่กันคนละฝาก ฮิมชานกำลังเลือกเสื้อผ้าและแดฮยอนกำลังเลือกเครื่องประดับ
     
    “ยังเลยฮะ ผมกำลังเลือกอยู่ว่าจะใส่แหวนหรือสร้อยดี” แดฮยอนชูของสองสิ่งในมือขึ้น
     
    “เจลโล่ชอบสร้อย!!” เจ้าน้องเล็กยิ้มกว้างแล้วยกมือขึ้นสูง ยงกุกก็พยักหน้าเห็นด้วย
     
    “ฉันก็ชอบสร้อยนะ” ยองแจเสนอบ้าง
     
    “แต่ผมชอบแหวนอ่ะ ใส่เต้นแล้วไม่เกะกะดี” จงออบเสนอบ้างด้วยหน้ามึนๆ
     
    “พี่ใส่ไม่ใช่นาย งั้นนายเอาแหวนไปเลยออบบี้!!” แดฮยอนหัวเราะร่าแล้วยัดแหวนใส่มือน้องไป ยงกุกขมวดคิ้วแล้วเชยปลายคางน้องแมวให้หันมาหา ดวงตากลมวาวใสคล้ายสงสัยว่าเหตุใดพี่ใหญ่ถึงมาเชยหน้าตัวเอง
     
    “ทำไมปากบวมล่ะ?” แดฮยอนกระพริบตาปริบๆและทุกสายตาก็เพ่งมาที่แดฮยอน จะมีก็แต่ฮิมชานที่เลือกเสื้อผ้าแล้วเดินเข้ามาใกล้ๆ
     
    “นี่ของนาย ทำไมมีแต่นายวะที่ได้ใส่อะไรดูดีเนี่ย” ยงกุกไม่ได้สนใจชุดที่เพื่อนยื่นให้แต่ยังคงจ้องสบตากับเด็กน้อยอยู่ 
     
    “อ๋อ เจลโล่รู้!! พี่แดฮยอนต้องแอบกินมันบดมาแน่ๆ พอกินเยอะๆพี่แดฮยอนก็จะปากบวมทุกที” เจลโล่นี่บางทีก็ชอบก่อปัญหา แต่บางทีก็ช่วยชีวิตได้เหมือนกันนะ
     
    “ใครบอกให้นายกินเยอะก่อนขึ้นโชว์ หื้ม?” ยงกุกดีดหน้าผากลูกแมวไปหนึ่งที เจ้าตัวหยีตา ทำปากบู้ลูบหน้าผากตัวเองปอยๆ
     
    “ก็ผมหิวอ่ะรีบด้วยก็เลยรีบกินก่อนออกมาจากบ้านเพื่อน” ยงกุกยิ้มแล้วขยี้หัวน้องเบาๆ “วันหลังก็โทรบอกพี่จะไปรับแล้วจะเอาข้าวไปให้กิน โอเค?” เจ้าตัวดีรับเสียงใส ฮิมชานยิ้มบางๆ ถึงลุคของหัวหน้าวงจะดูแบดบอยแต่ยงกุกก็รักและดูแลน้องๆทุกคนได้ดีมาก 
     
    ฮิมชานที่รู้สึกตัวเหมือนกำลังโดนมองก็หันไปตามสายตานั้น ดวงตาเรียวสบเข้ากับใครบางคนที่ไม่น่าจะรู้สึกหรือรับรู้ถึงความผิดปกตินี้เลย ดวงตาที่มองสบมาดูก็รู้ว่าใครคนนั้นคล้ายกับมีอะไรอยู่ข้างใน 
     
    ...มุนจงออบ...
     
    อย่านะ อย่าเพิ่งรู้ความลับนี้เลยนะ ขอร้องล่ะ ต่อให้ถึงตายเขาก็จะไม่มีวันยอมเสียแดฮยอนไป ไม่มีวัน!!
     
    “พี่ฮิมชานครับ” จงออบชี้นิ้วมาที่พี่รอง “นั่นชุดผม” ฮิมชานก้มลงมองชุดที่มีป้ายแปะไว้ว่า ‘มุนจงออบบี้’ 
     
    “อ้าว...” ได้แค่นั้นจริงๆ เพราะเมื่อกี้รีบเข้ามาเบนความสนใจลีดเดอร์หรอกเลยไม่ได้ดูว่าคว้าชุดใครมา
     
    “แก่แล้วก็แบบนี้ล่ะฮะ ความจำไม่ดีเนอะพี่ยงกุก” แดฮยอนเกาะแขนของลีดเดอร์แล้วหัวเราะเสียใส พร้อมกับดึงเจลโล่มาเป็นเกาะกำบังอีกชั้น
     
    “ฉันเป็นพี่นายนะจองแดฮยอน เดี๋ยวนี้หัดว่าฉันเหรอห๊ะ!!” ฮิมชานทำหน้าไม่สบอารมณ์ แดฮยอนเพียงแค่ไหวไหล่เบาๆ
     
    “ไม่ได้หัดครับ ผมตั้งใจเรียนรู้มาเลยนะ” แน่ะ ลูกแมวน้อยยังลอยหน้าลอยตา ฮิมชานก็ถลาเข้ามาหมายจะจับลูกแมวมาลงโทษแต่แดฮยอนก็ดึงน้องเล็กให้เป็นเกราะกำบัง
     
    “เอาน่า อย่าไปแกล้งน้องมันเลยน่า” ยงกุกลากคอเพื่อนไปอีกทาง แดฮยอนกับเจลโล่ก็หัวเราะกันคิกคัก สนุกที่แกลงพี่รองได้ ฮิมชานที่ยืนคุยกับยงกุกไกลออกมาก็วาดรอยยิ้มบางกับเสียงหัวเราะใสๆนั้น
     
    ถ้าเพื่อปกป้องเสียงหัวเราะใสๆของลูกแมวตัวนี้ ต่อให้ต้องสู้รบกับคนทั้งโลก คิมฮิมชานก็จะทำ!!
     
    หลังจากการอัดการแสดงเสร็จแล้วทุกคนก็เดินกลับเข้ามายังห้องพักเพื่อนั่งพักและเปลี่ยนเสื้อ การแสดงเมื่อครู่ต้องขึ้นแสดงเพลง Secret Love ด้วย เพลงที่พูดถึงความรักของคนสองคนที่เป็นความลับ ความลับที่บอกใครไม่ได้และไม่อาจให้ใครล่วงรู้มัน เพลงในอัลบั้มที่ลีดเดอร์เป็นคนแต่งยามฝนตกพร่ำๆ แต่ช่างโดนใจพี่รองเสียเหลือเกิน
     
    คงไม่มีใครรู้ว่าเพลงนี้แทบจะเป็นเพลงที่ตัวเขาร้องด้วยความอินที่สุดเท่าที่เคยร้องมาแล้วทุกเพลง เพลงที่ความหมายตรงกับชีวิตรักของตัวเองเสียเหลือเกิน รักที่เป็นความลับ ของคิมฮิมชานและจองแดฮยอน
     
    ในช่วงระหว่างเพลงนั้นช่วงกลาเพลงไปแล้วเขาจะต้องสลับฝั่งกับจงออบเพื่อไปอยู่เคียงข้างแดฮยอน ถ้าไม่ใช่ว่ามีสายตาของคนอื่นอยู่ล่ะก็เจาอยากที่จะจับมือ โอบไหล่เมนวอยซ์เสียงหวานเสียเหลือเกินแต่ก็ทำไม่ได้ มีบางครั้งที่เราแอบสบสายตากันแต่ก็กลัวว่าใครจะล่วงรู้ และบางครั้งที่เราแอบสัมผัสมือกันแผ่วเบา ด้วยท่าทีที่เฉยชาของเราสองคนแต่เราก็รับรู้ถึงความหมายที่สื่อถึงกันได้

     
     
    ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ ว่าผมรักคุณ ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ ว่าผมคิดถึงคุณ
    มันเป็นความรักที่มีเพียงคุณและผมเท่านั้นที่ล่วงรู้
    วันทั้งวันที่ผมคิดถึงคุณ วันทั้งวันที่ผมรักคุณ
    แม้ว่าจะถูกจองจำในคุกก็ไม่เป็นไร ขอแค่มีคุณ แค่มีคุณก็ทำให้ผมมีชีวิตอยู่ต่อได้แล้ว
     
    ยังไงผมก็ยังรักแค่คุณ ยังไงผมก็ยังคิดถึงแค่คุณคนเดียว
    ความรักของคุณและผมมันจะไม่มีทางเปลี่ยนผัน
    ผมรักคุณมากกว่าตัวของผมเอง ผมคิดถึงคุณมากกว่าที่ผมคิดถึงตัวเองเสียอีก
    ไม่มีใครอยากรับรู้ ขอแค่มีคุณเพียงคนเดียว แค่นี้ชีวิตของผมก็สามารถอยู่ต่อไปได้แล้ว
     
    ...มันจะสำคัญอะไรกันนักเชียว ในเมื่อผมก็อยู่ข้างๆคุณ
    และเวลาที่เราอยู่ด้วยกันนั้น ก็ช่างเป็นช่วงเวลาที่แสนมีค่าของเราสอง...

    [บางส่วนจากเพลง Secret Love อยากอ่านทั้งหมดก็เข้าลิงค์ด้านล่างนะคะ]
     
     


    “แดฮยอน” พี่รองที่คว้าขวดน้ำส้มได้ก็เดินเข้าไปหาลูกแมวน้อยที่กำลังยืนถอดเครื่องประดับอยู่ที่หน้ากระจก
     
    “ครับ” แดฮยอนหันหลับกลับมาก็เจอเข้ากับพี่รองที่ยื่นขวดน้ำส้มมาให้ รอยยิ้มที่ส่งมาให้ช่างอ่อนโยนและอบอุ่นนัก
     
    “เอ้าดื่มซะ นอนดึกไม่ใช่เหรอเราน่ะตาคล้ำหมดแล้ว” แดฮยอนยิ้มแล้วรับขวดน้ำส้มที่เปิดฝามาแล้วมาดื่ม
     
    “ขอบคุณครับ” ฮิมชานยืนบังแดฮยอนไว้ทุกคนเลยไม่เห็นว่าทั้งสองส่งยิ้มให้กันแฝงความหมายและถ้อยคำบางคำอยู่ในนั้น
     
    “แล้วน้ำกูล่ะไอ้ฮิม” ฮิมชานหันไปแล้วยักคิ้วให้สองจึ๊ก
     
    “หาแดกเองครับคุณลีดเดอร์”
     
    “ใช่สิ กูไม่ใช่น้องของมึงนิ” แล้วเจ้าตัวก็ทำปากยื่นปากยาว ฮิมชานเลยได้ทีพุ่งเข้าไปจัดการล็อคคอตุ้ยท้องเพื่อนซะเลย สองพี่ใหญ่ก็เล่นกันเองโดยที่มีน้องคนอื่นๆมองตามแล้วหัวเราะไปตามเรื่องตามราว แดฮยอนยิ้มเมื่อฮิมชานหันมามองก่อนที่จะแสร้งหันหน้าหนีกันไปคนละทาง ทำว่าเมื่อครู่ไม่ได้แอบมองกัน โดยที่ไม่รอดสายตาของใครบางคนไปได้
     


    ความลับมันจะมีในโลกจริงหรือ??



     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×