ตากลมทอดมองด้วยสายตาที่ล่องลอย มองจับจ้องไปพื้นสนามหญ้าของสวนสาธารณะทั้งที่จิตใจกลับคิดนู่นคิดนี่อยู่ในใจเพียงคนเดียว ด้วยเวลานี้เป็นเวลาโพล้เพล้แดดจึงไม่ค่อยเปรี้ยงจนต้องแสบผิวเนื้อเสียเท่าไหร่ แต่ก็พอจะมีแดดส่องลอดพ้นกลุ่มไม้พอให้โดนผิวเนื้อขาว ด้วยความที่ไม่สนใจรอบข้างเท่าไหร่นักไม่แม้แต่จะสนใจกลุ่มคนที่เข้ามาออกกำลังกายในช่วงเย็น ร่างขาวจึงนั่งอยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหน
“ยูชอน”
เสียงทุ้มเข้มเอ่ยขึ้นทำให้เจ้าของชื่อหันมามองร่างสูงใหญ่กำยำ ตรงหน้า กล้ามเนื้อที่ไม่ใหญ่โตเกินไปเรียกได้ว่าสวยงามตามประสาคนที่ออกกำลังกายอย่างเป็นประจำ อยู่ในชุดเสื้อกับกางเกงบอลขาสั้นมีเหงื่อชุ่มตรงบริเวณกลางอกลามไปถึงปีกหลังกว้าง ทำให้ยูชอนหลุดจากอาการเหม่อลอยลุกขึ้นหยิบขวดน้ำข้างตัวยื่นให้
เขามองใบหน้าหวานชั่วครู่ ลำแขนหนาผิวแทนเอื้อมมือหยิบขวด กระดกน้ำให้หายอาการกระหายสองสามอึกก่อนจะเก็กสีหน้าครึมเช่นเดิม
“นั่งตากแดดทำไม”เสียงทุ้มห้าวเอ่ยขึ้นมองใบหน้าขาวหาคำตอบ
“ผมไม่ค่อยร้อนน่ะ ครับ”ยูชอนยิ้มอ่อน มือบางปัดผมสีน้ำตาลที่ปรกมาอยู่บริเวณใบหน้าขึ้นทัดหูช้อนตามองใบหน้าคมคายที่คิ้วยังขมวดมุ่นไม่หายกับคำตอบที่ไม่ตรงกับคำถาม ยุนโฮถอนหายใจทิ้งก่อนจะสอดประสานมืออุ่นหนาเข้ากับมือบางจูงร่างของยูชอนที่ต้านตัวน้อยๆให้เดินตามเขามา
ยุชอนก้มหน้าก้มตา มองพื้นหญ้าสีเขียวชอุ่ม ก่อนจะเงยหน้าแอบลอบมองเสี้ยวหน้าคมเข้มของคนด้านข้าง เหงื่อที่ไหลลงมาจากไรผมจนไล้ลงมาถึงปลายคางยิ่งทำให้ ใบหน้าหล่อเหลาดูจริงจังมากขึ้นสีหน้าที่บ่งบอกถึงความไม่พอใจยังไม่จางหาย ปรากฏบนบริเวณคิ้วหนาเรียวเข้ม
“เมื่อกี้ได้ดูฉันเล่นรึเปล่า”เสียงทุ้มเอ่ย กระตุกให้ยูชอนพูดอะไรไม่ถูกได้แต่นิ่งเงียบ
“มัวแต่เหม่ออีกหละสิท่า”เมื่อเขาเห็นว่ายูชอนนิ่งเงียบ ก็คงเป็นไปตามคาด...ไม่ได้ดู
.
.
.
“ยุนโฮ โกรธผมรึเปล่า”
ยุชอนเอ่ยเสียงเบา เมื่อเห็นว่ายุนโฮนิ่งเงียบลงไป ตากลมมองใบหน้ายุนโฮก่อนก้มลงไปมองพื้นเช่นเดิม เมื่อยุนโฮนิ่งซะยิ่งกว่าตอนแรกที่เดินออกแรงจูงเขามา ขาเรียวยาวก้าวตามแรงจูงของชายร่างสูงที่ยูชอนไม่อาจรู้ว่าจะพาตนไปทางไหน
“เปล่า”เสียงทุ้มพูดนิ่งกับหน้าตาที่ไม่บ่งบอกอารมณ์ใดๆทำให้ยูชอนรู้ว่ายุนโฮกำลังพูดตรงข้ามกับความจริงที่เขาเป็นในตอนนี้ ยูชอนกัดริมฝีปาก เขาเงียบลงเพื่อไม่ให้ยุนโฮอารมณ์เสียไปมากกว่านี้
ร่างสูงหยุดเดินลงตรงกลุ่มเพื่อนที่นั่งตามอัศจรรย์แต่ละคนต่างใส่เสื้อกล้ามกับกางเกงบอล ดื่มน้ำแก้กระหายหรือบางคนถึงกับนอนแผ่อย่างหมดแรงตรงขั้นที่นั่งทำจากไม้เสียอย่างนั้น
“เฮ้ย...กลับก่อนนะเว้ย”ยุนโฮเอ่ยขึ้นขณะที่มือหนายังกุมมือเรียวขาวไม่ปล่อย
“อ้าว! จะกลับแล้วหรอ”เสียงจากคนที่ยูชอนจำได้ว่าเพื่อนสนิทของยุนโฮตั้งแต่มหาวิทยาลัย เขาลุกขึ้นมาจากท่านอนแผ่อ้าซ่ากับเสื้อบอลสีเหลืองที่แทนที่จะอยู่บนตัวกับไปพันเป็นก้อนอยู่บนหัว ปล่อยให้ช่วงตัวอวดโชว์กล้ามเนื้อน่าภาคภูมิใจของเขาแทน เขาอมยิ้มให้ยูชอนเล็กน้อยก่อนจะหันไปเอาคำตอบจากเพื่อน
“เออ พรุ่งนี้เจอกัน”
.
.
.
ความมืดเริ่มเข้าปกคลุมแต่กลับมีท้องฟ้าสีส้มอมแดง ดวงอาทิตย์ที่พลุบลงไปเหลือเพียงแค่ครึ่งลูกเหมือนกับท้องฟ้ากำลังไล่สีโทนร้อนก็ไม่ปาน เป็นบรรยากาศที่ดีเสียเหลือเกินถ้าหากเขาไม่ได้อยู่ท่ามกลางคนที่พลุกพล่านแบบนี้
พวกเขานั่งอยู่บนโต๊ะอาหารธรรมดาบนย่านที่มีร้านอาหารขายเรียงรายให้เลือก เเสงไฟนีออนสาดส่องอยู่ทั่วบริเวณควันกลิ่นไอจากร้านอาหารแต่ละร้าน เสียงโหวกเหวกโวยวาย นั่นทำให้บรรยากาศดีๆถูกดูดกลืนไปเสีย
ใบหน้าขาวเอาแต่เขี่ยจานข้าวของตัวเองที่เหมือนมันจะชืดลงไปตามอากัปกริยาของเขา ข้าวในจานที่ยังแทบไม่กระดิกทำให้ยุนโฮต้องเงยหน้ามามอง
“เป็นอะไรไปอีกล่ะ”เสียงทุ้มแสดงอาการขัดใจมองใบหน้ากลมที่นั่งนิ่งๆไม่ยอมพูดจา
“ยุนโฮ ยังไม่หายโกรธผมอีกหรอ”ใบหน้ากลมขาว เม้มปากจนแก้มอูมของเขาบุ๋มลึกลง มองช้อนใบหน้าคมคายที่จ้องมองมาทางตน
“โกรธ โกรธเรื่องอะไร”คิ้วเรียวเข้มขมวดปมแน่นทิ้งช้อนลงบนจานจนเกิดเสียง ยืดตัวมองจ้องลูกตากลมสีอ่อน
“เรื่องเมื่อตอนเย็น”ยูชอนพูดเสียงแผ่วพลางคิดว่าตัวเองไม่น่าพูดออกไปเสียเลย ดันจุดอารมณ์ร้อนยิ่งโมโหไปเสียกว่าเดิม ยุนโฮมองก่อนจะหยิบแก้วน้ำเปล่ากระดกระงับอารมณ์ให้ตัวเองเย็นลง ตาเรียวมองร่างขาวด้วยอารมณ์หงุดหงิด ยิ่งยูชอนทำตัวเหมือนกลัวเขา ยิ่งหงุดหงิด
“เลิกทำตัวงี่เง่าซะทีเถอะ”เค้นเสียงไม่มองหน้ายูชอนเช่นเดิม กลับไปสนใจตักอาหารขึ้นมากินต่อ ยูชอนมองท่าทีนั้นด้วยขอบตาที่ผ่าวร้อนขึ้นมา หัวกลมรีบก้มหน้ากลัวว่ายุนโฮจะเห็นแล้วยิ่งจะทำให้เขาอารมณ์เสียไปกว่าเก่าแต่ยิ่งทำน้ำตากลับตีตื้นคลอมาที่หน่วยตา ยูชอนกัดปากตัวเองเมื่อทำไม่ได้ดั่งใจคิด
“ฮึก”เสียงสะอื้นเบาดังลอดออกมาจากร่างบอบบาง น้ำตาใสๆไหลลงมาอาบแก้ม เสียงนั้นทำให้ยุนโฮหยุดกิจกรรมที่ตนกำลังทำ จ้องเขม่งไปยังร่างขาวด้วยท่าทีหงุดหงิด
“หยุดร้อง”
เสียงเข้มพูดนิ่ง พอฝืนใจให้ไม่ร้องมันกลับทำให้ยูชอนมีน้ำตา เขาสะอื้นจนแผ่นหลังเอนไปตามแรง ยุนโฮขมวดคิ้วยิ่งขึ้น
“บอกให้หยุดร้องไง”เสียงเชิงดุของเขาทำให้ยูชอนยกมือขาวปิดหน้าไว้ใต้ฝ่ามือ เสียงร้องของยูชอนทำให้ผู้คนหันแหลือบมามองด้วยความสงสัย มีเพียงสองสามคนเท่านั้นที่ชะเง้อมองอย่างน่าเกลียด แต่นั่นไม่ได้ทำให้ยุนโฮแคร์ คนที่เขาแคร์ในตอนนี้คือยูชอนต่างหาก
ร่างสูงถอนหายใจวางสีหน้านิ่ง ลุกขึ้นกระชากข้อมือขาวให้ลุกขึ้นตามเขาก่อนจะวางเงินจำนวนทั้งหมดสำหรับค่าอาหารมื้อนี้ไว้บนโต๊ะ
.
.
.
ที่นี่เงียบปลอดจากคนพลุกพล่านมีแค่เสียงฝีเท้าจากคนที่อยู่ภายนอกตามทางเท้าเท่านั้นและเสียงสะอื้นของยูชอนเบาๆ
ยูชอนรู้ดีว่ายุนโฮเกลียดทุกครั้งที่เขาร้องไห้แต่ถึงอย่างนั้นคนอ่อนแออย่างเขาก็ห้ามมันไม่ได้เสียที เขาร้องไห้ทุกครั้งเมื่อทะเลาะเรื่องเล็กๆน้อยๆกับยุนโฮ แผ่นหลังบางแนบถูกไปกับกำแพง ยุนโฮจับใบหน้าขาวหวานให้มองมาที่ตน ตรอกแคบๆด้วยระยะที่ห่างไม่มากนักระหว่างตัวเขากับยุนโฮทำให้ยูชอนรู้สึกถึงลมหายใจอุ่นจนร้อนของอีกคนที่ถูกผ่อนออกมาจมูกโด่งเรียว
ยุนโฮจ้องหน้าขาวหวานด้วยอารมณ์แตกต่างไปจากก่อนหน้านี้ ดูเหมือนว่าเขาจะใจเย็นลงมาหลังจากที่ตัวเองได้แตะต่อยกำแพงระบายอารมณ์ไปสองสามหน
มือหนาเอามือปาดผมตัวเองขึ้นไปก่อนจะถอนหายใจ
“หยุดร้องเสียที”น้ำเสียงของเขายังคงเข้มไม่เปลี่ยนแต่ที่เปลี่ยนไปคือแววตาของเขาต่างหาก ผลที่กลับมาที่ได้ก็คือ น้ำตาที่อาบไหลลงมาแก้มขาวดังเดิม
ยุนโฮรู้ว่าเขาเป็นคนอารมณ์เสียง่ายเป็นนิสัยส่วนลึกที่ยังแก้ไม่หาย ยิ่งเห็นยูชอนร้องไห้มากเท่าไหร่เขายิ่งรู้สึกว่าตัวเองแย่ แย่ตรงที่เขาต้องทำให้หัวใจตัวเองต้องร้องไห้
“อย่าร้อง”เสียงทุ้มแน่นแผ่วเบาและอ่อนลง เขาย่อตัวเองลงเพื่อให้มองเห็นหน้าของยูชอนชัดเจนยิ่งขึ้น ตากลมที่มีแววตาสุกใสอยู่ตลอดเวลาบัดนี้กลับบวมช้ำด้วยการร้องไห้ จมูกขาวเริ่มเกิดรอยสีแดงเล็กๆก็เพราะยูชอนเอามือไปถูบ่อยๆ ริมฝีปากอิ่มสวยซึ่งคงจะน่ารักมากถ้าหากว่ายูชอนไม่พยายามแบะออกเนื่องจากเขายังคงร้องไห้
นี่เขาคงแย่มากๆเลยใช่ไหม...
นิ้วโป้งปาดหยาดน้ำตาออกจากแก้มนิ่ม เกลี่ยผมนุ่มสีน้ำตาลอ่อนที่ปรกลงมาปิดหน้าปิดตาของยูชอนออก
ร่างบางมองสบใบหน้าหล่อเหลา ยุนโฮยังคงจับสำรวจใบหน้าของเขาอย่างแผ่วเบา
“ผมขอโทษ”ยูชอนพูดด้วยน้ำเสียงที่ยังสั่นเครือไม่หาย ยุนโฮลดมือลงจากใบหน้าขาวตาของเขาจับจ้องไปที่ดวงตากลมใสบริสุทธิ์ข้างหน้าที่หยาน้ำตาเริ่มเรือนหายไปบ้างแล้ว
“ฉันสิต้องขอโทษ”เขาพูดแผ่ว
“ขอโทษนะ”
ยุนโฮอมยิ้ม มองยูชอนที่พยักหัวกลมๆไปมาอย่างช้าๆอมยิ้มช้อนตามองมายังเขา
“หึ” ยุนโฮหัวเราะสั้นมองอากัปกริยาน่ารักของยูชอน มือหนาเอื้อมมือไปจับแก้มขาวลูบเบาๆ เคลื่อนจมูกโด่งยื่นเข้าไปคลอเคลียปลายจมูกที่ยังคงไม่หายแดงของยูชอน คนถูกจู่โจมเกร็งตัวหลับตาแน่นเมื่อลมร้อนของยุนโฮทำให้เขารู้สึกวาบหวิว ยุนโฮอมยิ้มกับท่าทีนั้นก่อนมือจะประคองแก้มทั้งสองข้างประทับจุมพิตลงไปที่ริมฝีปากอิ่มอย่างนุ่มนวล ยูชอนหลับตาพริ้มเผยอริมฝีปากตอบสนอง...ความหวานที่ยุนโฮมอบให้
.
.
หวานจนรู้สึกดี
-----------------------------------------------------
คงมีคนสงสัยว่ามันหวานตรงไหนทั้งเรื่องไม่เห็นจะหวาน จริงๆก็รู้สึกอย่างนั้นนะ ฮาฮ่า
คอมเม้นท์ตามอัธยาศัยค่ะ
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น