เชลยแค้น สุดแดนทราย : สนพ.ซิมปลี้บุ๊ก - นิยาย เชลยแค้น สุดแดนทราย : สนพ.ซิมปลี้บุ๊ก : Dek-D.com - Writer
×

    เชลยแค้น สุดแดนทราย : สนพ.ซิมปลี้บุ๊ก

    จอมโจรแห่งกิซาร์ จับตัวพระชายาในเอเมียร์แห่งเชดัสย่าห์ มาเพื่อแก้แค้น แต่เมื่อรู้ว่าหญิงสาวที่สร้างความปั่นป่วนให้ชุมนุมโจรและหัวใจเขา คือคนที่ดันจับมาผิดตัว จอมโจรเถื่อนอย่างเขาจะทำเช่นไรกับเธอดี?

    ผู้เข้าชมรวม

    18,601

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    161

    ผู้เข้าชมรวม


    18.6K

    ความคิดเห็น


    54

    คนติดตาม


    27
    หมวด :  ซึ้งกินใจ
    จำนวนตอน :  21 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  6 ก.ย. 52 / 10:43 น.

    อีบุ๊กจากนิยาย ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    type="text/javascript">


    เชลยแค้น สุดแดนทราย

                                                                            โดย....รัชริล

                    ร่างเล็กบางที่ถูกวางทิ้งไว้บนพื้นหินเย็นเฉียบค่อยๆสะบัดหัวอย่างมึนงง ความมืดมิดราวกับรัตติกาลที่สัมผัสได้เมื่อแรกลืมตาตื่นขึ้นมาทำให้เธอสันนิษฐานออกแค่ไม่กี่ที่เท่านั้น

                    ภาพของใครบางคนที่ขับไล่ไสส่งเธอมาก่อนหน้านี้สว่างวาบฉายเข้ามาในห้วงคำนึง

                    แม้จะดื่มเหล้าเข้าไปแก้วแล้วแก้วเล่า แต่คนที่เคยออกปากห้ามปรามอย่างโมโหโกรธาในตอนแรกกลับเงียบนิ่งเฉย สายตาที่ทอดมองมามีแววครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่ในใจอย่างหนัก

                    ภาพดวงตาที่บรรจุไปด้วยความสับสน ทอดอาลัยและตัดใจเด็ดขาดในเวลาไล่เลี่ยกันของชายหนุ่มหน้าคมคายเต็มไปด้วยหนวดเครารุงรังผู้นั้นทำให้เมริสาพุ่งพรวดลุกขึ้นมายืนซวนเซแทบจะล้มลงอีกครั้ง พอเข้าใจสถานการณ์ทั้งหมด

    เจ้าหล่อนสะบัดศีรษะเล็กๆที่ปกคลุมไปด้วยเส้นผมยาวสยายกระเซอะกระเซิง ก้มลงมองตัวเองเมื่อปรับสายตาให้คุ้นชินกับความมืดมิดภายในถ้ำแห่งนี้ได้ มือเล็กบางลูบสะเปะสะปะสำรวจเนื้อตัว แล้วพบว่า....ทุกอย่างยังเป็นปกติดี

    ริมฝีปากบางเม้มแน่นเมื่อนึกว่าเกิดอะไรขึ้น ความแค้นเคืองที่ชายผู้นั้นหยามหลู่กันถึงเพียงนี้ทำให้ดวงตากลมใสในทุกคราวลุกพราวแสงโชนขึ้นมาอย่างขุ่นเคือง

    อย่าให้ฉันกลับไปได้นะมาฬิส นายเจ็บตัวแน่ คิดพร้อมคาดโทษอย่างแค้นเคือง เท้าเล็กก้าวเร็วๆวิ่งออกมาจากถ้ำมืดแห่งนี้ เพราะเชื่อแน่ว่าคนที่พาเธอมาทิ้งไว้ที่นี่คงจากไปได้ไม่ไกลนัก หากตามไปตอนนี้อาจจะยังทันก็ได้

    แสงสว่างเรืองๆจากปากถ้ำ หากไม่ใช่เวลารุ่งสาง ก็อาจจะเป็นเวลาใกล้พลบค่ำ ไม่รู้ว่าเธอหลับใหลไปนานเท่าไร

    เท้าเล็กๆที่วิ่งสุดฝีเท้ามีอันต้องชะงักงัน เมื่อปากถ้ำปรากฏร่างของผู้ชายเนื้อตัวมอมแมมสองคนที่มองเธอด้วยดวงตาลุกวาวราวกับพบขุมทรัพย์

    เฮ้ย! ผู้หญิงนี่หว่า ทั้งสองน่าจะเป็นนักเดินทางที่ผ่านมาทางนี้ แล้วเห็นมีถ้ำอยู่จึงคิดจะหยุดพักอาศัยชั่วคราว เมริสาหรี่ตามองทั้งสองคนอย่างสำรวจ ท่านทั้งสองเป็นคนในชุมนุมโจรใช่มั้ย?

    บุรุษทั้งสองมองเธออย่างสำรวจเช่นกัน ก่อนจะยิ้มอย่างพึงพอใจในหน้าตาสะสวยผิวหน้าใสเกลี้ยงเกลาของคนที่อยู่ในชุดคลุมดำรุ่มร่ามตรงหน้า

    ไม่ใช่หรอก แต่ถ้าเจ้าต้องการเช่นนั้นข้าก็เป็นได้ คำตอบพร้อมดวงตาแวววาวของเจ้าสองคนนั่น มันแลบลิ้นเลียริมฝีปากที่แห้งผากเหมือนอดอยากมานาน เมริสาถอยเท้าดวงตากลมกลิ้งกลอกมองหาทางรอดในสถานการณ์ที่อ่านออกว่าเริ่มไม่น่าไว้วางใจขึ้นมา

    ว่าแต่เจ้ามีอะไรให้โจรอย่างพวกเราปล้นหรือ? เสียงหัวเราะขรมประสานกัน ราวกับเสียงหัวเราะของปีศาจ เมริสากลืนน้ำลายเหนียวหนับแสนฝืดลงลำคอระหง คิดใช้สมองอันชาญฉลาดหาทางเอาตัวรอด

    ตอนนี้ไม่มีหรอกจ๊ะพี่ชาย แต่ว่าถ้าพวกท่านช่วยพาฉันไปส่งยังที่แห่งหนึ่ง บางทีท่านอาจจะได้รับสมนาคุณอย่างงามเท่าที่ปรารถนา ชายทั้งสองชะงักกับคำพูดหวานหูออดอ้อน สบตากันเหมือนหนึ่งถามความเห็น

    เจ้าต้องการไปที่ไหน?

                    หุบเขากิซาร์ สถานที่ที่เปล่งออกมาจากริมฝีปากอิ่มทำให้ทั้งสองสะดุ้งโหยงขึ้นมา สายตาล่อกแล่กกลอกมองหน้ากันอย่างพรั่นพรึงนัก

    เจ้าจะไปที่นั่นทำไม? เสียงแห่งความหวาดหวั่นยังสั่นกลัวไม่หายของคนหนึ่งถามขึ้น

    บ้านฉันอยู่ที่นั่น มีคนพาฉันมาทิ้งไว้ที่นี่ ดวงตากลมใสลุกวาวขึ้นมาอย่างโกรธแค้นอีกหน

    ทั้งสองสบตากัน ก่อนส่ายหน้าหลุกหลิก หุบเขากิซาร์อยู่ห่างจากที่นี่ไปตั้งไกลมาก แล้วที่แห่งนั้นก็ไม่มีใครอยากกล้ำกลายเข้าไปหรอก ทั้งเส้นทางที่เข้าถึงยากลำบาก ยังไม่แน่ว่าจะเอาชีวิตรอดกลับออกมาได้รึเปล่า?

    ใช่ ถ้าบ้านของเจ้าอยู่ที่นั่นจริง แล้วครอบครัวเจ้าเอามาทอดทิ้งไว้ที่นี่เสียแล้ว ก็หมายความว่าพวกเขาคงไม่ต้องการเจ้าแล้วล่ะน้องสาว คำพูดของหนึ่งในสองทำให้เมริสาแทบน้ำตาร่วง ความเสียใจ น้อยใจ ประดังพรั่งพรูขึ้นมาเมื่อคิดว่าเหตุไฉนผู้ชายคนนั้นถึงได้กระทำการหยามหมิ่นกับเธอถึงเช่นนี้

    ดวงตากลมใสวาววับจับน้ำตาขึ้นมาคลอครอง หากเจ้าตัวเม้มปากแน่น พยายามกะพริบตาถี่ๆไล่ความขุ่นเคืองออกไปเสีย

    แต่ไม่ต้องห่วง ถ้าเจ้าไม่มีที่ไป เราสองคนก็จะอนุเคราะห์แก่จ้าเอง ดวงตาใสลุกวาวขึ้นมากับถ้อยคำเกี้ยวพาชั้นต่ำนั่น สะบัดหน้าเดินสวนออกมา หากว่ามือใหญ่หยาบกร้านของหนึ่งในสองจับแขนเธอไว้เสียแน่น

    ปล่อยนะ ใบหน้าเล็กฉายแววขุ่นเคืองดวงตาลุกวาวตะคอกเข้าใส่

    อะไรกันเล่า จะไปง่ายๆอย่างนี้หรือ? ไหนๆเจ้าก็ไม่มีที่ไป เรามาหาอะไรทำฆ่าเวลากันดีกว่า

    พูดบ้าอะไรของแกฮะ เท้าเล็กๆเตะเข้าไปตรงหน้าแข้งอย่างแรง พร้อมก้มลงงับท่อนแขนใหญ่นั่นอย่างไม่กลัว

    โอ้ย เสียงร้องหลงอย่างเจ็บปวด เห็นเพื่อนโดนเล่นงานจากเจ้าตัวจ้อยแต่พิษสงจัด เพื่อนอีกคนของมันรีบจิกกระชากผมสลวยของเธอแล้วตวัดฝ่ามือใหญ่เข้าใส่เต็มแรง

    ร่างเล็กเซถลาลงไปฟุบกับพื้นหินเย็นเฉียบ คนโดนกัดสะบัดแขนเร่า ดวงตาลุกวาวอย่างแค้นเคือง

    นังบ้า ฉันจะฆ่าแก มันวิ่งถลาเข้ามาหา แต่ถูกเพื่อนรั้งตัวไว้

    เฮ้ย! อย่า ฆ่าทิ้งก็เสียของเปล่าๆ เอามันมาหาความสำราญแล้วเก็บไว้เป็นทาสรับใช้เราดีกว่า

    ใบหน้าเล็กที่บัดนี้เลือดกบปากสะบัดหน้ามามองอย่างตื่นตะลึงถึงความคิดน่าสะพรึงของทั้งสอง

    ร่างใหญ่ย่างสามขุมเข้ามาหา พร้อมกระตุกรอยยิ้มวับวาวอย่างน่ากลัว ใบหน้าสกปรกรกรุงรังไปด้วยหนวดเคราแสยะยิ้มฉายความหื่นออกมาทางสีหน้าและแววตาชัดเจน

    อย่านะ ฉันเป็นน้องสาวขององค์เอเมียร์ ถ้าไม่อยากหัวขาดอย่าบังอาจแตะต้องตัวชั้น เสียงตวาดดังราวกับเป็นเกราะกำบังเดียวที่จะช่วยให้เธอเอาตัวรอดได้ในเวลานี้ ทั้งเรี่ยวแรงจ้อยกระจิ๊ดริ๊ดของเธอ คงไม่อาจจะหาญกล้าไปสู้กับผู้ชายร่างสูงใหญ่ราวกับยักษ์ปักหลั่นถึงสองคนได้

    ได้ผล....ใช่ มันทั้งสองชะงักงัน หันไปสบตากัน ก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะสะท้อนก้องราวกับเสียงคำรามของปีศาจ น้องสาวขององค์เอเมียร์อย่างนั้นหรือ? ข้าไม่เคยได้ยินว่าองค์เอเมียร์มีน้องสาว หรือว่าเจ้าเคยวะอาดีน

    เจ้าคนที่ชื่ออาดีนหัวเราะร่วน ไม่เคยเช่นกันว่ะซามาล สงสัยนางคนนี้จะฝันกลางวัน

    มันทั้งสองไม่หยุดย่างเท้าเข้ามาใกล้ เมริสากระเถิบตัวถอยหนีจนกระทั่งแผ่นหลังสัมผัสกับความเย็นของผนังถ้ำ

    ไม่ต้องกลัวไปสาวน้อย ข้าจะพาเจ้าไปยังสถานที่ที่สำราญกว่าหุบเขากิซาร์ คำพูดกลั้วหัวเราะแฝงเล่ห์ ทำให้เมริสาย่นคิ้วนิ่วหน้า

    นั่นนะสิ ท่าทางนางจะสติไม่ดีว่ะ ไม่ต้องกลัวนะ ข้าจะพาเจ้าขึ้นสวรรค์ คำพูดนั้นมีความหมายโดยนัยว่าอย่างไร ไม่ต้องแปลให้มากความ เมริสารู้ว่าทางรอดของเธอมีน้อยเต็มที ทำไมชะตาชีวิตเจ้าหญิงตกยากอย่างเธอมันถึงได้ริบหรี่อย่างนี้ ถูกจอมโจรลักพาตัวมาจากวังให้ไปตกระกำลำบากอยู่ในชุมนุมโจร แล้ววันหนึ่งก็พามาทิ้งไว้ในถ้ำร้าง แถมยังต้องมาผจญกับนักเดินทางหื่นกามที่คิดว่าเธอสติไม่สมประกอบอีก 

    ฉันเตือนแกแล้ว เงาหัวจะไม่มีบนบ่า

    โอ๊ะ...โอ...ข้าสองคนกลัวเหลือเกินสาวน้อย ไหนๆก็จะมีชีวิตไม่ยืนยาว งั้นเราก็มาหาความสุขกันเถอะ

    วี๊ด..................... เสียงหวีดร้องอย่างตกใจ เมื่อเจ้าคนหนึ่งกระโดดเข้ามาตะปบข้อเท้าเธอกระชากแล้วล็อกไว้

    ส่วนอีกคนพุ่งเข้ามาฉีกทึ้งเสื้อผ้าที่สวมใส่จนขาดกระจุย แรงน้อยนิดของผู้หญิงตัวเล็กจะสู้อะไรได้กับร่างใหญ่ทั้งสองที่มีแรงหื่นกระหายหน้ามืดตามัวเข้าครอบงำและกำลังกระทำมิดีมิร้าย

    อย่านะ ปล่อย...ปล่อยฉัน เสียงหวีดร้องแหลมเสียดแก้วหู เสื้อผ้าที่สวมใส่ถูกฉีกทึ้งไม่มีดี หมัดลุ่นๆซัดเข้ามากลางลำตัว เมริสาผวาเฮือก เจ็บจุกจนตัวงอหมดเรี่ยวแรงดิ้นรนขัดขืน ฝ่ามือหยาบกระด้างกดตรึงข้อมือทั้งสองไว้ให้นิ่งกับพื้น ใบหน้าสกปรกรกรุงรังซุกไซ้ลงมาด้วยสัมผัสกักขฬะ เจ้าคนที่จับขาพยายามฉีกแยกถ่างขาทั้งสองข้างเธอออกจากกัน

    ใบหน้าเล็กสะบัดไม่ยอมรับเหตุการณ์อัปยศตรงหน้า พยายามเรียกสติจากสมองของคนที่ได้รับฉายาว่า นางเจ้าเล่ห์ พาตัวเองให้รอดพ้นจากสถานการณ์อันน่าสะพรึง

    เสียงหัวเราะขรมดังสะท้อนก้องอยู่ภายในถ้ำ เหมือนฝันร้าย....ฝันร้ายที่ทำไมไม่ตื่นจากมันเสียที

    น้ำตาพราวเต็มสองหน่วยตาวาวใสสะบัดไปมา สัมผัสกักขฬะน่าขยะแขยงไม่ยอมหยุดนิ่ง อีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า คือเวลาที่พวกมันจะฆ่าให้เธอตายลงทั้งเป็น ดวงตาพร่าลายนัก สติที่มีอยู่ไม่รู้หายไปที่ใด มันใกล้จะขาดห้วงลงไปทุกขณะ

    ปล่อยผู้หญิง เสียงกร้าวตวาดก้อง หยุดการกระทำของมันได้เพียงครู่

    อ๊าก.................. เสียงร้องอย่างเจ็บปวด พร้อมหยดเหนียวเหนอะบางอย่างซ่านกระเซ็นมาเปรอะบนใบหน้า

    จอมโจรกิซาร์ เธอได้ยินเสียงร้องหลงคล้ายคนเสียสติ ร่างใหญ่ที่ทาบทับสัมผัสอยู่บนตัวเธอลนลานผละจากไปอย่างรวดเร็ว แต่นั่นก็คงไม่พ้นคมดาบวงเดือนที่ฟาดลงมาพร้อมเสียงร้องโหยหวนสะท้อนก้องอยู่ในถ้ำมืดมิด

    ใบหน้าที่รู้สึกบวมเห่อขึ้นมาเพราะถูกตบตีจนมึนงงตอนนี้เริ่มปวดตุบๆ ดวงตาหรี่ริบใกล้ปิดพยายามเผยอเปลือกตาขึ้นมา ภาพใบหน้ารกรุงรังของคนตรงหน้าก้มลงมาหา แววตาที่ฉายเต็มไปด้วยความเสียใจขนาดหนัก...นั่นเธอต้องตาฝาดและคิดเข้าข้างตัวเองเกินไปแน่ๆ ผู้ชายอย่างเขาไฉนเลยจะมาห่วงใยเธอได้ ไม่งั้นเขาคงไม่พาเธอมาทิ้งไว้ในถ้ำร้างเปลี่ยวแห่งนี้ให้เป็นเหยื่อแก่พวกโฉดที่เดินทางผ่านมา  ร่างใหญ่ตวัดตัวเธอไปกอดแน่นราวกลัวจะสูญเสียพลัดพรากจาก

    กลับมาทำไมล่ะ? น้ำเสียงเย็นชาแค่นถามจากริมฝีปากบวมเจ่อด้วยความรู้สึกเสียใจ น้อยใจ ผิดหวัง

    ฉันมาช่วยเธอ

    เฮอะ....เสียดายเชลยที่นายอุตส่าห์ไปจับมางั้นหรือ? เสียใจนะไม่ว่าจะยังไงฉันไม่มีวันยอมให้นายใช้เป็นเครื่องมือต่อรองกับองค์เอเมียร์ หากยังคิดใช้ฉันเป็นตัวล่อพระองค์อีก...ไม่มีวัน น้ำเสียงเด็ดเดี่ยวห้าวหาญประกาศ

    เสียงถอนใจ มือใหญ่ประคองเธอให้ลุกขึ้นมา นิ้วมือไล้เช็ดคราบเลือดที่เปรอะหน้าตาออกให้

    คิดว่าเธอมีค่าแค่นั้นใช่มั้ย?  ดวงตาคนถามเสียใจกึ่งผิดหวัง

    เชลยอย่างฉันจะมีค่าแค่ไหนกัน? ดวงตาที่ฉายความเจ็บปวดพอกันถาม

    รู้หรือไม่ว่าฉันกลับมาทำไม? ดวงตาคมทอประกายบางอย่างที่ยามมองสบแล้วหัวใจก็ไหวสั่นอย่างรุนแรง

    ฉันไม่อยากรู้ เบือนหน้าหนี เร้นน้ำตาเอ่อท้นจากความน้อยใจไปให้พ้นจากสายตาเขา

    เธอกำลังจะพลาดฟังสิ่งที่ฉันอาจจะเปล่งออกมาแค่ครั้งเดียวในชีวิต

    ดวงหน้าเล็กหันกลับมาอีกครั้ง ดวงตากลมใสฉายชัดความฉงนงงงวย หากสายตาที่มองมาเต็มไปด้วยความสับสนหักห้ามใจระคนปรารถนามากล้นเอ่อท่วมท้น ก่อนจะทอดทอแสงอ่อนลงอย่างยอมแพ้เมื่อสบกับดวงตาใสไม่รู้ความ

    เพราะเธอมีค่าเท่าดวงใจของฉันไงล่ะ สิ้นคำสารภาพริมฝีปากอุ่นก็กดทาบทับลงมามิให้ได้เอื้อนเอ่ยคำถามใด ๆฝ่ามือใหญ่ลูบไล้สัมผัสอย่างนุ่มนวลทะนุถนอมยิ่งนัก ต่างจากสัมผัสกักขฬะหยาบคายของเจ้าสองคนเมื่อครู่นี้ลิบลับ และสัมผัสหวิวไหวอันอ่อนหวานนั่นก็พาให้เธอรู้สึกคล้ายล่องลอย ดวงตากลมใสค่อยๆฉายยิ้มแห่งความสุขออกมาทีละนิดจนเอ่อล้นเป็นหยาดน้ำตาที่พรั่งพรูไปด้วยความสุข ริมฝีปากบางตอบสนองกลับไปด้วยความรู้สึกถวิลหาปรารถนาที่พอกัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    คำนิยม Top

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    คำนิยมล่าสุด

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    ความคิดเห็น