คนจนไม่ใช่ปัญหา (ขอ) อย่าเพิ่มปัญหาให้คนจน - คนจนไม่ใช่ปัญหา (ขอ) อย่าเพิ่มปัญหาให้คนจน นิยาย คนจนไม่ใช่ปัญหา (ขอ) อย่าเพิ่มปัญหาให้คนจน : Dek-D.com - Writer

    คนจนไม่ใช่ปัญหา (ขอ) อย่าเพิ่มปัญหาให้คนจน

    มีหลายคนที่คิดว่าคนจนในชุมชนแออัดเป็นปัญหาของสังคมเมืองหลวง.... แต่ที่จริงแล้วเค้าเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สังคมเมืองหลวงของเราเกิดสมดุล

    ผู้เข้าชมรวม

    119

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    119

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  1 ก.ย. 66 / 17:57 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น


       
      ขณะที่เขียนบทความนี้  ไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าทิศทางการเมืองจะเป็นอย่างไร  นายกรัฐมนตรีจะอยู่ในตำแหน่งหรือไม่ จะต้องเลือกตั้งอีกครั้งหรือยัง  อย่างไรก็ตาม ปัญหาของประชาชนก็ยังคงอยู่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับการเมืองไทย จึงเป็นหน้าที่ของผู้บริหารปัจจุบันหรือกลุ่มใหม่ที่ต้องมีแนวทางในการแก้ไขอย่างถูกต้อง

    จึงขอเสนอมุมมองในเรื่องการแก้ปัญหาชุมชนแออัดและการพัฒนาเมืองไว้แก่ผู้ที่จะทำหน้าที่บริหารประเทศต่อไป

           วิสัยทัศน์ของนายกรัฐมนตรีสมัคร สุนทรเวช  ที่ต้องการพัฒนากรุงเทพมหานครให้เป็นเมืองสวยงาม  โดยเน้นให้มีการเพิ่มพื้นที่สีเขียว ฟังดูผิวเผินอาจเป็นสิ่งที่ถูกใจชนชั้นกลางและคนมีฐานะ เพราะเมืองสวย ไม่มีชุมชนแออัด  มีพื้นที่สีเขียวให้คนได้ออกกำลังกายและพักผ่อนหย่อนใจ

    คนไม่จนคงเห็นว่าเข้าท่า  เป็นภาพเมืองในฝันที่ปรารถนา

        แต่ในความจริงวิสัยทัศน์ของนายกฯ คงจะเป็นเพียงฝันที่ไม่อาจเป็นจริง และยังเป็นฝันร้ายที่หลอกหลอนพี่น้องผู้อยู่อาศัยในชุมชนแออัดเป็นอย่างยิ่ง หรือแม้ว่าหากมีอำนาจใดดลบันดาลให้ฝันเป็นจริงได้โดยชาวบ้านไม่เดือดร้อน ถ้าพิจารณาให้ลึกซึ้งถึงลักษณะทางสังคมก็จะพบว่า มีความจริงบางอย่างที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องให้มีชุมชนแออัดอยู่ในเมืองกรุงต่อไป

           คนที่กำลังคิดว่าเรื่องย้ายชุมชนแออัดเป็นปัญหาของคนจนเพียงกลุ่มเดียวเท่านั้นที่เดือดร้อน แค่ให้เงินชดเชยปัญหาทุกอย่างก็จบ....ขอให้คิดใหม่

           คนจนคือทรัพยากรบุคคลหรือแรงงานหลักของสังคมเมือง  คนกวาดถนน  คนเก็บขยะ คนทำความสะอาด พนักงานขับรถ  กระเป๋ารถเมล์  วินมอเตอร์ไซด์  เด็กโบกรถ คนงานเข็นผัก  แม่ค้าขายข้าวแกง เขาเหล่านี้ไม่มีบ้านหรูคนโดฯสูง เขาอาศัยอยู่ในชุมชน  แล้วถ้าเขาต้องย้ายออกไปอยู่นอกเมือง ใครจะกวาดถนน  ใครจะทำความสะอาด  ใครจะขับรถ  ใครจะขายอาหารให้เรา

          จะเป็นไปได้หรือที่เขานั่งรถจากนอกเมืองเข้ามาทำงานโดยเสียค่าเดินทางสูงพอๆกับรายได้ที่ได้รับในแต่ละวัน และถ้าไม่มีเขาเหล่านั้น  คนในสังคมที่เหลือจะอยู่อย่างไร  จะหาแรงงานจากไหน  สมมติว่าไม่มีพนักงานเก็บและกวาดขยะ กทม. จะมีสภาพอย่างไร

    Photobucket

            ดังนั้น คนจนและชุมชนแออัด จึงเป็นของคู่กับกับสังคมเมือง ปัญหามิได้อยู่ที่คนจน  แต่อยู่ที่จะทำอย่างไรให้ที่อยู่อาศัยของคนจนมีความน่าอยู่ และคนเมืองมีพื้นที่สีเขียวไว้หายใจ ข้อเสนอก็คือ   รัฐบาลต้องหาวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด และกระทบต่อคนจนให้น้อยที่สุด 

          หากมองเรื่องการเพิ่มพื้นที่สีเขียว  รัฐบาลมีทางออกอื่นที่ดีกว่าโดยที่ไม่ส่งผลกระทบต่อใครเลย  นั่นคือการใช้พื้นที่ราชพัสดุให้เป็นประโยชน์  ข้อมูลจากผังเมือง กทม.สำรวจพบว่า มีพื้นที่ราชพัสดุ 1,233 แปลง  ประมาณ 29,000 ไร่ (3% ของพื้นที่กทม.) สามารถนำมาพัฒนาให้เป็นสวนธารณะหรือเพื่อวัตถุประสงค์ทางสังคมได้ เช่น พื้นที่ในเขตยานนาวา 6 ไร่ เขตหนองแขม 45 ไร่ และเขตบางบอน 177 ไร่

    นายกรัฐมนตรีผู้เคยเป็นผู้ว่าฯ กทม. ไม่ทราบข้อมูลเหล่านี้หรือ!!!!

         และหากต้องการจัดระเบียบชุมชนก็สามารถทำได้โดยไม่ต้องขับไล่คนออกจากพื้นที่แต่อย่างใด  หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรื่องที่อยู่อาศัย สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนและการเคหะสามารถเข้ามามีบทบาทในการทำให้ชุมชนมีความน่าอยู่ สะอาด และเป็นระเบียบได้  เช่น ปล่อยสินเชื่อเพื่อการปรับปรุงบ้าน  จัดโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิต เช่น ลอกคลอง ปรับปรุงทางเดินและพื้นที่ในชุมชน

         ทั้งนี้ สำคัญที่สุดคือ นโยบายของรัฐบาลต้องชัดเจน  ข้าราชการต้องเอาจริงเอาจังในเรื่องนี้ คนในชุมชนต้องร่วมแรงร่วมใจในการเดินหน้าพัฒนาชุมชนของตนเองให้มีชีวิตที่ดีขึ้น

        การประกาศว่าจะย้ายสลัม 1,700 แห่ง  ออกจาก กทม. แม้จะเป็นคำพูดสั้นๆแต่เป็นการแสดงออกถึงการไม่เคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของคนจน และยังทำให้ประชาชนจำนวนมากเกิดความวิตกกังวลกับความไม่มั่นคงในการดำเนินชีวิตยิ่งขึ้น  ลำพังเรื่องปากท้องก็สาหัสอยู่แล้ว  ยังต้องมาทุกข์ใจเรื่องที่อยู่อาศัยซึ่งเป็นปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิต จึงเป็นเรื่องที่น่าเห็นใจอย่างยิ่ง

       ขอเป็นกำลังใจให้ชาวชุมชนมุ่งหน้าทำงานต่อไปอย่างมีความสุข  ยังไม่ถึงเวลาที่ต้องมาเป็นทุกข์เรื่องนี้  เพราะการย้ายชุมชนแออัดเป็นเรื่องใหญ่  เป็นเรื่องที่ต้องมีคณะกรรมการเข้ามาดูแลในเรื่องแผนการดำเนินงาน  และการรับรองผลกระทบที่เกิดขึ้นกับผู้เดือดร้อน ไม่ใช่สิ่งที่ผู้บริหารคนใดออกมาพูดวันนี้แล้ววันรุ่งขึ้นจะขับไล่

           หากเป็นเช่นนี้ถือเป็นนโยบายที่สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชน  ขัดต่อหลักมนุษยธรรมและผิดต่อรัฐธรรมนูญ คงไม่มีผู้บริหารคนใดอยากเอาตัวไปเสี่ยงต่อการกระทำผิดกฎหมายในขณะที่ยังมีทางเลือกอื่นที่ดีกว่า.............................

           บทความเรื่อง "คนจนไม่ใช่ปัญหา (ขอ) อย่าเพิ่มปัญหาให้คนจน" ได้ตีพิมพ์ลงหนังสือพิมพ์มติชนรายวัน   ฉบับวันที่ 3 กันยายน พ.ศ.2551 ปีที่ 31 ฉบับที่ 11134 หน้า 6. 

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×