มหาศาสตร์จักษุ รักษาดวงตานางสิบสอง - มหาศาสตร์จักษุ รักษาดวงตานางสิบสอง นิยาย มหาศาสตร์จักษุ รักษาดวงตานางสิบสอง : Dek-D.com - Writer

    มหาศาสตร์จักษุ รักษาดวงตานางสิบสอง

    ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ ซึ่งเมื่อกล่าวถึงดวงตาแล้วก็มีความสำคัญต่อทุกคนมาก

    ผู้เข้าชมรวม

    195

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    195

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  11 ก.ย. 55 / 17:19 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

     

    ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ ”   ซึ่งเมื่อกล่าวถึงดวงตาแล้วก็มีความสำคัญต่อทุกคนมาก   ทั้งช่วยในการมองเห็นและนอกจากนี้ยังช่วยสื่อสารกันระหว่างคนสองคนได้ถึงความรู้สึกที่มีอยู่ข้างในของคนคนนั้นให้อีกคนรับรู้ได้

     

                    การสูญเสียเพราะความรัก   ซึ่งเกิดจากที่ท้าวรถสิทธิ์ลุ่มหลงในตัวของนางสันทะมาลาที่กลายเป็นสาวงาม   นางจึงแกล้งป่วยแล้วต้องการลูกตานางสิบสองมาเป็นยารักษาโรค   แล้วท้าวรถสิทธิ์ก็เชื่อเพราะหลงรักนางอยู่แล้วควักลูกตานางสิบสองมาให้นาง
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ ”   ซึ่งเมื่อกล่าวถึงดวงตาแล้วก็มีความสำคัญต่อทุกคนมาก   ทั้งช่วยในการมองเห็นและนอกจากนี้ยังช่วยสื่อสารกันระหว่างคนสองคนได้ถึงความรู้สึกที่มีอยู่ข้างในของคนคนนั้นให้อีกคนรับรู้ได้

       

      การสูญเสียเพราะความรัก   ซึ่งเกิดจากที่ท้าวรถสิทธิ์ลุ่มหลงในตัวของนางสันทะมาลาที่กลายเป็นสาวงาม   นางจึงแกล้งป่วยแล้วต้องการลูกตานางสิบสองมาเป็นยารักษาโรค   แล้วท้าวรถสิทธิ์ก็เชื่อเพราะหลงรักนางอยู่แล้วควักลูกตานางสิบสองมาให้นาง   ดังจะเห็นได้จากข้อความนี้

       

      เมื่อท้าวรถสิทธิ์ได้พบนางสันทะมาลากลายเป็นสาวงามดังนั้น   ก็เกิดความลุ่มหลงในตัวนางถึงกับลืมนางทั้งสิบสองคน และสั่งให้จับไปขังไว้ในอุโมงค์เมื่อนางทั้งสิบสองคนพยายามบอกว่า นางยักษ์แปลงร่างมาไม่ใช่เป็นนางงามอย่างที่ท้าวรถสิทธิ์เข้าใจ นางสันทะมาลาโกธรแค้นนางสิบสองคนเป็นอย่างยิ่ง เลยแกล้งทำเป็นล้มป่วยลง และบอกกับท้าวรถสิทธิ์ว่า จะต้องได้ลูกตาทั้งสิบสองคนเข้ามาเป็นตัวยารักษาโรคจึงจะหาย ท้าวรถสิทธิ์ซึ่งกำลังลุ่มหลงนางอยู่ก็เชื่อและสั่งให้ควักลูกตาของนางทั้งสิบสองคน

       

      จนกระทั่งวันหนึ่งจึงออกอุบายให้นางเมรีพาเที่ยวชมพระราชวังให้ทั่ว   เพราะอยากจะรู้ว่าที่เก็บลูกตาของนางสิบสองเมื่อรถเสนถาม   นางเมรีไม่รู้ความจริงว่าเป็นอย่างไรก็เล่าให้พระสวามีฟังจนหมด   รถเสนจึงพยายามหาอุบายเอาลูกตากลับคืนไปใส่ให้แม่และป้าให้จงได้   จนกระทั่งวันหนึ่งได้โอกาสรถเสนจึงมอมเหล้านางเมรีจนกระทั่งมึนเมาไม่ได้สติ   แล้วตัวเองก็ลอบออกมาจากพระราชวัง   และลักเอาดวงตาของนางสิบสองขึ้นมา   หนีนางเมรีมา ”        

      ( http://ilwc.aru.ac.th/Contents/FolktaleThai/FolktaleThai1.html )

       

      ข้อความข้างต้น   เป็นส่วนหนึ่งของนิทานพื้นบ้านเรื่อง  นางสิบสอง  เล่าถึงตอนที่นางสิบสองเสียลูกตาไป   หลังจากนั้นนางสิบสองก็ได้ดวงตากลับคืนมา   โดยพระรถเสน  ลูกชายของนางเภา   น้องสาวคนสุดท้อง   หนึ่งในนางสิบสอง   ผู้จัดทำจึงเกิดความสงสัยว่า   การเก็บรักษาดวงตาที่นำออกมาจากเบ้าตา   มีวิธีการอย่างไร   และสามารถใช้ลูกตาใส่เข้าไปในเบ้าตาเพื่อเก็บรักษาได้จริงหรือไม่

       

       

       

      การกลับคืนมาของความสูญเสีย

       

                      อวัยวะของลูกตาของคนเรามีการเปื่อยเน่าในเวลาไม่เท่ากัน   เช่น  ชั้นจอตาถ้าขาดออกซิเจนหรือขาดเลือดไปเลี้ยงจะตายภายในเวลาไม่เกินครึ่งชั่วโมง   แต่กระจกตาสามารถมีชีวิตอยู่ได้ประมาณ  ๗ วัน   ถ้าเก็บไว้ในอุณหภูมิ  ๕  องศาเซลเซียสหลังเสียชีวิต   จากความรู้อันนี้จึงนำเอาไปใช้ในการเปลี่ยนกระจกตา   การเปลี่ยนกระจกตาซึ่งมักเข้าใจผิดกันว่าเป็นการเปลี่ยนดวงตาทั้งลูกนั้นไม่ตรงกับความเป็นจริง   ความเป็นจริงคือแพทย์ใช้เฉพาะกระจกตานำไปผ่าตัดเปลี่ยนให้ผู้ป่วยโรคตาบางอย่างโดยแพทย์ผ่าตัดเอากระจกตาบริเวณที่มัวออกแล้วนำกระจกตาของผู้บริจาคมาใส่แทน   ถ้าการผ่าตัดได้ผลดี   ผู้รับก็จะมีสายตาดีขึ้น   บางครั้งการผ่าตัดได้ผลไม่ดีเพราะผู้รับมีโรคตาอย่างอื่นอยู่ด้วยหรือเพราะผู้รับมีปฏิกิริยาตอบโต้ไม่ยอมรับกระจกตาที่เปลี่ยนให้   จะทำให้บริเวณที่ผ่าตัดเป็นฝ้า   และสายตามัวลงต้องให้ยารักษาหรือเปลี่ยนกระจกตาใหม่   กระจกตาที่ใช้ในการเปลี่ยน   ได้จากผู้บริจาคแจ้งความจำนงไว้เมื่อผู้บริจาคถึงแก่กรรม  ทายาทและแพทย์จะจัดการนำลูกตามาเก็บไว้ที่คลังลูกตา   คลังลูกตาเป็นที่เก็บลูกตาที่บริจาคและเป็นศูนย์กลางจ่ายไปยังโรงพยาบาลที่ต้องการ   ลูกตาที่ใช้ในการได้  ต้องได้จากผู้ตายที่ปราศจากโรคติดต่อ  เช่น  กามโรค   และต้องเป็นกระจกที่ใส่ไม่มีแผลเมื่อมีผู้ป่วยที่ต้องการเปลี่ยนกระจกตา  เช่น  ผู้ป่วยโรคต้อลำไย ( กระจกตามัวหรือเป็นแผลที่กระจกตา )   เป็นแผลที่กระจกตาจากเชื้อรา   กระจกตาไม่เรียบ   กระจกตารูปกรวย   หรือกระจกตาแตกจากอุบัติเหตุ   แพทย์ก็นำลูกตาจากคลังลูกตามาช่วยได้ทันท่วงที   คลังลูกตาที่ประเทศไทยมีอยู่ที่สภากาชาดไทย   และที่โรงพยาบาลบางแห่ง

       

                      การรักษาโรคตามีทั้งการรักษาด้วยยาและการผ่าตัด   การรักษาด้วยยาประกอบด้วยการรักษาทั่วไปและรักษาเฉพาะโดยใช้ยาหลอด   ยาป้ายตา  ยาฉีดเข้าใต้ตาและการรักษาด้วยการผ่าตัดมักใช้คำว่า การลอกต้อ   เช่น  ลอกต้อเนื้อ   ลอกต้อแก้วตา  การลอกต้อเนื้อหมายถึงการผ่าตัดเอาต้อเนื้อที่คลุมบนกระจกตาออก   การลอก   ต้อแก้วตาคือการผ่าตัดเอาแก้วตาที่เป็นต้อแก้วตาออก   การลอกต้อหินเป็นการผ่าตัดเปิดทางเดินของน้ำเลี้ยงตาในลูกตาให้ออกทางใหม่เพื่อลดความดันในลูกตาที่สูงข้นให้กลับมาปกติ   การลอกต้อลำไยคือการเปลี่ยนกระจกตา   การผ่าตัดกล้ามเนื้อตาทำในผู้ป่วยโรคตาเหล่เพื่อแก้ไขให้ลูกตาตรงและกลอกได้เหมือนปกติ   ในคนที่ประสาทตาหลุดลอกออก   ผ่าตัดโดยดุดสารน้ำที่อยู่ใต้ประสาทตาที่หลุดลอกออก   แล้วหาวิธีทำให้ขอบของประสาทตาส่วนที่เป็นเนื้อดีได้ยึดติดกับลูกตา   เพื่อไม่ให้หลุดลอกอีก  เช่น  ใช้วิธีรัดลุกตาหรือการใช้ความร้อนจี้   เป็นต้น

       

                      ปัจจุบันวิทยาศาสตร์การแพทย์เจริญขึ้นมาก   มีการใช้แสงทำลายเนื้องอกก้อนเล็กๆ ในลูกตา   หลอดเลือดเกิดใหม่ในชั้นจอตาที่พบในโรคเบาหวาน   โรคเลือดออกภายในลูกตา   ชั้นจอตาหลุดลอก  ฯลฯ   โดยให้แสงผ่านเข้าไปทางกระจกตาด้านหน้าและบังคับให้แสงไปรวมตัวที่บริเวณที่ต้องการรักษา   เมื่อแสงผ่านส่วนใสของตาจะไม่มีปฏิกิริยาเกิดขึ้น   แต่เมื่อมีแสงผ่านเข้าไปถึงชั้นวัตถุสีของจอตา   วัตถุสีจะดูดแสงไว้และเปลี่ยนพลังงานแสงเป็นพลังงานความร้อน   ทำให้เนื้อบริเวณที่รักษาแข็งตัว (สุก)  วิธีนี้ใช้กันมากขึ้นในปัจจุบัน   แสงที่นำมาใช้ได้จากเครื่องโฟโตโคแอกอูเลเตอร์ ( PHOTOCOAGULATOR )   เช่น  แสงซีนอน ( XENON   ARC )  แสงเลเซอร์ ( LASER )  (  สารานุกรมไทย  เล่มที่ ๑๐  )

       

                      จากข้อมูลข้างต้น   สันนิษฐานว่าการที่ควักลูกตานางสิบสองแล้วนำไปเก็บไว้นั้น   สามารถเก็บรักษาดวงตาที่นำออกมาจากเบ้าตาได้โดยใช้วิธีการเก็บรักษาทางการแพทย์   และยังสามารถนำมาใช้ในการรักษาโรคตาได้   แต่ในการรักษานั้นสามารถใช้ได้เพียงอวัยวะส่วนย่อยของดวงตาเท่านั้น  ซึ่งก็คือ  กระจกตา

       

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×