ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ` Fic 400 Days ( ChanBaek ).

    ลำดับตอนที่ #3 : ( Episode Two) 359 Days Ago .

    • อัปเดตล่าสุด 6 ก.ย. 56


    Episode Two

     

     

     

     

    359 Days Ago .

     

     

     

     

     

     

     

     

                ช่วงนี้ทุกคนแปลกไปมากๆแปลกไปจริงๆตั้งแต่ครั้งล่าสุด .. น่าจะเดือนที่แล้วที่จงอินมาขอค้างที่ห้องพักของชานยอลและถามอะไรแปลกๆกับชานยอลออกไปเช่น  เขาอยู่กับแฟนเหรอ ? เขามีแฟนเมื่อไหร่ ? แฟนของเขาชื่ออะไร ? หลายคำถามถูกถามออกมาจากปากของคิมจงอินหลังจากที่เขากลับไปอยู่กับคยองซูแฟนของเขาเหมือนเดิม .. และที่แปลกไปกว่านั้นคือทุกๆครั้งที่เพื่อนของเขาทุกๆคน .. ขอย้ำว่าทุกๆคน เมื่อไหร่ที่มาห้องพักของเขาจะต้องทักเขาเสมอว่าเขาอยู่กับใคร ? และเขาไปมีแฟนตั้งแต่เมื่อไหร่ ตอนไหน ? ชานยอลก็มักจะตอบประโยคเดิมๆว่า เขาอยู่ตัวคนเดียวไม่ได้อยู่กับใคร แต่ทุกคนกลับทำหน้าไม่เชื่อแถมยังแซวเรื่อง แฟน ของเขาอีกว่าแฟนของชานยอลหน้าตาน่ารักมากๆไม่น่ามาคบกับคนอย่างชานยอลเลย .. ถึงจะเป็นคำพูดแซวออกมาเล่นๆกลับทำให้ชานยอลคิดมากกว่าเดิม ก็ในเมื่อตอนนี้เขาอยู่ตัวคนเดียวไม่ได้อยู่กับใคร  คำพูดนี้เป็นคำแก้ตัวที่เขาพร่ำบอกเพื่อนๆของเขาเสมอ .. และตอนนี้เขาก็เริ่มสงสัยแล้วว่าในห้องพักของเขามี ใคร นอกจากตัวเขาอีกอย่างนั้นเหรอ ? ถ้าไม่ลองพิสูจน์เขาไม่มีทางรู้แน่ว่าในห้องพักของเขามี ใครบางคน อยู่กับเขาด้วยจริงๆหรือเปล่า

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                กำลังจะถึงแล้ว .. รอแปปนะเว้ยจื่อเทา ชานยอลยกโทรศัพท์แนบหูพร้อมกับขับรถของเขาไปด้วย .. วันนี้ชานยอลถูกจื่อเทาขอไหว้วานให้ไปส่งที่บ้านของเขาที่อยู่ต่างจังหวัด จื่อเทาลาพักร้อนเกือบเดือนเขาเลยอยากที่จะกลับไปอยู่บ้านต่างจังหวัดแถบชนบทของเขา .. ชานยอลเปิดไฟเลี้ยวทันทีที่เห็นจื่อเทายืนโบกมือให้เขาอยู่ข้างฟุตบาท ร่างสูงเลื่อนกระจกรถลงก่อนจะเรียกจื่อเทาให้ขึ้นรถของเขาทันที

     

     

     

     

     

     

     

     

                จื่อเทาเปิดประตูด้านหลังพร้อมกับยัดกระเป๋าเดินทางใบโตไว้ข้างๆก่อนจะยัดตัวเขาเองเข้าไปนั่งข้างๆกระเป๋าใบโตนั่น

     

                ข้างหน้าก็ว่างทำไมไม่มานั่งล่ะ ? ชานยอลหันหน้าไปถามจื่อเทาที่กำลังถอดกระเป๋าเป้ออกจากหลัง

                มุกเหรอพี่ ? แฟนพี่นั่งอยู่ทั้งคน

     

     

                แฟนของเขาอีกแล้ว .. คราวที่แล้วที่เขาขับรถไปรับจงอินทันทีที่จงอินมองเข้าที่รถของชานยอล จงอินก็ทำหน้างงๆก่อนจะโบกรถเมล์ที่กำลังขับผ่านและขึ้นรถเมล์ไปอย่างไม่สนใจชานยอลที่เปิดกระจกตะโกนเรียกเขาเสียงดัง พอเขาโทรไปถามจงอินว่าทำไมไม่ขึ้นรถมากับเขา ชานยอลก็ได้คำตอบว่า พี่มากับแฟน .. ผมเกรงใจ  ทั้งๆที่ชานยอลขับรถมาคนเดียวแต่จงอินกลับบอกเขาว่าเขามากับแฟน .. และครั้งนี้จื่อเทาก็เหมือนกันกับจงอินที่บอกว่าแฟนของเขาติดรถมาด้วยอีกแล้ว

     

     

     

     

     

     

     

                อ๋อ .. ฮ่ะๆๆ ชานยอลเกาท้ายทอยของเขาเบาๆก่อนจะหันหน้ากลับไปและขับรถออกไปตามเส้นทางที่จื่อเทาบอก .. ร่างสูงเหลือบมองที่นั่งข้างๆเขาเป็นระยะๆแต่เขาก็พบแต่ความว่างเปล่าไม่เห็นจะมี แฟน  ของเขาเหมือนที่เพื่อนทุกคนของชานยอลเห็นเลย

     

     

     

     

     

     

     

     

                รถของชานยอลกำลังขับออกไปตามเส้นทางเรื่อยๆภายนอกมืดลงอย่างเห็นได้ชัดมีแต่แสงจากเสาไฟเท่านั้น .. ถนนเส้นนี้ค่อนข้างที่จะเปลี่ยวนานๆทีจะมีรถขับสวนมาสักคันหนึ่งชานยอลขับรถไปเรื่อยๆอย่างใจเย็นอีกไม่กี่กิโลก็จะถึงบ้านของจื่อเทาแล้ว เขาเคาะพวงมาลัยรถตามจังหวะของเสียงเพลงที่เขาเปิด .. จื่อเทาหลับไม่เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหลังจากที่พวกเขาทั้งคู่จอดรถกินข้าวเย็นที่ร้านอาหารข้างทางกัน .. ชานยอลถูกจื่อเทาตำหนิอยู่นานก่อนขึ้นรถ ทำไมพี่ไม่ชวนแฟนพี่ลงมากินด้วยล่ะ .. พี่น่าจะซื้ออะไรติดมือไปให้แฟนพี่ด้วยสิ ..  ชานยอลไม่รู้จะแก้ตัวยังไงเขาเลี่ยงที่จะไม่ตอบก่อนจะบอกให้จื่อเทาขึ้นรถได้แล้ว ..

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                จื่อเทา ! จื่อเทา ! ไอ้คุณจื่อเทาเว้ย ! ชานยอลตะโกนเรียกจื่อเทาที่นั่งอยู่เบาหลังพร้อมกับเขย่าแขนของจื่อเทาเบาๆ

                ครับพี่ ! ’ จื่อเทาทะลึ่งตัวขึ้นมานั่งหลังตรง .. เขามองไปข้างนอกหน้าต่างรถและก็พบว่าตอนนี้รถของชานยอลจอดอยู่ตรงหน้าบ้านของเขาแล้ว จื่อเทายิ้มแหยๆให้กับชานยอลก่อนจะยกกระเป๋าขึ้นมาสะพายพร้อมกับเปิดประตูรถออกไป

                ถ้าจะกลับยังไงก็โทรบอกฉันนะ อย่าลืมล่ะ

                เอ่อ .. ได้ครับพี่ ขอบคุณที่มาส่งผมนะครับ จื่อเทาบอกพร้อมกับดึงกระเป๋าใบโตที่อยู่อีกฝากออกจากรถ

                จื่อเทาทำท่าจะเดินเข้าไปในบ้านเขาก็ต้องหันกลับมาพร้อมกับเดินไปที่รถของชานยอล .. จื่อเทาเคาะกระจกรถตรงที่ฝั่งคนขับเบาๆ .. ชานยอลมองหน้าเขางงๆก่อนจะเลื่อนกระจกรถลง

     

                ลืมของหรือไงจื่อเทา ? ร่างสูงพูดออกมาพร้อมกับยิ้มให้จื่อเทา

     

     

     

     

     

    พี่ทะเลาะอะไรกับแฟนพี่ก็รีบๆปรับความเข้าใจกันนะครับ .. ผมไม่ชอบเลยเวลาเห็นพวกพี่เงียบใส่กัน .. เอ้อ ! รักกันนานๆนะครับพี่

    จื่อเทาตบบ่าชานยอลเบาๆหลังจากพูดจบ ก่อนจะหันไปยิ้มให้กับเบาะข้างๆคนขับที่ว่างเปล่าในสายตาชานยอล ..

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                ชานยอลขับรถกลับมาด้วยความเร็วที่น่ากลัว .. เขาหวาดระแวงไปหมดตอนนี้เขาอยู่กับอะไรที่ไม่ใช่คนอย่างนั้นเหรอ .. แล้ว มัน ตามเขามาทำไม ? เขาไปทำอะไรให้ทำไมถึงต้องตามมา ?

    ยิ่งคิดมากชานยอลก็ยิ่งปวดหัวหนักเข้าไปอีกเป็นเพราะเมื่อวานเขาเดินกลับบ้านทั้งๆที่ฝนตกหนักและเขาก็ไม่มีร่มด้วย .. ชานยอลมักจะชอบคิดเสมอว่าตากฝนแค่นี้ไม่เป็นอะไรหรอก แต่ว่าเขาคงจะต้องเปลี่ยนความคิดใหม่เมื่อตัวของเขาเริ่มร้อนขึ้นเรื่อยๆ ดวงตาทั้งสองข้างก็เริ่มหนัก อาการปวดหัวก็เพิ่มขึ้นมาก .. ตอนที่เขาจะไปรับจื่อเทาอาการของเขายังไม่หนักถึงขนาดนี้ .. อาจจะเป็นเพราะเขาไม่ได้พักแถมยังเอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาขับรถไม่สนใจอาการป่วยของเขาเลย

     

     

     

     

     

     

     

     

                ชานยอลขับรถตรงไปยังคลีนิกที่เขามักจะมาตอนที่เขาป่วยอยู่เป็นประจำ ..  ร่างสูงปิดประตูรถพร้อมกับเดินตรงเข้าไปหาพยาบาลที่ยืนเขียนใบสั่งยาอยู่ที่หน้าเคาท์เตอร์ วันนี้ที่นี่ดูว่างเปล่าคนไข้น้อยกว่าทุกวัน จะมีแต่คนไข้ที่เป็นคนแก่ที่กำลังเดินสวนทางกับเขาไปเมื่อกี้ ก็ตอนนี้มันดึกแล้วและก็ใกล้เวลาที่คลีนิกจะปิด ไม่แปลกหรอกที่คนไข้จะน้อยแบบนี้

     

                อ้าว ว่าไงชานยอล พยาบาลสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าเคาท์เตอร์เงยหน้าขึ้นมายิ้มให้เขาน้อยๆ

                สวัสดีครับพี่แจฮี ฮ่ะๆๆ ชานยอลยิ้มให้กับพยาบาลสาวตรงหน้าก่อนจะเดินตรงเข้าไปหาเธอที่หน้าเคาท์เตอร์ ..

                เอ้านี่ ! .. คุณหมอเขารออยู่ข้างในนะเดินเข้าไปได้เลย แจฮียื่นกระดาษประวัติการเคยเข้ามารักษาของชานยอลให้ ..พร้อมกับแม็กกระดาษสีชมพูใบเล็กๆไว้ตรงมุมกระดาษด้วย

                ขอบคุณครับ

     

     

     

     

     

     

                ชานยอลเดินตรงเข้าไปข้างในก่อนจะหยุดลงตรงหน้าประตูกระจกใส .. ร่างสูงเคาะประตูเบาๆก่อนจะเปิดประตูเข้าไป หมอนั่งทำหน้าเคร่งเครียดพร้อมกับจัดเอกสารบนโต้ะให้เรียบร้อยเขาเงยหน้าขึ้นมามองชานยอลก่อนจะยิ้มให้น้อยๆ

     

     

                เชิญนั่งครับ หมอผายมือให้ชานยอลนั่งลงบนเก้าอี้ที่อยู่ตรงข้ามกับเขา

                อ่า ..ครับ

                หมอขอวัดไข้หน่อย ช่วยอ้าปากด้วยครับ หมอบอกพร้อมกับหยิบปรอทวัดไข้ขึ้นมา

     

                ชานยอลอ้าปากอย่างว่าง่ายทันทีที่หมอบอก .. หมอนำปรอทวัดไข้เข้ามาใส่ไว้ในปากของชานยอล .. ไม่กี่นาทีต่อมามีเสียงเตือนก็ดังขึ้น ร่างสูงหยิบปรอทวัดไข้ออกมาดูพร้อมกับยื่นให้หมอ .. หมอหยิบปรอทวัดไข้ของเขาขึ้นมาดูพร้อมกับเขียนอะไรลงไปในกระดาษสีขาว

               

    มีอาการปวดหัวไหมครับ ?

    มีครับ

    อยากอาเจียนหรือเบื่ออาหารมีไหมครับ

    ไม่มีครับผมแค่รู้สึกปวดหัวเฉยๆน่ะครับหมอ ชานยอลบอกพร้อมกับทำท่าทางไปด้วย ตอนนี้เขาอยากจะกลับไปห้องพักของเขามากๆเขาอยากจะนอนเต็มทีแล้ว

    ไข้คุณขึ้นสูงนะครับตั้ง 39 องศา ยังไงช่วงนี้คุณพักผ่อนให้มากๆนะครับ อย่าหักโหมมากนะครับเดี๋ยวอาการจะทรุดยิ่งกว่าเดิม .. หมอบอกทั้งๆที่ก้มหน้าจดรายละเอียดอาการของชานยอลลงในกระดาษสีขาวที่ชานยอลถือมา

    ผมไปทำงานได้อยู่ใช่ไหมครับ ?

    หมอไม่แนะนำให้เราไปทำงานนะ .. ถ้าลาพักได้ก็ลาพักซะนะครับ หมอบอกพร้อมกับยื่นกระดาษสีขาวให้กับชานยอล

    เอ่อ .. ขอบคุณนะครับหมอ ร่างสูงลุกขึ้นยืนพร้อมกับก้มหัวให้กับหมอน้อยๆ

     

     

    หมอยิ้มน้อยๆให้กับชานยอลก่อนจะก้มหน้าก้มตาเก็บเอกสารที่เหลือต่อ .. ชานยอลปิดประตูห้องลงขายาวที่กำลังจะก้าวเดินออกไปต้องหยุดชะงักลงเมื่อเขาได้ยินเสียงหมอคุยกับ ใครบางคน อยู่

     

    ไข้เขาขึ้นสูงมากเลยนะ ยังไงหมอขอให้คุณดูแลเข้าดีๆนะครับ

    ครับ .. ผมจะเอ่อ .. ดูแลเขาดีๆครับ

    บอกให้เขากินยาให้ตรงเวลาด้วยนะครับคุณ ..

    อ๋อ แบคฮยอนครับ บยอนแบคฮยอน

    ครับ ฮ่ะๆ คุณแบคฮยอน

     

    ชานยอลเดินออกมาไกลเกินกว่าจะได้ยินบทสนทนาทั้งหมด .. เขาคิดว่าหมออาจจะโทรหาแฟนของเขาหลังจากเลิกงานและเขาก็ไม่อยากเสียมารยาทฟังเรื่องส่วนตัวของใครสักเท่าไหร่ด้วย .. ชานยอลยื่นกระดาษสีขาวให้กับพยาบาลสาวที่อยู่ตรงหน้าเคาท์เตอร์ เธอรับกระดาษพร้อมกับอ่านรายละเอียดที่หมอเขียนกำกับมาให้ก่อนจะเดินเข้าไปจัดยาตามที่เขียนไว้ในกระดาษ ..

     

     

     

     

    พยาบาลสาวยื่นถุงยาพร้อมกับบอกรายละเอียดเวลาที่จะต้องกินยาให้กับชานยอลและกำชับให้ชานยอลกินยาให้ตรงเวลาอีกด้วย .. หลังจากจ่ายเงินเสร็จแล้วชานยอลเดินกับไปที่รถของเขาที่จอดอยู่หน้าคลีนิก .. ร่างสูงถึงกับต้องหยุดเดินทันทีเมื่อเขาเห็น ใครบางคน นั่งอยู่ในรถตรงที่นั่งข้างคนขับของเขา คนตัวเล็กที่นั่งอยู่ข้างในรถนั่นดูเหมือนว่าไม่ได้สนใจชานยอลที่กำลังเดินมาที่รถเลย ..

     

     

    เสียงบีบแตรรถดังขึ้นทำให้ชานยอลต้องหันกลับไปสนใจตรงบริเวณถนนที่จราจรติดขัด .. เมื่อเขาหันกลับมาอีกครั้งก็พบแต่ความว่างเปล่า ในรถของเขาไม่มีใคร .. ไม่มี ใครบางคน ที่นั่งอยู่ตรงที่เบาะข้างๆคนขับอย่างที่เขาเห็นเมื่อก่อนหน้านี้  ชานยอลส่ายหัวเบาๆพร้อมกับถอนหายใจอาจจะเป็นเพราะพิษไข้ก็ได้ที่ทำให้เขาเบลอจนเห็นภาพหลอนแบบนี้ .. ร่างสูงเดินตรงเข้าไปที่รถของเขาก่อนจะขึ้นรถและขับมันกลับไปยังห้องพักของเขา

     

     

     

     

     

     

     

     

    สองขายาวของชานยอลทำงานได้ช้าลงเพราะอาการป่วยของเขา .. ชานยอลจอดรถไว้ที่ลานจอดรถชั้นใต้ดินเหมือนเดิม ร่างสูงผลักประตูทางเข้าคอนโดของเขาอย่างคนเหนื่อยอ่อน

     

     

     

    ตึก ตึก ตึก ..

     

     

     

    เสียงฝีเท้าซ้อนกันเหมือนมีคนกำลังเดินตามชานยอลมา ร่างสูงหันกลับไปมองหาต้นเสียง .. เขาก็พบแต่ความว่างเปล่า .. ชานยอลเดินตรงเข้าไปยังลิฟท์และกดเข้าไปที่ชั้น 4  ทันทีที่ประตูลิฟท์ปิดลง.. ชานยอลก็ขนลุกขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ เสียงเพลงคลอเบาๆในลิฟท์ที่ปกติจะเป็นเพลงบรรเลงจังหวะเร็วๆ แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นเพลงบรรเลงช้าๆที่ดูหน้ากลัว  ร่างสูงถูแขนของตัวเองไปมาก่อนจะเหลียวซ้ายเหลียวขวามองรอบๆตัวของเขาเอง .. ตอนนี้รอบตัวของเขาว่างเปล่าก็เขาขึ้นลิฟท์มาคนเดียวนี่จะให้มี ใคร ในลิฟท์นอกจากเขาอีกละ ? ชานยอลได้แต่ภาวนาให้ลิฟท์พาเขาขึ้นไปยังชั้นสี่เร็วๆ

     

     

     

     

     

     

    ตึก ตึก ตึก ..

     

     

     

    เสียงฝีเท้ายังคงดังขึ้นเหมือนมีคนเดินตามชานยอลมา .. ชานยอลหันหลังกลับเร็วๆ .. แต่เขาก็พบแต่ความว่างเปล่าเหมือนเดิม .. ตอนนี้เขาเริ่มไม่ตลกแล้วการที่มีคนคอยทักไอ้เรื่องแฟนบ้าๆที่อยู่กับเขา เรื่องที่เขามี ใครบางคน พักอยู่ในห้องของเขาด้วย และวันนี้จื่อเทายังมาทักเขาเรื่องแฟน ไหนจะร่างคนที่นั่งอยู่ในรถของเขาตอนเขาออกมาจากคลีนิก แล้วก็ไอ้เสียงฝีเท้าเหมือนคนเดิมตามเขามาอีก ชานยอลเริ่มไม่ชอบใจกับเรื่องพวกนี้แล้ว .. วันนี้เขาจะต้องรู้ให้ได้ว่าในห้องพักที่เขาอยู่นี้นอกจากเขาแล้วยังมี ใคร อยู่อีก

     

     

     

     

     

     

     

    สองขายาวกำลังรีบเดินตรงไปยังห้องพักของตนเองอย่างหวาดระแวง .. เขาหันซ้ายหันขวาก่อนจะรีบเปิดประตูห้องพักของเขาและปิดมันลงอย่างรวดเร็ว  ชายร่างสูงรีบเดินเข้าไปเปิดไฟห้องพักของเขาให้สว่างทันที เขาวางถุงยาลงบนโต้ะในห้องครัวก่อนจะเดินไปเปิดตู้เล็กๆที่เขาใส่อาหารกระป๋องจำนวนหนึ่งไว้ .. ร่างสูงหยิบอาหารกระป๋องเหล่านั้นออกมาก่อนจะรีบกินอาหารเหล่านั้นอย่างรวดเร็ว .. ชานยอลเหลือบมองไปทางห้องนั่งเล่นที่ตอนนี้มืดสลัวเพราะเขาไม่ได้เปิดไฟในห้องนั้นไว้ .. และเขาก็ตกใจแทบจะทำช้อนหลุดจากมือเมื่อเขาเห็น ใครบางคน กำลังเดินผ่านประตูเข้าไปในห้องนั่งเล่น .. ชานยอลสะบัดหัวแรงๆก่อนจะรีบกินอาหารตรงหน้าของเขาให้หมด เฟอะฟะใหญ่แล้วชานยอล  แกอยู่คนเดียวนะเว้ย ร่างสูงคิดในใจก่อนจะทิ้งกระป๋องอาหารที่เขากินหมดแล้วลงในถังขยะ  ร่างสูงเดินตรงเข้าไปหยิบถุงยาและแกะมันออก ยาจำนวนห้าเม็ดอยู่ในมือของชานยอลแล้วตอนนี้ .. เขาเทยาทั้งห้าเม็ดเข้าไปในปากทีเดียวก่อนจะดื่มน้ำตามลงไป ชานยอลเดินผ่านห้องเล่นเล่นอย่างหวาดระแวงเขากำลังเดินตรงเข้าไปในห้องน้ำแต่แล้วเสียงข้อความจากโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น

     

     

     

     

     

    จื่อเทา ..

    อย่าลืมง้อแฟนนะพี่ ! ผมไม่อยากเห็นคนหน้าตาหน้ารักๆต้องหน้างอพี่รู้ไหม ?

     

                                                                                                    10 : 49 PM .

     

     

     

    ชานยอลกำโทรศัพท์ในมือแน่นมือของเขาสั่นระริกน้อยๆด้วยความกลัว .. ถ้าตอนนี้ ใครคนนั้น ที่จื่อเทาเห็นยังอยู่ในห้องกับเขาละเขาจะทำยังไง ..

     

     

    เฮ้ ! คุณเป็นใครกันคนที่ตามผมมาน่ะ ! ’ ร่างสูงตะโกนออกไป .. ความกล้าของเขามักจะมาพร้อมกับความกลัวเสมอ ถ้าเขาไม่กลัวเขาคงไม่กล้าตะโกนออกมาแบบนี้ .. และที่สำคัญเขาก็อยากรู้ว่าใครที่อยู่กับเขาและไปไหนมาไหนกับเขาตลอดเวลาด้วย

     

    ผมไปทำอะไรให้คุณเหรอ คุณตามผมมาทำไม ? ..

     

     

     

     

    เงียบ .. ไม่มีเสียงอะไรนอกจากเสียงหัวใจที่เต้นรัวอยู่ข้างในตัวชานยอล

     

     

     

    คุณช่วยปรากฎตัวหรือทำอะไรสักอย่างให้ผมรู้ได้ไหมว่าคุณได้ยินที่ผมถาม ..  

     

     

     

    ชานยอลยืนนิ่งหลังจากถามออกไปเป็นเวลานาน .. ไม่มีเสียงตอบกลับมาไม่มีสัญญาณไม่มีการปรากฏตัว ชานยอลถอนหายใจเบาๆพร้อมกับเดินตรงเข้าไปในห้องน้ำ

     

     

    เสียงน้ำกระทบพื้นทำให้ความเงียบทั้งหมดหายไป ชานยอลยังคงยืนนิ่งอยู่หน้าฝักบัวอาบน้ำ น้ำอุ่นกระทบโดนตัวเขาเบาๆชายร่างสูงยีหัวตัวเองแรงๆอย่างอารมณ์เสีย เขาปิดน้ำจากฝักบัวก่อนจะเดินไปหยิบผ้าขนหนูและออกจากห้องน้ำไป

     

     

     

    ชานยอลล้มตัวลงนอนอย่างคนเหนื่อยล้า .. เขายังคงปวดหัวอยู่และเหมือนว่าอาการมันหนักขึ้นเรื่อยๆ อาการของไข้ที่ยังไม่ลดลงทำให้เขาตำหนิหมออย่างช่วยไม่ได้ ยาของหมอไม่ช่วยอะไรเขาเลย แถมยังปวดหัวหนักกว่าเดิมด้วย ..

     

     

     

     

    เสียงลมหายใจเข้าออกที่สม่ำเสมอทำให้รู้ว่าชานยอลนอนหลับไปแล้ว .. คนตัวเล็กเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับผ้าชุบน้ำอุ่นๆ .. ร่างเล็กนั่งลงข้างๆเตียงก่อนจะเอื้อมมือไปเช็ดตัวในชานยอลที่นอนหลับสนิทอยู่ ..

     

     

     

     

    แน่ใจเหรอว่าชานยอลหลับ ? ร่างสูงหรี่ตามองคนตัวเล็กที่นั่งคุกเข่าเช็ดตัวให้เขาอยู่ข้างๆเตียง ชานยอลมองไปที่ใบหน้าของคนตัวเล็ก แสงที่ส่องเข้ามาในห้องทำให้ชานยอลมองเห็นคนตัวเล็กที่เช็ดตัวให้เขาอยู่ไม่ชัดเท่าไหร่แต่เขากลับรู้สึกว่าเขาเคยเห็นใบหน้านี้ที่ไหนมาก่อนแน่ๆ

     

     

     

     

    ร่างเล็กหันกลับมามองชานยอลที่แกล้งหลับอยู่เขาไม่รู้ตัวเลยว่าร่างสูงที่นอนอยู่ตรงนี้แอบมองเขาอยู่ .. ชานยอลแกล้งหลับตาลงทันทีเมื่อร่างเล็กหันหน้ามามองเขา ร่างสูงเพ่งมองไปยังใบหน้าของคนตัวเล็กอีกครั้งและเขาก็พบว่า..

     

     

     

     

     เขาเคยเห็นใบหน้านี้เมื่อเดือนก่อนตรงหน้าคอนโดหรูที่อยู่ห่างจากคอนโดของเขาไม่มาก .. แต่เขาไม่ได้เห็นคนตัวเล็กที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขานี้ตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ .. เขาเห็นตอนที่ร่างเล็กนี่อยู่ในเตียงของผู้ป่วยที่มีผ้าขาวคลุมตัวและมีเลือดซึมออกมาจากผ้าสีขาวนั้น คนตัวเล็กที่อยู่ตรงหน้าของเขานี้ตายไปแล้ว แต่ก็แปลกที่ชานยอลไม่เห็นมีท่าทีจะกลัวคนตัวเล็กที่อยู่ตรงหน้าของเขาเลย

     

     

     

     

     

     

    สองเดือนก่อน

    ชานยอลนั่งแกร่วอยู่ตรงโต้ะหน้าเคาท์เตอร์ข้างในบาร์ เขาเคาะโต้ะไปตามจังหวะเสียงเพลงอย่างคนใจลอย .. ชานยอลสะดุ้งทันทีเมื่อกระป๋องเครื่องดื่มเย็นๆถูกแนบไว้ข้างแก้มของเขา

    เหม่ออะไรของพี่วะ ? ชายผิวสีแทนยื่นกระป๋องเครื่องดื่มให้กับชานยอลก่อนจะเดินลากเก้าอี้มานั่งตรงข้ามกับเขา

    ไม่รู้วะ .. ช่วงนี้เหนื่อยๆ ปวดเนื้อปวดตัวบ่อยๆ ร่างสูงบอกพร้อมกับนวดไหล่ของเขาไปด้วย

    มีวิญญาณมาเกาะคอนายอยู่หรือเปล่าชานยอล ! ร่างเล็กเดินเข้ามาพร้อมกับเกาะไหล่ของชานยอลทำเอาชานยอลสะดุ้งจนแทบจะหันหน้าไปต่อยคนตัวเล็กที่หัวเราะคิกคักใส่เขาอยู่แล้วเชียวยังดีที่เขาหยุดมือไว้ทัน

    งมงายน่าคยองซู

    แต่ฉันเชื่อนะ !

    พี่ชานยอลเขาไม่เชื่อช่างพี่เขาเถอะน่าพี่ .. จงอินบอกพร้อมกับดึงมือคนตัวเล็กให้มานั่งข้างๆเขา

     

    ชานยอลยิ้มมุมปากก่อนจะหัวเราะใส่คู่รักตรงหน้าเขาน้อยๆ .. คยองซูกำลังเล่าอะไรสักอย่างที่เกี่ยวกับวิญญาณให้จงอินฟัง คนตัวเล็กเล่าอย่างใส่อารมณ์ทำเอาชายผิวสีแทนที่นั่งอยู่ข้างๆเขาหัวเราะออกมาอย่างช่วยไม่ได้ ..

     

     

     

    ร่างสูงมองไปอีกทางหนึ่งพร้อมกับนั่งฟังเพลงที่เปิดคลอเบาๆในบาร์ก่อนที่บาร์จะเปิด .. ชานยอลทำท่าจะลุกเดินออกไปจากโต้ะแต่หูของเขาดันไปได้ยินสิ่งที่คยองซูพูดซะก่อน

     

     

     

     

     

     

    เขาว่ากันว่าถ้าเจอคนตายห้ามทัก

    เพราะว่าคนๆนั้นเขาจะตามเรามาอยู่ด้วย ..

     

     

     

     

     

     

     

    :)  Shalunla
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×