ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [WINNER] still {Minho x Taehyun} - end

    ลำดับตอนที่ #18 : ตอนที่ 17: เป็นห่วงมาก

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 554
      3
      4 ส.ค. 58

    Still017

     

    สิ่งมีชีวิตสองคนในบ้านกำลังหายใจฟืดฟาดใส่กันในขณะที่ใครบางคนก็เกาะแขนเขาแน่นเพราะสายสายตาดุๆจากสาวเจ้าตัวเล็กที่มองมาทางเรา นัมแทฮยอนในฐานะคุณคนเล็กจึงคลายมือออกเมื่อเห็นอย่างนั้น แต่วงแขนกว้างของอีกคนก็ไม่ได้ปล่อยให้เขาเป็นอิสระ

     

    พโยจีฮุนและจองยูจินกำลังปะทะคารมกันอยู่

     

     

     

    “พี่น่ะ! พี่มินโฮเค้ามาพี่ก็ไม่บอกฉัน”

     

    “แล้วทำไมฉันจะต้องบอกเธอ มันเรื่องอะไรของเด็ก”

     

    “ฉันไม่เด็กแล้ว!

     

     

     

    เธอเอ่ยบอกจีฮุนพร้อมกับยืนขึ้นเต็มความสูง ความสูงที่ตัวเท่าไห่อีกคน จมูกรั้นและใบหน้าขาวเงยขึ้นมองอีกคนอย่างเอาเรื่อง ริมฝีปากแดงย่นลง เธอเป็นคนน่ารักเอาการแต่ติดตรงจะใจร้อนแล้วก็เอาแต่ใจไปหน่อย

     

     

     

    “พี่มินโฮ รู้ไหมตั้งแต่พี่ไปทำงานฉันก็เหงา ไม่มีใครเล่นด้วยเลย”

     

     

     

    เธอว่าพร้อมกับนั่งลงข้างๆชายหนุ่ม อาจจะงงเล็กน้อยที่มีคนตัวขาวผมแสกกลางนั่งอยู่ด้วยแต่เธอก็ไม่ได้สนใจ สาวเจ้าเกาะแขนมินโฮอีกข้างพร้อมกระเง้ากระงอด

     

     

     

    “ทีฉันเธอไม่เห็นทำแบบนี้บ้างเลย”

     

    “ก็พี่ไม่ใจดีกับฉันนิ่!

     

    “แล้วไอ้มินโฮใจดีนักหรือไง”

     

    “ใช่ ใจดีมาก สอนการบ้านแล้วก็เลี้ยงไอติมทุกวัน!

     

     

     

    แทฮยอนขมวดคิ้ว เขาไม่ชอบฟังเรื่องราวของคนข้างกายจากอีกคนเลยสักนิด ใบหน้าหวานเริ่มเสมองไปทางอื่น กายบางขยับห่างออกแต่ก็โดนอีกคนรั้งไหล่เอาไว้พร้อมใช้ปลายนิ้วเขี่ยให้อีกคนเย็นลง เขารู้ว่าทั้งชีวิตคุณคนเล็กมีแต่เขา

     

    แล้วอีกคนก็ไม่เคยต้องมีเรื่องให้ไม่พอใจแบบนี้

     

    เล็กน้อย แต่จะห้ามไม่ให้รู้สึกก็คงไม่ได้ แทฮยอนไม่ได้ใจดีขนาดนั้น

     

     

     

    “ฉันเลี้ยงขนมเธอที่โรงเรียน ไปรับไปส่งนี่ไม่พอหรือไง”

     

    “ก็พี่พูดจาไม่ดีนี่”

     

    “ปวดหัวน่า มาทะเลาะอะไรกันที่นี่”

     

     

     

    มินโฮเอ่ยแทรกขึ้นมาทำให้ยูจินต้องยู่ปากเล็กอีกครั้ง เธอเหลือบมองคนตัวขาวข้างกายอีกฝ่ายที่หันหน้าหนีไปจนเกือบคอจะหลุด ก่อนจะเบนสายตากลับมามองเจ้าของผิวสีแทนที่โอบอีกฝ่ายไว้ไม่ห่างแบบนั้น

     

     

     

    “พี่มินโฮ...”

     

    “ครับ ?”

     

    “ทำไมต้องมาโอบคนอื่นต่อหน้ายูจินด้วย”

     

     

     

    เป็นครั้งแรกจริงๆที่เขาได้ยินเสียงจิ๊เบาๆในลำคอคนข้างๆ มินโฮยิ้มจางออกมา ก่อนจะส่ายหน้าให้กับเด็กสาวข้างกาย พโยจีฮุนยกยิ้มร้ายก่อนที่เขาจะผิวปากแซวเมื่อเห็นนัยน์ตาของเพื่อนรัก

     

     

     

    “คนอื่นของยูจิน”

     

    “...”

     

    “แต่เขาเป็นคนของพี่ครับ”

     

     

     

    คำตอบที่แทบจะทำให้เด็กสาวใจแตกสลายลงตรงนั้น ริมฝีปากแดงเบะออก ก่อนที่หล่อนจะมองมินโฮช้อนร่างของอีกคนขึ้นชั้นสองไปพร้อมกับเอ่ยฝากให้พโยจีฮุนจัดการเด็กน้อยที่นั่งเบะอยู่ชั้นล่าง ผู้ชายตัวโตหัวเราะเบาๆ

     

     

     

    “สมน้ำหน้า”

     

    แต่ถึงอย่างนั้นฝ่ามืออุ่นก็ลูบผมเธออย่างอ่อนโยน

     

     

     

    จองยูจิน เด็กสาวข้างบ้านจีฮุนที่อ่อนกว่าเราสองคนมาก รวมถึงอ่อนกว่าแทฮยอนด้วยซ้ำ ยูจินเป็นเด็กขี้เหงา เป็นสาวห้าวที่เข้ากับเด็กผู้หญิงด้วยกันไม่ได้ มินโฮเจอเธอครั้งแรกที่สนามบาสของหมู่บ้านกับจีฮุน หมอนั่นบอกว่าแม่เธอฝากเธอไว้กับเขาหนึ่งวัน

     

    เธอดูเศร้าแล้วก็ไม่สนุก พักหลังๆเธอตามติดจีฮุนบ่อยเพราะว่าจีฮุนมักจะชอบมาเล่นบาสกับมินโฮ ยูจินชอบเล่นบาสแล้วเราก็มาเล่นด้วยกัน กลายเป็นสามหน่อบ้านติดกันที่อยู่ด้วยกัน แต่มินโฮไม่ค่อยสนใจเธอเท่าไหร่หรอก คนที่ตามใจเธอจริงๆคือจีฮุนต่างหาก

     

    แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้จะมีคนโกรธเขา

     

     

     

    “คุณคนเล็กครับ”

     

    “หื้อ”

     

     

     

    ทำเสียงขึ้นจมูกแต่ยังไม่ยอมหันมามองหน้าเขาด้วยซ้ำ ทั้งๆที่มินโฮอุ้มอีกคนขึ้นมาจากชั้นล่างเพื่อหนีสถานการณ์ตรงนั้นแล้ว ชายหนุ่มนั่งลงตรงหน้าอีกคน เขาสังเกตเห็นใบหน้าหวานที่ขมวดคิ้วหนีไปทางอื่น

     

     

     

    “คิดอะไรอยู่ครับ”

     

     

     

    เอ่ยถามทั้งที่รู้แก่ใจ มือหนาคว้าเอามือบางๆของอีกคนมาจับไว้ กุมหลวมๆเรียกร้องความสนใจจากคนที่นั่งอยู่บนเตียง ความจริงแทฮยอนไม่ได้เดินไม่ได้ เขาเดินได้แล้วแต่ถูกทำให้เดินไม่ได้มากกว่า โกรธก็โกรธที่มีผู้หญิงที่ไหนไม่รู้มาอวดนั่นอวดนี่ แต่จะลุกหนีก็ไม่ได้ เจ็บสะโพกไปหมด

     

     

     

    “ปวดตัว” ตอบสั้นๆ แต่ก็ยังไม่หันหน้ามาหาอีกคนจนมินโฮยอมจริงๆ คุณคนเล็กของเขาเวลาดื้อคือเวลาที่รับมือยากที่สุด

     

    แต่ถึงอย่างนั้นมินโฮก็มีวิธี

     

     

     

    “นวดให้มั้ยล่ะครับ”

     

    “ซงมินโฮ!

     

     

     

    หันมาสะบัดเสียงใส่อีกคนที่ยั่งคงนั่งยิ้มอยู่แล้วก็ถอนหายใจออกมาเมื่อรู้ว่าเสียทีอีกฝ่ายจนได้ แทฮยอนนั่งนิ่งก้มใบหน้า ท่าทางที่เคยแข็งขืนกลับกลายเป็นอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด

     

     

     

    “ไม่ชอบเลย”

     

    “ไม่ชอบยูจินเหรอครับ?” เอ่ยอย่างรู้ทันแต่อีกฝ่ายก็สั่นศีรษะปฏิเสธเสียก่อนจนทำให้มินโฮต้องขมวดคิ้วมอง

     

    “ไม่ชอบมินโฮ”

     

    “หืม?”

     

     

     

    เขาครางในลำคออย่างไม่เข้าใจ ก่อนที่คนตัวเล็กจะหันหน้ามามองเขาเต็มสองตา ใบหน้าง้ำงอกับแววตาน้อยใจที่มินโฮอ่านมันออกดีตั้งแต่เขารู้จักอีกคนมา คุณคนเล็กไม่เคยเปลี่ยนเลย ชายหนุ่มบีบมือนุ่มนั้นเบาๆ

     

     

     

    “ทำไมครับ?”

     

    “มินโฮใจดีกับคนอื่น”

     

    “แต่ใจดีกับคุณคนเล็กที่สุด”

     

     

     

    เขายกเหตุผลมาอ้างแต่ดูเหมือนว่าคนฟังจะไม่ชอบใจเอาเสียเลย มินโฮไม่แปลกใจหรอกเพราะเขารู้ดีว่าแทฮยอนเคยได้รับทุกสิ่งทุกอย่างจนบางครั้งมันก็มากเกินไป แต่มันก็น้อยเหลือเกินที่เขาจะเห็นอีกคนเอาแต่ใจจากสิ่งที่ได้รับ

     

    อย่างเช่นตอนนี้

     

    อีกคนคงไม่รู้หรอกว่าตนเองน่ารักขนาดไหนกับการทำทีแบบนั้น

     

     

     

    “อิจฉาเด็กเหรอครับ ยูจินอ่อนกว่าเราตั้งเยอะ ไม่แปลกถ้าผมกับจีฮุนต้องดูแลบ้าง” มินโฮยกเหตุผลมาแก้ตัว แต่คนตัวเล็กก็ยังคงบ่นอุบ

     

    “ฟังไม่ขึ้น”

     

    “หื้ม ไม่เอาน่าคนดี หึงพี่เหรอครับ ?”

     

     

     

    ไม่อยากจะเอ่ยคำนี้ออกมาแต่ก็รับมือลูกไม้ดื้อไม่ไหว แทฮยอนได้ยินแบบนั้นก็เลยหันหน้ามามองอีกคนพร้อมกับขมวดคิ้วยุ่ง “หึง” ไม่ใช่สักหน่อย เขาไม่ได้หึงแล้วก็ไม่ได้หวง แค่ไม่ชอบที่ต้องมารู้เรื่องแบบนั้น ปากแดงบ่นพึมพำออกมาตามความคิดของตนเอง

     

     

     

    “ไม่ยุติธรรมอยู่ดี มินโฮเป็นของผม”

     

    “ผมก็เป็นของคุณคนเล็กครับ”

     

    “...”

     

    “เราเป็นของกันและกัน”

     

     

     

    เอ่ยบอกพร้อมกับมองหน้าอีกคนหน้าตาเฉยจนแทฮยอนหน้าแดง มือบางดึงกลับจากการเกาะกุม ก่อนจะขยับกายเอนตัวนอนหนีความเขินจากอีกคน มินโฮลอบหัวเราะในลำคอก่อนจะสอดตัวเข้าไปใต้ผ้าห่มโอบกอดคนตัวเล็กเอาไว้

     

     

     

    “ทำไมมินโฮเป็นได้ขนาดนี้” คุณคนเล็กของเขาบ่นพึมพำ ระหว่างที่ยอมให้วงแขนอุ่นโอบกอดกายบางเอาไว้ ริมฝีปากหยักพรมจูบที่ด้านหลังคอขาว ก่อนจะซุกปลายคางลงกับลาดไหล่อย่างออดอ้อน อันที่จริงมันก็รู้สึกดี เหมือนหัวใจจะทะลุออกมา

     

    แต่ก็อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน กับคนที่ทะนุถนอมตนเองมาตั้งนาน

     

     

     

    “ขอโทษครับ”

     

    เสียงทุ้มนั้นเอ่ยบอกแผ่วเบา พร้อมกับถอนหายใจออกมา

     

     

     

    “ผมขอโทษที่อดทนไม่มากพอ”

     

     

     

    กระชับกอดเบาๆพร้อมกับฝังใบหน้าลงกับคอขาว แทฮยอนวางมือนุ่มๆลงบนหลังมือของอีกฝ่าย ก่อนจะพึมพำออกมา เขาไม่ได้โกรธแล้วก็ไม่ได้อยากให้มินโฮรู้สึกไม่ดีกับเรื่องเมื่อคืน แต่แทฮยอนก็แค่เขินแล้วก็แปลกใจที่อะไรๆมันดูเร็วไปหมด

     

    ทั้งที่ตอนแรกมันค่อยเป็นค่อยไปจนช้า เสียงนุ่มเอ่ยบอกให้อีกฝ่ายสบายใจ

     

     

     

    “คนใจร้อน”

     

    “ขอโทษครับ แต่ที่ทำไปก็เพราะคุณคนเล็กน่ะน่ารัก...”

     

    “ผมไม่เกี่ยวสักหน่อย มินโฮนั่นล่ะ” พึมพำก่อนจะผละมืออกมาปิดใบหน้าของตนเอง มินโฮคลายอ้อมกอดหยัดกายคร่อมคนน่ารักเอาไว้ ก่อนจะจูบลงบนหลังมือขาว

     

    “อดทนอีกหน่อยก็ไม่ได้”

     

     

     

    ตอบอู้อี้แต่ก็รู้สึกได้ถึงริมฝีปากอุ่นๆที่แนบลงมา ก่อนที่มันจะเคลื่อนไปบนหน้าผากเล็กของตนเอง

     

     

     

    “ช่วยไม่ได้แล้วนี่ครับ ทำไปแล้ว”

     

    “ถ้าพี่ซึงฮุนรู้ มินโฮตายแน่”

     

     

     

    ว่าพร้อมกับลดมือ ก่อนจะใช้ปลายนิ้วดันริมฝีปากของอีกคนที่ทำท่าจะโน้มลงมาเอาไว้ มินโฮยิ้มออกมาก่อนจะจูบเบาๆแล้วเอ่ยชิดนิ้วเล็กๆของอีกคน

     

     

     

    “ก็อย่าให้เขารู้สิครับ”

     

    “...”

     

    “เก็บไว้เป็นความลับของเราสองคน”









    ซึงฮุนอยู่บ้านไม้มาร่วมวันที่สองแล้ว เขาขนงานมาทำด้วยเพราะไม่อยากให้ซึงยุนอยู่คนเดียวถึงอีกฝ่ายจะไล่เขากลับไปแล้วก็ตาม แต่ตอนเช้าตรู่สาบานว่ายังเห็นพวกมันอยู่หน้าบ้านอยู่เลย เขาจึงแน่นอนใจไม่ได้ เกิดมันพรวดพราดเข้ามาทำร้ายอีกคนเพราะหาตัวมินโฮหรือแทฮยอนไม่เจอเรื่องคงไม่จบง่ายๆแน่

     

    แต่ก็ยังสงสัยว่ามันเป็นใคร

     

    คนของพวกไหน ทำไมถึงจ้องเอาเรื่องแทฮยอนอีกแล้ว

     

    คิดได้แบบนั้นก็ยิ่งเร่งเดินเรื่องของตัวเองให้เสร็จนำไปก่อน เผื่อวันหนึ่งแทฮยอนใจอ่อนยอมส่งข้อมูลทั้งหมดให้เขาเสียที ทุกอย่างมันจะได้จบ

     

    กำลังโทร.เข้า – เลขาฯ

     

     

     

    “ว่าไง”

     

     

     

    ซึงฮุนกรอกเสียงลงไปอย่างไม่รีบร้อน เขาคิดว่าตอนนี้หน้าที่ของทุกคนชัดเจนอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่น่ามีเรื่องใหญ่อะไรสำหรับงานที่กำลังแยกย้ายกันไปสืบเบาะแสตามหาข้อมูล

     

    (ท่านนายพลคะ มีจดหมายเชิญไปงานเปิดตัวโครงการสนับสนุนชาวเกษตรกรรมที่จังหวัดเชจูสามวันสองคืนของท่านนายกอีจุนซาค่ะ เลขาฯท่านเธอติดต่อมาเมื่อเช้านี้)

     

    “เธอคิดว่าไงล่ะ”

     

    (ท่านผบ.ตร.สั่งมาว่าให้ไปค่ะ ท่านบอกว่ากองแผนงานอาชญากรรมอยากให้ท่านไปดูความเคลื่อนไหวและเก็บข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ฝ่าย)

     

    “ไปในนามอะไร”

     

    (จริงๆเลขาฯของท่านายกยังไม่ได้ตอบดิฉันค่ะว่าเชิญท่านผบ.ตร.หรือยัง แต่ตรวจสอบแล้วมีจดหมายเชิญเรียบร้อยค่ะ)

     

    “งั้นก็ขอหนังสือตัวแทนจากท่านผบ.ตร.ด้วย”

     

    (ออกให้ในนามของอะไรคะ)

     

    “ยศฉันแล้วก็ครอบครัว”

     

    ซึงฮุนยิ้มมุมปาก...

     

     

     

    เขาจะเอานัมแทฮยอนไปงานเปิดตัวโครงการนี้ด้วย อย่างน้อยก็บีบให้จุนซาสติแตกแล้วก็ทำให้น้องชายเขามองเห็นอะไรชัดเจนมากยิ่งขึ้น ซึงฮุนไม่รู้ว่าเขากำลังจะเริ่มสงครามหรือเปล่า หรืออันที่จริงมันเพิ่งจะเป็นการตั้งทัพและเตรียมรบ

     

    ถึงจะไม่แน่ใจ แต่ที่แน่ใจคือ ดูเหมือนทุกอย่างจะค่อยๆก้าวไปจากเดิมแล้ว

     

     

     

    “อ่อคุณเลขาฯ เตรียมที่พักเผื่อไว้ด้วย ไม่รวมของเธอฉันต้องการเพ้นท์เฮ้าส์ที่อำนวยความสะดวกขอห้องใหญ่”

             

    (จะจัดการให้ค่ะ งานมีสัปดาห์หน้าให้ดิฉันบอกลูกทีมไหมคะ)

     

    “บอกเขาว่าเตรียมตัวให้พร้อม ไปเก็บข้อมูล แล้วก็ให้คนหารายชื่อประธานเปิดงาน ผู้เข้าร่วมโครงการทั้งหมดมาด้วย”

     

    (รับทราบค่ะ)

     

    (หมายเหตุ: ผบ.ตร. ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ)

     

     

     

    ซึงฮุนวางสายโทรศัพท์พร้อมกับซึงยุนที่โผล่หน้าเข้ามา เจ้าของริมฝีปากอิ่มถอนหายใจ ก่อนจะพยักพเยิดไปในครัว

     

     

     

    “อาหารเช้าเสร็จแล้ว”

     

    “ดีเลย” ซึงฮุนว่าสบายๆ เพราะตั้งแต่เช้าเขาเพิ่งจะได้กาแฟไปแค่เดียวกับขนมปัง ชายหนุ่มเดินตามเจ้าของแผ่นหลังบางไปเงียบๆโดยไม่ได้เอ่ยอะไรกระทั่งเราสองคนนั่งลงที่โต๊ะ

     

    “งานนายดูเยอะ ทำไมไม่กลับไปทำงานก่อนแล้วค่อยมาใหม่ก็ได้”

     

     

    ซึงยุนว่า ดวงตาทอดมองใบหน้าอีกคน ซึงฮุนที่กำลังมองมื้อเช้าอยู่ ชายหนุ่มเหลือบสายตามองคนที่นั่งตรงข้ามพร้อมกับเอ่ยออกมาเบาๆ ทั้งที่มีแค่เราสองคนแต่เขาก็กลัวที่จะพูดเต็มเสียง

     

     

     

    “ถ้าบอกว่าเป็นห่วง จะเลิกไล่หรือเปล่า”

     

     

     

    ซึงยุนเงียบ ทั้งที่ซึงฮุนก็รู้อยู่แล้วว่าเขาคงไม่ได้รับคำตอบจากคำถามงี่เง่าของตนเอง ชายหนุ่มตักมื้อเช้าเข้าปากโดยไม่พูด ก่อนที่เสียงของคนตรงข้ามจะเอ่ยออกมาแผ่วเบา

     

     

     

    “ถ้ากล้าพูด ก็จะไม่ไล่”

     

    อันที่จริงซึงยุนก็อยากฟังมันชัดๆเหมือนกัน

     

     

     

    “งั้นก็เป็นห่วง...”

     

    “...”

     

    “เป็นห่วงมาก”










    UP 04.08.15

    อีกสองวันครบรอบสามเดือนฟิคเรื่องนี้แล้ว ไวเนอะ55555555

    เซอร์ไพร้ส์เลย ตอนจบมีทูซึงนิดหน่อย คนแต่งแต่งไว้นานก็ลืมค่ะ

    แต่เดี๋ยวคงมีอีก พีคกว่านี้แน่นแน่รับรอง

     

    ขอบคุณทุกคนที่ยังตามอ่านนะคะ ; w ; 

     

     

    B E R L I N ❀
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×