กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว
นานตั้งแต่ยุคที่เขายังใช้หอก ดาบ ธนู รบกันอยู่ มีบ้านที่สร้างด้วยไม้หลังหนึ่งมีเด็กชื่อ วิน เขาเป็นเด็กที่เขียนหนังสือเรื่อง การผจญภัยครั้งยิ่งใหญ่ เขาอยากจะได้ทำสิ่งที่เขาเขียนลงในหนังสือจริงๆ แต่เขาคิดว่า เขาไม่สามารถทำสิ่งนั้นได้
วันหนึ่ง เขาไปเจอลูกแก้ววิเศษที่ลำธาร เขาจึงไปเก็บมา วินขอพรลูกแก้ววิเศษว่า “ขอให้เราได้ทำสิ่งที่เราเขียนไว้ในหนังสือ ขอให้เรื่องนี้เป็นจริง
” การผจญภัยครั้งยิ่งใหญ่ก็เริ่มขึ้นแล้ว
วันรุ่งขึ้น
เขาเก็บข้าวของใส่กระเป๋าเดินทางแล้วเอาไดอารี่ไปด้วย เพื่อที่จะได้บันทึกการเดินทาง แล้วเขาก็ชวนคุณครูกับเพื่อนไปด้วย แต่คุณครูไม่ไป แต่มีเพื่อนคนหนึ่งชื่อ โอม เป็นเด็กผู้ชายเหมือนกัน โอมก็อยากไปผจญภัยด้วย
2 วันต่อมา
ทั้งสองออกเดินทางโดยเอาลูกแก้ววิเศษใส่กระเป๋ามาด้วย พวกเขาเอาดาบพกติดตัวมาด้วย ระหว่างทางเขาไปหยุดพักที่โรงแรมเก่าๆแห่งหนึ่ง ขณะที่เขารับประทานอาหาร โอมเห็นเด็กชายคนหนึ่ง มีผ้าคลุมศีรษะสีดำเดินมาหาทั้งสองที่โต๊ะ “สวัสดีครับ” ชายคนนั้นทักทาย ทั้งสองจึงทักทายตอบ “สวัสดีครับ
คุณชื่ออะไรครับ ตอนนี้พวกเรากำลังผจญภัยอยู่ครับ” “ผมชื่อ ซิม
ครับ แล้วคุณสองคนชื่ออะไรครับ” ชายผู้นั้นตอบ (ซิมก็เป็นเด็ก) ทั้งสองจึงตอบว่า “ผมชื่อ วิน” “ผมชื่อ โอม” “เราร่วมผจญภัยดีกว่า พวกเราคือ ขบวนการผจญภัย” ซิมกล่าว (ซิมมีธนูเป็นของตัวเอง) แล้วทุกคนก็ไปนอน
วันต่อมา
ทุกคนเดินทางต่อ พอดีเห็นร้านขายม้าพวกเขาจึงไปซื้อม้ามา 2 ตัว แล้วผูกกับรถม้า วินขอพรจากลูกแก้ววิเศษ “ขอให้มาวิ่งไปในทางที่เราอยากไป” ม้าเริ่มเดินแล้ว มันเดินถูกทาง ระหว่างทางฝนก็เริ่มตก ซิมเลื่อนผ้าม่านมาตรงกลางเพื่อไม่ให้ฝนเข้ามาในห้องรถม้า พอฝนหยุดตกเขาก็เปิดม่าน ทันใดนั้น!
ก็มีกองทัพซาน (ฝ่ายร้าย) มาบุกรถม้า ทั้งสามออกไปรบแล้วให้ม้าวิ่งไปหลบ วินกับโอมชักดาบขึ้นมาสู้กับกองทัพซาน ซิมยิงธนูใส่กองทัพซานพวกซานตายหมด แต่มีคนหนึ่งวิ่งมา เขาเป็นเด็กผู้ชายคนหนึ่ง นิสัยเหมือนพวกขบวนการผจญภัย 3 เด็ก (เป็นคนดี) เขาชื่อ คิด (คิดก็มีดาบ) “หวัดดีคิดเราไม่ได้เจอกันนานเลยนะ” วิน กล่าว ทั้งสี่ขึ้นรถม้า แต่รถม้าพังแล้วม้าก็วิ่งหนีไปด้วย พวกเขาจึงไปซื้อม้ามา 4 ตัว ทุกคนขึ้นไปบนหลังม้าแล้วบังคับให้ม้าวิ่ง ม้าวิ่งมาถึงริมน้ำ พวกเขาข้ามน้ำไม่ได้ ทันใดนั้น
ก็มีแสงบนเท้าของม้า แล้วม้าก็วิ่งข้ามน้ำ ม้าเดินอยู่บนน้ำแล้วมันก็ไม่จมน้ำ (“ต้องเป็นฤทธิ์ของลูกแก้ววิเศษแน่เลย” วินนึก) พอตกเย็น พวกเขาก็กางเต็นท์นอนตรงชายป่า
ตอนดึกๆ
มีเด็กชายคนหนึ่งมาหาพวกเขาที่เต็นท์ เด็กคนนั้นชื่อ พิก (พิกมีธนูเป็นของตัวเอง) “อ้าว
หวัดดีพิก ไม่ได้เจอกัน 3 ปีเลย” โอมทักทาย พิกทักทายตอบ “อื้อ..หวัดดี” พิกมีม้าส่วนตัวอยู่แล้ว ทั้งห้าร่วมเดินทางต่อในตอนดึก “มันมาแล้ว พวกกองทัพซาน” ซิมตะโกน ทุกคนชักดาบขึ้นมา แต่พิกกับซิมเอาธนูขึ้นมาแล้วเตรียมตัวยิง “พวกขบวนการผจญภัย” พวกซานพูด พิกกับซิมเริ่มยิงพวกซาน ส่วนวิน โอม และคิดก็เริ่มฟันดาบ วินแทงแม่ทัพของพวกซาน เมื่อพวกซานไม่มีแม่ทัพ พวกซานก็วิ่งหนี “พวกเราชนะแล้ว” วินกล่าว พวกเขาไปที่ดินแดนซากาเรีย (เป็นดินแดนของคนดี)
วันรุ่งขึ้น
กษัตริย์ซากาเรียต้อนรับพวกเขาเหมือนเป็นเพื่อน กษัตริย์ของซากาเรียชื่อ กษัตริย์ไฮ หรือชื่อที่คนทั่วไปเรียกชื่อ ไฮเดน (เดนเป็นภาษาซากาเรีย แปลว่า กษัตริย์) “ตอนนี้ประเทศซานกำลังจะบุกประเทศซากาเรีย” พิกบอกไฮเดน ไฮเดนจึงประกาศว่า “นักรบทุกคนเตรียมตัวให้พร้อง
เอ้ย
พร้อม ใส่เสื้อเกราะเลย” ทั้งห้าก็ไปร่วมรบกับพวกเขาด้วย วินกับไฮเดนให้ประชาชนไปหลบในหลุมหลบภัย (“พวกซานตายแน่” ไฮเดนนึก) พิกกับซิมสอนพวกนักยิงธนูที่เพิ่งมาฝึกเรียน คิด วิน และโอมไปฝึกดาบให้เด็ก 4 ขวบ เพราะทั้ง 5 คนเป็นเด็กจึงต้องสอนเด็ก
พอถึงเวลา 20.50 น. นักรบซากาเรียเห็นพวกซานมาแล้ว พวกประชาชนซากาเรียปลอดภัยเพราะอยู่ใต้ดิน “ตึงๆๆ” เป็นเสียงกลองของพวกซานที่พวกนักรบซากาเรียได้ยิน “เตรียม” พิกบอกพวกคนยิงธนู “ยิง” ศรกระเด็นไปโดนหน้าผากของพวกซาน พวกซานจึงวิ่งเข้ามาที่ประตูเมืองแล้วถล่มประตู นักรบเริ่มฟันดาบ พวกยิงธนูก็ยิงลูกศรไปโดนพวกซาน พวกซานถอยออกไปตั้งกองทัพใหม่ ตอนที่พวกซานเผลอ นักรบซากาเรียก็มาวางกับระเบิดที่หน้าประตูเมือง เมื่อพวกซานเข้ามาอีกครั้ง พวกซานก็ตายไปหลายคนเพราะไปเหยียบกับระเบิด เป็นสงครามที่ใช้เวลาทั้งหมด 1 คืน มีพ่อมดคนหนึ่งมาช่วยซากาเรีย เขาใช้แสงวิเศษที่ทำให้พวกซานกลัว พวกซานจึงยอมแพ้ พวกนักรบซานหนีกลับไปที่ประเทศของตัวเอง ชาวซากาเรียอยู่กันอย่างเป็นสุข แต่เรื่องยังไม่จบแค่นี้ ทหารซากาเรียเริ่มยกกองกำลังไปที่หน้าประตูเมืองของซานแล้วให้ทหารคนหนึ่งของซากาเรียแอบเข้าไประเบิดภูเขาไฟของซานแล้วให้ทหารคนหนึ่งรีบวิ่งลงมาแล้วกลับไปที่ซากาเรีย พวกซานละลายไปกับน้ำลาวา (แล้วพวกซานก็ไม่เหลือซาก) ชาวซากาเรียอยู่กันอย่างมีความสุข ทั้ง 5 ก็มาอยู่ที่ซากาเรียตลอดไป
จบบริบูรณ์
ในตอนท้าย
ขอขอบคุณห้องสมุดซากาเรียที่ให้อ่านประวัติของซากาเรีย
ขอขอบคุณ วิน โอม ซิม คิด และพิก ที่เล่าเรื่องให้พวกเราฟัง
ผู้แต่ง : DILOPHOSAUR
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น