ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Dream...มหัศจรรย์ฉันรักเธอ

    ลำดับตอนที่ #4 : Chapter 4 : ...

    • อัปเดตล่าสุด 24 ก.พ. 51



                  บรรยากาศของวันใหม่ ร่างบอบบางบนเตียงขนาดใหญ่ลืมตาขึ้นช้าๆ ก่อนกระพริบตาถี่ๆเพื่อปรับสายตาให้เข้ากับแสงแดดที่ส่องเข้ามาภายในห้องนอนสีนวลตาออกโทนหวานๆ สาวร่างบางเจ้าของห้องดันตัวให้นั่งพิงหัวเตียงช้าๆ ก่อนสะบัดหน้าเบาๆเพื่อไล่ความมึนงง ก่อนมองไปรอบๆห้องนอนพร้อมกับถอนหายใจน้อยๆ

    “ เกิดอะไรขึ้น ” ปลายฟ้าเอ่ยขึ้นเบาๆกับบรรยากาศรอบข้างที่ดูแปลกตาไป ก่อนมองไปยังร่างบางบนเตียงไม่วางตา

                    เป็นครั้งแรกที่ปลายฟ้าได้สังเกตผู้หญิงคนนี้ชัดเจน โดยไม่ต้องมีใครมาบอกว่าผู้หญิงคนนี้คือใคร ปลายฟ้าก็สามารถรับรู้ได้ทันทีว่าผู้หญิงคนนี้คือ เมรยา คนรักของจิรายุทธ์

                    สถานที่แปลกตาแต่ดูอบอุ่นคุ้นเคยสำหรับปลายฟ้า ความรู้สึกตอนนี้เหมือนกับตอนที่เธอยู่ที่บ้านโดยมีพ่อ แม่และพี่ชาย ไม่ทันที่ปลายฟ้าจะคิดอะไรต่อ เสียงเคาะประตูห้องอนของเมรยาก็ดังขึ้นเบาๆ

     

    ก๊อกก๊อก

    “ เมย์จ๋ายุทธ์มาหานะลูก ” เสียงหวานนุ่มนวลเบื้องหลังประตูห้องนอนไม้สักดังขึ้น หลังจากเสียงเคาะประตูเงียบไป เมรายายิ้มออกมาน้อยๆ รีบลงจากเตียงขนาดใหญ่รีบสาวเท้าเร็วๆไปที่ประตูห้องนอนและเปิดมันออก เผยให้เห็นหญิงสาววัยกลางคนโครงหน้าละม้ายคล้ายกับเมรยาไม่ผิดเพี้ยน

    “ ค่ะแม่บอกยุทธ์ด้วยน่ะค่ะว่าเมย์ขอเวลา 15 นาทีค่ะ รอแป๊บนะค่ะ ” เมรยายิ้มน้อยๆ เมื่อมารดาพยักหน้าเบาๆพร้อมรอยยิ้มกว้าง เมรยาจึงปิดประตูห้องลงพร้อมกับใบหนาอาบด้วยรอยยิ้ม

                    ร่างบางของเมรยาเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวและเดินเข้าห้องน้ำไป ช่วงนี้ปลายฟ้าถึงมีโอกาสสำรวจห้องนอนของเมรยา เป็นครั้งแรกที่ปลายฟ้าเห็นรอยยิ้มของเมรยาตอนที่ยังขยับได้ เพราะทุกครั้งที่เห็นไม่เห็นร่างของเมรยานอนอยู่บนเตียงคนไข้ ไม่ก็ขับรถยนต์แล้วร้องไห้ ใบหน้าของเมรยาตอนนี้ดูสดใสยามที่ความรักผลิบาน

                    ไม่นานนักร่างบางของเมรยาออกมาในชุดเดรสแขนกุดสีชมพูอ่อน โชว์ช่วงไหล่เพียงเล็กน้อย ชายกระโปรงยาวเลยเข่าเล็กน้อยพร้อมกับเล่นระดับ ชุดทำจากผ้าชีฟองจึงดูพลิ้วไหวยามขยับตัว ผมยาวสลวยสีดำยาวถึงกลางหลังถูกรวบไว้ด้านหลัง ปล่อยลูกผมเล็กน้อย ปลายฟ้าเดินตามร่างบางของเมรยาออกมาจากห้อง ปลายฟ้าสังเกตบรรยากาศรอบๆบ้านด้วยความชื่นชม บ้านหรูที่ตกแต่งด้วยสไตล์คลาสิกของยูโรป แลผสมผสานกับแบบอื่นๆอย่าลงตัว กระจกใสมองทะลุไปยังสวนหลังบ้านสไตล์บาหลี

    “ ยุทธ์ละค่ะแม่ ” เมรยาเอ่ยถามเบาๆพร้อมรอยยิ้มน้อยๆแตงแต้มใบหน้าหวาน

    “ คุยโทรศัพท์อยู่จ้ะ ” เมรยาพยักหน้าน้อยๆ พูดไม่ทันขาดคำเสียงทุ้มดังขึ้นทางประตูห้องรับแขกทันที

    “ ลงมาแล้วเหรอลูกแมวซี้เซา ” เสียงทุ้มดังขึ้นก่อนเข้ของเสียงทุ้มจะก้าวเข้ามา ปลายฟ้าหันหน้าไปทางต้นเสียง แต่ไม่ทันได้เห็นใบหน้าเจ้าของเสียงที่เธอได้ยินเป็นประจำยามหลับและฝันไป ภาพตรงหน้าก็บิดเบือนเลือนหายไป

     

    “ ปลยเป็นอะไรรึเปล่า ” เสียงทุ้มของกันทรากรดังขึ้นข้างหู ปลายฟ้าค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้นช้าๆ กวาดตามองรอบห้องด้วยแววตางุนงง ก่อถามออกมาด้วยความสงสัย

    “ปลายเป็นอะไรไป ” ปลายฟ้ายันตัวขึ้นนั่งพิงพนักเก้าอี้ชุดรับแขกตัวยาวที่เธอนอน ทุกคนภายในห้องมองหน้ากันสลับไปมาก่อนกันทรากรเป็นฝ่ายตอบ “ ปลายเป็นลม เดินอยู่กับพวกเราอยู่ดีๆ ก็ล้มลงดีว่าเราเข้าไปรับไว้ทัน ตกใจแทบแย่นะ ทั้งดมยาพัดเอยก็แล้วก็ไม่ยอมฟื้น ”

    “ เหรอ ” ปลายฟ้าพยักหน้าน้อยๆ มองหน้ากันทรากรเหมือนกับจะพูดอะไรออกไป แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูด

    “ ไปกินข้าวกันเถอะ ปลายอาจจะนอนพักไม่พอก็ได้ ” ปลายฟ้าเอ่ยขึ้นเบาๆ ก่อนลุกขึ้นเดินนำเพื่อนๆเข้าห้องครัวไป

     

    “นี่ๆเดี๋ยวไปนั่งกันตรงชายหาดหน้าบ้านป่ะ โรแมนติกจัง ” เพลงพิณพูดพร้อมกับใบหน้าเพ้อฝัน ทำเอาคนฟังอมยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดู

    “ แล้วแต่สิ ขอปลายช่วยพริลล้างถ้วยกับจานก่อนนะ ” ปลายฟ้ายิ้มน้อยๆ พร้อมกับลุกขึ้นยืนเดินไปที่อ้างล้างจาน เพื่อช่วยเมษาหรือเอพริล “ มาเราช่วยกันดีกว่า ” กันทรากรยิ้มน้อยๆก่อนเดินตามเข้ามาช่วยอีกคน

    “ แหนะกันย์สะบัดน้ำใส่หน้าเราทำไม ” ปลายฟ้าแหวพร้อมกับเช็ดหน้ากับแขนเสื้อ เพราะมือของเธอเต็มไปด้วยฟองสบู่ “ ทำหน้างอเหมือนลูกแมว ตัวก็เหมือนลูกแมวดูสิพริล ” กันทรากรยิ้มแซว เมษาพยักหน้ารับน้อยๆ

    “ ยัยปลายแค่นี้ยังไม่เหมือนแมว แต่กันย์ดูสิตอนที่พี่ปอนด์จะแกล้งนะ โก่งตัวหนี้อย่างกับแมว แล้วยังขู่ฟ่อเหมือนกันเลย แถมยัง ” เมษายิ้มกวนๆ เธอเริ่มสนุกกับการแกล้งเพื่อนสาวอย่างปลายฟ้าเข้าแล้ว

    “ แถมยังอะไรหยุดเลยนะพริล ” จมูกโด่งรั้นเชิดขึ้นพร้อมกับใบหน้าเรียวอย่างงอนๆ เมษาแอบอมยิ้มกับตัวเองก่อนยอมง้อปลายฟ้าที่ยืนหน้างอ “ โอ๋ๆ เราล้อเล่นนะปลาย อย่างอนสิจ้ะ ” เมษากระทุ้งข้อศอกใส่ปลายฟ้าเบาๆ สีหน้าและแววตาออดอ้อนจนปลายฟ้าในอ่อนโดยไม่รู้ตัว

    “ จำไว้เลยนะพริลแกล้งกันได้ ” ปลายฟ้าตีหน้าขรึม โดยไม่รู้ว่าเมษากับกันทรากรแอบยิ้มให้กันแบบขำๆ แต่ต้องรีบปรับสีหน้าแทบไม่ทัน เมื่อปลายฟ้าหันมาส่งจานที่ถูด้วยฟองน้ำให้กันทรากรและกันมารับจานจากเมษา

    “ ไม่งอนนะๆๆ ” เมษาอ้อนปลายฟ้าน้อยๆ ปลายฟ้ายังคงตีหน้าเรียบ “ ไม่ได้งอนสักหน่อยใครงอน งอนอะไร มั่วแล้ว ” เมษากับกันทรากรสบตากันเป็นประกายขบขัน พร้อมรอยยิ้มน้อยๆที่ปรากฏขึ้นบนใบหน้ากับทาทางของ แมวน้อยขี้งอน

    “ จ้ะๆ ไม่งอนก็ไม่งอน โอเค ” เมษพูดพร้อมกับรับจานจากกันทรากรไปคว่ำ ปลายฟ้ายิ้มน้อยๆโดยไม่ทันสังเกตเพื่อนของเธอทั้ง 2 คนที่มองมาด้วยสายตาเอ็นดู

                    ปลายฟ้าต่อให้ตีหน้าเรียบแค่ไหน พวกเธอก็รู้ดีว่าปลายเพื่อนของเธอไม่ได้โกรธอย่างที่พยายามจะแสดงออกมา แต่ถ้าพูดไปแล้ว สาวร่างบางตรงหน้าคงหน้างอ งอนตุ๊บป่องแน่ๆ

     

                    เมษาอมยิ้มกับความคิดของตัวเอง เมื่อมองเพื่อนสาวขี้อ้อนที่กำลังล้างมือ หลังจากจานใบสุดท้ายถูกเก็บเข้าที่ ปลายฟ้าหันกลับมาพร้อมกับรอยยิ้มเก๋ที่ใครๆต่างพากันอิจฉา

    “ ไปเถอะ พวกไปรย่าคงรอพวกเราจนเหงือกแห้ว รากงอกแล้วล่ะ ” ปลายฟ้าฉุดแขนเมษาให้เดินตามมา โดยมีสายตาของกันทรากรมองตาหลังจนลับสายตา ริมฝีปากขยับเล็กน้อยเพื่อให้เสียงลอดผ่านเจ้าของร่างสูงพึมพำเบาๆ ราวกับบอกตัวเอง “ อีกไม่นานแล้วสินะ ”

     

    “ โอเคเรียบร้อยอ่ะกันย์กีตาร์คุณชายเจ้าค่ะ ” เพลงพิณส่งกีตาร์ให้กันทรากร ก่อนจะนั่งลงบนท่อนไม้ที่ถูกดัดแปลงให้เป็นที่นั่งใกล้ๆ

    “ เอาเพลงอะไรดีล่ะ ” กันทรากรเอ่ยขึ้นขณะที่มือข้างหนึ่งเปิดหนังสือเพลงไปเรื่อยๆ

    “ มาทะเลก็ต้องเพลงเอ่อคิดไม่ออกอ่ะ เอาเพลงอะไรดีล่ะพริล ” เพลงพิณหันหน้ามาถามคนข้างๆ

    “ แล้วปลายว่าไงล่ะ ” แทนที่เมษาจะตอบ กลับหันมาถามปลายฟ้าแทน “ ไม่รู้สิ ”

    “ เอ๋า !!! แล้วจะให้เราเล่นเพลงอะไรดีล่ะเนี่ย ” กันทรากรเอ่ยด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มบางๆ

    “ แล้วคนที่จะเล่นเนี่ย จะเล่นเพลงอะไรล่ะค่ะ ” เมษาหันมาถามด้วยน้ำเสียงยียวน

    “ ไงแล้วแกอ่ะไอเพลง ไอหวาน ธีด้วย ” เมษาเอ่ยขึ้นหลังจากที่ยังหาเพลงที่จะร้องกันไม่ได้ “ แล้วแต่ ” คำตอบสั้นๆส่งผลกันทรากรส่ายหน้าน้อยๆ

    “ งั้นเพลงนี้แล้วกัน ” พูดจบนิ้วเรียวเริ่มแตะลงบนกีตาร์ตัวโปรด บรรเลงดนตรีเบาๆ พร้อมกับเสียงทุ้มที่ร้องคลอตาม

     

    รอเธอมาตั้งนานข้างเดียว

    ได้เกี่ยวเธอมาไว้กอดสมใจ

    แต่เธอกำลังจะจากฉันไป

    มันเกิดอะไรกับใจดวงนี้

    เธอได้ยินไหมเสียงหัวใจมันบอกว่ารัก

    หลับหา ตื่นมาเพ้อ คิดถึงเธออยู่ทุกนาที

    อยากให้รักกลับเป็นเหมือนเดิมเหมือนที่เคยมี

    แต่วันนี้ไม่รู้เธออยู่กับใคร

     

    “ เอ๋า ร้องดิ ” กันทรากรเอ่ยเบาๆ ปลายนิ้วเรียวยังเกลากีตาร์เบาๆเป็นเสียงดนตรีตามเดิม เสียงทุ้มเริ่มร้องคลอกับดนตรีเบาๆอีกครั้ง โดยมีคนอื่นร้องคลอดตามเบาๆ

     

    กลับมาได้ไหม กลับมาหากัน

    กลับมารักฉันคนที่รักเธอหมดใจ

    อะไรที่พลั้ง อะไรที่พลาดไป

    ยกโทษได้ไหมคนดี *

     

                    ลมพัดเบาๆผ่านกลุ่มของกันทรากร พร้อมกับเสียงคลื่นกระทบฝั่งราวกับช่วยบรรเลงบทเพลงให้ไพเราะยิ่งขึ้น เสียงร้องผิดคีย์ด้วยความจงใจของเมษา เรียกเสียงหัวเราะให้กับเพื่อนๆในกลุ่มเป็นอย่างดี

    “ เห็นมั๊ยเสียงกันย์ก็ดีจะตาย ยังร้องเบาๆอีก ” เพลงพิณยิ้มกว้าง กันทรากรเพียงยิ้มบางๆ ก้มหน้ามองกีตาร์ในมือ

    “ เสียงก็ดีดนตรีก็เก่ง ร้องเพลงก็เพราะ บ้านก็รวย หน้าตาก็ อืม….พอใช้ได้ทำไมไม่มีแฟนสักทีล่ะ ” ณิชภัทรหัวเราะหลังจากพูดจบ ส่งผลให้ คนหน้าตาใช้ได้ ทำหน้าปูเลี่ยน

    “ หรือว่าเป็น

    “ เกย์ ” เพื่อนในกลุ่มประสานเป็นเสียงเดียว กันทรากรทำหน้าอึ้งก่อนปฏิเสธพัลวัน “ บ้า !! คิดได้ไงเนี่ย เป็นเกย์จะบ้าเหรอเรายังอบผู้หญิงน่ะ ”

    “ ผู้หญิงเข้ามาจีบ มีน่ารักๆไม่เห็นอกสนใจนิ ” เพลงพิณแย้ง

    “ ก็เราไม่ชอบให้ผู้หญิงเข้ามาจีบนิ มันแปลกๆยังไงก็ไม่รู้ ” กันทรากรเอ่ยเบาๆ

    “ ต้องจีบเองว่างั้นเถอะ ” เมษายิ้มกว้าง กันทรากรที่เกลากีตาร์เป็นดนตรีเบาๆชะงักแล้วนิ่งไปสักพักก่อนพยักหน้าเบาๆ 

    “ อือ ”

    “ แล้วไม่ชอบใครบ้างเหรอ ” เพลงพิณถามเบาๆ ขณะเปิดหนังสือเพลงหาเพลงต่อไปที่จะเล่น

    “ ก็มีแต่ผู้หญิงคนนั้นคงไม่ชอบเราหรอก ” กันทรากรเอ่ยด้วยนำเสียงเศร้า

    “ ชอบผู้หญิงคนนึงแต่ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ชอบอืม ” เสียงเพื่อนคนอื่นยกเว้นปลายฟ้ากับเมษาที่นั่งฟังเงียบๆ

    “ เฮ่ย !! อะไรน่ะ ” คนอื่นๆพอคิดได้ก็โวยวายออกมาด้วยความตกใจ และถามเป็นเสียงเดียว

    “ ใคร !!!

    “ อย่ารู้เลยผู้หญิงคนนั้นมีคนที่ชอบอยู่แล้ว ” กันทรากรยิ้มเศร้าๆ เมษามองหน้ากันทรากรเงียบ ก่อนก้มหน้าลงมองหนังสือเพลงในมือเพื่อซ่อนแววตาของตัวเองจากเพื่อนคนอื่นๆ

     

     “ อย่าคิดมากเลยกันย์ วันนึงแกก็ต้องเจอผู้หญิงที่เกิดมาเพื่อแกเพียงคนเดียว ” เพลงพิณยิ้มบางๆ กันทรากรเพียงพยักหน้ารับเบาๆ

    “ ใช่….ของที่เป็นของเรายังไงมันก็เป็นของเรา แต่ถ้าของไหนที่ไม่ใช่ของเราต่อให้เรายื้อไปเท่าไหร่มันก็ไม่มีวันเป็นของเรา ” ณิชภัทรเอ่ยพร้อมรอยยิ้มปลอบใจ โดยมีเพื่อนคนอื่นๆพยักหน้าเห็นด้วยเบาๆ

    “ กันย์ๆ เพลงนี้ดีกว่าเพลงI’m sorry ” เมษาชี้นิ้วลงบนชื่อเพลงดังกล่าว เพื่อเปลี่ยนหัวข้อเรื่อง เมื่อเห็นกันทรากรทำหน้าเศร้า กันทรากรพยักหน้าน้อยๆ เลื่อนหนังสือเพลงเล่มที่อยู่ในมือของเมษามาวางตรงหน้าแทนที่เล่มเดิม ปลายนิ้วเรียวเริ่มทำหน้าที่บรรเลงดนตรีอีกครั้ง ครั้งนี้เสียงหลากหลายโทนกลบเสียงทุ้มของคนเล่นจนเกือบจะไม่ได้ยิน

     

    ต้องทำยังไงเธอจึงจะยอมหายโกรธ

    ต้องทำยังไงเธอจึงจะยกโทษให้ฉัน

    อย่าทรมานด้วยการไม่มองหน้ากัน

    นึกว่าสงสารคนรักกันฉันขอโทษ *

     

    “ กันย์ๆ ร้องดังๆสิ ” เมษาเอ่ยเบาๆ กันทรากรยิ้มรับน้อยๆ

                    กันทรากรร้องเพลงเบาๆ พร้อมกับเงยหน้าขึ้นจากหนังสือเพลงตรงหน้า สบตากับปลายฟ้าพยายามส่งกระแสบางอย่างในสายตาไปยังสาวร่างบางที่นั่งนิ่งราวกับต้องมนต์

    “ นึกว่าสงสารคนรักกัน ฉันขอโทษ ” กันทรากรร้องด้วยโทนเสียงที่แตกต่างจากปกติ เน้นคำสุดท้ายราวกับจะส่งให้ใครบางคนที่นั่งฟัง

    “ เย้ๆ เพลงต่อไปน่ะ ” ทันทีที่เพลงจบลงเสียงเฮฮาดังกลบเสียงไฟที่เผาไหม้ฟืนที่เพลงพิณหามาเพื่อจะสร้างบรรยากาศ

                    บรรยากาศรอบตัวครึกครื้นแต่ปลายฟ้ากับกันทรากรกลับสบตากันเงียบๆ โดยปลายฟ้าเป็นฝ่ายเลือกที่จะหลบตาก่อน โดยหันไปหาเมษาก่อนเอ่ยออกมาเบาๆ “ พริล ปลายขอตัวก่อนน่ะ ”

    “ ไปไหนปลาย ” เมษาเอ่ยถามพร้อมกับขมวดคิ้วเข้าหากัน

    “ จะไปอาบน้ำแล้วก็นอนนะ ปลายปวดหัวนิดหน่อย ไม่ต้องตามมาหรอก ร้องกันให้สนุกนะ ไปก่อนน่ะ ” ปลายฟ้ายิ้มบางๆก่อนลุกขึ้นยืน โดยมีสายตาคมของกันทรากรมองแทบจะไม่พริบตา

    “ นี่พวกแกเราไปนอนก่อนนะ ปวดหัวนิดหน่อย สนุกกันต่อไปเถอะ ไม่ต้องเป็นห่วง ” ปลายฟ้ายิ้มน้อยๆ ก่อนหมุนตัวกลับเข้าไปภายในบ้าน เปิดประตูและปิดลงทรุดตัวนั่งกองกับพื้นหลังพิงประตูบ้าน

    “ ทำไมสายตาของกันย์ มันแปลกๆแบบนั้น มันบีบรัดจนรูสึกอึกอัดเหมือนกับจะหายใจไม่ออก แต่มันก็รู้สึกอบอุ่น มันดูอบอุ่นเหมือนกับไม่น่า แต่มันก็ไม่เหมือนกันทุกอย่าง มันมีอะไรที่แตกต่าง ไม่มีทาง ไม่มีวันเป็น

    ปลายฟ้าจับลูกบิดประตูพยุงตัวลุกขึ้นยืน ก่อนเดินขึ้นห้องนอนชองตัวเองช้าๆ เดินเข้าห้องน้ำราวกับคนไร้สติ นัยน์ตาเหม่อลอย เพราะเจ้าตัวกำลังครุ่นคิดบางสิ่ง เพื่อปะติดปะต่อเรื่องราว พลางทิ้งตัวนั่งบนเตียงนอนหลังใหญ่

    “ ถ้าได้เห็นหน้าผู้ชายคนนั้นที่ชื่อจิรายุทธ์ก็คงจะดีกว่านี้ มันคงจะรู้และหาอะไรได้บ้าง ไม่เลื่อนลอยแบบนี้ ” ปลายฟ้าถอนหายใจเบาๆอย่างเหนื่อยใจ ก่อนเดินไปปิดสวิตช์ไฟ เดินกลับมาที่เตียงในความมืด ก่อนล้มตัวนอนสอดตัวใต้ผ้าห่ม มือก่ายหน้าผากอย่างครุ่นคิด นัยน์ตาคู่สวยลืมโพล่งในความมืดของห้อง

    “ ทำไมทำไมไม่เคยได้เห็นหน้าเลยสักครั้ง ” ปลายฟ้าถอนหายใจเบาๆอย่างอ่อนใจ ก่อนหลับตาลงสู่ห้วงนิทรารมณ์ด้วยความอ่อนเพลีย

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×