ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Dream...มหัศจรรย์ฉันรักเธอ

    ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 3 : สงสัย

    • อัปเดตล่าสุด 24 ก.พ. 51



    “ ทำไม
    ….ทำไมต้องหลอกกันด้วย ฮือๆทำมายยยยยย ” เสียงหวานร้องลั่นรถยนต์คันหรู สาวร่างบางขับมาด้วยความเร็วสูง ท่ามกลางสายฝนกระหน่ำที่ตกลงมาไม่ขาดสาย น้ำตาใสไหลอาบแก้มขาวเนียน เข็มไมล์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆตามอารมณ์ของคนขับ

    “ ทำไมยุทธ์ ทำไมต้องหลอกเมย์ด้วย ยุทธ์มีคนใหม่แล้วทำไมไม่บอก ” ร่างบางทุบพวงมาลัยรถยนต์แรงๆระบายอารมณ์ สลับกับปาดหยดน้ำตาที่ไหลอาบใบหน้าเนียนเป็นระยะๆ น้ำเสียงตัดพ้อคนรักดังขึ้นไม่หยุด “ ยุทธ์มาให้เมย์รู้ที่หลังทำไม หลอกให้เมย์รักทำไม หลอกกันทำไม ฮือๆ อยากจะหย่ากันทำไมไม่บอกกันตรงตรงๆ ทำไมต้องทำเหมือนเมย์โง่ โง่ในสายตาของคนอื่น ที่ให้สีไปควงผู้หญิงคนอื่น นอกใจแล้ยังไม่รู้ตัว ทำมายยยย ” เสียงสะอื้นปะปนมากับเสียงพูดที่สั่นเครือ “ เมย์มันบ้าเองทุกอย่างใช่มั๊ยยุทธ์ เมย์มันเลว มันผิดเองใช่มั๊ยยุทธ์ แย่มากจนยุทธ์ทนไม่ไหวแล้วใช่มั๊ย ”

    “ ยุทธ์ไม่รักเมย์แล้วเหรอ ” เสียงหวานหายไปในลำคอด้วยความเจ็บปวด “ ไม่รักเมย์แล้วใช่รึเปล่า ” เสียงร้องดังขึ้นด้วยความเจ็บปวดขึ้นไม่หยุดหย่อน หัวใจดวงเล็กราวกับจะแตกสลายเป็นเสี่ยงๆ นัยน์ตาสวยมีน้ำตาเอ่อคลอ สายตามองตรงไปยังรถยนต์สีดำที่กำลังวิ่งฝ่าสายฝนกระหน่ำตามมาติดๆด้วยความเร็วในระดับเดียวกันผ่านกระจกหน้า

    “ เมย์มันบ้า แล้วยุทธ์จะตามเมย์มาทำไม ถ้ายุทธ์ไม่ต้องการเมย์แล้ว ไม่ต้องการแล้ว ” ร่างบางสั่นน้อยๆตามแรงสะอื้น พร้อมกับเหยียบคันเร่งเพิ่มเพิ่มความเร็ว “ บ้าๆๆๆ บ้าที่สุดเลย ”

     
                                                                                 มาทำไมเมื่อใจไม่มีให้กัน
                                                                  ก็ปล่อยทิ้งฉันเอาไว้ตรงนั้นอย่ามองอย่าสนใจ
                                                                 จบไปแล้วเรื่องเราฉันไม่มีอะไร หยุดคำถามของเธอได้ไหม 
                                                                  เพราะเธอก็น่าจะเข้าใจดี
    ฉันไม่มีคำตอบ

     

    “ ยุทธ์บ้าบ้าที่สุดเลย ฮือๆ เมย์เกลียดยุทธ์ เกลียดยุทธ์ ” มือเรียวปล่อยพวงมาลัยบังคับรถเพื่อปาดน้ำตาที่ไหลรินอาบใบหน้า พร้อมกับก้มมองแหวนเพชรในนิ้วข้างซ้าย

              ปิ๊น !!!

              เสียงแตรรถยนต์ของคันที่ขัยสวนมา ส่งผลให้ร่างบางสะดุ้งน้อยๆ เมรยาเงยหน้าขึ้นมองรถยนต์คันต้นเสียงด้วยความตกใจ ก่อนหักพวงมาลัยของรถเพื่อหลบคันที่สวนมา แต่เสียหลักรถยนต์คันกลับพุ่งเข้าพงหญ้าข้างทาง พร้อมกับเสียงกรีดร้องของเจ้าของรถยนต์คันหรูดังขึ้นลั่นรถ “ ม่ายยยยยย “ รถยนต์ของเมรยาพลิกหลายตลบก่อนรถจะพุ่งชนต้นไม้ใหญ่

    โครม !!!!

              หยาดน้ำตาหยดลงบนหลังมือก่นสติของเมรยาจะวูบดับไป

    “ ปลายปลายเป็นอะไรไป ” เสียงหวานดังขึ้นใกล้หู เปลือกตาที่ปิดสนิทค่อยๆเปิดขึ้นช้าๆ ก่อนกระพริบตาถี่ๆไล่ความงุนงงและปรับสายตาให้เข้ากับแสงสว่าง น้ำตาใสๆไหลลงผ่านใบหน้าเนียนลงบนหมอน ขนตาเปียกชุ่มไปด้วยคราบน้ำตา

    “ ปลายร้องไห้ทำไม ” เพลงพิณสาวร่างบางเจ้าของเสียงหวานเอ่ยถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง ขณะมือบางยกขึ้นปาดน้ำตาทิ้งไปจากดวงตาสวยของปลายฟ้า

    “ ปลายฝันร้ายนะเพลง ไม่มีอะไรหรอก เพลงนอนต่อเถอะนะ ขอโทษนะที่ทำให้ตื่น ” ปลายฟ้าฝืนส่งรอยยิ้มน้อยๆให้คนถาม

    “ เหรอก็ดีแล้วล่ะ เพลงเป็นห่วงปลายเพราะเห็นปลายนอนกระสับกระส่ายมาสักพักแล้วน้ำตาก็ไหลออกมาไม่หยุด แล้วก็….กรี๊ดลั่นห้อง ” เพลงพิณเอ่ยเบาๆตาคู่สวยมองตรงไปยังร่างบางของเพื่อนสาวที่พยุงตัวให้นั่งพิงหัวเตียง พร้อมกับร่างบางที่สั่นน้อยๆ

    “ ไม่ต้องกลัวน่ะปลาย ไม่มีอะไรแล้วล่ะ ไม่ต้องกลัวนะเราอยู่ด้วยแล้ว ” เพลงพิณรั้งร่างบางของปลายฟ้าที่ตัวสั่นด้วยความหวาดกลัวจากความฝันมากอดหลวมอย่างปลอบโยน

    “ ปลายฝันถึงเมรยา ผู้หญิงคนที่มีใบหน้าคล้ายกับปลาย ขับรถเร็วท่ามกลางสายฝนที่กระหน่ำ เพราะทะเลาะกับคนรัก ปลายก็ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ แต่เท่าที่ฟังคำพูดของเมรยา” ปลายฟ้านิ่งไปก่อนเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
    “ เหมือนกับจิรายุทธ์มีผู้หญิงคนใหม่อีกคน แล้วเมรยาเพิ่งมารู้ทีหลัง ทั้งสองคนทะเลาะกัน จิรายุทธ์ขับตามด้วยความเร็วไม่ต่างกัน แต่ว่าตอนที่เมรยายกมือขึ้นปาดน้ำตา แล้วมองดูแหวนแต่งงาน ก็มีรถอีกคันขับสวนมา
    เมรยาเลยหักหลบ แล้วรถของเมรยาก็พุ่งลงข้างทาง ” เพลงพิณกระชับอ้อมกอดเมื่อร่างบางของเพื่อนสาวสั่นเพิ่มขึ้น “ ภาพสุดท้ายที่ปลายเห็น

              ปลายฟ้านิ่งไปไม่ได้พูดออกมา เพลงพิณดันร่างบางของปลายฟ้าให้ออกห่างเล็กน้อยก่อนปากน้ำตาให้แผ่วเบา น้ำตาใสๆของปลายฟ้ากลับยิ่งไหลรินยามที่เพลงพิณปลอบโยน ริมฝีปากบางของปลายฟ้าสั่นน้อยๆ ก่อนเม้มเข้าหากันอย่าสะกดกลั้น

    “ ภาพสุดท้ายที่ปลายเห็น คือ เลือดไหลอาบร่างของเมรยา ร่างของเมรยาเต็มไปด้วยเลือด เลือดทั้งนั้นเพลง เพลงปลายกลัว กลัวบางอย่างที่กำลังก้าวเข้ามาในชีวิตของปลาย ” น้ำเสียงสั่นเคือตามอารมณ์

    “ รถยนต์ที่เมรยาขับมันพังแทบไม่เหลือสภาพเดิมของรถคันหรูเลย รถมันพลิกหลายตลบ ก่อนจะชนต้นไม้ใหญ่แล้วแน่นิ่งไป ” ปลายฟ้าเอ่ยเสียงสั่น ดวงตาสวยมองรอบๆห้องอย่าเหม่อลอย

    “ ไม่ต้องคิดมากนะปลาย ไม่ต้องคิดมาก ถ้าผู้หญิงในฝันคนนั้นเป็นปลายจริงๆในชาติที่แล้ว เพลงเชื่อว่าผูชายคนนั้น ต้องไม่ทำร้ายปลายแน่นอน เค้าต้องไม่ทำร้ายคนที่รักหรอก ” เพลงพิณลูบผมของปลายฟ้าอย่าเบามือพร้อมกับคำปลอบโยน

    “ เพลง ” เสียงหวานของปลายฟ้าสั่นเรือ เรียกชื่อเพื่อนสาวซ้ำไปซ้ำมา

    ”นอนเถอะนะปลาย อย่าคิดมากเลย ” เพลงพิณเอ่ยเบาๆ พร้อมกับรอยยิ้มน้อยๆ “ ทำไมทำไมปลายถงฝันแบบนี้ มันน่ากลัวมาเลยน่ะเพลง ” ปลายฟ้าเอ่ยเสียงสั่นเครือ น้ำตาใสๆเอ่อคลอดวงตาคู่สวย เพลงพิณปาดน้ำตาที่ไหลรินบนใบหน้าเนียนของปลายฟ้าอย่างเบามือ

    “ ทำไมปลายไม่คิดว่า ที่ปลายฝันเพราะว่าเขาอย่าจะให้ปลายรู้ก็ได้ หรือจะมาบอกว่าเขากลับมาหาคนรักของเขาแล้ว ” ปลายฟ้ากอดเพลงพิณแน่นราวกับจะยึดเป็นหลักพักพิง คางมนเกยไหล่ของเพื่อนสาวไว้ น้ำตาใสๆไหลรินช้าๆไม่ขาดสาย

    “ นอนพักเถอะนะปลาย เผื่อมันอาจจะทำให้ปลายรู้สึกดีขึ้น ” เพลงพิณเอ่ยเบาๆ ดันร่างบางของปลายฟ้าออกห่าง เพื่อมองหน้าของคนขวัญอ่อนอย่างปลายฟ้าชัดๆ รอยยิ้มปลอบประโลมปรากฏขึ้นบนใบหน้าหวานของเพลงพิณ พร้อมกับมือเรียวยกขึ้นปาดน้ำตาจากใบหน้าเนียนของปลายฟ้าอย่างเบามือ “ อือ ”

              ปลายฟ้าพยักหน้ารับน้อยๆ เพลงพิณลุกขึ้นจากเตียงเดินไปที่สวิตช์ไฟ ปลายฟ้าล้มตัวนอนพร้อมกับไฟห้องที่ดับลง เงาสลัวๆของเพลงพิณเดินกลับมาที่เตียงก่อนสอดตัวใต้ผ้าห่มและล้มตัวนอน

    “ ไม่ต้องคิดมากนะหนูปลาย ”

     

    “ เมย์ยุทธ์ขอโทษ เมย์ยกโทษให้ยุทธ์ได้มั๊ย ได้โปรดยกโทษให้ยุทธ์ได้มั๊ยเมย์ ” หยดน้ำตาไหลรินจากคนร่างสูงหยดลงบนหลังมือเรียวของคนที่รักที่นอนไม่ได้สติ แสงจันทร์ยามค่ำคืนสาดส่องเข้ามาพอให้มองทางเห็น ใบหน้าหวานซีดขาวไร้สีเลือดแทบจะกลืนเป็นสีเดียวกับหมอนหนุน

    “ เมย์ยุทธ์ขอร้อง ขอร้องล่อ เมย์อย่าทิ้งกันไปบบนี้ ทิ้งยุทธ์ไปเพราะความเข้าใจผิดแบบนี้ ” เงาตะคุ่มในความมือเอ่ยแผ่วเบา

    “ เมย์เคยบอกกับยุทธ์ไม่ใช่เหรอว่าเมย์จะไม่ทิ้งยุทธ์ไปไหน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม เมย์สัญญาแล้วน่ะเมย์ เมย์ต้องรักษาสัญญาน่ะเมย์ ” เสียงสะอื้นเบาๆ ดังสลับกับเสียงทุ้มของเงสของร่างสูง เสียงสะอื้นดังขึ้นถี่ๆร่างสูงสั่นน้อยๆตาแรงสะอื้น

    “ เมย์รู้มั๊ยวายุทธ์ใจร้อนขนาดไหน ที่เมย์ไม่ยอมฟังยุทธ์เลย พะเพราะยุทธ์กลัว กลัวมากว่าจะสูญเสียเมย์ไป สูยเสียภรรยาที่รัก รักยิ่งกว่าชีวิตของยุทธ์เอง เมย์ไม่ฟังยุทธ์เลย ยุทธ์กลัว ยุทธ์กลัวมากนะเมย์ ”

    “ ตั้งแต่ที่ยุทธ์เกิดมายุทธ์ไม่เคยกลัวอะไรขนาดนี้มาก่อนเลย ไม่เคยกลัวจริงๆ แต่ตอนนี้ยุทธ์กลัว กลัวว่ายุทธ์จะเสียเมย์ไป ยุทธ์อยู่ไม่ได้ยุทธ์ทนไม่ได้ ยุทธ์เสียเมย์ไปไม่ได้ ชีวิตของยุทธ์จะอยู่ต่อไปได้ยังไง ถ้าขาดเมย์ไป

    “ ยุทธ์มันบ้า บ้าๆๆจริงๆ ยุทธ์มันเลว ฮือๆ ทำไมวันนั้นยุทธ์ต้องใช้อารมณ์กับคนที่ยุทธ์รักด้วย บ้าที่ไม่ยอมอธิบายให้เมย์เข้าใจดีๆ ทิ้งที่ปกติยุทธ์สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ดี แต่พอเป็นเรื่องของเมย์ ยุทธ์กลับควบคุมไม่ได้เลยสักครั้ง เพราะยุทธ์รักเมย์มาก รักมากที่สุด ”

    “ แต่ยุทธ์ก็พลาด ยุทธ์กลับพูดด่าว่าเมย์แรงๆให้เมย์เสียใจ ทำไมยุทธ์ทำแบบนั้น แม้แต่ผู้หญิงที่ยุทธ์รักยิ่งกว่าชีวิตยังดูแลไม่ได้ ทั้งที่เคยสัญญาว่าจะไม่ทำให้เมย์ต้องเสียใจ แต่ยุทธ์ก็ไม่รักษาสัญญาที่ให้ไว้ ” ร่างสูงซบหน้าลงกับท่อนแขนของตัวเอง เสียงสะอื้นดังขึ้นถี่ๆ ร่างบางเพียงหายใจแผ่วเบา

    “ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ยุทธ์จะทำ ยุทธ์จะแก้ตัวใหม่ จะไม่ทำให้เมย์ต้องเสียใจ ไม่ทำให้ผู้หญิงที่ยุทธ์รักต้องร้องไห้ ยุทธ์จะไม่ให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับเมย์ ยุทธ์จะไม่ใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผลกับเมย์ ยุทธ์อยากจะอธิบายให้เมย์ได้เข้าใจจริงๆ ฮือๆ ”

     
                                                                              
    บอกหน่อยที่ไหนพอจะมี

    ประตูให้ฉันย้อนไปคืนวันที่ฉันมีเธออยู่

    จะขอดูแลอีกครั้ง โว้

     

    “ ยุทธ์จะดูแลเมย์ให้ดีกว่านี้ เมย์ตอนที่เมย์วิ่งออกจากบ้านไป ตอนที่ฝนตกหนักในคืนนั้น โดยไม่ยอมรับฟังคำอธิบายของยุทธ์บ้างเลย ยุทธ์ร้อนใจแค่ไหนเมย์เมย์รู้บ้างไหม กลัว กลัวไปทุกอย่าง ” ร่างสูงเงียบไป เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ในคืนวันนั้น

    “ ยะยิ่งตอนที่เมย์หักหลบรถอีกคันที่ขับสวนมา รถของเมย์พุ่งลงข้างทางหัวใจของยุทธ์ราวกับถูกกระชากออกจากอก พร้อมกับรถของเมย์ที่พุ่งลงข้างทาง หัวใจของยุทธ์เหมือนถูกเอาไปฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย มันแปลบปลาบจนรู้สึกชาไปทั้งตัว และหัวใจของยุทธ์เหมือนจะหยุดเต้นไปตั้งแต่วินาทีนั้น ”

    “ ถ้าย้อนกลับไปได้ยุทธ์จะขอเป็นคนที่เจ็บเอง ขอเป็นคนที่นอนไม่ได้สติแบบนี้เอง เพราะยุทธ์รู้ดีว่ายุทธ์คงทนไม่ได้ ยุทธ์ทนเห็นเมย์เดินจากยุทธ์ไปไม่ได้ ยุทธ์จะบ้าตายอยู่แล้วน่ะเมย์ เหมือนกับคนบ้าที่พูดอยู่คนเดียว ไม่มีคนฟัง เหมือนคนบ้าเข้าไปทุกที ”

    “ เมย์ยุทธ์ขอร้องล่ะ เมย์ยุทธ์เจ็บมาก เมย์ทรมานยุทธ์พอรึยัง แค่เห็นภาพของเมย์ในรถยุทธ์ก็แทบลืมหายใจ ตอนไปถึงที่รถของเมย์ ตัวของเมย์เต็มไปด้วยเลือด ตอนนั้นยุทธ์รู้แค่ว่า ยุทธ์ต้องหาวิธีพาเมย์ออกมาจากรถ และช่วยเมย์ ยื้อชีวิตของเมย์ให้ได้ พอมาถึงโรงพยาบาล ยุทธ์ก็เหมือนไอบ้าดินวนไปวนมา เพราะยุทธ์ทำอะไรไปมากกว่านี้ไม่ได้ ได้แต่รอ รอ และรอ พร้อมกับอ้อนวอนสิ่งศักดิ์ขอให้เมย์ปลอดภัย ” เสียงทุ้มขาดห้วงไป ชายหนุ่มยืดตัวเต็มตัว ก่อนโน้มตัวลงประทับริมฝีปากอุ่นบนหน้าผากมนของคนรักแผ่วเบาด้วยความรักและทะนุถนอม ก่อนหมุนตัวเดินออกจากห้องไป

     

    “ ใกล้ๆเข้าไปมากกว่านี้สิยัยปลาย ” ปลายฟ้าพร่ำบอกตัวเองในใจ หลังจากเดินตามหลังคนร่างสูงออกมาจากห้องพักของเมรยา ขณะเร่งฝีเท้าถี่ๆเพิ่งไล่ให้ทัน

    “ โถ่โว้ย ! ” เสียงตะโกนของชายหนุ่มร่างสูงเบื้องหน้าของปลายฟ้า ส่งผลให้ร่างบางของปลายฟ้าสะดุ้งน้อยๆด้วยความตกใจ ร่างสูงตรงหน้าก้าวเดินเพียงเล็กน้อยก่อนทรุดตัวนั่งลงกับพื้นอย่างอ่อนแรง ปลายฟ้าสาวเท้าเข้าไปหาร่างสูงช้าๆใกล้ร่างสูงเข้าไปอีกนิดจนกระทั่งสามารถเอมมือถึงร่างสูงของจิรายุทธ์ มือเรียวเอื้อมจะไปจะแตะไหล่ของคนร่างสูง พร้อมกับพึมพำกับตัวเองเบาๆ

    “ ทำไมถึงดูคุ้นนักนะ เหมือนกับ

     

    “ หนูปลาย ” ปลายฟ้าลืมตาขึ้นช้าๆ กระพริบตาถี่ๆเพื่อปรับแสงให้เข้ากับสายตา

    “ วาไงเอพริล ” ปลายฟ้าเอ่ยหลังจากเรียกสติกลับคืนครบร้อย พร้อมกับรอยยิ้มบางๆแต่งแต้มใบหน้าหวาน “ เพลงให้มาตามไปกินข้าวกัน ”

    “ อือ เดี๋ยวตามลงไปน่ะ ” ปลายฟ้าดันตัวลุกขึ้นนั่ง “ เร็วๆน่ะ ” ทันทีที่พูดจบเจ้าของเสียงหวานก็เดินจากไป ทิ้งให้ปลายฟ้าจมอยู่กับความคิดของตัวเอง

    “ ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร ทำไมถึงดูคุ้นนัก ” ปลายฟ้าตั้งคำถามกับตัวเองเบาๆ ก่อนลุกขึ้นเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวและเข้าห้องน้ำไปทำธุระส่วนตัว

     

    “ ไงจ้ะลงมาแล้วเหรอคนขี้เซา ” เสียงเอ่ยแซวยามดังขึ้น ทันทีที่ร่างบางของปลายฟ้าก้าวเข้ามาภายในห้อง ปลายฟ้าเพียงยิ้มน้อยๆก่อนนั่งลงบนชุดรับแขก “ หลับสบายมั๊ยปลาย ” เพลงพิณเอ่ยถามพร้อมรอยยิ้มน้อยๆ

    “ ทำไมเพลงไม่ปลุกราล่ะ ” ปลายฟ้าเอ่ยพร้อมกับใบหน้าหวานที่เชิดขึ้นยามที่เจ้าตัวเกิดอาการงอน

    “ โอ๋ก็เราเห็นปลายนอนพักได้นิดเดียวเองก็เลยไม่อยากจะปลุกนะ ” เพลงพิณเดินมานนั่งลงข้างๆ สาวขี้งอน

    “ กันย์เป็นอะไรไป ทำไมทำหน้าเครียดจัง ” ปลายฟ้าเอ่ยถามขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มบางๆ กันทรากรหันหน้ามายิ้มตอบเล็กน้อย พลางส่ายหน้าเบาๆ “ เปล่า ”

    “ นี่ไปกินข้าวกันเถอะ แล้วบ่ายๆได้ไปเล่นน้ำ ” เพลงพิณเอ่ยเบาๆทำลายความเงียบหลังจากที่เสียงของกันทรากรเงียบไป “ อือ ”

    “ เดี๋ยวกินเสร็จทำอะไรกันต่อดีล่ะ ” เพลงพิณเอ่ยเปิดประเด็นสนทนาระหว่างาหารมื้อเช้า

    “ นอน ”

    “ เล่นไพ่ ”

    “ ร้องเพลง ” หลากหลายความคิที่เสนอกันขึ้นมา สร้างสีสันของบ้านให้กลับมาอีกครั้ง

    “ นี่ๆ กินแล้วนอนก็อ้วนตายเลย ต้องวอร์มอัพสิ เอ็กเซอร์ไซน์อัพแอนด์ดาวท์ ” ไปรยาเอ่ยพร้อมกับท่าทางประกอบ “ ไม่ๆอ้วกพอดีเลยแก กินแล้ววอร์มเนี่ยน่ะ ” เสียงหวานของเพลงพิณเอ่ยเถียง

              บรรยากาศครื้นเครงของบ้านกลับมาอีกครั้งหลังจากที่เงียบมาหลายวัน เสียงเถียงสลับกันไปของแต่ละคนช่วยเพิ่มสีสันให้กับบ้านหลังนี้เป็นอย่างดี

    “ เอ่อกันย์จริงสิแล้วทำไมพวกเราไปบ้านนายกี่ครั้ง ทำไมเราไม่เคยเจอพี่ชายของนายเลยล่ะ ” ปลายฟ้าถามขึ้นหลังจากที่เสียงเถียงกันไปมาของไปรยาและเพลงพิณเงียบลง

    “ หือ ” คิ้วคิ้วเหนือดวงตาของกันทรากรเลิกคิ้ว ก่อนรอยยิ้มบางๆจะปรากฏขึ้นบนใบหน้า

    “ ใช่ๆปลายพูดถูกเราไปบ้านของนายตั้งหลายครั้ง แต่ไม่มีเลยสักครั้งที่จะเจอพี่ชายของนาย ” เมษาพูดเสริมเมื่อกันทรากรเงียบไป

    “ ก็พี่เราไปเรียนต่อต่างประเทศนะ ไม่ค่อยได้กลับบ้านเท่าไหร่ ” กันทรากรก้มหน้าตักข้าวเข้าปาก พร้อมกับส่งรอยยิ้มน้อยๆ

    “ แล้วมีครั้งหนึ่งรึเปล่าที่เราไป แล้วพี่ชายนายอยู่บ้านพอดี ” ปลายฟ้าเอ่ยถามต่อด้วยท่าทางสบายๆ กันทรากรมองหน้าปลาฟ้านิดนึงอย่างครุ่นคิดก่อนส่ายหน้าน้อยๆ “ ไม่มีใครเคยเจอพี่ชายของเราหรอก ถ้าพ่อกับแม่แล้วก็เราไม่บินไปหาก็แทบไม่ได้เจอกันเลยล่ะ ” กันทรากรตอบเบาๆ

    “ อ๋อแล้วพี่นายไม่คิดจะกลับเมืองไทยบ้างเหรอ ” เมษายิ้มบางๆขณะเอ่ยถาม กันทรากรถอนหายใจเบาๆกับตัวเองก่อนตอบ “ ไม่รู้สิพี่เราก็ไม่เคยพูดอะไรนิ ส่วนแม่เราก็สบายๆยังก็ได้ ”

    “ แล้วพี่ชายนายไม่มาช่วยนายทำธุรกิจของที่บ้านนายหน่อยวะ ” ธีพากรกันมาถามเมื่อได้ยินคำตอบของกันทรากร

    “ ไม่ได้เรียนมาทางนี้ ไม่ชอบเลยไม่ทำนะ ” คนอื่นๆภายในโต๊ะเพียงพยักหน้ารับน้อยๆ ต่างฝ่ายต่างกินข้าวของตัวเองไปมีพูดคุยเล่นกันตามปกติมีเพียงปลายฟ้าและกันทรากรจมอยู่กับความคิดของตัวเอง     

              ปลายฟ้าคิดถึงวันที่เธอและเพื่อนคนอื่นๆไปที่บ้านของกันทรากรหลังจากรับปริญญาเพื่อเลี้ยงฉลอง แล้ววันนั้นเธอไปก่อนเวลา ด้วยความที่กลัวว่ารถจะติดจะมาถึงสาย เลยออกจากบ้านมาก่อนเวลานัด
    3 ชั่วโมง แต่กลายเป็นว่าถนนเส้นที่เธอใช้กลับโล่ง รถไม่ค่อยติด เธอเลยมาถึงบ้านของกันทรากรก่อนเวลาเกือบสองชั่วโมง

              เธอเคยชินกับคนในบ้านของกันทรากรพอสมควรเพราะกลุ่มของเธอไปกันบ่อย ปลายฟ้าคิดจะไปนั่งเล่นตากลมริมน้ำตกขนาดเล็กที่ทำขึ้นใกล้ๆกับศาลากลางน้ำของบ้านกันทรากร ระหว่างทางที่เดินไปที่ศาลากลางน้ำเธอเห็นผู้ชายคนหนึ่งกำลังจะเดินเข้าบ้านด้วยประตูอีกทางด้านหลัง คล้ายกับเพื่อนของเธอคิดว่าเขาคงมาหาแล้วไม่เห็นเลยจะกลับเข้าไปในบ้าน เธอจึงเดินตามมาถึงหัวเลี้ยวร่างสูงก็หายไปแล้ว เธอจึงเดินกลับไปนั่งที่ศาลากลางน้ำตามที่ตั้งใจไว้ ไม่ทันนั่งลงบนศาลา ร่างสูงของกันทรากรก็เดินมาถึงและนั่งลงเป็นเพื่อน

              เธอจำได้ว่าเธอมองเสื้อของกันทรากรด้วยความสงสัยนานไป จนคนถูกมองรู้สึกเลยถามเธอว่าเป็นอะไรไป แต่สิ่งที่เธอสงสัยคือเวลาเพียงไม่นานจะสามารถเปลี่ยนเสื้อกางเกงได้เป็นอีกตัว เธอจึงถามออกไปและได้คำตอบที่สร้างความแปลกใจให้เธอไม่น้อย

    กันย์ทำไมเปลี่ยนเสื้อเร็วจังเลยล่ะ ปลายฟ้ายิ้มบางมองเสื้อตัวสีเทาที่กันทรากรใส่

    เปลี่ยนเสื้อเหรอ ? ’ กันทรากรถามด้วยน้ำเสียงสูงกว่าปกติด้วยความแปลกใจ

    ใช่เมื่อกี้ปลายเห็นกันย์ใส่เสื้อสีขาวแขนสั้นกับกางเกงยีนส์อีกแบบอยู่เลย ปลายนึกว่ากันย์มาหาปลายแล้วไม่เจอเลยเดินตามไป แต่พอหัวเลี้ยวที่บันไดกันย์ก็หายไปไหนก็ไม่รู้ ปลายเลยเดินกลับมานั่งรอที่ศาลา ยังไม่ทันจะนั่งลงกันย์ก็มาพอดี ปลายฟ้ายิ้มกว้าง กันทรากรเพียงยิ้มตอบน้อยๆ แต่แววตากลับมีรอยครุ่นคิด ก่อนกลับเป็นปกติเมื่อปลายฟ้าเงยหน้าขึ้นจากแก้วน้ำ

    เหรอ

    อืออะไรจะลืมอะไรเร็วขนาดนั้นเนี่ยปลายฟ้าส่ายหน้าน้อยๆ กันทรากรเพียงหัวเราะเบาๆ ก่อนพยักหน้าเบาๆ

    ไม่ได้ลืม ยังไม่ได้พูดอะไรเลย แค่เหรอเอง เราว่าปลายจำผิดมั้ง เพราะเมื่อกี้เราก็แค่ไปเปลี่ยนเสื้อย่างเดียวกางเกงไม่ได้เปลี่ยนเดี๋ยวเผื่อกลุ่มเราจะออกไปข้างนอก แดดมันแรงช่วงนี้เราโดนจนแสผิวไปหมดเลยเปลี่ยนเป็นแขนสี่ส่วนดีกว่า

    อือ นั่นสิ

              เธอไม่เคยคิดว่าเพื่อนเธอที่ดูธรรมดาไม่ค่อยกลัวกับการตากแดดตากลมมาตลอดแสบแค่ไหนไม่เคยบ่นสักคำ ทำไมวันนี้ถึงอยากรักษาผิวนัก แต่เธอก็ไม่ได้ถามออกไป

     

    “ ปลายๆ ” ปลายฟ้าสะดุ้งน้อยๆก่อนตอบรับเบาๆ “หือ ว่าไงเพลง ”

    “ คิดอะไรอยู่นะ เรียกปลายหลายรอบแล้วน่ะ ถ้าเป็นเรื่องความฝันไม่ต้องคิดมากหรอก ” ปลายฟ้าเพียงยิ้มน้อยๆแล้วพยักหน้าเบาๆ

    “ ยัยปลายฝันอะไรอีกแล้วล่ะ ” คำพูดของไปรยาส่งผลให้คนที่เหลือหันมองเธอเป็นตาเดียว

    “ ไม่มีอะไรหรอกปลายแค่ฝันร้ายแค่นั้นเอง ” ปลายฟ้าเลิกที่จะปฏิเสธมากกว่าจะเล่าให้ฟังเหมือนกับครั้งก่อนๆ

    “ อือๆ งั้นอีกสักพักค่อยไปเล่นน้ำกันน่ะ ” เมษาเสนอก่อนเปลี่ยนหัวข้อในการคุย

     

    “ ปลายไม่ไปเล่นน้ำกับพวกเพลงเหรอ ” เสียงทุ้มเอ่ยถามก่อนร่างสูงของกันทรากรทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ผ้าใบบนชายหาดข้างๆปลายฟ้า

    “ ไม่ล่ะกันย์ปลายเบื่อมองดูพวกเพลงเล่นดีกว่า แล้วอีกอย่างปลายจะคิดพลอตเรื่องด้วย แล้วกันย์ไม่ไปเล่นเหรอ ” ปลายฟ้ายิ้มน้อยๆให้คนร่างสูงข้างกาย “ ค่อยเล่นนะ รออีกสักพักดีกว่า ” กันทรากรตอบเบาๆ ปลายฟ้าพยักหน้ารับรู้เล็กน้อย “ แล้วพลอตเรื่องใหม่ของปลายเป็นยังไงล่ะ ” กันทรากรเอ่ยถาม ตาคมมองปลายฟ้าด้วยสายตายากจะคาดเดา

              ปลายฟ้าสะดุ้งน้อยๆกับคำถาม เพราะเธอเองก็ยังไม่ได้คิดพลอกเรื่องใหม่เลย แต่เธอกลับนึกถึงเรื่องราวของเธอเอง ปลายฟ้ายิ้มน้อยๆ โดยมีสายตามองด้วยความสงสัยของกันทรากร

    “ กันย์เคยบอกปลายไม่ใช่เหรอว่าโอกาสที่จะเกิดรักข้ามภพมีเพียง 0.0001 ก็ตามแต่โอกาสก็ยังมีสิทธิ์ที่จะเกิดข้น ” กันทรากรพยักหน้ารับเบาๆ “ ปลายก็เลยคิดจะเขียนเรื่องรักข้ามภพนะเหรอ ” คำพูดคาดเดาของกันทรากร ส่งผลให้ปลายฟ้าชะงักเพียงเล็กน้อย ก่อนยิ้มออกมาน้อยๆ

              …ให้ได้อย่างนี้สิ กันทรากรรู้ทันเธอในแทบทุกเรื่อง ไม่สิเรียกว่าทุกเรื่องเลยก็ว่าได้ เฮ้อ !! ให้มันได้แบบนี้สิยัยปลายเอ๋ย ปลายฟ้าบอกตัวเองในใจ โดยมีสายตาของกันทรากรมองมาไม่วางตา
    “ ใช่มั๊ยล่ะ ” กันทรากรเอ่ยซ้ำเมื่อเห็นเจ้าของพลอตเรื่องเงียบไปนาน “ สมเป็นกันย์จริงๆเลย รู้ใจปลายจริง ” ปลายฟ้าหัวเราะน้อยๆ

    “เหรอปลายเดี๋ยวเราไปเล่นน้ำก่อนนะ ไอนายเรียกแล้ว ” กันทรากรเอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้มกว้าง หลังจากที่เสียงเรียกของไปรยาดังขึ้น

    “ ถ้าไปรย่าได้ยินว่ากันย์เรียกว่านาย กันย์ไม่ต้องแคะขี้หูไปวันเดือนเลยล่ะ ได้กรี๊ดลั่นหาด ไปเถอะปลายนั่งรอแถวนี้ล่ะ ” กันทรากรพยักหน้ารับน้อยๆก่อนเดินจากไป รวมกับกลุ่มเพื่อนที่เปลี่ยนจากก่อกองทรายหรือว่าเอาทรายมาทับร่างของเมษาและเพลงพิณมาเล่นน้ำทะเลแทน

    “ ทำไมคุ้นๆจัง แผ่นหลังแบบนี้ ” ปลายฟ้าเอ่ยเบาๆ สายตาทอดมองตามแผนหลังของกันทรากรที่เดินลงทะไปรวมกลุ่มกับพวกเมษาเรียบร้อยแล้ว

    “ เอ๊ะ !! ไม่มั้งอะไรจะบังเอิญแบบนั้น ” ปลายฟ้าสะดุดกับความคิดของตัวเองที่คิดว่าแผ่นหลังของกันทรากรคล้ายกับผู้ชายในฝันที่ชื่อจิรายุทธ์ในความฝันของเธอ

              ปลายฟ้าสะบัดหน้าเบาๆไล่ความคิดนั้นออกไป แต่บ่อยครั้งที่ผลอกลับมาคิดเรื่องนี้อีก ปลายฟ้าลุกขึ้นยืน ก่อนเดินไปตามหาดทรายสีขาวละเอียด ดวงตาคู่สวยเหม่อมองออกไปไกลแสนไกล ดวงอาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำตามกาลเวลา
              ปลายฟ้าจึงเดินกลับมายังเก้าอี้ผ้าใบตัวเดิม โดยมีเสียงเฮฮาจากกลุ่มเพื่อนของเธอที่กำลังเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน ก่อนขึ้นจากน้ำ และเสียงตะโกนโหวกเหวกดังขึ้นก่อนร่างของเพื่อนเธอแต่ละคนวิ่งมาทางเธอราวกับแข่งกัน เมื่อถึงตำแหน่งที่ปลายฟ้านั่งอยู่ ร่างของเพื่อนในกลุ่มแต่ละคนทิ้งตัวลงนั่งบนพื้นทรายอย่างอ่อนแรงพร้อมกับเสียงหอบถี่ๆจากการวิ่งไล่ตามกันมา

    “ ทำไมไม่ไปเล่นด้วยกันล่ะ ” เพลงพิณเอ่ยถามทันทีที่หายเหนื่อยจากการวิ่ง

    “ ยังไม่อยากเล่นก่อนนะ พรุ่งนี้ก็มีจะรีบไปทำไมจ้ะ ” ปลายฟ้ายิ้มรับน้อยๆ

    “ กลับบ้านอาบน้ำกันเถอะ ” เสียงทุ้มของกันทรากรดังขึ้นหลังจากที่นั่งพักให้หายเหนื่อยเพียงไม่นาน “ อือ ”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×